นกตอบตามความเข้าใจง่าย ๆ เลยนะ เพราะคิดให้ลึกมากไปกลัวจะสับสนตัวเอง อิอิ
เนื้อหาและเป้าหมายของอาจารย์อนาลัยคืออะไร ?
อาจารย์อนาลัยมาสอนมาย้ำเตือนสิ่งที่เราเคยเป็น
เราไม่ได้เป็นแค่เรา แต่เราเป็นมากกว่าหนึ่ง มีหลายหลายตัวตน แต่ที่สุดแล้วเราทุกคนคือหนึ่งเดียว
ให้เราเข้าใจถึงความจริงทุก ๆ สิ่ง ทุก ๆ อย่าง เข้าใจตัวเอง เข้าใจคนอื่น
เมื่อเรารู้ตัวเอง รู้คนอื่น เราจะใช้ชีวิต มองสิ่งต่าง ๆ บนโลกนี้ จักรวาลนี้อย่างมีค่าและมีความสุข
-------------------------------------------------------
เมื่อคืนฝันว่าจับปังตอ2มือเลย ฟาดฟันกะผู้ชาย 2 คน
รักความยุติธรรมตามเคย ไปช่วยผู้หญิงที่ถูกรังแก
ขนาดผู้ชายหนีไปหลบในตู้เสื้อผ้าที่มีกระจกก็ยังตามไปทุบกระจกแตกดึงตัวออกมาอีก โหดจริง ๆ(eek)
เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]
ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mead, 8 สิงหาคม 2007.
หน้า 174 ของ 454
-
-
ชิวิตจริงถ้าจำเป็นค่อยโหด แต่อย่าบ่อยน้า...เอิ๊กๆ ดูดิคนแถวนี้ผวาตัวสั่นหมดแระไฟล์ที่แนบมา:
-
-
จิตวิญญาณจะเปลี่ยนวิถีการจดจ่อด้วยสติสัมปชัญญะไปสู่มิติอื่นหรือโลกแห่งความเป็นจริงโลกอื่นได้ตามปรารถนาก็ต่อเมื่อเธอมีเป้าหมาย การเรียนรู้ ดำเนินไปทุกทิศทาง ไม่มีคำว่า หน้า-หลัง สูง-ต่ำ ไม่ได้หมายความว่าเราเลื่อนขึ้นไปที่ละระดับเป็นเส้นตรงตามเส้นทางแห่งกาลเวลา
บางทีคุณโซลอาจก้าวหน้ากว่าไปลิบๆแล้วก็ได้ครับ..ห้องนี้มีลูกศิษย์มีอาจารย์ และอาจารย์ก็ยังเป็นศิษย์ได้เสมอครับ..ไร้กาลเวลานะครับ -
ของขจรวรรณขอเพิ่มคำตอบอีกนิ๊ดนึงค่ะว่า ท่านต้องการให้พวกเราเข้าถึงเป้าหมายในการมาหาประสบการณ์ในร่างกายเนื้อหนังที่แท้จริงคือการเรียนรู้ที่จะมอบความรักอันปราศจากเงื่อนไขให้กันและกันค่ะ.. เดี๋ยวพี่นักเขียนคงมาเฉลยค่ะ.. เอ.. ช่วงนี้คุณเฉลยหายไปไหนน้า สงสัยจะกำลังเป็นเถ้าแก่คนใหม่อยู่แน่ ๆ เลยค่ะ..:cool: -
-
ธาตุรู้ โดยมิำได้ละทิ้งเป้าหมายหลัก ในการรู้แล้วปล่อยวาง มิใ่ช่รู้เพื่ออวดรู้ เพราะ
สิ่งสำคัญเหนืออื่นใดในดวงจิตดวงนี้ แม้ระดับปัญญาทางโลกขณะนี้ ยังเข้าไม่ถึง
ถึงระดับจิตวิญญาณของตัวเองก็ตาม แต่ก็มั่นใจว่าท้ายสุดแล้ว ความเป็นหนึ่งเดียวกับทุกสรรพสิ่งนั้นคือการหลุดพ้นอย่างแท้จริง...เพราะหมายถึงไม่
มีแล้วคำว่าตัวกูของกู ไ่ม่มีเขามีเรา มีแต่ความเป็นเ่ช่นนั้นเอง..โยงใยเป็นปัจจัยซึ่งกันและกัน ดั่งที่ท่านพุทธทาสได้กล่าวไว้..ค่ะ ..
