ยืนยันการรับจองพระผงพุทโธจอมมุนีไว้แล้ว ขอบคุณครับ
เปิดกรุพระดี.....สำหรับมีไว้บูชาอย่างแท้จริง
ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย หนุ่มเมืองแกลง, 16 มีนาคม 2012.
หน้า 1599 ของ 2901
-
หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี
-
สวัสดียามดึกครับพี่หนุ่มเมืองแกลง เพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน และผู้ที่เคารพและศรัทธาหลวงพ่อชาญณรงค์ อภิชิโต ทุกๆท่านครับผม
-
-
หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี
หมายเลขพัสดุ ระบบems ที่ได้จัดส่งไปแล้วเมื่อเช้านี้
EL 8651 48285 TH….. ชาญธาดา
EL 8651 48299 TH….. Padungsak
EL 8651 48308 TH….. Leonzz
-
หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี
-
สวัสดียามดึกครับพี่หนุ่มเมืองแกลง เพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน และผู้ที่เคารพและศรัทธาหลวงพ่อชาญณรงค์ อภิชิโต ทุกๆท่านครับผม
-
ได้โอนเงิน เมี่อ ๙เมย. เวลาประมาณ๑๐.๓๗ น.เป็นค่าบูชาพระ ๑.รายการ ที่อยู่ ดูในกล่องข้อความครับ
-
ได้รับพระและของพิเศษแล้วครับคุณพี่หนุ่ม
พระสวยมากๆครับ
ขอบคุณมากๆครับ(kiss) -
สวัสดียามดึกครับพี่หนุ่มเมืองแกลง เพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน และผู้ที่เคารพและศรัทธาหลวงพ่อชาญณรงค์ อภิชิโต ทุกๆท่านครับผม
-
HBD ย้อนหลังครับพี่หนุ่ม ขออ้างคุณพระศรีรัตนตรัยสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลพิภพ และหลวงปู่หลวงพ่อที่อันเป็นที่เคารพของพี่หนุ่ม โปรดบันดาลประทานพร ให้พี่หนุ่มสุขสมหวังในทุก ๆ เรื่องนะครับ
-
หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี
-
หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี
-
หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี
-
หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี
ปีใหม่ไทยของปีนี้ ขออวยพรให้เพื่อนสมาชิกทุกท่านมีความสุขทั้งกายและใจ พบเจอสิ่งที่ดีตามที่ปรารถนา
ค้าขายร่ำรวย กิจการรุ่งเรือง สุขภาพแข็งแรง ก้าวหน้าในการงาน สมหวังในเรื่องที่มุ่งมั่น
และเนื่องในช่วงวันหยุดยาวของเทศกาลสงกรานต์ ขอให้ทุกท่านเดินทางโดยปลอดภัย ทั้งจากการเดินทางและจากภัยสังคมทุกประการนะครับ -
สวัสดียามดึกครับพี่หนุ่มเมืองแกลง เพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน และผู้ที่เคารพและศรัทธาหลวงพ่อชาญณรงค์ อภิชิโต ทุกๆท่านครับผม
-
ขอขอบคุณในความปรารถนาดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการบอกบุญดี ๆ แนะนำตัวผมให้ได้รู้จักหลวงพ่อชาญณรงค์ ให้เข้าไปมีส่วนร่วมในการทำบุญสร้างวิหารถวายหลวงพ่อ ร่วมสายบุญในการหลอมพระปางดัชนีมุทรา สร้างกุฏิถวายวัดทองฯ เชื่อมต่อประวัติพระอริยสงฆ์หลวงปู่พิศดูให้ผมรู้จัก ประวัติหลวงพ่อกวย หลวงปู่ทิม คุณแม่บุญเรือน อีกทั้งยังแบ่งพระเครื่องให้ผมได้เช่าบูชาอีกหลายครั้ง
