ปิดรับบริจาค เชิญร่วมบุญปรับปรุงห้องปฏิบัติธรรมจากโครงสร้างไม้เป็นโครงสร้างเหล็ก

เคยถามท่านว่า ทำไมหลวงตาต้องสร้างวัตถุเยอะจังครับ
ท่านให้เหตุผลว่า
"ที่เรามาสร้างวัดที่นี่นะ แยกเป็นสองส่วน คือ วัดนอกและวัดใน
วัดนอกคือ เสนาสนะทั้งหลาย อันนี้ก็สำคัญอยู่ เช่น คนจะมาปฏิบัติธรรม ให้เขานั่งตากแดดตากฝนจะดีมั้ย หรือ จะถ่ายหนักถ่ายเบา ให้วิ่งเข้าป่าเอาดีมั้ย จึงจำเป็นต้องสร้าง ส่วนเรื่องกำแพงนั้น เราเจตนาให้เป็นพยานวัตถุ ว่า วัดป่าสายพ่อแม่ครูบาอาจารย์ได้มาเผยแพร่ที่นี่ จะมีอายุหลายพันปีทีเดียว ส่วนการบอกบุญเราไม่เรี่ยรายนะ ใครเขาอยากทำบุญ ผู้มีปัญญาพอสมควรเขาทำเอง ไม่ต้องเรี่ยรายเขา ใครสงสัยมาถามเราจะอธิบายให้ฟัง ส่วนคนที่ไม่มาถามแล้วใส่เราอันนั้นก็เป็นหน้าที่เขา เราจะไปห้ามใจห้ามปากเขาได้ยังใงละ ใช่มั้ย
ทีนี้มาถึงวัดใน เราดำริสร้างอาคารปฏิบัติธรรม อันนี้บอกเลยไม่ต้องกังวลกับการสร้างอาคารเพราะเราคิดไว้ละเอียดเลย แต่เมื่อมันเสร็จ มันจะสร้างคนให้เป็นคนดี ให้เป็นมนุษย์ ได้มากมายมายนะ แต่ถ้าใครเห็นด้วยจะมาช่วยเราก็ไม่ขัดแต่อย่าหาเงินผิดวิธีมาสร้างอันนั้น เราไม่เอา ใครสนใจมาคุยกับเราสิเราจะอธิบายให้ฟังอย่างละเอียด ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่เสร็จนะ ถ้าเราตายไป พระลูกพระหลานไม่ทำต่อ ก็ปล่อยมันสิ เราไม่มาเดือดร้อนด้วยนะ ที่ทำอยู่นี่ น้อยคนนักจะเข้าใจและเห็นด้วย แต่เราก็เต็มใจเหนื่อย แต่เราสบายดี พระที่มาช่วยงานเราก็อนุโมทนานะ แต่ งานนอกงานในอย่าเว้น เป็นพุทธแท้กันให้ได้ แต่ใครจะถึงเป้าหมาย คือ ความพ้นทุกข์ได้หรือไม่เมื่อไหร่ อันนั้นอย่ากังวล "
คำสอนหลวงตาวัดป่าเคียนพิง

 

ใส่มุ้งเพื่อกันยุง ในป่ามีแมลงมียุงเยอะต้องป้องกัน

 

งบประมาณน้อยใช้สัสดุที่มี

 

เสร็จไป 1 หลัง ยังขาดเจ้าภาพอีก 2 หลัง ค่อยสะสมไปหากพร้อมเหตุปัจจัยเมื่อไรคงได้ทำ 2 หลังที่เหลือ

 

นักปราชญ์ท่านหนึ่งกล่าวว่า

"ดวงตาที่สวยที่สุดคือ ดวงตาที่มองแต่สิ่งที่ดีในตัวผู้อื่น"
"มือที่สวยที่สุด คือ มือที่ฉุดดึงผู้ที่ล้มลงให้ลุกขึ้น"
"ขาที่สวยที่สุด คือ ขาที่ก้าวเดินด้วยสติและปัญญา"
"ปากที่สวยที่สุด คือ ปากที่พูดด้วยความรักและความเมตตา"
"บุคคลผู้ที่มีจิตใจดีที่สุด คือ ผู้ที่มีความเห็นอกเห็นใจเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน"

เพจ คิดเป็นชีวิตเปลี่ยน ขอเป็นกำลังใจให้แฟนเพจทุคนที่กำลังเจอกับปัญหาอยู่ให้ก้าวผ่านไปได้ด้วยดี

 

