เมื่อผมต้องทำแท้งครั้งที่สอง

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย ศักยิ์กมล, 15 สิงหาคม 2012.

  1. ศักยิ์กมล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    824
    ค่าพลัง:
    +1,316
    หลังจากที่ผมทำใจจากแฟนคนแรกที่เธอหนีผมไปได้แล้ว ผมก็ปรับสภาพเข้าสู่สภาวะปกติ คือเป็นคนยิ้มแย้มแจ่มใส รื่นเริง ขี้เล่น เหมือนเดิมแล้ว ประกอบกับการทำงานที่ดีของผม เมื่อทางเครือโรงแรมที่ผมทำอยู่มีการขยายสาขามากขึ้น ผมจึงได้มีโอกาสย้ายไปอยู่อีกโรงในระดับ 5 ดาว เมื่อมาอยู่ที่นี่ได้ประมาณ 1 ปี ผมก็ได้เปลี่ยนตำแหน่งงากจากที่เคยอยู่ในฝ่ายบริการ ก็ได้ขึ้นไปอยู่ออฟฟิต และได้เลื่อนตำแหน่งงานที่สูงในอีก 2 ปีต่อมา (ช่วงนี้ที่ชีวิตรุ่งเรื่องขึ้นน่าจะเป็นเพราะกรรมเก่ายังไม่มาตามสนอง) จึงได้มีโอกาสรู้จักกับน้องใหม่ที่เข้ามาทำงานที่นี่ที่เขามาส่งงานผมเพื่อตรวจสอบก่อนส่งไปยังระดับสูงต่อไป

    <O:p</O:pหลังจากที่เราทำความรู้จักกันจนสนิทสนมกันพอสมควรแล้ว ด้วยนิสัยขี้เล่นของผมแต่พูดน้อยเข้าได้กับเพื่อนร่วมงานทุกระดับ ทำให้เรายิ่งสนิทสนมกันมากยิ่งขึ้นจนกลายเป็นความรัก เธอจึงมักกลับบ้านค่ำ ๆ ดึก ๆ ทั้ง ๆ ที่งานออฟฟิต 5 โมงเย็นก็เลิกแล้ว โดยเรามักจะไปกินข้าวข้างนอกกัน ไปดูหนังกัน โดยเธอบอกกับทางบ้านว่ารถติดบ้าง ไปกินข้าวกับเพื่อนบ้าง สุดท้ายเราก็ย้ายมาอยู่ด้วยกัน โดยเธอให้เหตุผลทางบ้านว่ารถติดไม่อยากกลับบ้านค่ำ ๆ ดึก ๆ จึงไปเช่าคอนโด ฯ อยู่กับเพื่อน

    <O:p</O:pเดิมนั้นผมเช่า Apartment อยู่กับเพื่อน ๆ เมื่อเธอมาอยู่ด้วยเราจึงไปเช่าคอนโด ฯ อยู่กัน วันที่ผมย้ายออก ก็เก็บข้าวของทุกอย่างไปหมด แต่มีพระองค์หนึ่งเป็นพระหลวงปู่ทวดเนื้อว่านที่คุณพ่อให้มาตั้งแต่เดินทางขึ้นกรุงเทพ ฯ ครั้งแรกหายไป ผมเสียใจมากเพราะพ่อสั่งนักหนาว่าพระองค์นี้จะคุ้มครองลูกตราบใดที่ลูกยังทำความดี ทำให้ผมมองย้อนกลับไปถึงอดีตเรื่องการทำแท้งครั้งแรก พระท่านคงไม่อยากอยู่คุ้มครองเราอีกแล้ว

