เรียนรู้ผู้ป่วยเป็นมะร็งคนที่หนึ่ง

Bloggang.com : weblog for you and your gangเมื่อนักเรียน ป.โท อังกฤษ รู้ว่าตัวเองเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ตอนที่ 2 -กว่าจะเจอโรคร้ายตรวจ เชค แสกน เจาะ !!!พอ Landing วันที่ 2 พค 2556 ก็นอนพัก1 คืน แล้วก็เดินสายหาหมอในเช้าวันรุ่งขึ้นทันที

วันที่ 3 พค 2556 (ผิดคาด)

ป๊าก็นัดหมอให้ดิบดีคิดว่าเราเป็นภูมิแพ้กำเริบชัวร์นัดหมอ รพ เอกชน ย่านสีลมให้ เพราะว่าเราเกิดที่นั่นและมีประวัติภูมิแพ้ที่นั่นอันยาวนาน พอไปถึงหมอก้ให้เอกซเรย์ รอผลไม่นาน ได้เลยปรากฎว่า พบเจอก้อนเนื้อขนาดใหญ่ที่ปอดด้านขวา ขนาด 8*10 ซม หมอไม่พูดคำว่ามะเร็งออกมา แต่หมอใช้คำว่า ซาโกมา ไทโฟมาลิ้มโฟมา เราก็จดมางงๆ โรคอะไรม่าม่าไม่เคยได้ยินมาก่อน และหมอขอให้เจาะเลือดและทำ CT Scan ในวันรุ่งขึ้น ป๊าถามทันทีว่า CTScan กี่สไลด์64 หรือ 128 เพราะว่าการทำแล็ปพวกนี้ต้องให้ละเอียด ไม่งั้นวินิจฉัยโรคพลาด มากกว่า 64 slides ถือว่าละเอียด พอใช้ได้ พอมองหน้ากันเสร็จ เลยตัดสินใจย้าย รพ ทันทีเข้าไปตรวจ รพ เอกชนอีกที่แถว นานา เพราะเราก็พอมีประวัติการเอกซ์เรย์ปอดที่นี่ก่อนไปอังกฤษ เมื่อ เดือน มิถุนายน ปีที่แล้ว ระหว่างทางไป รพ. ซึ่งรถติดมากเราก็โทรเข้าไป รพ เพื่อเชคประวัติหมอโรคปอด และเลือกหมอ จากประวัติการศึกษาพอไปถึงก็ขอให้พยาบาลแทรกคิวให้ เพราะว่าด่วนมากจริงๆ บินมาจากอังกฤษ เพื่อการนี้พยาบาลก็ใจดีแทรกคิวให้ พอเจอหมอ หมอก็สั่งให้ตรวจเพิ่ม ให้ X-ray ปอดด้านหน้า ด้านข้าง อีกรอบเพื่อดูว่าก้อนเนื้อไปกดทับหลอดลมขนาดไหน สั่งให้เจาะเลือดวันนั้นเลย และทำเทสเป่าปอดเพื่อวัดศักยภาพของการหายใจในวันนั้น เหนื่อยมาก เป่าไปก็ไอไป จนหน้าแดงมีทำแล้วไม่ผ่านด้วยต้องทำใหม่ เพราะว่าเราหายใจไม่ค่อยได้แล้วเวลาเป่าต้องใช้แรงลมในกะบังลมมาก หมอบอกว่าก้อนเนื้อไปทับ หลอดลมเกือบครึ่งทำให้ปอดฟีบไปข้างหนึ่ง และหายใจวี๊ด ถ้าก้อนเนื้อใหญ่กว่านี้จะหายใจไม่ได้ ต้องใส่สเต้นท์ วงแหวนเล็กๆในหลอดลม ไปถ่างให้หายใจได้

วันที่ 4 พค2556 (Turning points)

