แหม..มัน..มามุกนี้
ฉันคงไม่มีปัญญาเข้าถึงได้เหมือนแกหรอก
ก็แค่ตอบมา..ก็เท่านั้น..
ฉันไม่มีจิตเหมือนแก จะให้ฉันเข้าถึงอะไรได้..
ยังกวนโอ๊ยเหมือนเดิมนะแก..นังตัวดี
เตรียมตัวให้พร้อม!มันกำลังมา แจ้งข่าวสารการชำระโลก
ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย jityim, 23 เมษายน 2018.
หน้า 71 ของ 183
-
แต่ละคนอาจมีบุญวาสนาบารมีมาแตกต่างกัน...
สำหรับตัวจิตยิ้มเองแล้ว....
สองประโยค....ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์นี้ยังใช้ได้ดีต่อตนเองค่ะ นั่นคือ....
มนุษย์แต่ละคนผู้มีหน้าที่ต้องกำจัดผลกรรมใด ๆ ย่อมไม่มีวันหนีการเผชิญผลกรรมของตนไปได้ฉันใด
และ....
สิ่งใดที่เจ้าทำหรือแสดงออกเสียจนเคยตัวแล้ว เจ้าคิดว่าจะละวางมันได้ง่าย ๆ เช่นนั้นหรือ? ปัจจุบันนี้เจ้าเป็นมนุษย์ซึ่งมีเพื่อนมนุษย์คนอื่น ๆ อยู่แวดล้อมรายรอบตัวเจ้าเพื่อคอยช่วยเหลือด้วยการมอบเงื่อนไขหรือบททดสอบและบทเรียนอันหลากหลาย เพื่อให้ต่างคนต่างฝ่ายได้เผชิญเรียนรู้กันอยู่ทุกวี่วัน พวกเจ้ายังไม่สามารถใช้โอกาสดี ๆ เช่นนี้ยกระดับจิตสำนึกด้านบวกของพวกเจ้าได้ดีเท่าที่ควรจะเป็นกันอยู่เลยมิใช่หรือ?
นี่ใช่เลยค่ะ เพราะว่า..สอบผ่านแต่ละบททดสอบ มันยากเหลือเกิน สำหรับตัวเอง
ซึ่งถ้าสามารถครอง "สติ" จนเกิด มหาสติ ตามที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์กล่าวไว้
คำว่า "มหาสติ" หมายถึง การที่มนุษย์สามารถทำให้จิตสงบบริสุทธิ์ และเป็นอิสระเหนือทุกสิ่ง ไม่ตกเป็นทาสทางอารมณ์ของตนเองโดยสิ้นเชิง ด้วยการรู้แจ้งในทุกสิ่งที่เผชิญจนเกิดความเข้าใจ ยอมรับได้ ปฏิบัติได้....
ตนเองก็คงปฏิบัติเป็นไปได้โดยง่ายนะค่ะ -
-
-
แล้วมาบอกให้ฉันเข้าถึงอะไร.ในเมื่อแกเองก็ยังเข้าไม่ถึง
แล้วไอ้ที่อ้างว่า หยั่งรู้ได้ เนี่ย...จะมีจุดสิ้นสุดมั้ย.?
หรือจะ หยั่ง จะมโน ไปเรื่อย
... -
ความรู้นี้เป็นเพียงแค่บางส่วนก็ได้ค่ะ
เพราะ..มนุษย์ในโลกนี้ต่างล้วนพึ่งพาซึ่งกันและกัน
จิตยิ้มยังต้องอาศัยผู้รู้ที่คอยช่วยเหลืออยู่เลยค่ะ
เปรียบเสมือน ชาวนา เขาก็เก่งในอาชีพของเขา หรือ คนที่สร้างอาคารเทคโนโลยีให้เราได้ประโยชน์ในการใช้สอย ซึ่งเราก็ยังไม่รู้เท่าเขา เราก็เลยต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน เป็นต้นอย่างนี้ค่ะ
หากจะรู้แจ้งถึงที่สุด รู้รอบได้ในทุกสรรพสิ่งก็คงต้องกลับไปอยู่ในสภาวะนิพพานแล้ว ทุกคนรอบรู้คงไม่ต่างกัน -
ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี
ทุกคำถามที่เกิดขึ้นล้วนเกิดจากจิต...
ทุกคำตอบที่เกิดขึ้นล้วนเกิดจากจิต...
จิตที่ยังไม่ได้รับการขัดเกลาย่อมมีคำถามไม่สิ้นสุด...
จิตที่ขัดเกลาดีแล้วย่อมหมดความสงสัย... -
ฉันลองสัมผัส ที่แกโพส เล่าเรื่อง การยกระดับจิต ไปสู่ ความเป็นคนดีของแก
ทำไม มัน ไม่มีพลังดี ตามที่แก อ้างถึงเลยล่ะ
มันมีแต่ ความเฉยๆ มีแต่ข้อความ ที่กล่าวอ้างถึง พลังดี
แต่ ทำไม ไม่มีพลังดีอะไรให้สัมผัสเลย
เหมือนดอกไม้ เหี่ยวๆ ยังไงยังงั้น -
พอถามว่า นิพพานแก มันอยู่ตรงไหน ในมหาสุญญตา.ก็ตอบไม่ได้
ใครบอกแก ว่า สภาวะนิพพาน คือรู้ได้ทุกสรรพสิ่ง -
ไปมโน ที่อื่นไป. -
-
ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี
เส้นทางการฝึกจิตเป็นเส้นทางแห่งพุทธะ...
