+ + + + + + + + เปิดรังมาเล่า + + + + + + + + พระเครื่องของขลัง โดย พรพรต

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ๑พรพรต๑, 14 ตุลาคม 2012.

  1. ๑พรพรต๑

    ๑พรพรต๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +545
    หลวงพ่อซวง อภโย (พระวินัยธร) วัดชีปะขาว
    หลวงพ่อซวง มีนามเดิมว่า ซวง นามสกุล พานิช เกิดประมาณปี 2441 บิดาชื่อเฮง มารดาชื่ออ่ำ เป็นชาว ต.พระงาม อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี อยู่เหนือวัดชีปะขาวไปเล็กน้อย อุปสมบท ณ วัดโบสถ์(อัมพวา) ต.ไชยภูมิ อ.ไชโย จ.อ่างทอง ประมาณปี 2465 ในการอุปสมบทครั้งนั้นเป็นการอุปสมบทหมู่ โดยมีพระอาจารย์เมิน วัดจุฬามุณี ต.องครักษ์ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อเฟื่อง วัดสกุณาราม (วัดนก) ต.ไชโย อ.ไชโย จ.อ่างทอง เป็นกรรมวาจาจารย์ และพระหลวงพ่ออ่อน วัดทองกลาง ต.องครักษ์ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า อภโย แปลว่า ผู้ไม่มีภัย หลังจากอุปสมบทแล้วได้ย้ายมาจำพรรษา ณ วัดชีปะขาว จนกระทั่งท่านมรณภาพ ท่านมรณภาพ เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2510 ตรงกับวันอังคาร ขึ้น 12 ค่ำ เดือน 8 ด้วยโรควัณโรค ที่โรงพยาบาลจังหวัดสิงห์บุรี สิริรวมอายุได้ 69 ปี 45 พรรษา

    หลวงพ่อซวง ได้รับการถ่ายทอดการฝึกกรรมฐานเบื้องต้นจากพระอาจารย์คำ วัดสิงห์ ต.พระงาม อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี นอกจากเรียนกรรมฐานเบื้องต้นแล้วหลวงพ่อซวงยังได้เรียนการทำธงพระฉิมและการสักยันต์บุตร-ลบอีกด้วยหลังจากนั้นได้รับคำแนะนำจากพระอาจารย์คำให้ไปเรียนวิชาอาคมเพิ่มเติมจากหลวงพ่อแป้น วัดเสาธงใหม่ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา เนื่องจากพระอาจารย์คำ วัดสิงห์ได้เคยมาเรียนวิชาบุตร-ลบและวิชาแพทย์แผนโบราณตลอดจนคาถาอาคมกับหลวงพ่ออ่ำ วัดวงษ์ฆ้องและได้รู้จักกับหลวงพ่อแป้น

    หลังจากที่หลวงพ่อซวงได้ฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อแป้นแล้ว ก็ได้เรียนวิชาอาคมต่างๆจากหลวงพ่อแป้น จนหมดสิ้น หลังจากนั้นหลวงพ่อซวงก็ได้รับคำแนะนำจากหลวงพ่อแป้นให้ไปเรียนวิปัสสนาและวิชาอาคมเพิ่มเติมกับหลวงพ่อฤทธิ์ วัดบ้านสวนหรือวัดน้อย ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.สุโขทัย หลวงพ่อซวง

    นอกจากเรียนวิปัสสนากรรมฐานจากหลวงพ่อฤทธิ์แล้วหลวงพ่อซวงยังได้เรียนวิชาทำแหวนชิน หรือแหวนหูมุ้งและการทำยาเปรี้ยวอีกด้วย แม้แต่พระสมเด็จข้างอะอุของท่านก็ได้นำเคล็ดวิชาของหลวงพ่อฤทธิ์มาใช้ด้วย โดยอะและอุนี้เป็นการลงวิชาอย่างหนึ่ง อีกนัยหนึ่งมีผู้กล่าวว่าคำว่า อะ บนพระสมเด็จนั้นแทนตัวท่านซึ่งมีนามว่า อภโย ส่วนคำว่า อุ นั้นแทนตัวอาจารย์ท่านคือ อุตตโม นั่นเอง(หลวงพ่อแป้น อุตตโม)

    พระเครื่องที่ท่านสร้างมีประสบการณ์ทุกด้านไม่ว่าจะเป็นเมตตา แคล้วคลาดและ คงกระพัน โดยท่านจะเสกวัตถุมงคลส่วนใหญ่ภายในกุฏิของท่าน หลังจากที่ท่านทำวัตรสวดมนต์เช้าและเย็นเป็นประจำทุกวันมิได้ขาด ยกเว้นกรณีที่มีฤกษ์พิเศษเช่น เสาร์ห้า หรือทำพิธีปลุกเสกพระจำนวนมากท่านมักจะปลุกเสกในโบสถ์มหาอุตม์เป็นปฐมฤกษ์ก่อนแล้วจึงนำวัตถุมงคลทั้งหมดกลับไปเสกที่กุฏิอีกครั้ง โดยท่านจะนำพระทั้งหมดใส่บาตรไว้ ปลุกเสกทุกวันจนท่านมั่นใจดีแล้วท่านจึงนำไปแจกให้แก่ญาติโยมที่มากราบหรือร่วมทำบุญสร้างโบสถ์กับท่าน

    หลวงพ่อซวงเป็นพระที่ทรงอภิญญารู้อนาคตล่วงหน้าและมากด้วยเมตตาแม้กระทั่งอีกาท่านยังเลี้ยงเชื่อง โดยอีกาตัวนี้มีชื่อว่า แขก สมัยท่านยังมีชีวิตอยู่เมื่อท่านฉันข้าวบนศาลา จะมีอีกามากินข้าวและอาหารจากมือท่านประจำและท่านยังสามารถเรียกมันได้อีกด้วย ญาติโยมแถบวัดชีปะขาวในสมัยนั้นต่างก็รู้เห็นเรื่องนี้กันทุกคน
    หลวงพ่อซวงเป็นพระที่สมถะอยู่และฉันอาหารอย่างง่ายๆไม่ยึดติดในลาภยศ แม้แต่ตำแหน่งพระครูและพระอุปัชฌาย์ที่พระราชสิงหวรมุนี(ทรัพย์) วัดสังฆราชาวาส จะมอบให้ท่าน ท่านยังไม่รับ แต่เนื่องจากหลวงพ่อทรัพย์เลื่อมใสในวัตรปฏิบัติของท่านจึงขอร้องให้ท่านรับตำแหน่ง พระวินัยธร ซึ่งหลวงพ่อซวงท่านก็ต้องจำใจรับด้วยความเกรงใจ


    [​IMG]


