เชิญชวนสั่งพิมพ์หนังสือพระไตรปิฎกสิ่งที่ชาวพุทธต้องรู้เล่มละ 27 บาท

ในห้อง 'ธรรมทาน - วิทยาทาน' ตั้งกระทู้โดย trilakbooks, 20 มิถุนายน 2017.

  1. trilakbooks เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,357
    ค่าพลัง:
    +414
    เชิญชวนสั่งพิมพ์หนังสือพระไตรปิฎกสิ่งที่ชาวพุทธต้องรู้
    ราคาโรงพิมพ์ธรรมทาน เล่มละ 27 บาท
    พร้อมแทรกข้อความ ของผู้จัดพิมพ์เอง 1 หน้า จัดส่งทั่วไทย

    สามารถคลิ๊กที่รูปภาพหนังสือเพื่ออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
    หรือ โทรสอบถามการจัดพิมพ์ และส่งทั่วไทย ที่ 086-461-8505, 087-696-7771
    LINE : trilak_uli



    พระไตรปิฎก : สิ่งที่ชาวพุทธต้องรู้

    โดย พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)

    ขนาด 14.5*21 cm

    ปกอ่อน

    จำนวน 80 หน้า

    กระดาษปอนด์ 80 แกรมอย่างดี

    เคลือบ ยูวี (เงา) อย่างหนา


    ราคาจัดพิมพ์เป็นธรรมบรรณาการ 27 บาท


    ......................................................................






    พระไตรปิฏก คือคัมภีร์ที่คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า



    หรือพระธรรมวินัย สถิตอยู่ คำว่าติปิฏก ในภาษาบาลีแปลว่า "ตะกร้า 3 ใบ



    (ที่บรรจุคำสอน)"หมายถึงคำสอนหมวดใหญ่ 3 หมวด



    เนื่องจากพระพุทธเจ้า ตรัสไว้อย่างชัดเจนแล้วว่า

    พระธรรมวินัย จะเป็นศาสดา

    แทนพระองค์ภายหลังที่พระองค์ล่วงลับไปแล้ว พระไตรปิฏกจึงเป็นที่ที่ชาวพุทธ

    ยังสามารถเข้าเฝ้าพระศาสดาของตน และศึกษาพระปริยัติศาสน์ แม้พระองค์จะ

    เสด็จปรินิพพานไปกว่า 2500 ปีแล้วก็ตาม





    การสังคยนาครั้งแรก ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการรวบรวมและจัดหมวดหมู่พุทธพจน์

    ได้จัดขึ้นภายหลังจากพุทธปรินิพพาน 3 เดือน เนื่องจากเป็นการดำเนินการโดย

    ที่ประชุมพระอรหันตเถระ 500 องค์การสังคยนาครั้งนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้น

    ของพระพุทธศาสนา



    ฝ่ายเถรวาท ดังที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน ในระหว่างการสังคยานา

    เมื่อมีการลงมติ ยอมรับคำสอนส่วนใดแล้ว ที่ประชุมก็จะสวดพร้อมๆกัน

    เนื้อหาที่สวดนี้จึงถือว่าเป็นการยอมรับให้ใช้เป็นแบบแผนที่จะต้องทรงจำ

    ชนิดคำต่อคำ เพื่อถ่ายทอดแก่ผู้อื่น และสืบทอดแก่อนุชน

    คำสอนดังที่สืบทอดกันมาด้วยปากเปล่าเช่นนี้



    ได้จารึกเป็นลายลักษณ์อักษรเป็นครั้งแรกในคราวสังคยนาครั้งที่ ๔ ที่จัดขึ้นในประเทศศรีลังกา

    เมื่อเราปี พ.ศ.460



    หลังจากเวลาผ่านไป 2500 ปี และภายหลังกายสังคยนาครั้งสำคัญ 6 ครั้ง

    พระไตรปิฎกบาลีของพระพุทธศานาฝ่ายเถรวาท เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่า

    เป็นบันทึกคำสอนของพระพุทธเจ้าเก่าแก่ที่สุด ดั้งเดิมที่สุดสมบูรณ์ที่สุด

    และถูกต้องแม่นยำที่สุด ที่ยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน



    สารบัญ ในหนังสือเล่มนี้

    บทนำ

    พระพุทธศาสนา ไม่ใช่ปรัชญา

    พระพุทธพจน์ แก่นแท้ของพระพุทธศาสนา

    พระไตรปิฎก ข้อความรู้เบื้องต้น



    ความสำคัญของพระไตรปิฎก

    พระไตรปิฎกกับพระรัตนตรัย

    พระไตรปิฎกกับพุทธบริษัท ๔

    พระไตรปิฎกกับพระสัทธรรม ๓

    พระไตรปิฎกกับ ไตรสิกขา



    สังคายนา กับการซักซ้อมทบทวนพุทธพจน์

    การสังคายนาคืออะไร

    ปฐมสังคายนา

    กำเนิดพระพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาท

    พระไตรปิฎกเกิดขึ้นได้อย่างไร

    พระไตรปิฎก มีการรักษาสืบทอดมาถึงเราได้อย่างไร

    พระไตรปิฎก ที่มีการท่องจำ มีความแม่นยำเพียงไร

    พระไตรปิฎก ที่เป็นลายลักษณ์อักษรเล่า?

    ฉัฏฐสังคีติและภายหลังจากนั้น



    พระไตรปิฎกเข้ากันได้กับสถานการณ์ของโลกปัจจุบัน

    การจัดหมวดหมู่คัมภีร์ในพระไตรปิฎก

    สรุปสาระของพระไตรปิฎก ๔๕ เล่ม (เรียงตามลำดับเล่ม)

    พระวินัยปิฎก

    พระสุตตันปิฎก

    พระอภิธรรมปิฎก

    อรรถกถาและคัมภีร์ชั้นหลัง

    บัญชีลำดับเล่มพระไตรปิฎกจับคู่กับอรรถกถา

    คัมภีร์สำคัญอื่นๆ

    บทสรุป



    ..........................................................



    พระไตรปิฎก ที่มีการท่องจำ มีความแม่นยำเพียงไร ?

    หลายคนอาจสงสัยว่า เมื่อรักษาพระไตรปิฎกด้วยการทรงจำในตอนเริ่มแรก

    ก็น่ากลัวว่า จะมีการคลาดเคลื่อนเลอะเลือนหลงลืมไป


    แต่เมื่อมีการพิจารณาไตร่ตรอง ก็กลับเห็นได้ชัดว่า การรักษาด้วยการท่อง

    โดยสวดเป็นหมู่คณะ แล้วทรงจำไว้นั่นแหละ

    เป็นวิธีที่แม่นยำยิ่งกว่า ยุคที่จารึกเป็ลายลักษณ์อักษรเสียอีก


    ที่ว่าอย่างนั้นก็เพราะอะไร?

    เพราะว่า การท่องที่จะทรงจำพระไตรปิฎก

    หรือคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ที่เรียกว่า ธรรมวินัยนั้น ท่านทำด้วยวิธีสวดพร้อมกัน

    คือ คล้ายกับที่เราสวดมนต์กันทุกวันนี้แหละ

    เวลาสวดมนต์พร้อมกัน เช่น สวดกัน ๑๐ คน ๒๐ คน ๕๐ คน ๑๐๐ คน จะต้องสวดตรงกันหมวดทุกถ้อยคำ

    จะตำหล่นตัดขาดหายไปก็ไม่ได้ จะเพิ่มแม้คำเดียวก็ไม่ได้ เพราะจะขัดกัน ดีไม่ดีก็สวดล้มไปเลย



    เพราะฉะนั้น การท่จะสวดโดยคนจำนวนมากๆ ให้เป็นไปด้วยดี ให้สอดคล้องกลมกลืนกัน

    ก็จะต้องสวดเหมือกันหมด ท่านจึงรักษาคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าไว้ด้วยวิธีนี้



    คือทรงจำพระไตรปิฎก ด้วยวิธีสวดพร้อมกันจำนวนมากๆ

    โดยพระสงฆ์ซึ่งเห็นความสำคัญของพระไตรปิฎก เพราะรู้อยู่ว่านี่แหละ คือพระพุทธศาสนา

    ถ้าหมวดพระไตรปิฎกเมื่อไร พระพุทธศาสนาก็หมดไปด้วยเมื่อนั้น

    ถ้าพระไตรปิฎกเคลื่อนคลาดไป พระพุทธศาสนาก็เคลื่อนคลาดไปด้วย

    ..............................................................................







    พระไตรปิฎก ที่เป็นลายลักษณ์อักษรเล่า ?

