อาหารทิพย์อยู่ตรงหน้า ดีกว่า ยาที่แสนไกล

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย zipper, 9 เมษายน 2005.

  1. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,227
    ค่าพลัง:
    +10,593
    ตามมาตรฐานของธรรมชาติแล้วคนส่วนใหญ่ในสังคมปัจจุบันถูกจัดอยู่ในขั้นไม่สบายคนทุกระดับชั้นจัดว่ามีอาการผิดปกติธรรมชาติด้วยอาการแฝงของการเสื่อมพันธุ์ จุดบกพร่องประเด็นสำคัญคือ การปัสสาวะแพทย์จีนบัญญัติ หากคนเราปัสสาวะวันหนึ่งเกิน 5 ครั้ง ให้ถือว่าไม่สบาย ไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นใดที่ขับปัสสาวะบ่อย และมากเกินเท่าคนยุคปัจจุบัน คนจีนถือว่าเมื่อใดที่เราปัสสาวะบ่อย ย่อมแสดงว่าไตระบบขับถ่ายทำงานหนักเกินไป เมื่อไตทำงานหนักก็จะเป็นจุดเริ่มต้นของการเสื่อมของวงจรการทำงานของอวัยวะต่างๆ ในร่างกายทั้งระบบจากไตก่อให้ตับทรุด จากตับโยงไปสู่หัวใจระบบหมุนเวียนโลหิตจากหัวใจนำไปสู่การเสื่อมของม้าม จากม้ามย่อมสร้างภาระหนักให้กับปอด จากปอดย้อนกลับมาเร่งทำลายไตอีกครั้ง ทั้งนี้เนื่องจากการทำงานของอวัยวะนั้นเกี่ยวโยงสัมพันธ์ทั้งระบบเมื่อส่วนใดส่วนหนึ่งรับภาระหนักย่อมส่งผลกระทบอันต่อเนื่องเป็นระลอกของวงจรพลังครบรอบเป็นลูกโซ่ คนจีนจึงสอนสั่งเรื่องการดื่มน้ำให้จิบแทนการดื่ม ให้ดื่มน้ำอุ่น น้ำชาแทนน้ำแช่เย็น น้ำแข็งเปล่าให้หลีกเลี่ยงอาหารรสเผ็ดจัดเพื่อหลีกเลี่ยงการกระหายน้ำ คนในสังคมปัจจุบันต้องรับประทานอาหารนอกบ้านตามร้านต่างๆสุขภาพจึงขึ้นอยู่กับฝีมือแม่ครัว แม่ค้า หรือหัวหน้ากุ๊กภัตตาคาร หากอยากทานอาหารใด ให้สังเกต รูปร่างหน้าตาแม่ค้าไว้ เพราะอาหารวันนี้คือจิตใจอารมณ์เราในวันพรุ่งนี้ อาหารที่เรารับประทานเข้าปากมิได้หายไปไหน แต่จะไปสร้างเซลล์เม็ดเลือดที่จะเป็นกำลังส่งถึงสภาวะจิตใจ ความนึกคิด นิสัยเราวันต่อมา ชาวตะวันตกนิยมทานสเต๊กเนื้อวัว แฮมเบอร์เกอร์เป็นอาหารหลัก ให้ถามตัวเราดูซิว่า เรามีเขี้ยวเล็บที่แหลมคมเหมือนเสือ สิงโตหรือไม่ ในขณะที่ลำไส้ในกระเพาะเรายาวเกือบ 10 เมตรในสัตว์ที่กินเนื้อนั้น ลำไส้สั้นมากและมีน้ำย่อยเป็นกรดช่วยย่อยและสกัดสารอาหาร ดังนั้น สิ่งใดที่ธรรมชาติอยากให้เรารับประทาน ท่านจะออกแบบอวัยวะที่เหมาะสมมาให้ เมื่อใดที่เรารับประทานเนื้อสัตว์มาก หรือน้ำตาลมาก สภาวะสิ่งแวดล้อมภายในร่างกายที่นักวิชาการเรียก Homeostasis (โฮมีโอสตาซีส) คือสภาวะความเป็นกรด-ด่างรอบเซลล์เนื้อเยื่อทุกเซลล์ในร่างกาย จะมีคุณค่าเปลี่ยนไปทำให้สิ่งแวดล้อมภายในของคนเปลี่ยนมลพิษอันประกอบด้วย


