เปิดกรุพระดี.....สำหรับมีไว้บูชาอย่างแท้จริง

พระสมเด็จพิมพ์ 7ชั้นหูบายศรี ของหลวงพ่อหร่วน วัดบุนนาค อ.แกลง ระยอง
ให้ชมภาพพระผงยุคเก่า สร้างแบบโบราณ ที่ดูแล้วสบายตาทั้งพิมพ์และเนื้อหา
หากใครเจอก็เก็บไว้ได้เลย เพราะพระผงชุดนี้ของท่านมีประสบการณ์เยี่ยมยอด
พระสมเด็จ2องค์นี้มีเจ้าของแล้ว นำมาให้ชม เพื่อเป็นแนวทางในการศึกษาครับ

 

สวัสดียามดึกครับพี่หนุ่มเมืองแกลง เพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน และผู้ที่เคารพและศรัทธาหลวงพ่อชาญณรงค์ อภิชิโต ทุกๆท่านครับผม

 

สวัสดียามดึกครับพี่หนุ่มเมืองแกลง เพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน และผู้ที่เคารพและศรัทธาหลวงพ่อชาญณรงค์ อภิชิโต ทุกๆท่านครับผม

 

สวัสดียามดึกครับพี่หนุ่มเมืองแกลง เพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน และผู้ที่เคารพและศรัทธาหลวงพ่อชาญณรงค์ อภิชิโต ทุกๆท่านครับผม

 

ได้โอนเงิน เมื่อ ๓พค.. เวลา๑๑.๑๘น.เป็นค่าบูชาพระ ๖.รายการ ที่อยู่ดูในกล่องข้อความครับ

 

หมายเลขพัสดุ ระบบems ที่ได้จัดส่งไปแล้วเมื่อเช้านี้

EQ 1735 29794 TH….. vij
EQ 1735 29803 TH….. Prakit Sir
EQ 1735 29817 TH….. นิติพนธ์

EQ 1735 30024 TH….. Siriphon
EQ 1735 30015 TH….. padyod p
EQ 1735 30007 TH….. Suebsakul

 

ขอจัดส่งในเช้าพรุ่งนี้นะครับ ขอบคุณมากครับ

 

สวัสดียามดึกครับพี่หนุ่มเมืองแกลง เพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน และผู้ที่เคารพและศรัทธาหลวงพ่อชาญณรงค์ อภิชิโต ทุกๆท่านครับผม

 

หมายเลขพัสดุ ระบบems ที่ได้จัดส่งไปแล้วเมื่อเช้านี้

EQ 1735 35931 TH….. j999
EQ 1735 35945 TH….. Bob Ngamthip
EQ 1735 35959 TH….. korn tanapokai

 

เเล้วคับ ที่อยู่ pm

 

บทความคัดลอกน่าสนใจ สามารถนำไปพิจารณาด้วยตนเอง
เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง และกำลังจะเปลี่ยนแนวทางการสะสม
ขอขอบคุณ ผู้เขียนบทความนี้ไว้ด้วย ไม่ทราบว่าเป็นท่านใด
.............................................................................
ตอน... คุยสัพเพฯ วงการพระเครื่อง (ทิศทางและมาตรฐานของวงการ)

ตลอดระยะเวลา 4-50 ปีที่ผ่านมานั้น ทิศทางของพระเครื่ิองนั้นถูกกำหนดจากคนกลุ่มหนึ่ง ที่ค่อยๆกำหนดทิศทางในการซื้อขายและสะสม แรกๆก็อิงกับพระเครื่องยุคเก่าที่มีประสบการณ์เป็นที่ยอมรับของสังคมยุคนั้น แต่ช่วงหลังๆนี้ ทิศทางดังกล่าวเริ่มหายไปแล้ว พระเครื่องยุคหลังนั้นแพงเพราะลูกศิษย์รวย ยิ่งลูกศิษย์ร่ำรวยมากเท่าไหร่ พระเครื่องของเกจิอจ.ท่านนั้นก็มีราคาแพงตามไปด้วย หรือไม่ก็แพงเพราะคณะผู้จัดสร้างพระเครื่องนั้นๆว่า มีบารมีอยู่ในสมาคมหรือกลุ่มเซียนห้างขนาดไหน เพราะพระใหม่ๆของเกจิอจ.ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักกันเท่าไร และพระเครื่องนั้นๆก็ยังไม่เกิดประสบการณ์ใดๆเลย บางองค์นั้นราคาแพงกว่าพระเก่าที่เคยมีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานเสียอีก จะว่าไปแล้วก็คล้ายๆกับการปั่นราคาในสมัยจตุคามฯแหละครับ อย่าถือไว้นานได้ราคามีกำไรปล่อยเลยครับ

