เขมรไม่จบปมพระวิหาร ไทยจัดทัพใหญ่ชน 15 – 19 เมษาฯ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย surer, 14 เมษายน 2013.

  1. surer

    surer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,508
    ค่าพลัง:
    +1,317
    แนวหน้าชุดกำลังรบทั้งไทยและกัมพูชาของ 2 ประเทศ ต่างจับตากันแบบวินาทีไม่คลาดสายตา หลังทั้ง 2 ฝ่ายประชิดชายแดน ขนอาวุธหนักซ้อมรบกันอย่างจริงจัง ถึงแม้จะเป็นฤดูการซ้อมรบของแต่ละประเทศก็ตาม ถือเป็นการข่มขวัญแสดงแสนยานุภาพทางการทหาร ที่ต่างฝ่ายต่างพร้อมปกป้องอธิปไตย

    แต่ถึงแม้กำลังทางการรบใครจะเหนือกว่าหรือไม่นั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่ครั้งนี้ทางกัมพูชากลับเล่นบทการเมืองนำการทหาร ที่ยื่นร้องศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลก กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ให้ชี้ชะตาปมขอบเขตพื้นที่รอบปราสาทอีกครั้งแบบขอตัวเลขชัด ๆ ใหม่ ( กัมพูชายื่นขอตีความคำตัดสินปี 2505 )
    [​IMG]
    นั่นจึงทำให้ไทย ต้องเท้าความสรุปความเป็นมาตั้งแต่เริ่มต้นคดีเมื่อปี 2502 ที่ทางกัมพูชาเป็นฝ่ายยื่นคำร้องต่อศาลโลกในเรื่องสิทธิการครอบครองปราสาทพระวิหาร ตลอดจนการยื่นขอตีความคำตัดสินเดิมเมื่อปี 2554

    ส่วนประเด็นเรื่อง vicinity ซึ่งแปลว่าเพื่อนบ้านใกล้เคียง เป็นเพื่อนบ้านอยู่ติดกัน ทหารไทยตั้งฐานอยู่ใกล้กับปราสาทพระวิหาร คำตัดสินของศาลเมื่อปี 2505 ศาลเคยให้เราถอนทหาร ตำรวจ ออกจากตัวปราสาทและพื้นที่ใกล้เคียง เราก็ทำตามแล้ว และทางกัมพูชาก็ไม่ได้โต้แย้ง แต่ทางกัมพูชาต้องการให้ศาลชี้ว่าเส้นเขตแดนเป็นไปตามแผนที่อัตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ซึ่งศาลไม่ได้ชี้ ชี้แต่ตัวปราสาทให้เป็นของกัมพูชา

    ดังนั้นกรอบแนวทางการต่อสู้คดีของไทย จึงตั้งไว้ 4 ข้อ ได้แก่

    1. การยืนยันว่าคำร้องของฝ่ายกัมพูชาไม่ใช่คำขอตีความคำตัดสินเดิม แต่เป็นคำฟ้องคดีใหม่ ซึ่งเป็นผลมาจากการที่กัมพูชาขอขึ้นทะเบียนมรดกโลกฝ่ายเดียว ดังนั้นศาลโลกจึงไม่มีอำนาจตีความ แต่ที่ฝ่ายไทยจำเป็นต้องเข้าให้การในศาลโลกก็เพื่อไม่ให้ศาลโลกฟังความจากกัมพูชาฝ่ายเดียว

    2. ที่ผ่านมาฝ่ายไทยและกัมพูชาไม่เคยมีข้อขัดแย้งเรื่องพื้นที่ใกล้เคียงบริเวณรอบปราสาทประวิหาร ดังนั้นศาลโลกจึงไม่ต้องตีความ

    3. การชี้ให้ศาลเห็นว่าคำร้องของฝ่ายกัมพูชาเป็นเรื่องเดิมที่ศาลเคยปฏิเสธมาแล้วในการตัดสินเมื่อปี 2505 ทั้งในเรื่องเขตแดนและแผนที่ 1 ต่อ 2 แสน ซึ่งเป็นเหมือนการอุทธรณ์แฝงมาในรูปของการขอตีความ และ

