เทวดาประจำตัว

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย redeye127, 25 พฤศจิกายน 2014.

  1. redeye127

    redeye127 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    231
    ค่าพลัง:
    +1,474
    เรื่องเทวดาประจำตัว เป็นเรื่องที่เป็นปัจจัตตัง คือรู้ได้เฉพาะตน
    ไม่สามารถนำมาเล่าบอกกล่าวกันได้ทั่วไป
    เพราะหากนำมาเล่าเป็นคุ้งเป็นแคว คงไม่แคล้วโดนคนอื่นหาว่าบ้า
    จึงไม่นิยมมาเล่าให้กันฟัง

    แต่โดยปกติแล้ว ถ้าเชื่อว่าการเวียนว่ายตายเกิดมีจริง หรือวัฏสงสารมีจริง
    แล้ว ย่อมเป็นธรรมดาที่เราจะเคยเกิดร่วมกันกับใครมา อาจจะเคยเกิด
    เป็น พ่อ แม่ พี่ น้อง ญาติ มิตร กันมาก่อน เมื่อเราได้เกิดมาเป็นคนในชาตินี้
    แต่บุคคลเหล่านั้นท่านมิได้เกิดมาเป็นคนเช่นเดียวกับเรา บุคคลเหล่านั้น
    ย่อมที่จะเอ็นดู เมตตา ต่อเรา ดุจเช่น สัญญาขันธ์ ในอดีต

    บุคคลเหล่านั้นย่อมจะคอยสอดส่องดูแล การเป็นไปในชีวิตเราว่าปกติสุขเพียงใด
    หากถึงคราวเคราะห์หามยามร้ายขึ้นมา ถ้าไม่ได้เป็นวิบากกรรมที่หนักหนาที่ไม่สามารถ
    แก้ไขได้ บุคคลเหล่านั้นท่านก็จะมาช่วยเหลือแก้ไขให้ผ่านไปได้เป็นคราวๆไป

    แต่บุคคลเหล่านั้นท่านก็มีอายุของท่านเหมือนกัน เมื่อท่านถึงคราวต้องไปเกิดในภพใหม่
    ชาติใหม่แล้ว ท่านก็ต้องไป แต่ก็อาจมีบุคคลท่านอื่นมาดูแลเราต่อไปอีก
    ซึ่งช่วงที่มีการสับเปลี่ยนนี้ แหละ หากวิบากกรรมมาถึงตัวเรา เราย่อมหลีกเลี่ยงได้ยากยิ่ง

    เรื่องการทำบุญอุทิศให้ท่านเหล่านั้นก็เพียงการแผ่เมตตาอยู่เนืองๆถึงญาติมิตรในอดีต และเทวดาประจำตัว
    เราในชาตินี้ ก็เพียงพอแล้ว

    เรื่องการอุทิศให้เทวดาประจำตัวบุคคลอื่น ก็ทำได้เช่นกัน และเป็นเคล็ดลับของคนโบราณด้วย
    ในการแผ่เมตตาให้เทวดาประจำตัวเจ้านายอยู่เนืองๆ เพื่อเจ้านายจะได้เมตตาตน!!!
     
  2. worldly

    worldly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2014
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +164
    เป็นเรื่องเล่าเหรอครับ
     
  3. alkuwaiti

    alkuwaiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    372
    ค่าพลัง:
    +1,257
    - การทำความดีไม่มีผล
    - การทำความชั่วไม่มีผล
    - คนและสัตว์ตายแล้วสูญ
    - ไม่มีชาติก่อน
    - ไม่มีชาติหน้า
    - นรกไม่มี
    - สวรรค์ไม่มี
    - เกิดมาเป็นสัตว์เดรัจฉานเพราะมันซวย
    - เกิดมาเป็นมนุษย์เพราะโชคดี
    - เกิดเป็นคนจนคือช่วยไม่ได้
    - เกิดเป็นคนรวยเพราะโชคดี 2 เด้ง
    - เกิดเป็นคนพิการเพราะชีวเคมีผิดปกติ บลาๆๆ
    - มนุษย์เกิดมาได้เพราะไดโนเสาร์สูญพันธุ์ โคตรจะบังเอิญ
    - เชื่อว่าวิทยาศาสตร์จะพาไปสู่นิพพานได้
    - เอาเรื่องธรรมะมาพูด ไม่รู้ ไม่เข้าใจ ไปไม่เป็น แถเก่งอย่างเดียว
    - บอกให้ผู้อื่นไปปฏิบัติธรรม แต่ตัวเองไม่เคยนั่งสมาธิแม้สัก 1 วินาที
    - ใช้เวลาทั้งชีวิตมาถกเถียงเรื่องธรรมะกับผู้อื่น แต่ตนเองดันรู้ตัวเป็นคนสุดท้าย

