เรื่องนี้ อยู่ในสูตรใดครับ เล่มใด หน้าใด

esanmagic · 3 เมษายน 2012

พระภิกษุทูลถามพระพุทธเจ้าว่า : ภิกษุรูปหนึ่ง เห็นน้ำมันหมูหรือไขหมูลอยตามน้ำมา ภิกษุรูปดังกล่าวได้เก็บไว้ ตั้งใจว่าจะนำเอาไปคืนเจ้าของ ครั้นเมื่อพบเจ้าของ เจ้างของน้ำมันหมูได้กล่าวโจทย์ภิกษุว่าลักขโมย เป็นเหตุต้องปาราชิก ภิกษุรูปดังกล่าว จึงได้มีภรรยา ฯ

สนใจเรื่องนี้มากครับ แต่ไม่แน่ใจว่าสูตรไหน

รบกวนผู้รู้ด้วยครับ

LungKO · 5 เมษายน 2012

esanmagic said: ↑

พระภิกษุทูลถามพระพุทธเจ้าว่า : ภิกษุรูปหนึ่ง เห็นน้ำมันหมูหรือไขหมูลอยตามน้ำมา ภิกษุรูปดังกล่าวได้เก็บไว้ ตั้งใจว่าจะนำเอาไปคืนเจ้าของ ครั้นเมื่อพบเจ้าของ เจ้างของน้ำมันหมูได้กล่าวโจทย์ภิกษุว่าลักขโมย เป็นเหตุต้องปาราชิก ภิกษุรูปดังกล่าว จึงได้มีภรรยา ฯ

สนใจเรื่องนี้มากครับ แต่ไม่แน่ใจว่าสูตรไหน

รบกวนผู้รู้ด้วยครับ
Click to expand...

ผมไม่ใช่ผู้รู้ นะครับ
แต่เป็นผู้ใคร่จะรู้เท่านั้น
ดีแล้วครับที่ถาม
อยู่ที่นี่ครับ
[FONT=&quot][๑๗๔] ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุ ๒ รูป ชื่อปัณฑกะ ๑ ชื่อกปิละ ๑ เป็นสหายกัน[/FONT]
[FONT=&quot]รูปหนึ่งอยู่ในหมู่บ้าน อีกรูปหนึ่งอยู่ในเมืองโกสัมพี
ขณะเมื่อภิกษุนั้นเดินทางจากหมู่บ้านไป[/FONT][FONT=&quot]เมืองโกสัมพี ข้ามแม่น้ำในระหว่างทาง
เปลวมันข้นที่หลุดจากมือของพวกคนฆ่าหมูลอยติดอยู่[/FONT][FONT=&quot]ที่เท้า
ภิกษุนั้นได้เก็บไว้ด้วยตั้งใจว่า จักให้แก่พวกเจ้าของๆ โจทภิกษุนั้นว่า ท่านไม่เป็นสมณะ[/FONT]
[FONT=&quot]สตรีเลี้ยงโคคนหนึ่งเห็นภิกษุนั้นข้ามแม่น้ำขึ้นมาแล้ว ได้กล่าวคำนี้ว่า ท่านเจ้าขา นิมนต์มาเสพ[/FONT][FONT=&quot]เมถุนธรรมเถิด
ภิกษุนั้นคิดว่า แม้โดยปกติ เราก็ไม่เป็นสมณะแล้ว จึงเสพเมถุนธรรมในสตรี[/FONT][FONT=&quot]เลี้ยงโคนั้น
ไปถึงเมืองโกสัมพีแล้ว แจ้งเรื่องนี้แก่ภิกษุทั้งหลาย ๆ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มี[/FONT][FONT=&quot]พระภาค
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนั้นไม่ต้องอาบัติปาราชิก เพราะอทินนาทาน[/FONT] (เพราะท่านไม่มีจิตคิดลัก)
[FONT=&quot]แต่ต้องอาบัติปาราชิก เพราะเสพเมถุนธรรมฯ[/FONT]
(เพราะความไม่รู้ หรือเข้าใจผิดว่าตนไม่ใช่พระแล้ว จึงไปเสพเมถุน คือมีเพศสัมพันธ์กับสตรีคนเลี้ยงโค จึงต้องอาบัติปาราชิก)
 [FONT=&quot]เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑ บรรทัดที่ ๗๒๒๑ - ๗๔๓๕. หน้าที่ ๒๘๐ - ๒๘๗. [/FONT]
[FONT=&quot]
รายละเอียด
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๑ มหาวิภังค์ ภาค ๑[/FONT]

