เมื่อพระอภิญญาท่านว่า...

ขอถามนิดนะคะ ถ้าเขื่อนป่าสักเป็นบางแสน แล้วคนที่อยู่รอบๆจ ลพบุรีกะ สระบุรีจะทำไงคะ หรือว่าจะเป็นเกาะเป็นแก่งให้พออาศัยได้บ้าง ถ้าเกิดจริงก็ไม่มีเงินไปหาที่อยู่ใหม่อ่ะค่ะ :'(

 

ขอตอบคุณ Acoto2 ด้วยความเคารพครับว่า...

ผมก็ไม่ทราบถึงเหตุผลสำคัญอะไร...ที่ทำให้พระอาจารย์ท่านเกริ่นนำเรื่องนี้ หรือต้องการสื่อสารให้คิด
ว่าท่านมีนัยยะสำคัญอะไรซ่อนอยู่?
หรือว่าร้ายแรงมากน้อยเพียงใด?
พอผมสอบถามรายละเอียดเรื่องนี้ท่านเพิ่มเติม... ท่านก็นิ่งเงียบไป
เหมือนท่านฉุกคิดบางอย่างขึ้นมาได้ ว่าไม่สมควรพูดอะไรไปมากกว่านี้

(มีโอกาสจะไปสอบถาม ท่านปู่อินทร์ตาทิพย์ด้วยตัวเองเลยดีกว่า แล้วจะมาเล่าสู่ให้ฟัง คงอีกไม่นานนี้ อดใจรอไว้ก่อน)
ภายหลัง เพียงได้คำตอบมาว่า
"สถานที่ที่ว่า มันก็ใช้เวลาอีกเป็นสิบปีนั่นแหละ อย่าเพิ่งตื่นกลัวกันไปเลย
แต่เหตุการณภัยพิบัติทั่วโลกในภายภาคหน้ามันก็ค่อนข้างมันก็น่ากลัวอยู่นะ

ให้รีบทำ ทาน รักษาศีล ปฏิบัติสมาธิธรรม ทำดีต่อมนุษย์และเพื่อนร่วมโลกอื่นๆกันให้มากๆ สะสมบุญกันให้มากๆ

อย่าได้ประมาทในวันเวลา
อย่าคิดว่าวันเวลามันจะคอยเรา
อย่าคิดว่าเวลายังมีอีกมาก...
วันนี้ยังมีลมหายใจ..อย่าทิ้งการภาวนาเด็ดขาด
ตายไปลมหายใจ...มันไม่มี จะเอาอะไรมา ภาวนาพิจารณาทุกข์ล่ะ
หมั่นสวดมนต์ ภาวนาสมาธิ พิจารณาธรรม เอาบุญ สะสมกันไว้ให้ดี

 

อ้างอิง:<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ toplus99
<O</O
โดยที่ก่อนที่จะมีงานสำคัญ ***พระอาจารย์จะเข้าสมาธิญาณแผ่เมตตาออกไป แก่บรรดาลูกศิษย์ ปรากฏเป็นความฝัน หรือว่าเป็นนิมิตหมายแห่งฝันทุกครั้ง ก็ว่ากันไปตามเข้าใจ ที่เกี่ยวกับพระอาจารย์หรือเกี่ยวกับที่ถ้ำแห่งนี้ การสื่อแบบนี้ก็จะเป็นรหัสรู้กันดี ในหมู่บรรดาลูกศิษย์ที่ปฏิบัติธรรมว่าที่สำนักสงฆ์*** <O</O

</TD></TR></TBODY></TABLE>
<O</O

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>
<O</O

***
<O</O

แวะมาทิ้งโค๊ด...ไว้ก่อน
แล้วฉันจะมาเล่าต่อกันอีกทีพรุ่งนี้หรือถัดไปในวันหยุด...
ว่าเรื่องนี้ไม่ธรรมดา![/QUOTE

มาต่อเรื่องนี้กันดีกว่า เบื่อแล้วเรื่องชายที่ชื่อว่า ลิโอ ได้อ่านได้ยินบ่อยๆเกินไปมันจะพลอยทำให้เบื่อเมาสลักเอาได้..

มาต่อเรื่อง
บันดาลความฝันปรากฏแก่ลูกศิษย์สายพระอาจารย์ ด้วยสายสัญญาเดิมตามกำลังบารมีที่เคยช่วยเหลือเกื้อหนุนจากอดีตภพชาติ

เป็นอีกแนวที่หลายท่าน อาจไม่เคยได้ยินได้อ่านที่ไหนมาก่อน...

ลองตามมาฟังดูเผื่อมีใครที่สนใจหรืออยากทำตามได้อย่างพระอาจารย์ท่านอธิษฐานให้เกิดขึ้นได้
เผื่อใครที่มีบารมีทางนี้ ได้มีอะไรสนุกๆเล่น ถือซะว่าเป็นกีฬาทางจิต นำไปฝึกซ้อมด้านอภิญญาอีกรูปแบบหนึ่งกันเล่นเพลินๆ.. ก็ดีนะ จะได้ไม่ต้องใช้โทรศัพท์บอกกล่าวให้เปลืองตังค์ ลดค่าใช้จ่ายเหลือเงิน ซื้อกับข้าวเพิ่มขึ้นอีก...

สนใจแล้วใช่มั๊ยล่ะ...