    ช่วงที่ ๒ คือ ระยะที่รักษาพุทธพจน์และเรื่องเกี่ยวข้องในพระไตรปิฎก

    ทั้งหมวดไว้เป็นลายลักษณ์อักษร หรือการรักษาไว้กับวัตถุภายนอก

    เริ่มเมื่อประมาณ พ.ศ.๔๖๐ ที่มีการสังคายนาครั้งที่ ๔

    ณ อาโลกเลณสถาน ในลังกาทวีป


    สังคายนาครั้งที่ ๔ นี้ เกิดจากเหตุผลที่ปรารภว่า

    เมื่อเหตุการณ์บ้านเมืองสภาพแวดล้อมผันแปรไป เกิดมีภัยที่กระทบต่อหน้าที่สืบต่อ

    ทรงจำพุทธพจน์ และคนต่อไปภายหน้าจะเสื่อมถอยสติสมาธิปัญญา


    เช่นมีศรัทธาและฉันทะอ่อนลงไป จะไม่สามารถรักษาพุทธพจน์ไว้ด้วยมุขปาฐะ

    จึงตกลงกันว่า ถึงเวลาที่จำต้องจารึกพระไตรปิฎกลงในใบลาน


    ในแง่หนึ่ง การจารึกเป็นลายลักษณ์อักษรนี้ ดูเหมือนจะมีความแน่นอนและมั่นคง

    ถาวรดังต้องการ คือ จะคงอยู่อย่างนั้นๆ จนกว่า วัสดุจะผุสลาย หรือสูญหาย หรือถูกทำลายไป


    แต่วิธีรักษาแบบนี้ มีจุดอ่อนที่ทำให้บุคคลเกิดความประมาท ด้วยวางใจว่าพระไตรปิฎกอยู่ในใบลาน

    หรือเล่มหนังสือแล้ว เอาความใจใส่ที่จะสาธยาย ทวนทาน

    หรือแม้แต่เล่าเรียน ก็ย่อหย่อนลงไป หรือถึงกับกลายเป็นความละเลย


    อีกประการหนึ่ง การจารึกในสมัยโบราณ ต้องอาศัยการคัดลอกโดยบุคคล

    ซึ่งเมื่อมีการคัดลอกแต่ละครั้ง จะต้องมีการพลั้งเผลอผิดพลาดตกหล่น

    ทำให้อักษรเสียหายเป็นตัวๆ หรือแม้แต่หายไปเป็นบรรทัด ยิ่งบางที

    ผู้มีหน้าที่รักษา ไม่ถนัดในงานจารเอง ต้องให้ช่างมาจารให้

    บางที ผู้จารไม่รู้ไม่ชำนาญภาษาบาลี และ พุทธพจน์

    หรือแม้กระทั่งไม่รู้ไม่เข้าใจเลย ก็ยิ่งเสี่ยงต่อความผิดพลาด

    ย่างที่ในสังคมไทยโบราณรู้กันดีในเรื่องการคัดลอกตำรายา

    ดังคำที่พูดกันมาว่า "ลอกสามทีกินตาย"