    รอยเท้าหลวงพ่อซวง วัดชีปะขาว เป็นรองเท้าที่สมัยท่านอยู่ท่านไม่ได้ปั๊มไว้ แต่ศิษย์ที่เคารพรักในตัวหลวงพ่อซวง เมื่อตอนที่ท่านมรณภาพ เหล่าลูกศิษย์เชื่อว่าท่านเป็นพระที่ศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าที่ใดส่วนใดหรือที่ที่ท่านอยู่จะต้องศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิ้น เมื่อท่านมรณภาพศิษย์จึงลงความเห็นกันว่าอยากได้สิ่งใดของอาจารย์เป็นที่ระลึกไว้เคารพบูชา ก็ได้ตกลงกันว่า เอาหมึกไปปั๊มฝ่าเท้าช่วงแรก ๆเป็นขมิ้น ช่วงหลังๆ เป็นหมึก โดยเอาหมึกทาที่ฝ่าเท้าของหลวงพ่อซวงขณะที่ศพของท่านนอนอยู่ แล้วเอาผ้าขาวปั๊ม จะมีแบบรอยเท้าข้างเดียวและสองข้าง แต่จะมีตราวัดปั๊ม ผ้าทั้งหมดไม่ได้ปลุกเสกโดยหลวงพ่อซวงก็จริง แต่ปั๊มที่รอยเท้าท่านแล้วจุดธูปอธิษฐาน ขอให้ท่านมาเสก หลายคนถามว่าแล้วมันจะศักดิ์สิทธิ์หรือ ทันมั๊ย ดีมั๊ย ถ้าจะกล่าวถึงหลวงพ่อซวงในสมัยหนึ่ง บางคนหากอยู่แถบกาญจนบุรี จะรู้จักหลวงเตี่ย วัดทุ่งสมอ หลวงเตี่ย เป็นคนไทยเชื้อสายจีน เดิมท่านเป็นพ่อค้าหมู แต่มีบุญเก่าคือได้ฝึกจิตจากพระผู้เร้นลับองค์หนึ่งซึ่งไม่ขอกล่าวถึง ซึ่งอาจจะยืดยาวเกินไป หลวงเตี่ยท่านได้ฝึกวิชาจนสำเร็จจิตแล้วท่านเป็นผู้รู้ผู้ทรงฌาน มีชื่อเสียงอยู่ที่ประเทศฮ่องกง พอออกพรรษาท่านจะไปจำวัดอยู่ที่ฮ่องกง เพื่อโปรดญาติโยมชาวฮ่องกง มาเลเซีย สิงคโปร์ที่ไปเที่ยวหาท่าน ต่างมีเรื่องทุกข์ร้อนท่านจะทำนายทายทักได้ดั่งตาเห็น ไม่ว่าจะเป็นบ้านช่องที่อยู่ หลวงเตี่ย เมื่อเข้าพรรษาท่านจะมาจำวัดอยู่ที่วัดทุ่งสมอ กาญจนบุรี มีศิษย์คนหนึ่งเป็นคนอยุธยา มารับท่านไปที่บ้านที่อยุธยา คนคนนี้นับถือหลวงพ่อซวง บรรพบุรุษของเขานับถือหลวงพ่อแป้น วัดเสาธงใหม่ซึ่งเป็นอาจารย์ของหลงพ่อซวง และทางพ่อแม่ของเขาก็นับถือหลวงพ่อซวงซึ่งเป็นศิษย์เอกของหลวงพ่อแป้น ในบ้านมีรูปบูชาของหลวงพ่อแป้นหนึ่งรูป และรูปบูชาของหลวงพ่อซวงหนึ่งรูปซึ่งเขาบูชาไว้ใกล้ ๆกัน อยู่ที่ชั้นสองของบ้าน หลวงเตี่ยเมื่อท่านไปถึงบ้านนี้ ทันทีที่ท่านก้าวเข้าไปในบ้านท่านหยุดเดินทันที และทักขึ้นมา ซึ่งท่านไม่เคยไปบ้านนี้มาก่อน ท่านทักขึ้นมาว่า ที่บ้านหลังนี้มีรูปพระรูปใหญ่ อยู่ชั้นบน พระสององค์นี้บารมีพอพอกัน องค์หนึ่งเป็นอาจารย์ องค์หนึ่งเป็นลูกศิษย์ ท่านรู้ขนาดนั้น บารมีพระองค์แก่พอพอกับพระองค์หนุ่มก็จริง แต่พระองค์หนุ่ม(ท่านหมายถึงหลวงพ่อซวง)มีเหนือกว่านิด ๆ ตรงที่ว่าบุญวาสนาเหนือกว่าอาจารย์ตรงที่ว่าเป็นผู้มีฤทธิ์ บ้านไหนที่มีรูปหลวงพ่อซวงแบบนี้ ท่านจะสัมผัสได้ทันทีตั้งแต่เข้าประตูบ้านมา เพราะว่าหลวงพ่อซวงท่านเสกไว้ดีมาก ตรงที่ท่านรอบคอบขนาดที่ว่าเสกกันงูพิษและสัตว์อสรพิษ หลวงเตี่ยท่านยังทักว่าเคยมีพวกตะขาบ แมงป่อง หรืองูเข้ามาในบ้านไหม เจ้าของบ้านบอกว่าไม่เคยเลย หลวงเตี่ยบอกว่า นั่นแหละ พอมันมาถึงหน้าบ้าน มันจะเปลี้ย ไม่มีแรง บางตัวหมดแรงนอนอยู่หน้าประตู บางตัวกระเสือกกระสนคลานหนีไป เจ้าของบ้านบอกว่าใช่ หลวงเตี่ยบอกว่า เป็นเพราะรูปถ่ายของหลวงพ่อซวงนั่นแหละ ท่านเสกกันสัตว์ที่มีเขี้ยวงา กันอสรพิษไว้ด้วย คืออธิษฐานจิตไว้ในรูป ผูกปากสัตว์ที่มีพิษมีเขี้ยวมีงา จะอ้าปากไม่ขึ้นจะฉกทำร้ายใครไม่ได้ นี่คืออภินิหารของหลวงพ่อซวงที่หลวงเตี่ยท่านสัมผัสและบอกไว้ และหลวงเตี่ยท่านนั่งสมาธิติดต่อกับหลวงพ่อซวง แล้วท่านบอกว่าหลวงพ่อซวงท่านศักดิ์สิทธิ์แต่เสียดายมรณภาพเมื่ออายุยังน้อย แล้วท่านสั่งคนนี้ไว้ว่า รูปนี้ไม่ว่าจะนำไปอัดเพิ่มอีกกี่พันกี่หมื่นรูปก็จะมีความศักดิ์สิทธิ์เสมอรูปต้นแบบทั้งหมด เพราะหลวงพ่อซวงท่านอธิษฐานจิตถอดธาตุธรรมไว้ในรูปแล้วไม่ว่าจะอัดอีกกี่ครั้งก็จะมีความศักดิ์สิทธิ์เสมอท่านได้เสกสมัยที่ท่านมีชีวิตอยู่ คนที่มาในพิธีวันนั้นต่างออกปากขอให้เจ้าของบ้านอัดรูปให้ตนไปบูชาที่บ้านบ้าง เป็นที่เอิกเกริกกันใหญ่

    [​IMG]


    หลวงพ่อซวงท่านเป็นพระสำคัญ ในจังหวัดสิงห์บุรีสมัยก่อน ท่านไม่เป็นสองรองใครในเรื่องอภินิหารต่าง ๆ ท่านสามารถเขียนหวงเลขรางวัลที่หนึ่งได้ตรงเป๊ะ ให้คนที่ทดสองต่างเห็นเป็นที่ประจักษ์ และในคราวที่ท่านมรณภาพ แล้วใครคิดว่าผ้ายันต์นี่จะศักดิ์สิทธิ์หรือท่านเสกหรือไม่ หลวงปู่โต๊ะ วัดสระเกศซึ่งเป็นเกจิอาจารย์อาวุโสท่านหนึ่งในแถบสิงห์บุรี อ่างทอง ต่างเคารพบูชาท่าน หลวงปู่โต๊ะ เป็นญาติหลวงพ่อซวง เมื่อคราวที่หลวงพ่อซวงมรณภาพ หลวงปู่โต๊ะท่านเดินทางมาที่วัด ขณะที่ท่านกำลังเดินขึ้นศาลา ท่านพูดลอย ๆขึ้นมาว่า “เออ ไม่ต้องมารับถึงนี่ก็ได้ ฉันเดินเข้าไปได้” พวกลูกศิษย์ก็ถามว่า “ใครมารับล่ะหลวงพ่อ” หลวงปู่โต๊ะท่านจึงบอกว่า “ท่านซวงน่ะสิ เค้ามายืนรอรับฉันที่กระไดนี่ ฉันเลยบอกเขาว่าฉันเดินขึ้นไปได้ ไม่ต้องมารับหรอก” แสดงให้เห็นว่าวิญญาณของหลวงพ่อซวงท่านไม่ได้ไปไหน ท่านยังอยู่ที่นั่นแหละ และในคราวที่ปลุกเสกผ้ายันต์และของที่จะแจกในงานศพ เป็นสมเด็จผงก้างปลาที่เหลือก็ดี หลวงปู่โต๊ะท่านบอกว่าท่านเองไม่ต้องเสกหรอก ท่านซวงเค้ามาเสก แต่ลูกศิษย์ก็คะยั้นคะยอให้ท่านเสก หลวงปู่โต๊ะท่านก็อธิษฐานให้หลวงพ่อซวงท่านมาเสกของของท่าน แล้วท่านก็ช่วยประพรมน้ำมนต์ให้
    มีชายคนหนึ่งเค้ามาไม่ทันงานศพ ไม่ทันได้ผ้ายันต์ชุดนี้ที่เค้าทำและแจกไปหมดแล้ว คนคนนี้มีศักดิ์เป็นหลานของหลวงพ่อซวง มาแล้วก็ไม่ได้อะไร ตนเองไปทำงานแถบจันทบุรี ระยอง มาถึงไม่ได้ของอะไรของอาจารย์เลย ด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจเสียใจว่าตนเองอับโชควาสนา มาหาท่านก็ไม่ได้อะไร ได้แค่มากราบร่างท่าน เห็นเค้าเอาน้ำหมึกทาเท้าท่าน ก็เลยอธิษฐานจิต แล้วเอาเท้าท่านขยี้บนหัว ขยี้ไปปากก็พร่ำพูดไปว่ารักเคารพอาจารย์ต่าง ๆนานา เหมือนคนละเมอเพ้อภพ เหมือนคนบ้า ทุกคนก็ไม่มีใครไปห้ามเพราะคนคนนี้เป็นหลานของหลวงพ่อ จนหายความคลายโศกก็ถอยออกไป หลังจากงานศพหลวงพ่อซวง ชายคนนี้ก็ไปตัดผม (เสียดายที่จำชื่อชายคนนี้ไม่ได้ ผู้ที่เล่าให้ข้าพเจ้าฟังคือ หลวงพ่อเกรียง วัดวังน้ำเย็น)ที่ตลาด ตัดอย่างไรปัตตาเลี่ยนก็พัง กรรไกรก็ตัดไม่เข้า ตนเองก็รู้สึกอัศจรรย์ ช่างตัดผมก็รู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงตัดไม่เข้า มีดอะไรก็โกนไม่เข้า อัศจรรย์ นึกได้ว่า หรือว่าจะเป็นวันนั้นที่เอาเท้าหลวงพ่อซวงขยี้หัว จึงอธิษฐานยกมือขึ้นท่วมหัว บอกว่า “ตนเองรู้แล้วว่าท่านอาจารย์ได้คุ้มครองตนจริงตามที่ได้อธิษฐานขอให้บารมีของท่านอาจารย์คุ้มครองตน ตนเองไม่ได้วัตถุมงคลใด ๆ แล้วเอาฝ่าเท้าอาจารย์ขยี้หัว ได้เห็นถึงความขลังและความศักดิ์สิทธิ์แล้ว ตนเองจำเป็นต้องตัดผม ขอให้ตัดผมได้เข้าด้วยเถิด และขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่หลวงพ่อซวงมอบให้ยังอยู่ในตนตลอดไปด้วยเถิด” หลังจากนั้นเค้าก็นำเรื่องนี้มาเล่าให้ฟัง นี่แหละอภินิหารของผ้ายันต์รอยเท้าของหลวงพ่อซวง แม้จะไม่ทันท่านตอนมีชีวิตก็ตาม เคยมีผู้ที่พกผ้ายันต์รุ่นนี้ในกระเป๋าเสื้อขี่มอเตอร์ไซค์แล้วไปชนกับรถสิบล้อ ซึ่งความจริงน่าจะต้องตาย แต่แค่สลบ เลือดออกหูออกปาก แต่ก็ไม่ตาย ฟื้นขึ้นมาแก้วหูเสีย ผ้ายันต์รอยเท้านี้ถึงแม้จะไม่ทัน แต่ก็เป็นที่เสาะหาของศิษย์สายหลวงพ่อซวงด้วย เป็นของที่ไม่แพงแต่หายากสำหรับสายนี้
     
