เปิดตำนานหลวงพ่อทิม วัดละหารไร่

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย แก้วสว่าง, 17 เมษายน 2011.

  1. ขมังเวทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    645
    ค่าพลัง:
    +1,829
    พอจะแง้มๆได้ใหมครับ

    ถ้าให้เดาคงไม่พ้น.......เสน่ห์อย่างแร็งงงงงงง
     
  2. kengnaja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    6,961
    ค่าพลัง:
    +16,850
    เหมือนรู้ใจเลยครับ ต้องฝากตัวกับอาจารย์ขมังเวทย์ซะแล้วครับ:cool::cool::cool:
     
  3. ภูวดิท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,050
    ค่าพลัง:
    +8,086
    555+เสน่ห์อย่างแร็ง สงสัยสาวตามมาถึงบ้านแน่เลย 555+
     
  4. SomeO เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    478
    ค่าพลัง:
    +1,476
    กราบหลวงปู่ทิม และสวัสดีพี่ๆทุกท่านครับ


    สายถนัดของพี่เลยนิครับ
     
  5. kengnaja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    6,961
    ค่าพลัง:
    +16,850
    ไปวันนั้นแล้วเหมือนจุดประกายเลยครับพี่ภู:cool:
     
  6. ภูวดิท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,050
    ค่าพลัง:
    +8,086
    วันนั้นเจอ อ. ... แล้วทำไมไม่ขอผ้ายันต์ ผืนที่แกมีอยู่เช็ดหน้ารอบเดียว รับรอง สาวๆๆตามถึงบ้านแน่ คนที่เอาไปใช้สำเร็จมาแล้วระดับนางแบบเลยนะ55+ ว่างๆมาระยองไปหา อ.แกได้นะโอกาสดีแล้ว ช่วงน้ำท่วม แอบบอกไว้ก่อน :cool:
     
  7. kengnaja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    6,961
    ค่าพลัง:
    +16,850
    ขอบคุณครับ:cool::cool::cool:
     
  8. น้าต๋อย เซมเบ้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2009
    โพสต์:
    7,815
    ค่าพลัง:
    +58,748
    ต้องรีบไปจัดถึงระยองก่อนที่น้ำจะท่วมซะแว้ววว.....พี่น้อง 55
     
  9. ภูวดิท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,050
    ค่าพลัง:
    +8,086
    สวัสดีครับพี่ต๋อย ช่วงนี้น้ำท่วมบางซื่อ แถวแยกวงสว่างหรือยังครับ อีก 2-3 วันว่าจะไปแถวนั้นครับ:cool:
     
  10. น้าต๋อย เซมเบ้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2009
    โพสต์:
    7,815
    ค่าพลัง:
    +58,748
    แถบนี้ยังเหนียวครับ ท่านเจ้าสำนัก แต่ไม่รู้ว่าคลองบางซื่อ จะเหนียวได้นานเท่าไร
    มาทั้งที อย่าลืมถือของมาฝากด้วยนะครับ...
     
  11. ขมังเวทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    645
    ค่าพลัง:
    +1,829
    ไปใหนไปด้วย ถึงป่วยก็มาช่วยกันหามไป
     
  12. 250 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +9
    ขอคาถาบูชาลูกอมหลวงปู่ทิมครับ
     