 

น่าจะเป็นโทรจิต ใช่มั้ยเอ่ย

 

ไอ้ฉันก็สนใจอยู่หรอกท่าน แต่ช่วงนี่มีแต่ขนมจีน น่ะท่าน อย่างไร่เสียฉันขอปูเสื่อรอก่อนละกัน

 

ฝันสามคืนติดกัน

สวัสดีค่ะ คุณ toplus9 เก้าขอกราบโมทนาบุญในธรรมะทานด้วยนะคะ
ติดตามอ่านมานานแล้วค่ะ chearrแต่พออ่านมาถึงความฝัน เก้าก็เจอกับตัวเองเช่นกันค่ะ ขอเล่าบ้างนะคะ คือเมื่อประมาณกลางเดือนพฤษภาคม 2555 เก้าฝันเห็นพระอาจารย์ที่เคยสอนสมาธิกรรมฐาน ฝันถึงท่าน 3 คืนติด ๆ กันเลยค่ะ
-ในฝันคืนแรกหลังเที่ยงคืนปรากฏเห็นเป็นใบหน้าท่านชัดเจน เก้าเหมือนรู้สึกค่อยๆ ตื่น ขึ้นมานอนนึกต่อว่า เอ๊ะ จู่ๆ ทำไมภาพพระอาจารย์ปรากฏขึ้นมาเหมือนฝันแต่เราก็เพิ่งจะนอนหลับนี่นา...แล้วก็นอนต่อละกัน เพิ่งจะตีหนึ่งตีสองได้เองมั๊งเนี่ย เดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นไปทำงานสาย
-ฝันอีกในคืนถัดมาคราวนี้ปรากฏใบหน้าท่านชัดเจนและเห็นครึ่งตัวช่วงบนท่านห่มจีจรเรียบร้อยปกติ เมื่อมองไปทีตัวท่านเห็นแสงสว่างใสกระจายเป็นรัศมีรอบที่องค์ท่านดูสงบ เบาสบาย
-ฝันอีกในวันที่สามแต่รอบนี้ฝันตอนใกล้ตื่นตอนเช้า เห็นเป็นใบหน้าท่านเหมือนเดิมชัดเจน มีเมตตามาก ตื่นมาก็นอนนึกว่า เอ๊ ทำไมเราถึงฝันเห็นพระอาจารย์สามวันติดกัน มีอะไรหรือป่าวหนอ
ตอนเช้าขับรถไปทำงานรู้สึกอยากรู้ว่าท่านมีอะไรหรือป่าว ท่านสบายดีหรือป่าว ไอ้เราก็มีเบอร์โทรท่านอยู่ แต่ถ้าจะโทรไปเองคงจะไม่เหมาะด้วยเพราะเราเป็นอิสตรี คิดได้ดังนั้นจึงตัดสินใจโทรไปเล่าให้แฟนฟัง และ ฝากให้แฟนโทรไปกราบเรียนถาม แต่แฟนบอกรอเลิกงานตอนเย็นค่อยโทรไปพร้อมกันดีไหม ถ้าเผื่อพระอาจารย์ถามว่าฝันยังไง เขากลัวจะเล่าความฝันให้ไม่ถูก...อ่ะ
......โห รอนานไป จู่ๆนึกได้ว่าเราก็มีเบอร์โทรลุงโยมอุปัฐฐากท่านนี่นา เก้ารีบกดโทรศัพท์หาลุงเองเลย แกบอกว่า พระอาจารย์ท่านสบายดี ตอนนี้ไปกิจนิมนต์ เด๋วเสร็จกิจหลังเพลแล้วลุงจะยิงไปบอกนะ แล้วโทรกลับมาเบอร์ลุงนี่แหละ ลุงจะส่งโทรศัพท์ต่อให้ท่านได้สนทนาเอง โห ดีใจมาก ที่ทราบว่าท่านสบายดี แต่....เอ มีอะไรหนอ ทำไมเราฝันสามคืนติดๆ กัน รอติดตามตอนต่อไปค่ะ.........:VO

 

สวัสดีเช่นเดียวกันครับ..ขอบคุณครับที่ติดตามอ่าน ได้กำลังใจขึ้นมาเยอะเชียว

แล้ว.. เอ มีอะไรหนอ ?
ทำไมเราก็รอมาเกือบสามคืนติดๆ กันเช่นกัน ก็ยังไม่มาเดินเรื่องต่ออีกซะที.........

แอบรอลุ้นเรื่องต่ออยู่นะครับเนี่ย
++++
ท่านใดที่มีประสบการณ์ฝันถึงครูบาอาจารย์ที่เคย เกี่ยวข้องสัมพันธ์ทางจิตก็บอกเล่ากัน ถ่ายทอดเป็นวิทยาทานแก่สมาชิกท่านอื่นๆได้นะครับ ..ยินดีต้อนรับ
=====
แล้วฉันจะมาเดินเรื่องต่ออีกที

 

มาต่อเรื่องใหม่
# บันดาลความฝันปรากฏแก่ลูกศิษย์สายพระอาจารย์ด้วยสายสัญญาเดิมตามกำลังบารมีที่เคยช่วยเหลือเกื้อหนุนจากอดีตภพชาติ
<O</O
<O</O
เรื่องราวที่ถูกนำมาเฉลยหลังจากที่ผู้เขียน เกิดความประหลาดใจบางอย่างที่เริ่มต้นเกิดขึ้น เมื่อย้อนเวลาไปร่วม14-15ปีก่อนโน้น สมัยที่ยังใช้ชีวิตทำงานที่ จ.จันทบุรี จากนั้นที่ผู้เขียนลางานชั่วคราว เพื่ออุปสมบทที่วัดประจำอำเภอบ้านเกิดที่นครราชสีมา แล้วไปศึกษาปฏิบัติธรรมที่สำนักสงฆ์ถ้ำ(ปัจจุบันได้เปลี่ยนสถานะเป็นวัดแล้ว) แถบเขตเขา อ.มวกเหล็ก อันมีพระอาจารย์ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าสำนักสงฆ์ในขณะนั้น

