:"เครื่องปรุงขนมไทย":

ในห้อง 'เมนูอาหารและวิธีการทำอาหาร' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 24 มีนาคม 2006.

  1. NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,492
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="98%" align=center border=0><TBODY><TR><TD>
    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]เครื่องปรุงขนมไทย

    [/FONT]​
    </TD></TR><TR><TD>[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]<TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD style="WIDTH: 25%" width="25%">ใบเตย </TD><TD>ให้สีเขียว และกลิ่นหอม โดยโขลกให้ละเอียดคั้นน้ำแล้วกรองเอากากออก</TD></TR><TR><TD vAlign=top>ดอกมะลิ</TD><TD>ใช้ลอยน้ำ โดยล้างดอกมะลิให้สะอาดแล้วลอยน้ำไว้ในตอนเย็น พอรุ่งเช้าจึงนำดอกมะลิออก จะทำให้น้ำหอมหรือจะอบขนมทั้งดอกโดยใส่ในขนมแล้วปิดฝาไว้ก็ได้</TD></TR><TR><TD>ดอกกุหลาบ</TD><TD>แกะกลีบ แล้วใส่ลงบนขนมปิดฝา</TD></TR><TR><TD>ดอกกระดังงา</TD><TD>ต้องลนไฟเสียก่อน แล้วฉีกกลีบละ 2-3 ชั้นใส่ในขนมปิดฝาไว้</TD></TR><TR><TD vAlign=top>ดอกอัญชัน</TD><TD>ใช้ดอกแช่ในน้ำร้อน จะได้สีน้ำเงินอมฟ้า ถ้าบีบมะนาวลงไปจะเปลี่ยนเป็นสีม่วง</TD></TR><TR><TD vAlign=top>เทียนอบ</TD><TD>จุดไฟให้เทียนลุกแล้วดับให้มีควันมากๆ ใส่ลงในขนม ปิดฝาภาชนะให้ควันอยู่ในนั้น</TD></TR><TR><TD vAlign=top>น้ำปูนใส</TD><TD>ทำจากปูนแดงที่รับประทานกับหมากประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำสะอาด
    ประมาณ 4-5 ถ้วย ตั้งให้ตกตะกอนมีคุณสมบัติช่วยให้ส่วนผสมกรอบขึ้นและทำให้เนื้อผลไม้ที่จะเชื่อมเนื้อเหนียวขึ้น
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top>งาคั่ว</TD><TD>ก่อนคั่วควรเลือกเอาสิ่งที่ไม่ต้องการออกแล้วนำไปล้างในกระชอน ผึ่งให้สะเด็ดน้ำ เอาใส่กระทะตั้งไฟอ่อนๆ ตลอดเวลาจนงาเป็นสีเหลืองสวยเทใส่ถาด ผึ่งให้เย็นเก็บใส่ภาชนะที่มีฝาปิด</TD></TR><TR><TD vAlign=top>มะพร้าว</TD><TD>ใช้มะพร้าวแก่จัด ขูดแล้วคั้นให้ได้เป็นกะทิ มี 2 ลักษณะคือ มะพร้าวขูด
    ดำจะเป็นมะพร้าวที่ขูดทั้งผิวเปลือกดำส่วนมะพร้าวขูดขาวต้องปอกเปลือก
    ผิวดำออกให้หมดจึงนำไปขูดเมื่อคั้นเป็นกะทิจะได้กะทิขาวสวย
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top>ทองคำเปลว</TD><TD>เป็นชนิดเดียวกับที่ใช้ปิดทองพระพุทธรูปใช้เพื่อให้เกิดความสวยงามมีค่าขึ้น
    นิยมตัดเป็นชิ้นเล็กๆ ปะหน้าขนมเช่น จ่ามงกุฎ ทองเอก
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top>สาคู</TD><TD>มี 2 ขนาด คือเม็ดเล็กและเม็ดใหญ่ใช้ประกอบอาหารแตกต่างกันออกไปสาคูเม็ดเล็กใช้ทำสาคูไส้หมู สาคูเปียก หมกมณี ส่วนสาคูเม็ดใหญ่ใช้ทำสามแช่ สาคูบัวลอย</TD></TR><TR><TD>น้ำตาลปีก</TD><TD>หรือน้ำตาลเมืองเพชร ใช้ทำน้ำกะทิลอดช่องขนมหม้อแกง</TD></TR><TR><TD>น้ำตาลทรายขาว</TD><TD>นิยมทำน้ำเชื่อม ที่ต้องการความใสเช่น น้ำเชื่อม ไข่แมงดา ทองหยิบ</TD></TR><TR><TD vAlign=top>ข้าวเม่า</TD><TD>เป็นข้าวที่เปลือกนอกเริ่มเหลือง ยังไม่แข็งพอที่จะเป็นข้าวสาร จึงเก็บเกี่ยว
    เมล็ดมาคั่วและพรมน้ำเกลือ เมื่อเมล็ดข้าวสุกดีแล้ว ใส่ลงในครกตำข้าวโขลก
    จนเมล็ดข้าวแบบทั่วกัน