    4. การอ้างสิทธิทับซ้อนบนพื้นที่ 4.6 ตร.กม.รอบปราสาทพระวิหารของฝ่ายกัมพูชา ไม่มีความเชื่อมโยงกับคดี เพราะเป็นเรื่องที่เกิดใหม่ภายหลังจากการขอขึ้นทะเบียนมรดกโลกฝ่ายเดียวของกัมพูชา

    ซึ่งควรที่จะใช้ช่องทางดำเนินการภายใต้กรอบของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (เจบีซี) ไทย-กัมพูชา ภายใต้บันทึกความเข้าใจระหว่างไทย-กัมพูชาว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกปี พ.ศ. 2543 หรือเอ็มโอยู 2543

    ซึ่งการให้การทางวาจาต่อศาลศาลโลก ระหว่างวันที่ 15-19 เม.ย.นี้นั้น ไทยจะมีทีมทนาย 4 คน ทั้งต่างชาติและไทย ที่จะทำหน้าที่ในการแถลงระหว่างการให้การ ซึ่งจะใช้ภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส

    โดยทางศาลโลกจะมีการถ่ายทอดสดผ่านทางเว็บแคมตลอดการแถลงด้วยวาจาทั้ง 4 วัน อีกทั้ง จะมีการถ่ายทอดมายังศูนย์ข่าวของกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมล่ามผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาในการแปล เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและถูกต้องของข้อมูล

    นอกจากนี้ นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเฮก ในฐานะตัวแทนคณะดำเนินการต่อสู้คดีปราสาทพระวิหารฝ่ายไทย จะเป็นผู้สรุปสถานการณ์ของแต่ละวันถ่ายทอดมายังประเทศไทยภายหลังจากขั้นตอนในศาลของทุกวัน

    ขณะที่ รายละเอียดในวันที่ 15 เม.ย.นั้น ผู้แทนฝ่ายกัมพูชาจะแถลงด้วยวาจา เป็นเวลา 4 ชั่วโมง 30 นาที วันที่ 16 ม.ย.ไม่มีการแถลง จากนั้นในวันที่ 17 เม.ย.ฝ่ายไทยแถลงโต้แย้งด้วยวาจาเป็นเวลา 4 ชั่วโมง 30 นาที

    และในวันที่ 18 เม.ย. ฝ่ายกัมพูชาแถลงปิดคดีด้วยวาจา 2 ชั่วโมง ก่อนที่ฝ่ายไทยจะแถลงปิดคดีด้วยวาจา 2 ชั่วโมงในวันที่ 19 เม.ย. จากนั้นคาดว่าไม่เกินปลายปี ช่วงระหว่างเดือน กันยายนถึง ตุลาคม 2556 จะมีคำพิพากษา ระหว่าง 2 ประเทศ

    สำหรับคณะที่ปรึกษากฎหมาย (ทนาย) ระหว่างประเทศ (ชาวต่างชาติ) ของฝ่ายไทย 3 คน ได้แก่
    ศ.เจมส์ ครอว์ฟอร์ด อาจารย์สอนกฎหมายระหว่างประเทศ ผอ.ศูนย์วิจัยกฎหมาย
    ศ.โดนัลด์ เอ็ม แม็คเรย์ สมาชิกศาลประจำอนุญาโตตุลาการ และทนายความของรัฐบาลนิวซีแลนด์
    ศ.อลังเปลเล่ต์ เป็นอาจารย์สอนกฎหมายระหว่างประเทศที่มหาวิทยาลัยปารี

    เครดิสmthai: จับตาผ่าน MThai 50ปี เขมรไม่จบปมพระวิหาร ไทยจัดทัพใหญ่ชน 15 – 19 เมษาฯ | ข่าว ข่าวรายวัน ข่าววันนี้ ข่าวการเมือง
     
  2. ดอกอ้อขาว

    ดอกอ้อขาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    178
    ค่าพลัง:
    +3,619
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=pjW3-Jq2L3I]บางระจัน เเอ๊ด คาราบาว Bangrajun Carabao - YouTube[/ame]

    กว่าจะมาเป็นไทยวันนี้ เลือดกี่หยาดหยดที่นองอาบแผ่นดิน "ยังไม่จบ"วงดาบมันคงจะเปลี่ยนทิศแล้วแหละ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 เมษายน 2013
  3. numphol aryupha

    numphol aryupha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    467
    ค่าพลัง:
    +1,157
    เขมรมันกล้าเพราะมีชาติมหาอำนาจหนุนหลังมันอยู่ เพราะมันผลประโยชน์บ่อน้ำมันในอ่าวไทย โดยร่วมมือกับนักกินเมืองบางคนที่ไม่รู้จักพอ
     