ส่วนพระหลักตอนนี้ หลังจากโดนกระแสคาร์บอน-14 จากรายการคืนพระเครื่องของพิธีกรชื่อดัง ต่อเนื่องกับการนำพระไปตรวจหาอายุในตปท. จึงทำให้พระผงหรือเนื้อดินราคาแพงๆชะงักไป ทิศทางการสะสมอ่อนตัวลงอย่างมาก ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจที่หดตัวต่อเนื่องกันมาหลายปี จึงทำให้แนวทางการสะสมพระเครื่องเพื่อเป็นทรัพย์สินนั้น เริ่มไม่มีความมั่นคงเหมือนเดิมอีกแล้ว การเก็บพระเครื่องเป็นทรัพย์สินอย่างในอดีต เริ่มถูกทบทวนว่า มีความเสี่ยงสูงขึ้นมากจากหลายๆสาเหตุ และจากความเสื่อมลงของชื่อเสียงของคนในวงการที่เคยชี้เก๊ชี้แท้ ในพระเครื่องต่างๆ

จากเทคโนฯที่เจริญก้าวหน้ามากขึ้น มีเครื่องมือที่ทันสมัยต่างๆมาเป็นตัวช่วยแม้แต่การดูพิมพ์นั้น ก็สามารถสแกน 3 มิติ แล้วเทียบข้อมูลที่ได้ด้วยเครื่องคอม ดังนั้นทิศทางการสะสมสำหรับพระเก่า ก็จะขึ้นอยู่กับหลักการทางวิทย์ฯเพิ่มขึ้นมาอีกอย่างหนึ่ง ส่วนพระใหม่ก็ขึ้นอยู่กับแรงเชียร์ของสื่อต่างๆ ซึ่งแต่เดิมมีแต่หนังสือเท่านั้น แต่ตอนนี้มีสื่อหลายอย่างเช่น ทีวี และระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตทั้งหลาย ในเฟสฯก็มีเพจต่างๆที่คอยเชียร์พระในกลุ่มของตนเอง เริ่มทำให้ความสำคัญของหนังสือลดน้อยถอยลงไปเรื่ิอยๆ

แล้วมาตรฐานของวงการนั้น ตอนนี้อยู่ตรงไหน เพราะทุกคนก็อ้างมาตรฐานของตนทั้งนั้น คิดๆแล้วก็สงสารนักสะสมที่ต้องสับสนกับมาตรฐานที่ต่างฝ่ายต่างกำหนดกันเอง การดูพระด้วยหลักวิชาต่างๆนั้น แค่ทำให้เราเช่าพระที่มีโอกาสแท้มากขึ้นเท่านั้น แต่ไม่ใช่เกณฑ์ตัดสินเก๊แท้อีกต่อไป เพราะของเก๊ของฝีมือทำได้ใกล้เคียงมากขึ้นเรื่อยๆ พัฒนาเทคนิคการปลอมแปลงถึงขั้นที่ดูด้วยตาแทบไม่ได้แล้ว