หมอนัดทำ CT SCAN ปอด โดยการฉีดสี แสบเส้นมาก เพราะเราเป็นคนเส้นเลือดเล็กพอผล CT Scan ปอดออก หมอสั่งแอดมิดทันทีเพื่อส่องกล้องในวันรุ่งขึ้น หมอค่อนข้างแน่ใจว่าเป็นโรคอะไรแต่ยังไม่ได้พูดออกมาเพราะต้องการชิ้นเนื้อให้แน่ชัดซะก่อน การส่องกล้องลงไปตัดชื้นเนื้อออกมาก็ต้องเสี่ยงดูว่าจะได้ชิ้นเนื้อดีหรือไม่ดี ถ้าได้ชื้นเนื้อที่ดี มันไม่สามารถบอกอะไรได้ ก็ต้องทำBiopsy เพิ่ม คือการเจาะปอดเพื่อเอาชิ้นเนื้อไปตรวจอย่างละเอียดหรือที่เรียกว่าทำ Pathological Report พอผล CTSCAN ปอดออกมาคุณหมอก็น่าเริ่มเครียด เพราะว่าก้อนชิ้นเนื้อใหญ่ มีถุงน้ำเล็กๆ กระจายและเป็นจุดๆ เต็มปอด และยังมีน้ำล้อมรอบเยื่อหุ้มหัวใจเหมือนทหารไปล้อมรอบพระราชวัง เตรียมยิง แถมที่ช่องท้องดูเหมือนมีน้ำไปล้อมรอบอีก คุณหมอน่าเครียดบอกว่าน่าจะเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะ 3 ลุกลามถึงช่องท้องและลามปอดสองข้าง ตอนนี้มาล้อมหัวใจแล้ว ป๊าหน้านิ่ง ถามประโยคแรกว่าอยู่ได้อีกนานเท่าไหร่ ตัวเราไม่ได้ช็อคที่หมอบอก แต่ช็อคที่ป๊าถามประโยคนี้หมอบอกว่า Worst case ก็ 6-9 เดือน ใจเราหายวูบที่ฉันจะตายตอนอายุ 26 จริงๆหรอแล้วฉันมีเวลาเหลือทำธุรกรรมเท่าไหร่ พอรท์หุ้น บัญชีที่อังกฤษไหนจะเรื่องเรียนที่ต้องกลับไปสอบไฟนอล อีก 2ตัวเหลือแค่สอบ อาทิตย์หน้า ก็จะเรียนจบแล้ว แค่นั้นจริงๆ คุณหมอถามว่าอยากกลับไปสอบมั้ย แต่มันเสี่ยงกับชีวิตมากนะเพราะคุณเริ่มที่จะหายใจเองไม่ได้แล้ว ป๊าเลยพูดเสียงเข้มว่า อย่างอื่นคงต้องทิ้งเรื่องเรียนต้องทิ้ง ปริญญาไม่สน เอาชีวิตไว้ก่อน ทั้งๆที่ เราทำเกรดดีมาตลอดคิดว่าจะได้เกียรตินิยมกลับมาให้ป๊าแน่ๆ แต่ทุกอย่างต้องหมดสิ้นกันแล้ว อนาคตที่จะได้เป็นManagement Trainee ริบรี่ไปเลยก่อนกลับคุณหมอเลยให้ไปจับคลื่นหัวใจเพิ่ม ว่าตอนนี้หัวใจเต้นผิดปกติขนาดไหนกลัวเราช็อค เพราะว่า ชีพจรเราเต้น 110กว่าถ้าถึง 120 อาจซ็อคได้ แถมความดันยังต่ำมาก 75/42 จนพยาบาลถามว่าจะเป็นลมรึป่าวคะ

วันที่ 5 พค 2556 (ต้องละเอียดกับหมอและพยาบาลให้มากที่สุด)

วันส่องกล้องคุณหมอนัดส่องกล้อง 5 โมง เข็นเราเข้าไปห้องผ่าตัดตั้งแต่ 4.30 แต่คุณหมอมา 2 ทุ่ม พยาบาลบอกว่าเป็น Natureหมอ เลทไม่ต่ำกว่า2 ชม. คุณหมอติดคนไข้ที่ OPD อีก 6 คน พยาบาลบอกว่าคนไข้ต้องทำตัวให้ชินป๊าก็อารมณ์ขึ้นนิดๆหมออะไรเลทต้อง 3ช.ม.แต่ก็ลองเชื่อหมอคนนี้ซักครั้ง เลยไม่ได้วีนอะไรมาก พอส่องกล้องเสร็จคุณหมอตัดชิ้นเนื้อออกมาเล็กเท่าขี้หู และทำการล้างหลอดลม คุณหมอบอกว่ามีเสลดเยอะมากคนไข้ไม่สามารถเอาเสลดออกได้เอง เพราะหลอดลมมันทับจนตีบ ถ้าไม่เอาออกจะติดเชื้อเพราะสกปรกมาก ผลสรุปจากการส่องกล้องคือ ชิ้นเนื้อเป็นชิ้นเนื้อที่ดี ถ้าเป็นชิ้นเนื้อไม่ดีจะส่งย้อมสีห้องแล็ปต่อเพื่อดูว่าเป็นมะเร็งประเภทไหน และต้องใช้สูตรยาคีโมตัวไหน เราเลยต้องเจาะปอดต่อเผื่อเอาชิ้นเนื้อออกมาทำแล็ป เราก็งง คิดในใจแล้วทำไมไม่ให้เจาะปอดไปเลยตั้งแต่แรก เสียเวลาส่องกล้องเราทำไม แถมมาเชคใบเสร็จตอนออกจาก รพ. ชิ้นเนื้อที่คุณหมอบอกว่าดีและไม่ได้ส่งตรวจแล็ปกลับมาคิดเงินค่าแล็ปเราเฉย ดีนะที่ป๊าเชคอย่างละเอียดก่อนไม่งั้นได้เสียค่าโง่ไปอีก หลายหมื่น เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าถึงใบเสร็จมาเป็นปึ๊งสิบหน้ากระดาษ ใช้ศัพท์เทคนิค ก็ต้องถาม ต้องตรวจอย่างละเอียดอีกทีเพราะบางทีคนเก็บเงิน กับ หมอ ก็ไม่ได้ประสานงานกัน