    1. อุณหภูมิปกติของคนอยู่ที่ 98.6 ํ F
    2. ความเป็นกรด-ด่างอยู่ที่ค่าพีเอช (7.4)
    3. ความเข้มข้นของเกลือแร่ที่สะสมในของเหลว
    4. ระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดคนเรา
    5. ปริมาณของเหลวที่เพิ่มสูงและลดความเข้มลง
    6. ปริมาณค่าคงที่ของระบบการหายใจเอาออกซิเจน
    และหายใจออกถ่ายคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือด
    7. ปริมาณความเข้มข้นของเลือด จำนวนเม็ดเลือด
    ทั้งหมดนี้มีปัจจัยหลักคือ ปริมาณคุณภาพอันเกิดจากสิ่งที่เรานำเข้าจากภายนอกสู่ภายในร่างกายอากาศหายใจทุกคนสูดดมอากาศที่ไม่ เแตกต่างกันแต่พอเรื่องอาหารการกิน ผลิตภัณฑ์นำเข้าสู่ร่างกาย
    แต่ละคนแตกต่างกันตามอุปนิสัยความเคยชินและเมนูจานโปรดที่ต่างกัน ด้วยปัจจัยอาหารที่ผลิตพลังแฝงวันพรุ่งนี้ไว้ในร่างกายแต่ละคนให้แตกต่างกันไป ทำให้คนเรามีความคิดและความรู้สึกที่ผิดแปลกแตกต่าง ยากแก่การหยั่งได้ แต่หากอาศัยหลักการพิจารณาแบบหยิน-หยางทางการแพทย์จีน เราก็สามารถจะกำหนดและทำนาย พฤติกรรมคร่าวๆ ได้ว่าพรุ่งนี้เราจะรู้สึกเป็นเช่นใด เพราะอาหารทั้งหลายมีหลักใหญ่เป็นพลังแฝงเพียงสองพลังคือหยินกับหยาง แตกต่างตามสัดส่วนมากน้อยกันไปเท่านั้น ถ้าเราทานอาหารที่มีพลังหยินมาก เราก็จะมีพฤติกรรมของอาการหยิน


    ทุกวันนี้ ถ้าเราเข้าใจอิทธิพลของพลังหยินจากน้ำตาลทราย เราก็พอจะทราบข่าวเหตุการณ์ต่างๆ ที่เป็นเพียงผลสะท้อนของพลังหยินจากน้ำตาล ความหวานของอาหารที่บุคคลนั้นๆ ชอบรับประทานและที่มีขายทั่วไป ด้วยความเมตตาและจิตวิญญาณอันสูงส่งของบรรพบุรุษเรา ท่านได้ตระหนักในปัญหาเรื่องอาหารการกินที่จะมีอิทธิพลต่อชีวิตบุตรหลานในภายภาคหน้า ท่านจึงได้ค้นคิดสูตรอาหารสำเร็จที่เป็นหน่วยข้าวปั้นบรรจุปัจจัยธาตุอาหารครบทั้ง 5 หมู่ไว้ในข้าวเพียงคำเดียวที่จะให้สรรพคุณเป็นทั้งอาหารทิพย์และยาอายุวัฒนะประจำตัวทุกท่าน หากเราสนใจและนำมาปฏิบัติในชีวิตประจำวัน ก็จะสามารถสร้างภูมิต้านทานโรค และให้พลังงานสูงสุด จะเห็นได้จากวิชากำลังภายในในอดีตเกิดจากอิทธิพลอาหารนี้ ปราชญ์จีนบัญญัติไว้ว่า เมื่อใดหากจะคิดการใดให้สำเร็จ ควรเริ่มต้นจากการปรับปรุงอาหารให้ยึดถือหน่วยข้าวปั้นนี้เป็นจุดเริ่มต้นและเป็นอาหารหลักก่อน มิฉะนั้นยากที่จะสำเร็จ แนวความคิดว่าอาหารนั้นคือชี่ หรือพลังลมปราณกำลังภายในที่แฝงอยู่ภายในอาหารต่างๆ กันไป ทุกข์หรือสุข ป่วยหรือสบายดี ขึ้นอยู่ที่คุณภาพของชี่ลมปราณ หากได้รับพลังชี่ที่สมดุล อะไรก็ไม่สามารถทำอันตรายได้ข้าวปั้นคำนี้คือพลังธาตุของจักรวาลบรรจุลงในฝ่ามือเดียวของคน ที่ด้วยน้ำมือเราเองนี่แหละที่จะสามารถกำหนดชะตาชีวิตสุขภาพของเราได้ในธรรมชาตินั้น มีพลังไร้รูปซึ่งเราไม่สามารถมองเห็นด้วยตา เราอาจเรียกหยิน-หยาง แต่เมื่อพลังทั้งสองทำปฏิกิริยา และจุติลงบนพื้นโลก โดยผ่านตัวกลางคือ พื้นดิน สรรพสิ่งก็ถือกำเนิดขึ้น โดยมีลักษณะเด่นด้อยตามสัดส่วน พลังหยิน-หยาง ได้ผลลัพธ์เป็นปรากฏการณ์ในรูปร่างของ ธาตุทั้ง 5 ที่สัมพันธ์และขัดแย้งเป็นวงจรจาก ธาตุไม้ สู่ธาตุไฟ สู่ธาตุดิน สู่ธาตุโลหะ สู่ธาตุน้ำ แล้วเริ่มต้นวงจรใหม่


