เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mead, 8 สิงหาคม 2007.

  1. zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    ถ้าพี่นักเขียนมาในช่วงที่ไม่ติดอะไรก็ดีสินะ อยากจะไปเห็นตัวจริงเหมือนกัน
    ยินดีด้วยนะครับที่ปัญหาของคุณ mead นั้นแก้ได้ด้วยดี

    ตอนที่พิมพ์อยู่นี้ติดอารมณ์หมองๆ เทาๆ มาจากเรื่องสั้นของ อ.ฟูจิโกะ คนที่เขียนการ์ตูนโดเรม่อนนั่นแหล่ะครับ

    ได้ลองไปซื้อรวมเรื่องสั้นของ อ.ฟูจิโกะเล่มสองมาอ่าน ก็อ่านไปได้เกือบๆ กลางเล่มแล้ว มีความรู้สึกว่าทำไมเรื่องสั้นของ อ.ฟูจิโกะนั้นออกอารมณ์ เทาๆ ถึงเทาหม่น พูดถึงอนาคตในแง่ร้ายซะส่วนมาก เช่น การขาดแคลนอาหาร ประชากรเยอะจนทำให้รัฐไม่มีสวัสดิการให้กับคนสูงอายุ สภาพอากาศที่เป็นพิษ ความรุนแรงในครอบครัว ความรักที่คนมอบให้แก่กันน้อยลง และทุกเรื่องจะจบแบบหักมุมตลอด เคยพอรู้เหมือนกันว่า อ.ฟูจิโกะมีเขียนเรื่องสั้นอารมณ์ประมาณนี้ แต่ไม่คิดว่าจะเยอะขนาดนี้ บางเรื่องก็เหมือนกับว่าจะมีอะไรแฝงอยู่ ซึ่งอารมณ์ตรงกันข้ามกับการ์ตูนเรื่องยาวที่ อ.ฟูจิโกะเขียน อย่าง โดเรม่อน, ผีน้อยคิวทาโร่, ปาร์แมน ฯลฯ อย่างสิ้นเชิง

    มาถึงตอนนี้แล้วไม่รู้ว่าจริงๆ แล้ว อ.ฟูจิโกะเป็นคนอารมณ์แบบไหน แบบสนุกสนาน สดใส มองโลกในแง่ดี หรือ มองโลกในแง่ร้าย สิ้นหวัง กันแน่

    บางคนเรียกเรื่องสั้นของอ.ฟูจิโกะว่า "รวมเรื่องสั้นจิตตกของอ.ฟูจิโกะ"

    ปล.ตอนนี้ก็ยังจิตตกไม่หาย
     
  2. leogirlw99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +4,765

    สุดยอดเลยพี่mead ดูแล้วเพลินดี แล้วก็คิดถึงทุก ๆ คนในห้องวิทย์ด้วย
    มีรูปนก รูปหลานธัญญ่า รูปเจ้าโชคดี อิอิ เนี่ย วันนี้ที่บ้านก็อยู่กันพร้อมหน้าเลยล่ะ
    พรุ่งนี้ก็จะไปส่งหลานที่พัทยาล่ะ กลับไปก็คิดถึงเหมือนเดิม
     
  3. เด็กโชว์พาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,082
    ค่าพลัง:
    +470
    ทำนองสะเทือนใจดีจังนะครับ อิอิ
     
  4. JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    GREEZ.Z..ZZZ ทำไมนะ ถึงรู้สึกเคยฟังมาแล้ว อ่ะ
     
  5. amsomegal Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +92
    สอบถามเรื่องแก้ไขเหตุการณ์ในฝันค่ะ --------------------------------------------------------------------------------ได้อ่านสิ่งที่พี่เขียนไว้ในกระทู้แล้ว รู้สึกเข้าใจอย่างมากๆๆๆเลยค่ะหนูรู้สึกตลอดว่า ชื่นชอบสิ่งลึกลับ เร้นลับ และตัวหนูเองมีหน้าที่มากกว่าใช้ชีวิตไปวันๆกับเรื่องปรกติของมนุษย์บนโลกใบนี้และรู้สึกว่ามีบางสิ่งบางอย่าง ที่ต้องทำหรือเรียนรู้ภายใต้ร่างกายนี้และทุกอย่างก็เด่นชัดขึ้นมา และทำให้หนูเข้าใจความรู้สึกแปลกๆนี้ที่มีติดตัวมาตั้งแต่เกิด เพราะไปเจอวลีนี้ของคุณพี่เข้า
     
  6. nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    ทางเลือกและความเชื่อ

     
  7. nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    Spring - Tornado & Microburst season

    เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา พี่นักเขียนได้ยินเสียงประหลาดคล้ายเสียงหม้อแปลงหรือ Transformer short circuit ดังขึ้นมาจากแห่งหนใดไม่ทราบตลอดวัน เดินสำรวจจนทั่วบ้านก็หาต้นกำเนิดของเสียงไม่พบ เสียงที่ได้ยินดังคล้ายเครื่องไฟฟ้าช๊อต

    ตกค่ำฟังข่าวอากาศว่าจะมีพายุฝนและ Tornado Watch จนถึงตีหนึ่ง ซึ่งหมายความว่าอาจจะเกิด Tornado แต่ไม่แน่นอน แต่ถ้าเขาเตือนว่า Tornado Warning หมายถึงว่าพายุ Tornado ได้เกิดขึ้นใน area ใกล้ๆแล้ว และจะมาถึง area นี้ภายในเวลาไม่กี่นาทีข้างหน้า ซึ่งตามปกติแล้วหากมีพายุ Tornado พัดเข้ามาในรัศมีของตัวเมือง ทาง City จะเปิดสัญญาณเตือนภัยดังคล้ายเสียงหวูดรถไฟ ซึ่งจะได้ยินไปทั่วทั้งเมือง คืนนั้นพี่นักเขียนก็เข้านอนตั้งแต่ยังไม่มีวี่แววของพายุ มีเพียงฝนตกเป็นระยะเท่านั้น

    ปรากฏว่ากลางดึก พี่นักเขียนตื่นขึ้นมาดูนาฬิกา เป็นเวลา 1:30am ซึ่งน่าจะเป็นเวลาที่เขาเตือนว่าอาจจะมีพายุได้ผ่านพ้นไปแล้ว แต่เหตุที่ตื่นเพราะได้ยินเสียงเครื่องไฟฟ้าช๊อตอย่างที่ได้ยินมาตลอดวัน แต่ว่าดังกว่าหลายสิบเท่าจนบ้านสะเทือน ประกอบกับมีฟ้าร้อง ฟ้าแล้บและมีลูกเห็บตกกระทบหลังคาและหน้าต่างเกรียวกราวไปหมด

    พี่นักเขียนเชื่อว่า Tornado touch down หรือมี Microburst เกิดขึ้นใน area ใกล้เคียง Microburst เป็นลมกรรโชกคล้าย Tornado แต่แทนที่จะหมุนเป็นรูปกรวยเหมือน Tornado Microburst จะเป็นลมกรรโชกที่กดลงในแนวดิ่งแล้วแผ่ออกทุกทิศทาง หากมันกดลงบนอาคารบ้านเรือนก็เหมือนกับถูกยักษ์บดขยี้ พี่นักเขียนเชื่อว่ามี Tornado หรือ Microburst เกิดขึ้นใกล้ตัว จึงชวนสามีให้คว้าไฟฉายติดมือไป แล้วย้ายลงไปนอนให้ห้องนอนชั้นล่างของบ้าน ซึ่งอยู่ใน Basement

    เสียงประหลาดที่ได้ยินมาตลอดวันดังกระหึ่ม ราวกับว่ามีเครื่องจักรขนาดยักษ์กำลังเกิดไฟฟ้าช๊อตอยู่นอกตัวบ้าน แต่ไม่ทราบว่าอยู่ทิศไหนเพราะมันดังไปรอบบ้าน พี่นักเขียนลุกขึ้นได้ไม่ถึงนาที ไฟฟ้าก็ดับหมด บ้านของพี่นักเขียนอยู่บนเขา มองออกไปนอกหน้าต่างก็พบว่า ไฟฟ้าดับหมดทั้ง neighborhood และตลอดถนนที่ทอดลงไปสู่ downtown ไกลลิบก็มืดมิด

    แม้จะหลบลงไปนอนใน Basement แต่เสียงลมกรรโชก ประกอบกับความสั่นสะเทือน ตลอดจนฟ้าร้องฟ้าแล้บ และลูกเห็บที่กระหน่ำไม่ขาดสายก็ทำให้นอนหลับไม่ได้ จนกระทั่งเวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมง แต่รู้สึกยาวนานราวกับหลายชั่วโมง พายุก็สงบ

    เช้าขึ้นทราบข่าวว่า โรงเรียนที่อยู่ห่างจากบ้านพี่นักเขียนไปเพียง 4 block ถูกพายุ Microburst หอบเอาหลังคาหายไปครึ่งหนึ่ง และบ้านเรือนใน neighborhood เดียวกันรั้วพังเป็นแถบๆ ป้ายชื่ออาคาร ซึ่งมักทำเป็นกำแพงสูงประมาณ 2 เมตร ตั้งอยู่ในสวนหย่อมหน้าอาคารสำนักงานต่างๆล้มระเนระนาด แต่ก็ไม่มีใครได้รับอันตรายแต่อย่างใด ต่างก็ลุกขึ้นมาทำความสะอาดเก็บกวาดใบไม้และตามเก็บกระถางต้นไม้และข้าวของอื่นๆที่ปลิวไปทุกทิศทาง และซ่อมสิ่งต่างๆที่เสียหายจากพายุ

    ไฟฟ้าดับเป็น area กว้างหลายพันหลังคาเรือน และตามข่าวแจ้งว่า Transformer เกิดไฟฟ้าช้อตหลายแห่งทั่วเมือง ทำให้พี่นักเขียนตระหนักว่าที่ได้ยินเสียงมาจากไหนไม่ทราบก่อนหน้าพายุจะมาคืนนั้น เป็นการได้ยินสิ่งที่ยังมาไม่ถึง แต่ก็เป็นสัญญาณเตือนภัยที่ใช้ได้