  2. ๑พรพรต๑

    ๑พรพรต๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +545
    พระชัย หลวงพ่อสุทธิ์ วัดหนองหวาย พิมพ์เล็ก


    [​IMG]

    หลวงพ่อสุทธิ์ วัดหนองหวาย วัดหนองหวายนี้จริง ๆ แล้วคือวัดมัชฌิมาวาส สุราษฎร์ธานี พระชัยของท่านเป็นของดีเลิศมากทั้งพิมพ์ใหญ่พิมพ์เล็ก ด้วยท่านตั้งใจสร้างแจกในคราวสงคราม หลวงพ่อสุทธิ์ ท่านมีความเป็นเลิศในการค้นหาเหล็กไหล ท่านชอบเดินธุดงค์แล้ไปตัดเหล็กไหล เช่น เขาสามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ หรือจะเป็นถ้ำทางเขาบูโด ทางใต้ลึกลงไป หรือจะเป็นภูเขาควาย ทางประเทศลาวท่านก็เคยไปถึง ว่ากันว่าแม้แต่หลวงพ่อจันทร์ วัดทุ่งเฟื้อ ยังกล่าวยกย่อยให้ศิษย์ของท่านฟังว่า ถ้าเรื่องตัดเหล็กไหล หาเหล็กไหล หลวงพ่อสุทธิ์นี้ไม่ธรรมดาเลย หลวงพ่อสุทธิ์นี้ท่านเป็นศิษย์ เคยได้เรียนวิชากับหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค คือท่านเคยธุดงค์ไปพบกัน จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า พลังจิตของท่านนั้นต้องไม่ธรรมดา เพราะไม่เคยเห็นว่ามีลูกศิษย์ของหลวงพ่อเดิมองค์ใดที่มีจิตเพียงแค่ผู้ทรงฌาณธรรมดาเลย เป็นที่พิสูจน์ได้ว่าหลวงพ่อสุทธิ์สร้างพระของท่านชุดนี้ไม่ว่าจะเป็นพิมพ์ใหญ่พิมพ์เล็กก็ตาม เมื่อท่านสร้างแล้วขณะที่หล่อนั้นท่านได้เรียกเหล็กไหลซึ่งอยู่ในตัวท่านออกมาก แล้วใส่เข้าไปในทุก ๆเบ้า ทำให้พระชุดนี้ทุก ๆองค์ทุกพิมพ์ ในเนื้อหามีเหล็กไหลผสมอยู่ ซึ่งท่านจะยืนคุมโดยใช้อาคมและพลังจิต ให้เหล็กไหลละลาย ในเบ้าหลอม ซึ่งข้อมูลนี้ ข้าพเจ้าได้เคยไปถามเสริมจากหลวงพ่อท้วม วัดศรีสุวรรณ ซึ่งขณะนั้นท่านยังเป็นเณร ท่านได้ยืนยันว่าหลวงพ่อสุทธิ์ได้ใส่เหล็กไหลลงไปจริง แล้วหล่อเสร็จแล้วยังไม่ได้เสก ท่านให้ลองยิงเลย ปรากฏว่ายิงไม่ออก เพราะในเนื้อพระนอกจากมีเหล็กไหลอยู่แล้วนั้น โลหะที่หล่อลงไป ไม่ว่าจะเป็นฝาบาตรหรือชนวนต่าง ๆ ท่านนำมาลงยันต์ทั้งหมดทั้งสิ้น รวมทั้งแผ่นจาร นะ108 และแผ่นยันต์แผ่นจารต่าง ๆ ท่านจารลงไว้ทั้งสิ้น ท่านมีความตั้งใจอย่างสูง จารแผ่นยันต์แผ่นจารต่าง ๆล่วงหน้าไว้แล้ว นอกเสียจากว่าโลหะอื่น ๆ ที่ชาวบ้านนำมาหล่อหลอมเพิ่ม จึงทำให้พระที่ยังอยู่ในช่อ ที่ถอดออกมาใหม่ ๆ ยิงก็ยิงไม่ออกแล้ว เมื่อตัดจากช่อ ท่านก็นำมาปลุกเสกจนมั่นใจ ในวันที่ท่านให้ทำบุญผู้ที่มาท่านกำหนดว่า ใครที่จะมารับพระท่านให้เอาปืนมาด้วย ใครอยากได้รับพระหนึ่งองค์ ให้เอาปืนมายิงทดสอบก่อนรับพระ ถ้ายิงไม่ออกก็ค่อยเอาไป ท่านมั่นใจถึงขนาดนั้น ให้ผู้ที่มารับ ได้เห็น เชื่อมั่นศรัทธาจริง ว่าพระของท่านกันปืนได้อย่างแน่แท้

    [​IMG]

    และเคยมีผู้ที่มีประสบการณ์ถูยิงเป็นกำนันผู้กว้างขวางของจังหวัดชุมพร ถูกยิงในเขตอำเภอหลังสวน ถูกยิงขนาดที่ว่ารถพรุนทั้งคัน คือ กำนันผู้นี้ถูกยิงถึงสองครั้ง ครั้งแรก ลูกน้องขับรถของแกออกไป ลูกน้องจึงรับเคราะห์แทน ครั้งที่สอง คือโดนยิงตกข้างทาง แต่กระสุนไม่สามารถเจาะทะลุร่างไปได้ แต่เนื้อตัวเป็นรอยไหม้ จ้ำ ๆ ตามรอยกระสุน แต่ไม่เข้า เป็นข่าวใหญ่โตในจังหวัดชุมพร ถือว่าเป็นพระที่มีการเสาะหากันค่อนข้างสูงในเขตชุมพร สุราษฎร์ธานี และส่วนกลางต่างก็เชื่อถือในเรื่องความคงกระพัน ความเหนียวเป็นพระที่ดีทางกันภัยกันอาวุธอย่างแน่แท้
     
  3. ๑พรพรต๑

    ๑พรพรต๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +545
    หลวงพ่อผัน วัดแปดอาร์ หรือวัดราษฎร์เจริญ จ.สระบุรี


    [​IMG]
    [​IMG]

    หลวงพ่อผันถือว่าเป็นเกจิอาจารย์ของจังหวัดสระบุรีมาตั้งแต่ยุคกึ่งพุทธกาล หรือปี2500 เป็นต้นมา ท่านเข้าพิธีปลุกเสกที่สำคัญๆ มามาก เช่น พิธีจักรพรรดิพุทธาภิเษก พิธีปลุกเสก25พุทธศตวรรษ และพิธีใหญ่ ๆอื่น ๆอีกหลาย ๆ พิธี ก็จะมีชื่อของหลวงพ่อผัน วัดราษฎร์เจริญ เป็นคณาจารย์รวมอยู่ด้วย ตัวท่านเองเป็นพระที่เงียบขรึม เงียบสงบ ท่านเป็นศิษย์ของหลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ และเคยได้ไปต่อวิชากับหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ เรื่องการต่อวิชากับหลวงพ่อกลั่นนี้ ไม่แน่ชัดว่าท่านได้ไปเจอหลวงพ่อกลั่นหรือว่าได้ตำราของหลวงพ่อกลั่น คือ ท่านได้เรียนวิชาของหลวงพ่อกลั่นมาแน่นอน แต่ไม่ใจว่าท่านได้เจอกับหลวงพ่อกลั่นหรือเจอกับศิษย์ของหลวงพ่อกลั่นในคราวนั้น หลวงพ่อผันท่านเป็นศิษย์เอกองค์หนึ่งของหลวงพ่อหยด วัดหนองปลาหมอ ท่านเป็นสหธรรมมิกกับหลวงพ่อเชื้อ วัดญาณเสน มีความสนิทสนมกันมาก สมัยก่อนสีผึ่งมหาเสน่ห์ของท่านมีชื่อมาก ยุคแรกท่านทำพิธีหุงร่วมกันกับหลวงพ่อพวง วัดสหกรณ์รังสรรค์ ไปทำพิธีหุงที่ป่าช้า วัดหนองหมูใต้ และก็ใช้ของมหาเสน่ห์ ปนกับผงผีน้ำมันผี ยุคแรก ๆ สีผึ้งท่านเฮี้ยนมาก ปัจจุบันหายากมาก ต่อมาท่านทำสีผึ้งเมตตามหานิยม ใส่น้ำมันจันทน์ สีผึ้งทุกตลับจะมีการปิดทองไว้ ทองของท่านจะเสกด้วยคาถานะหน้าทอง สาลิกาลิ้นทอง มีประสบการณ์ เคยมีเสี่ยที่มาจากกรุงเทพฯนำไปใช้ทำให้มีบ้านเล็กบ้านน้อยมาก จนอาซ้อต้องมาขอให้หลวงพ่อเรียกอาคมออกจากสีผึ้งนั้น ท่านก็หัวเราะ ท่านว่า ท่านทำอะไรไม่ได้ เดี๋ยวเขาก็กลับมาเอง ความที่อาคมของท่านแก่กล้ามาก มีคนที่มีอาชีพฆ่าหมู ได้นำเหรียญของท่านใส่ไว้ในซองบุหรี่แล้วใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อ แล้วไปฆ่าหมูตอนกลางคืนไม่ได้เอาออก พอจับหมู หมูมันดิ้น ซองนี้ก็ร่วงลงพื้นโดยไม่รู้ตัว หมูมันก็ทับซองนี้ไว้ ปรากฏว่าพอแทงคอเพื่อฆ่าหมู หลายคนที่อยู่ในเหตุการณ์นั้น ยังจำได้ดี พอเอาเหล็กที่แทงคอหมู แทงเข้าไป แทงเท่าไรก็แทงไม่เข้า จนเหล็กโก่ง ก็ยังแทงคอหมูตัวนี้ไม่เข้า ก็เกิดความประหลาดใจ ก็เลยพลิกตัวอีกด้านหนึ่ง จึงเห็นซองบุหรี่ที่มีเหรียญนี้อยู่ พอหยิบซองบุหรี่ที่มีเหรียญนี้ออกเท่านั้น หมูตัวนี้ก็ถูกแทงทีเดียวเข้าเลย ก็เลยกลายเป็นเรื่องฮือฮาใหญ่โตว่าเหรียญของท่านนี้เจ๋งแจ๋ว ข่าวก็ลือสะพัดไปเหมือนไฟไหม้ฟาง รุ่งเข้าคนก็แห่กันไปขอเหรียญนี้ ถือว่าเป็นเหรียญที่มีประสบการณ์รุ่นหนึ่งของท่าน ยันต์ด้านหลังเป็นยันต์ตำหรับของวัดประดู่ทรงธรรม ท่านนำมาประยุกต์ใส่ หลวงพ่อผัน ท่านถือว่าเป็นพระที่ดีมาก ตลอดชีวิตของท่านพระของท่านหลาย ๆรุ่น ไม่ว่าจะเป็นกริ่งปวเรศ จะเอาปืนยิงใส่เบ้าหลอมก็ยิงไม่ออก ของของท่านต่อไปจะมีอนาคต ถึงแม้ว่าของของท่านราคาจะไม่ขึ้นรุนแรง แต่ก็ไม่ตก ขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งมีประสบการณ์ตอนที่ท่านมรณภาพแล้วไม่เน่าไม่เปื่อย ตัวของท่านผิวของท่านขาวนวลเหมือนแป้งทา ตัวก็ขาวผมก็ขาวเป็นที่อัศจรรย์ ออกโทรทัศน์ไปหลาย ๆช่อง เหรียญนี้เป็นอีกเหรียญประสบการณ์ของสระบุรี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ธันวาคม 2012
  4. ๑พรพรต๑

