เฉลยแล้วพระเจ้าที่แท้จริงของผมคืออะไร!!!

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Hikikomori, 31 ตุลาคม 2008.

  1. Hikikomori เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2008
    โพสต์:
    508
    ค่าพลัง:
    +326
    อยากรู้ว่าผิดรึถูกประการใด โปรดชี้แนะด้วย

    ก็คือ ลม ไงล่ะ ทุกสิ่งทุกอย่างต้องมีตัวนำพาให้พบกัน เหมือนเสียงกระทบหูนั่นแหละก็ต้องใช้ลมเป็นตัวกลางแหละ อย่าได้ดูถูกลมเชียวนะ ไม่มีลมเป็นตัวกลาง ก็คงไม่เกิดเรื่องราวต่างๆทั้งหลายแหล่มากมายยังงี้หลอก ลมจะประกอบด้วยอากาศ ธาตุต่างๆ มากมาย รวมถึงคลื่น รังสีต่างๆ ด้วยนับไม่ถ้วน

    การที่ผมได้ยินเสียงประหลาด (แต่เนียนมาก) อาจเกิดจากความผิดปรกติของคลื่นในบริเวณนั้นก็ว่าได้ รึอาจเป็นได้ว่า ลม มีชีวิตรึเปล่าก็กำลังสงสัย แต่ผมพิสูจน์แล้วว่าทำอะไรเราไม่ได้มาก นอกจากสัมผัสแปลกๆ ที่เคยโดนมา เหมือนจงใจเลยรึคิดไปเองเปล่าหว่า ลืมไปในลมก็มีพวก แบคทีเรีย จุลินทรีย์ด้วยนี่หว่า ก็ต้องมีชีวิตปะปนมาเล็กน้อยมั่งแหละ

    สรุป ลมอาจเป็นสัมผัสได้ถึงจิต วิญญาณ ขนิดหนึ่งเลยทีเดียว แต่ไม่ต้องกลัว เพราะทำอะไรเราไม่ได้มากนอกจากหลอกให้เราตกใจเล่นละมั้ง สำหรับคนเจออะไรแปลกๆ เกี่ยวกับเสียง รึสัมผัสอันแผ่วเบา บางทีพระเจ้าอาจต้องการเตือนอะไรท่านก็ได้ มิน่าคนเราตอนอยู่คนเดียวถึงได้สัมผัสแปลกๆกันเยอะ ท่านเตือนให้หาเพื่อนมั่งเถอะอย่าอยู่คนเดียวมาก หลอนเปล่าๆ

    พระเจ้ามีหลายความหมายมากเลยอันนี้ก็เป็นตัวตนหนึ่งของท่านครับ เท่าที่ตอนนี้พิสูจน์ สัมผัสได้ครับ

    อ้างอิงจากกระทู้นี้ครับ
    http://palungjit.org/showthread.php?t=156265
     
  2. k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    อยากบอกว่า คุณลองใช้สติ หยุดคิด ดูสิ

    คำตอบที่คุณต้องการ อาจโผล่มาให้คุณรู้ความจริงก็ได้

    ตราบใดที่คุณยังคิดเพื่อหาคำตอบ คำตอบที่คุณได้นั้น

    มักจะมาจากจิตคิด ที่ปรุงแต่งเรื่องราว ตามกิเลสตัณหาที่อยู่ในใจคุณเอง
     
  3. หล่อลากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,201
    ค่าพลัง:
    +235
    เฮ้อ ... เจาะเวลาซ่อนหา กันอีกแล้วรึ?
     
  4. k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    เป็นวังวนของ จิตหลอกวิญญาณหลอน
     
  5. บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    ดีครับ ชอบมากเลยที่คุณบอกว่า ให้คบเพื่อนไว้มั้ง ไม่งั้นหลอน

    ที่เห็นว่า มันหลอน จริงๆมันไม่ได้มาหลอกอะไรเราเท่าไหร่ หากเราค้นคว้าไปเรื่อยๆ
    มันก็พบความรู้ ความจริงได้บ้าง พอเจอความจริงได้บ้าง อาการหลอนก็ทุเลาลง
    การรู้สึกว่าโดนผูดมัดด้วยความคิด(หลอน) มันจางลง เรียกว่า มันคลายกำหนัด
    เพราะ รู้ว่าเราคลายกำหนัด อยากรู้ในเรื่องนั้นลง จึงเห็นสภาวะที่หลุดพ้น เบากาย
    เบาใจ และเพราะว่ารู้ว่าหลุดพ้นแล้วจึงค่อยฟันธง Confirm !! ว่ามันจบสิ้น เรา
    ไม่ต้องไปพะวงกับการรู้ หรือ ไม่รู้เรื่องนั้นๆอีก ทั้งหมดใช้ใจเข้ารับรุ้ความรู้สึก