    <O:p</O:pเมื่อผมทำงานอยู่ที่ใหม่ได้ประมาณ 5 ปี และอยู่กับเธอมาประมาณ 2 ปี ผมก็ได้งานที่ประเทศลาว จึงลาออกจากที่เดิม แต่การไปอยู่ที่ประเทศลาวด้วยความคิดถึงและเป็นห่วงแฟน ผมต้องกลับกรุงเทพ ฯ ทุก ๆ เดือนเป็นอยู่อย่างนี้เรื่อยมา ทำให้เงินเดือนส่วนมากหมดไปกับค่าเครื่องบิน และค่าโทรศัพท์ สมัยนั้นค่าโทรศัพย์มือถือยังแพงอยู่มาก เพราะประเทศไทยเหมือนกับเพิ่งเริ่มบูมเท่านั้น (ที่จริงมีมานานแล้วแต่มีแต่คนมีเงินเท่านั้น สำหรับเรา ๆ แล้วยังไม่มีปัญาซื้อมาใช้) เมื่อผมทำอยู่ประมาณ 1 ปีผมเห็นว่าขืนเป็นอย่างนี้เงินเดือนเราก็ไม่เหลือหมดไปกับค่าเครื่องบินและโทรศัพท์ สู้กลับมาทำงานที่กรุงเทพ ฯ อย่างเดิมดีกว่า

    <O:p</O:pเมื่อกลับมากรุงเทพ ฯ เดือนนั้นผมจึงไปสมัครงานหลายที่ และก็ได้งานทำที่สนามบินดอนเมือง ทำอยู่ 6-7 เดือน ทางเพื่อนที่อยู่ที่ลาวโทรมาบอกว่าอยากให้ไปช่วยงานเพราะไปรับงานมาใหม่เป็นบ่อนกาสิโน ที่เปิดที่ประเทศลาวและให้เงินเดือนสูงมาก ก็ปรึกษากับแฟน แฟนบอกแล้วแต่พี่เห็นสมควรทางนี้ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะเธอทำที่นี่ 3 ปีกว่าแล้วการเป็นอยู่ก็เข้าที่เข้าทางแล้ว ผมจึงตัดสินใจไปลาวอีกครั้ง แต่ก็ยังเดินทางกลับกรุงเทพ ฯ ทุกเดือนเช่นเคย แต่ก็ไม่ลำบากเนื่องจากที่นี่มีค่าตั๋วเครื่องบินให้เดือนละเที่ยว จ่ายเอง 1 เที่ยว

    <O:p</O:pทำอยู่ที่ลาวรอบที่ 2 ได้ประมาณ 1 ปี แฟนโทรบอกประจำเดือนไม่มา 3 เดือนแล้วจะทำอย่างไรดี ผมก็บอกว่าดีแล้วเราจะได้มีลูกเสียที อยู่กันมา 3 ปีแล้วยังไม่มีลูกกันเลย เธอบอกว่ายังมีตอนนี้ไม่ได้เด็ดขาด เรายังไม่ได้แต่งงานกันให้ถูกต้องตามประเพณี พ่อแม่ของเธอต้องไม่ชอบใจแน่ (เธอปิดบังพ่อแม่เธอว่าอยู่กับผม ส่วนผมทางผู้ใหญ่ทราบหมด) เพราะผมไม่ชอบปิดบัง อาจจะเห็นเป็นผู้ชายด้วย จึงไม่ปิดบัง ก็บอกเธอว่าไหน ๆ ก็ถึงขั้นนี้แล้วเธอก็บอกพ่อแม่ตรง ๆ ไปเลยซิ เธอไม่ยอม เธอบอกว่าพ่อแม่ต้องไม่พอใจเธออย่างมากแน่ เพราะเธอเป็นลูกคนเดียวของพ่อแม่และหวังในตัวเธอมาก ๆ อยากให้ลูกได้ดิบได้ดีเธอขอทำแท้งเอาลูกออกก่อน เรื่องแต่งงานตอนนี้ไม่ทันแล้ว เพราะนี่เดือนที่สามแล้วที่ประเดือนไม่มา

