หลังจากที่ผมทำใจจากแฟนคนแรกที่เธอหนีผมไปได้แล้ว ผมก็ปรับสภาพเข้าสู่สภาวะปกติ คือเป็นคนยิ้มแย้มแจ่มใส รื่นเริง ขี้เล่น เหมือนเดิมแล้ว ประกอบกับการทำงานที่ดีของผม เมื่อทางเครือโรงแรมที่ผมทำอยู่มีการขยายสาขามากขึ้น ผมจึงได้มีโอกาสย้ายไปอยู่อีกโรงในระดับ 5 ดาว เมื่อมาอยู่ที่นี่ได้ประมาณ 1 ปี ผมก็ได้เปลี่ยนตำแหน่งงากจากที่เคยอยู่ในฝ่ายบริการ ก็ได้ขึ้นไปอยู่ออฟฟิต และได้เลื่อนตำแหน่งงานที่สูงในอีก 2 ปีต่อมา (ช่วงนี้ที่ชีวิตรุ่งเรื่องขึ้นน่าจะเป็นเพราะกรรมเก่ายังไม่มาตามสนอง) จึงได้มีโอกาสรู้จักกับน้องใหม่ที่เข้ามาทำงานที่นี่ที่เขามาส่งงานผมเพื่อตรวจสอบก่อนส่งไปยังระดับสูงต่อไป
<O:p</O:pหลังจากที่เราทำความรู้จักกันจนสนิทสนมกันพอสมควรแล้ว ด้วยนิสัยขี้เล่นของผมแต่พูดน้อยเข้าได้กับเพื่อนร่วมงานทุกระดับ ทำให้เรายิ่งสนิทสนมกันมากยิ่งขึ้นจนกลายเป็นความรัก เธอจึงมักกลับบ้านค่ำ ๆ ดึก ๆ ทั้ง ๆ ที่งานออฟฟิต 5 โมงเย็นก็เลิกแล้ว โดยเรามักจะไปกินข้าวข้างนอกกัน ไปดูหนังกัน โดยเธอบอกกับทางบ้านว่ารถติดบ้าง ไปกินข้าวกับเพื่อนบ้าง สุดท้ายเราก็ย้ายมาอยู่ด้วยกัน โดยเธอให้เหตุผลทางบ้านว่ารถติดไม่อยากกลับบ้านค่ำ ๆ ดึก ๆ จึงไปเช่าคอนโด ฯ อยู่กับเพื่อน
<O:p</O:pเดิมนั้นผมเช่า Apartment อยู่กับเพื่อน ๆ เมื่อเธอมาอยู่ด้วยเราจึงไปเช่าคอนโด ฯ อยู่กัน วันที่ผมย้ายออก ก็เก็บข้าวของทุกอย่างไปหมด แต่มีพระองค์หนึ่งเป็นพระหลวงปู่ทวดเนื้อว่านที่คุณพ่อให้มาตั้งแต่เดินทางขึ้นกรุงเทพ ฯ ครั้งแรกหายไป ผมเสียใจมากเพราะพ่อสั่งนักหนาว่าพระองค์นี้จะคุ้มครองลูกตราบใดที่ลูกยังทำความดี ทำให้ผมมองย้อนกลับไปถึงอดีตเรื่องการทำแท้งครั้งแรก พระท่านคงไม่อยากอยู่คุ้มครองเราอีกแล้ว
<O:p</O:pเมื่อผมทำงานอยู่ที่ใหม่ได้ประมาณ 5 ปี และอยู่กับเธอมาประมาณ 2 ปี ผมก็ได้งานที่ประเทศลาว จึงลาออกจากที่เดิม แต่การไปอยู่ที่ประเทศลาวด้วยความคิดถึงและเป็นห่วงแฟน ผมต้องกลับกรุงเทพ ฯ ทุก ๆ เดือนเป็นอยู่อย่างนี้เรื่อยมา ทำให้เงินเดือนส่วนมากหมดไปกับค่าเครื่องบิน และค่าโทรศัพท์ สมัยนั้นค่าโทรศัพย์มือถือยังแพงอยู่มาก เพราะประเทศไทยเหมือนกับเพิ่งเริ่มบูมเท่านั้น (ที่จริงมีมานานแล้วแต่มีแต่คนมีเงินเท่านั้น สำหรับเรา ๆ แล้วยังไม่มีปัญาซื้อมาใช้) เมื่อผมทำอยู่ประมาณ 1 ปีผมเห็นว่าขืนเป็นอย่างนี้เงินเดือนเราก็ไม่เหลือหมดไปกับค่าเครื่องบินและโทรศัพท์ สู้กลับมาทำงานที่กรุงเทพ ฯ อย่างเดิมดีกว่า
<O:p</O:pเมื่อกลับมากรุงเทพ ฯ เดือนนั้นผมจึงไปสมัครงานหลายที่ และก็ได้งานทำที่สนามบินดอนเมือง ทำอยู่ 6-7 เดือน ทางเพื่อนที่อยู่ที่ลาวโทรมาบอกว่าอยากให้ไปช่วยงานเพราะไปรับงานมาใหม่เป็นบ่อนกาสิโน ที่เปิดที่ประเทศลาวและให้เงินเดือนสูงมาก ก็ปรึกษากับแฟน แฟนบอกแล้วแต่พี่เห็นสมควรทางนี้ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะเธอทำที่นี่ 3 ปีกว่าแล้วการเป็นอยู่ก็เข้าที่เข้าทางแล้ว ผมจึงตัดสินใจไปลาวอีกครั้ง แต่ก็ยังเดินทางกลับกรุงเทพ ฯ ทุกเดือนเช่นเคย แต่ก็ไม่ลำบากเนื่องจากที่นี่มีค่าตั๋วเครื่องบินให้เดือนละเที่ยว จ่ายเอง 1 เที่ยว
<O:p</O:pทำอยู่ที่ลาวรอบที่ 2 ได้ประมาณ 1 ปี แฟนโทรบอกประจำเดือนไม่มา 3 เดือนแล้วจะทำอย่างไรดี ผมก็บอกว่าดีแล้วเราจะได้มีลูกเสียที อยู่กันมา 3 ปีแล้วยังไม่มีลูกกันเลย เธอบอกว่ายังมีตอนนี้ไม่ได้เด็ดขาด เรายังไม่ได้แต่งงานกันให้ถูกต้องตามประเพณี พ่อแม่ของเธอต้องไม่ชอบใจแน่ (เธอปิดบังพ่อแม่เธอว่าอยู่กับผม ส่วนผมทางผู้ใหญ่ทราบหมด) เพราะผมไม่ชอบปิดบัง อาจจะเห็นเป็นผู้ชายด้วย จึงไม่ปิดบัง ก็บอกเธอว่าไหน ๆ ก็ถึงขั้นนี้แล้วเธอก็บอกพ่อแม่ตรง ๆ ไปเลยซิ เธอไม่ยอม เธอบอกว่าพ่อแม่ต้องไม่พอใจเธออย่างมากแน่ เพราะเธอเป็นลูกคนเดียวของพ่อแม่และหวังในตัวเธอมาก ๆ อยากให้ลูกได้ดิบได้ดีเธอขอทำแท้งเอาลูกออกก่อน เรื่องแต่งงานตอนนี้ไม่ทันแล้ว เพราะนี่เดือนที่สามแล้วที่ประเดือนไม่มา
