ไปเลียมมาเรียบร้อยแล้วครับผม
เปิดตำนานหลวงพ่อทิม วัดละหารไร่
ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย แก้วสว่าง, 17 เมษายน 2011.
หน้า 139 ของ 1117
-
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
-
-
องค์ของผมใส่ตลับก็สวยดีอยู่แล้วครับ..อิอิ -
-
-
อิจฉาเสี่ยๆกันจริงๆ ผมยังไม่มีกับเขาซักองค์
ยังไม่ไปเอาที่นายกต๋อยเลยครับ งานชุกจริงๆช่วงนี้ -
มาแอบอ่านหนุ่มๆ เค้าคุยกัน.....^^
-
หลังจากได้ลูกอมมา...ก็ไม่กล้าไปเลี่ยม...ลูกนี้ขนาดใหญ่กว่าลูกอมพรายมงคล....พอดียังมีตลับลูกอมขนาดใหญ่อยู่ที่บ้าน 1 อัน...ก้ลองหย่อนลูกอมลงไป...พอได้...ดัดห่วงหลบนิดนึง....ก็ปัดทองเองด้วยน้ำยาเคลือบเล็บ....ซึ่งก็ไม่ค่อยเรียบร้อยนัก เพราะไม่ได้เก็บรายละเอียด ยังพอเห็นเนื้อผงอยู่บ้าง...ใจร้อนอยากแขวนเร็วๆ....ก็แขวนกับขุนแผน ปี 44 วัดละหานไร่ครับ ด้วยสร้อยองค์ละเส้น:cool:
-
-
-
chopper1972 said: ↑โต้งชลบุรี said: ↑***
ครับคุณโต้ง...พอดีมีลูกอมพรายมงคล รุ่น 4 อยู่ลูกนึงที่ใหญ่ขนาดนี้(ประมาณเหรียญห้าบาท ผมก็เลยไม่ได้ใส่ตลับ เพราะรุ่น 1, 2 , 3 และ 4 ลูกอื่นๆจะประมาณเหรียญบาทเหรียญ 2 บาท ....ตลับ:cool:ก็พอดีกับลูกอมหลวงปู่ทิม ลูกนี้พอดีครับ:cool:Click to expand...Click to expand... -
-
การบูชา ลูกอมพรายกุมาร หลวงปู่ทิม ต้องทำอย่างไรครับ ต้องจุดธูปบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางก่อนนำเข้าบ้านหรือเปล่าครับ ขอคำแนะนำจากพี่ๆด้วยครับ... มีบทอาราธนาไหมครับ... หรือต้องทำอย่างไรถึงจะได้ผลดีที่สุดครับ...ขอบคุณพี่ๆมากๆครับ.....
-
คาถาบูชา ลูกอมผงพรายกุมาร<o:p></o:p>ไปเจอมาจากที่ไหนไม่แน่ใจก็เลยเซฟไว้ครับ คาถาบูชาลูกอมหลวงปู่ทิม วัดระหารไร่<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
นะโมฯ 3 จบ แล้วต่อด้วยคาถานี้
“สัพพะพุทธานุภาเวนะ สัพพะธัมมานุภาเวนะ สัพพะสังฆานุภาเวนะ
อานุภาเวนะ อานุภาเวนะ อานุภาเวนะ จงอยู่ใต้พุทธบารมี”<o:p></o:p> -
คาถาบูชา ลูกอมผงพรายกุมาร<O:p></O:p>ไปเจอมาจากที่ไหนไม่แน่ใจก็เลยเซฟไว้ครับ
คาถาบูชาลูกอมหลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ffice:eek:ffice" /><O:p></O:p>
นะโมฯ 3 จบ แล้วต่อด้วยคาถานี้
“สัพพะพุทธานุภาเวนะ สัพพะธัมมานุภาเวนะ สัพพะสังฆานุภาเวนะ
