เรื่องเล่า ตื่นนอน ตอนสายๆ

เล่าเรื่องของจักรพรรดิ ไปแล้ว ก็มีท่านผู้นี้ถามเข้ามา
ว่าจะตอบชักหน่อย ก็ให้มีเรื่องเข้ามา ให้ต้อง ตี้ตาต่าตี้ ไม่เลิกไม่ลา จึงหยุดเขียนไปพักหนึ่ง
ตอนนี้ เรื่องต่างๆเริ่มเบาบางลงแล้ว แต่ยังไม่สงบ

ถาม
ลูกแก้วพญานาคหรือเพชรพญานาคของแท้จัดว่าเป็นจักรพรรดิกายสิทธิ์อย่างหนึ่งไหมครับ
ตอบ
ลูกแก้ว หรือเพชรพยานาคของแท้ นั้นเกิดจากอำนาจการฝึกปรือพลัง และอำนาจบุญบารมี ที่นาคตนนั้นสะสมมาทั้งชวิต
ลูกแก้วนั้น จึงเป็นดังพลังชีวิตของนาค เป็นของวิเศษ/กายสิทธิ์ ประจำตนของนาคนั้น
นาคหนึ่งตน ก็จะสร้างดวงแก้วได้เพียง ๑ ลูก
ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่นาคจะมอบดวงแก้วให้ผู้ใด โดยง่าย

ถ้าเขาจะมอบให้นี่ ท่านผู้นั้น ต้องเป็นผู้ที่เขาเคารพยิ่งกว่าชีวิต
เพราะหากให้ไปแล้ว ชีวิตเขาก็สิ้นสุด ดวงจิตเขาก็จะเข้าไปอยู่ในดวงแก้ว กลายเป็นกายสิทธิ์ประจำดวงแก้วไป
ก็จะมีลักษณะคล้ายดังกายสิทธิ์ของจักรพรรดิ ตามที่เล่ามา
ดวงแก้วหรือกายสิทธิ์ต่างๆนี่ พวกนี้เขาไม่มีกายเนื้อหยาบ
หากจะให้มนุษย์สัมผัสได้ เขาต้องซ้อนอำนาจกายสิทธิ์หรือดวงจิตของเขาลงใน สิ่งของที่มนุษย์จับต้องได้ ที่เขาชอบก็เป็นหินสีเป็นต้น

มนุษย์ผู้มีบุญและอำนาจฌานบารีมาก ผู้เป็นเจ้าของผู้ได้ครอบครองดวงแก้วแห่งนาคนั้น
ก็อาจอธิษฐานจิต ให้อำนาจของดวงแก้วแห่งนาคนั้น แยกกระจายออกไปเป็นหมื่นเป็นแสน ลงสถิตในหินสี/หรือวัสดุ แต่ละลูกแต่ละก้อน ได้ สุดคนานับ

สรุป มีเพียงดวงแก้วแห่งนาคเพียงลูกเดียวในมิติ (ไม่มีกายเนื้) ได้รับการอธิฐานจิต จากผู้มีบารมีให้สถิตลงในวัตถุ อาจเห็นหิน แก้ว พลาสติก ฯลฯ

 

ถาม
จักรพรรดิเก่งๆสามารถมีสมบัติจักรพรรดิมากกว่า 7อย่างได้ไหมครับ ถ้ามี อาจารย์พอยกตัวอย่างได้ไหมครับ

ตอบ
จักรพรรดิที่เก่งๆมีบารมีมาก ใครๆก็อยากมาอยู่ด้วย
อำนาจของจักรพรรดิ ก็จะยิ่งขับเน้นให้กายสิทธฺ์เหล่านั้น มีอำนาจและบารมีเพิ่มขึ้นด้วย เร็วกว่าปกติ
ดังนั้นกายสิทธิ์ต่างๆก็อยากจะมาอยู่ด้วย (มีทั้งลับและเปิดเผย)

จักรพรรดิบางท่าน มีกายสิทธิ์เป็นร้อยๆ พันๆบางท่านมีเป็นแสน
ทั้งหมดก็แบ่งหมวดหมู่กันทำหน้าที่ตามความถนัดแห่งตน ทั้ง ๗ อย่าง ตามพื่นฐานสมบัติจักรพรรดิ (ดวงแก้ว-อำนาจการบริหาร จักรแก้ว-อำนาจการรบ ฯลฯ)