คนที่ปฏิเสธว่าไม่จริงนั้น หรือคิดว่าตนเองเก่งนั้น ก็ให้ดูเซียนใหญ่ครึ่งฟ้าเมืองไทยที่พลาดมาแล้ว คงไม่ต้องบอกว่าให้สำนึกตัวเสียบ้าง โดยเฉพาะบรรดาเหล่าอจ.ที่สอนในเฟสฯ ที่แย่งชิงลูกศิษย์กันเพื่อสร้างฐานให้ตนเอง ผลักดันตนเองให้ขึ้นมา อ้างว่าค้นพบหลักวิชาต่างๆในการดูพระ ทั้งๆที่ต่างก็ลอกกันไปลอกกันมาทั้งนั้น แล้วหลักวิชาเหล่านั้นมันมีอยู่ก่อนแล้ว เพียงแต่ไม่เปิดเผยอย่างที่นำมาเผยแพร่อย่างทุกวันนี้ เพราะสอนเฉพาะลูกศิษย์ใกล้ชิดเท่านั้น ดังนั้นมาตรฐานตอนนี้คือ ตัวใครตัวมันกลุ่มใครกลุ่มมัน แต่ต่อไปนั้นคงอิงหลักวิทย์ฯมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วคงใช้หลักการตรวจเช็ควัตถุโบราณมาเป็นเกณฑ์มากขึ้น มากกว่าจะเชื่อเรื่องพิมพ์ตามการชี้นำของกลุ่มที่อ้างตัวว่าสากลอีกต่อไป

 

จะจัดส่งในเช้าวันแรกที่ไปรษณีย์เปิดทำการครับ ขอบคุณมากครับ

 

บทความยอดเยี่ยมไปเลยครับ :cool:

 

สวัสดียามดึกครับพี่หนุ่มเมืองแกลง เพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน และผู้ที่เคารพและศรัทธาหลวงพ่อชาญณรงค์ อภิชิโต ทุกๆท่านครับผม

 

สวัสดียามดึกครับพี่หนุ่มเมืองแกลง เพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน และผู้ที่เคารพและศรัทธาหลวงพ่อชาญณรงค์ อภิชิโต ทุกๆท่านครับผม

 

สวัสดียามดึกครับพี่หนุ่มเมืองแกลง เพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน และผู้ที่เคารพและศรัทธาหลวงพ่อชาญณรงค์ อภิชิโต ทุกๆท่านครับผม

 

สวัสดียามดึกครับพี่หนุ่มเมืองแกลง เพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน และผู้ที่เคารพและศรัทธาหลวงพ่อชาญณรงค์ อภิชิโต ทุกๆท่านครับผม

 

สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพฯ
ท่านได้เคยเทศน์เรื่องทำบุญไว้ว่า " ...ทำไมต้องทำบุญ?... "

เพราะบุญเป็นพลังงาน ที่มีพลังดึงดูด ความเจริญ มาสู่ชีวิต เป็นต้นเหตุ แห่งความสุข ความสำเร็จ ในชีวิต
......ถ้าบุญน้อย อุปสรรคในชีวิตก็มาก
......ถ้าบุญมาก อุปสรรคในชีวิตก็น้อย

ถ้าบุญอ่อนกำลังลง หรือบุญหมด.. บาปที่เคยทำไว้ก็จะได้โอกาสส่งผล ทำให้ชีวิตมีอุปสรรคต่างๆนานา เช่น เจ็บไข้ได้ป่วย ไม่มีความสุข หมดอำนาจวาสนา เสียชื่อเสียงเกียรติยศ แม้คนที่รักกันก็หมดรัก แม้ทรัพย์ที่มีอยู่น้อยนิด ก็ยังรักษาไว้ไม่ได้ ฉะนั้นการจะมีทรัพย์สมบัติทุกอย่าง และความสมบูรณ์พร้อมในชีวิต ก็ต้องมีบุญที่มากเพียงพอ ซึ่งไม่ว่าจะอยู่ในสถานภาพใด ล้วนต้องอาศัยบุญทั้งนั้น ไม่ว่าจะอยากอยู่แบบพอมีพอกิน หรือคิดจะเป็นเศรษฐี มหาเศรษฐี หรือพระเจ้าจักรพรรดิ แม้กระทั่ง ปรารถนาที่จะหมดกิเลส บรรลุมรรคผล นิพพานเป็นพระอรหันต์ เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ต้องมีบุญถึง บารมีถึง ถึงจะดำรงอยู่ในสภาวะนั้น ได้อย่างมั่นคง และมีความสุข ...ด้วยเหตุนี้ เราจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะสั่งสมบุญ เพราะบุญ คือเบื้องหลังความสุข ความสำเร็จ ในชีวิตทุกระดับ อย่างแท้จริง

