ถูกต้องแล้วครับ ตั้งอยู่ชั้นล่างของวิหารเซียน ชลบุรีครับ ยินดีด้วยครับ
เปิดกรุพระดี.....สำหรับมีไว้บูชาอย่างแท้จริง
ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย หนุ่มเมืองแกลง, 16 มีนาคม 2012.
หน้า 970 ของ 2901
-
หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี
-
-
หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี
ความมหัศจรรย์ของการสวดมนต์
อาตมา (สมเด็จโต) ได้เห็นอานิสงส์ของการสวดมนต์ด้วยตัวอาตมาเอง ในสมัยที่อาตมาได้ออกเดินธุดงค์ในป่าเป็นเวลา 15 ปี โดยอาศัยอยู่ในเขตดงพญาไฟ ซึ่งเป็นเขต ที่อยู่ใกล้ชายแดนของประเทศเขมร
ในสมัยนั้นเต็มไปด้วยสิงสาราสัตว์ และภูติผีวิญญาณตลอดจนชาวบ้านที่มีเวทมนต์คาถา และเล่นคุณไสยกันอยู่อย่างมากมายในอาณาบริเวณชายแดนแห่งประเทศสยามในตอนนั้น อาตมาได้เดินธุดงค์แต่เพียงลำพัง ในช่วงนั้นอาตมามิได้ศึกษาในพระเวทมนต์คาถาอาคมใดเลย นอกจากคำว่า
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ซึ่งมีความหมายว่า ข้าพเจ้าขอยึดมั่น พระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง พระธรรมเป็นที่พึ่ง พระสงฆ์เป็นที่พึ่ง อาตมาไปที่แห่งหนตำบลใด ก็จะกล่าวเพียงคำนี้ตลอดเวลาของจิตใจอันเป็นที่พึ่งของอาตมา อาตมาเดินทางเข้าสู่หมู่บ้านชายแดนแห่งประเทศสยามในดงพญาไฟขณะนั้นในหมู่บ้าน มีชาวบ้านอาศัยอยู่เพียงเล็กน้อย อาตมาจึงได้ปักกลดอยู่ที่ท้ายหมู่บ้าน มีชาวบ้านนำอาหารมาถวายตามกำลังที่เขาจะพอทำได้เมื่อเห็นมีพระภิกษุมาปักกลดในที่แห่งนั้น อาตมาอาศัยอยู่ที่นั้นเป็นระยะเวลาหลายปี และ ณ ที่แห่งนั้น อาตมาจึงได้พบคุณวิเศษแห่งการสวดมนต์
มีชาวบ้านผู้หนึ่งได้เข้ามาสนทนากับอาตมาหลังจากได้ถวายอาหารแล้ว ชาวบ้านผู้นั้นอาตมาทราบชื่อภายหลังว่าชื่อ นายผล นายผลได้เล่าให้อาตมาฟังว่า เขาเป็นผู้ฝึกเวทย์มนต์คาถาอาคม เล่าเรียนจนมีญาณแก่กล้าและมักจะทดสอบเวทย์มนต์คาถาอาคมแก่พระภิกษุสงฆ์ที่เดินทางมาปักกลด ณ บริเวณนี้เป็นประจำ
เขาเล่าให้อาตมาฟังว่า เขาได้ส่งอำนาจคุณไสยเข้ามาทำร้ายอาตมาทุกคืน แต่ไม่ได้หวังทำร้ายเป็นบาปเป็นกรรมถึงตาย เพียงแต่ต้อง การทดสอบดูว่าภิกษุรูปนั้น จะมีวิชาอาคมแก่กล้า สามารถที่จะต่อสู้กับคุณไสยเขาได้หรือไม่
