เรื่องเล่า"ของทนสิทธิ์" ตอน..เขี้ยวหมูตัน...มั้ยครับ น.2

รบกวนผู้รู้ช่วย ช่วยดู งากำจัด(ตามรูป) ว่าเปนยังงัยบ้าง

 

....เอ...ผมว่าน่าจขาด...ไปอีกอย่างนะเนี่ย....ขาดเขี้ยวหมูตัน....ท่านใดมีข้อมูล
ช่วยลงให้ครบเครื่องหน่อย..จะเป็นเว็บที่ให้ความรู้ และข้อมูลเป็นอย่างมากทีเดียว
เชียวครับ...

 

โห..กระทู้นี้ผมตั้งไว้ตั้งแต่ปี 08 นานจนลืมไปแล้ว

ถ้าคุณ jaisom somjai อยากได้ข้อมูลเขี้ยวหมูตัน เท่าที่ผมศึกษามาพอจะมีความรู้อยู่บ้าง แล้วจะนำมาลงให้อ่านกันครับ

ขอบคุณครับ

 

เอาที่ที่เห็นตามภาพนะนะครับ อีกอย่างภาพไม่ค่อยจะคมชัดสักเท่าไร

เป็นปลายงา เส้นผ่าศูนย์กลางของงาไม่ใหญ่มาก อาจจากช้างที่มีอายุไม่มากนัก มีสภาพความเก่าตามธรรมชาติ มีร่องรอยของการหักจริง

อย่างไรต้องขอความเห็นท่านอื่นด้วยครับผม

 

ตามดูครับ.....สนใจ..............................

 

ตามดู เผื่อมีแจก หรือออกให้ทำบุญ อิอิ

 

ตามดูด้วยครับของทนสิทธิ์.... เคยได้ยินแต่ชื่อครับ

 

เขากวางอีกหนึ่งเสียงครับผม

 

เรียนเชิญชมภาพเรียกน้ำย่อยกันก่อนนะครับ

ว่า...เขี้ยวหมูตัน...มั้ยครับ

 

เรียนผู้ดูแลระบบครับ

ขอความกรุณาช่วยย้ายกระทู้นี้ ไปที่บอร์ดประสบการณ์เรื่องเล่าให้ด้วยนะครับ

เพื่อที่จะได้ถูกต้องตามระเบียบของทางเวป

ขอบพระคุณครับผม

 

“เขี้ยวหมูตัน ฟันเสือกลวง” ประโยคนี้มักเป็นคำคล้องจองที่พูดกันจนติดปากในหมู่นักนิยมเครื่องรางของขลัง ประเภท“ของทนสิทธิ์” เล่าลือกันว่าถ้ามีแค่เพียงอย่างใดอย่างหนึ่งพกติดตัวจะทำให้ร่างกายคงกระพันหนังเหนียวหรือยิงไม่ออก ทำให้เครื่องรางประเภทนี้เป็นที่เสาะแสวงหากันมาช้านาน