    ๑พรพรต๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +545
    พระปถมังเนื้อตะกั่ว ลงถม ตามตำราเขาอ้อ อ.ชุม ไชยคีรี

    [​IMG]

    เป็นพระยุคแรก ท่านสร้างขึ้นยุคแรก เป็นพระที่ลองวิชาที่ได้เรียนมา เวลาลบผง ท่านจะลบผงที่กระดาน โดยขณะลบผง อ.ชุมยังหนุ่มแน่นแข็งแรง ถือว่าอยู่ในช่วงเรืองวิชาอาคมอย่างที่สุด เมื่อท่านลบผงไปเรื่อยๆของจะขึ้นเกิดอาการไม่รู้ตัวหรือบังคับตัวไม่ได้ในบางช่วงบางขณะ จะมี อ.ปานวัดเขาอ้อ คอยกำกับอยู่ด้านหลัง อ.ชุม ทุกครั้ง เมื่อ อ.ชุมเกิดอาการของขึ้นเขียนยันต์จนมือเลยกระดาน สูงขึ้นไปบนอากาศ อ.ปานซึ่งอยู่ด้านหลังจะคอยพรมน้ำมนต์ อาการของขึ้นก็จะคอยทุเลาจะคลายหายไป เป็นอยู่อย่างนี้สลับไปมาจนเสร็จพิธีลบผง

    [​IMG]

    การลบผงนี้ก่อนจะลบ ท่านจะดูฤกษ์ยาม วันดี ก่อน จึงทำการลบ และต้องเสกมือ เสกคาถาชำระมือชำระตัว เสกกระดาน เสกแท่งผง ก่อนทุกครั้ง ต้องนุ่งขาวห่มขาว ถือศีล8 อย่างเคร่งครัด เมื่อลบผงจนได้จำนวนที่พอใจแล้วก็จะนำไปผสม กับของวิเศษอื่น ๆแล้วจึงนำมาสร้างเป็นพระผงปถมัง
    ส่วนพระปถมังเนื้อตะกั่วลงถมนี้ ท่านจะนำตะกั่ว มาลงยันต์จนเต็มแผ่น เป็นยันต์สำคัญต่าง ๆ และยันต์นะพิสดารต่าง ๆ ตามตำราเขาอ้อ ยันต์ทุกแบบนะทุกตัว จะมีคุณวิเศษโดดเด่นแตกต่างกันไป เป็นตำราพิชัยสงครามของเมืองใต้ที่มีความเข้มขลังยืนยาวมานับพันปี
    เมื่อเขียนยันต์ต่าง ๆ ครบตามตำราจะนำไปหลอม แล้วนำมาแผ่เป็นแผ่น แล้วจึงลงยันต์และลงตัวนะต่าง ๆซ้ำอีก ทำซ้ำ ๆเช่นนี้(ลงถม) จนกว่าตะกั่วที่ลงถมนั้นจะหลอมไม่ละลาย(ละลายยาก ใช้เวลานาน) หรือ ผู้ลงยันต์ทราบจากอำนาจจิตว่าแผ่นตะกั่วนั้นมีอำนาจคุณวิเศษครบถ้วนเต็มที่แล้ว จึงทำพิธีหลอมเป็นองค์พระโดยก่อนจะหลอมต้องพรมน้ำมนต์ธรณีสารลงบนเครื่องมือเครื่องใช้ต่าง ๆ(ประสะ ให้สะอาด) หลังจากนั้นผู้ทำพิธีทุกคน หากเป็นฆราวาสต้องอาราธนาศีล5 เป็นอย่างน้อย ต้องอาบน้ำมนต์ชำระตน ก่อนทำพิธี พระปถมังนี้ มีคุณวิเศษครบถ้วน ครอบจักรวาล เน้นหนักทางคุ้มครองป้องกันเสริมอำนาจวาสนาแคล้วคลาดปลอดภัย เป็นของดียุคแรก ๆ ของอ.ชุม ไชยคีรี
     
  5. ๑พรพรต๑

    ๑พรพรต๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +545
    นางกวัก พระครูใบฎีกาเกลี้ยง วัดสุทัศน์

    [​IMG]




    พระครูใบฎีกาเกลี้ยง วัดสุทัศน์ ถือเป็นพระลูกวัดในวัดสุทัศน์ก็จริง แต่สมเด็จพระสังฆราชแพเคยตรัสอยู่เนือง ๆ ว่า” พระครูใบฎีกาเกลี้ยง ท่านสำเร็จผง ไม่ธรรมดา” เป็นพระอาวุโสอยู่ในวัดสุทัศน์ เป็นเพียงหลวงตาแก่ ๆ ใช้ชีวิตสมถะเรียบง่าย แต่เป็นผู้เลิศด้วยอาคมทางผงทางมหานิยม อาจารย์หนู วัดสุทัศน์เล่าว่า ท่านเคยลบผงสร้างพระของท่านอย่างที่ท่านนำมาผสมทำนางกวักนี้ เมื่อมีการผสมเสร็จแล้ว ลูกศิษย์วัดก็ล้างมือ เผอิญมีลูกสาวเจ๊กคนหนึ่งเข้ามาเก็บดอกไม้ภายในวัด ลูกศิษย์วัดไม่ทันเห็นก็สาดน้ำที่ล้างมือหลังจากผสมพระเสร็จ ปรากฏว่าลูกเจ๊กคนนั้น เดินวนไปวนมาไม่ยอมกลับบ้าน พระครูใบฎีกาเกลี้ยงท่านเห็นว่าแปลกท่านทราบทันทีว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น จึงให้คนพาตัวลูกเจ๊กคนนั้นมาแล้วท่านก็ทำน้ำมนต์รดตัวให้ ผู้หญิงคนนั้นก็คล้ายกับลุกขึ้นตื่นจากภวังค์กลับบ้านได้ จากนั้นมาท่านก็สั่งลูกศิษย์ว่า “น้ำที่ล้างมือให้เอาไปเทลงที่โคนต้นไม้ อย่าสาดหรือเทลงน้ำ เพราะถ้าเทลงน้ำคนที่อยู่ท้ายน้ำก็จะเดือดร้อน ถ้าหากเขาอาบน้ำอยู่ เพราะผงนี้เป็นเมตตาอย่างรุนแรง” อาจารย์วิรัช แดงวิจิตร หรือ อาจารย์หนู วัดสุทัศน์ ท่านเคยเห็นความขลังของพระครูใบฎีกาเกลี้ยง ยามที่อาจารย์หนูท่านสึก ท่านขอให้พระครูใบฎีกาเกลี้ยงลงเมตตาให้ท่าน พระครูใบฎีกาเกลี้ยงได้ลงอัขระที่ฝ่ามือท่านทั้งสอง แล้งวนำผงวางที่ฝ่ามือแล้วเสกใช้นิ้วคลึง เป็นที่อัศจรรย์ ผงที่ฝ่ามือ หายไปทั้งหมด คือซึมเข้าไปในตัว พระครูใบฎีกาเกลี้ยงบอกว่า”ได้เรียกผงเข้าตัวแล้ว ให้รักษาให้ดี อย่าไปเป็นชู้ลูกเค้าเมียใคร อย่าด่าฟ้าด่าลมด่าฝนด่าธาตุทั้ง4 ให้รู้คุณคน มีความกตัญญู ของจะอยู่กับตัวท่าน” นางกวักนี้ พระครูใบฎีกาเกลี้ยท่านลบผงเองสร้างเอง ทำเองกับมือทั้งสิ้น ทำเองทุกอย่าง แต่ว่าไม่ดังเพราะว่าขาดคนโฆษณาประชาสัมพันธ์ และอีกอย่างท่านอยู่วัดสุทัศน์ซึ่งเป็นสำนักของพระสังฆราชแพ เจ้าคุณศรีสนธิ์ ซึ่งชื่อเสียงของสมเด็จพระสังราชแพนั้นยิ่งใหญ่มาก คนก็เลยมองผ่านท่านไป
    [​IMG]
     