  13. แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

    [FONT=&quot](ต่อจากตอนที่แล้ว) เราจะทราบชื่อเสียงอันลื่อชื่อของเสือเต็มที่ได้วางมือกับชีวิตที่มีแต่การออกปล้นและสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านและเสือเต็มก็ได้เกิดการเบื่อหน่ายกับชีวิตการเป็นเสือ ซึ่งในสมัยก่อนนั้นพอหมดยุคของเสือเต็มก็มีเสือต่างๆในรุ่นต่อๆมากันอีกมากมายที่ขึ้นชื่อลือชากันแต่โดยส่วนใหญ่จะมีวิชาอาคมที่เก่งกล้าหรือมีของดีของอาถรรพ์ต่างๆที่สามารถคุ้มครองปกป้องอันตรายได้และผมก็จะเล่าถึงเสือในยุคต่อมาคือเสือดอกไม้ซึ่งอดีตเป็นลูกน้องของเสือเต็ม ซึ่งเสือดอกไม้นั้นตามประวัติในอดีตที่ได้ร่ำลือกันมาว่าได้มีวิชาอาคมที่คมมีดและคมกระสุนนั้นไม่สามารถที่จะทำอันตรายเสือดอกไม้ได้ซึ่งตามประวัติของเสือดอกไม้นั้นเล่าว่าได้สักยันต์ไว้เต็มตัว และมีอยู่วันหนึ่งขณะที่เสือดอกไม้ได้ตระเวนออกปล้นวัวควายของชาวบ้านในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง และในขณะออกปล้นเจ้าของบ้านได้ใช้ปืนแก๊ปยิงเข้าที่กลางหน้าอกของเสือดอกไม้แต่กลับไม่ระคายผิวของเสือดอกไม้ได้ ซึ่งเสือดอกไม้ก็ได้ฮึกเหิมเที่ยวออกปล้นขโมยวัวควายของชาวบ้าน จนทำให้ร้อนถึงทางการที่จะต้องดำเนินการจับตัวเสือดอกไม้ให้ได้ แต่ก็เป็นไปได้ด้วยความยากเย็นที่จะสามารถเข้าถึงตัวเสือดอกไม้ได้เพราะอยู่ไม่เป็นที่ และมีอยู่วันหนึ่งเสือดอกไม้ได้ออกปล้นวัวควายที่บ้านหลังหนึ่งซึ่งพอดีไปเจอกับเจ้าของบ้านพอดีซึ่งเจ้าของบ้านก็เป็นนักเลงเก่าหลังจากได้เผชิญหน้ากันและได้ต่อสู้กันและระหว่างนั้นเจ้าของบ้านได้ใช้มีดดาบฟันเข้าที่บริเวณต้นคอของเสือดอกไม้อย่างแรงคิดว่ากะให้ขาดสองท่อนเลยแต่มีดดาบกลับกระเด้งออกมาไม่เข้าและไม่สามารถที่จะระคายผิวของเสือดอกไม้ได้ จากนั้นก็เกิดการสู้กันโดยเสือดอกไม้ซึ่งได้ใช้มือเปล่าสู้กับเจ้าของบ้านที่มือนั้นได้ถือดาบไว้ จากนั้นก็ได้มีการยื้อแย่งดาบกันและฝ่ายเสือดอกไม้อาศัยที่ว่ามีความแข็งแกร่งและว่องไวกว่าก็ได้สามารถเข้าแย่งดาบจากในมือของเจ้าของบ้านได้และจากนั้นก็ได้ใช้ดาบนั้นฟันไปยังเจ้าของบ้านจนแน่นิ่งไปจากนั้นก็ได้เอาวัวควายไป ซึ่งการกระทำของเสือดอกไม้ก็ได้สร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้าน ซึ่งทางการได้ออกตามล่าตัวหลายครั้งแต่ก็จนใจที่จะตามจับ จนกระทั่งมีอยู่วันหนึ่งเสือดอกไม้ก็ได้มาเจอกับคู่อริซึ่งเคยมีเรื่องกันมาก่อนได้มากันประมาณ [/FONT][FONT=&quot]3[/FONT][FONT=&quot]-[/FONT][FONT=&quot]4[/FONT][FONT=&quot] คน จากนั้นก็ได้เกิดการสู้กันซึ่งฝ่ายคู่อรินั้นมีจำนวนที่มากกว่าและมีทั้งไม้ทั้งดาบและได้ต่อสู้กันระหว่างนั้นเสือดอกไม้พลาดท่าล้มลงทางฝ่ายคู่อริก็ได้ช่วยกันเข้าไปซ้ำซึ่งทางฝ่ายเสือดอกไม้นั้นโดนทางฝ่ายคู่อรินั้นตีกระหน่ำด้วยไม้หลายครั้งละแทงด้วยมีดซ้ำกะให้ตายในทันทีเลยแต่ปลายคมมีดก็ไม่สามารถที่จะระคายผิวเสือดอกไม้ได้เลย จากนั้นทางฝ่ายคู่อริไม่รู้จะทำยังไงดี จากนั้นจึงคิดได้จึงได้จับเสือดอกไม้นอนหงายแล้วช่วยกันดึงแขนดึงขาไว้จากนั้นก็ได้ใช้ไม้กระแทกไปที่อัณฑะของเสือดอกไม้ไปหลายครั้งจนเลือดไหลออกจนตายจบตำนานชีวิตของเสือดอกไม้ทันที ซึ่งเราจะเห็นว่าอาคมต่างๆที่อยู่ในตัวนั้นสามารถคงความขลังได้นั้นเป็นเพราะอะไรจนสุดท้ายต้องมาหาจุดสำคัญที่อาคมนั้นไม่สามารถคุ้มร่างกายได้ ซึ่งเราจะเห็นว่าไม่ว่าอาคมถึงจะขลังมากอย่างไรก็แล้วแต่ ก็จะต้องมีจุดตายหรือจุดสำคัญที่อาคมนั้นไม่สามารถคุ้มครองตัวได้ถึง หรือแม้การถือเครื่องรางของขลังสามารถถือได้อย่างศักดิ์สิทธิ์หรือขลังได้ถ้ามีการยึดมั่นที่ดีและถือสัจจะได้อย่างคงมั่น ซึ่งกล่าวกันว่าเสือพราวซึ่งถิ่นฐานเดิมอยู่ในหมู่บ้านจำพังซึ่งเป็นหมู่บ้าน แห่งหนึ่งซึ่งออกไปทางทิศเหนือของวัดละหารไร่ ซึ่งโดยปกติแล้วด้วยความที่เมื่อก่อนนายพราวก็เป็นชาวบ้านธรรมดาๆที่ได้ยึดประกอบอาชีพทำสวนทำไร่มาโดยตลอดแต่นายพราวนั้นมีนิสัยชอบกินเหล้าเป็นประจำและมีอยู่วันหนึ่งที่วัดละหารไร่มีงานบุญอย่างหนึ่งนายพราวก็ได้ไปที่วัดและจากนั้นก็ได้มาหาหลวงปู่ทิมแต่ขณะนั้นก็มีแขกเรื่อมากันมากมายและพอว่างจากแขกเรื่อนายพราวก็ได้ไปกราบหลวงปู่ทิมซึ่งหลวงปู่ท่านก็ไม่พูดอะไรได้แต่เงียบเฉยจากนั้นนายพราวก็ได้เอ่ยกล่าวขอให้หลวงปู่ท่านรดน้ำมนต์ให้เพื่อความเป็นสิริมงคลเมื่อหลวงปู่ได้เห็นหน้านายพราวโดยปกติแล้วท่านจะไม่ค่อยพูดท่านกลับเรียกนายพราวเข้าไปหาและจากนั้นหลวงปู่ท่านก็ได้เดินเข้าไปในห้องท่านแล้วได้หยิบของขลังสิ่งหนึ่งให้กับนายพราวไว้ติดตัวและได้กำชับว่าให้ติดตัวไว้เสมอไม่ว่าจะทำอะไรก็แล้วแต่ ซึ่งหลังจากนายพราวได้รับของสิ่งนั้นจากหลวงปู่แล้วก่อนจากหลวงปู่ทิมท่านก็ได้รดน้ำมนต์ให้ จากนั้นนายพราวก็ได้กราบลาหลวงปู่ไปหลังจากนั้นนายพราวก็ได้ใช้ชีวิตประจำวันประกอบสัมมาอาชีพไปตามปกติและนายพราวก็ยังได้ใช้ของที่หลวงปู่ทิมท่านได้มอบไว้ให้ติดตัวเป็นประจำอยู่เสมอมิให้ห่างกาย