รบกวนเล่าจัดหนักเลยครับ
น้ำเสียงผมอาจจะดูกร้าวร้าวอยู่บ้าง ก็อย่าไปใส่ใจนะครับ บังเอิญจิตยังไม่ละเอียดเหมือนท่านอื่นๆ ขออภัยอีกรอบครับ
เมื่อพระอภิญญาท่านว่า...
ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย toplus99, 20 พฤศจิกายน 2011.
หน้า 9 ของ 109
-
ิ
เรื่่องวัตถุมงคลก็แล้วแต่วาสนาน่ะครับ ก็แค่บอกกล่าวว่าสนใจครับ พอมีโอกาสพี่จะได้รู้ว่ามีผมสนใจอยู่คนหนึ่งน่ะ กลับมาอย่าลืม PM มาบอกน่ะว่ืาพระอาจารย์ท่านว่าอย่างไร
กระซิบหน่อยได้ไหมครับ ว่าสำนักสงฆ์อยู่บริเวณใด พอดีอยู่ในพื้นที่สระบุรีและอาทิตย์นี้เข้ากลางคืน กลางวันจะได้ลองไปเสาะหาสถานที่สงบ เพิ่มเติมภูมิธรรมบ้าง
ขอบคุณครับ -
ติดตามอ่านตลอดเลยนะครับ สนใจวัตถุมงคลของหลวงพ่อ ถ้ามีวาสนา PM บอกด้วยนะครับ
-
แบบที่ตัวเขียวแล้วก็มีหงอนด้วยก็เคยมานิมิตให้เห็นครับ...ไม่ใช่ไม่มี แต่ถ้าตัวเล็กแล้วยังไม่มีหงอนด้วยนั้น น่าจะเป็นบริวารของเขาครับ
จริงๆ แล้วส่วนใหญ่พญานาคที่มาในนิมิต เขาจะมาในร่างคนครับ หน้าตาคมคายถ้าจะเทียบก็คล้ายกับคุณสมบัติ เมทะนี สมัยหนุ่มๆ อย่างนั้นแหละ (นี่พูดถึงเรื่องนิมิตนะครับ จะจริงจะเท็จก็เป็นเรื่องนิมิตที่ประสบมา) แต่ที่รู้ว่าเป็นพญานาคก็เพราะเขาจะบอกเองว่า "เขาคือนาค" -
-
นิมิตของคุณแปลกมากครับ สวมเสื้อขาวแต่ใส่กางเกงยีนส์ มันแปลกๆ ชอบกล
เพราะตามที่ผมเห็นเขาจะมาแบบชาวผ้าขาว คือสวมเสื้อและกางเกงสีขาวทั้งชุดครับ
พวกนี้เวลาพูดจะไม่อ้าปาก จะใช้จิตส่งมาแต่ก็เข้าใจกันได้ และเขาจะไม่พูดยาว
พูดข้อความสั้นๆ จบเรื่องแล้วหันกลับไปเลยครับ -
วันก่อนผมคุยเรื่องเหล็กไหลเพลิงที่คนรู้จักนำไปสร้างพระเครื่องไป เมื่อวานตอนกลางวันได้คุยกับรุ่นน้องเรื่องพระแก้วมรกต ทรงเครื่องฤดูร้อน ปางแบบจักรพรรดิ ตกกลางคื่นพี่ชายกลับจากงานบุญต่างจังหวัดได้มอบพระผงแร่เหล็กไหลพิมพ์พระแก้วมรกต ให้ผมหนึ่งองค์ แปลกประทับใจมาก ที่ได้ทั้งพระแก้วมรกตผสมแร่เหล็กไหล
-
-
ผมเคยเจอครั้งนึง ที่ป่าเมืองกาญจน์ แต่งตัวปกติธรรมดา 5 ท่าน แต่มีอยู่ท่านนึง ใส่เสื้อเชิ้ตสีแดง กางเกงสีขาว นั่งมาในรถปิคอัพ
คันแรกมี 2 ท่าน....คันที่สองมี 3 ท่าน ท่านที่ใส่เชิ้ตสีแดงดูเหมือนเป็นหัวหน้าทีม และได้สนทนากันด้วย....แต่.....สีของตาดำ...เป็นสีอมฟ้า และระหว่างสนทนากันก็ไม่กระพริบตาเลย.....ส่วนลูกทีมทั้งหมด นั่งอยู่ในรถ....นั่งตัวแข็งนิ่ง หน้าตรง ไม่ขยับตัวเลย
ผมเห็นกับตาตัวเอง และ เพื่อนที่ไปด้วยอีก 4 คน (แต่ผมเป็นผู้สนทนาเองคนเดียว) เมื่อสนทนากันเสร็จเรียบร้อย...แล้วพวกผมเข้าไปข้างใน ส่วนทีมนั้นสวนออกไปด้านนอก ซึ่งเป็นไปได้ยาก ว่าจะพบรถที่ขับเข้าไปในนั้น เพราะตอนขาเข้าไปนั้นต้องขับรถปิคอัพ ฝ่าต้นไม้ใบหญ้าที่สูงท่วมรถลุยเข้าไป แล้วต้องมีคนอยู่ท้ายกระบะเพื่อบอกทางที่เห็นข้างหน้า ต้องใช้รถเก่า เพราะเมื่อลุยเข้าไปแล้วออกมา สีของรถ...จะถูกต้นไม้ใบหญ้าขูดตลอดทาง