นายผลก็ได้ทำคุณไสยใส่อาตมาถึง 7 วันเต็มๆ ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยควายธนู หรือปล่อยหนังควาย ปล่อยตะขาบตลอดจนภูติพรายเข้ามาทำร้ายอาตมา แต่ปรากฏสิ่งที่ปล่อยมา ก็ไม่สามารถเข้ามาทำร้ายอาตมาได้เลย วันนี้จึงได้มากราบเพื่อสนทนาแลกเปลี่ยนวิชาความรู้กับอาตมา อาตมาจึงได้บอกว่าตัวอาตมาเองไม่ได้ศึกษาพระเวทย์มนต์คาถา หรือคุณไสยใด นายผลก็ไม่ยอมเชื่อหาว่าอาตมาโกหก ถ้าหากไม่มีของดีแล้วไซร้ไฉนอำนาจคุณไสยดำที่เขาส่งมา จึงกลับมายังเขาซึ่งเป็นผู้กระทำ ไม่สามารถทำร้ายอาตมาได้
อาตมาก็พยายามชี้แจงให้เขารู้ว่า อาตมาไม่มีวิชาเหล่านี้จริงๆ ทำให้ผลสงสัยยิ่งนักว่าเหตุใดอาตมาจึงไม่ได้รับภัยอันตรายจากอำนาจเวทมนต์คุณไสยดำที่เขา ส่งมาทำร้ายได้
อาตมาได้บอกกล่าว แก่เขาว่า เมื่ออาตมาจะนอน อาตมาก็จะสวดแต่คำว่า
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัม มัง สะระณัง คัจฉามิ
สัง ฆัง สะระณัง คัจฉามิ
จนจิตมีความสงบนิ่งแล้ว จึงได้แผ่ส่วนกุศลไปให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย จงอย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย และอาตมาก็จำวัดนอนเป็นปกติ
นายผล เมื่อได้ฟังดังนั้นจึงได้บอกแก่อาตมาว่า.. ข้าแต่ท่านอาจารย์ ก็เช่นนั้น ข้าพเจ้าขอร้องให้ท่านในวันนี้ ก่อนที่ท่านจะจำวัด จงหยุดการสวดมนต์สัก 1 คืนได้หรือ ไม่ข้าพเจ้าต้องการจะพิสูจน์ว่า.. การสวดมนต์ของท่านเช่นนี้จะเป็นเกราะคุ้มครองภัยท่าน หรือเป็นเพราะอำนาจเวทมนต์คาถาในภูติผีปิศาจของข้าพเจ้าเสื่อมกันแน่ ข้าพเจ้าขอรับรองว่า จะไม่ทำอันตรายแก่ท่านอาจารย์อย่างเด็ดขาด เพียงแต่ต้องการ ที่จะทดสอบให้ความรู้แจ้งเห็นจริงว่าเกิดอะไรขึ้น
อาตมาก็ตกลงรับปากแก่นายผลว่า คืนนี้จะไม่ทำการสวดมนต์ นายผลจึงได้ลากลับไป ครั้นถึงเวลาพลบค่ำ อาตมาก็นอนโดยมิได้ทำการสวดมนต์ตามที่ได้ปฎิบัติเป็นปกติ เมื่ออาตมานอนหลับไป..อาตมารู้สึกตัวขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เมื่อปรากฏว่าอาตมาได้ยินเสียง กุกกัก กุกกักจะขึ้นมา จึงได้จุดเทียนและพบตะขาบใหญ่ยาวเท่าขาของอาตมากำลังเลื้อยเข้ามาอยู่ใกล้ตัวของอาตมา มาก อาตมารู้สึก ตกใจถึงหน้าถอดสี และด้วยสัญชาติญาณจึงกล่าวคำสวดมนต์ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ ด้วยจิตยึด มั่นในพระพุทธองค์เป็นที่พึ่งเป็นเวลานานเท่าใดไม่ทราบได้ เสียงกุกกัก และตะขาบที่อยู่ข้างหน้าก็อันตรธานหายไป จากนั้นอาตมาจึงได้จำวัดนอนเป็นปกติ
