เปิดกรุพระดี.....สำหรับมีไว้บูชาอย่างแท้จริง

พี่หนุ่มสวัสดียามดึกครับ ผมไม่ได้หายไปใหนนะครับคอยตามอ่านข้อมูลของพี่ตลอด ได้สิ่งดีๆเยอะมากครับ แต่ก็เกรงๆไม่ค่อยกล้าสุ้หน้าพี่เหมือนกัน จองพระกับพี่ไว้ แต่ติดขัดค่าใช้ต้องช่วยภายในครอบครัวก่อน หนังอ่านมา156 หน้าได้อะไรเยอะเลย ยากจะขอบคุณพี่ที่แบ่งปันความรู้ให้กันครับ ขอบคุณครับ

 

สวัสดียามดึกครับพี่หนุ่มเมืองแกลง เพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน และผู้ที่เคารพและศรัทธาหลวงพ่อชาญณรงค์ อภิชิโต ทุกๆท่านครับผม

 

อย่าคิดมากในเรื่องแบบนี้เลยครับ ความต้องการมีไว้บูชาเพราะศรัทธานับถือก็อย่างหนึ่ง ความจำเป็นในรายจ่ายของครอบครัวก็อีกอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งถูกต้องแล้วที่ลูกผู้ชายผู้ต้องรับผิดชอบหลายๆชีวิตในครอบครัวควรคิดคำนึงหน้าหลังให้มาก และไม่ใช่มีรายเดียวที่จองในกระทู้ไว้แล้วเงียบหายไปหรอกครับ มีมากกว่า50รายที่เป็นเช่นเดียวกัน บางท่านจองข้ามปีก็มี ซึ่งผมเข้าใจดีในความจำเป็นอันเป็นที่สุด ซึ่งคนไม่มีครอบครัว หรือไม่มีภาระอาจไม่เข้าใจถ่องแท้ เรื่องการจองแล้วหายหน้าไปนั้น ผู้ที่จองไว้บางท่านแจ้งมาให้ทราบ บางท่านก็เงียบหายไป ก็ขออย่ากังวลใจอีกเลย

เมื่อได้เห็นความกังวล ความรู้สึกผิดและความจริงใจที่แสดงออกมาครั้งนี้ ผมเลยขอมอบพระเครื่องที่ ลป.ทิมปลุกเสก ตามที่จองไว้มาให้บูชาโดยไม่ต้องโอนเงินมาชำระแต่อย่างใด ถือเสียว่าเป็นการมอบให้เพื่อสร้างกำลังใจต่อสู้ชีวิต ขอความกรุณาแจ้งที่อยู่มาให้ผมอีกครั้งนะครับ

 

ติดตามกระทู้พี่หนุ่ม มานานอยู่พอสมควร ได้ความรู้ดำเนินชีวิต ข้อคิดต่างๆ ความรู้เรื่องวัตถุมงคล เเละที่สำคัญน้ำใจที่พี่มีให้น้องๆ เสมอมา สังคมอยู่ได้ด้วยกำลังใจ ขอเเสดงความนับถือด้วยความจริงใจครับ

 

พี่หนุ่มครับ ผมได้แจ้งที่อยู่ใน inbox แล้วนะครับ ผมขอขอบใจในน้ำใจของพี่ครับ ขอให้มีแต่ความเจริญพบเจอแต่สิ่งดีๆครับ ผมไม่รู้จะขอบคุณพี่อย่างไรพูดไม่ถูกเลยน้ำตาซึมเลยครับพี่

 

น้ำใจพี่ท่านยิ่งใหญ่เสมอครับ

 

เรื่องดีๆเกิดขึ้นได้เสมอ ยินดีด้วยครับผม

 

มิตรภาพ ความเชื่อใจ และเคารพนับถือ ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ ทุกครั้งผมเข้าเวปพลังจิต "หนุ่มเมืองแกลง" จะต้องเข้ามาชมก่อนเนื้อหาอื่นทุกครั้ง ผมติดตามพี่หนุ่มมานานร่วมปีแล้ว ได้ทั้งข้อคิดที่มีประโยขน์ วัตถุมงคลดีๆ
ด้วยความนับถือ

 

เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่น่าชื่นชมครับ ขอบคุณพี่หนุ่มที่ทำให้สังคมน่าอยู่ยิ่งขึ้น

 