มีอยู่วันหนึ่งขณะที่นายพราวและเพื่อนๆได้ตั้งวงกินเหล้ากันตามประสาชุมชนหมู่บ้าน จากนั้นก็ได้เกิดมีปากเสียงไม่ลงรอยกันหลังจากที่เริ่มเมาได้ที่กัน นายพราวได้ทะเลาะวิวาทชกต่อยกับเพื่อนอีกคนที่กินเหล้าด้วยกันจากนั้นเพื่อนก็ได้หยิบเอาขวดเหล้าที่กินกันอยู่เอาไปตีที่หัวนายพราวจนปลายขวดแตกกระจาย นายพราวเมื่อโดนตีแล้วด้วยสัญชาตญาณของมนุษย์นั้นเมื่อโดนทำร้ายแล้วก็ต้องมีการต่อสู้เพื่อปกป้องตัวเอง จากนั้นนายพราวจึงได้ขึ้นยืนกำหมัดต่อสู้ชกต่อยกับเพื่อนบ้านกันพัลวันจนลืมไปว่าในมือของเพื่อนบ้านนั้นถือขวดที่ได้ตีจนขวดแตกจากปากขวดเป็นปากฉลามซึ่งถ้าโดนเสียบเข้าไปแล้วคงจะเอาเรื่องเอาการ แต่นายพราวก็ไม่ได้สนใจใดๆเลยซึ่งก็ด้วยเป็นเพราะความมึนเมาก็ได้ยืนปักหลักสู้กันจนเพื่อนบ้านที่มือนั้นถือขวดปากฉลามไว้จากนั้นนายพราวก็เสียท่าโดนเพื่อนบ้านแทงเข้าไปที่หน้าท้องของนายพราวอย่างจังสู้จนนายพราวล้มลงแต่นายพราวซึ่งมีอาการมึนเมาและด้วยใจที่ฮึกเหิมก็ยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆได้ลุกขึ้นยืนกำหมัดขึ้นสู้ต่อไปจนลืมความเจ็บปวดและจากนั้นนายพราวก็ได้ต่อยจนเพื่อนคนที่แทงนั้นได้สลบเหมือดไป จากนั้นก็ได้มีชาวบ้านในละแวกนั้นมาช่วยกันห้ามและได้มาดูอาการของนายพราวซึ่งโดนขวดปากฉลามแทงเข้าไปอย่างแรงซึ่งนายพราวคงจะเหนื่อยล้าจากการต่อสู้กันก็ได้หมดแรงล้มนอนลงแผ่กับพื้นและจากนั้นชาวบ้านก็ได้ช่วยถลกเสื้อนายพราวขึ้นดูบาดแผลกลับพบว่ามีแต่รอยขีดข่วนไม่มีรอยบาดแผลจากการโดนแทงใดๆเลย ซึ่งเหตุการณ์นั้นก็ได้ทำให้นายพราวนั้นเชื่อในเรื่องของอำนาจพุทธคุณซึ่งทำให้นายพราวมีจิตใจที่ฮึกเหิมไม่ค่อยเกรงกลัวใคร แต่ก็มีเหตุการณ์อีกเหตุการณ์หนึ่งเล่ากันว่ามีอยู่วันหนึ่งนายพราวได้ไปมีเรื่องทะเลาะกับนักเลงนอกพื้นที่เรื่องการเขม่นกันซึ่งต่างคนต่างไม่ยอมกันได้เกิดมีการชกต่อยกันเกิดขึ้น นายพราวซึ่งเมื่อก่อนนี้เป็นคนที่ไม่ค่อยกล้าแต่ด้วยที่ตนเองนั้นนับถือของขลังและของดีที่ได้ติดตัวไว้เสมอและเชื่อในอานุภาพของพุทธคุณทำให้ตนเองนั้นมีความมั่นใจและมีจิตใจที่กล้าแกร่งฮึกเหิมไม่เกรงกลัวใคร นายพราวได้ชกต่อยกับนักเลงนอกพื้นที่ซึ่งนักเลงนอกพื้นที่นั้นสู้นายพราวไม่ได้และนักเลงคนนั้นก็ได้ใช้มีดพกที่ติดตัวมา