วันที่ 6 พค2556 (เข้าใจอารมณ์ โทนี่ สตารค์)

เช้า ทำ CT Scan ช่องท้องเพิ่ม หลังจากที่ไม่ได้กินอะไรมา เกือบ 20 ชม ก็อยู่ได้ด้วยสายน้ำเกลือ ทำให้ไม่รู้สึกหิวมากแต่ก็ยังอยากทานอะไรอยู่บ้าง เพราะว่าท้องเสียตลอด ทำให้รู้สึกเพลียยิ่งกว่าเดิมแต่หมอก็ห้ามบอกว่าขอ CT Scan ช่องท้องเพิ่มเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้ลามลงช่องท้องจริงๆ ซึ่งต้องอดอาหารอีก TT นัดทำCT Scan ­ช่องท้อง ต้องกินน้ำ สีชมพู 2 ขวด กินทีละนิด 8 ครั้ง แต่ละครั้งห่างกัน 15 นาที นัดทำ CTScan 9.30 โมงเช้าเอาน้ำมาให้กิน 9.00 กว่าจะกินเสร็จ ก็ 11.00 กว่า จะสแกนท้อง สวนก้นนั่งรอดูอาการแพ้อีก 1 ชม แล้วต้องเจาะปอด บ่ายโมงตรงแทบจะไม่ได้มีเวลาพักเลย เหนื่อยมากต้องบอกว่าเป็นความผิดพลาดในเรื่องไม่เป็นเรื่อง ถ้าเอาน้ำมาให้กินตั้งแต่ 7โมงเราก็จะได้มีเวลาพัก เวลากินข้าวบ้าง ทำให้เราไม่ได้กินอะไรต่ออีก 8 ชม เป็นทั้งหมด ยี่สิบกว่า ชมละที่ไม่ได้กินอะไรตกถึงท้องเลย

พอถึงเวลา บ่ายโมง “ เจาะปอด ” คราวนี้รู้ตัวเองแน่นอนแล้วว่าไม่ได้กลับอังกฤษ เพราะการทำ Biopsy อาจทำให้ปอดรั่วได้ถึง 30 % ไม่ได้ขึ้นอยู่ที่หมอ แต่ขึ้นอยู่ที่สภาพของคนไข้และตำแหน่งที่เจาะถ้าปอดรั่วขึ้นเครื่องกลับไม่ได้แน่นอนเพราะความกดอากาศบนเครื่องบินจะทำให้ปอดแหกได้ เราเข้าใจคำว่าปอดแหกก็คราวนี้แหละ การเจาะครั้งนี้เป็นการให้ยาชาเฉยๆไม่ได้วางยาสลบเหมือนส่องกล้อง มาป๊อดก็ตอนเห็นเข๊มฉีดยาชานี่แหละ แทบหลับตาไม่ทันตอนที่หมอกำลังเจาะรู้สึกตัวเองเหมือน โทนี่ สตารค์ ใน IRON MAN ความรู้สึกคือเหมือนเค้าเอาเหล็กวงแหวนที่เหมือนหัวใจโทนี่ สตารค์ มากดที่หน้าอก แรงมาก และใช้คีมตัด ทีละนิด ทีละนิดเสียงเหมือนคีมตัดเหล็กลวดมาก พอตัดรอบๆเสร็จ ซักห้านาทีก็เสร็จ ตอนผ่าตัดนี่นั่งผ่าเพราะว่านอนแล้วไอหนักมาก ดีนะที่ตอนหมอทำงาน เรากลั้นไม่ให้ไอออกมา ไม่งั้นได้มีอีกรอบแน่ๆพอผ่าเสร็จก็เข็นกลับไปห้องนอนตัวเองต่อ ยอมรับว่าเหนื่อยมากเพราะไอตลอดและช่วงที่ไอก็หายใจลำบาก ต้องงัดวิชาวิปัสสนากรรมฐานเข้ามาช่วยดีนะเคยไปนั่งอยู่ 12 วันเลยมีสติพอกำหนดลมหายใจเข้าออกได้หมอบอกว่าพยายามหายใจให้ลึกและยาว ดีกว่าหายใจสั้นและเร็ว เพราะจะทำให้เหนื่อยง่าย ระหว่างที่ออกจากวอรด์ย้ายกลับ คนเข็นรถกับพยาบาลก็ไม่ได้ประสานงานกัน เรื่องเตียงคนไข้ต้องมีถังอ๊อกซิเจนคนเข็นก็ถามว่าต้องใช้ด้วยหรอถังท่อลมเนี่ย พยาบาลบอก็ต้องใช้สิ เราคิดในใจเราหายใจจะไม่ออกอยู่ละ ไม่ใช้ได้ไงหละคนเข็นรถก็บอกเตียงที่มีถังอ๊อกซิเจนไม่มีตอนนี้ ป๊าก็เคือง ว่าทำไม รพ เอกชน รองรับคนไข้อาหรับเยอะขนาดนี้ทำไมแค่เตียงที่ติดถังอ๊อกซิเจนถึงไม่มี เป็นการพลาดเรื่องง่ายๆมาก แล้วระหว่างย้ายคนไข้ไปห้องผ่าตัด ถ้าหายใจไม่ทัน เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ เป็นอัมพฤต ใครรับผิดชอบคราวนี้ทั้งพยาบาล ทั้งคนเข็น วิ่งหน้าตั้งไปหาแทบไม่ทันเลยทีเดียว