    สายวันนั้นแดดออกสดใส แม้ใบไม้อ่อนๆจะร่วงเต็มระเบียงหลังบ้านไปหมด แต่ดอกไม้บนต้น Red Bud ที่เพิ่งนำมา post เมื่อสองวันก่อนนี้ก็ยังคงสภาพอยู่บนต้น นกหลากสีปรากฏให้เห็นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน กระรอก กระต่าย ออกมาวิ่งเล่นอย่างร่าเริงราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ พี่นักเขียนจับภาพนกสีแปลกไว้ได้หลายตัวในชั่วเวลาห่างกันเพียงไม่กี่นาที เมื่อเห็นนกสวยๆเหล่านั้น พี่นักเขียนเชื่อว่าพายุร้ายได้ผ่านพ้นและสลายตัวไปแล้ว และอดคิดไม่ได้ว่าธรรมชาตินำสิ่งที่สวยงามกลับมาให้เราชื่นชมเสมอหลังพายุร้าย เป็นการปลอบขวัญจากธรรมชาติที่เต็มไปด้วยความสมดุลย์ หรือแทบจะเรียกได้ว่าเป็นความเมตตาและความยุติธรรมที่ธรรมชาติมีให้มนุษย์อยู่เสมอ (rose)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_3811.jpg
      ขนาดไฟล์:
      537 KB
      เปิดดู:
      25
    • IMG_3813.jpg
      ขนาดไฟล์:
      685 KB
      เปิดดู:
      19
    • IMG_3814.jpg
      ขนาดไฟล์:
      532 KB
      เปิดดู:
      19
    • IMG_3815.jpg
      ขนาดไฟล์:
      779.4 KB
      เปิดดู:
      23
    • IMG_3800_2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      545.6 KB
      เปิดดู:
      23
    • IMG_3829_2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      468.7 KB
      เปิดดู:
      28
    • IMG_3859_2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      502.3 KB
      เปิดดู:
      27
    • IMG_3861_2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      414.5 KB
      เปิดดู:
      22
    • IMG_3868_2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      454.3 KB
      เปิดดู:
      26
    • IMG_3870_2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      439.2 KB
      เปิดดู:
      22
    • IMG_3871_2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      467.5 KB
      เปิดดู:
      20
    • IMG_3927_2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      422.9 KB
      เปิดดู:
      24
    • IMG_4029.jpg
      ขนาดไฟล์:
      401 KB
      เปิดดู:
      26
  8. nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    Thank You

    THANK YOU

    ขอบคุณ คุณ Mead หัวหน้าห้องฯและพวกเราชาวห้องวิทย์ฯทุกท่าน
    สำหรับ VDO ซึ่งเป็นของขวัญที่รวมเราเป็นหนึ่งเดียว (rose)
     
  9. nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    ปาฏิหารย์ กับ ความเชื่อ




    พี่นักเขียนขอนำคำถามจาก e-mail มาตอบในห้องวิทย์ฯ เพราะเห็นว่าเป็นคำถามที่ดี น่าคิด และควรแก่การทำความเข้าใจให้กระจ่างแจ้ง

    ท่านอาจารย์อนาลัยกล่าวว่า
    เธอทั้งหลายสร้างโลกแห่งความเป็นจริง ด้วยความเชื่อของตนเอง

    คำกล่าวของท่านทำให้เราตระหนักว่า ประสบการณ์ชีวิต ตลอดจนสุขภาพร่างกายของเรา ล้วนเกิดหรือถูกสร้างสรรค์ขึ้นจากอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่คล้อยตามความเชื่อของตนเอง

    การเดินบนน้ำ การเหาะเหินเดินอากาศ ล้วนเป็นสิ่งที่ไม่ได้เป็นไปตามกฏเกณฑ์ของโลกทางกายภาพที่จิตวิญญาณของเราเลือกมาถือกำเนิด เมื่อจิตวิญญาณของเราถือกำเนิดเป็นร่างกายเนื้อหนัง เราเลือกที่จะมาถือกำเนิดภายใต้กฎเกณฑ์ของช่องว่าง-ระยะทางและกาลเวลา ตลอดจนแรงโน้มถ่วงของโลก

    ช่องว่าง-ระยะทางและกาลเวลา ตลอดจนแรงโน้มถ่วงของโลก เป็นความท้าทายที่จิตวิญญาณเลือกมาเผชิญในร่างกายเนื้อหนัง

    แม้ว่าจิตวิญญาณจะอยู่นอกเหนือกฏเกณฑ์ของช่องว่าง-ระยะทางและกาลเวลา ตลอดจนแรงโน้มถ่วงของโลก และเราทั้งหลายก็สามารถเดินทาง หรือกลับไปสู่อดีตและอนาคตได้ด้วยความคิด เหาะเหินเดินอากาศหรือเดินบนน้ำได้ด้วยจิตวิญญาณ ผ่านจินตนาการและความคิด แต่เมื่อเราเลือกมาถือกำเนิดเป็ฺนรูปกายที่ดำเนินชีวิตในโลกทางกายภาพ ภายใต้กฏเกณฑ์ของช่องว่าง-ระยะทางและกาลเวลา ตลอดจนแรงโน้มถ่วงของโลก ก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะอยู่เหนือกฏเกณฑ์ทั้งหมดได้-ด้วยรูปกาย หรือด้วยร่างกายเนื้อหนังของเรา