ทุกเส้นทางของแต่ละบุคคลล้วนมีจุดหมายปลายทางรวมลงที่เดียวกัน...
ผู้เห็นเส้นทางแล้วย่อมไม่หวั่นไหวในการเดินทาง...
ผู้เห็นเส้นทางที่ถูกต้องจริงๆต้องมีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งที่ระลึก...
ผู้เดินตามเส้นทางแห่งพุทธะด้วยความเพียรย่อมถึงฝั่งคือความพ้นทุกข์เป็นที่สุด... -
แต่ถ้า คำสอนของแก นำพาใหัมนุษย์ ต้องออกห่างไกลไปจากความเป็นมนุษย์
ฉัน ไม่อภัยให้แกนะเว้ย... -
ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี
-
ก็ถ้า ..การชี้นำ นี้...สามารถชี้นำให้เหล่ามนุษย์ผู้มีอวิชชาทั้งหลาย ที่เดินตาม ไม่ไปหลง มัวเมากับจิตจักรวาลนั่น จน ไม่ออกไปจาก ความเป็นมนุษย์..ก็ไม่ว่ากัน
แต่ถ้า นำพามนุษย์ให้หลงผิด เป็น มิจฉาทิฐิ ล่ะก้อ...พอรู้นะว่า จะโดนอะไร -
จบข่าวสาร
แต่เพียงเท่านี้.. -
ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี
ข้าพเจ้าก็บอกอยู่ว่าให้ภาวนา...อยากรู้อะไรให้ภาวนา...สงสัยอะไรให้ภาวนา...วิธีปฏิบัติแบบตรงแน่วก็บอกไว้แล้ว...ส่วนใครจะถึงไหนก็แล้วแต่เขาเถิด...ที่ข้าพเจ้าเอามาบอกก็ทางที่เคยผ่านเคยปฏิบัติมาแล้วทั้งสิ้น...หาใช่ไปจดจำจากตำรามา
บอกมาแนะนำซะเมื่อไหร่
ข้าพเจ้าก็คนธรรมดานี้แหละไม่ใช่ใครที่ไหน...เพียงแต่ข้าพเจ้ารักและสงสารพระพุทธเจ้าที่มาเสียสละมากมายให้กับสัตว์โลก...ทั้งๆที่สัตว์โลกยังมืดบอดอยู่มาก... -
ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี
ถ้าสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอนุญาตให้ข้าพเจ้าเข้านิพพานได้...ข้าพเจ้าไม่เสียเวลามายุ่งกับพวกท่านหรอกนะ
ก็มันลาไม่ได้มันถึงต้องเทียวมาเกิดอยู่นี่ไง...ไม่ได้อยากมาเกิดบ่อยนักหรอกโลกมนุษย์เนี้ย... -
จิตจักรวาลก็เป็นไปในแนวทางการแสวงรู้แจ้งจากสัจธรรม ซึ่งเป็นความจริงที่จริงแท้ของตนเองกับทุกสรรพสิ่งบนโลกและจักรวาล อันเต็มไปด้วนกระบวนการเกิดใหม่ กระบวนการเปลี่ยนแปลงและกระบวนการดำรงอยู่
จิตจักรวาลเป็นรูปธรรมทางพลังงานชั้นสูงที่ดำรงคุณสมบัติในสนามพลังงานเหนือจักรวาลโลก เปี่ยมไปด้วยพลังงานและอำนาจในการรอบรู้ทุกสรรพสิ่ง
และความรู้ใหม่เพื่อการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง ให้มนุษย์มีสติทางวิญญาณมากยิ่งขึ้นในโอกาสที่โลกกับมนุษย์กำลังถูกการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคพลังงานใหม่ เป็นอภิปรัชญาที่มิใช่มาจากพื้นฐานของศาสตร์แขนงใด ๆ หรือหลักศาสนาเดียวในโลก แต่เป็นข้อมูลและหลักการที่พ้องกับวิทยาศาสตร์โลก ซึ่งสามารถอธิบายปรากฎการณ์และคุณสมบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม ไม่ขัดแย้งกับทฤษฎีใด ๆ ที่มนุษย์ยอมรับ เป็นศาสตร์สากลจักรวาลที่ว่าด้วยหลักเกณฑ์ทางกายภาพของจักรวาล ซึ่งเกี่ยวข้องกับมนุษยฺและดาวเคราะห์โลกโดยตรง
เพื่อเติมเต็มส่วนที่ขาด ที่วิทยาศาสตร์โลกยังก้าวไปไม่ถึง เช่น เรื่องการเปลี่ยนแปลงโครงข่ายสนามแม่เหล็กโลก เพื่อการเปลี่ยนแปลงโลกและมนุษย์โดยตรง ในอันที่จะก่อให้เกิดภัยวิกฤตจากธรรมชาติครั้งรุนแรงที่มนุษย์ต้องผชิญ และการให้บทเรียนแห่งด้านความกลัว เพื่อกระตุ้นให้มนุษย์รู้จักปลดปล่อยพลังงานความรักให้แก่กัน
เป็นไปตามเป็นจริงที่เกิดขึ้นในปัจจุบันที่เราทุกคนสามารถพิสูจน์ได้ถึงจิตใจมนุษย์ในยุคภัยพิบัติแล้วนี่คะ ว่ามนุษย์เป็นเช่นไรกัน
หน้า 71 ของ 183