ท่านคมสรณ์ สรณะวาที
พระธรรมทูตอินเดีย
๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙

 

สวัสดียามดึกครับพี่หนุ่มเมืองแกลง เพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน และผู้ที่เคารพและศรัทธาหลวงพ่อชาญณรงค์ อภิชิโต ทุกๆท่านครับผม

 

สังคมไทยในยุคนี้ ....

ผู้หญิง....ถ่ายหน้าอกลงโชว์
ผู้ชาย.....ถ่ายรถ โชว์ลงเฟส

ใครจะไปรู้ว่า ...
อกนั้น ! .... ปลอม หรือ จริง
รถนั้น ! .....เป็นของเขาหรือของใคร ?

คนที่ยังไม่ได้แต่งงาน.....อยู่กินกันเหมือนคนแต่งงาน !
ส่วนคนที่แต่งงานแล้ว.....กลับแยกกันอยู่เหมือนยังไม่ได้แต่งงาน !

สัตว์ .... เริ่มสวมใส่เสื้อผ้า เหมือนกับ คน
คน ... เริ่มอวดเนื้อหนังเหมือนกับ สัตว์

เด็ก .... ทำตัวแก่แดดเหมือนกับ ผู้ใหญ่
ผู้ใหญ่ ... ทำตัวแอ๊บแบ๊วเหมือนกับ เด็ก

ผู้หญิง .... ทำตัวห้าวเป็นเหมือน ผู้ชาย
ผู้ชาย ..... ทำตัวมุ้งมิ้งเหมือน ผู้หญิง

คนจน .... ทำรวยเป็น เศรษฐี
คนรวย ....ทำจนเหมือน ยาจก

เถ้าแก่ .... แต่งตัวเหมือน ลูกจ้าง
ลูกจ้าง ....แต่งตัวเหมือน เถ้าแก่

คนโสด .... ทำตัวเหมือน แม่บ้าน
แม่บ้าน .....ทำตัวเหมือนคน โสด

คนผอม ..... ถ่ายรูปโพสต์ว่าช่วงนี้ อ้วน
คนอ้วน ......ถ่ายรูปโพสต์ว่าช่วงนี้ ไดเอท

คนมีรอยสัก .....มักถอดเสื้อแล้วบอกว่า ร้อน
คนใช้โทรศัพท์หรู มักบอก.....ไม่มีกระเป๋าถือ
คนซื้อนาฬิกาเรือนใหม่ ........ ชอบปัดแขนปัดขา

สักวันหนึ่ง ! .... คุณจะเข้าใจว่า
-ใส่นาฬิกาเรือนละสามร้อยหรือสามหมื่น 1วัน ก็มี 24 ชั่วโมงเหมือนกัน
-ดื่มเหล้าแก้วละสามสิบ หรือแก้วละสามพัน ....... ก็อ๊วกออกมาเหมือนๆกัน !
-อยู่บ้านกว้าง 30 ตารางเมตรหรือ 300 ตารางวา .... ความโดดเดี่ยว ก็ไม่ต่างกัน !
-สูบบุหรี่มวนละสิบบาท หรือมวนละร้อย .......ก็เป็นมะเร็งปอดเหมือนกัน !

และสักวันหนึ่ง .....คุณก็จะเข้าใจถึง ความสุขในจิตใจ ไม่มีทางหาได้จากวัตถภายนอก
เพราะฉะนั้น ! ......จงรู้พอใจ พอมี พออยู่ พอเพียง จึงได้มีได้พบความสุข

การจะใช้ชีวิตอยู่กับใครนั้น !... นับว่าสำคัญมาก
การที่ใครจะอยู่กับเราตลอดไปนั้น !...หาได้ยากยิ่งกว่า !!

เรียบเรียงโดย... ลสอบต.