เพจ คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง, 17 กันยายน 2017.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    “… กล่าวโทษตนไว้เป็นปกติ หาความชั่วของตัว อย่าไปหาความชั่วของบุคคลอื่น ถ้าเลวมากเท่าไหร่ เราก็เพ่งเล็งความเลวของบุคคลอื่นมากเท่านั้น …”

    #โอวาทหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง

    67424616_2091272597651139_5279732137954639872_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  2. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ (พระราชพรหมยาน) วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี ได้ตอบปัญหาธรรมและเทศนาเกี่ยวกับ “อานิสงส์สร้างห้องน้ำวัด” ไว้ว่า “…ส้วมนี่อย่าลืมว่าเป็นที่ถ่ายทุกข์ ทุกข์แบบนี้ไม่บรรเทาแก่ใครเลยนะ เคยสังเกตหรือเปล่า พอรถจอดปั๊บแทนที่เขาจะถาม เขาไม่ค่อยถาม เขาถามว่า “ส้วมอยู่ที่ไหน” ใช่ไหม”

    ผู้ถาม : อย่างนี้สร้างส้วมเลยดีกว่าจะได้มีเสน่ห์มาก ๆ
    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ : ดีมากเพราะการสร้างส้วมเป็นเหตุให้บรรเทาทุกข์ ทำให้เขามีความสุข ถ้าเราทำให้เขามีความสุข เราก็มีความสุข ถ้าเราทำให้เขาเดือดร้อน เราก็เดือดร้อน

    “ปูชา ละภะเต ปูชัง วันทนัง ปฏิวันทนัง” “ผู้บูชาย่อมได้รับการบูชาตอบ ผู้ไหว้ย่อมได้รับการไหว้ตอบ” ถ้าเราอยากถูกด่าก็ไม่ยาก เจอะหน้าใครด่า เดี๋ยวก็ได้ด่าตอบ ใช่ไหม ฉะนั้นถ้าเราสร้างส้วมให้เขามีความสุข ตายแล้วเกิดไปเป็นเทวดาหรือพรหมก็ได้รับความสุขคือไม่ต้องปวดอุจจาระปัสสาวะ เพราะได้รับผลของความสุขไงล่ะ

    ผู้ถาม : มีคนพูดว่าถ้าเราได้ทำความสะอาดห้องน้ำห้องส้วมที่วัดจะทำให้การฝึกมโนมยิทธิก็ดี ฝึกแบบเต็มกำลังก็ดี ได้ผลแบบเต็มที่ อันนี้อยากจะเรียนถามหลวงพ่อว่า จะเป็นไปได้ไหมเจ้าคะ ?

    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ : เป็นได้ซิ ถ้าเป็นก็ไปได้ จะทำไม นั่นบุญใหญ่ ส้วมนี่ทุกข์อะไรมันหนักเท่า ทุกข์เข้าส้วม นี่จริง ๆ นะเป็นบุญใหญ่มาก และประการที่ ๒ ล้างส้วมล้างห้องน้ำ ในจิตใจก็ล้างไปด้วย คิดไปด้วยว่า ไอ้สิ่งสกปรกนั้นมันมาจากร่างกายคน ร่างกาย คนมันสกปรกแบบนี้ใช่ไหม ร่างกายเลว ๆ แบบนี้ไม่ต้องการมันอีก ถ้าใช้อารมณ์ อย่างนี้เรื่อย ๆ นะ แม้แต่ครั้งเดียวล้าง ๑๐ ห้อง ถ้าคิดห้องเดียวก็ได้แล้ว”

    **มีปรากฎความในชาดกดังนี้**

    ด้วยอานิสงส์แห่งการถวายสัพทาน สร้างเวจกุฎี (ห้องน้ำ ห้องส้วม) สามารถข้ามพุทธทันดรได้ถึง ๔๐ กัลป ปรากฎความในชาดกดังนี้
    ……ดูกรภิกษุทั้งหลาย ทานของสัปบุรุษเหล่านี้ ๘ อย่าง คือ
    ๑. ให้ของที่สะอาด
    ๒. ให้ของประณีต
    ๓. ให้ถูกกาล
    ๔. ให้ของที่สมควร
    ๕. เลือกให้
    ๖. ให้เสมอ ๆ
    ๗. กำลังให้ยังจิตให้เลื่อมใส
    ๘. ครั้นให้แล้วปลื้มใจ สัปปุริสทาน
    ทานทั้ง ๘ อย่างนี้ประเสริฐยิ่งนักหนา

    ในกาลครั้งนั้น องค์สมเด็จพระพุทธเจ้าก็สถิตสำราญอยู่ในป่าเชตวันอันเป็นอารามของนายอนาถปิณฑิกมหาเศรษฐีอยู่ในที่ใกล้ ๆ นครสาวัตถี ในกาลครั้งนั้นมีพระยาองค์หนึ่ง ชื่อ มหานามะ เอาธูปประทีปคันธรสของหอม แล้วพาหมู่บริวารทั้งหลายเข้าไปสู่ที่เฝ้าพระสัพพัญญูเจ้า แล้วก็นั่งในที่ควรแห่งหนึ่ง จึงทูลถามพระสัพพัญญูเจ้าว่า “ภนฺเต ภควา” ข้าแต่องค์สมเด็จพระพุทธเจ้าบุคคลผู้ใดเลื่อมใสศรัทธา มาก่อสร้างสัพทานหลาย ๆ ชนิด ก็จักมีอานิสงส์อย่างใด พระเจ้าข้า “ภควา”
    อันว่าองค์สมเด็จพระศาสดาจารย์เจ้าจึงเทศนาว่า ดูกรมหาบพิตร นรชนหญิงชายทั้งหลายมีใจเลื่อมใสศรัทธามาก่อสร้างสัพทานหลาย ๆ ชนิดเป็นต้นว่า ผู้ใดได้สร้างเวจกุฏี (ห้องน้ำ ห้องส้วม) ได้อานิสงส์ถึง ๔๐ กัลป
    สัพทานทั้งหลายชนิดเหล่านี้บุคคลผู้ใดมีศรัทธากล้าหาญอาจสละสมบัติออกสร้างวัตถุประสงค์ ดังแสดงมานี้ ก็มีอานิสงส์ผลบุญพูนสุขในชั่วภพนี้และชั่วภพหน้า

    อานิสงส์ที่ได้ปัจจุบันนี้ คือ จะไปมาทางใดก็มีคนนับหน้าถือตาไม่ได้เป็นที่รังเกียจของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง มีแต่ผู้อยากให้ร่วมกินร่วมอยู่ทั้งนั้น เราจะเข้าไปสู่สมาคมใด ๆ ก็ไม่ครั้นคร้ามสยดสยองเกรงกลัวต่ออำนาจผู้ใด การทำมาหากินก็สมความมุ่งมาตรปรารถนาสมประสงค์ ครั้นสิ้นบุพกรรมมนุษย์ในโลกนี้แล้ว ก็จะถือเอาตนเมื่ออุบัติขึ้นบนสวรรค์ชั้นดาวดึงสายามาตุสิตาโดยลำดับ จนถึงพรหมโลก ครั้นจุติจากพรหมโลกลงมาเกิดในมนุษย์โลก ก็ไม่ได้ไปเกิดในหิเนกุลชั่วร้าย และจักได้ไปเกิดในตระกูลท้าวพระยามหากษัตริย์ หรือตระกูลพราหมณ์ผู้มั่งคั่งมั่งมีเศรษฐีกฎุมพีแล้วก็จักได้บารมีแก่กล้า ก็จะได้บ่ายหน้าเข้าสู่เมืองแก้วนิรพาน พอจบธรรมเทศนาแห่งองค์สมเด็จพระพุทธเจ้าลง สมเด็จพระเจ้ามหานามะ ก็ได้ตั้งอยู่ในไตรสรณคมณ์สามส่วนก็ได้ถึงโสดา สกิทาคา อนาคา อรหันต์