  4. surer

    surer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,508
    ค่าพลัง:
    +1,317
    มันดันมีนักการเมือง ไปเซ็นเรื่อง เขาแล้วนิดิครับ ความเห็นแก่ตัวของบางคน
    ทำให้ไทยต้องเสียดินแดน
     
  5. md626

    md626 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,081
    ค่าพลัง:
    +1,394
    มันเป็นกรรมของประเทศไทยหรืออย่างไร ที่มีนักการเมืองเลวๆ ที่ไม่รักแผ่นดินตัวเอง มาปกครองประเทศ ที่เข้าวัดทำบุญเพื่อลบล้างความเลวของตัวเอง
    เอ แต่จะลบล้างได้ด้วยรึ
     
  6. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    เขาพระวิหารเป็นของเขมร และเขมรเป็นคนสร้าง ไทยมีแต่กะไดทางขึ้น....ในส่วนที่ไปตีเขามา เราอยู่ netherlands และฝรั่งทุกคนที่เรารู้จักก็บอก เขาพระวิหารเป็นของเขมรรวมทั้งเราเองก็ไม่เห็นด้วยกะคนไทยที่ ชอบไป แย้งของของคนอื่นเขามา อย่าง พระแก้วมรกต เขาพระวิหาร และ สามชายแดนภาคใต้
     
  7. surer

    surer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,508
    ค่าพลัง:
    +1,317
    อันนี้ผมถาม ทหารพรานแถวบ้าน (ศรีสะเกษ)
    เค้าบอกว่า เขาพระวิหาร ไม่ใช่เขมรสร้าง
    แต่เป็นขอมครับ ปัญหาอยู่ที่ ถ้าไทย เสีย
    เขาพระวิหารไป ต้องเสียดินแดนบางส่วนด้วย
    ไอ่แค่เขา โบราณ ไม่ได้ซีเรียสเท่าเสียดินแดนหรอกครับ
     
  8. surer

    surer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,508
    ค่าพลัง:
    +1,317
    ตอนแรกผมก็เข้าใจว่า เขมร กับ ขอม อันเดียวกัน
    แต่แกบอกว่า ไม่ใช่ เขมร อ่านภาษาขอมไม่ออกด้วยซํา
     
  9. surer

    surer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,508
    ค่าพลัง:
    +1,317
  10. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    อ้อเข้าใจละ เพราะกลัวเขมรมาอ้างเอาดินแดนโดยใช้ เขาพระวิหารเป็นข้ออ้างนี้เอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคนไทยมาสร้างประวัติศาสตร์เอาทีหลังคะ เรื่องเขาพระวิหาร ขอม เป็นบรรพบุรุษของชาวเขมร แต่ ไม่สามารถฟันธงได้อยู่ดีว่าหมายถึงคนไทย หรือ เขมร ปัจจุบัน แต่ในวิกีพีเดีย ที่คนไทยแต่ง อ่านแล้วขำถึงความที่ อหังการของคนไทยหลายคน ก็ต้องมาเรียงดูกันเลยว่าดีกว่าคนไทยปัจจุบัน มาจากไหน ที่แน่นอนไม่ใช่ร้อยเปอร์เซนมาจากเชื้อชาติขอม แน่นอน คนละโว้ นั้น คือ คนขอม ส่วนขอม สมัยนั้นมันกินอาณาเขตจากเขมรมาถึงลพบุรีปัจจุบัน เคยดูในสารคดีฝรั่งเขาบอกว่า ขอมเป็นพวกกลุ่มชาว พราหมณ์ จาก อินเดียใต้นั่งเรือมาสร้างอาณาจักร คือ นครวัดนครทม คน เขมรรุ่นหลังเป็นลูกหลานของคนอินเดียเหล่านั้นกับคนเขมรพื้นเมือง ก็ไม่ทราบเท็จจริงอย่างไรคะ
     