ในวันรุ่งขึ้น นายผลก็มาหาอาตมาและได้กล่าวว่า เมื่อคืนนี้..ข้าพเจ้าได้ปล่อยตะขาบเข้าไปในกลดที่ท่านพำนักอยู่ อาตมาบอกว่า อาตมาได้ตื่นมาและตกใจ จึงได้สวดมนต์ ภาวนา ตะขาบตัวนั้น ก็อันตรธานหายไป
นายผลจึงได้ ยกมือพนมขึ้นแล้วกล่าวว่า บัดนี้ข้าพเจ้าเชื่อแล้วว่า อำนาจเวทมนต์คาถา และคุณไสยใดๆ ของข้าพเจ้ามิอาจทำร้ายท่านได้ ก็เพราะอำนาจ แก่การสวดมนต์ภาวนาของท่านเป็นเกราะคุ้มครองภัยอันตรายต่างๆ ได้
ที่อาตมา (สมเด็จโต) ได้เล่าให้ท่านทั้งหลายในที่นี้ได้ฟังกัน เพื่อให้เป็นอานิสงส์ของการสวดมนต์ว่า เหล่าพรหมเทพ ได้มาฟังการสวดมนต์จริงดังที่อาตมาได้เทศน์ไว้ เพราะถ้าไม่ใช่เหล่าพวกพรหมเทพแล้วไซร้ ก็คงไม่สามารถที่จะขับไล่สิ่งที่เกิดจากอำนาจคุณไสย ที่นายผลส่งมาเล่นงานอาตมาได้อย่างแน่นอน
ท่านเจ้าพระยาและอุบาสก อุบาสิกาในที่นั้น เมื่อได้ฟังคำเทศนาแล้วต่างก็ยกมือขึ้นสาธุว่า อานิสงส์ของ การสวดมานต์ช่างมีคุณค่าสูงส่งยีงนัก
ขอบคุณข้อมูลจาก
หนังสือ อมตะธรรม สมเด็จโต
อานิสงส์การสวดมนต์แผ่เมตตามหาบุญ -
หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี
เหยือกเต็มแล้วหรือยัง?
อาจารย์สอนวิชาปรัชญา เขาเดินเข้าห้องเรียนมาพร้อมด้วยของสองสามอย่างบรรจุอยู่ในกระเป๋าคู่ใจ เมื่อได้เวลาเรียน เขาหยิบเหยือกแก้วขนาดใหญ่ขึ้นมาแล้วใส่ลูกเทนนิสลงไปจนเต็ม
' พวกคุณคิดว่าเหยือกเต็มหรือ ยัง ?' เขาหันไปถามนักศึกษาปริญญาโท
แต่ละคนมีสีหน้าตาครุ่น คิดว่าอาจารย์หนุ่มคนนี้จะมาไม้ไหนก่อนจะตอบพร้อมกัน ' เต็มแล้ว... '
เขายิ้มไม่พูดอะไรต่อ หันไปเปิดกระเป๋าเอกสารคู่ใจ
หยิบกระป๋องใส่กรวดออกมา แล้วเทกรวดเม็ดเล็กๆจำนวนมากลงไปในเหยือกพร้อมกับเขย่าเหยือกเบาๆ กรวดเลื่อนไหลลงไปอยู่ระหว่างลูกเทนนิสอัดจนแน่นเหยือก เขาหันไปถามนักศึกษาอีก “ เหยือกเต็มหรือยัง ?'
นักศึกษามองดูอยู่พัก หนึ่งก่อนจะหันมาตอบ ' เต็มแล้ว... '
เขายังยิ้มเช่นเดิม หันไปเปิดกระเป๋าหยิบเอาถุงทรายใบย่อมขึ้นมาและเททรายจำนวนไม่น้อยใส่ลงไปในเหยือก เม็ดทรายไหลลงไปตามช่องว่างระหว่างกรวดกับลูกเทนนิสได้อย่างง่ายดาย เขาเทจนทรายหมดถุงเขย่าเหยือกจนเม็ดทรายอัดแน่นจนแทบล้นเหยือก
เขาหันไปถามนักศึกษาอีก ครั้ง “ เหยือกเต็มหรือยัง ?'