มันยากที่จะเชื่อ ถ้าไม่เจอด้วยตนเองก็คงไม่เชื่อ
ป.ล.ที่เข้าไปเพราะว่าจะไปกราบพระอาจารย์ท่านนึงในนั้น....มารู้ตอนหลังว่าท่านเป็นพระอภิญญา เพราะเรื่องที่เจอ....ยิ่งกว่านี้อีก -
ไม่รู้ว่าที่เดียวกันไหม
ข้อมูลจาก โดย นางสาว เปรมสุดา (เมย์)
เมย์พบพระผู้มีอภิญญาฤทธิ์นามว่า"หลวงปู่ประเสริฐ" ท่านฝากเตือนมาว่าเวลาของโลกมนุษย์เหลือน้อยแล้ว น่าสงสารสัตว์โลก
พระ ผู้มีอภิญญาฤทธิ์ ลูกศิษย์เรียกท่านว่า "หลวงปู่ประเสริฐ" อ่ะค่ะ สำนักสงฆ์ของท่าน อยู่ติดกับ "วัดซับปลากั้ง" ลำพญากลาง ต.ลำสมพุง, อ.มวกเหล็ก, จ.สระบุรี, 18180
ที่มา หลวงปู่ฝากเตือนมาว่า เวลาของโลกมนุษย์เหลือน้อย - โลกนี้ล้วนเป็นมายาสมมุติ อย่าได้ลุ่มหลงไฟล์ที่แนบมา:
-
-
..ขออนุโมทนากับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ ...
สนใจเรื่องมีผู้บอกกล่าวว่า ปีนี้นาคเขามา ปีหน้ายักษ์มา ขออนุญาตเล่านิดนึง บ้านอยู่แถว ๆ บางกะปิค่ะ
ก่อนน้ำท่วม ครูบาูอาจารย์(ขออนุญาตไม่เ่อ่ยนาม) ท่านบอกว่า "ที่นี่ไม่เป็นไร กระทบนิดเดียว ไม่ต้องห่วง" และที่บ้านรอดจากน้ำท่วมค่ะ แค่ผ่านถนนหน้าบ้าน แต่น้ำไม่ท่วมบ้าน จริง ๆ ค่ะ แค่ไปมาไม่ค่อยสะดวกเท่านั้น อาหารการกินสมบูรณ์
ช่วงหลังน้ำท่วมกรุงเทพ ฯ ครูบาอาจารย์(ขออนุญาตไม่เ่อ่ยนาม) ท่านก็บอกว่า..
"นับแต่นี้ไป ให้สวดมนต์ตามบทนี้ สลับกับการสวดธัมมจักกัปปวตนสูตร เริ่มด้วย...
บทบูชาพระรัตนตรัย ..กรณียเมตตปริตร ..อาฏานาฏิยปริตร ต่อด้วยบทรัตนสูตร
ปิดท้ายด้วยการสวดอิติปิโส ๙ จบ ล้อมเขตบ้านเราไว้
เพราะต่อไปจะมีพวกยักษ์ ภูติ และอมนุษย์ทั้งหลาย ผ่านมา..แล้วเราจะปลอดภัย.."
ท่านใด อาราธนาบทต่าง ๆ นี้ไปสวดแล้ว ได้ผลอย่างไร มาเล่าสู่กันฟังนะคะ
ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ
Numsai
-
ขอกล่าวคำว่า...ธรรมมะสวัสดี..ครับ สำหรับทุกๆท่าน ที่อาจรอคอย
ข้อมูลใหม่ๆอยู่..
ขอบอกว่าเพียบ..นี่ๆ พกมาเต็มเป้
แบกมาเต็มแอ๊ก..กันเลยทีเดียว
พลาดนิดเดียว..เกือบได้ไปงานงานเททองพระ ของปู่ฤาษีเกศแก้ว จ.หนองลำภู
ฤาษี ที่หลายๆท่าน ต่างยอมรับกันว่าท่านน่าจะเป็น ฤาษีที่ออกมาปรากฏร่างต่อ
สาธารณชนที่มี่ฤทธิ์ มีอภิญญาณมากที่สุด ในเมืองไทยในขณะนี้
.....และเพิ่งเดินทางพร้อมพระอาจารย์ของผู้เขียนไปกราบเคารพสรีระสังขาร
หลวงปู่ละมัย แห่งสวนป่าสมุนไพร จ.เพชรบูรณ์
ถ่ายภาพมาบางส่วนมาด้วย
พร้อมมีภาพมานำเสนอบางส่วนซะด้วย..แด่ผู้มีปัญญา ที่จะตีความภาพปริศนาของท่านที่แขวนไว้หน้าศาลาพักสังขารท่าน
รอกันนิดหนึ่ง..นะจ๊ะ
และแล้ว...พระอภิญญา ระดับที่เรียกว่า พระสายเหนือโลก
อายุร้อยกว่าปีก็ล่วงละทิ้งสังขารไปอีก 1รูป...น่าใจหาย
ในช่วงภัยพิบัติที่กระจายไปทั่วโลก
-
การเสียสละของท่านมีจุดมุ่งหมาย แต่หลังจาก 15 วันมรณะภาพ แล้ว.............
