อานิสงส์ของการปลูกป่า

ในห้อง 'พระไตรปิฎก' ตั้งกระทู้โดย anand, 21 กันยายน 2009.

  1. anand

    anand เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,118
    ค่าพลัง:
    +641
    ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


    ๗. วนโรปสูตร

    ว่าด้วยอานิสงส์ของการปลูกป่า

    [๑๔๕] เทวดาทูลถามว่า
    ชนพวกไหนมีบุญ เจริญในกาลทุกเมื่อ ทั้งกลางวันและกลางคืน ชนพวกไหนตั้งอยู่ในธรรม สมบูรณ์ด้วยศีล เ้ป็นผู้ไปสู่สวรรค์.
    [ ๑๔๖] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า
    ชนเหล่าใดสร้างสวนอันน่ารื่นรมย์ ปลูกป่า สร้างสะพาน ให้โรงน้ำดื่ม ให้บ่อน้ำ และให้ที่พักอาศัย ชนเหล่านั้น ย่อมมีบุญเจริญในกาลทุกเมื่อ ทั้งกลางวันและกลางคืน ชนเหล่านั้นตั้งอยู่ในธรรม สมบูรณ์ด้วยศีล ย่อมไปสู่สวรรค์.
    วนโรปสูตรที่ ๗ จบ

    อรรถกถาวนโรปสูตรที่ ๗

    พึงทราบวินิจฉัยในวนโรปสูตรที่ ๗ ต่อไป

    คำว่า ตั้งอยู่ในธรรม สมบูรณ์ด้วยศีล (ธมฺมฏฺฐา สีลสมฺปนฺนา) ความว่า เทวดา ทูลถามว่าชนพวกไหนตั้งอยู่ในธรรม สมบูรณ์ด้วยศีล.
    พระผู้มีพระภาคเจ้า เมื่อจะทรงแสดงปัญหานี้โดยวัตถุก่อน จึงตรัสว่า สร้างสวนอันน่ารื่นรมย์ เป็นต้น. บรรดาคำเหล่านั้น คำว่า สร้างสวนอันน่ารื่นรมย์ (อารามโรปา) ได้แก่ ปลูกสวนดอกไม้และส่วนไม้ผล. คำว่า ปลูกป่า (วนโรปา) ความว่า ทำการล้อมเขตแดนในป่าธรรมชาติที่เกิดขึ้นเองแล้ว ทำเจดีย์ ปลูกต้นโพธิ์ ทำที่จงกรม ทำมณฑป กุฏิ ที่หลีกเร้น และที่พักในเวลากลางวันและกลางคืน. เมื่อบุคคลปลูกต้นไม้สำหรับเป็นร่มเงาให้อาศัยอยู่ ก็ชื่อว่า การปลูกหมู่ไม้. คำว่า สร้างสะพาน (เสตุการกา) ได้แก่ ชนทั้งหลายสร้างสะพานในที่อันไม่เสมอกันหรือย่อมมอบเรือให้ไปทางน้ำ. คำว่า ให้โรงน้ำดื่ม (ปปํ) ได้แก่ โรงที่ให้นน้ำดื่ม. คำว่า บ่อน้ำ (อุทปานํ) ได้แก่ ที่ใดที่หนึ่งมีสระโบกขรณีและบ่อที่มีน้ำเป็นต้น. คำว่า ที่พักอาศัย (อุปสฺสยํ) ได้แก่ บ้านที่พักอาศัย. พระบาลีว่า อุปาสยํ (ที่เข้าไปอาศัย) ความว่า เมื่อเขาคำนึกถึงอกุศลวิตกก็ดี เมื่อนอนหลับก็ดี บุญย่อมเจริญหามิได้. แต่คิดถึง (กุศลมีการสร้างสวนเป็นต้น) เวลาใดบุญก็เจริญเวลานั้น ดังนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงหมายเอาความดังกล่าวมานี้ จึงตรัสว่า "ย่อมมีบุญเจริญในกาลทุึกเมื่อ." คำว่า ตั้งอยู่ในธรรม สมบูรณ์ด้วยศีล (ธมฺมฏฺฐา สีลสมฺปนฺนา) ความว่า ชื่อว่าตั้งอยู่ในธรรม เพราะความที่บุคคลนั้นดำรงอยู่ในธรรมนั้น ชื่อว่าสมบูรณ์ด้วยศีลเพราะความที่บุคคลนั้นถึงพร้อมด้วยศีลนั้น. อีกอย่างหนึ่ง เมื่อบุคคลทำบุญเห็นปานนี ชื่อว่า ย่อมบำเพ็ญกุศลธรรม ๑๐. ชื่อว่าตั้งอยู่ในธรรมเพราะตั้งอยู่ในกุศลธรรม ๑๐ เหล่านั้น และชื่อว่า สมบูรณ์แล้วด้วยศีล เพราะถึงพร้อมแล้วด้วยศีลนั้นนั่นแหละ ดังนี้แล.

    อรรถกถาวนโรปสูตรที่ ๗ จบ


    พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล

    พระสุตตันตปิฎก

    สังยุตตนิกาย สดาถวรรค
    หน้า ๑๘๕-๑๘๗
    ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

    เล่ม ๒๔
     
  2. deelek

    deelek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    6,696
    ค่าพลัง:
    +16,254
    อนุโมทนา สาธุ กับท่านที่ได้ทำบุญดังกล่าวด้วยครับ สาธุ
     
  3. datchanee

    datchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,947
    ค่าพลัง:
    +1,276
    satu satu ka
     

แชร์หน้านี้

Loading...