    ท่านอาจารย์อนาลัยกล่าวว่า เราคือจิตวิญญาณที่มาถือกำเนิดเป็นร่างกายเนื้อหนัง
    และท่านได้กล่าวว่า เราไม่จำเป็นต้องติดกับอยู่ในร่างกายเนื้อหนังตลอดวันคืนเสมือนแมลงวันที่ขังตัวเองอยู่ในขวดแก้ว ซึ่งมีความเชื่อของเราเปรียบเสมือนฝาปิดที่ทำให้เราไม่สามารถจะเป็นอิสระจากช่องว่าง-ระยะทางและกาลเวลา ตลอดจนแรงโน้มถ่วงของโลกได้เลย แต่ยามหลับ-เราก็เป็นอิสระเสมอๆโดยไม่รู้ตัว

    การอยู่นอกเหนือกฏเกณฑ์ของโลกทางกายภาพ คือนอกเหนือกฏเกณฑ์ของช่องว่าง-ระยะทางและกาลเวลา ตลอดจนแรงโน้มถ่วงของโลก เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ด้วยการเปลี่ยนวิถีการจดจ่อของจิตวิญญาณด้วยสติสัมปชัญญะ ไปสู่ภาวะที่เป็นธรรมชาติที่แท้จริงของจิตวิญญาณ อันได้แก่ภาวะที่รู้เห็นด้วยประสาทสัมผัสที่หก ละจากการรู้เห็นด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้าผ่านร่างกายเนื้อหนัง

    ดังนั้นต่อคำถามของคุณน้องที่ว่า เราสามารถเดินบนน้ำ หรือเหาะเหิน เดินอากาศโดยที่ไม่ต้องฝึกก้อได้ ขอเพียงแค่เรา"เชื่อ"ว่าเราทำได้ เราก็สามารถทำแบบนี้ได้แล้ว - เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ไหม?

    คำตอบคือ เราไม่สามารถเดินบนน้ำหรือเหาะเหินเดินอากาศได้ด้วยรูปกายที่อยู่ภายใต้กฏเกณฑ์ของโลกทางกายภาพ แต่เราสามารถเดินบนน้ำหรือเหาะเหินเดินอากาศได้ด้วยจิตวิญญาณ ซึ่งปราศจากรูปกาย หรือมีรูปกายเป็นจินตภาพ ซึ่งไม่ได้อยู่ภายใต้กฏเกณฑ์ของโลกทางกายภาพ การนำความสามารถที่แท้จริงของจิตวิญญาณมาใช้ได้หรือไม่นั้น อยู่ที่ความเชื่อและความรู้เป็นสิ่งแรก

    หากเชื่อว่าทำได้และรู้ว่าทำได้ ย่อมทำได้ และ เมื่อทำได้แล้ว ก็จะรู้ว่าทำได้
    หากไม่เชื่อและไม่รู้ว่าทำได้ ย่อมทำไม่ได้ หรือ อาจทำได้ แต่ก็ไม่รู้ตัวว่าทำได้


    ดังนั้นการนำความสามารถที่แท้จริงของจิตวิญญาณมาใช้ได้หรือไม่นั้น จึงเป็นไปได้ด้วยการฝึกฝน คือฝึกฝนที่จะใช้ประสาทสัมผัสภายใน ซึ่งพี่นักเขียนแนะนำพวกเราเสมอมาว่า เริ่มต้นด้วยการฝึกสมาธิ ฝึกฝัน และฝึกที่จะใช้สัญชาติญาณ และให้เชื่อถือในสิ่งที่เราทำได้ รู้เห็นได้ นอกเหนือประสาทสัมผัสทั้งห้า

    ความเชื่อที่ฝังรากลึก ไม่ได้ทำให้รูปกายที่เป็นเนื้อหนังไม่สามารถเอาชนะกฏเกณฑ์ของช่องว่าง-ระยะทางและกาลเวลา ตลอดจนแรงโน้มถ่วงของโลกได้ แต่ความเชื่อที่ฝังรากลึกทำให้เราจำกัดความสามารถของจิตวิญญาณลงเหลือเท่ารูปกายทางกายภาพ ซึ่งท่านอาจารย์อนาลัยกล่าวว่า เราไม่จำเป็นจะต้องทำเช่นนั้น และจิตวิญญาณของเราก็มีทั้งความรู้และความสามารถที่ไม่เคยสูญสลายไปไหน หากแต่ถูกบดบังด้วยความเชื่อของเรา

    พวกเราอาจเคยเห็นบุคคลที่ใช้อิทธิฤทธิ์กันมาบ้างไม่มากก็น้อย และข้องใจว่า คนเหล่านั้นนำพลังอำนาจตามธรรมชาติของจิตวิญญาณมาใช้ด้วยร่างกายเนื้อหนัง หรือทำให้ร่างกายเนื้อหนังอยู่นอกเหนิือกฏเกณฑ์ของโลกทางกายภาพได้อย่างไร?