วันนี้ติดตั้งระบบไฟฟ้า เรียบร้อย เสร็จสมบูรณ์ไป 1 หลัง ยังขาดอีก 2 หลัง ยังไม่มีเจ้าภาพ

เนื่องจากห้องปฏิบัติธรรมของสำนักปฏิบัติธรรมแพร่ธรรมจักร บ้านน้ำพุ ตำบลบ้านกวาง อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ โทร 0892137759 ที่ใช้ปฏิบัติธรรม เป็นที่ปลีกวิเวก เดิมใช้โครงสร้างไม้ ตอนนี้เกิดผุพัง มีปลวกมีมอด ทำให้ไม่แข็งแรง อาจพังทับผู้ปฏิบัติธรรมได้ จึงจำเป็นต้องหาปัจจัยมาบูรณะให้ดีขึ้น. โดยจะเปลี่ยนจากโครงสร้างไม้เป็นโครงสร้างเหล็ก
จึงขอเจริญพร เชิญชวนญาติโยมผู้ใจบุญทุกท่านร่วมบุญบูรณะห้องปฏิบัติธรรมให้ดีขึ้น เพื่อรองรับพระภิกษุ สามเณร และผู้ปฏิบัติธรรม ได้ใช้เป็นสถานที่เจริญภาวนาต่อไป

เชิญร่วมบุญปรับปรุง/เปลี่ยนโครงสร้างห้องกัมมัฏฐานจากไม้ที่ถูกปวก/มอดกินใกล้พัง เป็นโครงสร้างเหล็ก จำนวน 3 ห้อง ๆ ละ 30,000 บาท หรือตามกำลังศรัทธา
เชิญร่วมบุญได้ที่สำนักสงฆ์แพร่ธรรมจักร บ้านน้ำพุ หมู่ที่ ๓ ตำบลบ้านกวาง อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ 54130 โทร 089 2137759

หรือที่ เลขบัญชี 014-8-83145-9 ชื่อบัญชี โครงการบุญสำนักปฏิบัติธรรมแพร่ธรรมจักร ประเภทบัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกสิกรไทย สาขา สูงเม่น

หรือที่เลขที่บัญชี 981-0-52153-7 ชื่อบัญชี พระกฤษกร กิตติปญโญ ประเภทบัญชี : ออมทรัพย์ ธนาคารกรุงไทย สาขาสูงเม่น

 

โยคีถาม : นั่งสมาธิ กำหนดได้ดี แต่มีความรู้สึกเหมือนตกจากที่สูงบ้าง สัปงกไปข้างหน้า ข้างหลังบ้าง ไม่ทราบว่าตัวเองเป็นอะไร? ต้องกำหนดอย่างไร?
หลวงพ่อประจากตอบ : เขาเรียกว่าพลังสมาธิ ถ้าเรารู้ง่วงนิดๆอยู่ แล้ววูบลงไป ท่านเรียกว่าพลังของถีนมิทธะ (ความง่วง) แต่ถ้าเราไม่ง่วง กำหนดไปๆดิ่งเงียบไป เหมือนเราหลับ แล้วฟื้นขึ้นมากำหนดได้อีก นั่นเป็นพลังของสมาธิ อีกอย่างหนึ่งเกิดจากพลังของปีติ ลักษณะเขาจะไม่ดิ่ง ไม่นิ่ง ไม่หาย จะวูบลงไป รู้สึกตัวก็จะดึงขึ้นมาเหมือนเดิม มันไม่เงียบเราจะรู้สึกตัวอยู่ ถ้ารู้สึกทันก็กำหนดวูบหนอๆๆ หรือรู้หนอๆๆ แล้วตั้งตัวกำหนดใหม่ อย่าไปหงุดหงิด ไม่พอใจเขา สภาวะเขาเป็นอย่างนั้น ให้กำหนดเท่าที่จะทำได้
หลวงพ่อประจาก

 

โยคีถาม : นั่งสมาธิ กำหนดได้ดี แต่มีความรู้สึกเหมือนตกจากที่สูงบ้าง สัปงกไปข้างหน้า ข้างหลังบ้าง ไม่ทราบว่าตัวเองเป็นอะไร? ต้องกำหนดอย่างไร?
หลวงพ่อประจากตอบ : เขาเรียกว่าพลังสมาธิ ถ้าเรารู้ง่วงนิดๆอยู่ แล้ววูบลงไป ท่านเรียกว่าพลังของถีนมิทธะ (ความง่วง) แต่ถ้าเราไม่ง่วง กำหนดไปๆดิ่งเงียบไป เหมือนเราหลับ แล้วฟื้นขึ้นมากำหนดได้อีก นั่นเป็นพลังของสมาธิ อีกอย่างหนึ่งเกิดจากพลังของปีติ ลักษณะเขาจะไม่ดิ่ง ไม่นิ่ง ไม่หาย จะวูบลงไป รู้สึกตัวก็จะดึงขึ้นมาเหมือนเดิม มันไม่เงียบเราจะรู้สึกตัวอยู่ ถ้ารู้สึกทันก็กำหนดวูบหนอๆๆ หรือรู้หนอๆๆ แล้วตั้งตัวกำหนดใหม่ อย่าไปหงุดหงิด ไม่พอใจเขา สภาวะเขาเป็นอย่างนั้น ให้กำหนดเท่าที่จะทำได้
หลวงพ่อประจาก