เฮ้อ มาแบบไม่รู้เรื่องอีกแล้วเรา แต่ไม่ได้มาป่วนนะจ๊ะ
มีหนึ่งแล้ว จะมีตามมาอีกสี่ รวมเป็นห้า เพราะจุดมุ่งหมายนั้นหรือเปล่านะ (ข้อความนี้เป็นการบวกเลข มิได้มีอะไรในกอไผ่ครับ ใครๆก็อย่าไปสงสัย)
เพียงแต่ทู้นี้เวลาเขียน แล้วไม่โดนเจ้าของกระทู้ดุ เลยมาเพี้ยนได้เรื่อยๆครับ ขอบคุณครับ -
ครับ...ยินดีมากครับ อยากให้มาร่วมแจมๆ..ในหลายๆรูปแบบครับ..
:cool:
Toplus99 ถึงจะเพี้ยนๆไปบ้าง..แต่ไม่ใช่พวกปากจัดแล้วใจร้าย หรือใจแคบด้วยนี่..ไม่ใช่
เชื่อว่านักท่องเวปพลังจิตส่วนล้วนมีแต่คนที่มีจิตใฝ่คุณธรรมทั้งนั้น..
แลกเปลี่ยนทักษะการเรียนกัน มันจะช่วยเทียบเคียงข้อมูลกันได้ น่าจะเป็นประโยชน์มากกว่า
...เดี๋ยวกลายเป็นว่ารู้แต่ตัวเอง เข้าใจอยู่คนเดี๋ยว เชื่ออยู่คนเดียว
บ้าอยู่คนเดียว.. ไม่ยอมรับฟังใคร..อันนี้ไม่ดีๆ -
ขอต้อนรับการกลับมาสู่กระทู้ครับ
"ขอกล่าวคำว่า...ธรรมมะสวัสดี..ครับ สำหรับทุกๆท่าน ที่อาจรอคอย
ข้อมูลใหม่ๆอยู่..
ขอบอกว่าเพียบ..นี่ๆ พกมาเต็มเป้
แบกมาเต็มแอ๊ก..กันเลยทีเดียว "
นอกจากนี้ต้องบอกว่า มีบุญมากฝากพี่น้องกระทู้มากมาย นอกจากเรื่องราวเร้นลับต่างๆแล้ว ซึ่งก็จะต้องติดตามต่อไป แบบเรื่อยๆ ไม่รีบร้อน
ขอโมทนาบุญด้วยนะครับ
-
เรื่องน่าติดตามมากค่ะ คุณเล่าได้สนุกดี จะติดตามอ่านต่อไปค่ะ
บังเอิญเกิดปีงูใหญ่ ก็เลยสนใจเรื่องพญานาคเป็นพิเศษ -
ดวงวิญญาณจอมผยอง มาตามหลวงพ่อให้ไปช่วยปลดปล่อย....ที่เขาพนมรุ้ง บุรีรัมย์
ย้อนถอยหลังเหตุการณ์นี้ เกือบ10กว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นช่วงวันปกติ ไม่มีเทศกาลงานบุญพิธีหรือตรงกับวันหยุดพิเศษใดๆ<O:p</O:p
จึงไม่ใคร่มีผู้คนเข้าเยี่ยมชมถ้ำนัก เนื่องจากในยุคนั้นต้องเรียกว่าถ้าไม่ใช่แฟนคลับตัวจริง
ของสำนักสงฆ์แห่งนี้แล้ว คงไม่ค่อยมีใครนิยมเดินทางมาที่นี่มากนัก
เพราะตลอดทั้งเส้นทาง กันดารอุดมสมบูรณ์ไปด้วยฝุ่นและหลุมบ่อมากมายพอๆกับดวงจันทร์ตลอดระยะทางเกือบ 30 กิโลเมตร ถ้าใครเดินทางมาด้วยรถเก๋ง..ล่ะก็น้ำตาแทบร่วงสงสารรถ อะไรประมาณนั้นกันเลยทีเดียว
<O:p</O:p
ณ ในบ่ายของวันนั้นขณะที่ คณะบรรดาลูกศิษย์และบรรดาสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาปฏิบัติธรรม
จำนวนทั้งหมดไม่น่าจะเกิน20 คนได้นั่งกราบสนทนากับท่านพระอาจารย์ เจ้าสำนักสงฆ์โดยท่านนั่งเคี้ยวหมากพลู อย่างสำรวมเป็นจุดศูนย์รวมความศรัทธาอยู่บนพื้นแท่นชั้นบน
ต่างคนต่างพูดคุยทักทายกันตามประสาที่เคยคุ้นเคยมามานาน ส่วนใหญ่ก็ล้วนแต่คุ้นหน้าคุ้นตากันทั้งนั้น นั่งเรียงหน้าอยู่ลานพื้นปูนบริเวณหน้าพระประธานปูนปั้นองค์ใหญ่ ใต้ร่มเงาปากคุ้มถ้ำ
<O:p</O:p
ในขณะที่ทุกคน ต่างพูดคุยกันเองบ้าง สนทนาสอบถามการปฏิบัติธรรมจากพระหลวงพ่อบ้าง อย่างออกรสออกชาดอยู่นั่นเอง<O:p</O:p
ได้มีชายหนุ่มอายุประมาณ30 เศษๆเชื้อสายจีน ชื่อนายซ้ง
(นิสัยเป็นอันรู้กันในหมู่ลูกศิษย์ด้วยกันดีว่า มีนิสัยชอบพูดคุยสนุกสนาน
หัวเราะเสียงดังลั่น ชอบออกอาการคุยโอ่หน่อยๆให้ชาวบ้านอย่างเราๆ ท่านๆแอบค้อนขวับ
กันเล่นบ่อยๆ ขี้เกียจถือสา..แก)
<O:p</O:p
ถ้าในช่วงปฏิบัติธรรมส่วนใหญ่แล้วมักมีอาการปิติ ที่โลดโผนรุนแรง
มักส่งเสียงคำรามเป็น เสือบ้างตะกรุยพื้นปูนมั่ง ออกอาการพญานาคบ้าง ฯลฯ
แล้วแต่สายญาณไหนจะผ่านโคจรมาทักทายกับสังขารนายซ้ง
และดูเหมือนแกจะแอบภูมิใจอยู่ลึกๆอยู่เหมือนกัน<O:p</O:p
แต่แล้วขณะนั้นเอง นายซ้งจอมโจ ก็ได้มีอาการที่แปรเปลี่ยนไปจากนิสัย
และบุคลิกยามปกติอย่างมาก
<O:p</O:p
แต่อาการที่เกิดขึ้นในขณะนั้นคือ มีอาการตัวแข็ง ร่างสั่นสะท้าน เส้นคอเกร็งปูดจนเห็นได้ชัด
ดูน่ากลัวทีเดียว ปิดเปลือกตาแน่น แต่กลับมีน้ำตาเล็ดรอดไหลพรากออกมา
ใบหน้าแดงกล่ำ บิดเบี้ยว ลักษณะเหมือนกับนายซ้ง กำลังต่อสู้กับความรู้สึกภายในอะไรบางอยู่อย่างมาก มือทั้งสอง กำมือแน่นทุบพื้นปูน ตุ๊บๆๆ ส่งเสียงร้องคราง
เสียงดังอย่างน่าสงสาร..ไปทั่วถ้ำ
<O:p</O:p
“...โอ..ย โ อ ย ย...ท่านหลวงพ่อช่วยผมด้วย ผมเป็นอะไรไม่รู้ ร่างจะแตกระเบิด....อยู่แล้ว.. หลวงพ่อช่วยด้วย.....”<O:p</O:p
เขาได้พยายามคลานเข้าหาหลวงพ่ออย่างช้าๆ...ดูเป็นที่น่าตกตะลึง
ปนเวทนาให้แก่หลายคนในสถานที่แห่งนั้นอย่างมาก
(รวมทั้งตัวผู้เขียนเองด้วย ที่นั่งอยู่กับพื้นระดับล่างอยู่ใกล้กับหลวงพ่อ อย่างประจบประแจง
เพื่อหวังประโยชน์บางสิ่งอยู่ที่นั่นเอง)
<O:p</O:p
มันเกิดอะไรขึ้นกับนายซ้ง...หว่าเนี่ย?
<O:p</O:p
ฮึ๊ย! นายเป็นตัวอะไรอีกแล้วเนี่ยแต่ครั้งนี้...อาการทำไมมันช่างแตกต่าง
จากทุกครั้งที่เคยเห็นมา…เหมือนได้รับความทรมานจนสุดประมาณ?