...ถ้าต้องขออนุญาตย้อนกลับไป ต้องขอบพระคุณพี่หนุ่มอีกครั้ง ผมติดตามพี่หนุ่มมาตั้งแต่พี่หนุ่มมาอธิบายวิธีการห้อยพระให้ถูกโฉลก อานุภาพพระเนื้อดิน เนื้อผง เนื้อว่าน และเนื้อโลหะ ได้ความรู้เยอะมากเลยครับ :cool:
สวัสดีสงกรานต์ 2558 ครับผม -
หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี
"...ที่ผ่านมาเคยมีงานวิจัยโดยนักศึกษาปริญญาเอกด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์และระบบสารสนเทศ จากมหาวิทยาลัยโคโลราโดเปิดเผยว่า ปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่การอันเฟรนด์ในเฟซบุ๊ก ประกอบด้วย โพสต์เรื่องไร้สาระบ่อยเกินไป, วิพากษ์วิจารณ์เรื่องศาสนา หรือการเมืองอย่างรุนแรง, มักจะชอบโพสต์เรื่องที่ไม่เหมาะสม ในด้านเพศ หรือการเหยียดสีผิว และเบื่อการโพสต์เรื่องในชีวิตประจำวัน อย่างเรื่องลูก คู่สมรส หรืออาหาร เป็นต้น
รายงานการวิจัยอีกชิ้นหนึ่งเกี่ยวกับเฟซบุ๊กที่น่าสนใจ มาจากมหาวิทยาลัยเอดินเบิร์ก เนเปียร์ พบว่าเฟซบุ๊กเป็นสิ่งที่ทำให้คนเราเครียดและวิตกกังวลมากขึ้น โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กมักจะซ่อนความเครียดและความกระวนกระวายจากการถูกปฏิบัติจากเพื่อนและบุคคลอื่นในเฟซบุ๊ก เช่น การถูกปฏิเสธ วิตกกังวล อิจฉาต่อการใช้ชีวิตของคนอื่น เป็นต้น
ธาม เชื้อสถาปณศิริ นักวิชาการสถาบันวิชาการสื่อสาธารณะ (สวส.) เคยเขียนถึงเรื่องของอาการที่เรียกว่า “เฟซบุ๊ก ดีเปรสชั่น” (Facebook Depression) หรือสภาวะซึมเศร้าจากเฟซบุ๊ค อ้างอิงจากงานวิจัยว่า สาเหตุหลักมาจากการที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กได้บิดเบือนความเป็นจริงของโลก อาจทำให้เด็กวัยรุ่นติดและหลงใหลในเนื้อหาเหตุการณ์รอบข้างต่างๆ
ขณะเดียวกัน เฟซบุ๊กได้สร้างความเป็นจริงเทียม (artificial reality) ที่ผู้ใช้มักจะโพสต์แต่เรื่องด้านดีด้านเดียวของชีวิต หลบซ่อนเรื่องราวร้ายๆ แย่ๆ ของตนเอง อะไรก็ตามที่พวกเขาอยากปกปิดหรืออยากสร้างภาพ ผลที่ตามมา ผู้ชมจะเห็นแต่ภาพชีวิตที่มีความสุขและสมบูรณ์แบบ กลายเป็นความรู้สึกเปรียบเทียบกับชีวิตตนว่า ตนเองไร้ค่าและไม่ดีพอ
ผู้คนมักรู้สึกต่อปฏิกิริยาเชิงลบในเฟซบุ๊คมากกว่าโลกจริง สิ่งที่ตามมาคือพวกเขาจะซึมเศร้า มีความกังวลและมีความเสียใจ หลายคนใช้เวลาไปมากกับการเฝ้าดู เฝ้ามองชีวิตของคนอื่น และเกิดสภาวะซึมเศร้าจากการเปรียบเทียบกับชีวิตของตนเอง มีปัญหาสุขภาพจิตในระดับลึก และมีแนวโน้มทีจะฆ่าตัวตายได้