<O:p</O:pเมื่อเป็นเช่นนี้ทำให้ผมเริ่มคิดถึงอดีตขึ้นมาทันที ว่าเรานี้เป็นอะไรหนออยากมีลูกก็มีอุปสรรคอยู่ร่ำไป แต่ก็มาคิดดูก็น่าเห็นใจเธอเหมือนกันที่เธอพูดมาก็เป็นเหตุผลทั้งสิ้น ผิดที่ตัวเราวัน ๆ เอาแต่งาน ๆ จนไม่มีเวลาไปสู่ขอลูกสาวเขาแล้วแต่งงานให้ถูกต้องตามประเพณีเสียสักที จึงบอกเธอว่างั้นก็ตามใจ (ครั้งนี้ทางย่ายังไม่ทราบว่าเธอท้องเพราะผมเองก็เพิ่งทราบจากเธอเช่นกัน) ตกลงว่าเราก็ต้องทำแท้ง ผมมีประสบการณ์ครั้งแรกแล้วครั้งนี้เลยไม่ยากในการหาสถานที่ทำแท้ง เมื่อทำเสร็จแล้วผมโทรลางานกับเพื่อนต่ออีก 3 วันเพราะเธอมีอาการเพลียอย่างน่าตกใจ
<O:p</O:pผมกลับไปทำงานต่อที่ลาวเมื่อครบกำหนดลา และทำมาไปประมาณ 8 เดือนเพื่อนที่ชักชวนผมมาทำงานงานด้วยก็เสียชีวิต เมื่อจัดการเรื่องศพเพื่อนเรียบร้อยผมก็ไม่อยากกลับไปทำงานอีกแล้วเพราะรู้สึกไม่ดีในหลาย ๆ อย่าง จน จู่ ๆ ได้รับโทรศัพท์จากทางบ้าน ว่าน้องชายเข้าโรงพยาบาลตอนนี้ยังไม่รู้สึกตัว ผมแจ้งไปว่าให้ดู ๆ กันไปก่อนคงไม่นานก็คงรู้สึกตัว 1 เดือนผ่านไปน้องชายก็ยังไม่รู้สึกตัว ผมจึงตัดสินใจลาออกจากงานที่ลาวกลับมากรุงเทพ ฯ บอกกับแฟนว่าต้องลงใต้ไปดูน้องไม่มีกำหนดการว่าเมื่อไหร่จะกลับ เธอจึงถามว่าแล้วไม่ไปทำงานหรือ ผมบอกว่าลาออกแล้ว เรื่องอื่นไม่สำคัญเท่าน้องเพราะ 1 เดือนแล้วน้องยังไม่รู้สึกตัวเลย (ไมขอบอกถึงสาเหตุต้องขออภัย) หลังจากผมลงมาดูน้อง 2 เดือน 3 เดือน ผ่านไปน้องก็ยังไม่รู้สึกตัว แต่ทุกคนก็ยังคอยความหวัง ช่วงนี้ทางผมกับแฟนก็เริ่มมีปากเสียงกันบ้างแล้วเธอหาว่าผมไปมีเมียอยู่ทางใต้จึงไม่ยอมกลับมาหาเธอที่กรุงเทพ ฯ บ้างเลย ส่วนผมก็ไม่แคร์ว่าเธอจะพูดอย่างไร ผมต้องเอาน้องผมไว้ก่อน เมื่อนานเข้า 3-4 เดือนเธอยื่นคำขาดเราเลิกกันตั้งแต่บัดนี้
<O:p</O:pชีวิตเศร้าเข้าหาเราอีกแล้วแฟนก็ไม่เข้าใจว่าเราทุกข์เรื่องน้องแค่ไหน น้องก็ยังไม่รู้สึกตัวอีก เริ่มหันเข้าเหล้ายาอีกแล้วครั้งนี้หนักกว่าเก่า เพราะเรื่องงานก็ไม่ต้องกังวนอีกแล้ว แต่ก็เริ่มศึกษาการเลี้ยงกบจากหลาย ๆ ที่ ศึกษาถึงตลาดกบ เมื่อเห็นแนวทางเป็นไปได้ จึงลงทุนก่อสร้างเริ่มที่ 3 บ่อและชุดแรกออกไปได้ราคาดี กำไรเห็น ๆ ก็สร้างบ่อกบเพิ่มขึ้นเป็นสิบบ่อ ออกครั้งหนึ่งประมาณ 5-6 ตัน ระยะเวลาในการเลี้ยงก็สั้นแค่ 3-4 เดือน ผ่านไปประมาณ 8-9 เดือน น้องชายเริ่มรู้สึกตัวมีการตอบสนอง