    ที่นี้ เราอยู่คนเดียวมันก็มีความคิดของเรามาหลอน จริงไหม

    หากเราไป คบเอาเพื่อนที่มันโดนจิตตัวเองหลอนหละ ทำไง มันก็พาเราหลอน
    ไปด้วยนะซี เป็นไปได้ไหม

    ดังนั้น การคบเพื่อน ก็ต้องดูดีๆ เอาที่มันหลอนไม่มาก เพราะหลอนนี้มันมีกัน
    ทุกคน วันนี้คุณประกาศว่าเป็นพระเจ้า พรุ่งนี้ประกาศว่าไม่ใช่แต่รู้จักพระเจ้า (เพราะ
    เรากันตัวเองออกแล้ว แล้วก็ยกให้สิ่งอื่นไป เช่น ลม ) แต่วันดีคืนดีเพื่อนที่เราคบ
    มันก็ประกาศออกมาเหมือนที่เราทำ ซึ่งคบๆไป มันก็ต้องเจอเข้าสักราย ที่นี้
    เราจะเชื่อเขาไหมว่าเขาเป็น หรือ เขาหลอนเหมือนที่เราเคยหลอนมาแล้ว

    เรื่องที่จะไปบอกให้เพื่อนเชื่อว่า เห้ย พระเจ้าไม่มีหรอก อั๊วะผ่านมาแล้วความคิด
    แบบนี้ มันก็ยากอยู่ที่จะทำให้เพื่อนเชื่อเรา ก็เหมือนเราได้รับความรู้มาแก้ เรา
    ก็ยังแฉลบซ้าย แฉลบขวาไปได้เรื่อยๆ กว่าจะหลุด หากเราคอยอยู่ช่วยแก้พวก
    เขาเราก็อดศึกษาเรื่องพระเจ้าในทางของเรา

    ดังนั้น ควรเลือกคบคนที่เป็นบัณฑิตไว้จะดีมาก นอกจากเราไม่ต้องไปยุ่ง คอยแก้
    เรื่องหลอนของมันแล้ว เรายังได้รู้ แอบทำความเข้าใจในเรื่องพระเจ้าที่เรายังสงสัย
    ไม่หายได้ด้วย เพราะบัณฑิตนี้ มันต้องมีคำอะไรแปลกๆ หรือ มีประสบการณ์อย่าง
    เรามาก่อนแน่ๆ หากเขาไม่มีประสบการณ์ ก็จะคุยไม่รู้เรื่อง เพ้อเจ้อ เป็นร่องลอย
    ให้พอได้ระแคะรคายว่าไม่มี

    สู้ต่อไป ทาเคชิ !!!!

    เอ้ย เฮกิโกะโมริ !!!
     
  6. Hikikomori เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2008
    โพสต์:
    508
    ค่าพลัง:
    +326
    ไหนๆก็เฉลยไปแล้วก็เอาให้หมด ถ้าพระเจ้าตัวจริงเป็นคนไม่ดีป่านนี้คงไม่มีโลกอยู่แล้วละมั้ง

    คนสร้างใหญ่สุดก็ เอกภพ ไงครับ (ไม่ได้มีหน้าที่สร้างนะ แต่เป็นแหล่งรวมวัตุดิบในการสร้าง ก็มีส่วนนิดๆ) แต่ผ่านตัวกลางคือ ลมสุริยะละมั้ง (พระเจ้าที่แท้จริงของผมเอง น่ากลัวมั้ยละ) คอยทำหน้าที่ปั้นดวงดาวต่างๆขึ้นมาแหละ จนกำเนิดโลก (คาดว่าโลกอาจจะมีชีวิตเหมือนกันนะเนี่ย ไม่งั้นคงไม่มีวัฎจักรร้อนเหมือนคนป่วย หนาวเป็นไข้ ยังงี้หลอก)

    ปล. และคาดอีกว่ามีสัญญากันด้วยนะเรื่องระหว่างดวงดาวเนี่ย คงบอกไม่ได้นิยายชัดๆ
     
  7. Hikikomori เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2008
    โพสต์:
    508
    ค่าพลัง:
    +326
    ดวงดาวก็ประกอบ ด้วยดาวฤกษ์มีแสงในตัว กับดาวเคราะห์ธรรมดา เกิดจากองค์ประกอบวัตถุ ธาตุในตัวมันนั่นแหละ และดาวกระจิ๊บกระจ๊อยทั้งหลายแหล่ ผมว่าลมต้องเกิดก่อนนะไม่งั้นใครจะปั้นเป็นดวงดาวได้ละ แต่เรื่องการโคจรของดวงดาวกับอะไรอีกเยอะแยะนี่สิผมว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับสัญญารึเปล่าไม่ทราบ
    พูดไปก็บอกแล้วนิยายชัดๆ
     