-
-
khajornwan said: ↑หวัดดีค่ะคุณโซล มีปรากฏกาณ์อะไรมาเล่าให้กันฟังมั่งค่ะ.. อยากรู้ ไม่ทราบว่าคุณโชลปฏิบัติมาด้านไหนคะ.. อย่าคิดว่าตัวเองโง่นะคะ ท่านอาจารย์อนาลัยกล่าวไว้ว่าจิตวิญญาณของเธอฉลาดล้ำลึกเสมอเหมือนต้นกำเนิด เรามาเรียนรู้ร่วมกันและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันค่ะ จะได้ไปให้ถึงเป้าหมายของจิตวิญญาณพร้อม ๆ กัน เวลาแห่งจิต อดีต - ปัจจุบัน - อนาคต ดำเนินไปพร้อมกันหมดเป็นปัจจุบันค่ะคุณโซล..(kiss) (kiss) (kiss)Click to expand...
ก็เล่นมีแต่เรื่องแปลกๆ ไม่เหมือนคนอื่นเค้า..จะให้เล่าตรงนี้ก็กระไรอยู่ กลัวจะทำบาปโดยไม่ตั้งใจ เพราะแต่ละคนก็นานาจิตตัง ถ้าอยากจะสนทนาธรรมกัน เอาเป็นหลังบ้านกันดีกว่านะคะ pm มาแล้วค่อยไปคุยกันที่ msn ก็ได้คะ่ ....ส่วนเรื่องแนวในการปฎิบัติ ก็ผ่านมาหลายแนวค่ะ ...แต่จะสมถะัหรือ วิปัสสนา ก็เป็นธรรมที่มิได้แยกออกจากกันโดยสิ้นเชิงเรียกว่าเป็นธรรมที่เกื้อหนุนซึ่งกันและกันอยู่ค่ะ.
.เพราะสมถะคือกำลังของจิตส่วนวิปัสสนาแยกผู้รู้ออกมาตามดูตามรู้ไปตามสภาพความเป็นจริง
ที่เกิดขึ้นในแต่ละขณะจิต.. ตอนนี้ก็เลยผสมผสานกันไป ถ้ากำลังจิตยังไม่มีก็ใช้สมถะ ก่อน ส่วนการเจริญสติเป็น สติปัฎฐาน 4 โดยใช้ขณิกสมาธิ ที่สะสมๆ ต่อเนื่องตลอดวันก็จะทำเเมื่อไปเข้าคอร์ส วิปัสสนากรรมฐาน 7 คืน 8 วัน ส่วนในชีวิตประจำวัน ก็พยายามเจริญสติ หมั่นตามรู้กายและ ใจของตัวเอง ไปค่ะ ในระหว่างวัน และจะสวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิก่อนเข้านอนบ้าง ถ้ามีเวลา ...ส่วนเรื่องที่เกิดสิ่งแปลกๆ กับตัวเอง อยู่เสมอๆ.. สิ่งที่ทำขณะปฎิบัติก็รู้แล้วปล่อยวาง แต่ว่า เมื่อมีโอกาสก็จะหาความรู้เพิ่มเติม เพื่อจะให้เข้าใจ ปราำกฎการณ์ของจิตให้ถ่องแท้ เพราะคิดว่า ภายภาคหน้า อาจจะเป็นประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น ได้บ้าง...ก็เท่านั้นค่ะ ...ขอบคุณค่ะ -
khajornwan said: ↑mead said: ↑คุณ Mead กับขจรวรรณนี่รู้สึกจะมีประสบการณ์คล้าย ๆ กันคือต่างก็พกอาจารย์มาหลายท่านเหมือนกัน แต่ก็เจออาจารย์ร่วมกัน 2 ท่าน คือท่านอาจารย์อนาลัยและอาจารย์ปริญญาเน๊อะ.. แต่คุณ Mead เธอจะชอบออกแนวหวือหวาหน่อย เช่น ภัยพิภัย มะนาวต่างดุด อะไรประมาณนี้ คงเป็นเพราะคุณเธอเป็นผู้ชายมังคะ อิอิ..