 

ร่วมบุญ๑๐๐บาทครับ

 

หยุดเข้าพรรษาแพร่ธรรมจักรเปิดรับผู้ปฏิบัติธรรมถวายเป็นพุทธบูชา สร้างบุญบารมีสะสมบุญเพิ่มปัญญาญาณ

 

๑. เวลาในการปฏิบัติธรรมแต่ละครั้งควรนั่ง หรือเดินจงกรมนานเท่าไร?
ตอบ ต้องดูความสามารถของบุคคล ถ้าเป็นเด็กอายุตั้งแต่ ๗-๑๐ ปี ควรใช้เวลาเพียง ๑๐ นาที อายุ ๑๐-๑๕ ปี ใช้เวลา ๒๐ นาที อายุ ๑๕-๒๐ ปี หรือเป็นผู้ใหญ่ร่างกายแข็งแรง ใช้เวลา ๓๐ นาที เมื่อผู้ปฏิบัติ มี ความเพียร มีสติ มีสมาธิดีขึ้น ก็ควรเพิ่มเวลาตามลำดับ ไม่ควรเพิ่มเร็วจนเกินไป ควรเพิ่มจาก ๓๐ นาทีเป็น ๔๐ นาที จาก ๔๐ นาทีเป็น ๕๐ นาที จาก ๕๐ นาทีเป็น ๖๐ นาที ตามลำดับ แต่ไม่ควรเกิน ๑ ชั่วโมง
๒. ถาม ขณะนั่งกำหนดพองยุบอยู่ ถ้ากำหนดยุบแล้ว อาการพองไม่ขึ้นมาทันที ทิ้งช่วงไว้นิดหนึ่ง ทำให้ จิตฟุ้งซ่าน ต้องทำอย่างไร?
ตอบ ให้ใส่คำกำหนดว่า นั่งหนอ ลงแทนช่วงที่ว่างนั้น ถ้าใส่นั่งหนอแล้ว พองยังไม่ยอมขึ้นมาอีกก็ให้ใส่ ถูกหนอ ลงไปอีกคำ ก็จะพอดีกับพองขึ้นมา ถ้าใส่คำกำหนดได้เต็มที่อย่างนี้ จะทำให้จิตไม่แลบออกข้างนอก ได้ สมาธิดี
๓. ถาม ขณะนั่งกำหนดอยู่ ถ้ารู้สึกเฉย หรือง่วงนอน จะแก้อย่างไร?
ตอบ ให้กำหนดรู้ตามอาการก่อน ถ้าไม่หาย ให้กำหนดนั่งหนอถูกหนอ และย้ายจุดถูก ที่ก้นข้างขวาบ้าง ข้างซ้ายบ้าง หลังเท้า หรือมือที่ซ้อนกัน กำหนดย้ายสลับจุดเรื่อยไป ถ้าสติมีกำลังก็สามารถแก้ไขได้ ถ้าไม่ได้ก็ ให้ ลุกขึ้นเดินจงกรม
๔. ถาม ขณะนั่งสมาธิอยู่ บางครั้งรู้สึกมึนศีรษะ หนักศีรษะ กำหนดอารมณ์ไม่แจ่มใส ควรทำอย่างไร?
ตอบ เป็นเพราะวิริยะน้อย ควรกำหนดรู้ตามอาการก่อน ถ้าไม่หายให้ลุกเดินจงกรม ๑ ระยะ ประมาณ ๓๐ นาที ถึง ๑ ชั่วโมง หรือจนกว่าจะรู้สึกอาการนั้นๆบรรเทาลง จึงกลับมานั่งสมาธิต่อได้
๕. ถาม ขณะนั่งกำหนดอยู่ บางครั้งรู้สึกไม่สบายใจ ใจคิดฟุ้งซ่านจนรำคาญใจ จะทำอย่างไรดี?
ตอบ เมื่อคิดให้ทิ้งพองยุบก่อน แล้วตั้งสติกำหนดว่า คิดหนอๆๆ เมื่อนึก กำหนดว่า นึกหนอๆๆ เมื่อฟุ้ง กำหนดว่า ฟุ้งหนอๆๆ เมื่อรู้สึกรำคาญ กำหนดว่า รำคาญหนอๆๆ ให้กำหนดจนความ รู้สึกนึกคิดนั้นๆ หายไป ค่อยกลับมากำหนดพองยุบต่อไป
ถาม บางครั้งจิตใจหงุดหงิด, กลุ้มใจ, ท้อแท้, เบื่อหน่าย, ขี้เกียจ, ง่วง, จะกำหนออย่างไร?
ตอบ ให้ทิ้งอารมณ์เดิมก่อน แล้วตั้งสติกำหนดอารมณ์ที่เกิดทางใจ โดยกำหนดที่ความรู้สึกนั้นๆว่า หงุดหงิดหนอๆๆ กลุ้มใจหนอๆๆ ท้อแท้หนอๆๆ เบื่อหนอๆๆ ขี้เกียจหนอๆๆ ง่วงหนอๆๆ เมื่ออารมณ์เหล่านี้ หายไป แล้วก็กลับมากำหนดที่อาการพองยุบอีก
ถาม ขณะนั่งอยู่ ถ้าฟุ้งจนกำหนดไม่ได้ จะลุกเดินจงกรม หรือไปทำอย่างอื่นได้ไหม?
ตอบ ควรจะกำหนดรู้อาการทางจิตทุกอย่างก่อน เช่นเบือหนอๆๆ เป็นต้น จนจิตสงบแล้ว ถึงกลับมาดูอาการฟุ้ง
ถาม ขณะนั่งสมาธิอยู่ ถ้าอารมณ์ภายนอกเกิดขึ้นจะทำอย่างไร?
ตอบ ถ้าเห็นภาพ แสง กำหนดว่า เห็นหนอๆๆ ได้ยินเสียง กำหนดว่า ยินหนอๆๆ ได้กลิ่น กำหนดว่า กลิ่นหนอๆๆ รู้รสทางลิ้น กำหนดว่า รส-หนอๆๆ รู้การสัมผัส เย็น ร้อน อ่อน แข็ง กำหนดว่า เย็นหนอๆๆ ร้อน-หนอๆๆ อ่อนหนอๆๆ แข็งหนอๆๆ เมื่อมีอารมณ์เกิดทางใจกำหนดว่า คิดหนอๆๆ หรือ รู้หนอๆๆ (พระอาจารย์มหาทองมั่น )