หลังจากลาสิกขาลาเพศ กลับไปทำงานต่อที่จังหวัดจันทบุรี ก็เกิดความสงสัยหลายๆครั้งว่า ทำไมต้องฝันเรื่องราวต่างๆ ถึงพระอาจารย์อยู่เรื่อยๆ

หลังจากฝันวันนั้น ก็จะลองโทรศัพท์ทางไกลจากจันทบุรีไปคุยสอบถามกับญาติๆทางบ้านที่อยู่โคราช ก็จะทราบว่าทางพระอาจารย์มีกำหนดการทำบุญเรื่องโน่น เรื่องนี้ที่ถ้ำในอีกใน1-2 สัปดาห์ ข้างหน้านี้เป็นเช่นนี้ทุกครั้ง ผู้เขียนก็ได้มีโอกาสเตรียมตัวลางาน ลาพักร้อน ไปร่วมงานตามโอกาสเหมาะสม ไปได้บ้างไม่ได้บ้างแล้วแต่สภาพ ณ ตอนนั้น<O</O
เช่น วันทำบุญครบรอบวันเกิดพระอาจารย์ (พระอาจารย์ท่านเรียกว่า วันแก่) หรือว่าวันบูชาครูบูรพาจารย์ประจำปี(วันไหว้ครูพระอาจารย์)ซึ่งท่านจะจัดให้มีอยู่แล้วทุกปีหรืออาจมีกำหนดการที่นอกเหนือไปจากงานปรกติประจำปี เช่นงานพิเศษสร้างพระใหญ่ หรือเททององค์พระพรหม,องค์พระพิฆเนศ ,พระอรหันต์108รูป ฯลฯซึ่งกำหนดการจะไม่แน่นอนแล้วแต่ฤกษ์สะดวกที่ท่านเห็นสมควร

<O</O
เหตุการณ์ในความฝัน นี้จะปรากฏเป็นนิมิตต่างๆชัดเจนก่อนฟ้าสว่าง ปรากฏเกิดบ่อยครั้งมาก
จนอดฉงนสงสัยไม่ได้ว่าสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจากอะไรกันแน่หนอ?<O</O
จนมาเข้าใจเรื่องนี้มากขึ้น เมื่อถึงงานวันบุญไหว้ครูบาอาจารย์ของทางสำนักสงฆ์ ในคืนวันหนึ่งที่มีโอกาสสนทนากับพระอาจารย์แบบตัวต่อตัว ช่วงเวลาประมาณเกือบ 5ทุ่ม ขณะที่ก่อนจะเข้าที่พักหลับนอน ได้เล่าเรื่องว่า

<O</O
“พระอาจารย์ครับ... ผมฝันถึงพระอาจารย์ทีไร ก็โทรศัพท์จากจันทบุรีไปสอบถามทางบ้านที่โคราชทุกครั้ง ก็จะตรงกับพระอาจารย์ที่จะมี กำหนดจัดงานทำบุญโน่นนี่ทุกทีเลย ผมนี่ฝันโค-ตะ-ระ แม่นเลย ท่านว่าผมเจ๋งมั๊ย? ฉันก็อวดคุยไปตามประสาคนขี้โม้กับพระอาจารย์”

<O</O
“เออ..ทิดเอ็งเก่ง! เอ็งเก่ง แต่ข้าว่า..ข้าเก่งกว่านะ (หัวเราะ) ” เอา...อีกแหละเกทับกันอีกจนได้
<O</O
“เพราะเราทำให้ทิด(ผู้เขียน)ฝันถึงเราได้ รวมถึงคนอื่นๆฝันถึงเรา ฝันถึงถ้ำแห่งนี้พร้อมๆกันได้ เรามิเก่งกว่ารึ!” พระอาจารย์ว่างั้น

<O</O
สมัยนั้นท่านพูดกับผู้เขียนงี้..ไพเราะระรื่นเชียว ผิดกับเดี๋ยวนี้โดนเอ็ดประจ๊ำ..
..เฮ้อ...สมแล้ว!กรรมแท้เรา อยากทะเล้นนัก

<O</O
“ เอ๊า! นี่ผมหลงเข้าใจว่าตัวเองเก่ง ฝันแม่นมาตั้งนานนะเนี่ย โห.. เซ็งเลย”
<O</O
“แหม..ไอ้ทิด ความสงบของจิตของทิดเองมันก็ใช้ได้อยู่น่า.. น้อยใจไปทำไม”
<O</O
“ค่อยยังชั่วหน่อย !แล้วพระอาจารย์ทำยังไงเรื่องทำให้ฝันได้นี่ครับ”

" เรื่องจะฝันหรือไม่ฝัน มันอยู่ที่ข้าจะทำให้ฝันหรือไม่ฝันต่างหาก ต่อให้เอารูปข้าไปนอนดูทั้งวันทั้งคืน ก็ไม่มีทางฝันถึงข้าได้เพราะไม่เปิดทางไว้ให้"