  11. numphol aryupha

    numphol aryupha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    467
    ค่าพลัง:
    +1,157
    โทษนะ คุณเป็นคนไทยหรือเขมรกันแน่ ถ้างั้นศรืษะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์มีคนเขมรอยู่เยอะก็เป็นของเขมรละสิ สมัยก่อนมันไม่มีเขตแดนแน่นอนหรอก ไม่ว่าประเทศไหนๆ แต่เมื่อบรรพบุรุษของเรารวบรวมมาโดยเอาชีวิตเลือดเนื้อเข้าแลก ด้วยความยากลำบาก หลายร้อยปีที่ผ่านมา ถ้าเราไม่เข้มแข็งป่านนี้เราไม่มีประเทศไทยให้เราภูมิใจหรอก แต่ถึงกระนั้นเราก็ต้องเสียดินแดนให้มหาอำนาจตั้งหลายครั้ง และด้วยพระปรีชาสามารถของพระมหากษัตริไทย เราจึงภูมใจที่เราไม่ต้องตกเป็นเมืองขึ้นของฝรั่ง ความคิดแบบนี้ไม่น่าเกิดมาเป็นคนไทยเลย เสียชาติเกิดจริง
     
  12. GROLY

    GROLY เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    2,019
    ค่าพลัง:
    +8,001
    บางคนเกิดเป็นไทยแต่ใจเป็นทาสฝรั่ง ทาสเขมร เห็นพวกนี้ดีวิเศษวิโส มันพูดอะไรเชื่อไปหมดถูกไปหมด มันจะมารู้อะไวดีกว่าคนไทยจริงๆครับ ฝรั่งมันก็คนธรรมดา เลวก็เยอะไป มากินข้าวกินเสร็จไม่จ่ายตังค์ วิ่งหนีไปดื้อๆก็มี
    อย่างเขมรกับขอมมันคนละเชื้อชาติกัน คนไทยเป็นชาติรักสงบไม่ชอบรุกรานใคร จนต้องโดนขอมมายึดอำนาจคนไทยโดนเนรเทศไปอยู่ที่กันดาร ต้องทำงานหาเงินทองส่งบรรณาการพวกขอม ถ้าไม่ส่งมันก็ฆ่าก็ตีเอา ลูกเมียใครมันพอใจมันก็ฉุดไป จนสุดท้ายคนไทยทนไม่ไหวลุกขึ้นสู้กอบกู้เอกราชคืนมาได้

    เขมรเป็นอีกชาติที่ชอบรุกรานไทย เวลามีศึกด้านอื่นเขมรนี่แหละคอยมาตีมากวาดต้อนคนไทยแถวชายแดนไปเป็นทาสมัน เอาทรัพย์สินของแผ่นดินเราไป แต่เวลาที่ประเทศมันมีปัญหามันวิ่ชเข้ามาขอความช่วยเหลือตลอด แต่เมื่อมีโอกาสเมื่อไรพวกนี้ไม่เคยสำนึกบุญคุณคอยหาโอกาสแทงข้างหลังตลอด
    บรรพบุรุษเราต้องยอมเสียเลือดเนื้อไปจัดการพวกนี้เพื่อให้มันเข็ดหลาบคนไทยจะได้อยู่อย่างสงบ
    แต่ไอ้คนรุ่นหลังคิดว่าตัวเองเก่งหาว่าบรรพบุรุษเราไปแย่งดินแดนมันมา

    ถามว่าถ้าบรรพบุรุษไม่สละความสุขเลือดเนื้อรักษาดินแดนนี้ให้ ไอ้พวกที่ปากเก่งด่าว่าบรรพบุรุษจะมีที่ซุกหัวนอน มีเสรีภาพ ความสุขสบายมั้ย
     
  13. numphol aryupha

    numphol aryupha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    467
    ค่าพลัง:
    +1,157
    :cool::cool::cool::cool:
    สุดยอดเลยท่าน
     
  14. surer

    surer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,508
    ค่าพลัง:
    +1,317
    เอางี้ผมขออธิบายหน่อย ขอมคือ ชนเผ่าหรืออะไรนี่แหละ แต่ไม่ใช่เขมร
    ส่วนคนไทย ตามแถวบ้านผม(ศรีสะเกษ) เค้าก็พูดภาษา เขมรได้นะ
    บางหมู่่บ้าน พูดส่วย บางหมูบ้านพูดเขมร แต่ทุกหมูบ้านจะพูดไทยได้
    สรุปแล้ว เชื่อไทย 100% คงหายากนะครับทุกวันนี้ เอาแค่ว่าจีนอะ
    ก็เยอะมากอะ ที่มาอยู่ไทย ผสมปนเปไปหมด อยากเห็น คนไทย
    เชื่อไทยแท้ๆจังว่าเป็นยังไง แต่สุดท้ายนี้ทุกคนก็คือคนไทย
    ไม่ว่าจะเชื่อไหนท้ายที่สุดก็คือคนไทย รักแผนดินไทยไม่แพ้กัน
     