    คนที่คิดแบบนี้คือพวกมารศาสนา เขาจะพยายามชักจูงให้ผู้อื่นคล้อยผิด เห็นผิดตามเค้าไปด้วย เค้าจะพยายามเอาขยะที่มีอยู่ในสมองออกมาโชว์ อวดโอ้ให้ผู้อื่นเห็น ใครสอนเขาไม่ได้ เขาจะไม่ฟังใครเพราะเขาเชื่อในตัวเอง เชื่อในอัตตาของตน บางคนเชื่อแม้กระทั่งว่าตนเองวิเศษวิโสและสูงส่งกว่าพระสงฆ์ ทั้งๆที่ตนเองยังเอาศีล 5 ไม่รอดเลย คนแบบนี้จะไม่มีวันก้มหัวให้ใคร คิดว่าในมือของตนคือเพชรอันล้ำค่าแต่เปล่าเลยแค่ถ่านไม้เปียกๆที่ก่อไฟก็ยังไม่ได้

    แม้กระทั่งเวรกรรมมาเคาะประตูถึงหน้าบ้าน คนแบบนี้ก็จะไม่สามารถแก้ไขอะไรได้

    เสแสร้งว่าตนเองเป็นพุทธแท้ แต่เปล่าเลยแค่ Atheist ดีๆนี่เอง มีพฤติกรรมกินบนเรือนขี้รดบนหลังคา เอาธรรมะของศาสนาพุทธไปใช้ แต่ในใจไม่เคยเคารพพระรัตนตรัย บางทีถึงขนาดลบหลู่ด้วยซ้ำ ชีวิตนี้คงได้ดีหรอกนะ โกหกพกลมสร้างภาพบอกชาวบ้าน หลอกได้แม้กระทั่งตัวเอง เพื่ออะไรไม่รู้ คงเพื่อเติมเต็มในอัตตาละมั้ง

    ทั้งหมดที่กล่าวมาผมไม่ได้ว่า จขกท. นะครับ กลัวเดี๋ยวจะเข้าใจผิด ผมแค่อยากกำจัดพวกมารศาสนาบ้างก็เท่านั้นเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤศจิกายน 2014
  4. redeye127

    redeye127 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    231
    ค่าพลัง:
    +1,474
    อ่า ครับ ตกใจหมดเลย ,,,, ผมแค่อยากนำเรื่องดีๆมาเผยแพร่เพื่อให้คนทำบุญมากขึ้นแค่นั้นเอง ="= อย่าทำร้ายผมเลย
     
  5. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,814
    ค่าพลัง:
    +15,099
    เทวดาประจำตัวนั้นมีอยู่หลายระดับตามกุศลจิตของแต่ละบุคคล เนื่องจากภพมนุษย์ท่านจัดอยู่ในสุคติภูมิเป็นแดนกลางระหว่างความดีและความชั่ว ดังนั้นการปฎิบัติที่เรียกว่ามัชฌิมาปฎิปทาคือการกระทำความเพียรสายกลางเพื่อพ้นทุกข์ จำต้องอยู่ในภพที่สามารถเข้าถึงสัจจธรรมได้อย่างถ่องแท้...