  6. ๑พรพรต๑

    ๑พรพรต๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +545
    หลวงพ่อเหลือง วัดตาด้วง

    [​IMG]
    [​IMG]

    หลวงพ่อเหลือง วัดตาด้วง เป็นเกจิอาจารย์ยุคเก่า คาดว่าท่านเป็นพระในยุคเดียวกันกับหลวงพ่ออ้น วัดบางจาก คือเป็นพระยุคก่อนรัชกาลที่๕ พระสมเด็จหลวงพ่อเหลือง วัดตาด้วง เป็นพระที่มีพุทธคุณทางเมตตามหานิยมอย่างสูงยิ่ง คนสมัยก่อนชอบนำพระหลวงพ่อเหลือง วัดตาด้วยมาฝนใส่น้ำให้ผู้หญิงกิน บ้างก็นำไปแช่น้ำมนต์อาบเป็นเมตตามหานิยม บ้างก็ทำน้ำมนต์ปะพรมสินค้าให้ขายดี สมัยก่อนเคยมีคหบดีตระกูลใหญ่ไปบอกอาจารย์วัดจุฬามณี ว่าตนอยากได้พระของหลวงพ่อเหลือง วัดตาด้วง ถ้าใครมีจะขอเช่าองค์ละ10,000บาท เมื่อ20กว่าปีที่แล้ว เพราะว่าได้เห็นประจักษ์ในพุทธคุณ ปัจจุบันสมเด็จหลวงพ่อเหลือง วัดตาด้วง องค์แท้ ๆ พิมพ์เก่าลึก ๆ ทันท่านอย่างที่ข้าพเจ้ามีหากยากแล้ว ปัจจุบันที่เล่นหากันอยู่ก็จะไม่ทันหลวงพ่อเหลือง พระองค์นี้ดูจากเนื้อหาท่านทั้งหลายคงทราบว่าเก่ามาก เก่าเป็นร้อยปี เนื้อจัดได้อายุ พิมพ์นี้เป็นพิมพ์ที่คนยุคก่อนสมัย30-40ปีที่แล้วเค้าได้กันไว้ได้ยืนยันกันไว้ว่าเป็นของหลวงพ่อเหลืองแน่นอน ปัจจุบันมีการทำย้อนยุคไม่ทันหลวงพ่อเหลือง
     
  7. v_rod2101

    v_rod2101 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2011
    โพสต์:
    116
    ค่าพลัง:
    +91
    เข้ามาติดตามอยู่เสมอครับ ลงเรื่อยๆนะครับพี่

    :cool: :cool: :cool:

    [​IMG]
     
  8. kawpunt

    kawpunt เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,276
    ค่าพลัง:
    +3,087
    ได้ความรู้ดีนะครับ ติดตามต่อครับ
     
  9. ๑พรพรต๑

    ๑พรพรต๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +545
    ผ้ายันต์บล็อคไม้กด ก่อนปี2490 หลวงพ่อโม วัดจันทนาราม ชัยนาท

    [​IMG]

    หลวงพ่อโม ท่านเป็นพระอมตะองค์หนึ่งของจังหวัดชัยนาท ว่าจะว่ากันแล้วพระที่มีบารมีรองจากหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่าลงมานั้น หลวงพ่อโมนั้น จัดว่าเป็นอันดับต้น ๆ สมัยหลวงพ่อโมนั้น คนเขาว่าความเก่งกล้าสามารถของท่านนั้น มีภาษีดีกว่า หลวงพ่อโต วัดพระญาติ จังหวัดอ่างทองเสียอีก หมายถึงประสบการณ์ เพราะว่าคนเค้ามีประสบการณ์กันมาก เจอกันเยอะ หลวงพ่อโมเดิมท่านเป็นคนอีสาน เดิมท่านเป็นนายฮ้อย คือคนที่ต้อนฝูงวัว ฝูงควายไปขาย คนที่เป็นนายฮ้อยนั้น สมัยก่อนต้องเป็นคนที่มีวิชาอาคม ต้องคุมคณะคนที่คุมฝูงวัวควาย ต้องต่อสู้กับภูตผีปิศาจ ไข้ป่ามาเลเรีย ต้องต่อสู้กับพวกโจรที่จะมาปล้นวัวปล้นควาย คนที่เป็นนายฮ้อยต้องเก่งทั้งทางกำบัง ดูฤกษ์พานาที ดูดาวดูทิศ แต่งคน(หมายถึงเสกบุหรี่เสกใบพลูหรือเสกน้ำมันทาตัว ให้กิน ให้เหนียว คงกระพันชาตรี) ต่อสู้กับพวกที่มาปล้นวัวปล้นควายได้ หลวงพ่อโมท่านเก่งทางวิชาพวกนี้ ท่านเป็นนายฮ้อยเก่า และเรียนวิชาพวกนี้มาจากบรรพบุรุษของท่าน เพราะตระกูลของท่านเป็นนายฮ้อยมาหลายรุ่น ตัวท่านเมื่อคราวที่ท่านมาแถบนี้ ไม่ทราบเหตุใดท่านถึงบวช บางกระแสเล่าว่าท่านมีลูกมีเมีย แล้วลูกเมียของท่านตาย ท่านเกิดเบื่อหน่ายชีวิต ท่านจึงบวช พอท่านบวชเป็นพระแล้วได้ธุดงค์มาอยู่แถบนี้ สร้างความเจริญช่วยเหลือผู้คน สมัยก่อนแถบห้วยกรด เป็นบ้านป่าเมืองเถื่อนซุ้มโจรชุมเสือเยอะ ผู้คนต้องการที่ยึดเหนี่ยวทางใจ ยุคแรก ๆ หลวงพ่อโมท่านสร้างเครื่องรางไม่ว่าจะเป็นตะกรุดมหากาฬ ซึ่งทราบกันดีว่าเป็นตะกรุดซึ่งไม่เป็นสองรองใครในแผ่นดินไทยเลยในเรื่องอภินิหาร และท่านกก็สร้างผ้ายันต์อย่างที่ท่านเห็นในรูปนี้ บางคนก็เล่นเป็นหลวงพ่อมุ่ย บางคนก็เล่นเป็นของหลวงพ่อกวยยุคต้น ซึ่งผ้ายันต์นี้ข้าพเจ้าได้ข้อมูลมาจากลูกศิษย์สมัยเก่า ในยุคพ.ศ.2530 ลงไปทุกคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นของหลวงพ่อโม บางคนก็ใส่กรอบบูชาเอาไว้พร้อมรูปถ่าย รุ่นปี 2510กว่าๆ คนรุ่นเก่าๆ บรรพบุรุษปู่ย่าตายาย ต่างก็ยืนยันว่าเป็นของหลวงพ่อโม จากอายุของผ้า เนี่ยเป็นผ้ายุคเก่า คือเก่าก่อนปี2490 และแม่พิมพ์เป็นไม้นำมาแกะเป็นแม่พิมพ์ ปั๊มกับหมึกแล้วมากดลักษณะเดียวกันกับการปั๊มตราประทับ ผ้ายันต์ต่าง ๆไม่ว่าจะเป็นผ้ายันต์สิงห์ ใส่ยันต์ตรีนิสิงเห ผ้ายันต์นางกวัก ค้าขาย ผ้ายันต์หงส์ เป็นทางเมตตา ท่านจะใส่ยันต์ตรีนิสิงเห คือดีทางปกป้องคุ้มครองคงกระพันชาตรี และใส่สิงห์มหาอำนาจ ซึ่งจะมียันต์นะราชสีห์อยู่ ของหลวงพ่อโมคงไม่จำเป็นต้องอธิบายว่าดีอย่างไร หรือศักดิ์สิทธิ์อย่างไร เพราะคนแถบห้วยกรด ชัยนาท สรรค์บุรี หรือจะลามไปถึง นครสวรรค์ อ่างทอง สิงห์บุรี สุพรรณบุรี ถ้าเอ่ยถึงชื่อหลวงพ่อโม พุทธคุณที่เป็นยอดก็คือ มหาอุตม์หยุดอาวุธทั้งปวง เคล้วคลาดกำบัง หรือวิชากระสุนตก คือมีของกั้น ยิงยังไงก็ไม่ถูก ยิงมาลูกปืนตก ไม่ถึงตัวคนที่มีวัตถุมงคลของท่านอยู่ ผ้ายันต์ชุดนี้เป็นผ้ายันต์ที่เก็บรักษาไว้อย่างดี กดด้วยแม่พิมพ์ไม้ เป็นผ้ายุคเก่าของหลวงพ่อโมอย่างแน่นอน ไม่ว่าใครจะขายเป็นของหลวงพ่อมุ่ย หรือหลวงพ่อกวย เพื่อให้มีราคา แต่ข้าพเจ้าขอยืนยันว่าผ้ายันต์นี้เป็นของหลวงพ่อโมแน่นอน
     