ถาม
จักรพรรดิกายสิทธิ์ที่อยู่ในหินแร่หรืออัญมณี ท่านบำเพ็ญบุญบารมีกันอย่างไรครับ และจำเป็นต้องบำเพ็ญบุญบารมีร่วมกับมนุษย์ไหม
ตอบ
การบำเพ็ญบารมีของกายสิทธิ์ แต่เดิม จะเป็นไปตาวันเวลา เก็บพลังจากฟ้าดิน และอำนาจฌาน(ศีล และภาวนา)
แต่จะให้เร็ว กายสิทธิ์เหล่านี้ต้องอาศัยการบำเพ็ญคู่กับมนุษย์ ในเรื่องของ ทาน (ศีล และภาวนา) เป็นส่วนที่เพิ่มขึ้น

 

เมื่อพูดเรื่องจักรพรรดิแล้ว และความเป็นมาอย่างเคร่าๆแล้ว
ก็คงมีหลายท่านเกิดอยากรู้ว่า แล้วเขาฝึกกันอย่างไร

เท่าที่หมอสุวิทราบและสัมผัสได้นี่ มีหลายสายนะ
ในสายของอสูร ในสายของมาร และในสายของมหาเทพ นี่ ก็แตกต่างกันนะ พวกนี้เราสัมผ้สเขาไม่ได้ อย่าไปสนเลย
จักรพรรดิในสายของมนุษย์ ก็มีอยู่นะ
ของหลวงพ่อ อะไรน้า อ้อ..หลวงตาม้า ท่านอยู่ที่วัดถ้ำเมืองนะ
ของหลวงพ่อสด นี่เจ้าของวิชาธรรมกาย วิชานี้เป็นวิชาจักรพรรดินะ
ฯ
ส่วนของหมอสุวิ นี่ก็เริ่มต้นจาก การฝึกสมาธิแบบ เกสา โลมาฯ นะ
นี่เป็นจุดเริ่มต้นการฝึกวิชาจักรพรรดิตามแบบของหมอสุวิ

และได้ให้วิธีฝึกไว้แล้ว ในกระทู้นี้ หาดูนะ

 

เมื่อเรียนรู้วิชาจักรพรรดิแล้ว ต่อไปมันก็ต้องเสาะหาของวิเศษ คู่บารมี
ก็ไอ้พวกรัตนะ ๗ ประการนะ
แต่หมอสุวิ ได้อ่านบันทึก รู้เรื่องความระทมของจักรพรรดิอันเกิดจากเหล่ากายสิทธิ์ ในรัตนะ ๗ แล้ว
ไม่เอาวุ้ย ตูไม่สนมัน แม้จะมีแวปๆมาหาขออยู่ด้วยก็ไม่สนใจแล้ว
บอกอีไปว่า ทางใครทางเผือกนะ

งานนี้ขอใช้สีมือตัวเองล้วนๆ ไม่ง้อกายสิทธิ์ใดๆ
ไม่นานก็พบของวิเศษมากมาย มาหา

แต่ด้วยความเป็นหมอขึ้นสมอง จึงเลือกหาไอ้ที่มาช่วยรักษาโรคให้มนุษย์ได้

ต่อไปนี้ก็ถึงเวลาของเหล่าของวิเศษ จะแสดงตนแล้ว

ใครอยากรู้ยกมือขึ้น

 

;k04 ยกแล้วครับ

 

ของวิเศษ ชิ้นแรกนะ ก็น้ำอมฤต แห่งอสุทินทราหูนะซิ
เรื่องนี้ได้มายังไงนี่ ต้องย้อนไปอ่าน เรื่องของอสุทินทราหูดูนะ อยู่หน้า ๓-๔ ของกระทูนี้

ตอนที่ท่านให้หมอสุวิไปหาความลับมาบอกท่านนี่
หากท่านไม่มอบไอ้ของต้นเหตุที่ทำให้ท่านไม่รู้จักตายมาให้หมอค้นคว้า
หมอก็คงไม่มีทางหาความลับของน้ำอมฤตนั้นได้

เมื่อได้ความลับมาบอกท่าน และท่านก็ไม่ทวงน้ำอมฤตคืน มันก็เลยตกเป็นของหมอสุวิ โดยปริยาย

เรื่องที่เล่าถึง สุวิ๒ โดนตัดแขนขาขาดที่อยุทธยา หมอสุวิก็ใช้น้ำอมฤตตัวนี้ ต่อแขนขาให้มัน ในพริบตา