สำหรับประสบการณ์ที่เจอกับอาจารย์ท่านนี้ก็คือว่า ช่วงนั้นขจรวรรณกำลังเรียนวิชาพลังจักรวาลในระดับ รับพลังจากปิรามิด อยู่ค่ะ พอเข้าไปลองฝึกของ ดร.กัญจีรา อาจารย์ก็ให้พิจารณาความรู้สึกที่ฝ่ามือดูว่ามีความรู้สึกอะไรหรือไม่ ซึ่งก็เป็นปรกติของชาวพลังจักรวาลอยู่แล้วที่จะมีอาการซ่าหรือร้อนที่ฝ่ามือแต่ก็ไม่ได้คิดอะไร แต่พอกลับไปนอนในคืนนั้น ร่างกายของเราก็รู้สึกปั่นป่วน กระสับกระส่าย ในจิตของตัวเองก็มองเห็นหน้าและได้ยินเสียงของอาจารย์อยู่ตลอดเวลา สรุปแล้วคืนนั้นทั้งคืนก็นอนไม่ได้เลยค่ะ..
พอตอนเช้านึกว่าจะหายจากอาการนี้ แต่ความรู้สึกเดิมก็ยังมีอยู่ ทำงานก็กระสับกระส่าย ก็รับรู้แล้วว่าร่างกายของเรานั้นกำลังผิดปรกติ จึงโทรขอคำแนะนำจากรุ่นพี่ที่เรียนพลังจักรวาลมาด้วยกันว่าเกิดอะไรขึ้น และควรจะทำอย่างไรกับอาการนี้ แต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบที่ยังไม่น่าพอใจเท่าที่ควร..
เย็นวันนั้นพอกลับถึงที่พัก ก็ไม่รู้จะทำยังงัยละ ตัดสินใจใช้จักระ 6 มองไปที่จักระ 6 อาจารย์ใหญ่ แล้วติดต่ออาจารย์ว่า อาจารย์หนูก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง รู้แต่ว่าร่างกายของเรานั้นกำลังผิดปรกติ อาจารย์ช่วยปรับพลังในร่างกายของหนูให้เข้าสู่สภาวะปรกติด้วยค่ะ.. เพียงแค่นั้นก็วิ่งเข้าห้องน้ำแทบไม่ทันค่ะ มีอะไรที่อยู่ในท้องของตัวเองก็อาเจียนออกมาจนหมด เรียกว่าหมดไส้หมดพุงเลยก็ว่าได้แทบจะหมดแรงให้ได้ แต่สิ่งที่แปลกกว่านั้นกลับพบว่าในขณะที่เราอาเจียนออกมาทางกายภายในจิตของเราก็มองเห็นเหมือนคลื่นคล้าย ๆ เป็นน้ำสีดำเงินเลื่อม ๆ ค่อย ๆ ออกมาจากปากของตัวเองด้วย ซึ่งก็ยาวนานพอสมควร
เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างออกมาจนหมดแล้ว ตัวก็เริ่มเบาลงและเข้าสู่สภาวะปรกติ อารมณ์ความรู้สึกหลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ น้ำตาก็เล็ดออกมาและนึกได้อยู่คำเดียวว่าขอบคุณอาจารย์ใหญ่.. ขอบคุณอาจารย์ด๋าง.. ที่ช่วยหนูให้เข้าสู่สภาวะปรกติ.. นี่คือข้อสงสัยตั้งแต่วันนั้นจนวันนี้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองค่ะคุณ Mead..
(cry) (cry) (cry)Click to expand...