วันที่ 7 พค2556 (ต้องมีสติ !  เข้มแข็งเพื่อครอบครัว)

ได้ออกจาก รพ. ซักที หมอบอกว่าชิ้นเนื้อที่เจาะต้อง ส่งไปตรวจใช้เวลาประมาณ 1อาทิตย์ซึ่งหมอจะส่งไปตรวจว่า เป็นมะเร็งชนิดไหน ประเภทไหน และ สั่งย้อมสีโมเลกุลเพื่อหาสูตรยาคีโมที่ตรงที่สุด ฆ่าเซลล์นั้นเพราะมันโตเร็วมากเราทำการตรวจอย่างละเอียดมามากพอแล้ว เพื่อที่จะได้ยิงเป้าให้ถูกไปเลยทีเดียวจะได้วางแผนการรักษา ซึ่งเราเห็นด้วยมาก แต่เรื่องของเรื่องคือคุณหมอก็ไม่อยู่ด้วยค่ะ บินไปประชุมโรคปอดที่เมืองนอก 1 อาทิตย์พอดีหมอจึงสั่งอัดยามาเต็มที่กลัวเราเป็นอะไรไปตอนที่ หมอไม่อยู่ ให้ prednisolone มาโดสสูงมาก ปกติ เรากินวันละเม็ด นี่ให้กินวันละ 8 เม็ด แถมมียาแรงๆตัวอื่นอีกมากมายเช่น Ropect ล้วนเป็นยา เสตียรอยด์ทั้งนั้น พอกลับมาถึงบ้านป๊าก็ซึมและเครียดไปเลย ทุกคนในบ้านแม้แต่น้องสาวและแม่ที่ปกติ ร่าเริงก็เงียบตลอด ณ ตอนนั้นขอบอกว่า เราไม่ได้เศร้าหรือเสียใจเลยที่เราเป็นมะเร็งไม่เคยร้องไห้ซะแอะเดียว หลังจากรู้ว่าเป็นอะไร ได้แต่ท่องในใจว่า ต้องเข้มแข็งต้องผ่านไปได้ อย่าอ่อนแอ เพราะถ้าเราแสดงความอ่อนแอมากเท่าไหร่ครอบครัวเราก็ห่วงมากเท่านั้น เวลากิน ก็พยายามกิน ถึงแม้กินไม่ลง กินยาครบตลอดวันนึงกินจะแทบ สามสิบเม็ด ก็ต้องฝืน เพื่อให้คนรอบข้างสบายใจทำกิจวัตรประจำวันเหมือนเดิม นั่งดูละคร เล่นเกมส์ไอแพด เหมือนเราเป็นหวัดเฉยๆจนญาติบอกว่าดีแล้วที่คนป่วยไม่เครียด แต่ที่ไหนได้ตูเครียดจะตาย ไม่รู้จะเคลียร์กับอาจารย์ที่อังกฤษยังไงเพราะผลชิ้นเนื้อยังไม่ออกว่าเป็นมะเร็งอะไร เลื่อนสอบก็ไม่ได้เพราะยังไม่มีหลักฐานแน่ชัด ที่เรียนมาต้องมาทิ้งหมดหรอข้าวของที่อังกฤษก็ยังไม่รู้จะเคลียร์ยังไง กระเป๋า เงินสด บัตรประชาชนเอกสารสำคัญ อยู่นั่นหมด ป๊าต้องบอกว่า ลิสออกมาเลย มีธุรกรรมอะไรในชีวิตบ้างประกัน รหัสบัญชีทุกบัญชี หุ้น เงินลงทุนทุกประเภท ภาษีที่ต้องจ่ายหรือได้คืน ติดหนี้ใครไว้หรือเปล่าทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต มีอะไรเขียนออกมาให้หมด เพราะถ้าเราหมดสติหรือเป็นอะไรไปคนที่บ้านจะได้รู้และจัดการถูก