และหมอก็ใช้อำนาจของน้ำอมฤตตัวนี้ รักษาผู้คนได้ง่ายขึ้น
รักษายังไง จะค่อยๆเล่าให้ฟัง

 

แวะมายกมือด้วยครับ อ.suwi ครับ ผมมีลูกแก้วพญานาคสีเขียว 1 ดวง ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 4 นิ้ว ก่อนได้มาผมอธิษฐานเอาไว้ประมาณว่าต้องการท่านหมอพญานาคครับ สักพักก็ได้พบดวงแก้วพญานาคสีเขียวน้ำทะเลจากเพื่อนที่รู้จักในเว็บ จึงขอบูชามาครับ แต่จะเป็นท่านหมอพญานาคจริงหรือไม่ผมก็ไม่ทราบครับ ผมสังเกตจากผู้เป็นหมอมักมีออร่าสีเขียวซึ่งเกี่ยวข้องกับการรักษาโรค พอเจอดวงแก้วเขียวๆเลยคว้ามาบูชาครับ แต่ปัญหาก็คือ ผมยังใช้ประโยชน์ไม่เป็น ไม่รู้ว่าท่านถนัดด้านไหน จะขอพรใช้รักษาโรคอย่างไร จึงขอปรึกษาท่านอาจารย์ suwi ด้วยครับ ^_^

 

ตอบ คุณ aries
ไม่พบพลังอำนาจใดๆของกายสิทธิ์ ในตัวคุณเลย แม้แต่อำนาจในมิติของนาค

ปกติ กายสิทธิ์ คู่บารมีของผู้เป็นจักรพรรดิ์นี่
เมื่อเจ้าของได้มาใหม่ๆนี เขาจะย้ายตัวเขาเอง แทรกเข้ามาในกายของเจ้าของ
และปรับกายธาตุของผู้เป็นเจ้าของ ให้สมบูรณ์แข็งแรงตามความรู้ความสามารถของเขา
และปรับร่างกายมนุษย์ให้สามารถรองรับพลัง ของกายสิทธิ์ได้
หลังจากนั้น เขาก็จะช๊าตพลัง ในกายมนุษย์ให้เพิ่มมากขึ้น ตลอดเวลา จนเทียบเท่ากายาสิทธิ์ตนนั้น
มนุษย์บางคนก็รับได้บางคนก็รับไม่ได้หมด
หลังจากนั้นเขาก็จะย้ายไปย้ายมาระหว่าง กายมนุษย์ผู้เป็นเจ้าของ และบ้านเก่าเขา(ก็หินสีหรือดวงแก้วที่เขาอยู่เดิม)
และร่วมกันฝึกปรือให้ทั้งกายสิทธิ์ และมนุษย์ผู้ครอบครอง ให้มีอำนาจ วาสนา และบารมี เพิ่มมากขึ้น

 

ขอบพระคุณมากครับ ท่านอาจารย์ ที่จริงผมยังไม่ถึงขั้นฝึกวิชาจักรพรรดิได้ครับ ยังเป็นคนธรรมดาอยู่เลย คงไม่มีกายสิทธิ์เข้ามาอยู่อาศัยมั้งครับ(แบบว่าต่างคนต่างอยู่แบบเพื่อนหินสีที่เกื้อกูลกันเฉยๆ) ที่จริงอยากทราบว่าดวงแก้วที่ว่ามีอำนาจอะไรเชื่อมโยงอยู่บ้างหรือเปล่าครับ

ผมชอบสะสมหินสีอยู่พักหนึ่ง ช่วงที่สะสมใหม่ๆ ก็เอาให้ภรรยาดู(ตอนนั้นยังเป็นแฟนอยู่) ปรากฏว่าเธอติดต่อกับเพื่อนหินสีทางความฝันได้ครับ หินสีบางก้อนเป็นผู้ชาย บางก้อนเป็นผู้หญิง บางก้อนเป็นเด็กๆ บางก้อนมีหลายท่านยังกะเป็นชุมชน เพื่อนหินสีพาแฟนไปเที่ยวดูธรรมชาติแปลกๆครับ บางอย่างก็คล้ายๆกับโลกเรานี่แหละ มีต้นไม้ มีต้นหญ้า มีแม่น้ำ ดูร่มรื่น การแต่งตัวก็แตกต่างกันไป บางท่านแต่งชุดเหมือนคนโบราณ ชุดนักรบก็มี บางกลุ่มก็เหมือนในยุคคาวบอย นอกจากพาไปเที่ยวแล้ว ยังเคยให้แฟนทานผลไม้ทิพย์ด้วยครับ แต่ลักษณะผลไม้ไม่เหมือนในโลกมนุษย์