เคยยกฝ่ามือรับพลังจาก ดร.กัญจีรา อยู่เหมือนกัน..สักพักนึงจะมีพลังวนๆเข้ามาปะทะปลายนิ้วและฝ่ามือสลับกันไป อาจารย์ท่านให้ลองพิสูจน์เรื่องพลังงานเฉยๆครับ เคยมีฝรั่งเอาเครื่องมือราคากว่า 3 ล้าน มาตรวจวัดพลังปรากฎว่าวัดได้จริงๆ เลยพยายามขอมาเรียนกับอาจารย์แต่ก็โดนปฎิเสธไปเพราะอาจารย์บอกว่าจะสอนให้คนไทยก่อน เพื่อให้รู้ทักษะการเชื่อมโยงความรู้ในระบบจิตวิญญาณและสอนการเปิดจักระที่ 6 และ 7 ด้วยตนเอง
ส่วนเรื่องปิรามิด ถ้าไปอ่านเรื่องนี้ของพระอาจารย์รัตต์ จะเห็นว่ารูปทรงนี้จะดึงพลังงานที่สมดุลย์ลงมา พลังที่ไม่สมดุลย์จะถูกปรับเรียงใหม่ให้เข้าที่ครับ ทำให้เข้าใจว่าทำไม่จะต้องเป็นสามเหลี่ยมด้านไม่เท่ากันจึงจะดีที่สุด เพื่อไม่ให้มีจุดศูนย์กลางนั่นเองครับ เดี๋ยวจะกลัวปิรามิดซะก่อน อิอิอิ
http://santati2007.googlepages.com/pyramid_conceptClick to expand... -
khajornwan said: ↑น่าตีหัวหน้าห้องจังค่ะ.. แหมผมจะรอฟังอยู่ตรงนี้คับ ต้องการฟังความคิดเห็นของหัวหน้ามั่งค่ะว่าเนื้อหาและเป้าหมายของท่านอาจารย์อนาลัยคืออะไร? ตอบมาซะดีดี.. อิอิ..
:cool:Click to expand...
ตอนนี้ถ้ามีใครถามก็จะตอบว่า..
เนื้อหาในหนังสือ- เน้นไปที่การเปลื่ยนความเชื่อให้เป็นความรู้ การเป็นอิสระจากขีดจำกัดของมนุษย์ ที่อยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์ของระยะทาง-ช่องว่าง- กาลเวลา และช่วยพัฒนา-เติมเติม-ความรู้ความสามารถให้สูงขึ้นตามทางเลือกของตนเองได้อย่างเป็นสุข บรรเลงเพลงชิวิตอย่างวงดุริยางค์ร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นครับ
ส่วนเป้าหมาย-คือการยกระดับจิตสำนึกมนุษย์ ให้ CONTACT กับจิตวิญญาณที่เป็นความรู้ ข้อมูล ความทรงจำอันหลากหลายมิติ จนเกิด ตระหนักรู้ตัวตนที่แท้จริงอย่างมีสติสัมปชัญญะและเป็นธรรมชาติที่สุดครับ
ตอบแล้วคร๊าบคงไม่โดนไม่เรียวแล้ว.! ^+^ -
mead said: ↑ว่าจะอ่านความเห็นเฉยๆ แอบมีคนรู้ทันอีก ทุกความเห็นคือคำตอบที่ถูกครับ
ตอนนี้ถ้ามีใครถามก็จะตอบว่า..
เนื้อหาในหนังสือ- เน้นไปที่การเปลื่ยนความเชื่อให้เป็นความรู้ การเป็นอิสระจากขีดจำกัดของมนุษย์ ที่อยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์ของระยะทาง-ช่องว่าง- กาลเวลา และช่วยพัฒนา-เติมเติม-ความรู้ความสามารถให้สูงขึ้นตามทางเลือกของตนเองได้อย่างเป็นสุข บรรเลงเพลงชิวิตอย่างวงดุริยางค์ร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นครับ
ส่วนเป้าหมาย-คือการยกระดับจิตสำนึกมนุษย์ ให้ CONTACT กับจิตวิญญาณที่เป็นความรู้ ข้อมูล ความทรงจำอันหลากหลายมิติ จนเกิด ตระหนักรู้ตัวตนที่แท้จริงอย่างมีสติสัมปชัญญะและเป็นธรรมชาติที่สุดครับ
ตอบแล้วคร๊าบคงไม่โดนไม่เรียวแล้วนะคับ.!Click to expand...
อาจารย์แม่มาพอดี รอดตัวไปครับ คุณ mead 555+ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
MOUNTAIN said: ↑อาจารย์แม่มาพอดี รอดตัวไปครับ คุณ mead 555+Click to expand...