พูดถึงงานวิจัยของเฟซบุ๊กที่หยิบยกเป็นตัวอย่างมาพอสมควรแล้ว เชื่อว่าหลายคนคงรู้สึกอึดอัดกับเฟซบุ๊ก เพราะระยะหลังๆ เรามักจะพบกับเรื่องไม่เป็นเรื่องถูกแชร์และส่งต่อผ่านหน้าวอลล์ของเรามากขึ้น แทนที่เราจะได้รู้ว่าเพื่อนของเราในตอนนี้เป็นตายร้ายดียังไง ก็กลายเป็นว่าต้องมานั่งอ่านในสิ่งที่เราเห็นว่ามันไกลตัว และไม่ต้องการเห็น
วิธีแก้ปัญหาของคนที่เบื่อเฟซบุ๊กแตกต่างกันไป บ้างก็ยอมปล่อยบัญชีเฟซบุ๊กของตัวเองร้างแล้วเปิดใหม่อีกบัญชี บ้างก็แยกออกเป็นสองบัญชี บัญชีหนึ่งเปิดกว้างสำหรับคนที่มีความสนใจเหมือนกัน อีกบัญชีหนึ่งสงวนไว้สำหรับเพื่อนหรือคนสนิท ที่เราสามารถโพสต์เรื่องราวส่วนตัวสารทุกข์สุกดิบได้โดยไม่กลายเป็นการประจานออกสู่สาธารณะ
แต่ถึงกระนั้น แม้ความลับจะไม่มีในโลกฉันใด สิ่งที่เราโพสต์ออกไปหากถูกจับภาพหน้าจอก็ไม่เป็นความลับเฉพาะเพื่อนอีกต่อไปแล้ว แน่นอนว่าย่อมส่งผลด้านลบต่อตัวเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะกับบุคคลสาธารณะ หรือบุคคลกึ่งสาธารณะ ที่แม้ในใจเราจะไม่อยากดัง แต่ก็มีผู้ติดตามแนวคิดของเราจำนวนมาก
ถึงได้มีคำแนะนำเกี่ยวกับสิ่งที่ไม่ควรนำมาโพสต์ในเฟซบุ๊ก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผิดกฎหมาย เช่น โพสต์ภาพเสพยาเสพติด ถืออาวุธแล้วข่มขู่จะทำร้าย หรือจะเป็นความเชื่อทางการเมือง ชนชั้น เชื้อชาติ ศาสนา และภูมิลำเนา ที่มักจะมีการวิพากษ์วิจารณ์โดยใช้วาทกรรมสร้างความเกลียดชัง (Hate Speech) แม้จะอ้างสิทธิส่วนบุคคลและเสรีภาพก็ตาม
หรือจะเป็นเรื่องราวในที่ทำงาน ถ้าเราไม่มีเจ้านายหรือฝ่ายบุคคลเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊กก็ดีไป แต่จะแน่ใจได้หรือว่าเพื่อนร่วมงานของเราจะสนิทใจพอที่จะเปิดเผยเรื่องราวได้โดยไม่ถูกนินทาลับหลัง เคยได้ยินคนที่ทำงานวิชาชีพเดียวกันกล่าวไว้ว่า ไม่ควรกล่าวถึงปัญหาในการทำงาน เพราะจะทำให้เราถูกมองว่าไม่มีความเป็นมืออาชีพ
แม้กระทั่งเรื่องละเอียดอ่อนในที่ทำงาน อย่างเช่น เงินเดือนหรือโบนัสที่ได้รับมากน้อยแค่ไหน ลับหลังก็มีคนนินทาแล้วอิจฉา การวิจารณ์บริษัทที่เราทำงานอยู่ แม้เพื่อความเป็นธรรมก็ตาม การบ่นว่าไม่ชอบงานที่ทำ หรือพฤติกรรมที่แสดงออกนอกที่ทำงาน เช่น กำลังดื่มสุรากับเพื่อนฝูง แม้บางคนจะมองว่าปกติ แต่บางคนก็มองไปถึงความน่าเชื่อถือก็มี
อีกเรื่องหนึ่งที่กลายเป็นเรื่องดราม่า คือการโพสต์เฟซบุ๊กว่าจะเปลี่ยนงานใหม่ แน่นอนว่าทำให้เพื่อนร่วมงานรู้สึกไม่ดีแน่ๆ คนที่อยู่เหนือกว่าอย่างเจ้านายหรือหัวหน้าฝ่าย อาจมองว่าเราเป็นคนที่ไร้ประโยชน์ต่อองค์กรไปโดยปริยาย หรือคนที่เป็นลูกน้องอาจมองว่า อุตส่าห์ร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน อยู่ๆ จะหนีหน้ากันไปแล้วหรือ