    67765919_2092429434202122_4302952804139401216_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  3. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ (พระราชพรหมยาน) วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี ได้ตอบปัญหาะรรมและเทศนาเกี่ยวกับ “…อานิสงส์ทำความสะอาดห้องน้ำห้องส้วม การจัดสถานที่ กวาดสถานที่ในวัด..” ไว้ดังนี้
    ผู้ถาม : “มีคนพูดว่าถ้าเราได้ทำความสะอาดห้องน้ำห้องส้วมที่วัด จะทำให้การฝึกมโนมยิทธิก็ดี ฝึกแบบเต็มกำลังก็ดี ได้ผลแบบเต็มที่ อันนี้อยากจะเรียนถามหลวงพ่อว่า จะเป็นไปได้ไหมเจ้าคะ…?”
    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ : “ เป็นได้ซิ ถ้าเป็นก็ไปได้ จะทำไม นั่นบุญใหญ่ ส้วมนี่ ทุกข์อะไรมันหนักเท่าทุกข์เข้าส้วม นี่จริง ๆ นะเป็นบุญใหญ่มาก และประการที่ ๒ ล้างส้วมล้างห้องน้ำ ในจิตใจก็ล้างไปด้วย คิดไปด้วยว่า ไอ้สิ่งสกปรกนั้นมันมาจากร่างกายคน ร่างกายคนมันสกปรกแบบนี้ใช่ไหม… ร่างกายเลว ๆ แบบนี้ไม่ต้องการมันอีก ถ้าใช้อารมณ์อย่างนี้เรื่อย ๆ นะ แม้แต่ครั้งเดียว ล้าง ๑๐ ห้อง ถ้าคิดห้องเดียวก็ได้แล้ว”

    เรื่องของห้องส้วม ท่านได้สร้างไว้แล้วก็ดี หรือท่านที่ได้ทำความสะอาดแล้วก็ดี คงจะปลื้มใจในผลบุญที่ทำไปแล้ว
    คราวนี้ท่านที่ทำความสะอาดสถานที่หรือท่านที่ถวายไม้กวาดแก่วัดล่ะ จะมีอานิสงส์อย่างไรบ้าง…? หลวงพ่อได้เล่าเรื่องบุคคลตัวอย่างให้ฟังว่า “ตัวอย่างก็คือน้องสาวของพระอนุรุทธ น้องสาวของท่านเป็นโรคเรื้อน เวลาพระพุทธเจ้าไปเทศน์ เธอก็ไม่ออกมาเพราะอาย
    ต่อมาวันหนึ่ง พระอนุรุทธก็ไปถามว่า “พระพุทธเจ้ามา ทำไมจึงไม่ฟังเทศน์”

    เธอตอบว่า “เธอเป็นสาว เป็นโรคเรื้อนก็อาย”

    พระอนุรุทธก็บอกว่า “ถ้าอย่างนั้นหาเวลาทำบุญ ให้ทำแบบนี้ เวลาที่พระไปบิณฑบาต ก็จัดสถานที่ กวาดสถานที่ จัดน้ำใช้น้ำฉันให้พระ”

    เธอก็ทำแบบนั้นทุกวัน ทำไป ๆ ไม่ช้าโรคเรื้อนมันก็หายไปทีละหน่อย ๆ เพราะทำด้วยจิตใจเคารพ ต่อมาก็หาย สามารถมาไหว้พระได้ มาฟังเทศน์ได้

    ต่อมาเธอก็ตาย ตายจากความเป็นคน ไปเกิดเป็นนางฟ้าบนสวรรค์ชั้นดาวดึงสเทวโลก ไปเกิดระหว่างวิมานของเทวดา ๔ องค์ เธอสวยมาก เพราะอานิสงส์กวาดพื้นที่ จัดพื้นที่ เพราะฉะนั้นใครที่ถวายไม้กวาดจะสวยเหมือนกัน อันนี้เรื่องจริงนะ ไม้กวาดทำให้พื้นที่สะอาด อานิสงส์มาสนอง….”

    67321321_2094096674035398_5132806615338057728_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  4. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    1f64f.png บอกบุญนะคะ กองที่2ค่ะยังต้องการเจ้าภาพอีก30ซอง
    1f607.png ขอเชิญญาติธรรมทุกท่านร่วมบุญเป็นเจ้าภาพกฐินสามัคคีวัดหน้าต่างนอก จ.พระนครศรีอยุธยาเพื่อสมทบทุนสร้างอนุสรณ์สถานหลวงพ่อจง พุทธสโร ขนาดหน้าตัก 227 นิ้วซึ่งกำลังดำเนินการก่อสร้างอยู่ ณ ขณะนี้
    1f449.png งานกฐินตรงกับวันที่10พฤศจิกายน2562
    1f607.png งานนี้ฝนรับมา1กอง50ซองค่ะ
    2728.png ร่วมบุญซองละ100บาทรับเหรียญท้าวเวสสุวรรณ1เหรียญค่ะ(ท่านใดรับมีค่าจัดส่ง50บาท)
    หรือเชิญร่วมบุญได้ตามกำลังค่ะ
    1f4f2.png โอนร่วมบุญได้ที่ธ.ไทยพาณิชย์406-337594-3
    น้ำฝน บุญสิงห์
    จะปิดรับเมื่อมีเจ้าภาพครบค่ะ

    67948216_2095059440605788_5487335536894935040_n.jpg
    67517097_2095059503939115_9029532058183008256_n.jpg
    67628224_2095059580605774_3319882751984795648_n.jpg
    67381410_2095059683939097_2871084404996833280_n.jpg
    67429279_2095059740605758_7333705916899917824_n.jpg
    67613514_2095059797272419_4952458430318116864_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  5. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    “อานิสงส์การทอดกฐิน บุญกุศลมากกว่า การทอดผ้าป่า เพราะเหตุแห่งเวลา” หลวงพ่อฤษีลิงดำบอกแนะย้ำไว้ชัดเจน
    “อานิสงส์การทอดกฐิน บุญกุศลมากกว่า การทอดผ้าป่า เพราะเหตุแห่งเวลา” หลวงพ่อฤษีลิงดำบอกแนะย้ำไว้ชัดเจน

    ได้มีลูกศิษย์ท่านหนึ่งได้กราบเรียนถามกับหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ ว่า

    “หลวงพ่อขอรับ การทอดผ้าป่ากับการทอดกฐินนั้น มี อนิสงส์แตกต่างอย่างไรบ้างขอรับ”

    การทอดผ้าป่ากับการทอดกฐินนั้นมี 2 แบบนะ คุณโยมถามว่า การทอดผ้าป่ากับการทอดกฐิน อย่างไหนได้ อนิสงส์มากน้อยกว่ากัน ใช่ไหม
    “ใช่ ขอรับ”
    ความจริงผ้าป่ากับผ้ากฐิน เป็นสังฆทานด้วยกันทั้งคู่แต่ว่า อนิสงส์โดยเฉพาะ กฐินได้มากกว่า เพราะว่ากฐินมีเวลาจำกัด จะต้องทอดตั้งแต่แรม 1 ค่ำ เดือน 11 ถึงกลางเดือน 12 แต่ อนิสงส์ได้ทั้งสองฝ่าย คือผู้ทอดก็ได้ พระผู้รับก็ได้พระผู้รับมีอำนาจคุ้มครองพระวินัย ได้หลายสิกขาบททำให้สบายขึ้น
    การทอดกฐินครั้งหนึ่ง พระพุทธเจ้าท่านเคยเทศน์ คือ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพระนามว่า”ปทุมมุตตระ” ท่านเคยเทศน์วาระหนึ่ง สมัยที่พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันเป็น”มหาทุกขตะ” ท่านกล่าวว่า การทอดกฐินครั้งหนึ่ง จะปรารถนาพุทธภูมิก็ได้ จะปรารถนาเป็นอคัรสาวกก็ได้ จะปรารถนาเป็นพระอรหันต์ก็ได้ จะปรารถนาเป็นอรหันต์ก็ได้ และจะเข้านิพพานก็ได้ แต่ถ้าหากว่ายังไม่ถึงพระนิพานเพียงใด อานิสงส์กฐินจะให้ผลแก่ท่าผู้นั้น คือ จะเป็นเทวดา 500 ชาติ พอพ้นจากเทวดา 500 ชาติ จะเป็นมหาเศรษฐี 500 ชาติ เลื่อนลงมาเป็นอนุเศรษฐี 500ชาติ พ้นจากอนุเศรษฐี 500 ชาติ ลงมาเป็นคหบดี 500 ชาติ