Create Date : 31 พฤษภาคม 2556Last Update : 2 มิถุนายน 2556 7:31:40 น.Counter : 291 Pageviews. 2 commentsAdd to   ส่งกำลังใจมาให้นะคะ ขอให้รักษาได้หายขาด สุขภาพกลับมาแข็งแรงเร็วๆ พี่ก็เป็นมะเร็งเต้านมระยะสองคะ รักษามาสองปีแล้ว ตอนนี้ก็ทานยา และ follow up ไปเรื่อยๆ ทุกสามเดือน กำลังใจสำคัญมากคะ เข้มแข็งนะคะ สู้สู้โดย: สัจจาภรณ์ IP: 61.91.73.21 วันที่: 31 พฤษภาคม 2556 เวลา:14:15:00 น.  สู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้โดย: หนึ่ง IP: 125.26.82.76 วันที่: 31 พฤษภาคม 2556 เวลา:15:12:50 น.ชื่อ :Comment : *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก Emotion                                                                                                      ยืนยันรหัสความปลอดภัย : (กรอกตัวเลขที่ปรากฎในภาพ)labellalalaLocation :  [ดู Profile ทั้งหมด] ให้ทิปเจ้าของ Blog [?] ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]Group Blog Group ตัวอย่าง  พฤษภาคม 2556>>   12345678910111213141516171819202122232425262728293031  31 พฤษภาคม 2556 เมื่อนักเรียน ป.โท อังกฤษ รู้ว่าตัวเองเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ตอนที่ 2 -กว่าจะเจอโรคร้ายAll Blog เมื่อนักเรียน ป.โท อังกฤษ รู้ว่าตัวเองเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ตอนที่ 4- เตรียมตัวอย่างไรให้พร้อมก่อนคีโม เมื่อนักเรียน ป.โท อังกฤษ รู้ว่าตัวเองเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ตอนที่ 3 - วางแผนรักษา คีโม vs แพทย์ทางเลือก เมื่อนักเรียน ป.โท อังกฤษ รู้ว่าตัวเองเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ตอนที่ 2 -กว่าจะเจอโรคร้าย เมื่อนักเรียน ป.โท อังกฤษ รู้ว่าตัวเองเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ตอนที่ 1-ลางบอกโรคร้ายFriends Blog labellalala Webmaster - BlogGang[Add labellalala's blog to your weblog]Link Bloggang.com Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. 

 

เมื่อ ข้าพเจ้าคิดว่า ตัวเองเป็นมะเร็ง ที่เต้านมแน่นอน
เหตุเกิด ตั้งแต่ สี่เดือนที่แล้ว ถ้านับ นี้คือเดือนที่ หก แล้วที่มีอาการหนักขึ้น
เกิดก้อนกลมๆที่อกด้านขวาใต้ราวนม และมันระบมและค่อยๆโตขึ้น บางครั้งปวด บางครั้งหาย
แต่ก็มุกับงานเหลือเกิน
จนเดือนที่4 ก้อนนั้นมันยุบลงไป
เลยตายใจ ยังไม่ไปตรวจ แต่ยังสืบค้นหาอาการของโรค ว่าเป็นยังใง
จนกระทั้งข้าพเจ้าได้ทานเนื้อแดดเดียว แล้วมีผลต่อ ก้อนเนื้อจุดนั้นที่ยุบตัวไปและระคายเคืองด้านในนั้น
และ อีกครั้ง ที่ทานกาแฟเอสเพรสโซ่เข้มข้นตามปั๊มลงไปแล้วเจอ อาการเดียวกัน
และหยุดกินเนื้อสัตว์ทุกชนิด กินมังบ้าง กินเจบ้าง
จนได้เห็ดมาผัดใส่ถั่วงอก
ปรากฎว่า อาการเดียวกับที่กินเนื้อแดงและกาแฟเข้มข้นนั้นเลย คิดว่าจากน้ำมัน
วันนี้ ต้องหยุดทุกอย่างเข้าคิวรอ
ให้หมอตรวจให้รู้แน่
สำหรับตัวเองนะ

 

ขณะรอหมอ นัดอัลตร้าซาว
ห้องข้างๆ บอก
คนใข้คนใหนลุกเดินได้ยกมือขึ้น....เงียบ
ก็มี คนนอนบนเตียง 7เตียง รถเข็นอีกเป็นสิบ แล้วลุ้นอะไรเนี้ยคุณหมอ....คิกๆๆ

 

รอฟังข่าวต่อนะคะ ขอเปนกำลังใจค่ะ สู้ สู้ นะคะ

 

" เรียนรู้ผู้ป่วยมะเร็งคนที่หนึ่ง " เขียนบล็อคได้ดีมากค่ะ บ่งบอกถึงกำลังใจที่เข้มแข็ง

คุณสังขลีวัด เจ้าของกระทู้เงียบไปไหนน๊า.. สมาชิกมารอติดตาม อยู่ค่ะ

 