จากนั้นก็ได้จ้วงแทงเข้าไปที่ท้องของนายพราวแล้วนายพราวก็ร้องดังฮึก[/FONT][FONT=&quot]![/FONT][FONT=&quot] จากนั้นนายพราวก็ได้เซถลาลงพื้นคิดว่าตนเองโดนแทงแล้ว ซึ่งเผอิญขณะกำลังเซลงนอนกับพื้นได้ไปเหลือบไปเห็นท่อนไม้วางอยู่จึงได้ไปคว้าหยิบเอาท่อนไม้ที่วางอยู่ข้างๆ ซึ่งในขณะที่อีกฝ่ายก็ได้ถือมีดปรี่จะเข้าไปแทงซ้ำ นายพราวก็ไม่รอรีรอช้าจนลืมความเจ็บปวดไปเลยก็ได้คว้าเอาท่อนไม้ตีสวนกลับไปยังคู่อริอย่างแรงและได้ฟาดไปโดนบริเวณทัดดอกไม้พอดีหรือบริเวณกกหูทำให้คู่อรินั้นร่วงลงกองลงกับพื้นไปในทันทีทันใด จากนั้นนายพราวพอตั้งสติได้ก็ทิ้งไม้แล้ววิ่งหนีไปอย่างสุดชีวิตจนลืมความเจ็บปวดว่าตนเองโดนคู่อริใช้มีดแทงเข้าไปที่หน้าท้องและนายพราวก็ได้สำรวจตัวเองปรากฏว่าไม่มีรอยบาดแผลจากการโดนแทงมีแต่รอยเขียวจ้ำๆเท่านั้น ส่วนคู่อริที่นายพราวตีสวนกลับไปนั้นภายหลังปรากฏว่าตาย จึงทำให้นายพราวต้องมีความผิดข้อหาฆ่าคนตาย เลยทำให้นายพราวต้องหนีหัวซุกหัวซุนอยู่ไม่เป็นที่ต้องร่อนเร่ไปตามหมู่เพื่อนฝูงหรือคนที่รู้จักกัน และมีอยู่วันหนึ่งนายพราวได้หลงเข้าไปอยู่ในดงนักเลงหรือดงหมู่โจร ซึ่งจะเที่ยวออกปล้นข้าวของตามหมู่บ้านซึ่งนายพราวก็ได้ไปเป็นหนึ่งในทีมของหมู่โจรที่ได้ออกร่วมปล้นด้วยซึ่งทรัพย์ที่ได้มาคนที่เป็นหัวหน้าโจรก็จะต้องนำทรัพย์สินที่ได้มาทั้งหมดแล้วมาแบ่งให้ลูกน้องแต่ละคนและนายพราวก็ได้ทรัพย์สินจากส่วนแบ่งนั้นด้วย จึงทำให้นายพราวมีนิสัยเป็นโจรตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาเพราะทรัพย์สินนั้นหามาได้ง่ายจากการปล้น แต่ก็ไม่พ้นที่ทางการจะต้องตามล่าตัวเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีให้ได้ นายพราวซึ่งก็ได้เข้าไปอยู่ในกลุ่มโจรจึงมีนิสัยโจรที่ไม่เกรงกลัวกฎหมายหรือทางการที่จะออกตามล่าตัว แล้วมีอยู่วันหนึ่งทางหัวหน้าโจรได้เตรียมที่จะออกปล้นที่นอกพื้นที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งซึ่งกลุ่มที่ไปปล้นนั้น มีอยู่ประมาณ [/FONT][FONT=&quot]4[/FONT][FONT=&quot]-[/FONT][FONT=&quot]5[/FONT][FONT=&quot]คน และนายพราวซึ่งอยู่ในกลุ่มด้วยต่างก็พร้อมใจกัน จากนั้นก็ได้วาลาออกปล้นที่หมู่บ้านแห่งนั้น แต่แล้วเรื่องไม่คาดคิดก็มาถึงเมื่อกลุ่มโจรในขณะที่กำลังออกปล้นซึ่งขณะนั้นจะเป็นช่วงบ่ายแก่ๆซึ่งเวลานั้นฝ่ายหมู่โจรคิดว่าเจ้าของบ้านไม่อยู่หรือการมาปล้นครั้งนี้ไม่มีปัญหาอะไร จากนั้นก็ ได้เข้ามาปล้นแต่หารู้ไม่ว่าเจ้าของบ้านซึ่งเป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านผู้กว้างขวางในหมู่นั้น