    ในสหรัฐ บุคคลที่แสดงปาฏิหารย์เหล่านี้ ได้รับสมญาว่า Illusionist หรือนักมายากล อันได้แก่ผู้ที่ทำให้ผู้ชมแลเห็นการกระทำอันเป็นเสมือนปาฏิหารย์ ซึ่งพี่นักเขียนเชื่อว่า ทุกวันนี้เรามี technology ที่ทำให้เกิดภาพลวงตาได้มากมายจนเราแทบจะพิสูจน์ไม่ได้ว่า การแสดงเหล่านั้นเป็นปาฏิหารย์อันเปล่าเปลือยหรือเป็นการใช้ technology ลวงตา

    ท่านอาจารย์อนาลัยได้กล่าวไว้ว่า ปาฏิหารย์ที่แท้จริง คือ ธรรมชาติซึ่งปราศจากการขัดขวาง

    พี่นักเขียนขอให้พวกเราใช้วิจารณญาณ และพิสูจน์ความเป็นจริงด้วยตนเอง เพราะหลายสิ่งหลายอย่างเกี่ยวกับการเกิดปาฏิหารย์ มักเป็นสิ่งที่คนจำนวนมากบอกต่อกันมามากกว่าที่จะรู้เห็นและพิสูจน์ด้วยตนเอง จนในที่สุดพวกเราจำนวนมากก็ตกเป็นเหยื่อความเชื่อของตนเองว่า ปาฏิหารย์เหล่านั้นเป็นความจริง ทั้งที่เราไม่ได้เคยรู้เห็นหรืิอพิสูจน์ด้วยตนเองนอกจากได้ยิน-ได้ฟังมาอีกหลายต่อ

    ในทางตรงกันข้าม หากปาฏิหารย์เกิดขึ้นกับตนเอง เช่น หากเรารู้เห็นในสิ่งที่เราไม่น่าจะรู้ได้ หรือรู้ไม่ได้ด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้า หากเรารักษาโรคให้ตนเองได้ด้วยการเปลี่ยนความเชื่อ เรากลับมองไม่เห็นและรู้ไม่ได้ เพราะเราปราศจากความเชื่อหรือความมั่นใจในตนเอง(rose)
     
  10. VeggieGuy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    3,942
    ค่าพลัง:
    +4,262
    สวย

    ดอกไม้ที่พี่นักเขียน post สวยงามมากเมื่อตัดกับแดดหลังพายุ ทำให้นึกถึงดอกไม้ที่บ้านเราซึ่งตอนนี้กำลังออกดอกสวยงามเช่นกัน เลยโพสต์ลงบ้าง (แต่ไม่ได้ถ่ายเองหรอกนะครับ)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • ratchapeg.jpg
      ขนาดไฟล์:
      70.4 KB
      เปิดดู:
      16
    • ratchapeg1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      70.2 KB
      เปิดดู:
      18
    • kalapruek.jpg
      ขนาดไฟล์:
      183.6 KB
      เปิดดู:
      19
  11. VeggieGuy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    3,942
    ค่าพลัง:
    +4,262
    หวยๆ

    สืบเนื่องมาจากเรื่องความฝัน คราวนี้ขอเป็นคำถามแบบคลายเครียดหน่อยนะครับพี่นักเขียน
    เพราะตอนนี้เมืองไทยค่อนข้างเครียด โดยเฉพาะเรื่องการบ้านการเมือง และภาวะข้าวยากหมากแพง
    ความฝันกับเรื่อง "หวย" นี่เกี่ยวข้องกันไหมครับ เพราะเห็นคนชอบเอาความฝันมาตีเป็นหวย ถูกบ้าง ถูกกินบ้าง
    แต่ก็ดูเหมือนว่ามันเกี่ยวข้องกันนะครับ ถ้าเราอยากให้เรื่องนี้ชัดเจนขึ้น จะมีวิธีทำได้อย่างไร (มีแผนการชั่วร้าย 555)
    พูดก็พูดเถอะ เรื่องจิตวิญญาณก็สนใจอยู่หรอก แต่ก็อยากถูกหวยหรือล็อตเตอรีบ้างเหมือนกัน
     
  12. zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    อันนี้เล่าเฉยๆ

    วันก่อนอ่าน อมตะแห่งจิตวิญญาณ(ภาคต้น) ก็อ่านถึงตอนที่อธิบายว่า(ตามความเข้าใจของตัวเองนะ) โลกแห่งความจริงนั้นมีหลายมิติหลายความถี่ โลกที่เราคุ้นเคยก็เป็นความถี่ในย่านนึง ในความถี่อื่น ก็มีโลกแห่งความจริงอื่น เช่นโลกของวิญญาณของผี ที่บางคนก็เคยประสบพบเห็นมา

    จริงๆ ในหนังสืออธิบายชัดเจนเห็นภาพอยู่นะ แต่ก็อดคิดต่อไม่ได้ ก็คิดไปว่ามันจะคล้ายๆ กับทะเลหรือเปล่านะ ที่ว่าในที่ความลึกนึง ก็จะเห็นปลาอย่างนึง พอที่ระดับความลึกอีกระดับนึงก็จะเห็นอีกอย่างนึง เช่นปลาที่ผิวน้ำก็จะเป็นอีกอย่าง ปลาในน้ำลึกก็จะอีกอย่าง ปลาในน้ำลึกในที่ที่ไม่มีแสงเลยก็อีกอย่าง สมมติเราคือคนที่อยู่ในเรือดำน้ำ ถ้าเราอยู่แค่ระดับความลึกเท่านี้เราก็จะเห็นแค่ปลาอย่างนี้