    <O:p</O:pเมื่อเป็นเช่นนี้ทำให้ผมเริ่มคิดถึงอดีตขึ้นมาทันที ว่าเรานี้เป็นอะไรหนออยากมีลูกก็มีอุปสรรคอยู่ร่ำไป แต่ก็มาคิดดูก็น่าเห็นใจเธอเหมือนกันที่เธอพูดมาก็เป็นเหตุผลทั้งสิ้น ผิดที่ตัวเราวัน ๆ เอาแต่งาน ๆ จนไม่มีเวลาไปสู่ขอลูกสาวเขาแล้วแต่งงานให้ถูกต้องตามประเพณีเสียสักที จึงบอกเธอว่างั้นก็ตามใจ (ครั้งนี้ทางย่ายังไม่ทราบว่าเธอท้องเพราะผมเองก็เพิ่งทราบจากเธอเช่นกัน) ตกลงว่าเราก็ต้องทำแท้ง ผมมีประสบการณ์ครั้งแรกแล้วครั้งนี้เลยไม่ยากในการหาสถานที่ทำแท้ง เมื่อทำเสร็จแล้วผมโทรลางานกับเพื่อนต่ออีก 3 วันเพราะเธอมีอาการเพลียอย่างน่าตกใจ

    <O:p</O:pผมกลับไปทำงานต่อที่ลาวเมื่อครบกำหนดลา และทำมาไปประมาณ 8 เดือนเพื่อนที่ชักชวนผมมาทำงานงานด้วยก็เสียชีวิต เมื่อจัดการเรื่องศพเพื่อนเรียบร้อยผมก็ไม่อยากกลับไปทำงานอีกแล้วเพราะรู้สึกไม่ดีในหลาย ๆ อย่าง จน จู่ ๆ ได้รับโทรศัพท์จากทางบ้าน ว่าน้องชายเข้าโรงพยาบาลตอนนี้ยังไม่รู้สึกตัว ผมแจ้งไปว่าให้ดู ๆ กันไปก่อนคงไม่นานก็คงรู้สึกตัว 1 เดือนผ่านไปน้องชายก็ยังไม่รู้สึกตัว ผมจึงตัดสินใจลาออกจากงานที่ลาวกลับมากรุงเทพ ฯ บอกกับแฟนว่าต้องลงใต้ไปดูน้องไม่มีกำหนดการว่าเมื่อไหร่จะกลับ เธอจึงถามว่าแล้วไม่ไปทำงานหรือ ผมบอกว่าลาออกแล้ว เรื่องอื่นไม่สำคัญเท่าน้องเพราะ 1 เดือนแล้วน้องยังไม่รู้สึกตัวเลย (ไมขอบอกถึงสาเหตุต้องขออภัย) หลังจากผมลงมาดูน้อง 2 เดือน 3 เดือน ผ่านไปน้องก็ยังไม่รู้สึกตัว แต่ทุกคนก็ยังคอยความหวัง ช่วงนี้ทางผมกับแฟนก็เริ่มมีปากเสียงกันบ้างแล้วเธอหาว่าผมไปมีเมียอยู่ทางใต้จึงไม่ยอมกลับมาหาเธอที่กรุงเทพ ฯ บ้างเลย ส่วนผมก็ไม่แคร์ว่าเธอจะพูดอย่างไร ผมต้องเอาน้องผมไว้ก่อน เมื่อนานเข้า 3-4 เดือนเธอยื่นคำขาดเราเลิกกันตั้งแต่บัดนี้