หวุดหวิดแล้วครับ ปาดเหงื่อเลย อิอิ
วันนี้รับบทครู มีเด็กมาให้สอนวาดรูป+พื้นฐานศิลปะด้วย
ย่องมาคุยครับ..สงสัยจะโดนไม่เรียวครูใหญ่รอบสองแน่ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
mead said: ↑หวุดหวิดแล้วครับ ปาดเหงื่อเลย อิอิ
วันนี้รับบทครู มีเด็กมาให้สอนวาดรูป+พื้นฐานศิลปะด้วย
ย่องมาคุยครับ..สงสัยจะโดนไม่เรียวครูใหญ่รอบสองแน่Click to expand... -
soul2006 said: ↑ขอบคุณค่ะคุณมีด อ่านแล้วมีกำลังใจขึ้นอีกเยอะเลย..สมแล้วที่เป็นหัวหน้าห้อง อิอิ..ให้กำลังใจทุกคนเสมอ...จะพยายามหลอมรวมวิญญาณทั้งในยามตื่นและยามฝันให้เป็น
ธาตุรู้ โดยมิำได้ละทิ้งเป้าหมายหลัก ในการรู้แล้วปล่อยวาง มิใ่ช่รู้เพื่ออวดรู้ เพราะ
สิ่งสำคัญเหนืออื่นใดในดวงจิตดวงนี้ แม้ระดับปัญญาทางโลกขณะนี้ ยังเข้าไม่ถึง
ถึงระดับจิตวิญญาณของตัวเองก็ตาม แต่ก็มั่นใจว่าท้ายสุดแล้ว ความเป็นหนึ่งเดียวกับทุกสรรพสิ่งนั้นคือการหลุดพ้นอย่างแท้จริง...เพราะหมายถึงไม่
มีแล้วคำว่าตัวกูของกู ไ่ม่มีเขามีเรา มีแต่ความเป็นเ่ช่นนั้นเอง..โยงใยเป็นปัจจัยซึ่งกันและกัน ดั่งที่ท่านพุทธทาสได้กล่าวไว้..ค่ะ ..Click to expand...
ขอขยายกำลังใจให้อบอุ่นยิ่งขึ้นครับ
การหลุดพ้นคือการหลุดจากอวิชา หลุดพ้นจากพันธนาการทั้งปวงด้วยสติปัญญาด้วยความรู้จากจิตวิญญาณ เข้าสู่แก่นแท้ของความจริงที่มีความเป็นหนี่งเดียวกับทุกสรรพสิ่ง สู่พลังงานต้นกำเนิดอันเป็นที่มาของเราทุกคน คงคล้ายๆกับที่เรากำลังแลกเปลื่ยนและให้กำลังใจอย่างอบอุ่นแบบนี้ล่ะครับ..คุณโซล ระบบเครือข่ายจิตวิญญาณเค้าจะช่วยกันเสมอครับ -
พอเข้าใจแล้วครับ คุณขจรวรรณมีประสบการณ์ที่ต้องจดจำแบบนี้เอง เลยเกิดความรู้สึกไม่แน่ใจในพลังจากปิรามิดหรืออะไรก็ตามที่ไม่เคยชิน ผมมองว่าการที่เราไปฝึกพลังอะไรมาก็ตาม แล้วเราก็เปิดรับพลังต่างๆเข้ามาด้วยความสนุก แต่ฐานร่างกายเรายังไม่พร้อมก็อาจเสียสมดุลย์ได้ครับ [คล้ายๆไฟฟ้าเกิน Over Load] เราไม่จำเป็นต้องรับพลังเข้ามาตลอดเวลาครับ ร่างกายอาจทรุดลงได้ง่าย เนื่องจากเปิดรับไปหมด ควรรู้วิธีปิดรับ-สกัดกั้นด้วยนะครับ ถ้ามีอาจารย์เปิดจักระให้..อย่าลืมขอให้ท่านแนะนำวิธีปิดด้วย เชื่อว่าเราสามารถ เปิด-ปิดจักระด้วยตัวเอง
ดิฉันมีประสบการณ์เหมือนคุณขจรวรรณ ฝึกพลังมากเกินไป ผิดปกติมาก เหมือนธาตุไฟแตก แต่ของดิฉันอธิษฐานขอให้ทราบถึงเหตุผลในฝัน คืนนั้นเลยฝันว่า ตัวเองเอามือตัวเองยื่นเข้าไปในกองไฟ แล้วเผา โดยที่ตัวเองกลับยินดีปรีดา และสนุกกับมัน เมื่อพิจารณาความฝันเลยพอทราบถึงเหตุผลคร่าว ๆ ได้โทรสอบถามรุ่นพี่เช่นเดียวกัน คำตอบคือเราฝึกมากเกินไป แต่พื้นฐานทางร่างกายเราไม่พร้อม (หยินหยางไม่ค่อยดี) เลยมีโทษมากกว่าคุณ ตอนนี้เริ่มค่อย ๆ ฝึก ค่อยปรับพื้นฐานตัวเองไปพร้อมกันด้วย -