<O</O
“มานี่ๆ ..จะทำอะไรให้ดู”
ว่าแล้วท่านก็ลุกขึ้นจากแท่นอาสนะสงฆ์ ลงมาข้างล่างแล้วจับมือผู้เขียนจูงเดินตรงไปที่ ที่ลูกศิษย์รุ่นพี่ของสำนักนี้คนหนึ่งที่คุ้นเคยกับที่นี้เป็นอย่างดี กำลังนอนหลับสนิทอยู่ข้างๆกับเมียและลูกเล็กอีกหนึ่ง พร้อมกับคณะญาติธรรมอีกหลายๆกลุ่มที่เดินทางมาร่วมงานบุญ<O</O
แต่เสียงกรนของเฮียซ้ง งี้ ดังสนั่น คร่ออ..ก ก.ๆ คร่ากกๆ ลั่นศาลาธรรมน่ารำคาญที่สุด เก่งกว่าทุกคน(ไม่รู้เมียแกทนนอนหลับได้ไง..)
<O</O
“ข้าเลือกเอาไอ้เจ้าซ้ง..นี่แหละ มันนอนเสียงกรนดังเอาซะคนอื่นแทบนอนไม่ได้”<O</O
จากนั้น ท่านก็หยุดกลั้นหายใจนิดๆ คว่ำฝ่ามือยื่นไปทำลักษณะวนๆ วงกลมแบบตามเข็มนาฬิกา 3 รอบ ห่างเหนือหัวเฮียซ้งประมาณ1ฟุต (เจ้าของฉายา ขี้โม้จอมนอนกรนสนั่น)<O</O
เมื่อท่านกระทำการบางอย่างดังนี้แล้วท่านก็พูดขึ้นว่า
<O</O
“ทิดเอ็งคอยดูนะว่า วันพรุ่งนี้ไอ้เจ้าซ้งมันจะพูดเกี่ยวกับความฝันมันว่าไง”
<O</O
จากนั้นพระอาจารย์ก็ชวนให้ผู้เขียนขึ้นภูเขาพร้อมกับท่านไปนอนพักที่กุฎิท่านขณะเดินขึ้นไปบนเขา ผู้เขียนยัง..งงสงสัยอยู่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นเป็นลักษณะไหน?
<O</O
รุ่งเช้าก็ตื่นลงเขามาที่พื้นล่าง เพื่อทำกิจวัตรมาพร้อมๆกับท่านพระอาจารย์
<O</O
และแล้ว สิ่งที่ไม่คาดฝันในเวลาสายๆของวันนั้น หลังจากได้ยินเฮียซ้ง เจ้าเก่าไปนั่งเล่าความฝันคนโน้นที..นั่น.. นี่ฟังที อย่างอารมณ์ดีผู้เขียนก็ชักเริ่มเอะใจว่า..แกกำลังโม้เรื่องอะไรอีกแล้ว

<O</O
“ว่าไงเฮียฝันดีรึไงเมื่อคืน?”ผู้เขียนหยั่งถาม
<O</O
“โอย ทิดเอ๊ย!...นอนก็เหมือนไม่ได้นอน ฝันเห็นแต่พระอาจารย์ทั้งคืน ฝันเรื่องนี้จบ ก็โยกไปฝันเรื่องใหม่ไปอีก เป็นงี้ไปเรื่อยๆ..ที่แน่ๆนะมีแต่พระอาจารย์ตามไปอยู่ด้วยทุกเรื่องจนเช้าเลย”
<O</O
“ช่วงบ่ายๆ ว่าจะแอบหลบเมียไปนอนแบบไม่ฝันซักครึ่งชั่วโมงก่อน.. (หัวเราะ)เพลียๆชอบกล”

<O</O
เอาแล้วไง! อ๋อเข้าใจแล้ว เมื่อคืนนี้ก่อนเข้าจำวัตรที่กุฏิบนเขา พระอาจารย์อธิษฐานด้วยฤทธิ์ เข้าไปแทรกในฝันเฮียซ้งทั้งคืนซะแล้ว นี่สมน้ำหน้า
อยากนอนกรนเสียงดังนัก โดนซะเลยเอามือวนเหนือหัว3รอบ
...นี่เล่นเอาฝันกันทั้งคืน

ทดสอบทำขั้นเอ๊กแซมเปิ้ลให้ดูกันแบบชัดๆกันไปเลย
โอ้เด็ดแฮะพระอาจารย์!
<O</O
เดี๋ยวค่อยมาต่อ...รอก่อนนะ<O</O

 

พระอาจารย์ท่านเข้าใจแกล้งจริงๆ เล่นทดลองให้ดูอย่างนี่ง่วงแย่เลย:d

 

คุณตะกั่วป่าครับ มันก็ไม่แย่เท่ากับนั่งดูหนังแผ่นซีรี่ย์เกาหลี3 แผ่น หรือไม่ลำบากเท่ากับทนถ่างตาดูบอลยุโรปหรอกครับ...เที่ยวพูดไปอายเขาน่า

งั้น...ไปวัดคราวหน้าอีก ก็อย่าเผลอนอนหลับกรนเสียงดัง
ก็แล้วกัน ฮ่า ฮ่าๆ
เดี๋ยวมีลุ้น

 

ขออภัยเจ้าค่ะ ขอเวลาเคลียร์งานทางโลกก่อนค่ะ ช่วงนี้งานโปรเจ็คเข้าพร้อมกันหลายโครงการ ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบมากๆ ในการตรวจสอบสเปคงานระบบและคำนวณตัวเลขแต่ละโครงการค่ะ แถมบางวันเก้ายังต้องออกไปเคลียร์งานที่ไซต์งานต่างๆ ด้วยค่ะ อดใจรอหน่อยนะคะ ลุยเสร็จแล้ว เด๋วมาเล่าต่อค่ะ อิอิ แต่งานทางธรรมก็อยู่ในจิต มีสติอยู่กับปัจุบันขณะตลอดค่ะ สบายๆ ค่ะ

 

จุ๊ๆอย่าเอ็ดไปท่านอาอายเค้า 555!:d:d:d

 

โอกาสต่อไป..มีเวลา
จะขอคั่นว่าด้วยสนทนาเพื่อการแสดงธรรมเรื่อง...

