เมตตา กรุณา กับรัก นั้นเหมือนกันหรือต่างกัน

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย paang, 6 มกราคม 2006.

  1. paang

    paang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2005
    โพสต์:
    9,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,325
    <CENTER>[​IMG]</CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER></CENTER><CENTER><TABLE style="BORDER-COLLAPSE: collapse" borderColor=#800000 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="70%" bgColor=#efefef border=2><TBODY><TR><TD>หมายเหตุ ตัดตอนมาจาก ปฏิปัตติวิภังค์ จากหนังสือ ธัมมานุธัมมปฏิบัติ โดย พระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถร จัดพิมพ์โดย ชมรมพุทธศาสน์ การไฟฟ้าแห่งประเทศไทย

    </TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER> </CENTER>
    ถาม เมตตา กรุณา กับรัก นั้นเหมือนกันหรือต่างกัน

    ตอบ ต่างกันมาก อย่างละอริยสัจทีเดียว ความรักนั้นเป็นสมุทัย เมตตานั้นเป็นมรรค

    ถาม เช่นรักบุตรหลาน ญาติมิตร คิดให้เป็นสุขและให้พ้นทุกข์หรือสงสารจะว่าเป็นสมุทัยได้อย่างไร รู้สึกรสชาติของใจประกอบด้วยความเอ็นดูปราณี

    ตอบ ความรักและความสงสารบุตรหลานญาติมิตร ประกอบด้วยฉันทราคะอาลัยห่วงใยกังวลพัวพันยึดถือ หนักใจไม่โปร่ง เมื่อคนรักเหล่านั้นวิบัติไป เช่น ตาย เป็นต้นก็เกิดทุกข์โทมนัสเศร้าโศกเสียใจอาลัยคิดถึง ถ้ารักมาก็โศกมาก สมด้วยพระพุทธสุภาษิตคาถาธรรมบทปิยวรรคที่ ๑๖ ว่า

    เปมโต ชายเต โสโก ความโศกย่อมเกิดแต่ความรัก
    เปมโต ชายเต ภยํ ภัยย่อมเกิดแต่ความรัก
    เปมโต วิปฺปมุตฺตสฺส ความโศกไม่มีแก่ผู้พ้นแล้ว
    นตฺถิ โสโก กุโต ภยํ จากความรัก ภัยจะมีมาแต่ที่ไหน

    เพราะฉะนั้น จึงผิดกับเมตตากรุณา ส่วนรักนั้นมีความชอบ และสงสารบุตรหลานญาติมิตร ไม่ทั่วไปในสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง เป็นแต่พรหมวิหาร ส่วนเมตตากรุณาที่เป็นอัปปมัญญานั้นทั่วไปในสัตว์ไม่มีประมาณและไม่ประกอบด้วยความห่วงใยอาลัยพัวพันยึดถือ มีความโปร่งและเบาใจไม่หนัก มีจิตเย็นเป็นสุขและเป็นข้าศึกแก่พยาบาทโดยตรง และได้รับอานิสงส์ ๑๑ ประการด้วย ตามแบบที่ท่านแสดงไว้ในเมตตานิสังสสูตรว่า

    ๑. สขํ สุปติ หลับก็เป็นสุข
    ๒. สุขํ ปฏิพุชฺฌติ ตื่นก็เป็นสุข
    ๓. น ปาปกํ สุปินํ ปสฺสติ ย่อมไม่ฝันเห็นลามก
    ๔. มนิสฺสานํ ปิโย โหติ ย่อมเป็นที่ชอบใจของมนุษย์ทั้งหลาย
    ๕. อมนุสฺสานํ ปิโย โหติ ย่อมเป็นที่ชอบใจของอมนุษย์ทั้งหลาย
    ๖. เทวตา รกฺขนฺติ เทวดาทั้งหลายย่อมรักษา
    ๗. นาสฺส อคฺคิ วา วิสํ ไฟหรือยาพิษหรือศัสตรา
    วา สตฺถํ วา กมต ย่อมไม่ต้องผู้เจริญเมตตานั้น
    ๘. ตุวฏํ จิตฺตํ สมาธิยติ จิตของผู้เจริญเมตตาย่อมมั่นเป็นสมาธิเร็ว
    ๙. มุขวณฺโณ วิปฺปสีทติ สีหน้าของผู้เจริญเมตตาย่อมผ่องใส
    ๑๐. อสมฺมูโฬฺห กาลํ กโรติ ย่อมไม่มีสติหลงตาย
    ๑๑. อุตฺตริ อปฺปฏิวิชฺณนฺโต เมื่อยังไม่สำเร็จพระอรหันต์อันยิ่ง
    พฺรหฺมโลกุปฺโค โหติ ย่อมไปเกิดในพรหมโลก


    [​IMG]

    ที่มา http://www.dharma-gateway.com/monk/preach/lp_mun/lp-mun_07.htm
     

แชร์หน้านี้

Loading...