จากนั้นกลุ่มโจรก็ได้ปล้นที่บ้านนั้นทันทีและหารู้ไม่ว่าภัยของกลุ่มโจรกำลังใกล้เข้ามา เมื่อทางฝ่ายเจ้าของบ้านได้กลับมาจากดูแลเลือกสวนไร่นาพอดีซึ่งทางฝ่ายผู้ใหญ่บ้านก็มาพร้อมกับลูกน้อง และได้มาประสบพบเจอกับกลุ่มโจรของนายพราวพอดี ทางฝ่ายกลุ่มโจรเมื่อได้เจอกับเจ้าของบ้านจากนั้นทางฝ่ายหัวหน้าโจรเมื่อได้เห็นหน้ากันแล้วด้วยสัญชาตญาณโจรก็จะต้องทำร้ายเจ้าของบ้านทันที จากนั้นทางฝ่ายหัวหน้าโจรก็ได้เอามีดที่พกติดตัวมาด้วยวิ่งจะเข้าไปแเทงจ้าของบ้าน แต่แล้วทางฝ่ายหัวหน้าโจรก็ชะตาขาดทันทีเมื่อเจอปืนลูกซองยิงสวนมาทะลุหน้าอกตายคาที่พอดี พอทางฝ่ายหัวหน้าโจรตายทางฝ่ายลูกน้องเมื่อเห็นท่าไม่ดีต่างก็ได้วิ่งหนีกันอุตลุดแต่ก็ไม่พ้นคมลูกปืนของทางฝ่ายอดีตผู้ใหญ่บ้านและลูกน้องได้ช่วยกันยิงจนทางฝ่ายโจรนั้นโดนยิงสอยร่วงตายกันหมด แต่กลับมีรอดมาได้เพียงคนเดียวคือนายพราวซึ่งนายพราวได้วิ่งหนีออกมาทางคูน้ำใหญ่หลังบ้านและได้โดนลูกน้องของอดีตผู้ใหญ่บ้านวิ่งตามไปและได้ยิงเข้าไปที่กลางสะบักหลังของนายพราวอย่างจังจนตกลงเข้าไปในคูน้ำ หลังจากที่นายพราวโดนยิงเข้าไปก็ได้หมดสติแน่นิ่งไป ส่วนทางฝ่ายคนที่ยิงก็คิดว่านายพราวตายสนิทแล้วจากนั้นก็ได้กลับไป ส่วนนายพราวเมื่อโดนยิงจนหมดสติและได้แน่นิ่งไปสักพักหนึ่งจากนั้นนายพราวก็ได้สติฟื้นขึ้นมาซึ่งคิดว่าตัวเองนั้นโดนยิงตายไปแล้วและจากนั้นนายพราวก็ได้กระเสือกกระสนตัวเองคลานกลับถึงไปยังที่พักพิงซึ่งนายพราวก็โดนเข้าไปเต็มแรงแต่กลับไม่เข้ามีแต่รอยช้ำเขียวระบมไปหมด จากนั้นข่าวนายพราวก็เริ่มดังเพราะว่ารอดตายมาได้หลายครั้ง ซึ่งทั้งมีดและปืนก็ไม่สามารถทำอันตรายนายพราวได้จนชาวบ้านได้ตั้งขนานนามว่าเสือพราว จากนั้นเสือพราวซึ่งกลุ่มโจรที่ตัวเองไปอยู่นั้นก็โดนยิงตายกันหมดส่วนเสือพราวก็ต้องอยู่แบบหลบๆซ่อนๆแต่ก็ยังไม่ทิ้งนิสัยโจรก็ได้ออกเที่ยวปล้นหรือฉกชิงวิ่งราวตามบ้านเรือนต่างๆ จนทำความระอาให้กับชาวบ้านชาวช่องซึ่งเสือพราวก็ได้ใจเพราะไม่มีใครสามารถทำอันตรายหรือสามารถจับได้ แต่แล้วเวรกรรมก็ได้มาถึงเมื่อเสือพราวได้ออกปล้นรถของชาวบ้านบริเวณถนนกลางทุ่งนาแห่งหนึ่ง ซึ่งในขณะที่เสือพราวกำลังปล้นอยู่นั้นก็พอดีมาเจอกับกลุ่มของลูกน้องอดีตผู้ใหญ่บ้านที่ผ่านมาพอดี ซึ่งมากันประมาณ[/FONT][FONT=&quot] 2[/FONT][FONT=&quot]-[/FONT][FONT=&quot]3[/FONT][FONT=&quot] คนจากนั้นเสือพราวเมื่อหนีไม่ได้ก็ต้องต่อสู้ปะทะกับกลุ่มที่มา เสือพราวได้ชักมีดที่เหน็บมาได้สาดสู้ไปมาอย่างไม่เกรงกลัวว่ามากันหลายคน แต่แล้วก็มีเสียงดังขึ้น.. ปัง...