    ในสิ่งแวดล้อมรอบตัวเรา ธาตุทั้ง 5 นี้ปรากฏเป็น ต้นไม้พืชที่โตสูงสู่เบื้องบนอันมีแสงแดด ดวงอาทิตย์เป็นธาตุไฟที่สาดส่องลงมาผันแปรให้สรรพสิ่งกลับสู่ธาตุดิน สู่ศูนย์กลางโลก จากใต้ดินพลังกลับสะสมอัดตัวแน่นด้วยเวลานานกลายเป็นโลหธาตุ เป็นเกลือแร่ เป็นสสาร เป็นน้ำมัน เป็นพลังงานแฝงในธาตุโลหะนี้มีพลังหยินธาตุน้ำแฝงอยู่ คนจีนสังเกตดูว่า ทุกเช้าจะมีหยดน้ำปรากฏขึ้นบนโลหะ เช่นปรอทที่ฉาบกระจกเสมอหมายความว่าโลหะให้กำเนิดน้ำได้เมื่อเปรียบเทียบธาตุในสิ่งแวดล้อมแล้ว
    แพทย์จีนยังเชื่อมโยงอวัยวะภายในร่างกายคนเราให้มีธาตุภูมิเหมือนกับธาตุในสิ่งแวดล้อม จึงกล่าวได้ว่า หากเรารับประทานอาหารชนิดใด เราก็จะให้ธาตุนั้นๆ แก่สุขภาพเราด้วยการออกแบบ การปรุงอาหารคำพิเศษนี้ก็คือการถอดรหัสพลังสิ่งแวดล้อม
    ขั้น 4-5-6 เข้าสู่สิ่งแวดล้อมภายใน หรือ Homeostasis ขั้น 7 ของคนเรา ในข้าวกล้องปั้นคำเดียวนี้มีพลังธาตุทั้ง 5 รวมสะสมอัดแน่นเป็นดั่งเพชรเม็ดล้ำค่าที่มนุษย์ค้นพบด้วยสติปัญญาเพื่อทดแทน หล่อเลี้ยงร่างกายที่ฟ้าประทานมาให้เรา ศูนย์กลางข้าวปั้นนี้ประกอบด้วย วางบ๊วยเค็มชิ้นเล็ก (เอาเม็ดออก) ประกบไว้กับก้อนแท่งไชโป้วหรือหัวผักกาดดองหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า ใช้ข้าวกล้องสุกห่อกดอัดแน่น โรยเกลือป่นงาดำป่นคลุกปั้นเข้าหารอบก้อนข้าว เสร็จแล้วห่อด้วยแผ่นสาหร่ายทะเลตากแดดแห้งเบาๆ หุ้มก้อนข้าวภายนอกอีกครั้งหนึ่ง ที่สุดสำคัญก็คือ พลังมือจากตัวเราเองเท่านั้นที่จะเป็นรหัสโค้ดเดียวกันกับน้ำลายในปากที่จะเคี้ยวคลุกจนได้ที่กลายเป็นข้าวคลุกน้ำลายที่มีรหัสเปิดหลอดน้ำย่อยในกระเพาะ เมื่อใดหากเราทานอาหารแล้วอาเจียนหรือท้องเสียแสดงว่ารหัสโค้ดจากอาหารไม่ถูกต้องเหมือนเรากดเครื่องเอทีเอ็มผิดรหัสเครื่องตีกลับในข้าวคำนี้ แม้จะดูเหมือนไม่มีอะไรสำคัญแต่แท้จริงนั้นได้รวบรวมภูมิปัญญาบรรพบุรุษในอดีตกาลไว้ทั้งหมดกาย จิต วิญญาณนั้นเป็นหนึ่งเดียวกันได้ก็ด้วยการรับประทานอาหารคำนี้ ที่เป็นจุดเริ่มต้นของสุขภาพที่แท้จริง


    <a href=http://manager.co.th/Qol/ViewNews.aspx?NewsID=9470000065631>โดย ผู้จัดการออนไลน์ 12 ตุลาคม 2547</a>
     
  2. has

    has บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ขอบคุณค่ะ ได้ความรู้ดีจัง .....
     

แชร์หน้านี้

Loading...