    <O:p</O:pชีวิตเศร้าเข้าหาเราอีกแล้วแฟนก็ไม่เข้าใจว่าเราทุกข์เรื่องน้องแค่ไหน น้องก็ยังไม่รู้สึกตัวอีก เริ่มหันเข้าเหล้ายาอีกแล้วครั้งนี้หนักกว่าเก่า เพราะเรื่องงานก็ไม่ต้องกังวนอีกแล้ว แต่ก็เริ่มศึกษาการเลี้ยงกบจากหลาย ๆ ที่ ศึกษาถึงตลาดกบ เมื่อเห็นแนวทางเป็นไปได้ จึงลงทุนก่อสร้างเริ่มที่ 3 บ่อและชุดแรกออกไปได้ราคาดี กำไรเห็น ๆ ก็สร้างบ่อกบเพิ่มขึ้นเป็นสิบบ่อ ออกครั้งหนึ่งประมาณ 5-6 ตัน ระยะเวลาในการเลี้ยงก็สั้นแค่ 3-4 เดือน ผ่านไปประมาณ 8-9 เดือน น้องชายเริ่มรู้สึกตัวมีการตอบสนอง เวลาเรียกมีน้ำตาไหลแสดงถึงความรับรู้ ผมก็ไม่ต้องไปเฝ้าน้องมากนัก เริ่มทุ่มเทกับการเลี้ยงกบเต็มที่ ผมเพาะพันธุ์กบออกมามาก เพื่อต้องการขายลูกพันธุ์ด้วย แต่ก็ขายไม่ออก ฝนฟ้าจากที่เคยตกไม่เคยขาดน้ำ กลายเป็นไม่มีน้ำสำหรับถ่ายในบ่อกบ ในรัศมี 1 กิโลเมตรจากฟาร์มที่ผมตั้ง น้ำตามแหล่งธรรมชาติถูกผมซื้อสายยางมาต่อดูดน้ำไปใช้หมด จึงไปยืมแท็งค์น้ำของ อบต. ไปสูบน้ำที่คลองชลประทานที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นอยู่อย่างนี้ประมาณเดือนกว่า ทุนเริ่มหมด โทรหาแฟนก็รับสายบ้างไม่รับสายบ้าง รับก็พูดแต่ว่าเราเลิกกันแล้วจะโทรมาทำไม

    <O:p</O:pก็ในเมื่อเขาไม่เชื่อเราหาว่าเรามีเมียอยู่แล้วที่ใต้ ก็มีมันเสียเลย คราวนี้ผมได้สาวอิสลาม เอาไว้เล่าต่อในตอนต่อไป เพราะตอนนี้กรรมเริ่มตอบสนองผมเข้ามาเรื่อย ๆ แล้ว

    <O:p</O:pสุดท้ายนี้หากดวงวิญญาณของลูก ๆ รับรู้ก็ขอลูก ๆ อโหสิกรรมให้กับพ่อและแม่เขาด้วยเถิด (เขาอาจมีความจำเป็นของเขา) ส่วนพ่อนั้นทุกวันนี้ยังคิดถึงลูก ๆ เสมอแม้จะไม่เคยเห็นหน้าลูก ๆ พ่อทำบุญ สวดมนต์ไหว้พระ ภาวนา เพื่ออุทิศผลบุญให้ลูก ๆ อยู่เสมอ ๆ 5 ปีกว่ามาแล้ว ทุก ๆ ครั้งที่พ่อทำบุญ สวดมนต์ ภาวนา พ่อจะอุทิศบุญให้กับลูก ๆ เสมอ เพื่อขอให้ลูก ๆ ไปเกิดในภพภูมิที่ดีกว่า ขอลูก ๆ โปรดอโหสิกรรมให้พ่อและแม่ของลูก ๆ ด้วยเทอญ<O:p</O:p
     