    </TD></TR><TR><TD vAlign=top>ข้าวเม่าราง</TD><TD>เมื่อโขลกข้าวเม่าจนเมล็ดแบบดีแล้ว นำใส่กระทะใหญ่ ๆ คั่วให้พองกรอบอีก
    ทีหนึ่งแล้วฝัดแกลบและรำออก
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top>ข้าวกล้อง</TD><TD>คือข้าวที่ขัดสีไม่มาก สีไม่ขาว มีวิตามินและเกลือแร่มากเป็นข้าวเจ้า</TD></TR><TR><TD vAlign=top>แป้งข้าวเจ้า</TD><TD>เมื่อทำให้สุกโดยวิธีกวน เมื่อเย็นแล้วจะแข็ง วิธีทำให้นิ่มคือใส่น้ำมันพืชลงนิด
    หน่อยในส่วนผสมแป้งแล้วจึงกวน
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top>แป้งเท้ายายม่อม</TD><TD> ใช้แทนแป้งมันได้ให้คุณสมบัติเช่นเดียวกัน คือ เหนียวใสทำให้ส่วนผสมขึ้นเงา</TD></TR><TR><TD vAlign=top>แป้งถั่ว</TD><TD>มีคุณสมบัติทำให้ขนมแข็งอยู่ตัวร่วนไม่ติดภาชนะ จึงควรผสมกับแป้งข้าวเจ้า</TD></TR><TR><TD vAlign=top>แป้งข้าวโพด</TD><TD> คุณสมบัติช่วยให้อาหารข้นเหนียวนุ่มแต่ไม่เหนียวเท่าแป้งมัน ถ้าใช้แป้งผสม
    น้ำต้องค่อย ๆ เทน้ำใส่แป้งทีละน้อยแป้งจะไม่เป็นเม็ด
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top>ข้ามเหนียวดำ,ขาว</TD><TD>คุณสมบัติคล้ายกัน แต่ข้าวเหนียวดำมีความเหนียวน้อยกว่าและเวลาทำขนมจะ
    สีดำ ถ้าเป็นแป้งข้าวเหนียวดำต้องผสมข้าวเหนียวขาว ขนมจะนุ่มและสีไม่ดำ
    เกินไป
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top>วุ้นชนิดเส้น</TD><TD>มีลักษณะเหมือนเชือกฟางขาวใสเส้นยาว เมื่อจะใช้ล้างด้วยน้ำสะอาดแล้วนำไป
    ต้มในน้ำ แล้วจึงเติมน้ำตาล
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    [/FONT]</TD></TR></TBODY></TABLE>ที่มา โหระพา.คอม
     

แชร์หน้านี้