    การเกิดมาเป็นมนุษย์(มนุษย์โส แปลว่าผู้มีใจสูง)ก็จำต้องมีกุศลจิตที่อุบัติพร้อมด้วยศีลห้าเป็นพื้นฐาน เด็กแรกเกิดจนถึงอายุแปดขวบจะมีเทวดาที่เรียกว่าแม่ซื้อคอยดูแลรักษาธาตุขันธ์(เพราะเขาก็อยากได้บุญร่วมกับผู้มีศีลห้าเช่นกัน...ถ้าเด็กตายก่อนเพราะมีวิบากบังเบียดตามอำนาจกฎแห่งกรรมแล้วแต่กรณีไป)

    เมื่อเริ่มรู้จักดีชั่วด้วยตนเองแล้ว เจ้าของธาตุขันธ์นั้นแหละเป็นตัวกำหนด ถ้าไปในทางเสื่อมพวกเทวดามิจฉาทิฎฐิก็เข้ามาแทนพวกยักษ์มารเนี่ยะเวลาโกรธแม้ผู้มีคุณก็ฆ่าได้ ทำปาณาติบาท ทำผิดศีลอันเป็นปฐมอุบัติได้ทุกข้อ

    สมดังพุทธพจน์กล่าวว่า "บุคคลเมื่อทำความดีก็ควรทำเสียตั้งแต่บัดนี้เพราะเมื่อทำความดีช้าไป ใจจะกลับยินดีในความชั่ว" ในขณะที่กระทำความชั่วนั้นใจย่อมไม่เป็นกุศล เมื่อใจขาดกุศลก็พลาดจากทางสายกลาง เมื่อเจ้าของธาตุขันธ์เลือกที่จะไปทางต่ำเทวดาสัมมาฎิทฐิจะอุปถัมภ์หรือไฉน!...

    ในทางตรงกันข้ามการได้มนุษย์สมบัติเป็นความปรารถนาของเทวดาสัมมาทิฎฐิทั่วไป เพราะผลการบำเพ็ญจะส่งให้ได้สุคติภูมิที่ละเอียดและประณีตยิ่งขึ้น (สวรรค์สมบัติ นิพานสมบัติ) ตรงจุดนี้เราจะเห็นได้จากพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่ท่านปฎิบัติดีปฎิบัติชอบจะมีเทพเทวดาอารักข์มาก

    คำว่า"ประจำตัว"หมายถึงสิ่งที่เป็นปกติวิสัยเป็นอยู่ประจำเนืองๆ เติมเทวดานำหน้าก็มีความหมายว่าท่านผู้มีปกติโคจรเกี่ยวข้องกับตัวเราอยู่เนืองๆ มิได้หมายความว่าเทวดาท่านจะมาสิงสถิตครอบงำบงการร่างกายจิตใจเราอยู่ตลอดเวลา เพราะเราท่านต่างก็มีกรรมเป็นของๆตน เทวดาท่านก็มีกรรมมีวิบากเป็นของๆตนเช่นกัน แต่ด้วยเรามีกรรมที่สืบเนื่องผูกพันกันมาจึงทำให้ท่านมิอาจละเลยหน้าที่ หรือทอดทิ้งสายใยที่เคยอุปการะกันมาแต่ปางก่อนได้...

    แม้แต่วัตถุธาตุกายสิทธิ์หรือองค์พระปฎิมากร เช่น หลวงพ่อโสธร พระพุทธชินราช พระแก้วมรกต ฯลฯ หรือแม้แต่วัดวาอารามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายบรรดามี (พระบรมมหาราชวังมีพระสยามเทวาธิราชรักษาเป็นตน) ฯลฯ

    ภูมิของเทวดาที่มีความสัมพันเกี่ยวข้องกับเรานั้น เราจะไม่สามารถบอกได้เลยว่าท่านเป็นใคร (อดีตเคยเกี่ยวข้องเป็น พ่อ แม่ พี่ น้อง ลูกหลาน ปู่ ย่า ตา ยาย ครูบาอาจารย์ ฯลฯ) อยู่ชั้นไหน มีกี่ท่านกี่องค์ จนกว่าเราจะได้ปฎิบัติจิตให้มีความละเอียดดีพอสมควรแล้วเท่านั้น แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัตตัง การจะให้เชื่อในสิ่งที่ยังมิได้พิสูจน์หรือพิจารณาด้วยองค์แห่งปัญญาตามความเป็นจริงแล้วก็ย่อมเป็นเรื่องที่ห่างไกล ยากที่ผู้มีจิตหยาบกิเลสหนาทิฎฐิคด จะเข้าถึงได้...