เพื่อป้องกันการหน้าแตก นักศึกษาปริญญาโทเหล่านั้นหันมามองหน้ากัน ปรึกษากันอยู่นาน หลายคนเดินก้าวเข้ามาก้มๆเงยๆ มองเหยือกตรงหน้าอาจารย์หนุ่มอยู่หลายครั้ง มีการปรึกษาหารือกันเสียงดังไปทั้งห้องเรียน จวบจนเวลาผ่านไปเกือบห้านาที หัวหน้ากลุ่มนักศึกษาจึงเป็นตัวแทน เดินเข้ามาตอบอย่างหนักแน่น
“ คราวนี้เต็มแน่นอนครับ อาจารย์ ' “ แน่ใจนะ ' “ แน่ซะยิ่งกว่าแน่อีกครับ '
คราวนี้เขาหยิบ น้ำอัดลมสองกระป๋องออกมาจากใต้โต๊ะ แล้วเทใส่เหยือกโดยไม่รีรอ ไม่นานน้ำอัดลมก็ซึมผ่านทรายลงไปจนหมด ทั้งชั้นเรียนหัวเราะฮือฮากันยกใหญ่ เขาหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
“ ไหนพวก คุณบอกว่าเหยือกเต็มแน่ๆ ไง ' เขาพูดพลางยกเหยือกขึ้น
“ ผมอยากให้พวกคุณจำบทเรียนวันนี้ไว้ เหยือกใบนี้ก็เหมือนชีวิตคนเรา
ลูกเทนนิสเปรียบเหมือนเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในชีวิต เช่นครอบครัว คู่ชีวิต การเรียน สุขภาพ ลูก พ่อแม่และเพื่อน สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่คุณต้องสนใจจริงจัง สูญเสียไปไม่ได้
เม็ดกรวดเหมือนสิ่งสำคัญรองลงมา เช่น งาน บ้าน รถยนต์ ส่วนทรายก็คือเรื่องอื่นๆ ที่เหลือเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เราจำเป็นต้องทำ แต่เรามักจะหมกมุ่นอยู่กับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้
เหยือกนี้เปรียบกับชีวิตของคุณ ถ้าคุณใส่ทรายลงไปก่อน คุณจะมัวหมกมุ่นอยู่กับเรื่องเล็กๆน้อยๆ อยู่ตลอดเวลา
ชีวิตเต็มแล้ว... เต็มจนไม่มีที่เหลือให้ใส่กรวด ไม่มีที่เหลือใส่ให้ลูกเทนนิสแน่นอน '
ชีวิตของคนเราทุกคน ถ้าเราใช้เวลาและปล่อยให้เวลาหมดไปกับเรื่องเล็กๆน้อยๆ เราจะไม่มีที่ว่างในชีวิตไว้สำหรับเรื่องสำคัญกว่า เพราะฉะนั้นในแต่ละวันของชีวิต เราต้องให้ความสนใจกับเรื่องที่ทำให้ตัวเราและครอบครัวมีความสุข
ใช้ชีวิตเล่นกับลูกๆ หาเวลาไปตรวจร่างกาย พาคู่ชีวิตกับลูกไปพักผ่อนในวันหยุด พากันออกกำลังกาย เล่นกีฬาร่วมกันสักชั่วโมงสองชั่วโมง เพื่อสุขภาพและความสัมพันธ์ที่ดีในชีวิต พาพ่อแม่ไปเที่ยวพักผ่อนหรือทานข้าว โทรศัพท์หาเพื่อนบ้างให้รู้ว่าเรายังคิดถึงและเป็นห่วง เราต้องดูแลเรื่องที่สำคัญที่สุดจริงๆ ดูแลลูกเมียพ่อแม่ของเราก่อนเรื่องอื่นทั้งหมด หลังจากนั้นถ้ามีเวลาเหลือเราจึงเอามาสนใจ กับสิ่งแวดล้อมที่อยู่ รอบๆ ตัวเรา
นักศึกษาคนหนึ่งยกมือ ขึ้นถาม “ แล้วน้ำที่อาจารย์เทใส่ลงไป ล่ะครับ หมายถึงอะไร ?'
