อานิสงส์ของการรักษาศีล 5
(ขอขอบคุณที่มาบทความ : คติธรรม คำสอน ของ องค์ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถร)
คำว่า ศีล ได้แก่สภาพเช่นไร ศีลอย่างแท้จริงเป็นไปด้วยความมีสติ รู้สิ่งที่ควรหรือไม่ควร ระวังการระบายออกทางทวารทั้งสาม คอยบังคับกาย วาจา ใจ ให้เป็นไปในขอบเขตของศีลที่เป็นสภาพปกติ ศีลที่เกิดจากการรักษามีสภาพปกติไม่คะนองทางกาย วาจา ใจ ให้เป็นที่เกลียด นอกจากความปกติงดงามทางกาย วาจา ใจ ของผู้มีศีลว่าเป็นศีล เป็นธรรม เราควรรักษาศีล 5
1. สิ่งที่มีชีวิต เป็นสิ่งที่มีคุณค่า จึงไม่ควรเบียดเบียน ข่มเหง และทำลายคุณค่าแห่งความเป็นอยู่ของเขาให้ตกไป
2. สิ่งของของใคร ๆ ก็รักและสงวน ไม่ควรทำลาย ฉกลัก ปล้น จี้ เป็นต้นอันเป็นการทำลายสมบัติและทำลายจิตใจกัน
3. ลูก หลาน สามี ภรรยา ใคร ๆ ก็รักสงวนอย่างยิ่ง ไม่ปรารถนาให้ใครมาอาจเอื้อม ล่วงเกิน เป็นการทำลายจิตใจของผู้อื่นอย่างหนัก และเป็นบาปไม่มีประมาณ
4. มุสา การโกหกพกลม เป็นสิ่งทำลายความเชื่อถือของผู้อื่นให้ขาดสะบั้นลงอย่างไม่มีดี แม้เดรัจฉานก็ไม่พอใจคำหลอกลวง จึงไม่ควรโกหกหลอกลวงให้ผู้อื่นเสียหาย
5. สุรา ยาเสพติด เป็นของมึนเมาและให้โทษ ดื่มเข้าไปย่อมทำให้คนดี ๆ กลายเป็นคนบ้าได้ ลดคุณค่าลงโดยลำดับ ผู้ต้องการเป็นคนดีมีสติปกครองตัว อย่างมนุษย์จึงไม่ควรดื่มสุรา เครื่องทำลายสุขภาพทางร่างกายและใจอย่างยิ่ง เป็นการทำลายตัวเอง และผู้อื่นไปด้วยในขณะเดียวกัน
อานิสงส์ของการรักษาศีล 5
1. ทำให้อายุยืน ปราศจากโรคภัยเบียดเบียน
2. ทรัพย์สมบัติที่อยู่ในความปกครอง มีความปลอดภัยจากโจรผู้ร้ายมาราวี เบียดเบียนทำลาย
3. ระหว่างลูก หลาน สามี ภริยา อยู่ด้วยกันเป็นผาสุก ไม่มีผู้คอยล่วงล้ำกล้ำกรายต่างครองกันอยู่ด้วยความเป็นสุข
4. พูดอะไร มีผู้เคารพเชื่อถือ คำพูดมีเสน่ห์เป็นที่จับใจไพเราะ ด้วยสัตย์ด้วยศีล
5. เป็นผู้มีสติปัญญาดีและเฉลียวฉลาด ไม่หลงหน้าหลงหลัง จับโน่นชนนี่เหมือนคนบ้าคนบอหาสติไม่ได้ ผู้มีศีล เป็นผู้ปลูกและส่งเสริมสุขบนหัวใจคนและสัตว์ทั่วโลกให้ มีแต่ความอบอุ่นไม่เป็นระแวงสงสัย ผู้ไม่มีศีลเป็นผู้ทำลายหัวใจคนและสัตว์ ให้ได้รับความทุกข์เดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า