  15. ดอกอ้อขาว

    ดอกอ้อขาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    178
    ค่าพลัง:
    +3,619
    ไปอยู่เขมรเถอะครับจะได้สบายใจ

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=qyh2MDMwaS0]เพลง เวรไอ้หัวดอ Job 2 DO - YouTube[/ame]



    บันทึกประวัติศาสตร์ !! กับการเสียดินแดนของไทย 14 ครั้งในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์

    "เสียครั้งแรกเกาะหมากจากแผนผัง
    เขาเปลี่ยนเป็นปีนังจำได้ไหม
    นั่นแหละจากขวานทองเล่มของไทย
    หนึ่งร้อยกว่าตารางไมล์หลักฐานมี "

    ครั้งที่ 1 เกาะหมาก(ปีนัง) เสียให้กับประเทศอังกฤษ เมื่อ 11 สิงหาคม 2329 พื้นที่ 375 ตร.กม. ในสมัย ร.1 เกิดจาก พระยาไทรบุรี ให้อังกฤษเช่าเกาะหมากเพื่อหวังจะขอให้อังกฤษคุ้มครองเกาะหมากจากกองทัพ ของกรมพระราชวังบวรสถานมงคล ซึ่งยกทัพมาจัดระเบียบหัวเมืองปักษ์ใต้ ในที่สุดอังกฤษก็ยึดเอาไป



    "ครั้งที่สองเสียซ้ำยังจำได้
    เสียมะริดและทวายตะนาวศรี
    ปีสองพันสามร้อยยี่สิบหกโชคไม่ดี
    เสียเนื้อที่กว่าสองหมื่นตารางไมล์ "

    [​IMG]

    ครั้งที่ 2 มะริด ทวาย ตะนาวศรี ให้กับพม่า เมื่อ 16 มกราคม 2336 พื้นที่ 55,000 ตร.กม. ในสมัย ร.1 แต่เดิมเป็นของไทยครั้งสมัยสุโขทัย มังสัจจา เจ้าเมืองทวายเป็นไส้ศึกให้พม่า รัชกาลที่ 1 ไม่สามารถตีคืนจากพม่าได้ ประกอบกับชาวเมืองทวายไม่พอใจกองทัพไทยที่เข้ายึดครอง จึงตกเป็นของพม่าไป



    "ครั้งที่สามบันทายมาศถูกตัดเฉือน
    แล้วเปลี่ยนเป็นฮาเตียนตั้งชื่อใหม่
    ปีสองพันสามร้อยหกสิบสามแสนช้ำใจ
    เสียเนื้อที่เท่าไรไม่ปรากฎในบทความ "

    [​IMG]

    ครั้งที่ 3 บันทายมาศ(ฮาเตียน) ให้กับฝรั่งเศส เมื่อ พ.ศ.2336 ในสมัยรัชกาลที่ 2



    "ครั้งที่สี่เจ็บแค้นเสียแสนหวี
    กินเนื้อที่ถึงเชียงตุงเหนือกรุงสยาม
    ตั้งหกหมื่นตารางกิโลโถมันทำ
    ใครสร้างกรรมเดี๋ยวนี้เห็นดีกัน"
    [​IMG]
    ครั้งที่ 4 แสนหวี เมืองพง เชียงตุง ให้กับพม่าเมื่อ พ.ศ.2368 พื้นที่ 62,000 ตร.กม.ในสมัย รัชกาลที่ 3 แต่เดิมเราได้ดินแดนนี้มาในสมัยรัชกาลที่ 1 โดยพระเจ้ากาวิละ ยกทัพไปตีมาขึ้นอยู่กับไทยได้ 20 ปี เนื่องจากเป็นดินแดนที่อยู่ห่างไกลประกอบกับเกิดกบฏเจ้าอนุเวียงจันทร์และ เกิดกบฏทางหัวเมืองปักษ์ใต้(กลันตัน ไทรบุรี) ไทยจึงห่วงหน้าพะวงหลัง ไม่มีกำลังใจจะยึดครอง หลังจากนั้นพม่าเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ เชียงตุงก็เป็นของอังกฤษโดยสิ้นเชิง