[FONT=&quot]เรื่องเนื้อเดน ๒ เรื่อง[/FONT]
[FONT=&quot] [๑๖๒] ๑. ก็โดยสมัยนั้นแล พวกโจรในป่าอันธวันแขวงเมืองสาวัตถีฆ่าโคกินเนื้อแล้ว[/FONT]
[FONT=&quot]ซ่อนส่วนที่เหลือไว้แล้วพากันไป ภิกษุทั้งหลายสำคัญว่าเป็นของบังสุกุล จึงให้ถือเอาไปฉัน[/FONT]
[FONT=&quot]พวกโจรโจทภิกษุเหล่านั้นว่า พวกท่านไม่เป็นสมณะ ภิกษุเหล่านั้นมีความรังเกียจว่า พวกเรา[/FONT]
[FONT=&quot]ต้องอาบัติปาราชิกแล้วกระมังหนอ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่ผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาค ตรัสว่า[/FONT]
[FONT=&quot]ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้มีความสำคัญว่าเป็นของบังสุกุล ไม่ต้องอาบัติ.[/FONT]
[FONT=&quot] ๒. ก็โดยสมัยนั้นแล พวกโจรในป่าอันธวันแขวงเมืองสาวัตถี ฆ่าหมูกินเนื้อแล้ว[/FONT]
[FONT=&quot]ซ่อนส่วนที่เหลือไว้แล้วพากันไป ภิกษุทั้งหลายสำคัญว่าเป็นของบังสุกุล จึงให้ถือเอาไปฉัน พวก[/FONT][FONT=&quot]โจรโจทภิกษุเหล่านั้นว่า พวกท่านไม่เป็นสมณะ ภิกษุเหล่านั้นมีความรังเกียจว่า พวกเราต้อง[/FONT][FONT=&quot]อาบัติปาราชิกแล้ว กระมังหนอ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่ผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาคตรัสว่า[/FONT]
[FONT=&quot]ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้มีความสำคัญว่าเป็นของบังสุกุล ไม่ต้องอาบัติ.[/FONT]
[FONT=&quot]
เรื่องหญ้า ๒ เรื่อง[/FONT]
[FONT=&quot] [๑๖๓] ๑. ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งไปสู่แดนดงหญ้า มีไถยจิตลักหญ้าที่เขาเกี่ยวไว้[/FONT]
[FONT=&quot]ได้ราคา ๕ มาสก แล้วมีความรังเกียจว่า เราต้องอาบัติปาราชิกแล้วกระมังหนอ จึงกราบทูลเรื่อง[/FONT]
[FONT=&quot]นั้นแด่พระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุ เธอต้องอาบัติปาราชิกแล้ว.[/FONT]
[FONT=&quot] [๑๖๔] ๒. ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งไปสู่แดนดงหญ้า มีไถยจิตลักเกี่ยวหญ้า[/FONT]
[FONT=&quot]ได้ราคา ๕ มาสก แล้วมีความรังเกียจว่า เราต้องอาบัติปาราชิกแล้วกระมังหนอ จึงกราบทูล[/FONT]
[FONT=&quot]เรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุ เธอต้องอาบัติปาราชิกแล้ว.[/FONT]
[FONT=&quot]
เรื่องให้แบ่งของสงฆ์ ๗ เรื่อง[/FONT]
[FONT=&quot] [๑๖๕] ๑. ก็โดยสมัยนั้นแล พระอาคันตุกะทั้งหลายยังกันและกัน ให้แจกมะม่วงของ[/FONT]
[FONT=&quot]สงฆ์แล้วฉัน ภิกษุเจ้าถิ่นทั้งหลายโจทพวกพระอาคันตุกะว่า พวกท่านไม่เป็นสมณะ พวกพระ[/FONT]
[FONT=&quot]อาคันตุกะมีความรังเกียจ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาคตรัสถามว่า[/FONT]
[FONT=&quot]ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกเธอคิดอย่างไร[/FONT]?
[FONT=&quot] ภิ. พวกข้าพระพุทธเจ้า คิดเพื่อต้องการฉัน พระพุทธเจ้าข้า[/FONT]
[FONT=&quot] ภ. ดูกรภิกษุทั้งหลาย คิดเพื่อต้องการฉัน ไม่ต้องอาบัติ[/FONT]
[FONT=&quot] ๒. ก็โดยสมัยนั้นแล พระอาคันตุกะทั้งหลาย ยังกันและกัน ให้แจกชมพู่ของสงฆ์[/FONT][FONT=&quot]แล้วฉัน ภิกษุเจ้าถิ่นทั้งหลายโจทพวกพระอาคันตุกะว่า พวกท่านไม่เป็นสมณะ พวกพระอา[/FONT][FONT=&quot]คันตุกะมีความรังเกียจ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาค ตรัสถามว่า[/FONT]
[FONT=&quot]ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกเธอคิดอย่างไร[/FONT]?
[FONT=&quot] ภิ. พวกข้าพระพุทธเจ้า คิดเพื่อต้องการฉัน พระพุทธเจ้าข้า[/FONT]
[FONT=&quot] ภ. ดูกรภิกษุทั้งหลาย คิดเพื่อต้องการฉัน ไม่ต้องอาบัติ[/FONT]
[FONT=&quot] ๓. ก็โดยสมัยนั้นแล พระอาคันตุกะทั้งหลาย ยังกันและกัน ให้แจกขนุนสำมะลอ[/FONT]
[FONT=&quot]ของสงฆ์แล้วฉัน ภิกษุเจ้าถิ่นทั้งหลายโจทพวกพระอาคันตุกะว่า พวกท่านไม่เป็นสมณะ พวก[/FONT]
[FONT=&quot]พระอาคันตุกะมีความรังเกียจ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาค ตรัสถามว่า[/FONT]
[FONT=&quot]ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกเธอคิดอย่างไร[/FONT]?