    แต่ไม่ถึงนะ ไปนิพานก่อน นี่อานิสงส์ของกฐิน หลวงพ่อฤๅษีลิงดำอธิบายต่อว่า

    ผ้าป่าก็เป็นสังฆทาน แต่อานิสงส์จะน้อยไปนิดหนึ่ง แต่ทั้งสองอย่างก็เป็นสังฆทานเหมือนกัน แต่เป็นสังฆทานเฉพาะกิจ กับสังฆทานไม่เฉพาะกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ้าป่า ผู้ให้ก็ได้อานิสงส์ ผู้รับมีอานิสงส์แต่เพียงแค่ใช้ เป็นอันว่าทั้งสองอย่างนี้ ถือว่าอานิสงส์การทอดกฐินมากกว่าผ้าป่า

    แต่ว่าการทอดกฐินปีหนึ่งครั้งเดียว ผ้าป่าทอดได้หลายครั้ง อานิสงส์กฐินย่อมได้มากกว่านะ ใช่ไหม

    “หลวงพ่อขอรับ องค์กฐินที่แท้จริงเป็นอย่างไร ขอรับ”

    องค์กฐินแบบเขียวหรือแบบเหลือง โยม

    “แบบจริงๆ ขอรับ”

    ถ้าแบบจริงๆแบบเขียวละก็ใบกระถิน ถ้าแบบเหลืองละก็ผ้าไตร

    องค์กฐินจริงๆคือผ้าไตร นอกนั้นเป็นบริวาร เวลากรานกฐินจริงๆ เรากรานกันแต่ผ้า ไม่ได้กรานกฐินด้วย แต่นอกนั้นถือว่าเป็นบริวารของกฐิน

    “หลวงพ่อขอรับ ถ้าอย่างนั้นเราก็ทอดแต่ผ้าอย่างเดียวก็ได้ใช่ไหม ขอรับ”

    ถ้าโยมจะทอดแต่ผ้าอย่างเดียว ต้องระมัดระวังนะ ชาติหน้ามีผ้ามาก แต่ไม่มีข้าวกินนะ

    มีนุ่งแต่ผ้า สตางค์ไม่มีใช้ แต่งตัวโก้ๆ มันก็ลำบากนี่พระไม่ได้หวังได้ แต่อยากให้โยมได้ดี.

    ที่มา : หนังสือธรรมปฎิบัติ เล่มที่ 42 “รวมธรรมเทศนาของหลวงพ่อพระราชพรหมยาน(หลวงพษีลิงดำ)

    67652631_2095117770599955_4613677599057510400_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  6. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
  7. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    #ความเป็นมาของคาถาเงินล้าน

    หลวงพ่อ :- “ก่อนที่มาอยู่วัดท่าซุงนะ ฉันอยู่กระต๊อบ เงินร้อยก็หายากสำหรับคนทำบุญ คาถาวิระทะโย ก็ทำเรื่อยๆ ไป ต่อมาท่านก็มาหา ก็บอกว่าคาถาบทนี้นะ ที่เขาทำพระวัดพนัญเชิญองค์แรก มีเจ้าอาวาสองค์แรก ท่านไปนั่งกรรมฐานและเสกด้วยคาถาบทนี้ ๓ ปี ท่านให้ดูตัวอย่างวัดพนัญเชิง เงินขาดไหม…ฉันก็ทำมาเรื่อย

    มาอีกปีหนึ่งกำลังบวงสรวง ท่านบอกว่า คาถาบทนี้ เป็นคาถาเงินแสนนะ ก็ใช้คาถาบทนั้นมาประมาณครึ่งปี คนมาทอดกฐินผ้าป่าได้เงินเป็นแสน นี่เห็นชัดนะ

    แล้วต่อมาอีกปีหนึ่ง ท่านบอกว่า คาถาบทนี้ เป็นคาถาเงินล้านนะ ให้ว่าต่อเนื่องกันไป แล้วไปลง คาถาวิระทะโย ต่อมาก็จริงๆ เพราะปี ๒๕๒๗ ก็ใช้เงิน เดือนเป็นล้าน ซึ่งไอ้อย่างนี้เราก็คิดไม่ออก ต้องค่อยๆ ใจเย็นๆ

    เวลาว่าไป อย่าไปว่าหวังเอาลาภ คือต้องภาวนาด้วยนะ ถ้าทางที่ดีเวลาภาวนากรรมฐาน พอจิตสบายน่ะต่อเลย เพราะเวลากรรมฐานนี่จิตเป็นฌาน ใช่ไหม… เอาอย่างนี้ดีกว่า เวลาฝึกมโนมยิทธิออกไปให้ได้นั้น ออกไปเดี๋ยวเดียวก็ได้ ออกไปได้นี่จิตเป็นฌาน ๔ เข้าเขตพระนิพพานได้ จิตสะอาดถึงที่สุด กลับลงมาต่อด้วยคาถาบทนี้เลย มากน้อยก็ช่าง ให้หลับไปเลย คือถ้าจิตสะอาดมากผลก็เกิดเร็ว

    ก็สงสัยเหมือนกันนะ เมื่อปี ๒๕๒๖ ท่านบอกว่า ปี ๒๕๒๗ มีอะไรบ้างก็ตุนๆ ไว้บ้างนะ ปี ๒๕๒๘ จะเครียดมาก การค้าของใครถ้าทรงตัวได้ก็ถือว่าดีไว้ก่อน อันนี้ท่านบอกว่า ถ้าลูกเราจะจนก็จนไม่เท่าเขา”

    #หลวงพ่อใช้ได้ผลมาแล้ว

    หลวงพ่อ :- “ถ้าพูดถึงผล…หลวงพ่อก็นั่งดูเรื่อยๆ มาว่า เอ๊ะ ! เงินแสนมันจะมีมาได้อย่างไร ภายในปีนั้นปรากฎว่า สมัยนั้นวัดต่างๆ เขายังไม่ถึงหมื่นเลย แล้วต่อมาคาถาเงินล้านก็ต้องว่าต่อ เพราะต่อไปข้างหน้าต้องใช้เงิน

    พระพุทธเจ้าบอกนี่ต้องเชื่อ ต้องใจเย็นๆ ไม่ใช่ไปเร่งรัด ถ้าว่าไปแล้ว คิดว่าเราต้องรวยนี่เสร็จ…พัง ต้องว่าด้วยจิตเคารพ นานหลายปีท่านไม่ยอมเปิดกับใคร ก่อนจะเข้าถึงดีมันจะต้องเครียด ปี ๒๕๒๘ ความจริงมันน่าจะดี แต่ไปๆ มาๆ ก็มีจุดสะดุด จุดสะดุดนี่เป็นชะตาของชาติ แต่ยังไงๆ ก็ต้องไปเจอะ จุดรวยแน่

    ถ้าพวกนี้รวยนะ วัดท่าซุงไม่เป็นไร คือว่าหนี้นี่น่ะ อย่าคิดว่ามันโล๊ะกันได้ เมื่อปี ๒๕๓๐ นะ มันเกินค่าใช้จ่าย เดือนละ ๒ ล้านเศษ อันนี้ต้องคิด เดือนนี้ตกเกือบ ๓ ล้าน คือ ๒ ล้าน ๙ แสนเศษ

    ตอนนี้ท่านให้ฉันเขียนโครงการที่จะทำให้เสร็จในปี ๒๕๓๐โครงการของท่านจริงๆ มีมาก ท่านย่าก็เคยบอก ท่านบอกว่า “ท่านไม่บอกคุณตรงๆ หรอก ท่านรู้ใจคุณ ถ้าบอกโครงการทั้งหมด คุณไม่ทำแน่”