ประโยคในอดีตที่มักจะสอนผู้อื่นว่า “คิดก่อนพูด แต่ไม่จำเป็นต้องพูดทุกเรื่องที่คิด” สามารถประยุกต์ใช้ให้เข้ากับการโพสต์เฟซบุ๊กในชีวิตประจำวันของเราได้ เพราะพอเอาเข้าจริง คนอื่นก็ไม่ได้อยากรู้อะไรเกี่ยวกับตัวเรามากมาย เกินกว่าที่จะรับรู้ว่า เรายังสบายดีและมีชีวิตอยู่ หนำซ้ำหากอวดความมั่งมี จะกลายเป็นว่าผู้อื่นเห็นแล้วอิจฉาและหมั่นไส้เอาได้
“เราทุกคนมีกันอยู่ 3 โลก โลกส่วนตัว โลกส่วนเรา และโลกส่วนรวม ในที่สุดอย่าให้โลกใบไหนใหญ่เกินไปจนเบียดพื้นที่อีก 2 โลกจนอึดอัด”
ผมคิดว่าโลกโซเชียลคือโลกส่วนรวมที่ทุกคนจะได้รับรู้เรื่องที่เราอยากจะบอก แต่ก็คงไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องบอกทุกเรื่อง ลองให้เวลากับตัวเอง คนรอบข้าง และโลกใบนี้ ด้วยการเว้นวรรคเฟซบุ๊กสักวันหนึ่ง แม้จะไม่ทำให้มาร์ก ซักเคอร์เบิร์กถึงกับตรอมใจตาย แต่ก็เปิดพื้นที่ชีวิตของเราให้ใกล้ชิดกับความเป็นจริงของโลกมากขึ้น
เพราะโลกเสมือนไม่ใช่ความจริงที่แท้จริงของชีวิตเสมอไป แต่ความจริงของชีวิตคือ ทำอย่างไรถึงจะให้รู้สึกว่าชีวิตเราเองมีคุณค่ามากพอที่จะยืนหยัดอยู่บนโลกใบนี้ได้อย่างสบายใจ ทำอะไรก็ได้อย่างที่เราอยากจะทำ โดยไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน แค่นั้นพอ..."
ลืมบอกไปว่า ...เป็นบทความที่คัดลอกมาจากสื่อ -
วัสดียามดึกครับพี่หนุ่มเมืองแกลง เพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน และผู้ที่เคารพและศรัทธาหลวงพ่อชาญณรงค์ อภิชิโต ทุกๆท่านครับผม
เห็นด้วยครับพี่หนุ่ม -
หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี
ขอบคุณอย่างยิ่งสำหรับความสม่ำเสมอในรอบ 2ปีในการทักทายเพื่อนๆสมาชิก -
หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี
“บางทีก็เป็นห่วงน้องๆทุกคนนะครับ น้องต้องไตร่ตรองและมีสติมากๆ นะครับในการอยู่ในสังคมขี้อวดแบบนี้ มีนั่น ซื้อไอ้นี่ ของแพงๆทั้งนั้น ใครมีของยิ่งแพงยิ่งเป็นคนสำคัญ คนเด่น ยิ่งโชว์คนยิ่งชม ยิ่งชมก็ยิ่งซื้อ อยากให้ชมอีก อวดกันเข้าไป อวดมั่งมี อวดโซไซตี้โชว์ไปว่าฉันมี มีก็อยากโชว์ มีไรป่ะ ...ไม่มีค้าบบบ ผมก็ชอบโชว์มุมตลกของลูก เราก็เป็นนะ แต่น้องๆคงต้องใช้สติเยอะๆว่าอันไหนน่าดู อันไหนน่าเอาอย่าง อันไหนน่าเกลียด อันไหน..อะไรของคุณค้าบบ
บางคนอวดนม เฮ้ออ เอาเข้าไป คราวนี้อวดกันเละเทะ หลังๆ นี่ทำเอาผมเป็นคนขี้อายไปเลย ไม่มีก็ไปทำ ผมเชื่อว่าอีก5ปีไม้กระดานหรือไข่ดาวในประเทศเราจะสูญพันธ์ เชื่อดิ ก็ไม่มีอะไรมากนะ แค่เทศกาลสงกรานต์เป็นประเพณีที่งดงาม ฝากไปถึงน้องๆช่วยกันรักษาสังคมขี้อวดนี้ให้หายซักทีนะครับ เป็นมานานแล้ว คงหายยาก แต่ก็ต้องช่วยกัน แต่ถ้าอยากอวดจริง อวดดี!!เลยครับ อวดทำความดี แข่งกันทำดี ผมอยากให้ช่วยอวดกันเยอะๆ อวดบ่อยๆ อวดทุกวัน อวดสม่ำเสมอ สังคมคงจะน่ารัก น่าอยู่ขึ้นเยอะเลย ผมว่านะ.....” ป๋อ ณัฐวุฒิ ระบุ
หน้า 1599 ของ 2901