[FONT=&quot] ภิ. พวกข้าพระพุทธเจ้า คิดเพื่อต้องการฉัน พระพุทธเจ้าข้า[/FONT]
[FONT=&quot] ภ. ดูกรภิกษุทั้งหลาย คิดเพื่อต้องการฉัน ไม่ต้องอาบัติ[/FONT]
[FONT=&quot] ๔. ก็โดยสมัยนั้นแล พระอาคันตุกะทั้งหลาย ยังกันและกัน ให้แจกขนุนของสงฆ์[/FONT]
[FONT=&quot]แล้วฉัน ภิกษุเจ้าถิ่นทั้งหลายโจทพวกพระอาคันตุกะว่า พวกท่านไม่เป็นสมณะ พวกพระอาคันตุกะมีความ[/FONT]
[FONT=&quot]รังเกียจ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาค ตรัสถามว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย[/FONT]
[FONT=&quot]พวกเธอคิดอย่างไร[/FONT]?
[FONT=&quot] ภิ. พวกข้าพระพุทธเจ้า คิดเพื่อต้องการฉัน พระพุทธเจ้าข้า[/FONT]
[FONT=&quot] ภ. ดูกรภิกษุทั้งหลาย คิดเพื่อต้องการฉัน ไม่ต้องอาบัติ[/FONT]
[FONT=&quot] ๕. ก็โดยสมัยนั้นแล พระอาคันตุกะทั้งหลาย ยังกันและกัน ให้แจกผลตาลสุกของ[/FONT][FONT=&quot]สงฆ์แล้วฉัน ภิกษุเจ้าถิ่นทั้งหลายโจทพวกพระอาคันตุกะว่า พวกท่านไม่เป็นสมณะ พวกพระ[/FONT]
[FONT=&quot]อาคันตุกะมีความรังเกียจ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาค ตรัสว่า[/FONT]
[FONT=&quot]ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกเธอคิดอย่างไร[/FONT]?
[FONT=&quot] ภิ. พวกข้าพระพุทธเจ้า คิดเพื่อต้องการฉัน พระพุทธเจ้าข้า[/FONT]
[FONT=&quot] ภ. ดูกรภิกษุทั้งหลาย คิดเพื่อต้องการฉัน ไม่ต้องอาบัติ[/FONT]
[FONT=&quot] ๖. ก็โดยสมัยนั้นแล พระอาคันตุกะทั้งหลายยังกันและกัน ให้แจกอ้อยของสงฆ์[/FONT]
[FONT=&quot]แล้วฉัน ภิกษุเจ้าถิ่นทั้งหลายโจทพวกพระอาคันตุกะว่า พวกท่านไม่เป็นสมณะ พวกพระ[/FONT]
[FONT=&quot]อาคันตุกะมีความรังเกียจ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาค ตรัสว่า[/FONT]
[FONT=&quot]ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกเธอคิดอย่างไร[/FONT]?
[FONT=&quot] ภิ. พวกข้าพระพุทธเจ้า คิดเพื่อต้องการฉัน พระพุทธเจ้าข้า[/FONT]
[FONT=&quot] ภ. ดูกรภิกษุทั้งหลาย คิดเพื่อต้องการฉัน ไม่ต้องอาบัติ[/FONT]
[FONT=&quot] ๗. ก็โดยสมัยนั้นแล พระอาคันตุกะทั้งหลาย ยังกันและกัน ให้แจกมะพลับของ[/FONT][FONT=&quot]สงฆ์แล้วฉัน ภิกษุเจ้าถิ่นทั้งหลายโจทพวกพระอาคันตุกะว่า พวกท่านไม่เป็นสมณะ พวกพระ[/FONT]
[FONT=&quot]อาคันตุกะมีความรังเกียจ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาค ตรัสถามว่า[/FONT]
[FONT=&quot]ดูกรภิกษุ พวกเธอคิดอย่างไร[/FONT]?
[FONT=&quot] ภิ. พวกข้าพระพุทธเจ้า คิดเพื่อต้องการฉัน พระพุทธเจ้าข้า[/FONT]
[FONT=&quot] ภ. ดูกรภิกษุทั้งหลาย คิดเพื่อต้องการฉัน ไม่ต้องอาบัติ[/FONT]
[FONT=&quot]
เรื่องไม่ใช่เจ้าของ ๗ เรื่อง[/FONT]
[FONT=&quot] [๑๖๖] ๑. ก็โดยสมัยนั้นแล พวกคนรักษามะม่วงได้ถวายผลมะม่วงแก่ภิกษุทั้งหลายๆ[/FONT]
[FONT=&quot]รังเกียจอยู่ว่า คนพวกนี้มีหน้าที่รักษา ไม่มีหน้าที่จะให้ จึงไม่รับ แล้วกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มี[/FONT]
[FONT=&quot]พระภาค พระผู้มีพระภาค ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ไม่ต้องอาบัติ เพราะคนรักษาถวาย[/FONT]
[FONT=&quot] ๒. ก็โดยสมัยนั้นแล พวกคนรักษาชมพู่ ได้ถวายผลชมพู่แก่ภิกษุทั้งหลายๆ มีความ[/FONT][FONT=&quot]รังเกียจอยู่ว่า คนพวกนี้มีหน้าที่รักษา ไม่มีหน้าที่จะให้ จึงไม่รับ แล้วกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้[/FONT]
[FONT=&quot]มีพระภาค พระผู้มีพระภาค ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ไม่ต้องอาบัติ เพราะคนรักษาถวาย[/FONT]
[FONT=&quot] ๓. ก็โดยสมัยนั้นแล พวกคนรักษาขนุนสำมะลอ ได้ถวายผลขนุนสำมะลอแก่ภิกษุ[/FONT][FONT=&quot]ทั้งหลายๆ รังเกียจอยู่ว่า คนพวกนี้มีหน้าที่รักษา ไม่มีหน้าที่จะให้ จึงไม่รับ แล้วกราบทูลเรื่อง[/FONT]
[FONT=&quot]นั้นแด่พระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาค ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ไม่ต้องอาบัติ เพราะคนรักษาถวาย[/FONT]