ผลกรรม..ของมวลมนุษย์...โดยฆราวาสอภิญญาอริยะบุคล เมืองโคราช
สหธรรมมิกหลวงตามหาบัว

" กรรมแห่งการเนรคุณแผ่นดินนี้...กรรมนั้นหนักเหลือประมาณ"

 

อยากฟังๆ มีอะไรงัดออกมาให้หมดเลยครับ อิอิ

 

เรื่องนี้น่าสนใจมากครับ จะัได้เตือนสติคนที่คิดและทำอยู่ไม่ว่าฝ่ายไหน ควรคิดถึงบุญคุณของพระมหากษัตริย์และแผ่นดินที่ให้เรากำเนิด ให้เราอยู่อาศัยให้มากไว้

 

จะให้งัดออกมาให้หมด..นี้คงยาก

เพราะมันยัง....มีเหลืออีกเยอะ ทำไงดี?

ยิ่งท้ายๆก่อนอำลาวงการ นี่รับรองเหวอกันหนัก..ร้องป๊าดสวดยวดเลย!ลวกเพี่ย!

จะพยามยามอัดๆเรื่องก่อนเข้าพรรษา
..ก่อนเว้นวรรคพักชั่วคราว

หากมีเรื่องหนักๆ น่าสนใจค่อยมาโม้โฆษณาต่อเป็นระยะๆ

 

เดี๋ยวจัดไปให้เต็มๆครับ ท่านตะกั่วป่า
แต่คงขอเคลียร์คิวเรื่อง....ก่อนน่าจะปิดเรื่องได้ในวันเสาร์-อาทิตย์นี้

# บันดาลความฝันปรากฏแก่ลูกศิษย์สายพระอาจารย์ด้วยสายสัญญาเดิมตามกำลังบารมีที่เคยช่วยเหลือเกื้อหนุนจากอดีตภพชาติ
<O</O

 

จากคำตอบของคุณ siritonmo แฟนคลับยุคต้น
บังเอิญไปเจอบทความหนึ่งมา เห็นว่าน่าสนใจ
เลยเอามาเล่าต่อเพื่อนพี่น้องทุกคน ...


เผื่อถึงคราวจำเป็นเกิดไฟฟ้าดับ โทรศัพท์เจ๊ง!กันนานๆ
ฝึกซ้อมให้ชำนาญไว้ก่อนก็ดีครับ ยามจำเป็นจะได้ช่วยเหลือกันได้...
...เรื่องแบบนี้ทุกวันนี้ภัยมันใกล้ตัวเราเหลือเกิน ประมาทได้ที่ไหน..ใช่/ไม่ใช่

โทรจิต คืออะไร<O</O
หลายคนคงเคยได้ยินคำนี้ แต่จะมีสักกี่คนนะ ที่เข้าใจ ว่า โทรจิต คืออะไร

<O</Oโทรจิต (Telepathy) คือการถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดจากใจของผู้ส่ง<O</O
ไปถึงผู้รับโดยไม่ผ่านวิธีการสื่อสารอื่นใดนอกจากใช้ใจเป็นสื่อเท่านั้น<O</O
<O</O
เป็นความสามารถในการสื่อสารอีกระดับหนึ่งที่ใช้แทนการพูดและการเขียน<O</O
โดยใช้ใจเป็นสื่อในการรับและส่งข่าวสาร
<O</O
<O</O
เป็นการถ่ายทอดพลังทางกาย พลังทางอารมณ์และพลังทางความคิด<O</O
จากผู้ส่งไปยังผู้รับโดยไม่ต้องมีการสัมผัสกันทางกาย<O</O
<O</O
โทรจิตเป็นสัญชาตญาณที่มนุษย์ในสมัยโบราณและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม<O
เคยใช้เป็นกลไกเพื่อความอยู่รอดด้วยการติดต่อสื่อสารกันทางจิต<O
<O</O
โทรจิต เป็นการสื่อสารที่ไม่ผ่านประสาทสัมผัสทางกายทั้ง 5<O</O
ตา หู จมูก ลิ้น กาย

โทรจิตมีกี่ประเภท<O</O
<O</O

1. โทรจิต ถ่ายทอดเรื่องทางกายภาพ<O</O
เช่นส่งกระแสจิตไปถึงผู้รับว่าเราเห็นอะไร เราได้ยินอะไร ฯลฯ<O</O
<O
2. โทรจิต ถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึก<O
เช่นกระแสจิตที่ส่งไปถึงผู้รับ ให้รับรู้ถึงความรัก ความเกลียดชัง ความเศร้า<O
ความกลัวฯลฯ
3. โทรจิต ถ่ายทอดความคิดจิตใจ<O</O
เป็นการส่งกระแสจิตออกไปถึงผู้รับให้รับรู้ความคิดของเรา<O</O
<O</O