    ธรรมของเทวดาขั้นพื้นฐานหลักๆนั้นมีอยู่สองประการคือ หิริ ความละอายชั่ว,โอตัปปะ ความเกรงกลัวบาป ในขณะที่เทวดาชั้นพรหมจะมีพรหมวิหารสี่ คือ เมตตา กรุณา มุฑิตา อุเบกขา เป็นวิหารธรรมประจำใจ

    เมื่อรูปสมบัติอาการสามสิบสองของเราเป็นดั่งภาชนะเครื่องรองรับคุณธรรมทั้งหลาย จึงไม่ควรประมาทในการดำรงชีวิต ท่านผู้สั่งสมความดีไว้มากแต่กาลก่อน เมื่อมีภัยมาถึงตัว ก็มักแคล้วคลาดจากภัยพิบัติทั้งหลายทั้งปวง ดั่งคำที่ว่า "คนดีผีคุ้ม"

    ก็มาจากคุณงามความดีของเราเองนั้นหล่ะ แปรเปลี่ยนให้เป็นรูปธรรมของเทวาอารักษ์! คอยปกปักษ์รักษาคุ้มครอง อยู่ไม่ได้หรอกวิมานเขาร้อน จะต้องลงมาติดตามช่วยเหลือตามกำลังความสามารถ คอยเตือนคอยสื่อให้เราไปในทิศทางที่ดีงามอยู่เสมอ

    "ดีใดใจปราศจากโทษ
    ทุกข์โศกมลทินใจบ่มั่วหมอง
    บารมีใดเพียรได้สมดั่งใจปอง
    ปวงเทวาซ้องสรรเสริญพิทักษ์คุณ!"
     
  6. kengloveyou

    kengloveyou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +2,077
    เมื่อช่วงนี้ผมมีโอกาสได้ทำบุญใส่บาตรทุกเช้าเลย ได้กรวดน้ำแผ่บุญกุศลเป็นสาธารณะไป
    ในทิศทั้งปวงด้วย

    พอทำบุญใส่บาตรเสร็จแล้วผมก็จะนึกอธิษฐานจิตเอาว่า "ขอให้บุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้พึง
    กระทำบำเพ็ญใส่บาตรเสร็จแล้วนี้ จงส่งถึงแก่เทพเทวดาผู้รักษาคุ้มครองชีวิตข้าพเจ้า ทุกๆ
    พระองค์ ขอให้บุญนี้ช่วยค้ำชูอุดหนุนให้ท่านมีความสุขยิ่งๆขึ้นไป และขอได้โปรดเมตตา
    ช่วยเหลือคุ้มครองข้าพเจ้า ให้ได้ประสบพบเจอแต่ความดี ชักนำจิตใจของข้าพเจ้าไปใน
    ทางที่ดี ปราศจากความทุกข์ทั้งปวง มีจิตใจที่ผ่องใสด้วยธรรมทุกขณะจิตด้วยเทอญ

    (คุณเชื่อไหม หลังจากที่ผมอธิษฐานเสร็จ ผมขนลุกซู่ซ่าเกรียวกราวขึ้นมาทันทีโดยที่ไม่
    ได้ตั้งตัวตั้งใจไว้ก่อนเลย น้ำตาเริ่มเอ่อขึ้นมาเอง จิตใจก็รู้สึกดีชุ่มชื่นขึ้นด้วย ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ)
     
  7. naitiw

    naitiw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,612
    ค่าพลัง:
    +2,882
    แผ่เมตตาให้ตัวเองก่อนเลย ตามด้วยเทวดาที่รักษาข้าพเจ้า
     

แชร์หน้านี้

Loading...