อานิสงส์ แห่งการบิณฑบาตก่อนตรัสรู้และก่อนปรินิพพานมีอานิสงส์อย่างไร

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 28 มกราคม 2008.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,439
    อานิสงส์
    แห่งบิณบาตทั้งสองคราว
    [​IMG]

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="85%" border=0>
    “ข้าแต่พระนาคเสน พระเถระทั้งหลายผู้กระทำธรรมสังคีติ (สังคายนา) ได้กล่าวไว้ว่า พระพุทธองค์ทรงเสวยอาหารของนายจุนท์ ผู้เป็นบุตรช่างทองแล้วเกิดอาพาธหนัก มีมรณะเป็นที่สุด ดังนี้
    และกล่าวไว้อีกว่า องค์สมเด็จพระบรมศาสดาได้ตรัสไว้ว่า บิณฑบาตทั้งสองคราวนี้มีผลเสมอกัน มีวิบากเสมอกัน มีผลานิสงส์มากกว่าบิณฑบาตอื่น ๆ
    บิณฑบาตทั้งสองคราวนี้ คือเมื่อใดบ้างคือบิณฑบาตที่ นางสุชาดา ถวายก่อนที่จะได้ตรัสรู้ ๑ และบิณฑบาตที่ นายจุนท์ ถวายก่อนที่จะปรินิพพาน ๑ ดังนี้
    ข้าแต่พระนาคเสน “ถ้าอาพาธแรงกล้า ทำให้เกิดทุกขเวทนา มีมรณะเป็นที่สุดแก่พระตถาคตเจ้า เพราะเสวยอาหารของนายจุนท์” ถูกแล้ว คำที่ว่า “บิณฑบาตนั้นมีผลเสมอกันมีวิบากเสมอกัน มีผลานิสงส์มากกว่าบิณฑบาตอื่น ๆ” ก็ผิดไป
    ถ้าคำว่า “บิณฑบาตนั้น มีผลวิบากเสมอกัน มีผลานิสงส์ยิ่งกว่าบิณฑบาตอื่น ๆ” ถูกแล้ว คำที่ว่าเกิดอาพาธแรงกล้า มีทุกขเวทนาหนัก มีมรณะเป็นที่สุด เพราะเสวยอาหารของนายจุนท์นั้น” ก็ผิดไป
    ข้าแต่พระนาคเสน บิณฑบาตนั้นจะมีผลมาก เพราะเจือยาพิษ เพราะทำให้เกิดโรค เพราะทำให้สิ้นอายุทำให้จักษุของชาวโลกพินาศไป ทำให้พระผู้เป็นเจ้าสิ้นพระชนม์แล้ว เหตุไรจึงมีผลมาก ขอพระผู้เป็นเจ้าชี้แจงแสดงไว้ เพื่อข่มขี่ถ้อยคำของผู้อื่นเสีย
    ในเรื่องนี้ประชุมชนหลงเข้าใจว่า โรคพระโลหิตได้เกิดแก่พระพุทธเจ้า เพราะเสวยมากเกินไปด้วยอำนาจโลภ ดังนี้ เรื่องนี้จึงเป็นอุภโตโกฏิ โปรดแก้ไขให้สิ้นสงสัยด้วยเถิด”
    พระนาคเสนจึงตอบว่า
    “ขอถวายพระพร คำที่ว่า “พระพุทธองค์ทรงเสวยอาหารของนายจุนท์แล้ว เกิดอาพาธหนักมีมรณะนั้น” ก็ถูก คำที่ว่า “บิณฑบาตทั้งสองคราวนั้น มีผลเสมอกัน มีวิบากเสมอกัน มีผลานิสงส์ยิ่งกว่าบิณฑบาตอื่น ๆ นั้น ๆ ก็ถูก เพราะว่าบิณฑบาตนั้นมีคุณมาก มีผลมาก มีวิบากมาก มีอานิสงส์ไม่ใช่น้อย
    เทวดาทั้งหลายทีความยินดีเลื่อมใสด้วยคิดว่า บิณฑบาตคราวนี้เป็นคราวสุดท้ายของพระองค์แล้ว จึงโปรยผงทิพย์นั้นลงในสุกรมัททวะ (เนี้อสุกรอ่อน) ผงทิพย์นั้นสุกเสมอกัน สุกมาก เป็นที่ยินดีแห่งใจ ร้อนด้วยไฟในท้อง
    แต่ใช่ว่าโรคจะบังเกิดด้วยอาหารนั้นหามิได้ แต่เพราะพระพุทธเจ้ามีพระวรกายไม่สู้มีกำลังอยู่แล้ว อายุสังขารก็สิ้นแล้ว โรคที่เกิดขึ้นจึงกำเริบ เหมือนกับกระแสน้ำไหลอยู่ตามปกติแล้ว เมื่อฝนตกลงมาใหญ่ ก็ยิ่งมีกระแสน้ำมากขึ้นฉะนั้น
    อีกอย่างหนึ่ง เหมือนกับไฟอันลุกอยู่ตามปกติแล้ว เมื่อกินของไม่สุกอย่างใดอย่างหนึ่งลงไป ก็เกิดลมมากขึ้นฉะนั้น ไม่มีใครอาจชี้โทษในบิณฑบาตนั้นได้ว่า บิณฑบาตนั้นทำให้เกิดโรค ขอถวายพระพร”