ส่วนเรื่องปิรามิด ถ้าไปอ่านเรื่องนี้ของพระอาจารย์รัตต์ จะเห็นว่ารูปทรงนี้จะดึงพลังงานที่สมดุลย์ลงมา พลังที่ไม่สมดุลย์จะถูกปรับเรียงใหม่ให้เข้าที่ครับ ทำให้เข้าใจว่าทำไม่จะต้องเป็นสามเหลี่ยมด้านไม่เท่ากันจึงจะดีที่สุด เพื่อไม่ให้มีจุดศูนย์กลางนั่นเองครับ เดี๋ยวจะกลัวปิรามิดซะก่อน อิอิอิ
http://santati2007.googlepages.com/pyramid_concept
ขอบคุณคุณมี้ด ดิฉันกำลังอยากได้ข้อมูลของพระอาจารย์รัตน์ พอดี ขอบคุณค่ะ<!-- / message --><!-- sig --> -
JINTAWADEE said: ↑ดิฉันมีประสบการณ์เหมือนคุณขจรวรรณ ฝึกพลังมากเกินไป ผิดปกติมาก เหมือนธาตุไฟแตก แต่ของดิฉันอธิษฐานขอให้ทราบถึงเหตุผลในฝัน คืนนั้นเลยฝันว่า ตัวเองเอามือตัวเองยื่นเข้าไปในกองไฟ แล้วเผา โดยที่ตัวเองกลับยินดีปรีดา และสนุกกับมัน เมื่อพิจารณาความฝันเลยพอทราบถึงเหตุผลคร่าว ๆ ได้โทรสอบถามรุ่นพี่เช่นเดียวกัน คำตอบคือเราฝึกมากเกินไป แต่พื้นฐานทางร่างกายเราไม่พร้อม (หยินหยางไม่ค่อยดี) เลยมีโทษมากกว่าคุณ ตอนนี้เริ่มค่อย ๆ ฝึก ค่อยปรับพื้นฐานตัวเองไปพร้อมกันด้วยClick to expand...
(good) -
เอาเรื่องดีๆมีสาระมาให้อ่าน สอดคล้องกับเนื้อหาของอาจารย์อนาลัยมาก จากประสบการณ์ตรงของผู้ได้รับสื่อที่เป็นหญิงชาวสเปญ ใช้เวลาฝึกฝนอย่างต่อเนื่องราว 9 เดือน เพื่อเข้าถึงพลังงานแห่งต้นกำเนิดที่ชื่อ Abrahum
เกี่ยวกับการวางจิตเราให้อยู่ในแนวเดียวกับ"พลังงานต้นกำเนิด" เพื่อการเชื่อมต่อกับพลังงานสากลในจักรวาล
เราทุกคนคือตัวตนที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งแผ่ขยายออกมาจากพลังงานต้นกำเนิด มาสู่โลกที่สมบูรณ์แบบ ที่แผ่ขยายออกไปในจักรวาลที่สมบูรณแบบซึ่งแผ่ขยายออกไปอย่างไม่สิ้นสุด
*เราคือส่วนที่แผ่ขยายทางรูปกายของ "พลังงานจากต้นกำเนิด"
*สภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์ของโลก มีไว้ให้เราได้สร้างสรรค์
*ความหลากหลายบนโลกที่มีอยู่จะช่วยให้เราเพ่งความสนใจไปยังสิ่งทีปรารถนาหรือความชอบ
*เวลาที่มีการเพ่งความสนใจ ไปยังความปรารถนาสักอย่าง พลังชีวิตในการสร้างสรรค์ (Creative Life Force) ที่รวบรวมมาก็จะเริ่มหลั่งไหลไปสู่จุดที่คุณปรารถนาในทันที - แล้วจักรวาลก็จะแผ่ขยายออกไป (ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีตามกฎธรรมชาติ)
*การตระหนักถึงการสร้างอย่างมีสติรู้ตัวนั้นไม่ใช่สิ่งจำเป็นเท่ากับการทำให้มันดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง
*ทุกๆความปรารถนา และทุกๆความชอบ ไม่ว่ามันจะดูเล็กหรือใหญ่ในสายตาเรา ต่างก็เป็นที่เข้าใจ และได้รับการขานตอบจาก"สรรพสิ่งที่มีอยู่"ทั้งสิ้น
*เมื่อทุกๆความปราถนาจากผู้ที่ตระหนักรู้ทุกคนได้รับการขานตอบ จักรวาลก็จะแผ่ขยาย
*เมื่อจักรวาลแผ่ขยาย ความหลากหลายก็จะแผ่ขยายไปด้วย
*เมื่อความหลากหลายแผ่ขยายออกไป ประสบการณ์ของเราก็จะแผ่ขยายออกไปด้วย
*แต่ละครั้งที่เราร้องขออะไรก็ตาม การได้มาซึ่งสิ่งที่เราร้องขอ เราก็จะบรรลุถึงมุมมองใหม่ๆเพิ่มขึ้น ซึ่งเราก็จะร้องขออีกตามธรรมชาติ
*ฉะนั้น การแผ่ขยายของจักรวาลและการแผ่ขยายของตัวเราจึงเป็นไปตามกฎเหล่านี้เสมอ
- เราอยู่ในจักรวาลที่มีการแผ่ขยาย
- เราอยู่ในโลกที่เป็นรูปธรรม ซึ่งมีการแผ่ขยาย
- เราคือตัวตนที่มีการแผ่ขยาย
และทั้งหมดนี้เป็นเช่นนี้จริงๆ ไม่ว่าเราจะเข้าใจมันอย่างมีสติรับรู้หรือไม่ก็ตาม จักรวาลนี้จะแผ่ขยายไปตลอดกาล ตัวเราก็เช่นกัน
*จงมีส่วนร่วมในการแผ่ขยายอันงดงามของตัวคุณเองอย่างมีสติรับรู้* -
การกำหนดทิศทางความคิด (ความคิดคือตัวชี้นำ)
มันไม่ใช่เรื่องของการควบคุมความคิด
แต่เป็นเรื่องของการกำหนดทิศทางความคิดต่างหาก
อารมณ์ของเราไม่ได้ทำหน้าที่สร้าง แต่มันจะบ่งบอกว่าคุณกำลัง"ดึงดูด"อะไรเข้ามาในขณะนั้น
จงเติมพลังความเชื่อมโยงของเราให้เต็มขึ้นมาใหม่ ด้วยการเลือกคิดในสิ่งที่ทำให้รู้สึกดีขึ้น
เรามีระบบชี้นำ ที่ติดตั้งอยู่ในตัวและเข้าใจง่ายๆอยู่แล้ว
ความรู้สึกของคุณ คือตัวแทนของระบบชี้นำของคุณ
พูดอีกอย่างก็คือ ความรู้สึกของคุณเป็นตัวบ่งชี้ที่แท้จริงว่า คุณอยู่แนวเดียวกับ "พลังงานต้นกำเนิด" หรือเปล่า
อารมณ์เป็นตัวบ่งชี้ ถึงการปรับแนวระหว่างคุณกับพลังงานจากต้นกำเนิด
<!-- / message --><!-- sig --> -
คุณเป็นทั้งตัวส่ง และตัวรับที่มีการสั่นสะเทือน
คุณคือตัวส่งการสั่นสะเทือน (Vibrational Being) แล้วคุณก็กระจายสัญญาณของตัวเองออกไปในทุกๆ เวลานาทีที่คุณดำรงอยู่ด้วย
ขณะที่คุณเพ่งความสนใจ คุณจะส่งสัญญาณที่เฉพาะเจาะจงมากๆ ออกไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมันจะถูกรับไป ผ่านการทำความเข้าใจ และขานตอบกลับมาในทันที
สถานการณ์รอบตัวเราจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างฉับพลัน เพื่อตอบสองสัญญาณที่คุณปล่อยออกไป ดังนั้น ในตอนนี้จักรวาลจึงได้รับผลกระทบจากทุกสิ่งที่คุณปล่อยออกไปด้วย
ความสนใจที่คุณมีต่อมันนี่แหละที่จะเชื้อเชิญมันเข้ามาทุกสิ่ง :cool:
หน้า 174 ของ 454