    ด้วยเหตุนี้ การรักษาพระ่ไตรปิฎกในยุคฝากไว้กับวัตถุนอกตัวบุคคลนี้

    จึงต้องใช้วิธีทำฉบับใหญ่ ของส่วนรวมที่จารึกและทบทวน

    ตรวจทานกันอย่างดี แล้วรักษาไว้ที่ศูนย์กลางแห่งหนึ่ง

    เป็นหลักของหมู่คณะสงฆ์ทั้งหมด หรือของประเทศชาติ


    ประจวบในยุคที่รักษาพุทธพจน์เป็นลายลักษณ์อักษรนี้

    พระพุทธศาสนาได้เจริญแพร่หลายไปเป็นศาสนาแห่งชาติของหลายประเทศ

    ของตนๆ ไว้ และดูแลสืบทอดกันมาให้มั่นใจว่ายังคง

    บริสุทธิ์บริบูรณ์ดังเช่นในประเทศไทย ที่มีการสังคายนาในสมัยพระเจ้าติโลกราช

    (หรือติลกราช) แห่งอาณาจักรล้านนา และการสังคายนา ในสมัยรัชกาลที่ ๑

    แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ปัจจุบัน เป็นต้น



    --------------------------------------------------



    ** พระไตรปิฎก **

    ** อรรถกถา และ คัมภีร์ รุ่นต่อมา **





    เมื่อพระพุทธเจ้า ตรัสแสดง คำสอนคือพระธรรมวินัยแล้ว



    สาวกทั้งพระสงฆ์ และคฤหัสถ์ ก็นำหลักธรรมวินัยนั้นไปเล่าเรียนศึกษา

    คำสอนหรือพุทธพจน์ส่วนใดที่ยาก ต้องการคำอธิบาย นอกจากทูลถามจาก



    พระพุทธเจ้าโดยตรงแล้ว ก็มีพระสาวกผู้ใหญ่ ที่เป็นอุปัชฌาย์หรืออาจารย์

    คอยแนะนำ ชี้แจงช่วยตอบข้อสงสัย





    คำอธิบาย และคำตอบที่สำคัญ ก็ได้รับการทรงจำ ถ่ายทอดต่อกันมา

    ควบคู่กับหลักธรรมวินัยที่เป้นแม่บทนั้นๆ จากสาวกรุ่นก่อน



    สู่สาวกรุ่นหลัง ต่อมา เมื่อมีการจัดหมวดหมู่พระธรรมวินัยเป็นพระไตรปิฎกแล้ว



    คำชี้แจง อธิบายเหล่านั้น ก็เป็นระบบ และมีลำดับไปตามพระไตรปิฎกด้วย



    คำอธิบายพุทธเจน์ หรือหลักธรรมวินัย หรือคำอธิบายความในพระไตรปิฎกนั้น



    เรียกว่า "อรรถกถา"



    --------------------------------------------------



    ** ลักษณะสำคัญของอรรถกถา **

    คือเป็นคัมภีร์ที่อธิบายความในพระไตรปิฎกโดยตรง

    หมายความว่า พระไตรปิฎกแต่ละสูตร แต่ละส่วน

    แต่ละตอน แต่ละเรื่อง มีอรรถกถา ที่อธิบายจำเพาะสูตร จำเพาะส่วนตอน หรือเรื่องนั้นๆ

    และอธิบายตามลำดับไป โดยอธิบายทั้งคำศัพท์ หรือถ้อยคำ อธิบาย ข้อความ

    ชี้แจงความหมาย ตลอดจนแสดงเหตุปัจจัยแวดล้อมหรือความเป็นมาของการที่

    พระพุทธเจ้าจะตรัสพุทธพจน์นั้นๆ หรือเกิดเรื่องราวนั้นๆ ขึ้นพร้อมทั้งเชื่อมโยง

    ประมวลความเป็นไปต่างๆ ที่จะช่วยให้เข้าใจ พุทธพจน์

    หรือเรื่องราวในพระไตรปิฎกชัดเจนยิ่งขึ้น












    ------------------------------------------------------------





    ศูนย์เผยแพร่พระไตรปิฎกและหนังสือพระพุทธศาสนา ขอ
    กราบเรียนเชิญชวน ร่วมพิมพ์ หนังสือธรรมะทรงคุณเล่มนี้


    สามารถสั่งซื้อ และสามารถร่วมจัดพิมพ์ รายนามผู้จัดพิมพ์หนังสือเล่มดังกล่าว

    โดย ไม่มีค่าใช้จ่าย ราคา 27 บาท ( สั่ง 100 เล่มขึ้นไป จัดส่ง ทั่วประเทศ)

    .........................................................................................................................

    1. สามารถ เขียนรายชื่อ ผู้ร่วมจัดพิมพ์ หรือ ข้อความที่ประสงค์จะจัดพิมพ์ มาที่ MAIL : trilak_books@yahoo.com

    2. บริการจัดส่งฟรีทั่วประเทศ ( กรณีที่สั่งพิมพ์ 100 เล่มขึ้นไป)

    3. ให้เขียน ชื่อ และ ที่อยู่ผู้รับ พร้อมเบอร์โทรศัพท์ ทั้ง 2 หมายเลข เป็นอย่างต่ำ

    เพื่อให้ บริษัทขนส่ง สามารถสอบถามเส้นทางการส่งได้

    4. ใช้ระยะเวลาการจัดพิมพ์ ไม่เกิน 2 วัน ก็แล้วเสร็จ


    โครงการจัดพิมพ์หนังสือ ธรรมะ ราคาถูกนี้ เป็นหนึ่งในโครงการของศูนย์เผยแพร่พระไตรปิฎกและหนังสือพระพุทธศาสนา




    บริการจัดพิมพ์หนังสือธรรมะเป็นธรรมบรรณาการ เนื่องในโอกาสพิเศษต่างๆจัดส่งทั่วประเทศ


    เบอร์โทรศัพท์ติดต่อโดยตรง . 086-461-8505, 087-696-7771, 085-819-4018, 02-482-7358
     

แชร์หน้านี้