.....................
เรื่องเล่า ตำนานเมืองลับแล อาณาจักรบังบด
DoYang :-
Published on Sep 29, 2016
เรื่องราวความลี้ลับ แปลกประหลาด แห่งเมืองลับแล อาณาจักรบังบด
เรื่องเล่าจากพระธุดงค์ซึ่งเห็นของจริงในสถานที่จริง ซึ่งประกอบด้วยเรื่องราวดังนี้
๑. ฝึกให้จิตเป็นจิตมหัศจรรย์ เมืองลับแล อาถรรพ์อยู่แค่เอื้อม 00:00
๒. พระป่าอภิญญากายสิทธิ์หลวงปู่นาค สหธรรมิกของหลวงปู่มั่น 33:07
๓. ว่านเห็นผี กุญแจเปิดประตูอาถรรพณ์ 01:09:35
๔. อิทธิปาฏิหาริย์ คุณวิเศษที่สามารถทำให้ไปถึงแดนลับแล 01:25:37
๕. เมืองลับแลที่วัดพระธาตุจอมแจ้ง 01:56:03
๖. พระพุทธเจ้าเสด็จมายังแผ่นดินไทย 02:47:49
๗. เมืองลับแลและพิภพใต้บาดาล แห่งจังหวัดกาญจนบุรี 03:18:25
๘. หลวงปู่เณรดำ อริยสงฆ์แห่งดงดิบ ผู้มีชีพชนม์ยืนยาวหลายร้อยปี 03:47:03
๙. ครูบาอาจารย์ผู้เรืองอภิญญา หลวงปู่ดี ฉันโน และสามเณรโชติ 04:18:53
๑๐. เทพเจ้าแห่งเมืองลับแล 04:53:37
๑๑. ทดสอบครั้งสำคัญ เดิมพันด้วยชีวิต 05:23:34
วีดีโอ เรื่องเล่า ตำนานเมืองลับแล อาณาจักรบังบด
ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย supatorn, 16 สิงหาคม 2017.
-
-
.....................
วัดพระธาตุจอมแจ้ง (แพร่)
วัดพระธาตุจอมแจ้ง เดิมเรียกว่า พระธาตุจวนแจ้ง ตั้งอยู่ที่ตำบลช่อแฮ อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ ในพ.ศ. 1331 สร้างพระธาตุจอมแจ้งสีทอง สูง 29 เมตร ฐานกว้าง 10 เมตร ปัจจุบันเป็นที่ตั้งพิพิธภัณฑ์ตำบลป่าแดง เป็นพิพิธภัณฑ์ของจังหวัดแพร่
มีตำนานว่าพระพุทธเจ้าเสด็จถึงสถานที่นี้จวนสว่าง (เวลาใกล้รุ่ง) พอดี สถานที่แห่งนี้เป็นที่บรรจุพระเกศาของพระพุทธเจ้า รวบรวมสิ่งของโบราณที่หาดูได้ยาก
https://th.wikipedia.org/wiki/วัดพระธาตุจอมแจ้ง_(แพร่)
วัดพระธาตุจอมแจ้ง
182/1 ม.5 ต.ช่อแฮ อ.เมือง จ.แพร่ 54000
โทร 054-599024 , 089-5599568
http://watjomjang.com/index.html -
สมมุติว่าเล่าแบบความฝันนะครับ
เมืองลับแล ส่วนตัวเรียกว่า มิติซ้อนทับ ซึ่งส่วนมากจะมี
เขตชั้นความสูงระดับเดียวกับโลกเรานี่หละครับ
เมืองนี้ รวมถึงเมืองบางแห่งของพยานาคบางเมืองด้วยนะครับ
ไม่ใช่เมืองบาดาล ของท่านที่เป็นใหญ่ที่มีชื่อในตำรา
ที่มีพยานาคสีขาวและและสีดำเฝ้า พระสรีระบางอย่างของผู้เป็นเลิศทั้ง ๓
ภพองค์ปัจจุบันอยู่นะครับ
และเมืองลับแลนี้ เรียกได้ว่า มีอยู่แทบจะทั่วประเทศไทยหละครับ
และสามารถเห็นได้ทั่วไป ถ้าจิตเราพอมีความเป็นทิพย์ได้บ้าง
จะแบบชั่วคราว จะแบบตั้งใจ หรือแบบไม่ได้ตั้งใจ
ก็จะสามารถเห็นได้หมดครับ แตกต่างที่ความละเอียดในการเห็นเท่านั้นเองครับ
บางครั้งขับรถอยู่ดีๆก็เห็นได้ครับ...จะบอกว่าไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรหรอกครับ
มีหลักสังเกตุคือ เมืองๆนั้นบุคคลที่อยู่จะมีอะไรที่คล้ายๆกัน
เช่น ชอบการละเล่นเหมือนกัน ชอบสวดมนต์เหมือนๆกัน ฯลฯ
ตัวจิตมันก็จะดึงกันไปอยู่ร่วมกันนั่นหละครับ....