เขายิ้มพร้อมกับบอกว่า “ การที่ใส่น้ำลงไปเพราะอยากให้เห็นว่า ไม่ว่าชีวิตของเราจะวุ่นวายสับสนเพียงใด ในความสับสนและวุ่นวายเหล่านั้น คุณยังมีที่ว่างสำหรับการแบ่งปันน้ำใจให้กันเสมอ... ' -
หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี
-
หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี
เมื่อวันนี้...หน่ายชีวิต
คงมีใครหลายคนเคยรู้สึกเบื่อหน่ายกับการต้องดิ้นรนต่อสู้ในแต่ละวัน รู้สึกเหนื่อยใจและหมดกำลังใจที่จะสู้ต่อไปอีกแล้ว รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบให้นายคนเดียวแบบนั้น จนถึงสุดท้ายในอารมย์ระหว่างทางสองแพร่งคือ
-อยากตายให้พ้นๆไป
-อยากบวชเพื่อหนีเรื่องวุ่นวาย
ดูก่อนญาติโยม ไอ้ตัวข้าพเจ้าก็เคยคิดอิหยังแบบนี้ เมื่อครั้งตกระกำลำบากเป็นหนี้สิ้นมากมายสบายแฮร์ เมื่อหันไปมองคนอื่นๆ เขายังยิ้มเหงือกแดง (หรืออาจเหงือกดำก็ได้) หัวเราะร่าเริงได้ทั้งๆที่เขาก็ลำบาก บางทีมืดๆค่ำๆ หรือยามพระอาทิตย์โบกมือบ๊ายบ่าย เขายังรวมกลุ่มประชาคมสังสรรค์ ยังตั้งสติและรวบรวมแรงเท่าที่พอมีเหลือ พยายามยกแก้วเหล้าขึ้นใส่ปากด้วยความลำบากยากเย็นยิ่งนัก
กินเข้าไปแล้วก็เปล่งเสียงร้องออกมา (ไม่ใช่สาธุแน่นอน) เป็นเสียงไม่อร่อยแท้ๆหน้าตาเหยเก แต่เขาก็ยังฝืนทำ แต่คิดในทางที่ดีเขาคงกินแอลกอฮอล์ลงไปฆ่าพยาธิในท้อง เพื่อให้มีแรงไว้สู้ชีวิตในโลกต่อไป บางคนมีหนังควายแห้งชิ้นเดียวก็จิ้มดูดๆได้ครึ่งคืน คนไทยเรามันอดทนได้ดีจริงๆ มักน้อย กินอยู่แบบประหยัดยิ่งนัก “ จน เหนื่อย เครียด กินเหล้า ” เป็นนิยามสั้นๆของคนสู้ชีวิตพวกนี้ได้ดี
เช้าขึ้นมาเมื่อพระอาทิตย์โผล่หน้ามาตะเบ๊ะ หลายคนและบางครอบครัวยังไม่รู้ว่าจะกินอะไร (ไม่ใช่มีมากจนเลือกกินไม่ถูกแน่นอน) หากอยู่บ้านนอก (ต้องมีคอกนาต่อท้ายด้วย) เดินไปห่างบ้านแค่กบกระโดดเหนื่อย ของกินก็เต๊ะโครมเข้าที่ใบหน้าแล้ว ทั้งผักทอดยอด ทั้งยอดตำหำ (ผักชนิดหนึ่งบะช่ออร่อยมั่กๆ) ทั้งกระทกรก กินได้บ่ยั่นแซบอีหลี แต่คนเมืองกรุงต้องมองด้วยความอิจฉาน้อยๆ เพราะสำหรับคนในเมือง ของพวกนี้ออกดอกออกผลในตลาดแบบสวยเลือกได้อะไรแบบนั้น มื้อหนึ่งของครอบครัวสำหรับคนเมืองต้องวุ่นวายสายตัวแทบขาด กว่าจะเร่งรีบออกนอกบ้านไปเล่นกายกรรมห้อยโหนบนรถเมล์
บ่มีไผฮู้ว่าตายไปแล้วจะเสบย อาจจะลำบากกว่าตอนเป็นๆก็ได้ แม้จะหลบไปเบียดศาสนาด้วยการบวช ก็ไม่ใช่หนทางสงบหากใจยังไม่สงัด คนที่อยู่บ้านหากใจสงบและเข้าใจชีวิตก็มีความสุขสงบเช่นเดียวกับพระในวัดได้ เรายังเห็นบ่อยๆไปตามข่าวหน้าหนังสือพิมพ์ว่า พระในวัดหลายองค์ยังอยากมีชีวิตแบบคนที่บ้านเลย ทั้งสะสมรถหรู แอบเที่ยวกลางคืน(คงไปโปรดโยม) กินเหล้า (คงเป็นยา) เล่นไพ่ หาหมอนวด(คงอาพาธ) เมื่อมองดูคนต่างประเทศที่มาอาศัยแผ่นดินไทย เขายังมีความสุขและมีเงินใช้อย่างสบายมือ เช่นขอทาน แขกขายโรตี เขายังสู้ชีวิตทุกวัน แม้เขาก็ไม่ได้ดีเด่อะไรมากมาย แต่เขาก็อยู่กันได้