ผมจัดส่งวัตถุมงคลไปให้แล้วครับ ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจร่วมกับเพื่อนๆทุกคนในกระทู้ที่เอาใจช่วย แม้บางท่านอาจไม่ได้เขียนอะไรลงไว้ แต่เขาเขียนลงในหัวใจตนเองแล้วเช่นกันว่า "พวกเราจะร่วมกันเอาใจช่วยให้ท่านผ่านพ้นอุปสรรค พบสิ่งที่ดีสมดังใจ"

ขอบคุณทุกท่านมากครับ ทุกถ้อยคำในทุกโพสท์ของท่าน ล้วนก่อเกิดกำลังใจให้กับผู้ผ่านเข้ามาพบ รวมทั้งทำให้คนที่ชีวิตถดถอยได้เก็บไปครุ่นคิดคำนึง โลกในความเป็นจริงแม้ไม่สวย แต่ก็ยังมีสิ่งที่ดีงาม

โลกไม่ต้องสวย likeไม่ต้องสน เพียงเป็นคนคิดดี

 

มหาเศรษฐีท่านหนึ่ง มีบ้านช่องสวยงามโอฬารตระการตา แต่อยู่ติดกับบ้านที่เป็นรั้วบ้านเก่าสังกะสีผุๆซอมซ่อหลังหนึ่ง เมื่อท่านเศรษฐีตื่นขึ้นมาทุกเช้า จะต้องมองออกไปเห็นบ้านเฮงซวยหลังนี้ ก็คิดว่าทิวทัศน์ข้างบ้านนั้นแย่มาก จนวันหนึ่งอดรนทนไม่ไหวแล้ว เมื่อเห็นตาแก่เจ้าของบ้านสังกะสีตื่นมาพอดี จึงเดินเข้าไปหาและถามว่า “บ้านมึงขายเท่าไร ? กูเห็นทุกวันอุบาทว์ตามาก ขายเท่าไรกูก็จะซื้อ”

เจ้าของบ้านสังกะสีอันผุเก่าซอมซ่อ เงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับพูดจานุ่มนวลอ่อนโยนว่า.. “ ท่านผู้มีอันจะกิน ผมไม่ขายขอรับ ทุกเช้าผมตื่นขึ้นมาก็ได้เห็นปราสาทที่งดงามของท่าน ผมมีความสุขที่ได้เห็นแต่สิ่งที่สวยงามตระการตาทุกเช้าสายบ่ายเย็น ถ้ากระผมขายบ้านให้ท่านไปแล้ว กระผมก็จะไม่ได้เห็นสิ่งที่งดงามตระการตานี้อีกต่อไปซิขอรับ ”

มหาเศรษฐีถามต่อ “ แล้วมึงไม่ดูบ้านตัวเองว่า มันอุจาดตาแค่ไหน อยู่ได้ยังไงวะนี่”
เจ้าของบ้านสังกะสีอันซอมซ่อ ตอบว่า.. “ ขอรับกระผม กระผมก็แค่อาศัยอยู่ด้วยจิตที่เสาะแสวงหาแต่ความดี และความงาม อะไรที่มันไม่งาม ไม่ดี กระผมก็ไม่สนใจดู กระผมมุ่งดูแต่ความงามความดีเท่านั้น อะไรที่ไม่ดีไม่งาม กระผมก็ไม่ใส่ใจขอรับ ... กระผมก็ไม่เข้าใจท่านเหมือนกัน บ้านท่านออกใหญ่โตงดงาม แต่ท่านกลับไม่สนใจ ตื่นเช้ามาก็สนใจแต่บ้านเฮงซวยของกระผม ถ้ากระผมเป็นท่าน ก็คงจะชื่นชมความงามพร้อมของบ้านตัวเอง และไม่สนใจบ้านที่เฮงซวยของคนอื่น”

ท่านเศรษฐีได้คิดว่า..... จริงด้วย เราคงบ้าไปแล้ว ที่เอาจิตของตัวเองไปจับแต่เรื่องเลวร้าย บ้านของตัวเองที่สวยงามมากกลับไม่สนใจ แถมยังไปวุ่นวายกับของนอกกายรอบข้างที่สกปรก นับตั้งแต่นั้นมาท่านมหาเศรษฐีก็เข้าใจในธรรมของผู้ยากไร้และกลายเป็นกัลยาณมิตรกัน จวบจนสิ้นอายุขัย