[FONT=&quot] ๔. ก็โดยสมัยนั้นแล พวกคนรักษาขนุน ได้ถวายผลขนุนแก่ภิกษุทั้งหลายๆ รังเกียจ[/FONT]
[FONT=&quot]อยู่ว่า คนพวกนี้มีหน้าที่รักษา ไม่มีหน้าที่จะให้ จึงไม่รับ แล้วกราบทูลเรื่องนั้น แด่พระผู้มีพระ[/FONT]
[FONT=&quot]ภาค พระผู้มีพระภาค ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ไม่ต้องอาบัติ เพราะคนรักษาถวาย[/FONT]
[FONT=&quot] ๕. ก็โดยสมัยนั้นแล พวกคนรักษาผลตาลสุก ได้ถวายผลตาลสุกแก่ภิกษุทั้งหลายๆ[/FONT]
[FONT=&quot]รังเกียจอยู่ว่า คนพวกนี้มีหน้าที่รักษา ไม่มีหน้าที่จะให้ จึงไม่รับ แล้วกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้[/FONT]
[FONT=&quot]มีพระภาค พระผู้มีพระภาค ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ไม่ต้องอาบัติ เพราะคนรักษาถวาย[/FONT]
[FONT=&quot] ๖. ก็โดยสมัยนั้นแล พวกคนรักษาอ้อย ได้ถวายอ้อยแก่ภิกษุทั้งหลายๆ รังเกียจอยู่ว่า[/FONT]
[FONT=&quot]คนพวกนี้มีหน้าที่รักษา ไม่มีหน้าที่จะให้ จึงไม่รับ แล้วกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค[/FONT]
[FONT=&quot]พระผู้มีพระภาค ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ไม่ต้องอาบัติ เพราะคนรักษาถวาย[/FONT]
[FONT=&quot] ๗. ก็โดยสมัยนั้นแล พวกคนรักษามะพลับ ได้ถวายผลมะพลับแก่ภิกษุทั้งหลายๆ รัง[/FONT][FONT=&quot]เกียจอยู่ว่า คนพวกนี้มีหน้าที่รักษา ไม่มีหน้าที่จะให้ จึงไม่รับ แล้วกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้[/FONT]
[FONT=&quot]มีพระภาค พระผู้มีพระภาค ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ไม่ต้องอาบัติ เพราะคนรักษาถวาย[/FONT]
[FONT=&quot]
เรื่องยืมไม้ของสงฆ์[/FONT]
[FONT=&quot] [๑๖๗] ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งขอยืมไม้ของสงฆ์ไปค้ำฝาที่อยู่ของตน ภิกษุ[/FONT]
[FONT=&quot]ทั้งหลายโจทภิกษุนั้นว่า ท่านไม่เป็นสมณะ เธอมีความรังเกียจ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มี[/FONT]
[FONT=&quot]พระภาค พระผู้มีพระภาค ตรัสถามว่า ดูกรภิกษุ เธอคิดอย่างไร[/FONT]?
[FONT=&quot] ภิ. ข้าพระพุทธเจ้า คิดขอยืม พระพุทธเจ้าข้า[/FONT]
[FONT=&quot] ภ. ดูกรภิกษุ เธอไม่ต้องอาบัติ เพราะขอยืม.[/FONT]
[FONT=&quot]
เรื่องลักน้ำของสงฆ์[/FONT]
[FONT=&quot] [๑๖๘] ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งมีไถยจิตลักน้ำของสงฆ์ แล้วมีความรังเกียจ[/FONT]
[FONT=&quot]จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาค ตรัสถามว่า ดูกรภิกษุ เธอคิดอย่างไร[/FONT]?
[FONT=&quot] ภิ. ข้าพระพุทธเจ้า คิดลัก พระพุทธเจ้าข้า[/FONT]
[FONT=&quot] ภ. ดูกรภิกษุ เธอต้องอาบัติปาราชิกแล้ว[/FONT]
[FONT=&quot]
เรื่องลักดินของสงฆ์[/FONT]
[FONT=&quot] ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งมีไถยจิตลักดินของสงฆ์แล้วมีความรังเกียจ จึงกราบทูล[/FONT][FONT=&quot]เรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาค ตรัสถามว่า ดูกรภิกษุ เธอคิดอย่างไร[/FONT]?
[FONT=&quot] ภิ. ข้าพระพุทธเจ้า คิดลัก พระพุทธเจ้าข้า[/FONT]
[FONT=&quot] ภ. ดูกรภิกษุ เธอต้องอาบัติปาราชิกแล้ว[/FONT]
[FONT=&quot]
เรื่องหญ้า ๒ เรื่อง[/FONT]
[FONT=&quot] ๑. ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งมีไถยจิตลักหญ้ามุงกระต่ายของสงฆ์ แล้วมีความรัง[/FONT][FONT=&quot]เกียจ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาค ตรัสถามว่า ดูกรภิกษุ[/FONT]
[FONT=&quot]เธอคิดอย่างไร[/FONT]?
[FONT=&quot] ภิ. ข้าพระพุทธเจ้า คิดลัก พระพุทธเจ้าข้า[/FONT]
[FONT=&quot] ภ. ดูกรภิกษุ เธอต้องอาบัติปาราชิกแล้ว[/FONT]
[FONT=&quot] ๒. ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งมีไถยจิตเผาหญ้ามุงกระต่ายของสงฆ์ แล้วมีความรัง[/FONT]
[FONT=&quot]เกียจ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาค ตรัสถามว่า ดูกรภิกษุ เธอคิดอย่างไร[/FONT]?
[FONT=&quot] ภิ. ข้าพระพุทธเจ้า คิดเผา พระพุทธเจ้าข้า[/FONT]