รอช่ายมั๊ยล่า
ยังเรียงความรู้สึก ไม่ช่ายดิ
ยังระบมอยู่ 55+
ไปทำเมมโมแกรม และ อัลตร้าซาวด์
การทำเมมโมแกรมเป็นอะไรที่ทรมานมากกกกกกกกถึงมากที่สุด
และ อย่าไปก่อนเป็น ประจำเดือนมัน ไม่อยากบอกเลยว่ามันทรมานมากเลยนะ
เขาให้เราเอาหน้าอกของเราเนี้ย ไปกดด้วยเครื่อง เหมือน เครื่องบีบ คอยๆบีบจนแน่น แล้วให้กลั้นลมหายใจ กดด้านหน้า กดด้านข้างจน เราบอกว่า พอแล้วเดี๋ยวมันจะแตกเหมือนแตงโม555+
คุณหมอบอก ถ้ามันปกติมันไม่แตก ถ้าผิดปกติมันแตก เอ้อ นิ่งไปเลยเรา เริ่มเครียด
เราให้ฉายามันว่า เครื่องบีบแตงโม
ต่อไป เครื่อง อัลตร้าซาวเหมือนดูเด็กในท้องนะ เขาเอาเจลทาแล้วใช้ที่กด เราเรียกที่กดจริงๆจนบอกเจ็บ ไล่ดูไปจนทั่วอก
เอ้อ อกด้านซ้ายมีถุงน้ำขนาด1เซนต์อยู่นะคะ และ อกด้านขวามีถุงน้ำขนาด5.3 เซนมันเป็นถุงเดียวแต่ดูเหมือนสองถุงยังไม่เห็นเนื้องอกนะคะ
อ้าว ขั้นแรก ก็ใช่ว่ามันจะเป็นเนื้องอกนี้หว่า
้เหมือนจะดีใจ นะแต่ไม่ชัว
เอาภาพที่คุณหมอตรวจกลับบ้านเป็นหลักฐานการจ่ายเงิน
เอ่อดี มีถุงน้ำแล้วอึ่มดี โดยไม่ต้องเสริม คิดในแง่ดีในแง่ดี
ต่อไปเป็น กระบวนการเจาะน้ำมาตรวจซะดีดี หรือไม่ก็ดูดเอาออกมาให้หมดคะหมอว่าใง
เดี๋ยวมาเล่าให้ฟังต่อคะ

 

ก็รอดิ.. จะดูว่าเหมือนของเรารึปล่าว

เราเองก็เคยตรวจด้วยเครื่องนี้มาเหมือนกัน แต่ไม่ยักเจ็บ อ่ะ

เพราะบีบแป๊บเดียวเอง

แต่..เออ..คงเปงเพราะเต้าเราไม่ใช่เต้าแตงโม.... อิอิอิ 55555555

อย่าลืมมาเล่าต่อด้วยน๊า รออ่านจ๊า

 

เราหลงไหลหน้าอกตัวเองมากนะ 555+
รักเลยละ มันไม่ใช่แตงโม มันเป็นลูกมะพร้าวคิกๆ
ตั้งแต่ มีดาราโชว์เต้า กระบวนการชุดชั้นในก็เปลี่ยนไป เป็นทรงมะละกอหมดเลย
หาชั้นในที คุ้ยหาทรงตัวเองจนถอดใจเลยแหละ บางที
โอ้ย คิดแล้วนึกถึงตอนเป็นสาวๆ
34-25-36 ไม่ต้องเสริม ไม่ต้อง เติม ไม่ต้องดัน ไม่ต้องยัด แต่ต้องประคอง555+
แต่มีกฏว่ามันต้องพรางไว้เก็บไว้ให้อยู่ลึกที่สุด เพราะเขาอยู่ในเขต สงวน555+
เพื่อความปลอดภัยสำหรับตัวเองและคนอื่น

เฮ้อ อะไรอะไร ก็ไม่คงทนไม่จีรีงยั้งยืนไม่อยู่กับเรา

เพื่อนบอกถ้าเอ็งไม่มีนมก็ไม่แปลกนะ เพราะเอ็งเหมือนผู้ชาย 555+
จะแต่งหญิงที
พี่บอก ขอร้องละหว๊า อย่าใส่ชุดนี้มาเลย มันไม่ใช่
เราได้แต่ เอ้ออ ฝากไว้ก่อน

 

ว๊าว... 34 - 25 - 36 ขนาดเท่ากันเรย..นิ หุหุหุ

ตกลงไม่ใช่แตงโม แต่เปงมะพร้าว เอ... พันธุ์ไหนดี? อิอิอิ

แต่ดีนะเราว่าเปงมะพร้าวกินยาก ส่วนแตงโมแตกง่ายกินง่ายเกินไป ฮ่า ฮ่า ๆ ๆ ๆ

แต่ไม่ว่าจะเป็นอะไร สายพันธุ์ไหน เป็นหน้าที่ให้หญิงเราเก็บรักษาให้ดี พ้นมือโจร

และที่สำคัญแม้จะหย่อนยานไปตามกาล ก็ขอให้รอดพ้นจากภัยโรคาพยาธิ รังสี และมีดหมอด้วยเถิด สาธุ

มาติดตามผลตรวจ mammogram ค่ะ ยังระบมอยู่รึปล่าวเอ่ย?