ถ้าเป็นโรสควอร์ท จะเป็นผู้หญิง ท่านชอบใส่เสื้อผ้าชุดสีชมพูกันหมด ท่านเอาชุดสีชมพูมาให้แฟนเลือกเป็นหีบเลย ส่วนใหญ่ที่แฟนพบในฝันมักจะเป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชายครับ มีหินสีบางก้อนนี่พาไปดูโลกของเขา(ไม่แน่ใจว่าเป็นโลกมิติที่ซ้อนอยู่ในก้อนหินนั้นหรือเปล่า) มีลักษณะที่อยู่คล้ายต้นไม้รูปร่างแปลกๆตั้งอยู่กลางมหาสมุทรกว้างใหญ่มาก

ส่วนประสบการณ์ใช้หินสีเพื่อบำบัดโรคหรือช่วยงานบางอย่างนั้นก็มีอยู่บ้าง แต่ไม่ได้ใช้บ่อย แค่พอทราบว่าเขาช่วยได้จริง ผมและภรรยาได้ลองให้เขาช่วยดูหลายแนวทางครับ เช่น ช่วยเรื่องแก้ปวดฟัน ปวดหัวได้ แก้อาการปวดจากถูกแมงป่องต่อยได้อย่างเฉียบพลัน ช่วยรักษาอาการเท้าแพลงของภรรยาให้หายได้เร็วขึ้นกว่าปกติ ช่วยกล่อมเด็กหลับได้ครับ

แล้วผมกับภรรยาก็พาเพื่อนหินสีไปร่วมงานบุญบ้าง เอาบุญมาฝากพวกเขาบ้าง บางทีไปปฏิบัติธรรม เขาก็ตามไปเข้าฝันว่าใส่ชุดขาวมาร่วมปฏิบัติธรรมด้วยประมาณนี้ครับ

ส่วนดวงแก้วพญานาค เพชรพญานาคนี้ได้มาในภายหลัง แต่ภรรยาก็ไม่เคยมีฝันอะไรอีกเป็นพิเศษ สำหรับลูกแก้วพญานาคองค์ใหญ่กะว่าจะบูชาไว้สักพักก่อนครับ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมก็จะถวายไว้ที่วัดภายหลังครับ

ผมเองคงคล้ายๆกับผู้ดูแลมากกว่าครับ เพราะยังไม่มีบารมีมากมายอะไร และไม่ได้มาทางแนวจักรพรรดิ แต่มาค่อนมาทางสายพุทธภูมิมากกว่าครับ จะเรียกว่าพุทธภูมิเลยก็ยังไม่ตรงเสียทีเดียวครับ เพราะจริตความชอบอยู่ระหว่างพุทธภูมิกับพระปัจเจกภูมิ คือชอบช่วยเหลือสรรพสัตว์ แต่ไม่ค่อยชอบเป็นผู้นำเท่าไร ชอบแนวช่วยเหลืออยู่เบื้องหลังเป็นกองหนุนมากกว่า ที่สะสมหินสีและดวงแก้วก็เผื่อไว้ช่วยเหลือเกื้อกูลกันเวลาบำเพ็ญบุญบารมีครับ

 

ตอบ คุณ aries

ผู้ที่จะเป็นจักรพรรดินี่ ไม่ได้มีแต่บุรุษนะ สัตรีก็เป็นได้ (เรียกจักรพรรดินี ซินะ)
ในกรณีภรรยาคุณนี่ ใช่เลย เวลาได้เขามานี่ เขาจะแทรกเข้าไปในตัว
ปรับโครงสรางพลังให้สัมพันธ์กับเขา (ก็ทำให้มีพลังเพิ่มขึ้น) มีสัมผัสเป็นทิพย์มากขึ้น
แล้วเขาก็พาเที่ยวบ้าง ฝึกสอนตัวเเราบ้างให้เก่งขึ้น ฯลฯ
ใครได้กายสิทธิ์ดีๆนี่ (เป็นสัมมาทิฐิ) สุดยอดเลย จะกลายเป็นซุปเปอร์บุรุษ ซุปเปอร์สัตรีได้ง่ายๆ ก็ก้าวสู่ความเป็นจักรพรรดินั่นแหละ