    พระพุทธเจ้าก็รู้คอนะว่าลิงซะอย่าง ไปๆ มาๆ ท่านให้นั่งเขียนตามนี้นะ ๑๒ รายการ ให้เสร็จภายใน ๒๕๓๐ เลยคิดว่าเงินที่ต้องใช้ ต้องเป็นพ้อมๆ รายการมากนะลูก ถ้าหากจะถามว่า ๑๐ ล้านพอไหม…ก็ต้องบอกว่ามันไม่ได้ครึ่งหลังที่ท่านสั่งทำหรอก”

    #เหตุที่จะได้คาถาบทนี้

    หลวงพ่อ :- “วันนั้นก็ขึ้นไปที่กระต๊อบฉัน ไปถึงกระต๊อบก็ปรากฎว่า สมเด็จองค์ปัจจุบันท่านประทับอยู่ที่นั่น และท่านพระเจ้าแม่ให้นามว่า “มัทรี” หรือ “พิมพา” ไปที่อเมริกา ท่านบอก “ฉันเคยเป็นแม่คุณเหมือนกัน” ถามว่าชื่ออะไร…”ชื่อมัทรี” แล้วคุมมาตั้งแต่อเมริกา เวลานี้ก็ยังคุมอยู่

    ก็ไปกราบเรียนถามท่านว่า คำสั่งที่สั่งให้มันเกินวิสัย แค่อาคาร ๓๐๐ ห้อง จาก พ.ศ.นี้ไปจนถึง ๒๕๓๐ มันก็เสร็จยากเหลือเกิน และอีกหลายรายการมันก็ใหญ่ทั้งนั้น ท่านแม่มัทรีก็บอกว่า “เอาอย่างนี้ซิลูก ขออำนาจพระพุทธานุภาพ”

    ก็เลยหันไปกราบพระพุทธเจ้า ท่านบอกว่า “ได้ ฉันต้องช่วยเธอ”

    แล้วต่อมาเดินเล่นในบริเวณกระต๊อบของฉัน เล็กๆ มันมีถนนหนทางใช่ไหม…ก็ปรากฎว่าเดินไปเดินมา สมเด็จองค์ปฐมก็เสด็จมาเดินด้วย ท่านบอกว่า

    “สภาพของพระนิพพานมันเป็นอย่างนี้นะ คนที่ถึงพระนิพพานแล้ว กิจอื่นที่ทำไม่มี มันเป็นอย่างนี้นะ เวลานี้เราเดินกลางบริเวณพวกเราทั้งหมด ลองนั่งดูสิ มันจะมีอะไรไหม”

    ที่มันเป็นที่นั่งไม่มีเลย พอนั่งปุ๊บ ไอ้เตียงตั่งมันเสือกมาได้อย่างไรก็ไม่รู้ เลยคุยไปคุยมา ท่านก็เลยบอกว่า “งานที่ฉันสั่งต้องเสร็จทัน ๓๐”

    ท่านย่ากับแม่ศรีก็ขึ้นไป ท่านย่าบอกว่า อำนาจพุทธานุภาพก็มีแล้ว สังฆานุภาพก็มีแล้ว พรหมานุภาพกับเทวานุภาพก็ช่วยแล้ว แต่ว่าถ้าบรรดาลูกหลานมันยากจน และปี ๒๕๒๘ มันจะเครียด ขอพรพระพุทธเจ้า ขอคาถาสักบท (ที่ท่านให้ฉันไว้นี่) ขอให้ลูกๆ หลานๆ ใช้เถอะ แล้วท่านก็ให้…อนุมัติ

    ความจริงคาถาเฉพาะนี่จะให้ใครไม่ได้เลย ท่านก็เลยบอกว่า

    “ถ้าอย่างนั้นไปพิมพ์แจก และก็ให้มันทำด้วยความเคารพ”

    “ฉันไม่ยืนยันว่าคนที่ไม่เคารพฉัน จะมีผล จำให้ดีนะ”

    จึงขอให้ทุกคน ถ้าได้รับคาถานี้ ให้ตั้งใจปฏิบัติ ด้วยความจริงใจ ด้วยความเคารพในพระพุทธเจ้า

    ต่อไปนี้ก็จะอ่านคาถา ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประธาน และให้ทุกคนตั้งใจนึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คิดว่าคาถาทั้งหมดนี้ จงปรากฎอยู่ในจิตของเรา ลาภผลต่างๆ ให้ปรากฎแก่เรา ตามที่พระองค์ต้องการนะ…นึกถึงท่านนะ…”

    #บทคาถาเงินล้าน

    นาสังสิโม
    พรหมา จะ มหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ
    พรหมา จะ มหาเทวา อภิลาภา ภะวันตุ เม
    มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุ เม
    มิเตพาหุหะติ
    พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง
    วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ
    มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม
    สัมปะติจฉามิ
    เพ็ง ๆ พา ๆ หา ๆ ฤา ๆ

    บทแรก พรหมา จะ มหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ อันนี้ “ตัดอุปสรรคที่ลาภจะมา” แม่เขามาบอกว่ามีผลแน่นอน คือว่าแกจะไม่ยอมให้ลูกแกจน พูดง่ายๆ ก็แล้วกัน พระพุทธเจ้าก็ทรงยืนยัน บอกว่าให้ได้หมด

    บทที่สอง พรหมา จะ มหาเทวา อภิลาภา ภะวันตุ เม คาถาบทนี้เป็น “คาถาเงินแสน” ของท่าน

    บทที่สาม มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุ เม บทนี้เป็น “คาถาปลุกพระวัดพนัญเชิญ”

    บทที่สี่ มิเตพาหุหะติ เป็น “คาถาเงินล้าน”

    บทที่ห้า พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม เป็น “คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า”

    บทที่หก สัมปติจฉามิ บทนี้เป็น “บทเร่งรัด” บทสุดท้าย

    (ต่อมาหลวงพ่อแนะนำให้เติม นาสังสิโม ข้างหน้า “พรหมา”
    ต่อมาท่านให้เติม เพ็ง ๆ พา ๆ หา ๆ ฤา ๆ ต่อจาก “สัมปติจฉามิ” เพราะมีผู้นำไปใช้แล้วได้ผลดีมาก ทั้งหมดนี้ต้องสวดเป็นบทเดียวกัน บูชาเรื่อยๆ ไป)

    #วิธีใช้คาถาบทนี้

    หลวงพ่อ :- “การบูชา ถ้าบูชาเฉยๆ มันเป็นเบี้ยต่อไส้ อย่าลืมนะ เวลาสวดมนต์แล้วให้ สวดคาถานี้ ๙ จบ เท่าเดิมนะ และเวลาภาวนา นอนภาวนาก็ได้ ว่าเรื่อยๆ ไป จนกระทั่งหลับไปเลย ตื่นขึ้นมาต่อจากกรรมฐานนอนก็ได้ ใจสบายๆ นะ บางทีเผลอๆ ฉันก็ต้องว่าของฉันเรื่อยๆ ไป

    คาถาเงินล้านนี่มาให้เมื่อปีฝังลูกนิมิต (ปี ๒๕๒๐) ท่านบอกว่า งานข้างหน้าจะหนักมาก หลังจากนี้เป็นต้นไป เงินจะใช้มากกว่าสมัยที่สร้างโบสถ์

    อย่าลืมนะ เวลาว่างๆ นั่งนึกก็ได้ เดินไปก็ได้ ไม่ห้ามเลยนะ ให้มันติดใจอยู่อย่างนั้น ให้ถือว่าเป็นกรรมฐานไปในตัวเสร็จ เพราะคาถาที่พระพุทธเจ้าบอกทุกบท ก่อนจะทำต้องนึกถึงท่าน ถือว่าเป็น พุทธานุสสติกรรมฐาน

    สำหรับวันนี้ ขอให้ตั้งใจรับพรนะ ขอให้พรคนที่นี่ทั้งหมด คนที่อยู่บ้านทั้งหมด คนที่ยังไม่เกิดทั้งหมด ที่มีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา และถ้าเป็นเครือที่เป็นเผ่าพันธุ์มาแล้ว ตั้งแต่อดีต ขอให้มีผลตามพุทธประสงค์ทุกคน

    ปีนี้เป็นปีที่เครียดที่สุด ในเรื่องฐานะของบุคคล แต่พวกเราจะเครียดตามเขาไม่ได้ แต่ถ้าหากทุกคนเครียด ยากจน วัดท่าซุงมันไม่เสร็จ ยังไงๆ ก็ให้มันไม่เครียดไว้ สวัสดี”

    #ภาวนาคาถาขณะทำงาน

    ผู้ถาม :- “ขณะที่ลูกใช้สมองในการคำนวณ ในการทำงานไป แล้วก็ภาวนาคาถาเงินล้านไปด้วย อย่างนี้จะมีผลหรือไม่เจ้าคะ…?”

    หลวงพ่อ :- “โอ…ดีมาก อันนี้ต้องดีมากเชียวนะ ทำไปเรื่อยๆนะ ภาวนาคาถาเงินล้านขณะทำงาน หรือเลิกงาน ภาวนาแล้วก็ดี อย่างนี้ดีจิตเป็นฌาน ทรัพย์สินจะคล่องตัว”

    #สวดคาถาแล้วตัวสั่น

    ผู้ถาม :- “มีคนหนึ่งเขาบอกว่า หลังจากบูชาพระนั่งกรรมฐานเสร็จแล้ว ก็ต่อด้วยคาถาเงินล้านของหลวงพ่อ ว่าไปสักครู่หนึ่งปรากฎว่า กายสั่น มือสั่น ใจสั่น เหมือนกับอาการจะปลุกพระอย่างนั้นแหละ จึงเรียนถามหลวงพ่อว่า เป็นเพราะเหตุไร ต่อไปจะสั่นต่อไปได้หรือไม่ครับ…?”

    หลวงพ่อ :- “จะเอาสั่นต่อหรือ…อย่าลืมนะ ถ้าไอ้ใจสั่นนี่มันผิดปกติ คือใจสั่นนี่คงจะภาวนาเร็วเกินไปหรือไม่เข้าใจ ถ้าตัวสั่นนี่เป็น อุเพงคาปีติ ดีนะ แต่ควรจะคุมอย่าให้ใจสั่น ใช่ไหม…จะสั่นหรือไม่สั่น ถ้าจิตมีกำลังสมาธิถึงนั่น มันก็สั่น ถ้าเลยไปแล้วเป็นภาวนาปกติ มันก็ไม่สั่น ถ้าต่ำลงมา มันก็ไม่สั่น และเวลาที่ว่าคาถา ไม่ควรจะคิดว่าจะสั่นหรือไม่สั่น เอาแค่จิตเป็นสุข ค่อยๆ ว่า สบายๆ ดีกว่า ทำอย่างนี้ถูกต้องนะ”

    #ภาวนาคาถาเงินล้านถูกหวย

    ผู้ถาม :- “ภาวนาคาถาเงินล้าน แล้วขอบารมีทุกๆ พระองค์ ที่เป็นเจ้าของคาถา หยิบหวยรัฐบาลปรากฎว่าถูกรางวัลที่ ๕ สองใบ การที่อาราธนาเจ้าของคาถาเอามาซื้อหวยรัฐบาล จะเป็นบาปหรือไม่ เพราะมันเป็นการพนันนิดๆ”

    หลวงพ่อ :- “ไม่เป็นบาป เขาไม่ถือว่าเป็นการพนัน อย่างที่เขาจับกันนี่ การพนันประเภทนี้ตำรวจเขาไม่ได้จับ ไม่ผิดกฎหมาย ไม่มีอะไรเป็นบาปนะ แล้วเราก็ไม่ได้บังคับ ว่าเลขที่ฉันซื้อจะต้องออก เราเขียนเองออกเอง ไม่ใช่อย่างนั้นนะ เพราะคนหมุนกับเราคนละคนกัน ถือว่าเป็นโชคดีดีกว่า”

    #เงินในบาตรวิระทะโย

    ผู้ถาม :- “หลวงพ่อเจ้าขา ดิฉันใส่บาตรวิระทะโย มันเกือบจะเต็ม ๓๐๐ ก็เพิ่มให้เต็ม ๓๐๐ บาทพอดี นำมาเปลี่ยนเป็นถวายสังฆทานชุดใหญ่ อย่างนี้จะผิดหรือไม่เจ้าค่ะ…?”

    หลวงพ่อ :- “ไม่ผิด เพราะวิระทะโยเป็นเงินสังฆทานอยู่แล้ว ที่นี้ถ้าหากตั้งใจถวายเป็นของสงฆ์ เรายังไม่ถวายจริงนี่ ตอนนั้นมาเปลี่ยนเป็นสังฆทาน จิตใจมั่นคงยิ่งขึ้น ตอนนี้ไม่เป็นไร เอ…พูดแบบนี้วัดจะขาดทุนหรือเปล่านะ ไม่ควรจะถามข้อนี้เลย ไม่เป็นไร..ไม่ใช่ขโมยของสงฆ์ คือว่าทำใจให้มั่นคงยิ่งขึ้น

    แต่เนื้อแท้จริงๆ เงินวิระทะโยนี่ ให้ไปก็เป็นสังฆทานตรง และก็เป็นวิหารทานด้วย ฉันใช้ ๓ อย่าง สังฆทาน คืออาหารและกระแสไฟฟ้า วิหารทาน ก่อสร้างด้วย ญาติโยมจะได้มีบุญมากขึ้น ธรรมทาน พล่องก็ช่วยและก็ได้ปัญญา

    สังฆทาน ได้ร่างกายเป็นทิพย์
    วิหารทาน ได้วิมานเป็นทิพย์
    ธรรมทาน ได้ปัญญาเป็นทิพย์”

    ผู้ถาม :- “โอ…ได้มากนะ”

    หลวงพ่อ :- “ถ้าใส่ปี๊บมากกว่านี้อีก แต่ต้องให้เต็มปี๊บนะ ไม่ใช่ปี๊บละบาท”

    ผู้ถาม :- “แล้วสตางค์ที่ใส่บาตรวิระโยเต็มแล้ว แลกมาเป็นแบงค์ถวายหลวงพ่อจะได้ไหมครับ…?”

    หลวงพ่อ :- “ได้…ไม่ต้องแบกมาให้หนัก”

    หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม ๔ หน้า ๑๘-๒๖
    พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง)

    68367441_2100930933351972_8619735398676955136_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  8. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    1f64f.png หลวงพ่อฤาษีลิงดำ (พระราชพรหมยาน) วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี ได้ตอบปัญหาธรรมเกี่ยวกับ “คนที่มีนิสัยชอบอิจฉาผู้อื่น จะมีผลเสียต่อเขาเองอย่างไรบ้าง และสามารถแก้ไขนิสัยนี้ได้อย่างไรบ้าง ?” ไว้ว่า 2728.png คุณโยมก็ต้องดูให้ถึงต้นตอเสียก่อนว่านิสัยของคนที่ชอบอิจฉาตาร้อน หรือว่าไม่อยากให้ใครได้ดีเกินกว่าตัวเองนั้น เกิดขึ้นได้อย่างไร นิสัยอิจฉาริษยานี้ จะเกิดขึ้นกับคนที่มีความดีในตัวน้อยกว่าคนอื่น
    เพราะถ้าหากมีคุณงามความดีอยู่ในตัวมากกว่าคนอื่น เขาคงไม่มีความจำเป็นต้องไปอิจฉาตาร้อนใคร เนื่องจากมีคุณงามความดี มีความรู้ มีความสามารถน้อยกว่าคนอื่น แล้วอยากจะให้ได้ดีเท่ากับเขา หรืออยากจะให้ดียิ่งกว่าเขา แต่แทนที่จะคิดแก้ไขตัวเอง กลับไปคิดในทางผิดๆ ในทางร้ายๆ คือ แทนที่จะยกตัวเองขึ้นมาด้วยการทำความดีให้ยิ่งขึ้นไป กลายเป็นว่าความดีก็ไม่ทำ แถมยังคิดจะเหยียบคนอื่นลงไปด้วยฤทธิ์แห่งความเข้าใจผิด จนกลายเป็นความอิจฉาริษยา ไม่อยากให้ใครได้ดีเสียอีก
    เมื่อเรารู้แล้วว่าต้นเหตุแห่งความอิจฉาริษยานั้นมาจากความที่ตัวเองมีคุณงามความดีน้อย ก็สะท้อนให้เห็นว่า ถ้าอย่างนั้นในใจของคนที่ชอบอิจฉาริษยา ก็คงจะมีแต่ความเศร้าหมอง คิดที่จะสร้างสรรค์อะไรกับใครเขาไม่เป็น คิดออกแต่ในเรื่องที่จะทำลายทำร้ายคนอื่นอยู่ร่ำไป เช่น คิดจะทำลายทรัพย์สินเงินทอง คิดจะทำลายเกียรติยศชื่อเสียง คิดจะทำร้ายคนอื่นให้เจ็บทั้งกาย เจ็บทั้งใจ คิดวนๆ เวียนๆ อยู่อย่างนี้

    เพราะฉะนั้น คนที่มีนิสัยชอบอิจฉาริษยาจึงเป็นคนที่ใจเศร้าหมองทั้งวัน เมื่อมีใจเศร้าหมองอย่างนี้ แม้คำพูดก็เป็นคำพูดที่ชวนให้เศร้าหมอง คือ มีแต่เรื่องร้ายๆ ออกจากปาก ไม่มีคำพูดที่เป็นภาษา ดอกไม้ มีแต่พ่นพิษพรวดๆ ออกมา

    เมื่อเป็นอย่างนี้หนักๆ เข้า ก็จะเลยไปจนกระทั่งถึงการกระทำทางร่างกาย ทำให้แสดงอาการร้ายๆ ออกมา ตั้งแต่การกระทบกระแทกแดกดัน ทำอะไรโครมคราม หรือมีอาการหน้านิ่วคิ้วขมวดใส่กัน เป็นต้น

    คนที่มีนิสัยชอบอิจฉาริษยาผู้อื่น หรือคนที่มีบุญน้อย แล้วไม่คิดจะทำบุญเพิ่มเติม แต่กลับไปคิดทำร้ายคนอื่น จึงมีอาการเช่นนี้

    เมื่อความดีเก่ามีอยู่น้อยจนทำให้สู้ใครเขาไม่ได้ แล้วความดีใหม่ก็ไม่คิดจะทำเพิ่ม ตรงกันข้ามมีแต่จะเพิ่มความร้ายกาจ เพิ่มความบาปเข้าไปทุกวันๆ ซึ่งก็เท่ากับเป็นการเผาผลาญ เป็นการทำลายล้างตัวเองไปทุกวันๆ นั่นเอง นี่คือผลเสียต่อตัวเองของความที่เป็นคนขี้อิจฉาริษยา

    เพราะฉะนั้น พวกเราอย่าได้เป็นเข้าทีเดียว ถ้าครั้งใดใจคิดแวบไป ชักเริ่มจะอิจฉาชาวบ้านที่เขาดังกว่าเรา เด่นกว่าเรา ดีกว่าเราขึ้นมาละก็ รีบติดเบรกเสียนะ โดยเตือนตัวเองว่า ” ที่เรายังตกต่ำอยู่อย่างนี้ เพราะว่าชาติที่แล้ว รวมทั้งชาตินี้ด้วย เราสั่งสมคุณงามความดีมาน้อยไป ”
    เตือนตัวเองได้อย่างนี้ หนทางที่จะแก้ไขให้ดีก็มีมากขึ้น เพราะจับทิศทางถูกว่า เมื่อเรามีบุญน้อย ก็ต้องหาวิธีเติมบุญ คือ ในเรื่องของการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นงานในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมาจากหมู่คณะ หรือจากครอบครัว จากงานเลี้ยงชีวิตเราเองก็ตาม นอกจากทำให้สุดฝีมือแล้ว ยังต้องปรับปรุงให้ดียิ่งๆ ขึ้นไปอีกด้วย

    แต่ในกรณีที่ถึงจะปรับปรุงอย่างไรก็ยังสู้ไม่ได้ อยู่นั่นเอง อย่างนี้ต้องรีบเข้าไปกราบขอความรู้จากเขา ซึ่งจะทำให้เราย่นระยะเวลาทั้งในการปรับปรุงฝีมือและเวลาที่ไม่ต้องไปตกนรกได้ตั้งเยอะ

    จากนั้นก็หันหน้าเข้าหาวัดมาศึกษาธรรมะ ปฏิบัติธรรมให้ยิ่งๆ ขึ้นไป ก่อนหน้านี้ไม่เคยทำบุญ ทำทาน ไม่เคยรักษาศีล ไม่เคยนั่งสมาธิ ต่อแต่นี้รีบไปทำกันด้วยการศึกษาจากหลวงปู่ หลวงพ่อ ว่าทำสิ่งเหล่านี้แล้วดีอย่างไร เช่น การทำทานมีผลทำให้รวย การรักษาศีลมีผลทำให้สวย การเจริญสมาธิภาวนามีผลทำให้เฉลียวฉลาด มีสติปัญญา พอจับหลักตรงนี้ได้ ถ้าอยากจะเพิ่มเติมความรู้อะไรเป็นรายละเอียดให้ยิ่งขึ้นไป ก็ค่อยๆ ศึกษาจากหลวงปู่ หลวงพ่อท่าน

    ยกตัวอย่างเรามีอะไรต่ออะไรพร้อมแล้วแต่ที่ไปอิจฉาเขานั้น เพราะว่าเราไม่มีบริวาร เวลาไปไหนมาไหน ทั้งๆ ที่ รวยก็แสนรวย สวยก็แสนสวย แต่ว่าใครๆ ก็ไม่รัก แล้วแทนที่จะถามว่าทำไมใครๆ ถึงไม่รักเรา กลับเที่ยวไปโกรธไปเคืองเขา หรือว่าเที่ยวไปอิจฉา คนที่มีคนรักเต็มบ้านเต็มเมือง ต้องมองและตั้งคำถามใหม่ให้เป็น คือ แทนที่จะตั้งคำถามว่าทำไม เขาไม่รักเรา ก็ตั้งคำถามเสียใหม่ว่าเราไม่น่ารักตรงไหน แล้วเริ่มสำรวจตรวจสอบตัวเอง

    ถ้าหาไม่เจอจริงๆ ไปถามหลวงปู่ หลวงพ่อ ท่านดูก็ได้ แล้วเราจะได้รู้ว่าวิชาเจ้าเสน่ห์ ซึ่ง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงให้ไว้นั้น มีอยู่ ๔ ข้อ ด้วยกัน คือ

    ๑. หมั่นให้ทาน คำว่า “ทาน” ในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงการตักบาตรกับพระภิกษุสามเณร ทานในที่นี้ หมายถึง มีอะไรก็ปันกันกิน ปันกันใช้ รวมทั้งปันกันดังด้วย

    ๒. ปิยวาจา เวลาพูดจากับใครก็พูดด้วยถ้อยคำที่ไพเราะ เพราะสิ่งที่จะให้กำลังใจคนได้ดีนั้น ไม่มีอะไรเกินคำพูดที่เพราะๆ ในทำนองเดียวกันสิ่งที่จะทอนกำลังใจคน ก็ไม่มีอะไรเกินคำพูดที่ระคายหูเช่นกัน

    ๓. อัตถจริยา คือ ความรู้ความสามารถ ที่เรามีอยู่ ถ้าเอาไปช่วยใครได้ ก็ช่วยๆ กันไป อย่าไปหวงเลย

    ๔. สมานัตตตา คือ ไม่ว่าคบกับใครก็มีแต่ความจริงใจให้เขา ไม่แทงใครข้างหลัง ไม่ว่าร้ายใครลับหลัง มีแต่ความจริงใจ มีแต่ความปลอดภัยให้เขาเสมอ

    ทั้ง ๔ ประการนี้แหละจะเป็นที่มาแห่งเสน่ห์ของเรา พูดง่าย ๆ โปรยเสน่ห์ด้วยการให้ ทั้งสิ่งของ ทั้งคำพูด ทั้งกำลังอกกำลังใจ ทั้งความปลอดภัยแก่เขา ทำอย่างนี้แล้วใครยังไม่รัก ก็ให้รู้ไป แล้วในไม่ช้าเราจะต้องย้อนกลับมาถาม หลวงพ่อว่า ทำไมเดี๋ยวนี้ เวลาไปไหนมาไหน ถึงมีแต่ถูกคนอื่นเขาตามอิจฉากันทั้งบ้านทั้งเมือง

    ถึงตอนนั้นก็ช่วยไปสอนคนอื่นๆ ที่กำลัง อิจฉาคุณให้รู้ว่า เมื่อก่อนคุณเองก็เคยเป็นอย่างเขาเหมือนกัน แล้วมีวิธีแก้ไขอย่างไร บอกเขาไปด้วย เพื่อจะได้เป็นบุญติดตัวเราต่อไป…

    **คัดลอกจากหนังสือหลวงพ่อตอบปัญหาธรรม

    68501597_2101438849967847_1543080439764221952_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  9. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
  10. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    1f64f.png น้อมจิตรำลึกวันคล้ายวันบรรลุธรรมของหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ผ่านมา ๕๖ ปี
    คำตรัสองค์สมเด็จที่มีกับหลวงพ่อไพเราะจับใจยิ่ง..”ไม่รักในฐานะที่รัก ไม่เกลียด – โกรธ – ขัดเคือง ในฐานะที่ควรขัดเคือง” ตามบันทึกท่าน
    ๕ ส.ค. ๒๕๐๖
    เวลา ตี ๒.๔๕ ตื่น เจริญสมณธรรมจนถึง ๔ น.
    พระมา (สมเด็จ) ได้มาแจ้งว่า เจ้าเจริญทำให้แจ้งถึง ไม่รักในฐานะที่รัก ไม่เกลียด – โกรธ – ขัดเคือง ในฐานะที่ควรขัดเคืองอย่างนี้ ชื่อว่าได้อริยผลบริบูรณ์แล้ว เจ้าเป็นพระขีณาสพตั้งแต่เวลา ๔ น. วันนี้ (กลางเดือน ๙ ) พอดี

    67623393_2102960636482335_1773914500764794880_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  11. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    #คนที่เจริญกรรมฐานจะได้รับความคุ้มครองจากเทวดา

    ท่านสหัมบดีพรหมท่านเป็นอริยเจ้าขั้นอรหัตมรรค ท่านสหัมบดีพรหมท่านเป็นอรหัตมรรคโดยตำแหน่งนะ ตำแหน่งนี้ต้องเป็นพระอรหันต์แต่ยังไม่ถึงผล แต่ก็ไม่นานนักเป็นผลไปนิพพาน ท่านรองก็ขึ้นไป แต่ว่าท่านว่าอย่างนี้ คือว่าอีตอนที่เรานึกถึงเทวดาที่รักษาข้าพเจ้าก็ดีนะ เทพเจ้าทั่วสากลพิภพก็ดี ท่านสหัมบดีพรหมท่านบอกว่า เทวดาทั่วสากลพิภพเขารักษาคนเจริญกรรมฐานทุกคน ไม่มีการแยก หมายความว่า เทวดาประจำที่เป็นญาติเรา ที่เป็นพ่อ เป็นแม่ เป็นปู่ เป็นย่า เป็นตา เป็นยาย เป็นสามีภรรยา ลูกเต้ากันมาก่อนนะ ท่านเป็นเทวดาท่านเป็นพรหมท่านจำเราได้ นี่ท่านรักษาอยู่แล้ว ทุกคนนะมีแล้วนะ ประจำอยู่แล้ว ทีนี้เทวดาทั่วไปอื่นๆท่านบอก ถ้าเจริญกรรมฐานอย่างนี้ทั้งสากลพิภพรักษาหมด ช่วยกันหมด ที่มันเป็นไปได้บางอย่าง เพราะว่ากฎของกรรมมันแรง แต่ทำให้เบาหน่อยได้ แค่นั้นนะ ถ้ากฎของกรรมแรงไป ท่านปะทะไม่อยู่ เอาบรรเทาได้นะ เมื่อกี้เห็นแพรวเต็มระยับ ท่านบอกทั้งหมดนี่ละครับ เขารักษาทั้งนั้นแหละ” ลูกศิษย์กล่าวว่า “หลวงพ่อน่าจะบอกตั้งนานแล้ว จะได้เกิดกำลังใจ” ฉันเพิ่งรู้วันนี้ โอเพิ่งรู้เมื่อกี้นี้เหมือนกันนะ คำอุทิศส่วนกุศลนำไปพอถึงเทวดา เราก็นึกถึงเทวดาใช่ไหม ฉันก็นึกว่าเทวดาที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า เทวดาทั่วไปสากลพิภพนะ พอนึกถึงตรงนี้ท่านสหัมบดีพรหมท่านบอกว่า คุณ ดูซิ เทวดาทั้งหมดเขายกมือโมทนาทั้งหมด ทั้งหมดทั้งทั่วสากลพิภพทั้งหมด แหมเยอะจริงๆ เต็มจักรวาลนะ บอกนี่บอกคนที่เจริญกรรมฐานทุกคนทุกองค์รักษา คือไม่เฉพาะเทวดารักษาตัวเป็นญาติหรอกนะ”

    จาก : ธัมมวิโมกข์ มิถุนายน 2533 หน้า 132

    68595729_2103905896387809_1726817779182469120_o.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  12. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    1f449.png เมื่อวาน30ซองไม่พอให้ร่วมบุญวันนี้ขอเพิ่มมาอีก70ซองนะคะท่านใดจะรับพระขอส่งภายในอาทิตย์หน้าค่ะ
    1f607.png บอกบุญนะคะ
    1f64f.png ขอเชิญญาติธรรมทุกท่านร่วมบุญเป็นเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคีสร้างหลังคาเหล็กคุมพระนอนและสร้างศาลาพระราชพรหมยานอนุสรณ์100ปี
    ณ วัดศาลพันท้ายนรสิงห์ ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร
    งานตรงกับวันที่10พฤสจิกายน2562ค่ะ
    1f449.png ท่านใดร่วมบุญ100บาทจะได้รับสมเด็จองค์ปฐม
    (ดังในรูป1องค์)ท่านใดรับมีค่าจัดส่ง50บาทค่ะ
    1f4f2.png โอนร่วมบุญได้ที่ธ.กรุงเทพ388-0-56359-2
    น้ำฝน บุญสิงห์ค่ะ
    2728.png ท่านใดรับพระขอความกรุณาให้สะพานบุญเป็นผู้หยิบส่งให้นะคะถ้าระบุสีมาเกรงจะไม่พอให้หรืออาจจัดส่งให้ไม่ตรงค่ะ(ขอบคุณค่ะ)

    67667465_2107256979386034_2299047589267374080_n.jpg
    68378675_2107257029386029_2325775535822602240_n.jpg
    67766677_2107257072719358_2872351016622227456_n.jpg
    67779049_2107257109386021_2664802576083451904_n.jpg
    68379938_2107257159386016_2822304060529442816_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  13. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    คำว่าสวยว่างาม
    …..เวลาที่เราจะรบกับความชั่ว กิเลสมีเท่าไหร่ไม่ต้องคำนึงถึง กิเลสที่เราจะรบกัน เวลานี้ก็คือความรักสวยรักงาม ซึ่งมันเป็นอารมณ์ค้านกับความเป็นจริง คำว่าสวยว่างาม ไม่ว่าวัตถุธาตุหรือสิ่งที่มีชีวิตในโลกนี้ มันมีที่ไหน ขอท่านทั้งหลายที่รับฟัง กรุณาหาสิ่งที่มันไม่สกปรกในโลกนี้ มาให้ผมดูด้วย เพราะว่าเวลานี้ผมโง่จริงๆ โง่มากที่ไม่เคยเห็นคน ไม่เคยเห็นสัตว์ ไม่เคยเห็นวัตถุธาตุ ว่ามันสวย
    …..อันนี้ผมพูดถึงเวลานี้นะ แล้วพวกท่านทั้งหลายอย่าไปถามว่าเมื่อเวลาที่ก่อนหน้านี้ ยังหนุ่มวัยคะนองอยู่เห็นไหม ว่ามันสวยสดงดงามมันสะอาด ตอนนั้นผมก็ต้องตอบว่าสวยทุกอย่างเหมือนกัน ผมก็เห็นเหมือนทุกๆ คนที่เขาเห็นว่าสวย เห็นสตรีเพศมีทรวดทรงดี ผิวดี วาจาอ่อนหวานเราก็รัก รักเพราะว่าเห็นว่าเขาสวย รักเห็นว่าเขาดี เห็นวัตถุธาตุต่างๆ ที่มีสีสันวรรณะลักษณะทรวดทรงดี อาการดีเราก็ชอบ ผมชอบเหมือนกัน ชอบหมด
    …..แต่ว่ามาตอนนี้ ยังไงไม่ทราบ มันจะแก่ลง หรือยังไงก็ไม่ทราบ มันหมดดีไปเสียหมด ดีโดยจริยาของคนมี แต่ดีเพราะความสวยมองไม่เห็น เห็นจะเป็นเพราะ แก่เกินไปตาไม่ดี แก่เกินไปหูไม่เป็นเรื่อง และแก่เกินไปกำลังใจมันต่ำ มันจึงเห็นว่าไม่ดี

    โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (วัดท่าซุง)

    67652110_2107370486041350_755279946145857536_o.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  14. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
  15. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
  16. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    1f6a9.png 1f6a9.png คำอธิษฐาน

    1f58a.png สำหรับคำอธิษฐานนะโยมนะ บางคนใช้คำอธิษฐานนานเหลือเกิน อธิษฐานไม่ต้องมาก ใช้เพียงย่อๆ จะทำบุญที่ไหนก็ตาม หรือบูชาพระแล้วก็ตาม อธิฐานว่าอย่างงี้

    1f64f.png 1f64f.png ผลบุญใดที่ข้าพเจ้าทำแล้วในวันนี้ขอผลบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าเข้าถึงพระนิพพานในชาตินี้ ถ้ายังไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด ขอคำว่า”ไม่มี” จงอย่าปรากฏแก่ข้าพเจ้าตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะเข้านิพพาน

    1f58a.png เพียงเท่านี้บรรดาญาติโยมพุทธบริษัท ตามแบบฉบับของพระอนุรุทธะ ท่านอธิฐานอย่างนี้ ความไม่มีจึงไม่ปรากฏกับท่าน

    1f58a.png การจะอุทิศส่วนกุศลให้แก่ใคร ให้นึกในใจว่า #ผลบุญใดที่ฉันทำแล้วในวันนี้ จะพึงมีประโยชน์แก่ฉันเพียงใด ขอท่านผู้นั้นจงมาโมทนารับผลเช่นเดียวกับฉัน ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป หรือ ผลบุญใดที่ฉันบำเพ็ญมาแล้วตั้งแต่ต้นจนกระทั้งปัจจุบัน จะมีประโยชน์และความสุขกับฉันเพียงใด ขอเธอจงโมทนารับผลเช่นเดียวกับฉัน ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

    1f58a.png อุทิศให้คนตาย ท่านบอกให้ใช้ภาษาไทยชัดๆสั้นๆ อย่ายาวไม่ต้อง”อิมินา” ถ้ายาวไม่ทัน ดีไม่ดีพวกลากคอไปอีก

    1f64f.png 1f64f.png พระธรรมคำสอนหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดจันทราราม(ท่าซุง)
    1f58a.png 1f4d6.png จากหนังสือ พ่อสอนลูก หน้าที่๓๐๑~๓๐๒

    1f58a.png พิมพ์พระธรรมโดย นภา อิน 1f338.png 1f338.png

    68268538_2111328638978868_5450382995489816576_o.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  17. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
  18. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
  19. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    ต้องการไปนิพพาน
    หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง ตอบปัญหาธรรม

    ผู้ถาม :- “ลูกขอกราบเรียนถามว่า ถ้าจิตของเราไม่ต้องการเกิดอีก ต้องการไปนิพพานแต่เพียงอย่างเดียว แต่บางครั้งต้องฆ่าสัตว์บ้างเพราะความจำเป็น จะมีผลทำให้จิตของเราไม่ถึงแดนนิพพานใช่หรือเปล่าขอรับ…?”

    หลวงพ่อ :- “ถ้าถือว่าการฆ่าสัตว์มีความจำเป็น ก็จำเป็นยังไม่ไปนิพพาน แต่ก็ตั้งใจไว้ก่อนดีกว่า บางทีมีความจำเป็นเกี่ยวกับอาชีพที่ต้องทำ แต่ถ้าเป็นเรื่องการรับราชการหรือรับจ้าง ก็ต้องถือว่านายสั่ง ไม่ใช่เรื่องของเรา กลับมาที่บ้านตั้งใจใหม่ ตั้งใจสมาทานศีล ตั้งใจเจริญภาวนา ให้มันยันกันไปยันกันมา ถ้าเผอิญคนปรารถนามีกำลังใจสูงพอนะ บังเอิญทรงอารมณ์ของพระโสดาบันได้ บาปทั้งหลายก็ตามไม่ทัน ดูตัวอย่าง

    องคุลีมาร ท่านฆ่าคนถึงพันคนกว่า ท่านก็เป็นพระอรหันต์ได้

    ตัมพทาฐิกะโจร ฆ่าคนหมื่นคนกว่า ฟังเทศน์จากพระสารีบุตรจบเดียวเป็นพระโสดาบันได้ ไปนิพพานได้

    สันตติมหาอำมาตย์ กลับมาจากรบทัพจับศึก ฆ่าคนไม่รู้เท่าไร ฟังพระพุทธเจ้าเทศน์ยังเป็นพระอรหันต์ได้

    ทีนี้กำลังใจต้องตั้งอยู่ที่นิพพาน ถ้าตั้งใจจริงแสดงว่ากำลังใจเข้าขั้นปรมัตถบารมี แต่มันยังไม่บรรจบ บุญเก่ายังเข้ามาไม่ครบ ถ้าบุญเก่าเข้ามาครบเมื่อใด ความจำเป็นที่คิดจะต้องฆ่าสัตว์ก็หมดไป อย่างนี้ไปนิพพานได้”

    จากหนังสือ หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม ๔ หน้า ๑๑๐
    พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน

    69236040_2119309218180810_6931305392941039616_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  20. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    การถือตัวถือตน เป็นปัจจัยของความทุกข์
    ธรรมโอวาทหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ วัดท่าซุง

    การที่คิดว่าเราเสมอกับเขา มันเป็นตัว
    ทะเยอทะยาน การที่คิดว่าเราดีกว่าเขา
    เป็นการข่มขู่คิดทะนงตนว่าตนเป็นใหญ่
    ถ้าคิดว่าเราเสมอเขา มันก็เสียอีก เพราะ
    บางคนเขามีจริยาเลว เราคิดว่าเรากับเขา
    เสมอกัน ก็ต้องพยายามเลวตามเขา
    ความเลวมันเป็นปัจจัยของความทุกข์
    ไม่ใช่ปัจจัยของความสุข

    ถ้าหากเขาดีกว่าเรา เราดีไม่เท่าเขา
    แต่เราคิดว่าเราดีเท่าเขา ก็เกิดความประมาท
    คิดว่าเราดีแล้ว ก็เป็นการทำลายความดี
    ที่เราจะพึงแสวงหาต่อไป ถ้าเราคิดว่า
    เราเลวกว่าเขา ตอนนี้ก็เป็นการทำลาย
    ความดีของตนเอง จิตใจมันก็มีความสุขไม่ได้

    เป็นอันว่า การถือตัวถือตนว่า เราเสมอเขาก็ดี
    เราดีกว่าเขาก็ดี เราเลวกว่าเขาก็ดี เป็นปัจจัย
    ของความทุกข์

    68560911_2123115164466882_5739206352006283264_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...