 

ไรอะ๊
ขนาดเท่าากันเลยรึ อืมน่าสน
ตอนนี้ มันกะลังจะเป็นมะพร้าวแก่น555+
ขอเป็น มะพร้าวไฟละกัน น้ำมันซ่าดี อร่อยหน่า
ถ้ามันกลายเป็น -- ตึดตึด 25 36 ขึ้นมา
แง้ๆ หนูไม่ยอม ยังใงก็ไม่ยอม ฮือ ฮือ

...... ว่าแต่ ตอนนี้ คงยังไม่เจอ มีด
ถ้าจะเจอเข็มก่อนนะท่านนะ
ถ้าเข็มยังไม่พอก็ต้องมีดละนะท่านนะ


เดี๋ยวคุณหมอ ก็จะถามว่า จะเอาแบบ -- 25 36 หรือจะเอา -- -- --
55+
เฮ้อ สู้ สู้ ชักกกกกแผ่วแหละ

 

อย่าให้ถึงต้องมีดเลยน่ะ แค่เข็มก็เสียวจะแย่แล้วมั้งคะ

ยังไงก็ขอเอาใจช่วย

ตอนลงเข็มเนี่ย ดูดน้ำในถุงCyst ออก อยากรู้จัง ว่า เจ็บป่าว ?

หมอเค้าให้ยาชาหรือไม่อย่างไร?

เผื่อเค้าจะเป็นมั่ง จะได้เตรียม... เจ็บ ... ด้วยคน

 

คิดว่าไม่น่าจะนะ
เพราะเราเคยดูดน้ำออกจากปอดด้านขวา หมอเขาใช้เข็มแต่ขนาดเท่ากระบอกจารบี มันก็ระทึกนิดหน่อย ทำเสร็จก็ระบมไปหลายวันเลย
นี้มาน้ำที่หน้าอกอีก
เราบ่นกะตัวเอง
ว่า หนูไม่รู้เป็นอะไรกับน้ำก็ไม่รู้ เท่านั้นละ
มีบางอย่างมาลูบหัวแผ่วๆเลย แฮะๆนอกเรื่องนิดส์หน่อยนะ
ตอนนี้ใกล้วันละ ใกล้เข้ามาละ ระทึก ระทึก

 

อืมม... ฟังแล้วรู้สึกจะไม่น่ากลัว

ช่วงระหว่างรอตรวจ คุณสังขลีวัดช่วยแนะนำหน่อยค่ะ ว่าเราควรปฏิบัติตน ดูแลตนเอง อย่างไรบ้างคะ

เพื่อลดความเสี่ยงต่อการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง (ถึงแม้จะอยู่ในระยะอันใกล้ ใกล้เข้ามาทุกวินาที ) และเพื่อป้องกันผลแทรกซ้อน ที่อาจเกิดขึ้นในระยะยาว

 

เลิก กิน เนื้อ นม ใข่
เลิก เหล้า ชา กาแฟ บุหรี่ นารี เอ้ย ถ้าเป็น พิษ เป็นภัยนะ
หันมา กินหญ้า อ้าวจริงนะ
กินผัก กินมัง กินเจ
ทำใจให้สบาย เหมือน นอนพักต่างอากาศ
กิน อาหารที่ต้านมะเร็ง
ใบมะรุม ผักใบเขียว ยอดมะระขี้นก ลิ้นฟ้า อันนี้เพื่อนแนะนำมะนาวโซดา
ไม่กินหวาน ไม่กินอาหาร ทอด ผัด ของหมักของดอง
เอ่อ ผลไม้ที่มากับรถผลไม้ก็อันตรายเพราะเขาชุบสารให้อร่อย
ต้องระวัง

 

วันที่ 2-8-2013
วันนี้ ไปหาหมอ เอาผลผลเมมโมแกรม และอัลตร้าซาวด์ ไปให้คุณหมอดูด้วย
ไปนั่งรอใช้สิทธิผู้ประกันตนที่เราเสียทุกเดือน ตั้งเยอะไม่เคยได้ใช้เลยยยย
ไปตั้งกะเจ็ดโมงเช้าเหมือนเวลาทำงานเลย ถึง7.44 ทำทะเบียนซักประวัติและ
วัดความดันช่างน้ำหนักและรอ
เป๊ง....คุณหมอเดินเข้าห้องเรียกคนใข้ ผ่านไป ผ่านไป และผ่านไป
ถึงคิวเรา
คุณหมอดผูล ซักอาการ และๆๆๆ ขึ้น นอนบนเตียงเลยครับ
พยาบาลเตรียมเข็ม บอก ปลดตะขอรอหมอ คุณหมอลุกจากเก้าอี้
เราถาม เจาะตอนนี้เลยเหรอคุณหมอ คือยังไม่เตรียมตัวเตรียมใจเลยอึ้งอยู่
คุณหมอบอก เจาะ เลย อ่าน ภาพเมมโมแกรม จุดที่ตั้งของก้อนนำ้
จับที่ผิวกดลงดูบริเวณที่ตั้ง
กัอนน้ำ มันเป็นลักษณเหมือน ก้อนน้ำที่คนโดนไฟลวกแล้วเป็นนูนๆน้ำใสๆ มันนูนขึ้นมาลักษณ นั้นเลย
แปลกที่คุณหมอแกเจอเลย และกดเข็มคุณหมอมือเบามาก มารู้สึกอีกที
เจ็บแล้ว คุณหมอบอก 6 CC พอดี
ิอีก15วันรอฟังผลบอก 7วันไม่ชัว 15 วันดีกว่าแน่นอน
หมอบอก ถ้ามันเป็นน้ำ มันไม่น่าเป็นมะเร็ง รอฟังผลให้แน่ชัดอีกที
แต่น้ำมันเป็นสีเหมือน น้ำล้างเนื้อนะ ไม่มีสีแดงของเลือด
มีแซวด้วยนะ จะโกรธหมอมั๊ยเนี้ย เจาะน้ำออกแล้ว ทำให้ หน้าอกลดลง555+
โธ่เอ๊ย คุณหมอ อันนี้หนูรับได้นะ555+
ไม่รู้ละ เจาะเสร็จก็ กินกระจายเหมือนกันตอนนี้
ได้ยาฆ่าเชื้อมากินคะตอนนี้