คนเราทุกคนมีศักยภาพที่จะสามารถใช้โทรจิตได้ทั้งนั้น <O</O
ด้วยการเรียนรู้และฝึกการใช้โทรจิต<O</O
ต้องรู้จักทำใจให้ว่างและมีสมาธิในขณะที่จะส่งหรือรับโทรจิต<O</O
<O
คนที่เป็นฝาแฝดกันมักจะมีคลื่นความถี่ในระดับเดียวกัน และมักใช้โทรจิต<O</O
ในการสื่อสารกันโดยสัญชาตญาณ<O</O
<O</O

คนที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดสนิทสนมกันเช่น คนในครอบครัวเดียวกัน<O</O
คู่รักกันมักจะสื่อสารกันด้วยใจได้ หรือใช้โทรจิตรับส่งถึงกันได้<O</O
ยิ่งถ้ามีการฝึกฝนการใช้โทรจิตด้วยแล้วจะได้ผลเร็วมาก<O</O
และใช้การโทรจิตถึงกันได้ตลอดชีวิต<O</O
<O</O

อย่างเช่นลูกที่เรียนอยู่ต่างประเทศ อยู่ๆก็คิดถึงแม่ เป็นห่วงแม่<O</O
จึงโทรศัพท์ทางไกลไปหาก็ทราบว่าแม่กำลังป่วยหนัก <O</O
เพราะกระแสจิตของแม่ที่กำลังป่วยอยู่นั้นได้ถูกส่งไปหาลูก<O
ทำให้ลูกรับรู้ได้ว่าแม่กำลังป่วยอยู่<O</O
<O</O
หรือคนที่เป็นคู่รักกันหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งคิดถึงและโหยหา<O</O

อีกฝ่ายหนึ่งจะรับรู้ได้ด้วยใจ<O</O
จิตของคนที่ฝึกมาดีจิตที่ปราศจากอคติปราศจากโทสะ<O</O
ปราศจากความยึดมั่นถือมั่นไม่หลงงมงายไม่อยากได้อยากมี<O</O
ไม่อิจฉาริษยาไม่โกรธแค้นอาฆาตพยาบาทมีใจสงบนิ่ง<O</O
เป็นจิตที่ละเอียดอ่อนและมีพลังจะสามารถหยั่งรู้ใจคน<O
และอ่านความคิดคนอื่นได้<O</O
<O</O

กระแสจิตของคนเราเป็นคลื่นพลังงานชนิดหนึ่งที่มีความถี่สูง<O</O
และละเอียดแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล<O</O
กำลังความคิดของแต่ละคนที่ส่งออกไปนอกตัว <O</O
สามารถไปกระทบจิตของคนที่มีความสามารถในการรับคลื่นกระแสจิตได้<O</O
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระแสจิตที่ส่งมาจากคนที่เรารู้สึกผูกพันใกล้ชิดสนิทสนม<O</O
จะสามารถติดต่อกันทางโทรจิตได้<O</O
บุคคลที่มีความสัมพันธ์กันทางอารมณ์อยู่แล้ว<O</O
จะมีประสาทสัมผัสรับรู้พิเศษถึงกันได้<O</O
<O</O

"คลื่นกระแสจิต" เป็นพลังงานที่มีความละเอียดสูงมาก<O</O
จนยังไม่มีเครื่องมือใดๆในปัจจุบันจะวัดได้<O</O
คนเราทุกคนเป็นได้ทั้งผู้รับคลื่นกระแสจิตและเป็นผู้ส่งคลื่นฯ<O</O
<O</O

“โทรจิต” (Telepathy) เป็นความสามารถถ่ายทอดความรู้สึก<O</O
หรือสิ่งที่ตนรู้สึกในใจไปให้แก่สิ่งมีชีวิตอื่นได้<O</O
โดยการส่งกระแสจิตออกไปถึงผู้รับ<O</O

ดังนั้น “ความคิด” ที่คนหนึ่งๆเปล่งออกมา<O</O
จึงเป็นสิ่งที่ใครๆก็สามารถรับคลื่นความคิดนี้ได้<O</O
ถ้าคนๆนั้นเปิดเครื่องรับในร่างกายตนรับคลื่นนั้นๆเข้ามา
<O</O

 