  8. เทพอัสนี สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +2
    ในอวกาศ มีลมไหม
    ดิน น้ำ ไฟ ลม
    สิ่งใดเป็นธาตุหลัก
    อะไรสำคัญกว่าอะไร
    หรือสำคัญพอๆ กัน
     
  9. Hikikomori เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2008
    โพสต์:
    508
    ค่าพลัง:
    +326
    ตามที่ผมคิดนะ ทุกอันน่าจะสำคัญหมดนะ

    ตัวมนุษย์เราก็น่าจะเกิดจากธาตุทั้ง 4 แหละ แต่ต้องแยกย่อยเอาธาตุที่เป็นองค์ประกอบหลักมาเท่านั้นพอในการประกอบเป็นชีวิตหนึ่งได้เนี่ย

    ผมอยากจะหาต้นตอจริงๆ มากกว่าว่าทำไมถึงเกิดเป็นสิ่งมีชีวิตได้ขนาดนี้ ทำไมไดโนเสร์ถึงสูญพันธ์มากกว่า เรื่องลึกลับต่างๆอีก ค้นไปค้นมาก็ไม่พ้นคำว่าพระเจ้านี่แหละ ขอเรียกท่านแทนนะครับ พูดชื่อนี้มากแล้วไม่ค่อยดีครับมีเรื่องกับท่านอยู่แต่ก่อน
     
  10. Por.f.R.P.Fenyman สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +17
    พระเจ้าของผมคือ "จักรวาลคราบ และพระองค์ทรงเป็นนักพนันชั้นเซียนจริงๆนอกจากที่จะทรงวุ่นอยู่กลับเรขาคณิตตลอดเวลาแล้ว"
     
  11. Banana''บงบง สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    114
    ค่าพลัง:
    +1
    มนุษย์เกิดมาเพื่อสงคราม ความรัก และการเสียสละจริงๆ บง ว่า อัน นี้ เข้า ท่าสุด แย้ว ริริ คิ คิ
     
  12. Banana''บงบง สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    114
    ค่าพลัง:
    +1
    ลม เกิด จาก รัย ละ
     
  13. Por.f.R.P.Fenyman สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +17
    ไอ้ที่บอกว่าทุกสิ่งประกอบจากธาตุทั้งสี่ไม่ถูกต้องคราบเพราะเรารู้กันมาหลายร้อยปีแล้วคราบว่า

    เหตุผลคือ 1.น้ำเราทราบมาแล้วว่าแท้ที่จริงเป็นเพียงสารประกอบของออกซิเจนอะตอมกับไฮโดเจนอะตอม


    2.ส่วนไฟอันที่จริงก็เป็นเพียงปฏิกริยาทางเคมีชนิดหนึ่ง


    3. ลมก็คือกลุ่มของอะตอมของธาตุต่างที่เคลื่อนที่ไปมาเนื่องจากมันมีพลังงานมาพอที่จะหลุดออกไปเป็นอะตอมอิสระได้

    4.ดินอันนี้ก็รู้กันนะคราบว่ามานคือซากพื่ชซากสัตว์ที่เน่าเปลื่อยแล้ว จะเรียกว่าก็คือกลุ่มอะตอมของธาตุต่างมารวมตัวกันนะแหละคราบ

    ถ้าเอาจริงๆแล้วก็คือทุกสรรพสิ่งประกอบด้วยอะตอมที่แบ่งย่อยได้อีกคราบ 555แต่ย่อยไม่ได้ถึงขนาดความยาวพลังค์นะคราบเพราะมันเป็นขีดจำกัดของความยาวที่เป็นไปได้ ถ้าเล็กกว่านี้มันจะมีพลังงานมากพอที่จะทำให้ตัวเองกลายเป็นหลุมดำและตัดตัวออกจากกาลอวกาศไปแลย555(แถมนะคราบปัจจุบันเขาคิดกันว่าสิ่งที่เล็กที่สุดที่เป็นองค์ประกอบของทุกสรรพสิ่งคือ สตริง)
     
  14. Hikikomori เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2008
    โพสต์:
    508
    ค่าพลัง:
    +326
    จุดเริ่มต้นจากบิ๊กแบ๊งเลยดีกว่ามั้ง ก่อนหน้านั้นข้าน้อยเดาไม่ถูกแล้ว ข้อมูลก็ไม่มีด้วย