เวลาเรียกมีน้ำตาไหลแสดงถึงความรับรู้ ผมก็ไม่ต้องไปเฝ้าน้องมากนัก เริ่มทุ่มเทกับการเลี้ยงกบเต็มที่ ผมเพาะพันธุ์กบออกมามาก เพื่อต้องการขายลูกพันธุ์ด้วย แต่ก็ขายไม่ออก ฝนฟ้าจากที่เคยตกไม่เคยขาดน้ำ กลายเป็นไม่มีน้ำสำหรับถ่ายในบ่อกบ ในรัศมี 1 กิโลเมตรจากฟาร์มที่ผมตั้ง น้ำตามแหล่งธรรมชาติถูกผมซื้อสายยางมาต่อดูดน้ำไปใช้หมด จึงไปยืมแท็งค์น้ำของ อบต. ไปสูบน้ำที่คลองชลประทานที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นอยู่อย่างนี้ประมาณเดือนกว่า ทุนเริ่มหมด โทรหาแฟนก็รับสายบ้างไม่รับสายบ้าง รับก็พูดแต่ว่าเราเลิกกันแล้วจะโทรมาทำไม
<O:p</O:pก็ในเมื่อเขาไม่เชื่อเราหาว่าเรามีเมียอยู่แล้วที่ใต้ ก็มีมันเสียเลย คราวนี้ผมได้สาวอิสลาม เอาไว้เล่าต่อในตอนต่อไป เพราะตอนนี้กรรมเริ่มตอบสนองผมเข้ามาเรื่อย ๆ แล้ว
<O:p</O:pสุดท้ายนี้หากดวงวิญญาณของลูก ๆ รับรู้ก็ขอลูก ๆ อโหสิกรรมให้กับพ่อและแม่เขาด้วยเถิด (เขาอาจมีความจำเป็นของเขา) ส่วนพ่อนั้นทุกวันนี้ยังคิดถึงลูก ๆ เสมอแม้จะไม่เคยเห็นหน้าลูก ๆ พ่อทำบุญ สวดมนต์ไหว้พระ ภาวนา เพื่ออุทิศผลบุญให้ลูก ๆ อยู่เสมอ ๆ 5 ปีกว่ามาแล้ว ทุก ๆ ครั้งที่พ่อทำบุญ สวดมนต์ ภาวนา พ่อจะอุทิศบุญให้กับลูก ๆ เสมอ เพื่อขอให้ลูก ๆ ไปเกิดในภพภูมิที่ดีกว่า ขอลูก ๆ โปรดอโหสิกรรมให้พ่อและแม่ของลูก ๆ ด้วยเทอญ<O:p</O:p
เมื่อผมต้องทำแท้งครั้งที่สอง
ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย ศักยิ์กมล, 15 สิงหาคม 2012.
-
เง้อออออ ชีวิตสมบุกสมบันดีแท้ ... ขออย่าให้มีการแท้งครั้งที่สามอีกนะ อ่านเรื่องแมว จนถึงเรื่องนี้ ก็ขออนุโมทนาในธรรมทาน ความรู้สึกเกรงกลัวต่อบาป(แม้จะไม่ทันในหลายๆเรื่อง) แต่คงเป็นบทเรียนที่ดีสำหรับผู้อ่านหลายๆท่าน หรือแม้แต่ตัว จขกท เอง ชีวิตคนเราแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนตกเหวแล้วยังไม่รู้สึกตัวเลยว่า ตัวเองกำลังอยู่ก้นเหว แต่บางคนพอรู้ตัวก็ยังพอทันปีนป่ายขึ้นมาได้บ้าง ไม่หลงทางอยู่ในเหวลึกจนไม่สามารถขึ้นมามองแม้แสงตะวันตกดิน ....