ต่อ.. โทรจิต คืออะไร<O</O


เซลล์แต่ละอันในร่างกายมนุษย์<O</O
ก็เป็นสิ่งที่สามารถปล่อยคลื่นความคิดออกมาได้เช่นกัน<O></O>
และในทางกลับกันคลื่นความคิดก็ย่อมสั่นสะเทือนเซลล์แต่ละอัน<O></O>
ในร่างกายตนเองได้ด้วย<O></O>
<O></O>
ดังจะเห็นได้ว่าความเครียดที่สั่งสมนานๆ<O></O>
เป็นตัวการสำคัญอันหนึ่งที่ก่อให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บแก่มนุษย์<O></O>
เพราะคลื่นความคิดเหล่านี้เข้าไปมีผลกระทบต่อร่างกายนั่นเอง<O></O>
<O></O>
การมีความคิดที่ดีแจ่มใสร่าเริงมองโลกในแง่ดี<O></O>
จึงเป็นสิ่งที่ขาดเสียมิได้สำหรับมนุษย์<O></O>
บางครั้งเราจึงควรหลีกให้ห่างผู้คนที่ปล่อยคลื่นความคิดร้ายๆ<O></O>
ถ้าหากทำได้จะได้ไม่ไปรับผลสะเทือนที่ไม่ดีของผู้คนเหล่านั้นเข้ามา…<O></O>
<O></O>
คลื่นความคิดที่ควรหลีกเลี่ยง:<O></O>
<O></O>
สิ่งที่ต้องระวังมากที่สุดก็คือการไม่ให้คลื่นความคิดจำพวกความโลภ<O></O>
ความโกรธความหลงความไร้สาระในเรื่องเล็กน้อยความเกลียดชัง<O></O>
ความเกียจคร้านความอิจฉาริษยาอคติเหล่านี้ไหลเข้ามาสู่ตัวเรา<O></O>
<O></O>
คลื่นความคิดที่ควรรับเข้ามา:<O></O>
<O></O>
คลื่นความคิดจำพวกความรักความเมตตาความหวังดีความห่วงใย<O></O>
ความเอื้ออาทรการมองโลกในแง่บวกการให้อภัยความกระตือรือล้น<O></O>
ความร่าเริงแจ่มใสเหล่านี้ให้ไหลเข้ามาสู่ตัวเรา<O></O>
<O></O>
ความสัมพันธ์ระหว่างกายกับจิต<O></O>
เราควรฝึก “ควบคุมใจ” ทำให้เซลล์ในร่างกายทั้งหมด<O></O>
สามารถตอบสนองคำสั่งที่ใจสั่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ<O></O>
ด้วยเหตุนี้ร่างกายของเราจึงจะแข็งแรงและมีอายุยืนยาว<O></O>
<O></O>
เราทุกคนสามารถทำได้เช่นเดียวกัน<O></O>
หากแต่บุคคลผู้นั้นต้องมีจิตใจที่กระจ่างเที่ยงธรรม<O></O>
มีชิวิตอยู่อย่างมีปณิธานศรัทธาความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้า<O></O>
และมีความคิดในเชิงบวก<O></O>
เซลล์ในร่างกายก็จะตอบสนองต่อจิตใจบุคคลนั้นในทางบวกเช่นกัน<O></O>
ทั้งเรื่องสุขภาพร่างกายและจิตใจย่อมได้ผลเช่นเดียวกัน<O></O>
<O</O

แต่คนส่วนใหญ่ไม่ตระหนักถึงจิตสำนึกนี้กลับมีชีวิตโดยใช้แค่ “ใจ” <O</O
หรือ "สิ่งรับรู้ในอารมณ์ทั้งหลาย"เท่านั้น<O</O
ซึ่งผันผวนง่ายและแปรปรวนอย่างรุนแรงมาเป็นหลักของชีวิต<O</O
เราจึงควรพยายามประสานใจของตนให้สอดคล้องกับจิตสำนึกนี้…<O</O
<O></O>
“คลื่นความคิด” ซึ่งมีลักษณะคล้ายแสง<O></O>
ถ้ากระแสความคิดถูกส่งเป็นคลื่นออกไปแล้ว<O></O>
มันจะเคลื่อนที่ไปอย่างไม่มีขอบเขต<O></O>
แต่ไม่ได้มีลักษณะเป็นเส้นตรงทิศทางเดียว<O></O>
เหมือนลูกกระสุนจากปากกระบอกปืน<O></O>
หากแต่มีลักษณะเหมือนรังสีที่เปล่งออกมาเป็นเส้นตรงในทุกๆทิศทางและแผ่ขยายตัวโดยมีจุดศูนย์กลางอยู่จุดหนึ่ง…. <O></O>
จนกว่าจะถูกดูดซับหรือถูกขวางกั้นโดยสิ่งอื่นหรือวัตถุอื่น…<O></O>
<O</O

 

ต่อ.. โทรจิต คืออะไร<O</O


นักพลังจิตเชื่อว่าความกดดันทางอารมณ์สูงสุดที่เกิดขึ้นทันทีทันใดของคนเรา<O</O
เป็นสาเหตุทำให้เกิดเหตุการณ์ทางอำนาจจิตได้<O</O
อารมณ์ของคนเรานั้น<O</O
เป็นสวิตซ์ปิดเปิดการส่งโทรจิตธรรมชาติได้โดยอัตโนมัติอย่างเช่น<O</O
<O</O

เมื่อเราต้องประสบกับเหตุการณ์รุนแรง<O</O
หรือเกิดอุบัติเหตุกับญาติพี่น้องหรือคนสนิท<O</O
อารมณ์ที่เครียดสูงสุดนี้<O</O
ก็จะเป็นตัวเปิดสวิตซ์การส่งหรือรับโทรจิตโดยฉับพลันทันที<O</O
<O</O

อย่างในกรณีที่เกิดกับทหารเรือดำน้ำรัสเซียคนหนึ่งซึ่งป่วย<O</O
และต้องนอนพักอยู่ที่ฐานทัพจึงไม่ได้เดินทางออกไปกับเรือเที่ยวนั้น<O</O
พอตกบ่ายเขาก็ฝันไปว่า<O</O
เขายืนอยู่บนดาดฟ้าเรือในขณะที่เรือกำลังดำลง<O</O
เขาไม่สามารถที่จะเข้าไปในเรือได้<O</O
ตัวเขาค่อยๆจมลงไปในน้ำพร้อมกับเรือ<O</O
เขาสำลักน้ำเข้าไปหลายอึกและรู้สึกว่ากำลังจะจมน้ำตาย<O</O
<O</O