อานุภาเวนะ อานุภาเวนะ อานุภาเวนะ จงอยู่ใต้พุทธบารมี”<O:p></O:p> -
กำเนิดพระทิม อิสริโก
ภายหลังจากนายทิมไปเป็นพลลูกหมู่ประจำการได้ 4 ปีก็ได้ปลดจากการเป็นพลลูกหมู่ นายทิมก็ได้ใช้ชีวิตหนุ่มได้ประมาณ 3-4 ปีก็ได้กราบลาอุปสมบทซึ่งโดยตามประเพณีในสมัยก่อนการบวชถือว่าเป็นการบวชจุดประสงค์เพื่อทดแทนบุญคุณพ่อแม่อีกประการหนึ่งก็เพื่อสร้างกุศลอย่างหนึ่งหรือเพื่อเป็นการฝึกจิตให้สงบเพื่อละกิเลสทั้งปวง หลังจากนั้นนายแจ้ผู้เป็นบิดาก็ได้พานายทิมไปที่วัดละหารใหญ่และได้จัดการอุปสมบทนายทิมเป็นพระภิกษุ ซึ่งโดยตามข้อมูลบันทึกว่านายทิมได้อุปสมบท เมื่อวันที่ 7 เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2449 ตรงกับวันเสาร์ ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 6 ปีมะแม แต่ตามประวัติหลวงปู่ทิมท่านเคยเล่าให้ลูกศิษย์รุ่นเก่าฟังว่าท่านบวชเมื่อตอนอายุ 24ปีหลังจากได้ปลดจากการเป็นพลลูกหมู่และได้ใช้ชีวิตฆราวาสได้ประมาณ 2 ปีถึงได้ออกบวชซึ่งถ้าเทียบพุทธศักราชลบกับปีเกิดของท่านจะตรงกับปีพุทธศักราช 2446 หรือ ร.ศ.122ซึ่งตรงกับปีเถาะจึงวิเคราะห์แล้วน่าจะมีความเป็นจริงมากกว่า โดยมีพระคุณเจ้าท่านพระครูขาว แห่งวัดทับมาเป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์เกตุ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์สิงห์ วัดละหารใหญ่ ( ซึ่งเดิมเคยเป็นพระอาจารย์ของท่านที่ท่านได้ศึกษาเป็นครั้งแรก ) เป็นพระอนุสาวนาจารย์ และได้รับฉายาทางสงฆ์ว่า อิสริโก ซึ่งแปลว่า ผู้เป็นใหญ่ ส่วนตอนที่ท่านบวช ณ. พัทธสีมาวัดไหนนั้นซึ่งข้อมูลหลักฐานยังไม่เด่นชัด ข้อมูลบางข้อมูลบันทึกว่าท่านบวชที่วัดละหารไร่ ซึ่งในสมัยนั้นวัดละหารไร่ยังไม่มีการสร้างโบสถ์ ซึ่งในแถบหมู่บ้านละหารไร่และหมู่บ้านใกล้เคียงนั้นส่วนมากก็จะมาบวชกันที่โบสถ์วัดละหารใหญ่ซึ่งถือว่าเป็นโบสถ์เก่าแก่และมีมาช้านานแล้วซึ่งคิดว่าท่านไม่น่าจะบวชที่วัดละหารไร่ อีกประการหนึ่งท่านอาจจะมาบวช ที่โบสถ์วัดทับมาก็เป็นได้ ซึ่งถือเป็นโบสถ์เก่าแก่ที่มีมานานแล้วเหมือนกัน และถือว่าเป็นวัดอุปัชฌาย์ของท่านด้วย ซึ่งความน่าจะเป็นก็น่าจะเป็นวัดทับมาเพราะหลวงปู่เคยเล่าให้ลูกศิษย์ฟังว่าท่านได้บวชที่วัดอุปัชฌาย์ของท่าน