และในเมืองลับแลหรือเมืองซ้อนทับนี้
ความสามารถอะไรก็ตาม ที่เราสามารถทำได้จริงบนโลกนี้
เราจะสามารถนำไปใช้ในเมืองนี้ได้เป็นเรื่องปกติ
แตกต่างในเรื่องของความชัดเจนในการแสดงเท่านั้นเองครับ
และถ้าเมืองไหน มีอัญมณี มีอะไร เค้าก็มักจะเอามาให้เราดู
บ้างก็ให้เราเลือกไป..ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเอาหรือไม่เอาเท่านั้นเองครับ
ส่วนไอ้ว่านเห็นผี มันมีพลังงานภายนอกในลักษณะความคิดย้ำคิดและก็ย้ำคิด
ซึ่งจะออกไปในแนวให้เห็นนามธรรมได้แค่นั้นเอง
แต่การเห็นจะไม่ใช่นามธรรมในระดับที่ดีหรือระดับที่สูงๆนะครับ
เพราะขีดจำกัดของตัวว่านมันมีแค่นี้ครับ เรียกว่าเห็นแต่ในระดับรากหญ้าก็ว่าได้
ส่วนพระอาจารย์ในดง ส่วนตัวเชื่อว่า มีหลายท่านมากๆๆๆๆๆๆๆๆ
ขึ้นอยู่กับว่า จิตเราจะเจอกับท่านใดเท่านั้นเอง
แต่หลักๆในประเทศเราจะรู้ๆ กันอยู่ประมาณ ๕ ท่าน
ท่านที่เด่นทางยา ทางปรอท ทางวิชาสารพัด ทางวิชาเดินธาตุ
แต่ให้เข้าใจไว้เถอะว่าท่านเหล่านั้นไม่ใช่แนวพระโพธิสัตว์นะครับ
เพราะท่านเหล่านี้จริงๆท่านได้สำเร็จแล้วทั้งนั้นครับ
ส่วนการทดสอบแบบเจอจังๆ มักจะเจอในเฉพาะระดับพระสงฆ์
ที่จะกลายเป็นท่านที่มากบารมี มากความสามารถ เป็นพระเกจิฯ
เป็นผู้มีชื่อเสียงโด่งดังในเวลาต่อมา
ถ้าเป็นฆารวาสอย่างเรา อย่างมากก็จะเจอในนิมิต หรือไม่ก็แบบ
นิมิตชั่วคราวแบบลืมตาเห็นได้แล้วก็หายไป..
แต่ส่วนมาก ร้อยละ ๙๙ เปอร์เซนต์ส่วนมากจะสอบตกครับ
สอบตกเพราะกลัวตาย..เลยไปวิ่งหนี ขอบารมีพระช่วย ใช้คาถา
ใช้ความโหดในใจ(บางคนเก่งมาก ฆ่าได้ด้วยมือเปล่า)ใช้อาวุธรอบกายที่มี
ใช้ความสามารถพิเศษ ใช้อาวุธพิเศษ ไปทำร้ายไปทำลายเค้า
ก็เลยสอบตกกันไปตามระเบียบ...เป็นสาเหตุหลักๆที่ทำให้
ไม่เกิดความสามารถใช้งานได้จริง ในเวลาลืมตาปกตินั่นหละครับ
ปล.จบนิทานแบบฝัน