[FONT=&quot] ภ. ดูกรภิกษุ เธอไม่ต้องอาบัติปาราชิก แต่ต้องอาบัติทุกกฏ.[/FONT]
[FONT=&quot]
เรื่องเสนาสนะของสงฆ์ ๗ เรื่อง[/FONT]
[FONT=&quot] [๑๖๙] ๑. ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่ง มีไถยจิต ลักเตียงของสงฆ์ แล้วมีความ[/FONT]
[FONT=&quot]รังเกียจ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาค ตรัสถามว่า ดูกรภิกษุ เธอคิด[/FONT]
[FONT=&quot]อย่างไร[/FONT]?
[FONT=&quot] ภิ. ข้าพระพุทธเจ้า คิดลัก พระพุทธเจ้าข้า[/FONT]
[FONT=&quot] ภ. ดูกรภิกษุ เธอต้องอาบัติปาราชิกแล้ว[/FONT]
[FONT=&quot] ๒. ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่ง มีไถยจิต ลักตั่งของสงฆ์ แล้วมีความรังเกียจ[/FONT]
[FONT=&quot]จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาค ตรัสถามว่า ดูกรภิกษุ เธอคิดอย่างไร[/FONT]?
[FONT=&quot] ภิ. ข้าพระพุทธเจ้า คิดลัก พระพุทธเจ้าข้า[/FONT]
[FONT=&quot] ภ. ดูกรภิกษุ เธอต้องอาบัติปาราชิกแล้ว[/FONT]
[FONT=&quot] ๓. ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่ง มีไถยจิต ลักฟูกของสงฆ์ แล้วมีความรังเกียจ[/FONT]
[FONT=&quot]จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาค ตรัสถามว่า ดูกรภิกษุ เธอคิดอย่างไร[/FONT]?
[FONT=&quot] ภิ. ข้าพระพุทธเจ้า คิดลัก พระพุทธเจ้าข้า[/FONT]
[FONT=&quot] ภ. ดูกรภิกษุ เธอต้องอาบัติปาราชิกแล้ว[/FONT]
[FONT=&quot] ๔. ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่ง มีไถยจิต ลักหมอนของสงฆ์ แล้วมีความรังเกียจ[/FONT]
[FONT=&quot]จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาค ตรัสถามว่า ดูกรภิกษุ เธอคิดอย่างไร[/FONT]?
[FONT=&quot] ภิ. ข้าพระพุทธเจ้า คิดลัก พระพุทธเจ้าข้า[/FONT]
[FONT=&quot] ภ. ดูกรภิกษุ เธอต้องอาบัติปาราชิกแล้ว[/FONT]
[FONT=&quot] ๕. ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่ง มีไถยจิต ลักบานประตูของสงฆ์ แล้วมีความ[/FONT]
[FONT=&quot]รังเกียจ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาค ตรัสถามว่า ดูกรภิกษุ เธอคิด[/FONT]
[FONT=&quot]อย่างไร[/FONT]?
[FONT=&quot] ภิ. ข้าพระพุทธเจ้า คิดลัก พระพุทธเจ้าข้า[/FONT]
[FONT=&quot] ภ. ดูกรภิกษุ เธอต้องอาบัติปาราชิกแล้ว[/FONT]
[FONT=&quot] ๖. ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่ง มีไถยจิต ลักบานหน้าต่างของสงฆ์ แล้วมีความรังเกียจ[/FONT]
[FONT=&quot]จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาค ตรัสถามว่า ดูกรภิกษุ เธอคิดอย่างไร[/FONT]?
[FONT=&quot] ภิ. ข้าพระพุทธเจ้า คิดลัก พระพุทธเจ้าข้า[/FONT]
[FONT=&quot] ภ. ดูกรภิกษุ เธอต้องอาบัติปาราชิกแล้ว[/FONT]
[FONT=&quot] ๗. ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่ง มีไถยจิต ลักไม้กลอนของสงฆ์ แล้วมีความ[/FONT]
[FONT=&quot]รังเกียจ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาค ตรัสถามว่า ดูกรภิกษุ เธอคิด[/FONT]
[FONT=&quot]อย่างไร[/FONT]?
[FONT=&quot] ภิ. ข้าพระพุทธเจ้า คิดลัก พระพุทธเจ้าข้า[/FONT]
[FONT=&quot] ภ. ดูกรภิกษุ เธอต้องอาบัติปาราชิกแล้ว[/FONT]
[FONT=&quot]
เรื่องของมีเจ้าของ ไม่ควรนำไปใช้[/FONT]
[FONT=&quot] [๑๗๐] ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุทั้งหลายนำเสนาสนะอันเป็นเครื่องใช้สำหรับวิหารของ[/FONT]
[FONT=&quot]อุบาสกคนหนึ่ง ไปใช้สอย ณ ที่แห่งอื่น จึงอุบาสกนั้นเพ่งโทษ ติเตียนโพนทะนาว่า ไฉนพระผู้[/FONT]
[FONT=&quot]เป็นเจ้าทั้งหลายจึงได้นำเครื่องใช้สอยในที่อื่นไปใช้สอยในที่อีกแห่งหนึ่งเล่า ภิกษุทั้งหลายกราบทูล[/FONT]
[FONT=&quot]เรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เครื่องใช้สอยในที่แห่งหนึ่ง[/FONT]
[FONT=&quot]อันภิกษุไม่พึงใช้สอยในที่อีกแห่งหนึ่ง รูปใดใช้สอย ต้องอาบัติทุกกฏ[/FONT]
[FONT=&quot]
เรื่องของมีเจ้าของ ควรขอยืม[/FONT]