หลังจากอุปสมบทเป็นพระทิมแล้วตามประวัติเล่ากันว่าครั้งแรกท่านได้จำพรรษาที่วัดละหารใหญ่โดยมีพระอาจารย์สิงห์เป็นเจ้าอาวาสและพระทิมก็ได้ฝึกเรียนปฏิบัติวิชากรรมฐานและเรียนนักธรรมเบื้องต้นควบคู่กับการเรียนบาลีสันสฤตและอักขระต่างๆไปด้วย ด้วยความที่ท่านเป็นคนที่มีความขยัญหมั่นเพียรมีความตั้งใจและความมานะอุตสาหะ บวกกับบารมีที่ท่านได้สะสมไว้เมื่อครั้งแต่อดีตชาติก็เป็นได้ ทำให้ท่านสามารถเรียนรู้วิชาและอักขระโบราณต่างๆได้เร็วมาก ซึ่งพระอาจารย์สิงห์เจ้าอาวาสและเป็นครูผู้สอนท่านก็ได้กล่าวยกย่องและชมเชยพระทิมอยู่เสมอว่าสามารถเรียนรู้ได้เร็วและแตกฉานไว และท่านก็สามารถเรียนรู้ได้เร็วสมัยที่ท่านได้เคยมาเรียนหนังสือที่วัดละหารใหญ่เมื่อครั้นตอนเป็นเด็ก หลังจากที่ท่านได้บวชเรียนอยู่ที่วัดละหารใหญ่ได้ 1 ปีโดยประมาณ หลังจากนั้นพระทิมก็ได้สอบธรรมที่สนามหลวงและท่านก็สามารถสอบได้คะแนนที่ดีมาก แต่ประวัติไม่ทราบว่าท่านได้ไปสอบธรรมที่วัดไหน แต่ท่านเคยเล่าว่าการสอบธรรมในสมัยนั้นการสอบไล่จะสอบโดยการสอบแบบปากเปล่า ซึ่งถ้าตามประวัติการสอบธรรมในสมัยก่อนพระภิกษุสงฆ์ที่มาสอบจะต้องเข้าไปแปลคัมภีร์อรรถกถาต่อหน้าพระเถราจารย์หรือพระผู้ใหญ่ที่คุมสอบ และพระที่คุมสอบจะมีการซักถามประโยคต่างๆแก่ผู้ที่สอบ โดยในสมัยก่อนวิชาที่สอบแต่ละประโยคนั้นจะกำหนดพระสูตรต่างๆและมีการสอบแบบจากบาลีแปลเป็นไทยและจากไทยแปลเป็นบาลี สำหรับแต่ละประโยคเริ่มตั้งแต่ประโยคหนึ่งไปจนถึงประโยคเก้า โดยการสอบนั้นจะมีการสอบตั้งแต่ประโยคหนึ่งขึ้นไปถ้าสอบประโยคหนึ่งกับประโยคสองได้แต่สอบประโยคสามไม่ได้ จะต้องเริ่มที่ประโยคหนึ่งใหม่ เว้นแต่เมื่อสอบประโยคสามได้แล้วก็สามารถสอบไล่ได้ทีละประโยคหรือหลายประโยคก็ได้ ถ้าเปรียบเทียบกับการสอบธรรมในสมัยนี้จะสอบโดยมีการสอบแบบอัตนัยและภาคปรนัย ภายหลังเสร็จสิ้นจากการสอบธรรม จากนั้น พอถึงฤดูออกพรรษาพระทิมก็ได้กราบลาหลวงพ่อสิงห์เจ้าอาวาสวัดละหารใหญ่ (ติดตามตอนต่อไป)ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
กราบหลวงปู่ทิมครับ
ขอบคุณอาจารย์ทั้งข้อมูลและภาพประกอบครับ -
สวัสดีครับ อาจารย์แก้วสว่าง มาติดตามตำนานหลวงปู่เรื่ือยๆครับ
-
สวัสดีครับ ช่วงนี้ติดงานหน่อย อาทิตย์หน้าคุณเชนว่างนะครับไปบุกระยองกันครับ น้าโต้ง
คุณอาร์ท อาหมอ ได้พระปู่ทิมเข้ารังอีกแล้ว เจ้ากรมปู่ทิมทั้งนั้นเลย อิทฉานะครับ
หน้า 139 ของ 1117