    จากนั้นก็เป็นจุดเริ่มต้นของทุกสิ่งทุกอย่าง โดยเริ่มจากการหยุดนิ่ง จนกลุ่มธาตุต่างๆ และความมืดมิดในจักรวาลได้ทำสัญญากันไว้ละมั้งว่ามันชักน่าเบื่อจึงให้เกิดคำว่าเวลาขึ้นมา
    จนทำให้เกิดการไหลของกระแสต่างๆที่เรียกว่าลมละมั้ง จนก่อตัวเป็นดวงดาวขึ้น จนอุบัติขึ้นเป็นโลกในที่สุด แล้วก็ต่อด้วยสัญญาอะไรอีกเพียบ

    สัญญาฉบับแรกของผมก็คือเวลาคร้าบ ตราบใดที่ยังมีเวลาอยู่ก็จงอย่าหยุดเดิน (หลังๆ ยิ่งเร่งยิ่งแย่)- -"

    ปล. เป็นไงนิยายผมใช้ได้มั้ยละ อยากรู้อะไรอีกจะตอบให้เท่าที่ได้
     
  15. Hikikomori เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2008
    โพสต์:
    508
    ค่าพลัง:
    +326
    สัญญาฉบับสอง คือ โลกไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นเลย จึงก่อให้เกิดสัตว์ประหลาดตัวแรกขึ้นไดโนเสาร์ ผมยังไงก็ไม่เชื่อว่าจะบังเอิญได้ขนาดนี้ O.๐

    ปล. เชื่อกันรึยังละว่าท่านต้องมีตัวตนจริงสิไม่งั้นเรื่องในอดีตมันคืออะไรกันเนี่ย
     
  16. Por.f.R.P.Fenyman สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +17
    5555อ้อมันเป็นนิยายนี่เองเจ๋งคราบชอบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
     
  17. GenerationXXX เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    561
    ค่าพลัง:
    +2,163
    ก็คงจะจริงตามนั้น แต่เอ ทั้งหมดเกิดจากผู้สังเกตที่เป็นเรา(มนุษย์เพียงอย่างเดียวนี่นะ) บางทีถ้าเราตายไป เหลือแต่จิตวิญญาณ โลกวิญญาณคงจะต่างจากที่เจอกับโลกมนุษย์ไปเยอะไหมน้า ที่แน่ๆ จะเอาความรู้ในโลกมนุษย์มาใช้ได้อีกไหมน้า น่าคิดเหมือนกันว่า แล้วโลกหน้าจะเอาทฤษฎีอะไรดี...
     
  18. ~[N]~[N]~ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +1
    ถ้าลม คือพระเจ้า แล้วใครเป็นคนสร้างลม คับ แล้วถ้ามีคนสร้างลม แล้วใครเป็นคนสร้างของคนสร้างลมละคับ
     
  19. Hikikomori เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2008
    โพสต์:
    508
    ค่าพลัง:
    +326
    คือต้องเข้าใจในข้อมูลเท่าที่มีอยู่ตอนนี้นะครับ ตั้งตั้งจุดกำเนิดของจักรวาลเลยก็ว่าได้ เรียกว่าบิ๊กแบ๊งมั้งครับ (ข้อมูลเท่าที่มี)
    ต่อมาถ้าเกิดธาตุต่างๆ น่าจะกระจัดกระจายในห้วงอวกาศแหละ จนทำให้เกิดกระแสที่เรียกว่าเวลา เวลาไม่หยุดนิ่งนะครับ (เป็นสัญญาระหว่างพระเจ้ารึเปล่า กำลังงง ว่าเกิดจากอะไร เดี๋ยวมาถามอีก) ทำให้เกิดกระแสน่าจะเกี่ยวข้องกับแรงดึงดูดระหว่างธาตุด้วยครับตามที่เรียนมาให้ทำให้ธาตุต่างๆ เกิดการรวมตัวกัน ทำให้เกิดลมเป็นสื่อกลางในการช่วยปั้นแต่งครับ (ผมจึงเรียกได้ว่า ลมก็คือพระเจ้าของแท้ ที่เราสามารถสัมผัสได้ตอนนี้อะครับ แต่ยังมีอะไรลึกลับอยู่อีกจึงอธิบายได้เท่านี้แหละครับ)

    *ผมว่ามันไม่น่าจะบังเอิญเกิดมาเป็นโลกที่ซับซ้อนอะไรยังงี้ได้หลอก ต้องมีอะไรที่ลึกลับกว่านี้แน่รอการพิสูจน์ต่อไป
     
  20. โบ๊ต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    387
    ค่าพลัง:
    +847
    นายเข้าถึงว่ะ เยี่ยมๆ
     

แชร์หน้านี้