  10. v_rod2101

    v_rod2101 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2011
    โพสต์:
    116
    ค่าพลัง:
    +91
    สุดยอดครับ

    :cool: :cool: :cool:
     
  11. ๑พรพรต๑

    ๑พรพรต๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +545
    ปิดตามหาลาภ อ.เจ็ก วัดเขาแดงตะวันตก


    [​IMG]
    ประวัติอ.เจ็ก วัดเขาแดงตะวันตก ข้อมูลจากอ.ชัยวุฒิ ซึ่งเป็นลูกศิษย์คนสุดท้ายที่อ.เจ็ก สอนการปั้นหุ่นทำพระต่าง อ.เจ็กท่านพิถีพิถันในการทำพระท่านจะเขียนยันต์ลงถมเอง หล่อเอง ปั้นหุ่นเทียน ขึ้นหุ่นเทียนเอง ปั้นด้วยมือ ทำทุกอย่างเองอย่างตั้งใจ ปิดตามหาลาภนี้ อ.ท่านเสกให้เป็นทางพระปิดตาและมีผลทางโภคทรัพย์ พระปิดตานี้ คนในพื้นที่เล่าให้ฟังว่า ถ้าถึงคราวคับขันสามารถกลืนพระลงท้องได้ เพราะมีคนเคยเอาพระท่านไปติดตัวบูชา แล้วถึงคราวคับขันมีเรื่องก็กลืนพระท่านลงไป แล้วหลังจากนั้นก็ได้มาหาท่านอ.เจ็ก ท่านบอกว่าไม่เป็นไร พระของท่านจะไม่ออกทางทวารต่ำ คือไม่ออกทางทวารหนักและทวารเบา ให้หาผ้าขาว ดอกไม้ ธูปเทียน บูชาเอาไว้ พอเช้ามา พระท่านก็จะออกมาทาง ตา หู หรือทางปาก ออกมาเองอยู่ข้างหมอน พระนี้ท่านได้ตำราโบราณมาจากคนธรรพ์ คือคนธรรพ์มาบอกท่าน แม้แต่หมอสมสุข คงอุไร ยังนับถือท่าน หมอสมสุขเคยไปขอปั๊มรอยมือท่านไว้ แต่คนธรรพ์มาบอกท่านไว้ว่าให้ท่านปั๊มข้างเดียว ถ้าปั๊มสองข้างท่านต้องมรณภาพ หมอสมสุขคะยั้นคะยอ ยังไงจะขอปั๊มสองข้างให้ได้ อ.เจ็กท่านรู้ตัวแล้วว่าจะมรณภาพเพราะคนธรรพ์ได้มาบอกท่านไว้ก่อนแล้ว ท่านจึงปั๊มไว้ให้ หลังจากนั้นไม่นานท่านก็มรณภาพ ถ้าฝั่งวัดเขาแดงตะวันออก ก็ต้องยกให้หลวงพ่อหมุน ถ้าทางฝั่งวัดเขาแดงตะวันตกก็ต้องอ.เจ็ก อ.เจ็ก ท่านเก่งทางสร้างพระ เป็นพระที่เก็บตัวเงียบ ไม่ยุ่งสุงสิงกับใคร ท่านสร้างพระ สร้างไปแจกไป ทำด้วยใจจริง พระที่จะมาช่วยท่านเสกคือ พ่อท่านสีนวน และพระสหายบ้างก็มาช่วยเสก พระท่านทำมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่2 ท่านทำมาเรื่อง ก่อนที่ท่านจะเสกพระ ท่านจะมีการหล่อรูปฤาษีก่อน เป็นรูปฤาษีบรมครู เป็นองค์ครูบูชาหน้าเตา แล้วจึงหล่อพระออกมา ท่านเป็นพระดีเป็นพระที่เก่งสามารถติดต่อกับคนธรรพ์ได้ และเสกพระถึงกับออกทางทวารอื่นไม่ออกทางทวารต่ำ ถือว่าเป็นพระดีเป็นของดีมีค่า เป็นเพชรแท้ของเมืองใต้อีกองค์หนึ่ง
     
  12. ๑พรพรต๑

    ๑พรพรต๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +545
    หลวงปู่จันทร์ วัดทุ่งเฟื้อ


    [​IMG]



    หลวงปู่จันทร์เวลาท่านเสกของท่านชอบเสกด้วยมนต์บทมหาทะมึน เคยมีคนแอบดู ท่านเสกจนตัวใหญ่คับกุฎิเลย ท่านเคยแสดงอภินิหารหลายครั้ง เช่นยืดคอ ยืดแขน ยืดขา คนบางคนตกใจมาก ท่านเคยถามนายทหารคนหนึ่งที่เคยไปกราบท่านว่า”เคยเห็นเปรตไหม เคยเห็นไหมว่าเปรตเป็นอย่างไร” พอพูดเสร็จ ท่านก็ค่อย ๆ ยืดคอขึ้น คอยาวเป็นศอกเลย นายทหารท่านนั้นก็ตกใจ บอกหลวงพ่อว่าพอแล้วพอแล้ว ท่านเป็นคนรูปร่างใหญ่ ใจสู้ ใจนักเลง สมัยก่อนเคยมีขโมยเข้าไปขโมยของของท่าน เสร็จแล้วท่านเห็น ท่านปล้ำจะจับโจร โจรฟันหลายครั้งแต่ฟันไม่เข้า เพราะในตัวของท่านมีอาคมและฝังเหล็กไหลไว้ ท่านเคยบอกว่าของของท่านถ้าเอาไปประกวดประชัน ได้ที่1แน่ ของเราชนะเค้าหมด ของเรายิงไม่ออก ท่านไม่เข้าใจ นึกว่าเค้าประกวดกันที่พุทธคุณ ของของท่านมีฤทธิ์ทางคงกระพัน มหาอุด กันไฟ กันฟ้า(ผ่า)ได้เพราะใช้บทมหาทะมึนทั้งตัวผู้ตัวเมียปลุกเสก

    [​IMG]
    ขอบคุณภาพจากหนังสือ "ลานโพธิ์"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มกราคม 2013
  13. คนชักพระ

    คนชักพระ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2013
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +26
    เสียดายจริงๆที่คุณพรพรต ลบภาพพระหลวงพ่อชาญณรงค์ทิ้งไปเสียหมดแล้ว ที่เคยลงสวยๆ4-5องค์ ศิษย์หลวงพ่อจริงๆอยากชมมากๆๆครับ แต่ก็เซฟไว้แล้วทั้งรูปและรายละเอียดอื่นๆทั้งหมด มีหลายคนอยากดูของจริง ตอนนี้ก็สงสัยกันว่าใครจะโชคดีระหว่างคนซื้อและคนขาย แต่หาได้มาไงครับพระหายากๆแบบนี้ เดี๋ยวนี้พระท่านหายาก หากได้มาสุจริตละก้อบูชาไปเถอะรุ่งแน่ หากคดโกงโขมยมารับรองร่วงเร็ว ทั้งคนใช้และคนขาย
     
  14. ๑พรพรต๑

    ๑พรพรต๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +545
    โบราณว่าไว้ “ทำดีอย่าเด่น จะเป็นภัย” คนบางคนอาจจะเห็นว่าผมมีพระดี มีพระแปลก ๆที่พบเห็นได้น้อย ของพวกนี้อยู่ที่ความสามารถครับ ไม่ได้เกินความฝันหรอกครับ ถ้ามีความสามารถพบ คนบางคนเคยขอแบ่งพระไปจากผม อันนี้ก็เข้าใจว่ากลัวว่าคนอื่นจะรู้ที่มา อาจจะกลัวคนรู้ว่า ได้พระมาจากไหน ผมไม่ใส่ใจหรอกครับ

    ขอบคุณที่ช่วยดันกระทู้ให้ ของใด ๆได้มาจากไหน ผมรู้ดี ทุกวันนี้ก็ชื่นมื่นสบายตัวสบายใจ ไม่ต้องนอนสะดุ้งผวา ไม่ได้หากินกับวัดวา เลยไม่โดนใครด่าใครสาปแช่ง ขอบคุณครับที่ช่วยเตือนสติ ผมจะจำไว้ถือว่าเป็นคำสั่งสอนเตือนสติครับ

    สมาชิกใหม่ ๆ สมัครล็อคอินใหม่ ๆ หลาย ๆ คน ชื่อใหม่ ๆ จุดหมายเพื่อเข้ามาทักทายผมโดยเฉพาะ ทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นมากครับ แสดงว่ามีคนให้ความสนใจผมอยู่ ภูมิใจมากครับ ที่มีคนรักคนคิดถึง ขอบคุณมากนะครับ

    ถ้าท่านใดมีข้อมูลเกี่ยวกับพระที่ผมเอามาโชว์ว่าทุจริต พระองค์ใดมีเจ้าของแล้วถูกขโมยมาและมีหลักฐานว่าทุจริต กรุณาแจ้งความเอาตำรวจมาลากคอผมได้ครับ ผมมีเบอร์โทรศัพท์ และที่อยู่ตามที่ในร้านพรพรต (เวปพระพันธุ์ทิพย์)เลยนะครับ

    คนเราไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดิน ไม่ต้องทำตัวลับ ๆล่อ ผมไม่มีหลายอาชีพหรอกครับ ไม่ได้มีหลายล็อคอิน ตามตัวได้ตลอดครับ อาบน้ำปะแป้งคอยนะครับ ขอบคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มกราคม 2013
  15. ๑พรพรต๑