    ระดับความลึกของทะเลก็เหมือนระดับมิติของโลกความจริงที่ซ้อนๆ กันหลายๆ โลก ปลาที่อยู่กลางน้ำ กับปลาที่อยู่น้ำลึกอาจจะว่ายอยู่ตำแหน่งเดียวกันแต่คนละความลึกกันก็เลยมองไม่เห็นกัน

    ถามปลาที่อยู่กลางน้ำว่าเคยเห็นปลาที่มีแสงในตัวมั๊ย ก็คงบอกว่าปลาแบบนั้นไม่มีจริงอยู่ในโลกหรอก แต่ถ้าวันดีคืนดีถ้ามีคลื่นใต้น้ำซัดให้ปลาน้ำลึกขึ้นมากลางน้ำ ปลาที่กลางน้ำก็คงนึกว่าเป็นปลานอกโลกโผล่มา หรือปลาที่เห็นแล้วเอาไปเล่าต่อให้ปลาตัวอื่น ก็คงมองว่าเพ้อเจ้อ

    แต่ถ้าถามปลาที่สามารถว่ายอยู่ที่ระดับผิวน้ำและลึกมากๆ ได้ ก็คงบอกว่าเคยเห็นอยู่เหมือนกัน ไม่ใช่เรื่องแปลก
     
  13. amsomegal Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +92
    ไหนๆก็ถามคำถามพี่ nova ไปแล้ว ก็ขอเข้าร่วมเป็นสมาชิกของห้องวิทย์นี้ อย่างเป็นทางการค่ะ ^^ อิๆ

    ตอนนี้ก็อ่านหนังสือ จบไปสองเล่มแล้วอ่ะค่ะ ลองทำแบบฝึกหัดที่หนึ่งไปแล้ว ที่ให้ได้ในสิ่งที่เราปราถนา และจดจ่อกับมัน แต่แบบฝึกหัดที่ สอง ที่ให้เราหลับตาและให้อยู่ในความมืดมิด ทำได้แป๊บเดียวก็รีบลืมตาแล้วค่ะ มันรู้สึกวืบๆ เหมือนได้ยินเสียงแปลกๆ

    แต่เรื่องความฝันนี่ ก่อนหน้านี้หนูก็มีความฝันที่โลดโผนพอตัวเลยค่ะ แต่พอก่อนนอนตั้งใจว่าขอให้ฝัน ถึงตัวตนของหนูในมิติอื่นๆ ว่าเป็นใครบ้าง กลับฝันเห็นแต่ชาติภพปัจจุบัน กลายเป็นแค่เหตุการณ์ประจำวันซะงั้น อยากรู้ว่าถ้าจะให้ฝันถึงตัวตนของเราในมิติอื่นๆ ถ้าตั้งใจขอฝันมาสามคืนแล้ว ยังฝันถึงแต่ชาติภพนี้ ควรจะทำยังไงให้ฝันได้ตามที่ขอฝันคะ
     
  14. khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    เก่งมาก ๆ เลยค่ะคุณ Mead นี่ขนาดว่าเป็นมือใหม่หัดทำนะคะเนี่ย น่ารักมาก ๆ เลยค่ะ ช่วงนี้ได้ข่าวว่าพี่จินต์กำลังเจอกับบททดสอบทางจิตวิญญาณอย่างหนัก ก็เลยขอร่วมเป็นกำลังใจให้พี่จินต์สามารถผ่านพ้นช่วงนี้ไปให้ได้ ไม่ว่าบททดสอบนั้นจะหนักหนาสาหัสสักแค่ไหน ก็ขอให้รับรู้ไว้ด้วยว่าพวกเราจิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์ยังยืนอยู่เคียงข้างคอยให้กำลังใจอยู่เสมอค่ะ.. สู้สู้..

    และขอแสดงความยินดีกับคุณ Mead ด้วยนะคะที่สามารถแก้ปัญหาในช่วงที่ผ่านมาได้ วันก่อนที่คุยกันก็รู้สึกว่าคุณ Mead กำลังมีเรื่องไม่สบายใจอยู่ แต่พอดีวันนั้นเราก็กำลังตกอยู่ในภวังค์อยู่เหมือนกันค่ะ เลยไม่ได้คุยอะไรกันเท่าไหร่.. อิอิ..(u) (u) (u)
     
  15. khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    (f) ยินดีต้อนรับคุณ amsomegal เข้าสู่ห้องวิทย์ฯ ค่ะ..(f)
    (smile) (smile) (smile) :cool: :cool: :cool:
     
  16. amsomegal Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +92
    หวัดดีค่ะพี่ khajornwan ^^ เราจะได้มาศึกษาความจริงๆพร้อมๆกันนะคะ

    เพิ่มเติมอีกนิดค่ะ วันนี้ลองนั่งสมาธิดูขอให้เห็นตัวตนของตัวเองในมิติอื่นๆ ก็เหมือเห็นว่าตัวเองเป็นหญิงสาในชาติภพนึงที่มีความมั่นใจสูง ซึ่งแตกต่างจากตัวตนของหนู ในภพนี้ มิตินี้เลยค่ะ ที่เป็นคนขาดความมั่นใจ