[FONT=&quot] ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุทั้งหลายรังเกียจที่จะนำกระทั่งผ้าปูนั่งประชุมไป แม้ ณ โรงอุโบสถ[/FONT]
[FONT=&quot]จึงนั่งบนพื้นดิน เนื้อตัวก็ดี จีวรก็ดี แปดเปื้อนฝุ่น จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค[/FONT]
[FONT=&quot]พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้นำไปใช้ได้ชั่วคราว ฯ[/FONT]
[FONT=&quot]
เรื่องภิกษุณีชาวเมืองจัมปา[/FONT]
[FONT=&quot] [๑๗๑] ก็โดยสมัยนั้นแล อันเตวาสิกาของภิกษุณีถุลลนันทา ไปสู่สกุลอุปัฏฐากของ[/FONT]
[FONT=&quot]ภิกษุณีถุลลนันทาในเมืองจัมปาแล้วบอกว่า แม่เจ้าปรารถนาจะดื่มยาคูที่ปรุงด้วยของ ๓ อย่าง[/FONT]
[FONT=&quot]ตนสั่งให้เขาหุงหาให้แล้วนำไปฉันเสีย ภิกษุณีถุลลนันทาทราบเข้า จึงโจทภิกษุณีอันเตวาสิกา[/FONT]
[FONT=&quot]นั้นว่า เธอไม่เป็นสมณะ ภิกษุณีอันเตวาสิกามีความรังเกียจ จึงร้องเรียนแก่ภิกษุณีทั้งหลายๆ[/FONT]
[FONT=&quot]แจ้งแก่ภิกษุทั้งหลายๆ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุ[/FONT]
[FONT=&quot]ทั้งหลาย ภิกษุณีนั้นไม่ต้องอาบัติปาราชิก แต่ต้องอาบัติปาจิตตีย์ เพราะสัมปชานมุสาวาท[/FONT]
[FONT=&quot]
เรื่องภิกษุณีชาวเมืองราชคฤห์[/FONT]
[FONT=&quot] ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุณีอันเตวาสิกาของภิกษุณีถุลลนันทาไปสู่สกุลอุปัฏฐากของภิกษุณี[/FONT]
[FONT=&quot]ถุลลนันทาในเมืองราชคฤห์แล้วบอกว่า แม่เจ้าปรารถนาจะฉันขนมรวงผึ้ง ตนสั่งให้เขาทอดแล้ว[/FONT]
[FONT=&quot]นำไปฉันเสีย ภิกษุณีถุลลนันทาทราบเข้า จึงโจทภิกษุณีอันเตวาสิกานั้นว่า เธอไม่เป็นสมณะ[/FONT]
[FONT=&quot]ภิกษุณีอันเตวาสิกามีความรังเกียจ จึงร้องเรียนแก่ภิกษุณีทั้งหลายๆ แจ้งแก่ภิกษุทั้งหลายๆ[/FONT]
[FONT=&quot]จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีนั้น[/FONT]
[FONT=&quot]ไม่ต้องอาบัติปาราชิก แต่ต้องอาบัติปาจิตตีย์ เพราะสัมปชานมุสาวาท.[/FONT]
[FONT=&quot]
เรื่องพระอัชชุกะเมืองเวสาลี[/FONT]
[FONT=&quot] [๑๗๒] ก็โดยสมัยนั้นแล คหบดีอุปัฏฐากของท่านพระอัชชุกะในเมืองเวสาลี มีเด็กชาย[/FONT]
[FONT=&quot]๒ คน คือ บุตรชายคนหนึ่ง หลานชายคนหนึ่ง ครั้งนั้นท่านคหบดีได้สั่งคำนี้ไว้กะท่านพระอัชชุกะ[/FONT]
[FONT=&quot]ว่า พระคุณเจ้าข้า บรรดาเด็ก ๒ คนนี้ เด็กคนใดมีศรัทธาเลื่อมใส พระคุณเจ้าพึงบอกสถานที่[/FONT]
[FONT=&quot]ฝังทรัพย์นี้แก่เด็กคนนั้น ดังนี้แล้วได้ถึงแก่กรรม ครั้นสมัยต่อมา หลานชายของคหบดีนั้น[/FONT]
[FONT=&quot]เป็นผู้มีศรัทธาเลื่อมใส จึงท่านพระอัชชุกะได้บอกสถานที่ฝังทรัพย์นั้นแก่เด็กหลานชายๆ นั้น[/FONT]
[FONT=&quot]ได้รวบรวมทรัพย์ และเริ่มบำเพ็ญทานด้วยทรัพย์สมบัตินั้นแล้ว[/FONT]
[FONT=&quot] ภายหลัง บุตรชายคหบดีนั้น ได้เรียนถามเรื่องนี้กะท่านพระอานนท์ว่า ข้าแต่ท่าน[/FONT]
[FONT=&quot]พระอานนท์ ใครหนอเป็นทายาทของบิดาบุตรชายหรือหลานชาย[/FONT]
[FONT=&quot] ท่านพระอานนท์ตอบว่า คุณ ธรรมดาบุตรชายเป็นทายาทของบิดา[/FONT]
[FONT=&quot] บุ. ข้าแต่ท่านผู้เจริญ พระคุณเจ้าอัชชุกะนี้ ได้บอกทรัพย์สมบัติของกระผมให้แก่คู่[/FONT]
[FONT=&quot]แข่งขันของกระผม[/FONT]
[FONT=&quot] อา. คุณ ท่านพระอัชชุกะไม่เป็นสมณะ[/FONT]
[FONT=&quot] ลำดับนั้น ท่านพระอัชชุกะได้กล่าวคำนี้กะท่านพระอานนท์ว่า อาวุโส อานนท์ ขอท่าน[/FONT]
[FONT=&quot]ได้โปรดให้การวินิจฉัยแก่กระผมด้วยเถิด[/FONT]
[FONT=&quot] ก็ครั้งนั้นแล ท่านพระอุบาลีเป็นฝักฝ่ายของท่านพระอัชชุกะท่านจึงถามท่านพระอานนท์ว่า[/FONT]
[FONT=&quot]อาวุโส อานนท์ ภิกษุใดอันเจ้าของทรัพย์สั่งไว้ว่า ขอท่านได้โปรดบอกสถานที่ฝังทรัพย์นี้แก่[/FONT]
[FONT=&quot]บุคคลนั้น ภิกษุนั้นจะต้องอาบัติด้วยหรือ[/FONT]?
[FONT=&quot] อา. ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ภิกษุนั้นไม่ต้องอาบัติสักน้อย โดยที่สุดแม้เพียงอาบัติทุกกฏ[/FONT]
[FONT=&quot] อุ. อาวุโส ท่านพระอัชชุกะนี้อันเจ้าของทรัพย์สั่งไว้ว่า ขอท่านได้โปรดบอกสถานที่ฝัง[/FONT]
[FONT=&quot]ทรัพย์นี้แก่บุคคลชื่อนี้ จึงได้บอกแก่บุคคลนั้น ท่านพระอัชชุกะไม่ต้องอาบัติ.[/FONT]