เมื่อทางอีกฝ่ายได้ใช้ปืนแก๊ปยิงเข้าไปโดนที่หน้าท้องของเสือพราวพอดีเสือพราวได้ล้มลงไปตามวิถีของกระสุนทันที แต่แล้วก็มีเรื่องไม่น่าเชื่ออีกเมื่อเสือพราวได้ลุกขึ้นมาและด้วยใจที่ฮึกเหิมก็ได้ถือมีดวิ่งกะไปทำร้ายแต่แล้วเสียงปืนก็ดังขึ้นมาอีกนัดไปโดนเข้ากลางหน้าอกเสือพราวก็ได้ล้มลงไป ซึ่งอีกฝ่ายกะจะยิงให้ตายไปเลยแต่แล้วเรื่อก็ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นอีกเมื่อเสือพราวได้ลุกขึ้นนั่งในมือยังกำมีดไว้แน่น อีกฝ่ายก็ตกใจยิงเข้าไปถึงสองนัดแต่กลับทำอะไรไม่ได้เลย จากนั้นอีกฝ่ายก็มาช่วยกันรุมกระทืบซ้ำเสือพราวในขณะที่เสือพราวก็ได้ยืนปักหลักถือมีดสู้ถึงที่สุดและจากนั้นอีกฝ่ายก็ได้คว้าเอาท่อนไม้มาช่วยกันตีเสือพราวจนล้มจากนั้นก็ได้แย่งมีดในมือเสือพราวแล้วได้แทงซ้ำไปที่เสือพราวไปถึง[/FONT][FONT=&quot] 2[/FONT][FONT=&quot]-[/FONT][FONT=&quot]3 [/FONT][FONT=&quot]ครั้งแต่กลับไม่เข้า ทางอีกฝ่ายไม่รู้จะทำยังไงดีฆ่ายังไงเสือพราวก็ไม่ตายสักที จนสุดท้ายจึงช่วยกันนำเสือพราวไปกดน้ำบริเวณคูน้ำข้างทางจนเสือพราวนั้นสำลักน้ำดิ้นพล่านไปพล่านมาจากนั้นสักพักใหญ่เสือพราวก็หมดลมหายในทันใดสิ้นชื่อเสือพราวทันที จากนั้นอีกฝ่ายที่ได้ปิดตำนานเสือพราวแล้วก็ได้หนีหายจากไป ต่อจากนั้นทางการและชาวบ้านก็ได้มาดูศพเสือพราวและได้ช่วยกันยกเสือพราวขึ้นออกจากคูน้ำ ซึ่งตามตัวเสือพราวก็นั้นมีแต่รอยพกช้ำดำเขียวเต็มไปหมดและจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็ได้สำรวจไปตามตัวของเสือพราวก็ไม่พบอะไรมีแต่ตะกรุดโทนและลูกสะกดของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่เท่านั้นที่เสือพราวได้คาดเอวไว้ประจำกายและได้คาดมาตลอดทั้งชีวิตจากนายพราวจนมาเป็นเสือพราวและได้ฟันฝ่าอุปสรรคของชีวิตและประสบการณ์ต่างๆมากมาย ซึ่งเราจะเห็นว่าทางเดินของชีวิตนั้นบางทีมันก็ลิขิตชีวิตตัวเองไม่ได้ ซึ่งหลวงปู่ทิมท่านคงได้รู้ถึงกาลล่วงหน้าของเสือพราว และได้มอบของขลังไว้ติดตัวและให้ยึดมั่นเสมอซึ่งบางครั้งการที่ไม่มีวิชาอาคมติดตัวแต่การมีจิตยึดมั่นที่ดีและมั่นคง มันทำให้ของขลังที่เรานำมาใช้นั้นมีอานุภาพขึ้นมาได้อย่างอัศจรรย์จริง (ติดตามตอนต่อไป ) [/FONT]
     