    อยากทำให้เกิดประโยชน์ เหมือนที่พี่ nova พูดไว้ว่า

    "เราสามารถถ่ายทอด ทักษะ และความสามารถจากตัวตนอื่นๆของเราในต่างภพ ต่างมิติ มาสู่ตัวตนปัจจุบันของเราได้"

    ก็อยากถ่ายทอดความมั่นใจจาก ตัวตนของหนูในอีกชาติภพหนึ่งมาสู่ตัวตนของหนู ในปัจจุบันนี้ แต่นอกจากทางฝันแล้ว ทำได้อย่างไรอีกมั่งคะ?
    เพราะพยายามขอให้ตัวเองฝันถึงตัวตนอื่นๆ ในชาติภพอื่น มาหลายคืนแล้ว แต่ก็ไม่เคยฝันสักที มีแต่ฝันถึงชิวิตประจำวันของชาติภพนี้เท่านั้น
     
  17. mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    ขอต้อนรับคุณ amsomegal สู่ห้องวิทย์ฯ อย่างเป็นทางการด้วยครับ
    ที่ PM มาถามยังไม่ได้ตอบเลย ขอนำมาตอบตรงนี้แล้วกันเผื่อจะมีใครช่วยกันตอบได้มากขึ้นนะครับ

    ลักษณะที่คุณ amsomegal พูดถึงเหมือนอยู่ในภวังค์ลึกๆนะครับ (กึ่งหลับ-กึ่งตื่น) สติสัมปชัญญะส่วนที่จดจ่อภายนอกร่างกายหยุดทำงานไปแล้ว แต่สติสัมปชัญญะที่จดจ่อกับร่างกายยังคงทำงานต่อไปอย่างอัตโนมัติ ส่วนสติสัมปชัญญะที่จดจ่อตัวตนภายในยังสามารถรับรู้ ด้วยอารมณ์ จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดอย่างเต็มที่และส่งข้อมูลให้สมองตีความหมายได้ในทันที จึงยังควบคุมและจดจำเรื่องราวได้ทั้งหมด ถือเป็นการรู้เห็นด้วยประสาทสัมผัสที่หกเช่นกันครับ เพราะอย่างน้อยมันก็สนับสนุนให้เรามั่นใจว่าเราได้เห็นเรื่องราวนั้นจริงๆ ไม่ใช่การคิดไปเองด้วยการใช้สมองเท่านั้น แต่พอหลับเข้าจริงๆ สติ+สัมปชัญญะอาจหลุดไปบ้างก็จะจำหรือควบคุมอะไรไม่ได้เท่าที่ควร เพราะสมองอาจไม่ชินกับข้อมูลที่เป็นนามธรรมจึงสังเคราะห์ตีความหมายออกมาไม่ชัดครับ ยังไงต้องขอให้พี่นักเขียนช่วยขยายความด้วยถ้าหากตอบไม่กระจ่าง เห็นช่วงนี้พี่นักเขียนมีคำถามยาวเลยนะครับ ใครพอตอบได้ช่วยกันตอบหน่อย ทบทวนครับ
     
  18. รักไร้พ่าย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    886
    ค่าพลัง:
    +2,861
    สวัสดีครับพี่นักเขียน
    ผมหายไปนาน เพราะมัวแต่ไปดูดวงให้กับเพื่อนๆในเวบนี้
    และอยู่ห้องวิทย์ข้างนอก จึงไม่ได้เข้ามาคุยด้วย

    มีคำถามมาฝากพี่นักเขียนอีกแล้วครับ

    1 ความวิตกกังวล ถึงเหตุการณ์ในอนาคตของคน
    ย่อมเกิดแก่ทุกคนที่ไม่รุ้อนาคต แต่ท่านอนาลัยหรือพี่นักเขียน
    เคยบอกว่า เหตุการณ์ต่างๆได้เกิดขึ้นพร้อมกันในมิตของ
    จิตวิญญาณ เช่น กรณีของพี่นักเขียน ที่ท่านอนาลัยเคยบอกว่า
    พี่นักเขียน ได้เขียนหนังสือชุดโนวา อนาลัยเสร็จก่อนที่จ
    ะลงมือเขียน
    นั่นแสดงว่าเหตุการณ์ทางมิติกายภาพ ที่มีระยะทาง
    กาลเวลา อดีต ปัจจุบัน อนาคต เป็นเพียงเครื่องฉายของ
    มิติจิตวิญญาณใช่หรือไม่ครับ

    ถ้าเป็นดังนี้ ความเป็นไปทั้งหมดย่อมเกิดขึ้นเรียบร้อยแล้วหรือไม่ครับ
    ถ้างั้นแล้วเราก็ไม่ควรไปวิตกกับอนาคต เพราะมันได้ถูกกำหนดแล้ว
    เช่น เรื่องงาน เนื้อคู่ หรือการตายของเรา
    แต่ผมก็ยังสงสัยว่า ถ้าเช่นนั้นแล้วการกระทำของเราในปัจจุบัน
    ก็อาจไร้ความหมาย เพราะมันถุกกำหนดไว้แล้ว แต่ผมได้ยินมาว่า
    เราสามารถเปลี่ยนวิถีชีวิตได้จากปัจจุบัน