    ๑พรพรต๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +545
    พระพิมพ์บัวฟันปลา หลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ
    หลวงพ่อสุ่น เดิมท่านมิใช่ชาวบ้านธรรมดา แต่ท่านเป็นเจ้านายในราชสำนักซึ่งบวชและธุดงค์มาจำพรรษาที่วัดบางปลาหมอ ตลอดชีวิตของท่านท่านอุทิศตนเพื่อประชาชนโดยใช้ความรู้ความสามารถทางสมุนไพรใบยาและเวทย์มนตร์คาถา ช่วยชาวบ้านผู้มีทุกข์ไว้เป็นจำนวนมาก หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อสุ่นองค์หนึ่งที่เป็นผู้สืบทอดวิทยาอาคมจากท่านมาอย่างครบถ้วน
    ครั้งในคราวถวายเพลิงศพ หลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ท่านได้เป็นแม่งานที่สำคัญให้กับทางวัดบางปลาหมอ ได้จัดพิธีการต่าง ๆได้อย่างสมเกียรติขององค์อาจารย์ เล่ากันว่างานศพหลวงพ่อสุ่น ผู้คนมามากมายทั้งหน้าวัดหลังวัด เรือแพจอดกันแน่นขนัด

    [​IMG]

    [​IMG]


    วัตถุมงคลของหลวงพ่อสุ่นที่ท่านสร้างไว้ เป็นพระเครื่องเนื้อดิน 3 พิมพ์ด้วยกัน
    1. พิมพ์กลีบบัว พิมพ์นี้แตกกรุปี 2494 เนื่องจากเจดีย์หน้าโบสถ์เกิดชำรุดแตกร้าว ชาวบ้านที่พบเห็นต่างแย่งกันเก็บไว้ กว่าทางวัดจะทราบเรื่องก็เหลืออยู่ไม่กี่องค์ ซึ่งเป็นพระพิมพ์เดียวกันกับที่ชาวบ้านละแวกนั้นได้รับพระจากมือหลวงพ่อสุ่นเองไม่ผิดเพี้ยน

    2. พิมพ์บัวฟันปลา แตกกรุเมื่อปี2528 ในคราวรื้อวิหารพระไสยาสน์องค์เล็ก พบตุ่มใบเล็ก ๆ บรรจุพระอยู่ที่ช่วงหมอนรองรับพระเศียรพระไสยาสน์ พบเพียง300กว่าองค์เท่านั้น ทางวัดจึงออกให้บูชานำเงินเข้ามูลนิธิหลวงพ่อสุ่น องค์ละ1,000บาท

    3. พิมพ์มารวิชัย พบอยู่ปนกับพิมพ์บัวฟันปลา พบเพียง30กว่าองค์เท่านั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มกราคม 2013
  16. ๑พรพรต๑

    ๑พรพรต๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +545
    หลวงพ่อเริ่ม วัดคีรีวงการาม หรือ วัดตลิ่งงาม


    ถ้าจะกล่าวไปแล้วในสมันก่อน เกาะสมุยนั้นมีพระที่เก่งกาจอนู่หลายๆ องค์ ไม่ว่าจะเป็นหลวงพ่อพริ้ง หลวงพ่อพร้อม หลวงปู่วัฒน์ หลวงพ่อแดง วัดแหลมสอ และมีอาจารย์องค์หนึ่งที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับของคนสมุยมากองค์หนึ่ง นอกจากที่กล่าวมาแล้ว ก็คือ หลวงพ่อเริ่ม ซึ่งเป็นพระที่มีวาจาสิทธิ์มาก รู้วาระจิต รู้เหตุการณ์ล่วงหน้าหลายๆ เรื่อง หลายๆ อย่าง อย่างตะกรุดโทนพอกผงยาของท่าน ดอกหนึ่งก็หลาย ๆ หมื่น แพงมาก จัดเป็นตะกรุดที่แพงที่สุดของเกาะสมุยเลยก็ว่าได้

    [​IMG]


    พระผงของหลวงพ่อเริ่มพิมพ์นี้ จากการบอกเล่าของหลวงพ่อทอง วัดสำเภาเชยเป็นผู้บอกว่าเป็นของหลวงพ่อเริ่ม วัดตลิ่งงาม ซึ่งท่านเป็นผู้ช่วยหาว่านยาต่าง ๆ เป็นผู้ที่ช่วยกดพิมพ์ ตั้งแต่ครั้งที่ท่านไปขอศึกษาวิชาต่าง ๆ
    หลวงพ่อทองท่านเล่าว่า สมัยก่อนที่หลวงพ่อเริ่มปลุกเสกเหรียญเขี้ยว เหรียญรุ่นแรกของท่าน เหรียญขยีบคล้าย ๆ กับหอยกาบที่อ้าปากปิดปากอย่างใดอย่างใดอย่างนั้น ขยับกรอบแกรบๆ ตัวหลวงพ่อทองท่านเรียกเหรียญรุ่นนี้ว่าเหรียญฝาหอย เพราะว่าท่านเสกเหรียญขยับเขยื้อนเหมือนฝาหอย พระผงรุ่นนี้หลวงพ่อเริ่มท่านตั้งใจทำ ลูกศิษย์ลูกหา ช่วยกันหาผงหามวลสารมาทำกัน บดผงเองทำเองทั้งหมดภายในวัด พระทุกองค์เสกขยับหมดทุกองค์ ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวคล้ายกับมีชีวิต หลวงพ่อทองท่านเคยไปฝึกวิชากับหลวงพ่อเริ่ม ท่านเล่าว่า สมัยก่อนมีศิษย์ของหลวงพ่อเริ่มที่เก่งๆ สามารถไปนั่งภาวนาอยู่บนจอมปลวก เรียกเหล็กไหลเข้าตัว หลวงพ่อทองท่านว่า พวกเหล็กไหลพวกปรอท จะเข่าไปอาศัยไปหลบอยู่ในจอมปลวกเวลามันผ่านมา คนคนนี้ภายหลังเสียจริต เพราะไปทำผิดคำครู แต่เวลาตายเผาอย่างไรก็ไม่ไหม้ หลวงพ่อทองท่านไปเรียนวิชากับหลวงพ่อเริ่มสมัยก่อน ท่านเสกของกินจนกระทั่งมีคนลองวิชาท่าน โดยเอาหน้าไม้กระสุนดิน หันไปง้างยิงทางหลวงพ่อทอง พอง้างปุ๊บคันกระสุนขาด หลวงพ่อทองท่านเลยหัยมาดุว่า ดีนะที่ไม่ใช่ปืน ถ้าเป็นปืนคงจะแตกใส่หน้ายับเยินแล้ว ท่านบอกว่าวิชานี้ท่านเรียนมาจากหลวงพ่อเริ่ม เป็นวิชาที่เสกข้าวกินไว้ในตัว เป็นวิชาอุดทวารทั้ง๙ หลวงพ่อเริ่มท่านเก่งทางมหาอุดคงกระพันมากๆ ของของท่านส่วนใหญ่จะยิงไม่ออกเลย เป็นมหาอุด หลวงพ่อทองท่านเรียนวิชาจากอาจารย์หลายๆองค์ ท่านยกย่องหลวงพ่อเริ่มว่าเป็นพระที่คมในฝัก ไม่อวดอ้าง ไม่คุย แต่เป็นพระที่มีพลังจิตแก่กล้าเก่งมาก ท่านว่าในเกาะสมุยพลังจิตของหลวงพ่อเริ่มไม่เป็นสองรองใครเลย ทั้งการรู้วาระจิต การห้ามลมห้ามฝน ไม่ธรรมดา

    [​IMG]

    พระชุดนี้ถือว่าเป็นพระชุดที่หลวงพ่อสร้างไว้ และจารด้านหลังลายมือของหลวงพ่อเริ่ม ปัจจุบันเป็นที่ทราบที่รู้กันในพื้นที่ คนนอกพื้นที่รู้บ้างไม่มาก ถือว่าเป็นของดีที่คนไม่ค่อยรู้กัน
     
  17. thth

    thth เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    537
    ค่าพลัง:
    +887
    สุดยอดครับ ขอเข้ามาศึกษาด้วยครับ
     
  18. ๑พรพรต๑

    ๑พรพรต๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +545
    อาจารย์ย้ง หรืออาจารย์ประยงค์ วัดบางแคกลาง


    [​IMG]
    [​IMG]