[FONT=&quot]
เรื่องเมืองพาราณสี[/FONT]
[FONT=&quot] [๑๗๓] ก็โดยสมัยนั้นแล สกุลอุปัฏฐากของท่านพระปิลินทวัจฉะในเมืองพาราณสี[/FONT]
[FONT=&quot]ถูกพวกโจรปล้น และเด็ก ๒ คน ถูกพวกโจรนำตัวไป ครั้งนั้นท่านพระปิลินทวัจฉะนำเด็ก ๒ คน[/FONT]
[FONT=&quot]นั้นมาด้วยฤทธิ์แล้วให้อยู่ในปราสาท ชาวบ้านเห็นเด็ก ๒ คน นั้นแล้ว ต่างพากันเลื่อมใสใน[/FONT]
[FONT=&quot]ท่านพระปิลินทวัจฉะเป็นอย่างยิ่งว่า นี้เป็นฤทธานุภาพของพระปิลินทวัจฉะ ภิกษุทั้งหลายพากัน[/FONT]
[FONT=&quot]เพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉนท่านพระปิลินทวัจฉะจึงได้นำเด็กที่ถูกพวกโจรนำตัวไปแล้ว[/FONT]
[FONT=&quot]คืนมาเล่า แล้วกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย[/FONT]
[FONT=&quot]ไม่เป็นอาบัติ เพราะวิสัยแห่งฤทธิ์ของภิกษุผู้มีฤทธิ์.[/FONT]
[FONT=&quot]
เรื่องภิกษุชาวเมืองโกสัมพี[/FONT]
[FONT=&quot] [๑๗๔] ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุ ๒ รูป ชื่อปัณฑกะ ๑ ชื่อกปิละ ๑ เป็นสหายกัน[/FONT]
[FONT=&quot]รูปหนึ่งอยู่ในหมู่บ้าน อีกรูปหนึ่งอยู่ในเมืองโกสัมพี ขณะเมื่อภิกษุนั้นเดินทางจากหมู่บ้านไป[/FONT]
[FONT=&quot]เมืองโกสัมพี ข้ามแม่น้ำในระหว่างทาง เปลวมันข้นที่หลุดจากมือของพวกคนฆ่าหมูลอยติดอยู่[/FONT]
[FONT=&quot]ที่เท้า ภิกษุนั้นได้เก็บไว้ด้วยตั้งใจว่า จักให้แก่พวกเจ้าของๆ โจทภิกษุนั้นว่า ท่านไม่เป็นสมณะ[/FONT]
[FONT=&quot]สตรีเลี้ยงโคคนหนึ่งเห็นภิกษุนั้นข้ามแม่น้ำขึ้นมาแล้ว ได้กล่าวคำนี้ว่า ท่านเจ้าขา นิมนต์มาเสพ[/FONT]
[FONT=&quot]เมถุนธรรมเถิด ภิกษุนั้นคิดว่า แม้โดยปกติ เราก็ไม่เป็นสมณะแล้ว จึงเสพเมถุนธรรมในสตรี[/FONT]
[FONT=&quot]เลี้ยงโคนั้น ไปถึงเมืองโกสัมพีแล้ว แจ้งเรื่องนี้แก่ภิกษุทั้งหลายๆ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มี[/FONT]
[FONT=&quot]พระภาค พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนั้นไม่ต้องอาบัติปาราชิก เพราะอทินนาทาน[/FONT]
[FONT=&quot]แต่ต้องอาบัติปาราชิก เพราะเสพเมถุนธรรมฯ[/FONT]
[FONT=&quot]
เรื่องสัทธิวิหาริกพระทัฬหิกะเมืองสาคละ[/FONT]
[FONT=&quot] [๑๗๕] ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุสัทธิวิหาริกของท่านพระทัฬหิกะในเมืองสาคละ ถูกความ[/FONT]
[FONT=&quot]กระสันบีบคั้นแล้ว ได้ลักผ้าโพกของชาวร้านไป แล้วได้กล่าวคำนี้กะท่านพระทัฬหิกะว่า กระผม[/FONT]
[FONT=&quot]ไม่เป็นสมณะ จักลาสิกขา ขอรับ[/FONT]
[FONT=&quot] ท่านพระทัฬหิกะถามว่า คุณทำอะไรไว้ฯ[/FONT]
[FONT=&quot] ภิกษุนั้นสารภาพว่า ลักผ้าโพกของชาวร้าน ขอรับ[/FONT]
[FONT=&quot] ท่านพระทัฬหิกะให้นำผ้าโพกนั้นมา แล้วให้ชาวร้านตีราคาเมื่อตีราคาผ้าโพกนั้น ราคา[/FONT]
[FONT=&quot]ไม่ถึง ๕ มาสก ท่านพระทัฬหิกะชี้แจงเหตุผลว่า คุณไม่ต้องอาบัติปาราชิก ดังนี้ ภิกษุนั้นยินดี[/FONT][FONT=&quot] ยิ่งนักแล.[/FONT]
[FONT=&quot]ปาราชิกสิกขาบท ที่ ๒ จบ.[/FONT]
[FONT=&quot]-----------------------------------------------------[/FONT]
[FONT=&quot] เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑ บรรทัดที่ ๗๒๒๑ - ๗๔๓๕. หน้าที่ ๒๘๐ - ๒๘๗.
[/FONT]http://[FONT=&quot]84000.[/FONT]org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=[FONT=&quot]1[/FONT]&A=[FONT=&quot]7221[/FONT]&Z=[FONT=&quot]7435[/FONT]&pagebreak=[FONT=&quot]0[/FONT]
[FONT=&quot]ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :- [/FONT]http://[FONT=&quot]84000.[/FONT]org/tipitaka/attha/attha.php?b=[FONT=&quot]1[/FONT]&i=[FONT=&quot]126[/FONT]
[FONT=&quot]สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๑ [/FONT]http://[FONT=&quot]84000.[/FONT]org/tipitaka/read/?
[FONT=&quot]สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่[/FONT]_[FONT=&quot]๑ [/FONT]http://[FONT=&quot]84000.[/FONT]org/tipitaka/read/?index_[FONT=&quot]1[/FONT]