ว่ากันว่าเขี้ยวหมูตันมักจะเกิดกับหมูป่าโทนที่มักแยกตัวออกจากฝูงมาท่องเที่ยวหากินเพียงตัวเดียว มีอุปนิสัยดุร้าย ไม่เกรงกลัวสัตว์ใดๆ แข็งแรงและว่องไวมาก เป็นที่สนใจของพวกพรานล่าสัตว์มากเพราะปืนยิงไม่ออก
<O</O
การจะได้มาซึ่งเขี้ยวหมูตันนั้น ที่บอกเล่าต่อๆกันมาในหมู่นักนิยมของแบบนี้
<O
บ้างก็ว่าเมื่อพรานไปดักยิงหมูป่าเมื่อใดแล้วหากมีตัวหนึ่งตัวใดเกิดปืนยิงไม่ออกขึ้นมา ก็สันนิฐานไว้ก่อนว่าหมูป่าตัวนั้นมีเขี้ยวตัน จากนั้นก็ต้องเฝ้าตามกันว่ามันชอบกินน้ำหนองใด กินดินโป่งแถวไหน ก็วางแผนขุดหลุมดักล่อให้หมูป่าตัวนั้นตกลงไปในหลุมจากนั้นก็ใช้ไม้ทุบให้ตายเนื่องจากยิงไม่เข้า เมื่อตายแล้วจึงนำเอาเขี้ยวของมันออกมา
<O</O
บ้างก็ว่าเมื่อดักจับหมูป่าตัวที่สันนิฐานว่าเขี้ยวตันมาได้ ก็ต้องนำมาเลี้ยงจนมันแก่ตายไปเอง แล้วจึงจะพลีเอาเขี้ยวของมันออกมา
<O</O
บ้างก็ว่าบางครั้งถึงคราวจะได้ของดี ออกไปล่าสัตว์ตามปกติไปได้กลิ่นเหม็นเน่าก็ตามกลิ่นไปเพราะสงสัยว่าเป็นอะไรก็ไปเจอหมูป่านอนตายอยู่ นึกสงสัยขึ้นมาก็ลองเอามีดเหน็บฟันไปที่กรามของหมูตัวนั้นแล้วงัดเอาเขี้ยวออกมาลองเอาสันมีดเคาะฟังเสียงปรากฏว่าเป็นเสียงทึบๆ ปรากฏว่ากลายเป็นเขี้ยวหมูตันไปก็มี กรณีนี้ก็นับว่าโชคดีไป
<O</O
แต่ไม่ว่าจะได้เขี้ยวหมูตันมาด้วยวิธีใด น้อยคนนักที่จะรู้ว่ามันไม่สามารถคุ้มครองผู้ที่พกพาของแบบนี้ติดตัวได้ทุกวัน เพราะวันไหนที่มันตายวันนั้นแหละจะเป็นวันที่มันไม่สามารถแสดงอิทธิคุณออกมาคุ้มครองผู้ที่พกพาติดตัวได้


แต่ของดี ย่อมมีน้อย

เมื่อมีน้อย ย่อมหายาก
<O</O
เมื่อหายาก ย่อมมีผู้ปลอมแปลงขึ้นมา
<O</O
เมื่อมีผู้ปลอมแปลงขึ้นมา ย่อมมีผู้ถูกหลอก(รวมถึงตัวผมเองด้วย (cry))<O</O
<O</O
<O

 

ดูกันว่า เขาทำกันอย่างไร

เนื่องจากใช้เขี้ยวหมูป่าทั่วไปที่ภายในเขี้ยวจะกลวง เพื่อกันการตรวจสอบจากการเคาะเพื่อฟังเสียงว่าตันหรือกลวง จึงต้องใช้ดินอัดเข้าไปด้านในให้เต็ม หากเคาะฟังเสียงก็จะเป็นเสียงทึบๆ และเพื่อเป็นการปกปิดอำพรางก้ต้องถักหุ้ม แต่เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่าเขี้ยวนี้ตัน ก็เอาฟันมาอุดปิดอีกทีนึงแล้วถักหุ้มให้เห็นบางส่วนว่า(ดูเหมือน)ตัน


ปล. ช่วงหัวค่ำจะเอาเขี้ยวหมูตัน ,ข้อแตกต่างและลักษณะของเขี้ยวแต่ละตำแหน่งบนล่างซ้ายขวามาให้อ่านกันครับ<O</O

 

ต้องขอโทษด้วยนะครับ ที่บอกไว้เมื่อช่วงบ่ายว่าตอนค่ำๆจะเอาข้อเปรียบเทียบมาให้อ่านกัน ช่วงนี้งานเยอะแล้วนอนดึกๆมาหลายคืนแล้ว เมื่อช่วงทุ่มนึงกะว่าจะพักสักงีบนึงเล่นตื่นเอาเที่ยงคืนกว่าเลย