    ผมสงสัย สิ่งถูกกำหนดมาแล้ว กับ การกำหนดการกระทำของเรา
    ในปัจจุบัน อันไหนคือความจริง

    2 ทำมบางครั้งคนเราจึงมีแรงบันดาลใจทำสิ่งที่รักได้
    แต่พอทำไปสักพัก อยู่ๆแรงบันดาลใจนั้นก็หมดไป หรือหายไปเฉยๆ
    โดยไม่ทราบสาเหตุ เกิดจากอะไรครับ แล้วจะทำอย่างไรให้
    เรามีแรงบันดาลใจตลอดเวลา

    3 การฝันเพื่อค้นหาศักยาภาพตนเอง หรือรุ้ความจริงแท้
    ของชีวิตและจักรวาลนั้น สามารถเข้าถึงหรือหยั่งรู้ได้โดยการ
    ฝึกสมาธิทั่วไปหรือไม่ครับ
    คือบางครั้งวิถีการฝึกฝันตามวิธีของท่านอนาลัย บางคนอาจ
    ไม่ถนัด แต่อาจถนัดทางการทำสมาธิมากกว่า จะสามารถรู้และเข้าใจ
    ตรงกันได้ไหมครับ เหมือนจุดมุ่งหมายที่เดียวกันแต่วิธีเข้าถึงต่างกัน
    อย่างจุดหมายคือเชียงใหม่ แต่ไปได้หลายทาง ทางรถ ทางเรือ

    รบกวนพี่นักเขียนเท่านี้นะครับ
    ขอบคุณครับ
     
  19. zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    เห็นถามกันเรื่องความฝันกับสติสัมปชัญญะ ก็เลยนึกขึ้นได้ว่ามีคำถามนึงที่คิดจะมาถาม

    คือจากที่อ่านตอน อมตะของจิตวิญญาณ(ภาคต้น) เขียนว่าการหลับโดยที่มีสติสัมปชัญญะ จะทำให้สติสัมปชัญญะภายในติดต่อกับสติสัมปชัญญะภายนอกได้ ทำให้การรักษา, ฟื้นฟูร่างกายทำได้ดียิ่งขึ้น

    เลยนึกได้ว่ามีคนบอกว่าคนที่ทำสมาธิหน้าตาจะอ่อนเยาว์ ก็เลยคิดว่าเป็นเพราะว่าการทำสมาธิเมื่อเข้าภวังค์ลึกๆ ก็จะมีสภาพเหมือนกับว่าปิดการรับรู้จากประสาทสัมผัสทั้ง 5 แต่ว่าตอนนั้นก็ยังมีสติสัมปชัญญะอยู่ จึงมีสภาพเหมือนกับการนอนหลับอย่างมีสติ ใช่หรือเปล่าครับ? จึงทำให้ร่างกายสามารถฟื้นฟูสภาพร่างกายได้ดีขึ้นในขณะที่กำลังทำสมาธิอยู่นั้น
     
  20. amsomegal Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +92
    สวัสดีค่ะ คุณรักไร้พ่าย เราไม่ได้รู้คำตอบทุกข้อที่คุณถามมา แต่เราขอตอบข้อที่ 1 ซึ่งถ้าไม่ตรงประเด็นหรือครุมเครืออย่างไร ก็รอพี่นักเขียนของเรานะคะ

    จากที่เราอ่านจบเรื่อง ขยายความ ธรรมชาติของชาติภพ ท่านอาจารย์ nova ได้กล่าวว่า อนาคตชาติ อดีตชาติ มีอยู่-เป็นอยู่-และดำเนินเอยู่พร้อมกันหมดในปัจจุบันชาติ ซึ่งก็หมายความว่าทุกสิ่งที่ถูกกำหนดมาแล้วนั้น เกิดจากความเชื่อของเรา โดยที่เราไม่รู้ตัว แต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้จากการกระทำของเราในปัจจุบัน
    หรือพูดอย่างง่ายๆว่า การกระทำของเราคือ ความจริงที่สุด
    และเราสามารถกำหนดอนาคตชีวิตของเราเอง จากกระทำใน"ปัจจุบัน"ของเราเท่านั้น
    เช่นถ้าเราไปดูหมอที่เราเชื่อว่าแม่นมากที่สุด ว่าชีวิตของเราในอนาคตอันใกล้อาจจะต้องประสปเหตุการณณื ที่เราไม่พึงพอใจ เช่นผิดใจกับคนรัก
    จะทหให้เรารู้ทันทีว่า ณ ปัจจุบันนี้เรากำลังกระทำ และมีความคิดที่จะทำให้เหตุการณ์ดำเนินไปในเส้นทางนั้น
    เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว เราก็สามารถเปลี่ยนความคิดและการกระทำ ของเราในปัจจุบันได้ในทันที เพื่อให้เส้นทางอนาคตของเราเปลี่ยน และไม่ต้องไปผิดใจกับคนรัก ถ้าเราไม่ต้องการ
    ดังนั้น "การกระทำในปัจจุบันของเรา คือความจริง และสามารถเปลี่ยนสิ่งที่ถูกกำหนดไว้แล้วได้ค่ะ"
     

แชร์หน้านี้