esanmagic · 5 เมษายน 2012

ขอบคุณมาก ๆ ครับ เป็นเรื่องที่น่าศึกษามาก ๆ ขอบคุณอีกครั้งครับ

LungKO · 5 เมษายน 2012

esanmagic said: ↑

ขอบคุณมาก ๆ ครับ เป็นเรื่องที่น่าศึกษามาก ๆ ขอบคุณอีกครั้งครับ
Click to expand...

ไม่เป็นไรครับ เรามีหน้าที่ศึกษาหาความถูกต้องอยู่แล้ว
เป็นหน้าที่ของชาวพุทธที่ต้องทำทุกอย่างที่เป็นกุศล เพื่อตอบแทนพระพุทธองค์ อยู่แล้ว

เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน

เรื่องนี้ อยู่ในสูตรใดครับ เล่มใด หน้าใด

esanmagic สมาชิกใหม่

LungKO เป็นที่รู้จักกันดี

esanmagic สมาชิกใหม่

LungKO เป็นที่รู้จักกันดี

แชร์หน้านี้

แชร์หน้านี้

เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน

เรื่องนี้ อยู่ในสูตรใดครับ เล่มใด หน้าใด

แชร์หน้านี้

การค้นหาที่มีประโยชน์

ติดต่อเรา