    "ครั้งที่ห้ามาเสียรัฐเปรัค
    เขาหาญหักผลักล้มเชือดคมขวาน
    ปีสองพันสามร้อยหกสิบเก้าแสนร้าวราน
    ต่างหยิบขวานขึ้นถือกู้ชื่อไทย "

    [​IMG]
    ครั้งที่ 5 รัฐเปรัค ให้กับอังกฤษเมื่อ พ.ศ.2369 ในสมัยรัชกาลที่ 3 เป็นการสูญเสียที่ทำร้ายจิตใจ คนไทยทั้งชาติ เพราะเป็นการสูญที่ห่างจากครั้งก่อนไม่ถึง 1 ปี



    "ครั้งที่หกอกตรมเดินก้มหน้า
    เสียสิบสองพันนาน้ำตาไหล
    ตั้งเก้าหมื่นกิโลโถทำได้
    แทบขาดใจต่อสู้ศัตรูมา"

    [​IMG]

    ครั้งที่ 6 สิบสองปันนา ให้กับจีนเมื่อ 1 พฤษภาคม 2397 พื้นที่ 90,000 ตร.กม. ในสมัยรัชกาลที่ 4 เป็นดินแดนในยูนานตอนใต้ของประเทศจีน เมืองเชียงรุ้งเป็นเมืองหลวงของไทยสมัยรัชกาลที่ 1 ต่อมาเกิดการแย่งชิงราชสมบัติกันเอง แสนหวีฟ้า มหาอุปราชหนีลงมาพึ่งพระบรมโพธิสมภารในสมัยรัชกาลที่ 3 ได้เกณฑ์ทัพเชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน ไปตีเมืองเชียงตุง (ต้องตีเมืองเชียงตุงให้ได้ก่อนจึงจะได้เชียงรุ้ง) แต่ไม่สำเร็จเพราะไม่พร้อมเพรียงกัน มาในสมัยรัชกาลที่ 4 ได้ให้กรมหลวงลวษาธิราชสนิท (ต้นตระกูลสนิทวงศ์) ยกทัพไปตีเชียงตุงเป็นครั้งที่ 2 แต่ไม่สำเร็จจึงต้องเสียให้จีนไป


    "ครั้งที่เจ็ดเสียดินแดนแคว้นเขมร
    เกิดพิเรนเพราะฝรั่งกำลังบ้า
    เที่ยวออกล่าเมืองขึ้นชื่นอุรา
    เสียอีกหนึ่งแสนกว่าตารางกิโล"

    [​IMG]

    ครั้งที่ 7 เขมรและเกาะ 6 เกาะ ให้กับฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2410 พื้นที่ 124,000 ตร.กม. ในสมัย ร.4 ฝรั่งเศส บังคับให้เขมรทำสัญญารับความคุ้มครองจากฝรั่งเศส หลังจากนั้นได้ดำเนินการทางการฑูตกับไทย ขอให้มีการปักปันเขตแดนเขมรกับญวน แต่กลับตกลงกันไม่ได้ ขณะนั้นพระปิ่นเกล้า แม่ทัพเรือสวรรคต ไทยจึงอ่อนแอ ฝรั่งเศสจึงฉวยโอกาสบังคับทำสัญญารับรองความอารักขาจากฝรั่งเศสต่อเขมร ในช่วงนี้เอง อังกฤษกับฝรั่งเศสได้ทำสัญญากันเมื่อ 15 มกราคม 2438 โดยตกลงกันให้ไทยเป็นรัฐกันชน ประกอบกับ การดำเนินนโยบายของ ร.5 ที่ไปประพาสยุโรปถึง 2 ครั้ง ทำให้อังกฤษ เยอรมัน รัสเซียเห็นใจไทย ฝรังเศสจึงยึดดินแดนไป


    "ครั้งที่แปดเสียแคว้นดินแดนใหม่
    ชื่อสิบสองจุไทยก็ใหญ่โข
    เป็นเนื้อที่อีกแปดหมื่นตารางกิโล
    ต้องร้องโฮใจระเ่ยเพราะเสียดาย"
    [​IMG]