หากเรายังมีแรงที่จะยืนได้ด้วยขาของเราเอง อย่าเพิ่งไปท้อและคิดทำอะไรแบบเข็มขัดสั้น
ยังมีที่ว่างสำหรับคนสู้ชีวิตเสมอ อย่ากินแต่ลูกท้อทุกวัน สู้ต่อไปเมื่อหัวใจยังเต้น
-
ขอบคุณครับ
และขออนุโมทนาบุญกับพี่หนุ่มด้วยคนนะครับ สาธุ
สุรศิษฐ์ -
วันนี้ได้โอนเงินร่วมบุญกับหลวงพ่อชาญณรงค์ 1050 บาท ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านครับ
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
พี่หนุ่มครับ ผมและคุณแม่ได้ร่วมทำบุญกับกองทุนสร้างศาลาพระอาจารย์ชาญณรงค์ ศิริสมบัติ จำนวน1,000.45บาท และ 1,000.99บาทครับ ผมได้ให้พระสมเด็จนางพญาของหลวงพ่อชาญณรงค์ที่เคยเช่าบูชามาจากพี่หนุ่มให้กับคุณแม่ไว้พกติดตัวองค์หนึ่ง คุณแม่ผมเล่าว่ามีหลวงพ่อหรือหลวงตาอย่างน้อย2รูปแล้วที่ทักว่านี่พระอะไรเนี่ยมีพลังประหลาดล้ำลึกมากนอกเหนือจากดีทางด้านคุ้มครองป้องกันแล้ว ยังส่งเสริมในด้านพลังอำนาจอีกด้วย
เลยมาเล่าสู่กันฟังครับ
ขออนุโมทนาบุญด้วยครับไฟล์ที่แนบมา:
-
-
สักครู่นี้ได้โอนเงินร่วมสร้างศาลาลพ.ชาญณรงค์เป็นจำนวนเงิน 500 บาท
ขอร่วมอนุโมทนาบุญกับพี่หนุ่มและทุกท่านด้วยครับไฟล์ที่แนบมา:
-
-
หวัดดีครับพี่ พอดีมีดหมอที่ได้บูชาตัวสลักชำรุด จึงอยากขอเบอร์ของร้านที่ซ่อมสลักมีดได้มั๊ยครับ ขอบคุณครับ
-
ได้โอนปัจจัยร่วมทำบุญก่อสร้างศาลาหลวงพ่ออภิชิโต 500 บาท 28/9/56 น่ะครับ ขอบคุณสำหรับการแจ้งข่าวสารเกี่ยวกับหลวงพ่อครับ แนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยครับ
-
สวัสดีครับพี่หนุ่ม
ผมขอร่วมทำบุญสร้างศาลาจตุรมุขเพื่อประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่ออภิิชิโต 1,000 บาทครับ
ผมขอขอบคุณพี่หนุ่มมากที่ได้ช่วยให้ผมได้มีโอกาสได้ร่วมทำบุญกับหลวงพ่ออภิชิโตครับ
ขอบคุณมากครับไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ร่วมทำบุญสร้างศาลาจตุรมุขเพื่อประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่ออภิิชิโต 8,000 บาทครับ โอนแล้วนะครับตามใบโอนนี้ ที่อยู่ตามPMครับ
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
สวัสดีครับพี่หนุ่ม
วันนี้ได้รับพระที่พี่หนุ่มส่งมาเป็นของขัวญแล้วครับ
ขอบคุณครับ -
ผมได้รับของขวัญจากพี่หนุ่มแล้วครับ ขอขอบคุณเป็นอย่างสูงและขออนุโมทนาบุญด้วยครับ
-
พี่หนุ่มครับ ผมได้โอนเงินทำบุญสร้างศาลาหลวงพ่อชาญณรงค์ ขอบคุณครับ
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
พี่หนุ่มครับ ผมได้รับพระมงคลมหาลาภจากการร่วมตอบคำถามเรียบร้อยแล้วนะครับ สภาพสวยคลาสสิคมากจริงๆครับ เห็นคราบกรุชัดเจน ขอบคุณมากๆนะครับพี่
-
หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี
-
หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี
หน้า 970 ของ 2901