ในสมองผู้เขียนเริ่มทำงานแบบ..สับสนพร้อมคำถามในใจมากมาย
<O:p</O:p
นี่..ตัวไร๊!...? ขอยืมคำฮิต สาวตุ๊กกี้สามช่า มาใช้หน่อยเหอะน่า<O:p</O:p -
ต่อ#ดวงวิญญาณจอมผยอง มาตามหลวงพ่อให้ไปช่วยปลดปล่อย....ที่เขาพนมรุ้ง บุรีรัมย์
ภายหลังที่นายซ้งคลานเข้าหาหลวงพ่อ ด้วยอาการแปลกประหลาดหลวงพ่อท่านก็ได้แต่นั่งเคี้ยวหมาก
นั่งหัวเราะ หึ ๆชอบใจในกิริยาที่นายซ้งเป็น<O:p</O:p
ในที่สุดนายซ้งก็ ร้องโอ๊ย....!ขึ้นมาสุดเสียง ดังลั่นไปทั้งถ้ำ
<O:p</O:p
ก่อนที่จะฟุบหน้าลงไปกับพื้น นิ่งเงียบไปชั่วขณะ จากนั้นร่างของนายซ้งก็ลุกขึ้นมานั่งตัวตรงเป๊ะ
ยืดตัวยืดอกอย่างสง่า แบบผู้ถือตัว เจ้ายศเจ้าศักดิ์ แต่หลืบตามองพื้นไม่สบตาหลวงพ่อซะงั้น!<O:p</O:p
แล้วพูดเสียงดัง น้ำเสียงแข็งๆอย่างช้าๆว่า
<O:p</O:p
“$^*@!+*$%#@#%&&^#” ร่างของนายซ้งกล่าวขึ้น ด้วยน้ำเสียงกระแทกดุดันกังวาน แต่ฟังไม่เข้าใจ เนื่องจากเป็นภาษาของโลกแห่งเทพวิญญาณ
(ผู้เขียนเริ่มรับรู้ถึงพลังงานบางอย่างที่บีบเค้น ตรึงเครียด รุนแรง จนชักเริ่มหูอื้อ และอึดอัดอย่างมาก
ในขณะที่นั่งอยู่ใกล้ร่างนายซ้งผ่านญาณปริศนา)
<O:p</O:p
แต่หลวงพ่อดูเหมือนไม่ได้ให้ความสนใจในสิ่งที่นายซ้ง ผ่านดวงวิญญาณแฝงมาพูดมากนัก
โดยยังคงหยิบเอาหมากพลู ชิ้นใหม่มาเคี้ยวอย่างสบายอารมณ์หัวเราะหึๆๆเพราะ...ท่านฟังไม่รู้เรื่อง
พอๆกับคนอื่นๆที่อยู่ในนั้นเหมือนกัน!
<O:p</O:p
“ เอ๊า ๆ พูดดีๆ พูดดีๆ พูดให้มันเหมือนชาวบ้านเขาหน่อย ฟังไม่รู้เรื่อง” หลวงพ่อพูดขึ้นมายิ้มๆแบบ อารมณ์ดี
<O:p</O:p
“!@$^&*^$$*” ร่างของนายซ้งกล่าวขึ้นอีกครั้ง ด้วยน้ำเสียงที่ดูหงุดหงิดเหมือนถูกขัดใจ
<O:p</O:p
“งั้น!มานี่ๆ เอาน้ำนี่ไปกินซะ เผื่อจะได้คุยกันรู้เรื่องบ้าง” ว่าแล้วท่านก็ล้วงนำเอาหินแก้วสึทั้ง 7ก้อนออกมาจาก อังสะของท่าน มาหย่อนใส่ลงในแก้วน้ำใบใหญ่ที่มีน้ำอยู่ครึ่งแก้ว<O:p</O:p
พร้อมกับนำมาอธิษฐานทำปากมุบมิบ สักพัก
จากนั้นท่านจึงส่งแก้วน้ำให้นายซ้งในสภาพวิญญาณอื่นเข้าแฝงมาดื่มเสียงดัง อั๊กๆ ๆ
คล้ายกับกระหายน้ำเสียเต็มประดา หลังจากที่ท่านอธิฐานให้น้ำในแก้วกลายเป็นเครื่องแปลงสารข้อมูลภาษาเทพเป็นภาษามนุย์ ภาคภาษาไทย
ร่างนายซ้ง ก็เริ่มกลับมาพูดภาษามนุษย์ได้อีกครั้ง (น่า...แปลกดีนะครับ กลับมาพูดภาษาคนได้อีกครั้ง..อาจมีหลายท่าน ที่อยากได้น้ำแบบนี้ไปให้คนที่รู้จัก..กินมั่งก็ได้..ฮ่าๆ)
<O:p</O:p
“เป็นไง..เย็นชื่นใจดีล่ะเหนาะ ของฟรีไม่เก็บตังค์นะนี่”หลวงพ่อ
<O:p</O:p
“รึ..ถ้าพกตังค์มาด้วย จะจ่ายก็ได้นะ!ยิ่ง.. ช่วงนี้กำลังจนๆอยู่ด้วย” หลวงพ่อยังคงพูดหยอกเล่น
กับญาณแฝงนายซ้งไม่เลิก ด้วยปกติวิสัย ที่ท่านมักอารมณ์ดี คุยสนุกสนานกับลูกศิษย์อยู่เสมอ
<O:p</O:p
“เจ้าอย่ามาพูดเล่นกับข้า....” (นี่คือคำพูดคำแรกที่พูดออกมาเป็นภาษามนุษย์ได้ ช่างน่าชื่นใจเหลือเกิน!)