จนบัดนี้เขายังจำฝันร้ายนั้นได้ติดตา<O</O
เพราะหลังจากที่เราเข้าเทียบท่าที่ฐานทัพ<O</O
เขาก็ทราบว่าเพื่อนของเขาจมน้ำตายเนื่องจากติดอยู่บนดาดฟ้าเรือ<O</O
ในขณะที่เรือกำลังดำลงสู่ใต้ผิวน้ำ<O</O
<O</O

โทรจิตเป็นประสาทสัมผัสที่ 6 ของคนเรา<O</O
ที่นอกเหนือไปจากตาหูจมูกลิ้นและกาย<O</O
ซึ่งทุกคนมีความสามารถพิเศษทางโทรจิตนี้แฝงอยู่<O</O
หากแต่ถูกบดบังด้วยจิตใจที่หม่นหมอง<O</O
<O</O

ความจริงแล้วคนเราทุกคนล้วนแล้วแต่ก็มีความสามารถในการส่ง<O</O
และรับกระแสจิตด้วยกันทั้งนั้นแต่ความสามารถพิเศษนี้<O</O
จำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องทำการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอและแน่นอน<O</O
<O</O

บางคนอาจมีความสามารถพิเศษนี้มากกว่าคนอื่นๆ<O</O
ผู้ส่งและผู้รับกระแสจิตนั้นมีความสำคัญเท่ากันเพราะถ้าผู้ส่งกระแสจิต<O</O
ส่งมโนภาพที่เลือนลางมาให้เราก็จะได้แต่ภาพที่เลือนลางนั้นด้วย<O</O
<O</O

ฉะนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้รับและผู้ส่งข่าวสารทางจิต<O</O
จักต้องฝึกปรือกันมาอย่างดีและต้องสามารถสร้างมิตรสัมพันธ์ทางจิต<O</O
หรือรับคลื่นกระแสจิตให้เข้ากันได้เป็นอย่างดีด้วย<O</O
<O</O

จงทำตัวให้สบายผ่อนคลายอารมณ์<O</O
ลดภาวะความตรึงเครียดทางกายและทางใจลง<O</O
และควรจะกำจัดความกังวลหรืออารมณ์ที่ขุ่นมัวออกให้หมดสิ้น<O</O
จงทำให้มีความเชื่อมั่นมากที่สุดเท่าที่จะทำได้<O</O
<O</O

เมื่อเริ่มส่งข่าวสารทางจิตไปยังผู้รับนั้น<O</O
ปล่อยใจให้ล่องลอยจงแน่วแน่อยู่กับข่าวสารและข้อมูลที่จะส่ง<O</O
พร้อมกับนึกถึงหน้าของผู้รับกระแสข่าวสารทางจิตจากเรา<O</O
ให้กระจ่างอยู่ในดวงจิตเมื่อท่านฝึกเช่นนี้บ่อยๆจนมีความคุ้นเคย<O</O
และสามารถปรับคลื่นกระแสจิตเข้ากันได้แล้ว<O</O
ในไม่ช้าไม่นานท่านก็จะเปรียบเสมือนมีเครื่องรับส่งโทรจิตติดตัว<O</O
ใช้ได้ทุกเวลาทุกสถานที่และทุกสภาวะดินฟ้าอากาศ<O</O
<O</O

ทั้งนี้ทั้งนั้นอำนาจจิตธรรมชาตินั้นน่าจะเกิดมาจากความสอดคล้องกัน<O</O
ระหว่างคลื่นสมองของผู้ส่งและผู้รับที่มีอำนาจสัมพันธ์กันซึ่งเรื่องนี้<O</O
คนทั่วไปสามารถฝึกปรับระดับจิตของพวกเขาให้เข้ากันได้ภายใน 3 เดือน<O</O
<O</O

แล้วยังมีข้อสำคัญอีกอย่างหนึ่งว่าการฝึกโทรจิตถ้าจะให้ได้ผลสูงสุด<O</O
นอกจากจะปฏิบัติตามข้างต้นที่กล่าวมาแล้ว<O</O
เราควรจะมีการนัดหมายเวลาเพื่อให้ปฏิบัติพร้อมเพรียงและสอดคล้องกัน<O</O
(ในที่นี้หมายถึงต้องสอดคล้องกันทั้งทางกายจิตใจและเวลาด้วย) <O</O
<O</O

ก็ขอให้ทุกๆคนมีความรู้สึกนึกคิดที่ดี<O</O
กระแสจิตที่ส่งออกมานอกตัวจะได้เป็นกระแสที่ร่มเย็น<O</O
เป็นความรักความเมตตาความปรารถนาดีต่อกัน<O</O
<O</O

ส่วนคนที่มีกระแสความคิดเป็นในทางลบ<O</O
เช่นอิจฉาหมั่นไส้โกรธเกลียดอคติ <O</O
ก็ควรพยายามควบคุมกำลังความคิดของตนเองให้เป็นไปในทางบวก<O</O
เป็นไปในทางสร้างสรรค์มีสันติสุขมีความสงบในใจ<O</O
เพราะผู้รับคลื่นกระแสจิตจากคุณเขาจะได้รับแต่สิ่งที่ดีๆ<O</O
และพลอยมีใจสงบร่มเย็นไปด้วย<O</O
<O</O
http://www.oknation.net/blog/chedtha2/2007/11/28/entry-1