    ครั้งที่ 8 สิบสองจุไทย (เมืองไล เมืองเชียงค้อ) ให้กับฝรั่งเศส เมื่อ 22 ธันวาคม 2431 พื้นที่ 87,000 ตร.กม. ในสมัย รัชกาลที่ 5 พวกฮ่อ ก่อกบฏ ไทยจัดกำลังไปปราบ 2 กองทัพ แต่ปฏิบัติเป็นอิสระแก่กัน อีกทั้งแม่ทัพทั้งสองไม่ถูกกัน จึงเป็นโอกาสให้ฝรั่งเศสส่งทหารเข้าเมืองไล โดยอ้างว่า มาช่วยไทยปราบฮ่อ แต่หลังจากปราบได้แล้ว ก็ไม่ยอมยกทัพกลับ อีกทั้งไทยก็ไม่ได้จัดกำลังไว้ยึดครองอีกด้วย จนในที่สุด ไทยกับฝรั่งเศสได้ทำสัญญากันที่เมืองแถง(เบียนฟู) ยอมให้ฝรั่งเศสรักษาเมืองไลและเมืองเชียงค้อ




    "ครั้งที่เก้าเศร้าแสนแค้นไม่สิ้น
    เสียลุ่มน้ำสาละวินด้านฝั่งซ้าย
    สิบสามหัวเมืองต้องจำเหมาให้เขาไป
    ใครที่ทำช้ำใจไทยต้องจำ "
    [​IMG]

    ครั้งที่ 9 ฝั่งซ้ายแม่น้ำสาละวิน ให้กับประเทศอังกฤษในสมัย รัชกาลที่ 5 ในห้วงปี 2433 เป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ทางด้านรัฐศาสตร์ เศรษฐกิจและทรัพยากร อันอุดมด้วยดินแดนผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ยิ่ง




    "ครั้งที่สิบเลียบลำแม่น้ำโขง
    ถูกเขาโกงฝั่งซ้ายเพราะไทยถลำ"

    [​IMG]

    ครั้งที่ 10 ฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง (อาณาจักรล้านช้าง หรือประเทศลาว) ให้กับฝรั่งเศส เมื่อ 3 ตุลาคม 2436 พื้นที่ 143,000 ตร.กม. ในสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นของไทยมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนเรศวร ต้องเสียให้กับฝรั่งเศสตามสัญญาไทยกับฝรั่งเศส เท่านั้นยังไม่พอ ฝรั่งเศสเรียกเงินจากไทย 1 ล้านบาท เป็นค่าเสียหายที่ต้องรบกับไทย เสียค่าประกันว่าไทยต้องปฏิบัติตามสัญญาอีก 3 ล้านบาท และยังไม่พอฝรั่งเศสได้ส่งทหารมายึดเมืองจันทบุรีและตราด ไว้ถึง 15 ปี นับว่าเป็นความเจ็บปวดที่สุดของไทยถึงขนาดที่เจ้านายฝ่ายในต้องขายเครื่อง แต่งกายเพื่อนำเงินมาถวาย ร.5 เป็นค่าปรับ ร.5 ต้องนำถุงแดง(เงินพระคลังข้างที่) ออกมาใช้



    "ครั้งที่สิบเอ็ดเสียฝั่งขวานั่งหน้าดำ
    มันเจ็บช้ำฝังจำอยู่กลางใจ"

    [​IMG]

    ครั้งที่ 11 ฝั่งขวาแม่น้ำโขง(ตรงข้ามเมืองหลวงพระบาง ดินแดนในทิศตะวันออกของน่าน,จำปาศักดิ์ ,มโนไพร)ให้กับฝรั่งเศสเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2446 พื้นที่ 25,500 ตร.กม. ในสมัย.ร.5ไทยทำสัญญากับฝรั่งเศสเพื่อขอให้ฝรั่งเศสคืนจันทบุรีให้ไทย แต่ฝรั่งเศสถอนไปแต่จันทบุรีแล้วไปยึดเมืองตราดแทนอีก 5 ปี แล้วเมื่อฝรั่งเศสได้หลวงพระบางแล้วยังลุกล้ำบ้านนาดี,ด่านซ้าย จ.เลย และยังได้เอาศิลาจารึกที่พระเจดีย์ศรีสองรักษ์ไปด้วย