ร่างของซ้งตวาดเสียงดังลั่น แบบหงุดหงิด ราวกับว่าตนยิ่งใหญ่เสียเต็มประดา ที่พระสงฆ์รูปนี้บังอาจมาล้อเล่นกับตน
<O:p</O:p
“ที่มานี่...มีธุระอะไร?” หลวงพ่อพูดเสียงเรียบ ด้วยคงมองเห็นร่างแท้จริงที่มาแฝงอยู่ในสังขารนายซ้ง(หรืออาจจะเริ่มยั๊วะขึ้นมาบ้างแล้วก็ได้...อารมณ์ดีหน่อย หนอยมาทำเอ็ดเสียงดัง ช่างไม่รู้จักมีอารมณ์ขันเสียมั่ง....ผู้เขียนคิดเอง แฮ่ๆ)
<O:p</O:p
“ข้ามาตาม...เพื่อให้ไปช่วยปลดปล่อย ดวงวิญญาณข้าที่ถูกสะกดไว้ที่เขาพนมรุ้ง”
<O:p</O:p
“อ้าว..นึกว่าเก่ง ทำไมไม่ช่วยตัวเองให้รอด” หลวงพ่อเริ่มเจรจาแบบถือแต้มเหนือกว่า
<O:p</O:p
“ข้าอยากให้ไปช่วย..มันทำวิชาใส่ข้า” ร่างนายซ้งน้ำเสียงเริ่มอ่อนลงแล้ว คงอาจเพิ่งคิดขึ้นได้ว่า
ถ้ายังกร่างอยู่ งานนี้อาจวืดได้ง่ายๆ
<O:p</O:p
“มันทำพิธีฝังสาบข้าไว้ที่ใต้อิฐ ที่ปราสาทแห่งนั้น”
<O:p</O:p
“ถ้าไปขุดอิฐ ขุดหินแถวนั้น..มั่วตั้ว ตำรวจมันไม่ซิวเอารึไง มันไมใช่ของ่ายๆนะ”หลวงพ่อ บอกถึงปัญหาทางโลก แก่วิญญาณที่มา
<O:p</O:p
“เรื่องนั้นข้าจะจัดการให้.. เพื่อให้ท่านทำงานได้ ไม่เกิดปัญหาแน่ไม่ต้องกังวลไป”<O:p</O:p
วิญญาณผ่านร่างนายซ้งคุยถึงศักยภาพของตน
<O:p</O:p
“ท่านรับปากเรามั๊ย..”
<O:p</O:p
“เอาๆ มีเวลาจะหาโอกาสไปแก้ไขให้”หลวงพ่อรับปากแบบเสียไม่ได้
<O:p</O:p
วิญญาณดังกล่าวเมื่อได้รับทราบแล้วก็ทำท่าเหมือนพอใจมาก จากนั้นจึงถอยญาณของตน
ออกจากร่างนายซ้ง ที่ฟื้นคืนมาในสภาพแบบบอบช้ำ เอามือคลำบริเวณหน้าอกวนไปมาอยู่ตลอดเวลา
ปากก็บ่นตลอดว่า
<O:p</O:p
“ อูย..ๆญาณใครมาวะแรงชิบเป๋งลย ..? ทำไมมันรู้สึกอัดแน่น มึนชาเหมือนตัวจะแตกตายให้ได้...ใครอ่ะหลวงพ่อ?”<O:p</O:p
========================================<O:p</O:p -
ต่อ#ดวงวิญญาณจอมผยอง มาตามหลวงพ่อให้ไปช่วยปลดปล่อย....ที่เขาพนมรุ้ง บุรีรัมย์
หลังจากที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น..ผู้เขียนได้ถามหลวงพ่อถึงเรื่องนี้ อีกครั้ง<O:p</O:p
“นี่หลวงพ่อ..คิดว่าจะไปช่วย ดวงวิญญาณที่โดนสาปไว้เขาพนมรุ้งมั๊ย” ผู้เขียนถามหลวงพ่อเพื่อลองหยั่งความคิดของหลวงพ่อ ว่าจะออกมาในรูปไหน<O:p</O:p
“แล้วถ้าเป็นเอ็ง...มีใครมาพูดกับเอ็งลักษณะแบบนี้ นี่เอ็งยังอยากจะไปช่วยมั๊ย?<O:p</O:p
หลวงพ่อท่านนี้ย้อนถามกลับพร้อมทำท่ายิ้มๆ จนเห็นรอยน้ำหมากติดที่ฟัน เหมือนว่าท่านกำลังตรองอะไรบางอย่าง จนเกินคาดเดาใจ<O:p</O:p
“ถ้าเป็นผมนะ หลวงพ่อนะ ผมจะปล่อยเอาไว้ที่เดิมนั้นแหละ..อะไรเอาแต่ใจตัวเอง<O:p</O:p
จะให้ใครช่วยอะไร ก็น่าจะพูดกับเขาดีๆหน่อย นี่อะไร..แรงอ่ะ”<O:p</O:p