มาดูกันต่อครับ หลังจากที่โดนมาแล้วด้วยความยังอยากได้เขี้ยวหมูตันมาครอบครองอยู่ก็ใช้ความพยามยามเสาะหาไปเรื่อยๆ แต่ตั้งเป้าในใจไว้เลยว่าจะไม่หาเขี้ยวที่มีการหุ้มโคนเด็ดขาด เพื่อความมั่นใจของตัวผมเอง จนมาเจอชิ้นนี้เข้าจนได้ เป็นเขี้ยวล่างขวาลองดูภาพนะครับ

 

เขี้ยวที่ได้มาชิ้นนี้เดิมมีรอยร้าวตามความยาวของเขี้ยวมาก่อนแล้วพอมาโดนเหงื่อบ้างน้ำบ้างทำหล่นบ้าง อาการร้าวก็มากขึ้นด้วยความที่อยากรู้ก็เลยถอดเชือกที่ถักไว้สำหรับห้อยออกแล้วลองเคาะกับพื้นอยู่หลายที มันก็หลุดออกเป็นสองชิ้นอย่างที่เห็น

จะเห็นได้ว่ามันตันยาวตลอดตั้งแต่ปลายยันโคนอย่างที่คนเล่นเครื่องรางประเภท"ของทนสิทธิ์"สมัยก่อนว่ากันไว้จริงๆ

แล้วลองเปรียบเทียบกับเขี้ยวหมูป่าแบบทั่วๆไปคือเขี้ยวจะกลวง หัวหมูป่าหัวนี้ผมซื้อมาศึกษาเป็นความรู้ประกอบเรื่องเขี้ยวหมู พอดีมันมีอยู่เขี้ยวหนึ่งที่ร้าวเหมือนกันผมเลยงัดออกเมื่อเช้าวานนี้เพื่อถ่ายภาพเปรียบเทียบให้ดูกันว่า

ถ้าแบบธรรมดามันจะกลวงตั้งแต่โคนเขี้ยวแล้วค่อยๆเรียวไปหาปลายเขี้ยวซึ่งต่างจากเขี้ยวหมูตันที่จะตันตั้งแต่โคนไปหมดทั้งเขี้ยวเลย

 

ขออนุญาตค้างเรื่องลักษณะของเขี้ยวแต่ละตำแหน่งบนล่างซ้ายขวาไว้ก่อนนะครับ
ขอบคุณครับ

 

มาชมกันต่อที่ค้างไว้ครับ
ภาพนี้ต้องขอบคุณท่านที่เป็นเจ้าของด้วยครับ
เป็นลักษณะปกติของการโชว์เขี้ยวของหมูป่าเพื่อความน่าเกรงขามจะดึงเขี้ยวล่างออกมาจากกรามประมาณสามในสี่

 

ภาพนี้เป็นกะโหลกและกรามบน แสดงตำแหน่งของเขี้ยวบนซ้ายและขวา

 

ภาพนี้เป็นด้านหน้าแสดงตำแหน่งของเขี้ยวบนตามปกติ,และเมื่อถอดเขี้ยวออก

 

ภาพนี้เป็นด้านข้างแสดงตำแหน่งของเขี้ยวตามปกติของเขี้ยวบนและล่าง

สังเกตที่ภาพขยายจะเห็นร่องสีน้ำตาลมาสุดที่ใต้ชื่อนั้นคือจุดเริ่มต้น(หรือจุดสิ้นสุด,ไม่รู้เรียกอย่างไหนจึงจะถูกต้อง)ของการกลวงภายในเขี้ยวของหมูป่าทั่วไป

 

เปรียบเทียบส่วนโคนของเขี้ยวล่างที่อยู่ในกราม เนื่องจากลักษณะการขุดหาอาหารหรือการต่อสู้หมูป่าจะใช้การงัดขึ้น ดังนั้นเขี้ยวล่างเป็นสิ่งสำคัญที่สุดและต้องมีความแข็งแรง จึงอยู่ในกรามถึงสามในสี่