    “ข้าแต่พระนาคเสน เป็นเพราะเหตุไร บิณฑบาตทั้งสองนั้น จึงมีผลวิบากเสมอกัน มีผลานิสงส์มากกว่าบิณฑบาตอื่น ๆ ?”
    “ขอถวายพระพร เพราะอำนาจคุณธรรมในการเข้าสมบัติอยู่เนื่อง ๆ”
    “คุณธรรมในการเข้าสมาบัติอยู่เนื่อง ๆ นั้น ได้แก่อะไร พระผู้เป็นเจ้า ?”
    “ขอถวายพระพร ได้แก่การเข้า อนุบุพพวิหารสมาบัติทั้ง ๙ (เข้ารูปฌาน ๔ อรูปฌาน ๔ นิโรธ ๑) กลับไปกลับมา ถอยหน้าถอยหลัง”
    “ข้าแต่พระนาคเสน พระตถาคตเจ้าได้เข้าอนุบุพพวิหารสมาบัติทั้ง ๙ กลับไปกลับมา ถึง ๓ ครุ้ง เมื่อก่อนจะนิพพานนั้นไม่เคยมีบ้างหรือ ?”
    “ไม่เคยมี มหาบพิตร”
    “น่าอัศจรรย์ ? พระนาคเสน ทานอย่างเยี่ยมซึ่งไม่มีทานอื่นใดเสมอเหมือน อันไม่นับเข้าในบิณฑบาตทั้งสองคราวนี้ก็มีอยู่ น่าอัศจรรย์ ? ที่ทานนั้นมีผลานิสงส์ยิ่งกว่าทานอื่น ๆ ด้วยอำนาจแห่ง อนุบุพพวิหารสมาบัติทั้ง ๙ ซึ่งเป็นของใหญ่”
    <CENTER>[COLOR=darkgold,direction=-35);]อธิบาย [/color]</CENTER>
    ในอาถกถา มหาปรินิพพานสูตร ได้กล่าวว่า ถ้าพระพุทธองค์ไม้ได้ทรงเสวยเนื้อสุกรอ่อนอันเจือด้วยผงทิพย์ ในวันนั้นจะเกิดพระโรคาพาธหนักยิ่งกว่านั้น หนักจนไม่สามารถจะเสด็จไปด้วยพระบาทได้ นอกจากจะทรงไปทางอากาศด้วยฤทธิ์
    เพราะในวันนั้น โรคลงพระโลหิตที่เคยเป็นมาแล้วในกลางพรรษาได้กำเริบขึ้นอีก เพราะโรคนั้นสงบลงด้วยอำนาจอิทธบาทภาวนาเพียงชั่ว ๖ เดือนเท่านั้น ถ้าทรงเข้าอิทธิบาทภาวนาอีก ก็จะทรงบรรเทาทุกขเวทนาไปอีก ๖ เดือน เมื่อถึง ๖ เดือนแล้วทรงเข้าอีกก็จะทรงสบายอีก ๖ เดือน เมื่อทรงใช้อำนาจอิทธบาททุกระยะ ๖ เดือนไป ก็จะมีพระชนอยู่ตั้งกัป หรือเกินกว่า แต่ไม่ทรงทำ เพราะทรงปลงพระชนม์มายุสังขารให้เป็นไปตามเรื่องของสังขารเสียแล้ว ดังนี้
    <TBODY></TBODY>​
    </TABLE>​
    ที่มา http://larnbuddhism.net/milintapanha/milin04_index.html
     
  2. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,129
    อ นุ โ ม ท น า ส า ธุ
     
  3. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,272
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,095
    อนุโมทนาครับถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ตั้งแต่อดีต ปัจจุบันและในอนาคตไม่มีสิ้นสุดไม่มีประมาณพร้อมเหล่าพระสาวกของพระพุทธเจ้าทุกท่านทุกองค์ไม่มีสิ้นสุดไม่มีประมาณ สาธุ มหาสาธุ
     
  4. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    อนุโมทนาครับถวายเป็นพุทธ บูชาแด่พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ตั้งแต่อดีต ปัจจุบันและในอนาคตไม่มีสิ้นสุดไม่มีประมาณพร้อมเหล่าพระสาวกของพระพุทธเจ้า ทุกท่านทุกองค์ไม่มีสิ้นสุดไม่มีประมาณ สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...