นี่คือการตัดสินใจของผู้เขียน ในขณะนั้น และคิดว่าหลวงพ่อคงจะปล่อยให้เหตุการณ์ที่มีดวงวิญญาณที่ผยองท่านี้ ปล่อยเลยตามเลย ไม่สนใจเหมือนกัน….<O:p</O:p
-----------------------------------------------------------------
<O:p</O:p
จนเหตุการณ์นี้ได้ล่วงเลยไปนับเกือบ 10 ปี ต้องมาสะดุดความรู้สึกอีกครั้ง เมือข้าพเจ้าได้มีโอกาสได้เล่าถึงเหตุการณ์นี้ให้กับพระสุ เพื่อนชาวสมณเพศ เจ้าเก่าขาประจำของผู้เขียนฟัง
<O:p</O:p
“ตอนที่อยู่ใกล้ๆ โยมซ้งตอนนั้น รู้สึกว่าเป็นไงมั่ง...” พระสุถาม<O:p</O:p
“ไม่เป็นไงหรอก...แค่รู้สึกว่าไม่อยากนั่งใกล้ๆตรงนั้นเลย..บรรยากาศมันแปลกๆ<O:p</O:p
จนถึงทุกวันนี้ ที่จริงก็เคยเห็น เคยผ่านรับรู้ สัมผัสการเข้าทรง องค์เทพใหญ่ๆหรือผีเข้าแฝง คนมาก็พอสมควรนะ ท่านพระสุ”<O:p</O:p
“ก็แล้วมันต่างกัน ยังไงล่ะ... ลีลาอยู่นั่นแหละ” พระใจร้อน..นี่น่าเบื่อแฮะ
<O:p</O:p
“ บรรยากาศมันจะเครียดๆนะ พลังงานสูงมาก เหมือนมีคลื่นสนามแม่เหล็กขนาดใหญ่ๆ แผ่กระจายไปรอบๆ อยู่ข้างๆตัวเรา มันจะทำเราใจสั่น อึดอัด หูอื้อ หงุดหงิด หรือชวนให้เรามีโทสะเอาง่ายๆเลย”<O:p</O:p
“เอ๊ะ..มันมีด้วยรึ..ไอ้พลังงานของเทพเทวดาแบบนี้ ไม่เคยได้ยิน..มาก่อน”<O:p</O:p
“นั่นสิ..ผมคิดว่าถ้าพลังงานขนาดนี้ เชื่อว่าถ้าเป็นระดับพวกหมอผีหรือพวกเล่นคาถาอาคมระดับธรรมดาที่ไม่ถึงขั้นมีอภิญญาจนชำนาญนี่ มีสิทธ์ถึงขั้นกระอักเลือดตายเอาง่ายๆ ถ้าไปยุ่งเกี่ยว สู้ต่อกรกับเทพองค์ที่ว่านี่นะ..”
<O:p</O:p
“เออ..แล้วพระอาจารย์เราท่านไปช่วยเขาปลดวิญญาณเขาออกมาหรือยัง?”<O:p</O:p
“ไม่รู้เหมือนกัน...ผมก็ลืมถามทามท่านเรื่องนี้ไปเลย เกือบ10 ปีได้แล้วมั๊ง"
<O:p</O:p
<O:p</O:p
เมื่อได้เจอกับฤาษีท่านหนึ่ง ระหว่างที่พูดคุยกันโดยมีพระสุ ร่วมวงสนทนาอยู่ด้วย ในงานทำบุญของที่วัดถ้ำแห่งนี้ ฤาษีท่านนั้นได้พูดไปถึงว่า
<O:p</O:p
"....มียักษ์ที่เขาพนมรุ้งถูกปล่อยออกมาแล้ว และมีอีกหลายตนที่หลุดรอดลงมาจุติในโลกมนุษย์และมีที่ อยู่แฝงในคราบของมนุษย์รวยๆ มีอำนาจ ทั้งหมดตอนนี้น่าจะมีประมาณ 6-7 ตนแล้ว จากทั้งหมด 12 ตน แต่คนพวกนี้จะดูไม่ค่อยมีราศี แต่งตัวลวกๆ แววตาดุดันมีบริวารมาก จิตใจเหี้ยมเกรียม เครื่องบูชาในบ้านสกปรก ไม่มีพระพุทธรูปบูชาไว้หรือภาพพระบูชาไว้ในบ้านเลย เห็นมีกระโหลกศรีษะมนุษย์ด้วย ไม่รู้....มันเอามาจากไหน เครื่องบวงสรวงเป็นเนื้อสด เนื้อเน่า ในบ้านกลิ่นคาวคลุ้งไปหมด<O:p</O:p
ในห้องรกรุงรังหยากไย่ ใยแมงมุม จนแทบจะต้องแหวกเข้าห้อง
<O:p</O:p
พวกยักษ์ในร่างคนพวกนี้มันฆ่านักบวชทั้งพระและฤาษี มาหลายคนแล้ว!<O:p</O:p
มันเคยชวนฉันไปดูที่ห้องบูชาในบ้านมันมาแล้ว บ้านงี้หลังใหญ่ หลังโตเชียว<O:p</O:p
สภาพก็อย่างที่เล่า ดีน!ะที่ฉันรอดออกมาได้...”