ศีล นั้นอยู่ที่ไหน มีตัวตนเป็นอย่างไร ใครเป็นผู้รักษาแล้วก็รู้ว่า ผู้นั้นเป็นตัวศีล ศีลก็อยู่ที่ตนนี้ เจตนาเป็นตัวศีล เจตนา คือ จิตใจ คนเราถ้าจิตไม่มี ก็ไม่เรียกว่าตน มีแต่กายจะทำอะไรได้ ร่างกายกับจิตต้องอาศัยซึ่งกันและกัน เมื่อจิตไม่เป็นศีล กายก็ประพฤติไปต่าง ๆ ผู้มีศีลแล้วไม่มีโทษ จะเป็นปกติแนบเนียนไม่หวั่นไหว ไม่มีเรื่องหลงหาหลงขอคนที่หา คนที่ขอ ต้องเป็นทุกข์ ขอเท่าไรยิ่งไม่มี ยิ่งอดอยาก ยากเข็ญยิ่งไม่มี
กายกับจิต เราได้มาแล้ว มีอยู่แล้ว ได้จากบิดามารดาพร้อมบริบูรณ์แล้ว จะทำให้เป็นศีลก็รีบทำ ศีลมีอยู่ที่เรานี้แล้ว รักษาได้ไม่มีกาล ได้ผลไม่มีกาล
ผู้มีศีล ย่อมเป็นผู้องอาจกล้าหาญ ผู้มีศีล ย่อมมีความสุข ผู้จักมั่งคั่งบริบูรณ์ สมบูรณ์ ไม่อด ไม่อยาก ไม่จน ก็เพราะรักษาศีลได้สมบูรณ์ จิตดวงเดียว เป็นศีลเป็นสมาธิ เป็นปัญญา
ผู้มีศีลแท้ เป็นผู้หมดเวรหมดภัย
................................................................................................................
http://www.dhammasavana.or.th/article.php?a=8
อานิสงส์ของการรักษาศีล 5
ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย Moderator6, 19 กุมภาพันธ์ 2015.
-
-
ขอบคุณครับ ที่นำมาให้อ่านประเทืองปัญญาผมดีแท้ ผมจะพยายามทำจนเต็มความสามารถครับ ชอบตรงเดรฉานก็ไม่ชอบคำลวง
-
สาธุเขาใจใด้ละเอียดดี
-
:cool::cool::cool:สาธุๆๆอนุโมทนากับจขกท.ที่นำคำสอนของพระอ.มั่นมาเผยแผ่ช่วงตรุษจีนดีครับ อนุโมทนาสาธุๆๆครับ...:cool:(k)({):cool:(k)
-
สาธุค่ะ โดยส่วนตัว รู้จักรุ่นพี่คนนึง สวยมากจนใครเห็นต้องสะดุดตา รูปร่างหน้าตาผิวพรรณดีมากค่ะ ฉลาดและเรียนเก่งมากๆด้วย พอรู้จักจริงๆ ไม่อยากจะเชื่อว่าพี่แกรักษาศีลห้าตั้งแต่เด็กมาตลอดๆ แกไม่ได้คุยโม้ด้วยค่ะ เราสังเกตุดูนานๆแกไม่ฆ่ามดไม่ตบยุงด้วย นิสัยดีเรียบร้อย เหมือนเพรียบพร้อมด้วยบุญเก่าและบุญใหม่จริงๆ
-
สาธุ
-
ศีลที่รักษาดีแล้ว อานิสงส์คือเป็นผู้ไม่มีความกังวล เพราะสำคัญที่เจตนา
ดังนั้นเมื่อเรามีความเข้าใจในการรักษา ศีล...เห็นประโยชน์
เราจึงมีความพอใจ มีเจตนาที่บริสุทธิ์ในการรักษาศีล
ดังนั้นผู้ที่รักษาศีลดีแล้ว จึงเป็นผู้ไม่กังวล
ศีลจึงเป็นเหตุให้เกิดสมาธิ สมาธิก็เป็นเหตุให้เกิดปัญญา...
อนุโมทนา สาธุ