ถลกหนังสัตว์ ระวังตายไปเป็นเปรต
ในครั้งพุทธกาล บุรุษผู้หนึ่งดำรงชีวิตอยู่ในเมืองราชคฤห์ ด้วยอาชีพฆ่าแกะ เมื่อฆ่าแล้วก็จะถลกหนังไปขาย บางคราวถลกหนังทั้งที่แกะยังเป็นๆ อยู่นั่นแหละ เขาใช้ชีวิตอยู่ด้วยการฆ่าแกะเช่นนี้เป็นเวลานาน
ครั้นเมื่อเขาได้ตายจากโลกมนุษย์ไปแล้ว ก็ตกนรกหมกไหม้อยู่เป็นเวลานานแสนนานนักหนา เมื่อชดใช้กรรมพ้นจากแดนนรกนั้นแล้ว ด้วยเศษกรรมที่ยังมีเหลืออยู่ จึงได้เกิดมาเป็นบุรุษเปรตไม่มีผิวหนัง เสวยุกขเวทนา ลอยมาในอากาศ ถูกพวกนกแร้งบ้าง นกกาบ้าง นกตะกรุมบ้าง พากันบินโผถลาตามจิกตามทึ้งเปรตรูปร่างประหลาดนั้นเป็นอลหม่าน
เปรตผู้ไร้ผิวหนังก็ได้แต่ส่งเสียงร้องครวญครางโอดโอยอยู่เป็นนิตย์ด้วยผลแห่งกรรม คือการฆ่าแกะโดยการถลกหนังทั้งที่แกะยังเป็น ๆ ภาพนิมิตของการกระทำเช่นนั้นเกิดขึ้นแก่เขา จึงได้เป็นเปรตที่ไร้ผิวหนัง
๑ สังยุตตนิกาย นิทานวรรค
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๖
เครดิต : หนังสือ “วางเป็นก็เย็นใจ วางได้สบายจัง”