<O:p</O:p
“พวกนี้แหละ ที่มีผลต่อจำนวนคนตายเยอๆะ ภัยพิบัติธรรมชาติหนักๆ”
<O:p</O:p
“งั้น...ฉันคิดว่าที่โยมเจอมา น่าจะสรุปได้แล้วล่ะ ว่าพลังงานประหลาด<O:p</O:p
ที่ว่านี่ น่าจะเป็นยักษ์ แต่ว่าจะอยู่ชั้นไหนเท่านั้นหละ" พระสุวิเคราะห์<O:p</O:p
ล่าสุดเมื่อช่วงวันหยุดวันพ่อ ได้ลาพักร้อนหลายวัน ได้เจอหมอดูหนุ่มตาทิพย์ ชาวไฮโซ ที่เพิ่งไปเขาพนมรุ้ง บุรีรัมย์เพื่อไปทำภารกิจบางอย่างมา เลยลองถามหยั่งเรื่องยักษ์นี้ดูว่าจะรู้เรื่องนี้บ้างมั๊ย ผลปรากฏว่ายืนยันว่า ตอนนี้มีอยู่7ตน และเป็นการตอบที่แซงหน้าคำถามของผู้เขียนซะอีก...แปลกดี
เหมือนรู้ว่าเราจะถามอะไร<O:p</O:p
ดวงวิญญาณที่พี่เคยสัมผัสมา เป็นยักษ์ที่อยู่ในชั้น จตุมหาราชิกา<O:p</O:p
และบอกอีกว่าเดี๋ยวจะมียักษ์ออกมาเพิ่มอีกเยอะ...คนจะตายอีกมากเลยนะพี่!<O:p</O:p
จนได้ไปปฏิบัติธรรมที่ถ้ำระหว่างเดินทาง ร่วมเดินทางไปกราบเคารพ สรีระสังขารของหลวงปู่ละมัย พร้อมท่านพระอาจารย์จึงนึกเรื่องนี้ขึ้นมาได้
<O:p</O:p
“พระอาจารย์ครับ ตกลงเรื่องที่มีวิญญาณที่เข้าแฝงร่างนายซ้งนี่ ที่เขาพนมรุ้งท่านไปช่วยเขาหรือเปล่าครับ?”<O:p</O:p
“ข้าไปปลดปล่อยมาแล้ว....”<O:p</O:p
“ตกลงเป็นใครครับ”<O:p</O:p
“รู้แล้วอย่าตกใจนะว่า นั่นคือ ท้าวเวสสุวรรณ”<O:p</O:p
“ห๊า!ท้าวเทพสุวรรณ เจ้าแห่งยักษ์นี่นะท่าน”
<O:p</O:p
“ท่านเป็นระดับพญายักษ์ มีฤทธิ์เดชสูง กำลังมากขนาดนั้นทำไมถึงถูกมัด ถูกกระทำทางไสยศาสตร์ได้ล่ะ”<O:p</O:p
“ก็คนทำมันเป็นพระ เขาก็เกรงใจที่ยังมีผ้าเหลืองครอง ถือว่าเป็นศิษย์พระพุทธเจ้าไง..<O:p</O:p
เขาถึงไม่อยากลงมือต่อสู้รุนแรง...ปกติแล้วเขาสู้ได้สบาย”
<O:p</O:p
“เมื่อคนทำเป็นพระทำพิธีจับมัด หรือสาปด้วยพระ ผู้ที่แก้ก็ต้องเป็นพระจึงจะแก้พิธีกรรมนี้ได้”<O:p</O:p
“อ๋อ..เรื่องมันอย่างงี้นี่เอง.....แล้วทำไมต้องมียักษ์ออกมาในช่วงนี้มากๆเพื่อจะฆ่าคนด้วยครับ”<O:p</O:p
“ก็คนทุกวันนี้ศีลธรรมมันเสื่อมลงมาก...คนโลภ คนเลวมันมาก เห็นแก่ตัวฆ่าทำลายกันเอง โดยหวังแย่งชิงผลประโยชน์ ขาดความรักปราณีต่อมนุษย์ด้วยกันเอง”
<O:p</O:p
“เหล่าหมู่มวลยักษ์ ทั้งหลายเลยต้องลงมาเพื่อทำลายคนชั่ว หรือพวกที่เกิดมาแล้วไม่ยอมสร้างบุญกุศล ส่วนคนดีเหล่าเทพพรหม เทวดา ก็จะมาเสริมให้พากันไปสร้างบุญกุศลพากันปฏิบัติธรรมคบหาแต่ชนชาวกุศลด้วยกัน”
<O:p</O:p
“สรุปง่ายๆ ยักษ์ที่ลงมาเขามาเพื่อทำหน้าที่คัดกรองประเภทคนให้มันชัดเจนไปเลยว่าดี ว่าเลวไง”หลวงพ่อถ้ำ ท่านชี้แจงถึงที่มาของการมาของเหล่าบรรดายักษ์ทั้งหลาย
<O:p</O:p
เรื่องนี้คงต้องให้แต่ละท่านได้พิจารณากันเอาเองนะครับว่า สมควรเชื่อมากน้อยเพียงไร?<O:p</O:p
นักเล่านิทานจอมเพี้ยน Toplu99<O:p</O:p -
อนุโมทนาสาธุกับเรื่องราวอันน่าตื่น..เต้นและคําเตือนให้เราเพียรทําแต่ความดี รออ่านอยู่ค่ะcatt1
หน้า 9 ของ 109