    อาจารย์ย้ง หรืออาจารย์ประยงค์ วัดบางแคกลาง
    อาจารย์ย้ง ท่านเป็นพระที่เรืองอาคมมาก เป็นลูกศิษย์ที่เป็นตัวตายตัวแทนหลวงพ่อไพล วัดบางแคกลางเลยทีเดียว ท่านอยู่ปรนนิบัติรับใช้ เป็นลูกมือคอยช่วยเหลือหลวงพ่อไพลเวลาท่านทำวัตถุมงคลต่าง ๆ ตัวท่านเป็นคนที่มีอาคมขลัง สามารถพิสูจน์ได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นผีเจ้าเข้าสิง ถอนคุณไสยต่าง ๆ อาจารย์ย้งท่านเก่งมาก ยิ่งทางมหาเสน่ห์การทำปลัดขิก ท่านทำได้ไม่เป็นสองรองใครเลยทีเดียว ปลัดขิกของท่าน ไม่ว่าจะเป็นของอาจารย์ไหน ถ้ามาให้อาจารย์ย้งเสกท่านเสกท่านใส่ตัวใส่ตน ใส่ตัวเพชรพญาธรเลย
    เคยมีสมัยก่อนมีคนไปลองท่าน สมัยที่ท่านมีชีวิตอยู่ มีคนมาหาท่าน ท่านสั่งให้นั่งลง ท่านว่าคนที่มาด้วย ดวงไม่ดี ไปทำแท้งมา เค้าก็ไม่ยอมรับ ท่านก็ว่าเค้าไม่ยอมรับไม่เป็นไร แต่มีวิญญาณเด็กตามมาด้วย ท่านเลยแสดงให้ดูว่าวิญญาณนี้มีจริง โดยให้ผู้หญิงคนนั้น นั่งเหยียดขา แล้วท่านก็สั่งให้วิญญาณเด็กที่ตามมานั่งทับขาซ้าย ขาซ้ายยังไงก็ยกไม่ขึ้น นั่งทับขาขวา ขาขวายังไงก็ยกไม่ขึ้น นั่งทับขาทั้งสองข้าง ยกยังไงก็ยกไม่ขึ้น แล้วยังไม่เชื่ออีก ท่านให้ผู้ชายที่มาด้วยมาลองดู ก็เป็นเช่นเดียวกัน ทำอย่างไรก็ขยับไม่ได้ ท่านบอกว่าเป็นวิญญาณผีเด็กที่ติดตามมานั่งทับอยู่ ท่านบอกว่าคนทำแท้งเป็นกรรมหนัก วิญญาณจะติดตามตลอดชีวิต ต้องทำบุญสุนทาน ต้องหมั่นทำบุญตลอด เป็นพ่อเป็นแม่ฆ่าลูกบาปมาก ลูกตัวเองยังฆ่าได้ วิญญาณเค้าไม่อโหสิกรรมให้หรอก จำเป็นต้องทำบุญตลอด
    บางคนมาถามเรื่องปลัดขิกของท่านว่ามันดียังไง ท่านก็จะบอกว่าดี ท่านเสกไว้ดีแล้ว แต่บางคนไม่เชื่อ ท่านก็มีวิธีการลองที่พิเรนเหมือนกัน ท่านจะให้ผู้หญิงที่มาด้วยเนี่ย ให้นั่งอยู่ที่พื้นกระดานนี่แหละ แล้วท่านก็สั่งเพชรพญาธร โดยพูดลอย ๆ ให้ไปล้วงควักแกะเกาของลับของผู้หญิงคนนั้น ผู้หญิงบางคนโดนไปถึงกับกระดานเปียกกันเลย ทีเดียว ต่อหน้าคนเป็นร้อย ๆคน นะท่านยังพูดติดตลกอีกว่า ไอ้ผู้หญิงคนนี้ สงสัยกลับไม่ถึงบ้าน มันคงจะแวะกับผัวมันก่อนแน่ ถูกเพชรพญาธร ล้วงเข้าให้ นี่คือความเด็ดขาดของอาจารย์ย้ง ที่สามารถบังคับตัวเพชรพญาธรที่มีตัวมีตนให้เข้าไปอยู่ในปลัดขิกได้
    อาจารย์ย้งท่านเป็นพระที่พูดจานักเลง พูดจาไม่เพราะ พูดจาทะลึ่ง พูดจาไม่เรียบร้อย คนก็เลยดูว่าท่านไม่ขลัง แต่ท่านขลังจริง ไม่อวด
    เบี้ยแก้ที่ท่านเสก ท่านเสกจนมั่นใจ ท่านได้สร้างไว้จำนวนมาก ท่านบอกว่าคนที่จะเสกเบี้ยได้อย่างท่านอย่างในตำราหลวงพ่อไพล ต่อไปไม่มีแล้ว ที่จะเสกเบี้ยได้อย่างในตำรา ให้ขยับได้เคลื่อนไหวได้ เวลามีคนถามท่านว่าท่านเสกเบี้ยขยับได้หรอ เดินได้หรอท่านไม่ตอบ ท่านบอกว่าเห็นมันเดินมั๊ยล่ะ ท่านถ่อมตน ไม่โอ้อวด ด้วยจิตของท่านเวลามีคนมาให้ช่วยตามหาคนหาย ของหาย ท่านนั่งทางในหาให้ได้หมด แต่เสียดายที่ท่านอายุสั้นไปหน่อย ตำราของท่าน ท่านทำตามตำราของหลวงพ่อไพลทุกอย่าง เพราะสมัยก่อน คนบรรจุมวลสาร อาจารย์ย้งท่านก็เป็นคนบรรจุ เวลาเอาไปเลี่ยม อาจารย์ย้งท่านก็เป็นคนเอาไปเลี่ยม เสร็จแล้วก็เอามาให้หลวงพ่อไพลเสก
    เบี้ยแก้ของอาจารย์ย้ง เป็นของที่ดี กันคุณไสย กันคนคิดร้าย คนที่มีคุณไสยจะอยู่ใกล้ของเบี้ยแก้ของสำนักนี้ไม่ได้ จะเหมือนมีอะไรมาทิ่มแทง จะอยู่ไม่ได้
    [​IMG]
    [​IMG]
     
  19. ICE 007

    ICE 007 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +71
    ขอกราบนมัสการหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตารามครับ
     
  20. ๑พรพรต๑

    ๑พรพรต๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +545
    พระผงบารมีพระบรมธาตุ ๘๔๐๐๐

    พระพิมพ์พุทธกวัก หลังจาร หายาก


    [​IMG]
    อ.ชุม ไชยคีรี ได้ท่องเที่ยวเดินทางไปในจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย ขออนุญาตขุดดินตามกรุต่าง ๆบ้าง ได้พระหักป่นและที่เหลืออยู่ก้นกรุ มาก ๑๐๘ กรุ คำนวณตามชนิดและปาง ได้๑๐๘ ปาง ใช้เวลาประมาณ ๕ เดือน และค่าใช้จ่าย ๑๕.๐๐๐บาท(สมัยปี 2497 ) และได้รวบรวมดอกไม้ที่พระเถรานุเถระขอขมาโทษซึ่งกันและกันตามอารามหลวงและอารามราษฎร์ เฉพาะวัดที่มีชื่อเป็นมงคลในวันเข้าพรรษาวันเดียว ๑๐๘ วัด จากศิษย์ 108คน พ.ต.ท.ขุนพันธรักษ์ราชเดช รองผู้บังคับการตำรวจภูธรภาค๗ รวมผงวิเศษจากพระหักป่นจากกรุต่าง ๆ ที่ศักดิ์สิทธิ์และผงเลขยันต์อิทธิเจ ตรีนิสิงเห นะปัถมัง จากสำนักออาจารย์ผู้เรืองนามในเขตจังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดพัทลุงหลายแห่ง รวมทั้งว่านยา ๑๐๘ชนิด ดินบนยอดภูเขา และน้ำจากสระ ท่า บ่อ บึง บาง ที่มีชื่อเป็นมงคลนาม มอบให้ผสมเป็นเนื้อพระ ได้นิมนต์และเชิญอาจารย์ผู้ทรงคุณซึ่งเป็นอาจารย์ของขุนพันธรักษ์ราชเดช และของอาจารย์ชุม มาเริ่มพิธีปลุกเสก และอาจารย์ชุมได้ทำการปลุกเสกประจำพิธีพร้อมด้วยศิษย์ที่อบรมไว้ดีแล้ว วันละ๙คน อาราธนาพระเถระผู้ใหญ่มีเจ้าคุณภัทรมุขมุนี วัดพระบรมธาตุเป็นประธาน เจริญพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ วันละ ๑๐๘ จบ พาหุง พร้มสวดพุทธาภิเษกและสวดยอดพระกัณฑ์พระไตรปิฎกประจำพิธีทุกวัน


    [​IMG]

    การปลุกเสกแบ่งเป็นตอน ๆ ตอนละ ๗ วัน เช่น เสกคงกระพัน ๗ วัน กันสัตว์ทำร้ายและโรคภัยไข้เจ็บ กันผีปีศาจ ๗ วัน เสกเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ ๗ วัน เสกในทางเนรมิต ทำให้ศัตรูเห็นเราคนเดียวเป็นหลายคน ๗ วัน ทุก ๆ ๗ วัน มีการทดลองตามวิธีการ เพื่อตรวจดูตามวิธีการ จนเป็นที่ประจักษ์คุณวิเศษต่อหน้าประชาชนและศิษย์ ซึ่งกล้ารับรองว่าพระครั้งนี้สามารถกันภัยได้ทุกประการ
    วิธีอาราธนา
    ก่อนนอนหรือก่อนจะนำพระติดตัวไป ให้ตั้งความนอบน้อมระลึกถึงพระบรมธาตุเมืองนครศรีธรรมราช ขอบารมีเป็นที่พึ่ง แล้วว่า
    นะโม ๓ จบ ว่า อิสะว้าสุ สุสะว้าอิ อะสังวิสุโลปะสะ พุภะ ๓ จบ ถ้าเจ็บไข้ได้ป่วยด้วยโรคภัยประการใด ๆ ให้จุดธูปเทียนอาราธนาพระลงในน้ำด้วยคาถาดังกล่าวแล้วประพรมหรือดื่มกิน ถ้าจะให้เป็นมหานิยม มหาเสน่ห์แก่ปวงชน ให้อาราธนาคาถาลงในน้ำมันหอมแล้วใส่ผมหรือเจิมหน้า ห้ามนำพระไปใช้ในทางทุจริตผิดกฎหมายและผิดศีลธรรม ห้ามโอ้อวดหรือทดลองทำเล่น ผู้ไม่มีความเชื่อขออย่าได้นำไปใช้จะเกิดโทษนานาชนิด
    อาจารย์ชุมและขุนพันธรักษ์ราชเดช พร้อมด้วยคณะศิษย์ผู้ดำเนินการสร้างและปลุกเสกได้พร้อมใจกันทำ พร้อมใจกันสร้าง จำนวน๘๔๐๐๐ เพื่อบูชาพระบรมธาตุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กุมภาพันธ์ 2013

แชร์หน้านี้

Loading...