บางครั้ง คนเรามัวแต่มองออกไปภายนอก จนลืมมองถึงสิ่งดีๆที่เรามีอยู่กับตัว หากเราได้ตั้งสติและมองออกจากภายใน มองด้วยจิตใจที่งดงาม เราคงได้เห็นความงดงามและคุณค่าของสิ่งต่างๆอีกมากมายที่อยู่รอบๆตัวเรา เมื่อนั้น..ใจของเราคงผ่องใส ชีวิตของเรา..คงมีแต่ความสุขได้ทุกวัน จะทุกข์หรือสุข บางครั้ง...อยู่ที่เข้าใจชีวิต

 

สุดยอดครับ นับถือน้ำใจพี่หนุ่มเมืองแกลงครับ :cool:

 

การให้เป็นบุญอันยิ่งใหญ่ สาธุๆครับพี่หนุ่ม
จิตใจดีแม้กระทั้งคนอื่นคนใดที่ไม่รู้จักมักคุ้น
สุดยอดมากๆครับผม :cool:

 

ขอขอบพระคุณในน้ำใจของพี่มากๆครับ

 

ผมไม่ได้รับของจากพี่หนุ่ม แต่ผมรู้สึกดีใจและยินดี กับน้ำใจของพี่หนุ่ม ต่อน้องๆ ในห้องนี้มากๆ เลยครับ ขอบคุณนะครับพี่

 

10 อย่างที่ “ควรทิ้ง” ..เพื่อชีวิตที่มีความสุข

“ความสุข” ไม่ใช่วัตถุเป้าหมาย แต่มันคือความรู้สึกของเรา ที่เราสามารถเลือกได้ ควบคุมได้ แต่หลายๆคนมักจะลืม
หลายคนไขว่คว้าหาความสุขมาทั้งชีวิต แต่หารู้ไม่ว่า ความสุข.....มันอยู่ที่การปรับมุมมองของเราในชีวิตเท่านั้นเอง

นี่คือ 10 อย่างในชีวิต ถ้าคุณยังมีอยู่…คุณ “ควรทิ้ง” มันซะ เพื่อชีวิตที่จะมีความสุขมากขึ้น

1. ทิ้ง “ความอิจฉา”
เมื่อคุณเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นๆ มันจะดีก็ต่อเมื่อมันเป็นแรงบันดาลใจให้คุณในการแข่งขันและพัฒนาตัวเอง
แต่มันจะเริ่มไม่ดีถ้าความสำเร็จของคนอื่นทำให้คุณรู้สึกริษยา และไม่สามารถยินดีกับคนนั้นได้ นี่จะทำให้คุณทุกข์เสียเอง

2. ทิ้ง “ความกลัวที่จะเปลี่ยน”
หลายๆครั้งแม้สถานการณ์ปัจจุบันมันจะย่ำแย่แค่ไหน คนเราก็ไม่อยากที่จะเปลี่ยนแปลง กลัวที่จะเปลี่ยนแปลงจากสิ่งเดิมๆ
เพราะกลัวสิ่งใหม่มากกว่า แต่คุณหารู้ไม่ว่าบางที่สิ่งใหม่ๆมันอาจจะดีกว่าสิ่งที่คุณเจออยู่มากมายก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นจงกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง

3. ทิ้ง “ความคิดที่ว่า ทุกอย่างต้องอยู่ในความควบคุม”
คนจำนวนไม่น้อย ชอบความเป๊ะ ชอบให้ทุกอย่างอยู่ในความควบคุม เป็นไปตามแผน แต่พอมันไม่เป็นไปตามนั้นก็จะทุกข์
เพราะฉะนั้นควรปล่อยวางแต่ทำให้เต็มที่ ผลจะออกมาเป็นอย่างไรก็ยอมรับมันซะ ไม่มีอะไรที่เราควบคุมได้ทั้งหมดจริงๆหรอก

4. ทิ้ง “การทำงานที่มากเกินไป โดยเฉพาะ OT”
เพื่อความสำเร็จ เพื่อหน้าที่การงานหรือเพื่อเงิน ทำให้หลายๆคนทำงานหนัก หนักเกินกว่าที่ควรจะเป็น เพิกเฉยความสำคัญของสมดุลระหว่างการทำงานกับชีวิต
นี่ไม่สมควรเลยเพราะสุดท้าย เมื่อคุณพบความสำเร็จจริงๆ คุณจะเสียดายในหลายๆอย่างที่คุณเสียไป และเอากลับคืนมาไม่ได้ อย่างเช่น เวลาที่จะมีให้ลูก ให้พ่อแม่หรือครอบครัว