  2. rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,732
    เง้อออออ ชีวิตสมบุกสมบันดีแท้ ... ขออย่าให้มีการแท้งครั้งที่สามอีกนะ อ่านเรื่องแมว จนถึงเรื่องนี้ ก็ขออนุโมทนาในธรรมทาน ความรู้สึกเกรงกลัวต่อบาป(แม้จะไม่ทันในหลายๆเรื่อง) แต่คงเป็นบทเรียนที่ดีสำหรับผู้อ่านหลายๆท่าน หรือแม้แต่ตัว จขกท เอง ชีวิตคนเราแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนตกเหวแล้วยังไม่รู้สึกตัวเลยว่า ตัวเองกำลังอยู่ก้นเหว แต่บางคนพอรู้ตัวก็ยังพอทันปีนป่ายขึ้นมาได้บ้าง ไม่หลงทางอยู่ในเหวลึกจนไม่สามารถขึ้นมามองแม้แสงตะวันตกดิน ....
    ผลของการกระทำ คือกรรมเที่ยง หนีก็ได้ ถ้าไปพระนิพพานได้ .... แต่พระอริยะสงฆ์ บางท่านก็ยอมที่จะชดใช้กรรมให้หมดก่อน
    อย่างเราๆนี่อ่ะ นอกจากจำใจ จำยอม กัดฟันยอมรับแล้ว ต้องใช้ความอดทนอย่างสูง เพื่อที่จะฝ่าฟันให้พ้น จริงๆเราก็ใช้กรรมกันมาทุกๆชาติ ภพไหนภูมิไหนคงไปมาหมดแล้ว ......เอ้อออออ เป็นกำลังใจให้ค่ะ ผิดแล้วรู้ว่าผิด ไม่ทำอีก แก้ไขในสิ่งที่ทำได้ ใจไม่หมองตอนตายก็ยังมีที่ดีๆรองรับ แต่ก็นั่นแหล่ะคะ ชีวิตคนมันสั้น จะตายวันไหนก็ไม่รู้ พระท่านเลยให้เรารีบ รีบทำความดีก่อนที่จะไม่ได้ทำ คิดได้ก็ไม่ประมาทค่ะ สาธุ
     
  3. ...คนสู้กรรม... เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    360
    ค่าพลัง:
    +967
    มีครั้งที่ 2...!! อย่าบอกเชียวว่ามีครั้งที่ 3 อ่ะ โอ... ถึงกับหน้ามืดแทนเลย ครั้งเดียวก็มากพอแล้วสำหรับการนี้ อนิจจา กงกรรม กงเกวียน เฮ้อ
     
  4. ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    วันนี้ได้อ่านเรื่องเศร้าๆของท่านเจ้าของกระทู้ 3 เรื่องเลยนะคะ
    ชีวิตเรามีแต่ความทุกข์นะคะ
     
  5. maenamping เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2011
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +183
    มาติดตามเรื่องของคุณsakkamol ถึงว่าตั้งหัวข้อแรกว่าครั้งแรกที่แท้มีครั้งที่สองนี่เอง ชอบอ่านเรื่องกฏแห่งกรรม มันทำให้เราคิดบวกมากขึ้นนะว่าอะไรที่มันเกิดขึ้นกับชีวิตเราทั้งๆที่ไม่ประมาทแล้วนั่นเป็นเพราะกรรมที่เราเคยทำเอาไว้ มันทำให้ไม่ทุกข์มาก อ่านที่คุณ Jt.Odyssey เอามาลงของคุณ ท.เลียงพิบูลย์ แล้วชอบมากต้องไปหาซื้อมาอ่านเพราะอ่านในจอมากไม่ไหวปวดตา คุณน่าจะต้องบันทึกไว้เผื่ออนาคตเอามาเขียนเป็นหนังสือไว้เป็นวิทยาทานแก่คนรุ่นใหม่ น่าจะได้บุญ
     
  6. โค้กคลับ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +49
    ส่วนผมเคยจ่ายเงินให้แฟนไปทำแท้งครั้งเดียวเนื่องจากแฟนไปค้างบ้านเพื่อน(เพื่อนผู้หญิง)ถูกเพื่อนของเพื่อนข่มขืนแล้วท้อง เลยไปทำแท้ง ทุกวันสร้างไม่ลุกปลุกไม่ขึ้น แฟนก็ถูกเจ้ากรรมนายเวรโจมตีอย่างหนัก ผมหาเงินได้เท่าไหร่ก็ต้องนำไปจ่ายเป็นค่ารักษาแฟน(แฟนเป็นมะเร็ง) เลยต้องทำบุญแต่ไม่บ่อยเนื่องจากการงาน กลุ้มใจจัง
     

แชร์หน้านี้