    "ครั้งที่สิบสองใจรันทดเพราะหมดท่า
    เสียมณฑลบูรพาอีกจนได้
    เขามาพรากจากแหลมทองถิ่นของไทย
    อีกสองหมื่นตารางไมล์โดยประมาณ "

    [​IMG]

    ครั้งที่ 12 มลฑลบูรพา(พระตะบอง,เสียมราฐ,ศรีโสภณ) ให้กับฝรั่งเศส เมื่อ 23 2449 พื้นที่ 51,000 ตร.กม. ในสมัย ร.5 ไทยได้ทำสัญญากับฝรังเศส เพื่อแลกกับ ตราด,เกาะกง,ด่านซ้าย ตลอดจนอำนาจศาลไทยที่จะบังคับต่อคนในบังคับของฝรั่งเศสในประเทศไทย เพราะขณะนั้นมีคนจีนญวนไปพึ่งธงฝรั่งเศสกันมากเพื่อสิทธิการค้าขาย ฝรั่งเศสก็เพียงแต่ถอนทหารออกจากตราดเมื่อ 6 กรกฎาคม 2450 กับด่านซ้าย คงเหลือแต่เกาะกงไม่คืนให้ไทย





    "ครั้งที่สิบสามเสียตรังกานูไทรบุรี
    ในแผนที่มองเห็นเป็นหลักฐาน
    ไปถึงปะลิสติดรัฐกลันตัน
    อีกสามหมื่นโดยประมาณตารางไมล์"

    [​IMG]

    ครั้งที่ 13 ในสมัยรัชกาลที่ เสียหัวเมืองมลายู
    (รัฐกลันตัน ตรังกานู ปะลิส และไทรบุรี) เมื่อ พ.ศ. 2451 ให้กับอังกฤษ
    จำนวนพื้นที่ 80,000 ตารางกิโลเมตร
    เพื่อแลกกับอังกฤษยกเลิกสิทธิภาพนอกอาณาเขต
    และให้ไทยกู้เงินเพื่อสร้างทางรถไฟสายใต้ ปัจจุบันเป็นของมาเลเซีย




    "ครั้งที่สิบสี่เสียเขาพระวิหาร "ยังไม่เสีย" และจะไม่เสีย

    คนไทยเป็นคนดี มีจิตใจดี มีเมตตา ใจบุญใจกุศล แต่ยังไม่สามัคคี




    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=pjW3-Jq2L3I]บางระจัน เเอ๊ด คาราบาว Bangrajun Carabao - YouTube[/ame]


    http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1288995
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 เมษายน 2013
  16. numphol aryupha

    numphol aryupha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    467
    ค่าพลัง:
    +1,157
    ขอบคุณๆดอกอ้อขาวมากๆๆ ที่มาให้ข้อมูลพวกที่มืด บอดใบ้ ใจเขมร
     
  17. R-LOM-:D

    R-LOM-:D เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +109
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=dQcriVBdacA&sns=fb]Gangnam Style - (ฮาโคตรเศร้า ชายแดนสิตาย) - YouTube[/ame]
     
  18. numphol aryupha

    numphol aryupha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    467
    ค่าพลัง:
    +1,157
    ขายหหน้าไปทั่วโลก รมต.ตปท.ไทยโร่เข้าไปกราบฮอนัมฮง ทั้งๆมันกล่าวหาว่าไทยรุกรานมันและบอกว่าปราสาทพังเพราะทหารไทยยิงปืนใส่ อนาจจริงๆ ปึ้งมัวแต่อมขี้ฟัน ไม่ตอบโต้สักคำ ไม่เกิดมาบนแผ่นดินไทยเลย เสียศักศรีคนไทย
     
  19. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,672
    ค่าพลัง:
    +51,946
    *** พยากรณ์ ****

    ถ้าคนไทยยังแตกแยก ไม่รวมเป็นหนึ่งเดียว
    รบทิศไหน ก็จะแพ้ทิศนั้น น่าเศร้าใจ ไม่สามัคคี

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  20. zixma99

    zixma99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    300
    ค่าพลัง:
    +1,175
    คนไทยโง่ขนาดนั้นเลยหรือท่าน เลยต้องพยากรออกมา ... ผมว่าคนไทยเค้ามีสติปัญญาดีคิดออกและรู้น่ะท่าน
     

แชร์หน้านี้

Loading...