5. ทิ้ง “การโทษคนอื่น หรือสิ่งอื่น”
หลายๆคนเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น จะต้องหาสิ่งของหรือคนมารับผิดชอบให้ได้ ต้องโทษนู่น โทษนี่ตลอดเวลา
ลองเปลี่ยนจากแบบนั้น มาเป็นการนั่งมองที่ปัญหาและช่วยกันแก้ไขดีกว่านั้น

6. ทิ้ง “การบ่น หรือตำหนิตลอดเวลา”
แทนที่จะบ่น ตำหนิเรื่องไม่ดีที่ไม่ได้ดั่งใจเราตลอดเวลา ลองเปลี่ยนมุมมองใหม่
เป็นการตั้งสติมองว่าปัญหานี้เกิดจากอะไรและแก้ไขอย่างไร ทำแบบนี้คุณจะมีความสุขขึ้นเยอะเลย

7. ทิ้ง “ความคิดที่ว่าจะต้องถูกเสมอไป”
สี่ตีนยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง ไม่มีใครเก่งไปทุกเรื่อง การที่ต้องมานั่งเครียด กลัวว่าเราจะไม่ “สมบูรณ์แบบ” นั้น
มันจะทำให้คุณไม่มีทางมีความสุขได้เลย ลองปล่อยวางและยอมรับในธรรมชาติของมนุษย์เสียเถอะ แล้วจะมีความสุขมากกว่าเดิม

8. ทิ้ง “ความเชื่อที่จำกัดความสามารถคุณ”
บางคนมักมีความเชื่อที่ว่า เราทำนู่นไม่ได้ ทำนี่ก็ไม่ได้ เราทำได้แค่นี้แหละพอแล้ว
ความคิดเหล่านี้เป็นอุปสรรคที่สำคัญที่สุดในชีวิต ที่จะทำให้เราไม่ได้ทำในสิ่งที่เรารักหรือท้าทายไปสู่ความสำเร็จจริงๆของชีวิต

9. ทิ้ง “เพื่อนแย่ๆ”
มนุษย์เป็นสัตว์สังคมและได้รับอิทธิพลจากคนรอบข้างค่อนข้างสูง เพราะฉะนั้นอยากเป็นคนแบบไหน
การคบเพื่อนคือเรื่องสำคัญ ถ้าเพื่อนดีคุณก็ดีไปด้วย ถ้าเพื่อนไม่ดีคุณก็พลอยแย่ไปด้วยนั่นเอง การตัดสินใจถูกจะนำพาไปสู่จุดหมาย

10. ทิ้ง “อดีต”
อดีต..คือประสบการณ์ที่มีทั้งดีและไม่ดี มันคือสิ่งที่สร้างตัวตนของเราขึ้นมา แต่มันไม่ควรเป็นสิ่งที่รวบรวมความเสียใจในอดีต
และทำให้คุณก้าวไปไหนไม่ได้ เพราะฉะนั้นถ้าหากมันเป็นแบบนั้น จงปล่อยวางและทิ้งมันไปบ้างก็ได้ โลกจะน่าอยู่มากขึ้น

 

ขอบคุณมากๆครับพี่หนุ่ม

 

สวัสดียามดึกครับพี่หนุ่มเมืองแกลง เพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน และผู้ที่เคารพและศรัทธาหลวงพ่อชาญณรงค์ อภิชิโต ทุกๆท่านครับผม

 

ผมขอขอบคุณพี่หนุ่มมากครับผมกลับมาบ้านผมได้รับพระที่พี่ส่งให้ผมแล้ว ผมดีใจมากครับ
ขอขอบคุณพี่มากๆขอให้พี่และครอบครัวพบเจอแต่สิ่งดีๆครับ

(ผมได้ติดตามกระทู้ของพี่หนุ่มมาปีกว่า ทั้งกระทู้นี้และก่อนหน้า ผมได้ทำตำราว่าด้วยการห้อยพระโดยรวบรวมความรู้จากกระทู้พี่หนุ่มโพสไว้ใช้เวลาศึกษาเป็นเวลา 8 เดือนกว่าจะเสร็จ ผมขอบอกเลยว่าจากที่ผมติดตามอ่านบทความเขาตลอดพี่ชายคนนี้มีน้ำใจมากครับ)

 

สวัสดียามดึกครับพี่หนุ่มเมืองแกลง เพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน และผู้ที่เคารพและศรัทธาหลวงพ่อชาญณรงค์ อภิชิโต ทุกๆท่านครับผม