 

ขอบคุณมากค่ะคุณสังขลีวัด ที่กรุณาแชร์ความรู้

เคยอ่านฟังศึกษาแนวทางการป้องกันรักษามะเร็งมาบ้าง แต่เรื่องพวกนี้ไม่เคยจบซักที มีอัพเดทเรื่อยๆ เค้าบอกว่ามะเร็งชอบกิน โปรตีน ไขมัน เกลือ

เอาเป็นว่าอาหารชนิดใดที่เราพิจารณาแล้วว่าอุดมไปด้วยโปรตีน เนื้อนมไข่ คงต้องงดๆ กันแล้ว เอ... รวมพืชโปรตีนสูงอย่าง ถั่ว งา ด้วยรึปล่าวคะ

อีกอย่างเคยอ่านเจอพืชที่มะเร็งต้องการ คือพวกสับปะรด ไม่รู้จิงป่าว ตอนนี้ยังสับสนอยู่ จะเอาไงกันแน่

เหล้า ชา กาแฟ บุหรี่ นารีที่เป็นพิษ (เฮ๊ย) รวมคนไม่เป็นมะเร็งก็พิจารณากันเอาเองว่าจะงดดีหรือไม่

ของหมักดอง จะอุดมไปด้วยเกลือโซเดียม ซึ่งจะช่วยยึดเซลล์มะเร็งให้ติดแน่นในกาย ยากที่จะหลุด

ไขมัน อาหารทอด ผัด เป็นตัวสร้างเซลล์ร้ายให้โตไวไว

ส่วนเรื่องของมะนาวโซดา เห็นมีหลายองค์กรออกมาวิเคราะห์โต้แย้งกันหลายสำนัก เราก็รับฟังไว้ค่ะ

ความเห็นส่วนตัวมองว่ามะนาวโซดาให้ผลในเชิงป้องกันมากกว่ารักษานะคะ

ส่วนท่านอื่นไม่รู้คิดเห็นกันยังไงบ้าง

 

คนเป็นมะเร็งหลักๆมาจากสูบบุหรี่ กินเหล้า และของหวานมาก.........เท่าที่ไปงานศพพวกเขามา ทั้งหมดที่เป็นมะเร็งตายจะเรื่องชื่อเลยทีเดียวตอนมีชีวิตอยู่ จะกินแต่ของสามสิ่งนี้

 

เราไม่สูบบุหรี่ แต่อยู่ใกล้คนสูบบุหรี่
เราไม่กินเหล้า ของมึนเมา
ของหวานเหรอ เสียงดังเสียงดัง อืม มีสิทธิ
เดี๋ยวจะกระซิบบอก บางคน อย่าหวานมากเห็นมั๊ย หนูไม่สบายเลย 555+
หวานอยู่ได้ 55+
แต่เราไม่ทานหวานมากนะ เราทานหวานน้อยนี้นา

 

วันนี้ 9-10-11 ..... อืมม อีก 7 วัน รู้ผล

มาแอบส่งกำลังใจค่ะ

เท่าที่ดู ความเสี่ยงน้อยมากๆ แค่ก้อนซีสต์เอง คงไม่เป็นไรเนอะ

 

โฮ้ กะจะทำเป็นลืม ไปซักปะเดี๋ยวหนึ่ง
ทำไม๊ทำไม กลับจำ คิิกๆ
เคยใหม ไอ้ที่ให้จำกลับลืม
ลูกค้าจะแต่งงาน ย้ำแล้ว ย้ำอีก เป็นลูกค้าพิเศษมาก
ก็เคลียงาน จน ไม่แน่ใจ ไปเลือกชุดสวย เลยโทรหาว่าธีมงาน เป็นใง
ลูกค้าบอก ผมแต่งไปเมื่อวานแล้วครับพี่
เอ้อ ...............เป็นใง
เหวี่ยงเป็นเดือนเลยครับ พี่น้องครับ555+
ขอบคุณคะ รอลุ้นอยู่ ลุ้นอยู่