ผลของการกระทำ คือกรรมเที่ยง หนีก็ได้ ถ้าไปพระนิพพานได้ .... แต่พระอริยะสงฆ์ บางท่านก็ยอมที่จะชดใช้กรรมให้หมดก่อน
อย่างเราๆนี่อ่ะ นอกจากจำใจ จำยอม กัดฟันยอมรับแล้ว ต้องใช้ความอดทนอย่างสูง เพื่อที่จะฝ่าฟันให้พ้น จริงๆเราก็ใช้กรรมกันมาทุกๆชาติ ภพไหนภูมิไหนคงไปมาหมดแล้ว ......เอ้อออออ เป็นกำลังใจให้ค่ะ ผิดแล้วรู้ว่าผิด ไม่ทำอีก แก้ไขในสิ่งที่ทำได้ ใจไม่หมองตอนตายก็ยังมีที่ดีๆรองรับ แต่ก็นั่นแหล่ะคะ ชีวิตคนมันสั้น จะตายวันไหนก็ไม่รู้ พระท่านเลยให้เรารีบ รีบทำความดีก่อนที่จะไม่ได้ทำ คิดได้ก็ไม่ประมาทค่ะ สาธุ -
มีครั้งที่ 2...!! อย่าบอกเชียวว่ามีครั้งที่ 3 อ่ะ โอ... ถึงกับหน้ามืดแทนเลย ครั้งเดียวก็มากพอแล้วสำหรับการนี้ อนิจจา กงกรรม กงเกวียน เฮ้อ
-
วันนี้ได้อ่านเรื่องเศร้าๆของท่านเจ้าของกระทู้ 3 เรื่องเลยนะคะ
ชีวิตเรามีแต่ความทุกข์นะคะ -
มาติดตามเรื่องของคุณsakkamol ถึงว่าตั้งหัวข้อแรกว่าครั้งแรกที่แท้มีครั้งที่สองนี่เอง ชอบอ่านเรื่องกฏแห่งกรรม มันทำให้เราคิดบวกมากขึ้นนะว่าอะไรที่มันเกิดขึ้นกับชีวิตเราทั้งๆที่ไม่ประมาทแล้วนั่นเป็นเพราะกรรมที่เราเคยทำเอาไว้ มันทำให้ไม่ทุกข์มาก อ่านที่คุณ Jt.Odyssey เอามาลงของคุณ ท.เลียงพิบูลย์ แล้วชอบมากต้องไปหาซื้อมาอ่านเพราะอ่านในจอมากไม่ไหวปวดตา คุณน่าจะต้องบันทึกไว้เผื่ออนาคตเอามาเขียนเป็นหนังสือไว้เป็นวิทยาทานแก่คนรุ่นใหม่ น่าจะได้บุญ
-
ส่วนผมเคยจ่ายเงินให้แฟนไปทำแท้งครั้งเดียวเนื่องจากแฟนไปค้างบ้านเพื่อน(เพื่อนผู้หญิง)ถูกเพื่อนของเพื่อนข่มขืนแล้วท้อง เลยไปทำแท้ง ทุกวันสร้างไม่ลุกปลุกไม่ขึ้น แฟนก็ถูกเจ้ากรรมนายเวรโจมตีอย่างหนัก ผมหาเงินได้เท่าไหร่ก็ต้องนำไปจ่ายเป็นค่ารักษาแฟน(แฟนเป็นมะเร็ง) เลยต้องทำบุญแต่ไม่บ่อยเนื่องจากการงาน กลุ้มใจจัง