  14. kengnaja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    6,961
    ค่าพลัง:
    +16,850
    ตะกรุดกับลูกสะกดสุดยอดมากครับอาจารย์:cool::cool::cool:
     
  15. one0021 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2009
    โพสต์:
    211
    ค่าพลัง:
    +627
    พี่พี่ครับมีใครเคยจองพระหลวงปู่ทิม พิธี ปลุกเสกพระกริ่งชินบัญชร 9 มหาฤกษ์ 200 ปี บ้างคราฟ อยากทราบว่าตอนนี้ได้รับสินค้ากันบ้างยังคราฟ
     
  16. FLUKE-NICE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2008
    โพสต์:
    968
    ค่าพลัง:
    +1,397
    น้อมกราบหลวงปู่ทิม และสวัสดี อ.แก้วสว่างครับ ขอบคุณสำหรับบทความดีๆที่หาอ่านจากที่ไหนก็คงไม่มี ยังติดตามอยู่ตลอดครับ และขอขอบคุณสำหรับสิ่งดีๆที่มอบให้มาเสมอนะครับ
     
  17. naygood เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,082
    ค่าพลัง:
    +7,245
    กราบหลวงปู่ทิมครับ.........สวัสดี อ.แก้วสว่าง เป็นเสือดูแล้วตาย ทรมานแฮะ ถ้าไม่หายสาบสูญ หรือ บวชไปซะก่อน ดูแต่ละคนที่ตาย แต่ก็เนอะ หนังเหนียวฟันแทงไม่เข้านี่เนอะก็ต้องฆ่าด้วยวิธีแบบที่ท่านเล่าให้ฟังนี่แหละ
     
  18. Lee_bangkok เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,751
    ค่าพลัง:
    +4,741
    สวัสดครับ อ แก้วสว่าง ท่านประธานโต้ง น้าต๋อย และทุกท่านเลยนยะครับ ขอให้บุญรักษานะครับ
     
  19. naygood เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,082
    ค่าพลัง:
    +7,245
    กระดานนี้เงียบๆแฮะ บริษัทก็ไกล้จะหยุดงานยาวแล้ว สงสัยจะได้ไปทัวร์ ระยองเร็วๆนี้แน่เลยครับ อ.แก้วสว่าง
     
  20. แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    ยินดีต้อนรับครับถ้าจะมายังงัยก็แจ้งล่วงหน้าสักอาทิตย์นะครับ.......
     

แชร์หน้านี้