 

ความคืบหน้าการก่อสร้างปรับปรุงห้องปฏิบัติธรรม ตอนนี้ยังขาดเจ้าภาพอีกเพียง 1 ห้อง
อนุโมทนาบุญ โยมณัฐชาติ โยมสุภาวดี เสือเอก ร่วมทำบุญ 30,000 บาท จะได้ดำเนินการซ่อมแซมปรับปรุงห้องกัมมัฏฐานห้องที่ 2 ต่อไป สาธุๆ (เหลืออีก 1 ห้อง ) ช่วงนี้ช่วงใกล้เข้าพรรษา มีญาติโยมมาปฏิบัติธรรม หลังเข้าพรรษาสักระยะคงได้ดำเนินการ

 

จิตติมา ติ๊บโท๊ะ และครอบครัว ขอร่วมบุญและขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยนะคะ สาธุๆๆ

 

ขอร่วมบุญ 20 บาทครับ เเละขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านที่ได้ร่วมบุญสร้างกุศลในโอกาศนี้ด้วยครับ สาธุ

 

เจริญพร สาธุ อนุโมทนามิ ขอให้เจริญรุ่งเรือง สุขภาพแข็งแรง บุญรักษา พระคุ้มครอง เจริญธรรมยิ่งๆ

 

เจริญพร สาธุ อนุโมทนามิ ขอให้เจริญรุ่งเรือง สุขภาพแข็งแรง บุญรักษา พระคุ้มครอง

 

ร่วมบุญปรับปรุง/เปลี่ยนโครงสร้างห้องกัมมัฏฐานจากไม้ที่ถูกปวก/มอดกินใกล้พัง เป็นโครงสร้างเหล็ก ที่สำนักสงฆ์แพร่ธรรมจักร บ้านน้ำพุ หมู่ที่ ๓ ตำบลบ้านกวาง อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ 54130 จำนวน 50.95 บาท ตามสลิปขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยครับ