คือ ผมสังเกตหลายทีละ เวลาเราหิวขึ้นมาเเล้วยังไม่ได้กินทีไร จิตมันจะุเริ่มฟุ้ง คิดโน่นคิดนี่ ผมคิดว่าผมคงไม่ได้คิดไปเองเเน่นอน เพราะมันเป็นอย่างนี้ทุกครั้ง ผมคิดว่า ต้องมีวิธีพิจารณากายอะไรซักอย่างที่ทําให้เราระงับความฟุ้งจากการหิวได้อย่างอยู่หมัด วานพี่ๆเเนะด้วยครับ อนุโมทนาครับทุกท่าน
เพื่อนๆทีวิธีจัดการกับความฟุ้งซ่านตอนหิวยังไงครับ ?
ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย วิญญาณนิพพาน, 2 กันยายน 2009.
-
วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด
-
ของแว๊ด เวลาหิว จะมือไม้สั่น ตัวโหวง ๆ
แต่ถ้าหายใจยาว ๆ หิวหนอ ๆ ๆ (เหมือนมันรู้แล้วว่าหิว)
อาการก็เบาลง อยู่ต่อได้อีกเป็นชั่วโมง หรือบางทีก็ไม่กินเลย
หรือถ้าบริกรรมแล้ว เกิดซ่า ๆ ทั้งตัว มันจะไม่อยากกินอะ คล้ายจะอิ่ม แต่ไม่เหมือนเรากินแล้วอิ่มท้อง บอกไม่ถูก... -
กาย มันหิว ธาตุ4 เป็นธรรมชาติ
จิต มันหิว อารมณ์ เป็นธรรมชาติ
* * * *
แต่ถ้าเติม อยาก หรือ ตัณหา ลงไป ก็จะเริ่มผิดธรรมชาติ
แผนแรก ระวังการ เติมอยากหาย ไม่อยากเป็น ซึ่งเป็น วิภวตัณหา ให้ดูว่ามีหรือเปล่า
หากไม่มี ก็มาแผนสอง
แผนสอง คนเราปรกติเมื่อขาด เมื่อพร่อง จะเกิดความหวงอัตตา ความอยู่รอด ให้ดูว่า
มีการหวงแหนอัตตาหรือเปล่า หากไม่มี หรือ มองไม่เห็น ก็มาแผนสาม
แผนสาม เมื่อเราต้องการอยู่รอด จะต้องดิ้นรน ดิ้นรนด้วยกาย ก็กระสับกระส่าย ด้วยรน
ด้วยจิตก็ความฝุ้งซ่าน เห็นว่าสถานที่ที่อยู่ขณะนั้นคับแคบ ไม่มีสิ่งมาสนองกายสนองใจ
ให้อิ่มหนำกายใจได้ ...ให้เห็น จิตโทษะ หากมีก็ระลึกรู้ว่ามี ถ้ามองโทษะไม่ได้ หรือ ไม่มี ก็..
แผนสี่ หากดูอะไรไม่ได้ ก็รองดูท้องมันร้องไปสักพัก...เดี๋ยวมันก็หายไปให้เห็นได้ แต่
ถ้ายังไงก็ไม่ไหว....
ก็หา ยูโร่ หรือ ไวตามิลค์มาติดตัวไว้ข้างๆ ....เอาตัวรอดไปก่อนจนกว่าจะสามารถทำ
ตาม แผน 1 2 3 4 ได้ -
ต้มมาม่ากิน
ถ้าจำเป็นกินไม่ล่ายจริงๆ
ก็จะปลอบตัวเองว่า ตอนเป็นเปรตคงหิวกว่านี้มาก
ก็จะสดชื่นขึ้นมาอย่างงงงวย -
ตอนเด็กๆ จน อดข้าวบ่อย ก็อาศัยการทำสมาธิดับอาการ แต่เพื่อนบอกว่า เขาท้องร้องทุกทีเวลานั่งสมาธิ ยายผีป่าเลยบอกว่า เพราะแกไม่เคยอดอยากนี่นา
ถ้าเราหิว ไม่อยากให้จิตฟุ้งซ่าน ถ้าไม่ได้ถือศีลงดอาหารช่วงนั้น ก็ไปหากินอะไรสิคะ จะได้ทำให้ร่างกายแขงแรง อดบ่อยๆ โรคต่างๆ รุมนะคะ แต่ไม่ใช่กินจนอ้วนฉุ
ทีนี้เวลาพระท่านเข้านิโรธสมาบัติ หรือเข้ากรรมอดอาหารท่านทำได้อย่างไร (เข้านิโรธ กับเข้ากรรมต่างกัน คนมักสับสน เพราะที่มาของการกระทำต่างกันค่ะ)
จิตท่านเป็นญาณแล้ว เวลาที่ท่านกำหนดปั๊บ อยู่ในสภาวะญาณ จิตไม่ไหวติงกับอาการต่างๆ แม้จะไหวบ้าง ก็เข้าใจ เหมือนต้นไม้ใหญ่แก่นแกร่ง ยามลมพัด ใบก้านสาขาแกว่งไกว แต่ลำต้นหาได้ไหวเอนตามไม่
เอาอย่างนี้นะคะ คุณเคยนั่งทำอะไรนานๆ ใจจดใจจ่อไหม เมื่อจดจ่อในสิ่งใดอย่างสนใจ อย่างเอาเป็นเอาตาย มันไม่สนใจที่จะกินอะไรก็ได้ นี่ก็เป็นเทคนิคใช้ในการบำเพ็ญเพียรได้ค่ะ ยายผีป่าทุกวันนี้ยังเคยถามตัวเองเลยว่า "วันนี้ฉันกินข้าวหรือยัง" เพราะมันชินนั่นเอง
แต่ถ้าหิวแล้วเราไม่มีกิน เราก็กำหนดจิตหลอกตัวเองก็ได้สำหรับผู้เริ่มต้น ว่า ฉันกินแล้ว ฉันอิ่มแล้ว แล้วทำกองลมไปเติมที่ท้องเยอะๆ เดี๋ยวก็หายเอง -
ทานอาหารให้ตรงเวลาเถอะครับ
ถึงเราจะเจริญสติได้ แต่น้ำย่อยในท้องมันก็ออกของมันมาครับ เป็นธรรมชาติของมันอย่างนั้น
ส่วนผมผมก็ใช้วิธีคล้ายๆ คุณนิวรน์ครับ แต่เด็กกว่ามาก ตามดูรู้ ไป แบบเป็นธรรมชาติ ครับ
เริ่มหิว อยากทานอาหาร จะรู้ว่าความอยากเกิดขึ้นในใจ ตอนนี้เราจะเกิดความรู้สึกว่า ไม่อยากได้ความหิว คืออยากให้ความหิวหมดไป
พอไม่ได้ทานก็จะมีความฟุ้งซ่าน ก็มองความฟุ้งซ่านนั้น ไปเรื่อยๆ แบบเป็นธรรมชาติ ไม่อยากให้หาย หรือ ไม่อยากมี เดียวมันก็ดับไปเหมือนกัน แต่ดู/รู้
สุดท้าย หาอะไรทานเถอะครับ เป็นการดับทุกข์ แบบหยาบๆ -
1.ดูหิว ดูฟุ้งซ่าน ได้ปัญญา
2.ฝึกแยกกาย แยกจิต ไม่สนใจกาย แยกใจออกจากกาย ได้อุบายดับหิว ดับฟุ้งซ่าน
3.เล่นชักกะเย่อ กับความหิว ได้กำลัง ได้แรง ได้ฝึกม้าพยศ
คงมีวิธีอื่นๆอีกนะ เท่าที่อ่านมาก็เข้าใจมาได้แค่นี้ เลือกทำเลือกฝึกเอา ตามสะดวก ตามชอบ
ฝึกแบบไหน ได้แบบนั้น แล...ได้วิปัสนาบ้าง มีได้สมถะบ้าง ได้อย่างอื่นบ้าง -
หิวมันเป็นอาการทางกายหลวงพ่อว่า ถ้าไม่ไหวอย่าฝืน ให้กินเสียใจจะสบายการปฏิบัติกรรมฐานจะเป็นผลถ้าฝืนอาการทางกายการปฏิบัติจะไม่มีผล เพราะเป็นอัตตกิลมถานุโยค
-
[ ]หิวมันเป็นอาการทางกายหลวงพ่อว่า ถ้าไม่ไหวอย่าฝืน ให้กินเสียใจจะสบายการปฏิบัติกรรมฐานจะเป็นผลถ้าฝืนอาการทางกายการปฏิบัติจะไม่มีผล เพราะเป็นอัตตกิลมถานุโยค[/
เห็นด้วยค่ะ -
ง่วงมากก็นอน หิวก็กิน..เรามาฝึกจิตไม่ได้ฝึกกายกัน ในเมื่อหิวแล้วฟุ้งซ่านไม่สามารถตั้งจิตเป็นสมาธิได้..แล้วจะอดไปทำไม มีประโยชน์อันใดคะ ทำอะไรให้อยู่ในความพอดี พอประมาณ พระพุทธองค์ท่านสอนให้เดินทางสายกลาง ถ้าการทรมานร่างกายทำให้บรรลุธรรม..แล้วทำไม พระพุทธองค์ถึงมาบรรลุหลังจากรับประทานอาหารอิ่ม ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงแล้วอ่ะคะ ลองคิดดู..เหตุผลง่ายๆค่ะ
-
อืม....
ตอนนี้ อิฉัน ก็ นึกครึ้ม
ถือศีล 6 อยู่นะ ( ศีล 5 + งดอาหารยามวิกาล )
โดน ผจก.ส่วนตัว มัน ตะล่อม หว่านล้อมน่ะ อ่ะ
( เฮ้ออออ ไม่น่าหลวมตัว เล๊ยตู อิอิ )
นี่ก็ งดอาหารหลังบ่าย 1 กว่า ๆ มาได้ 3 วันแล้ว
ก็เฉย ๆ นะ ถ้ามี หิว ให้ดู ก็ ดูหิว อ่ะ
ไงล่ะ ก็ดูไปเรื่อย ๆ เหมือน ดูเวทนาทั่ว ๆ ไป อ่ะ
ดูเฉย ๆ แต่ไม่ต้องปรุงต่อ
ไม่เอาจิตไปรองรับอารมณ์ตรงนั้น
จิตมันก็ไม่ทุกข์ไม่สุขกับสภาวะนั้นอ่ะ
หิว หรือ อิ่ม มันก็แค่สภาวะ
ประมาณว่า หิวเหรอยะ เจ้าตัวตะกละ?
อยากจะเกิดก็เกิดไปดิ
อิฉันไม่มีอารมณ์ร่วม กะแก ซะะอย่าง มีไรป่ะ อิอิ
แต่ก็แปลกนะ ดูหิว นานเข้า ๆ
แล้วมันทะลึ่ง หายหิวเฉยเลย ( สงสัยมันจะอาย อิอิ)
และ หากอิฉัน สติแตก แบกฟามหิวไว้บนหัวเมื่อไร
ก็คงต้องทำตามที่ หมาน ( พ่ออิฉัน ป เคยสอนไว้อ่ะ
ตะแกเคยสอน อิฉันว่า
หิวกิน ง่วงนอน ร้อนอาบน้ำ
เอาไปใช้ดิ อดข้าวดอกหนาชีวาวาย
ไม่ตายดอกเพราะอดไปนิพพาน เอ๊ย เพราะอดเสน่หา 5555
อะไรที่ทำแล้วเป็นทุกข์ ก็วางมันเหอะ อิอิ
ไม่เห็นทุกข์ ไม่เห็นธรรม
มารไม่มีบารมี ไม่เกิด นะจ๊ะ ทั่น จขกท.
อ่ะ แถม....ให้ฝึกดู ฟามหิววววววววว ^ 0 ^
(เฮ้อออ เห็น แล้ว น้ำลายหยดติ๋ง ๆ เลยตู หุหุ )
-
ป้าเวลาถือ วิกาลโภชนา เนี้ย กินมื้อเทียง ปกติ เหมือนกับทาน สามมื้อหรือเปล่าครับ หรือ ทานมากกว่า เพื่อเอาไว้
อนุโมทนาบุญน่ะครับ คือศีลหก -
( ศีล 5 + งดอาหารยามวิกาล +งดดูมหรสพ ด้วยมั้ง )
ทีวีที่บ้านเพิ่งเสียยังไม่ได้ซ่อม 5555
ปกติ กินตุนไว้ เต็ม ๆ คราบ มื้อเช้าอ่ะ แหะ ๆ
แต่ก็กินปกติจนอิ่มนะ ไม่ได้ถึงกับ อิ่มจนอ้วก
ข้าวถุงละ 5 บาท 1 ถุง กับข้าว ตามมีตามเกิด
บางทีก็โซ๊ยม่าม่าแถมไปด้วย ถ้านึกอยากกิน
พร้อมตบท้าบด้วย ผลไม้ หรือ ของหวานล้างปาก
ส่วนมื้อเที่ยงก็จะเบากว่ามื้อเช้านะ
ข้าวแค่ สามสี่คำเองมั้ง เน้นผลไม้ หรือ ของหวานล้างปากมากกว่า
กินมากมันเสียเวลานอนกลางวัน อิอิ
ส่วนใหญ่ ไม่กินหลัง บ่าย 1ครึ่ง อ่ะ
ส่วนที่ งดอาหารเย็นเนี่ย
เพราะรู้สึกว่า มันเกะกะขวางทางปฏิบัติของอิฉัน
ทำให้ว่อกแว่กได้ง่าย ด้วย
เพราะ กว่าจะปฏิบัติเสร็จก็ 3 ทุ่ม
ก็ต้องมาหาอะไรสวาปามอีก
จากนั้นก็ อึดทึด กินแล้วนอนเลยก็กระไรอยู่ มันเสียสุขภาพ
ทีนี้ หลายวันก่อนไปทำฟัย
มีเรื่องให้ต้องงดอาหารเย็น แล้วมันเลยเถิดไปถึงเช้า
แต่ไม่ยัก ทุรนทุราย ที่อดข้าวเย็น
เลยรู้สึกว่า ที่ผ่านมาเนี่ย เรากินมื้อเย็นเพราะ ความอยากใช่ไหม
มื้อเย็นมันสำคัญนักหรือ ก็ใน นาฬิกาชีวิต ยังบอกเลยว่า
เวลากินอาหาร ของคน ที่เหมาะสม คือ ช่วง 7.00 - 9.00
ซึ่งเป็น เวลาการดูดซึมของลำไส
เจ้า ผจก.ส่วนตัว ได้ยินอิฉันข้องใจดังนั้น
มันเลยได้ที ปะเหลาะ ให้อิฉันลองงดอาหารยามวิการดูอ่ะ
แต่นี่ก็ยังดีกว่าเมื่อก่อน นะ
ตะก่อน แม่ ผจก.ส่วนตัว
มันชวนอิฉันเหย็ง ๆ ให้ถือศีลอดแบบอิสลาม
เพื่อ ทดสอบ ฝึกจิต ตัวเอง ( โชคดีเป็นบ้าที่ไม่หลวมตัวทำตาม 555 )
จาก
ป้า เมขลาที่ชอบเล่นกับงู ( บนหัวผู้ชาย )
มากกว่าไปล่อแก้วอ่อยรามสูร 5555
-
อ่ะ อันนี้ แถมมมมมม
งดอาหารเย็น..เคล็ดลับสุขภาพดีของคนสูงวัย
http://gotoknow.org/blog/geriatric/129486 -
ถ้าป๋มหิว ป๋มก็กิน
ถ้าป๋มไม่หิว ป๋มก็ไม่กิน
ถ้าป๋มหิว ทั้งๆที่กินอย่างพอดีไปแล้ว ป๋มก็ไม่กิน
ถ้าป๋มไม่หิว แต่ถึงเวลาของการกิน ป๋มก็กิน
....งับ....