 

ถามอาจารย์ต่อครับ แล้วเราจะมีวิธีดูหรือตรวจสอบอย่างไรได้บ้างครับว่า จักรพรรดิกายสิทธิ์ชิ้นไหนเป็นสัมมาทิฐิครับ

 

อาจารย์ สุวิ เอาเรื่องของสูง
แล้ว ก็ ยาก ที่ จะ เข้าใจได้ ด้วยระดับสติปัญญา ของมนุษย์ ธรรมดาๆ อย่าง เรา
( อจินไตย)
มาเล่าให้ฟัง กันอย่างนี้

ฟัง แล้ว เสียว...................ใจ.............55

พลาดพลั้ง พูดผิดไ พูดถูก ไป ทั้งคนพูด หรือ คนนำไปทำ ก็ อาจ เดี็ยง ได้
ด้วยว่า กายสิทธิ์ ที่ เรามาพูด กัน เล่นๆ นี้

บางท่าน ก็มี บารมี ขั้นเทพ บ้าง ชั้นพรหม บ้าง หรือ ฯ อาจสูงกว่านี้
หรือหากจะดู ในด้าน บารมีธรรม ก็มี ตั้งแต่ ระดับกลางๆ ไปถึงระดับสูงๆ
พูดให้ เป็นรูปธรรม ขึ้นหน่อย ก็ ว่า
บางท่านก็ มีบารมีธรรมระดับ เทพ ชั้นนั้นชั้นนี้ หรือ บางท่านก็ กำลังจะเป็น โพธิสัตต์
หรือ บ้างก็ กำลังสร้างสมบารมี ขึ้นไปให้สูงยิ่ง
ขึ้นไป เป็น พระโสดาบัน , พระสกิทาคามี ....... ฯ
ก็มี จึงต้อง ระมัดระวัง ที่ อาจจะ ก้าวล่วง เกินท่าน

ใคร่ ขอบอก เพื่อมิให้ ประมาท พลาดพลั้ง โดยไม่รู้ตัว

เทพ เทวา หรือ กายสิทธิ์ ที่ประจำ อยู่ในรัตนชาติ ท่านอยู่ มานาน นานมากแล้ว ด้วย
มิใช่ น้อยๆ
ท่านมาเพื่อ เกื้อกูล บุรุษ ผู้จะสร้างบารมี ให้ยิ่งๆ ขึ้นไป
( เสริมบารมี ,เสริมอำนาจ วาสนา , สนับสนุน เกื้อกูล , ดึงดูดทรัพย์ , เป็นมหาสมบัติ ฯ , ปกป้อง คุ้มครอง , ฯลฯ )
คือ สามารถ เป็น ไปได้ เกือบทั้งหมด ในด้าน การสนับสนุน ให้แก่ บุรุษ ผู้สมควร ได้ครอบครอง กายสิทธิ์ นั้น

ทั้งนี้ ขึ้นอยู่ กับ บารมี ของท่านกายสิทธิ์ ที่สร้างสมมา ในด้านใดบ้าง ควรคู่กับ ผู้ที่จะได้ครอบครอง นั้น

ดังนั้น การแสวงหา กายสิทธ์ หรือ จักรพรรดิ์ ดัง ที่กล่าวมา
คงไม่ สามารถ ซื้อหาได้ ตาม ร้านสะดวกซื้อ หรือ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ทั่วไป ได้

เพราะ เป็น ของที่ เขาระบุ ตัวตน ผู้เป็นเจ้าของอยู่แล้ว
ถึงเวลา ก็ ได้มา โดยง่ายดาย

ต้องใช้คำว่า ถึงเวลา

ด้วยว่า ท่านเหล่านี้ ที่ท่านจะมา ช่วย ในแต่ละ วาระ ต้องมีเหตุ ต้องมี ความพอดี มิอาจจะ เร่งรัดได้

ที่สำคัญ

ที่ ซื้อ หา กัน จาก ที่นั่น ที่นี่ แม้น เค้าจะให้ ด้วย ใจสิเนหา ให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ก็ ตาม
ก็ อย่าง เพิ่งเชื่อ ว่า จะได้ ของ แท้ ๆ

เพราะ เห็นอยูู่บ่อยๆ ว่า แจก ของ เก๊ กัน เยอะแยะไป หมด

ทั้งๆ ที่ ผุ้ให้ ก็ มี เจตนาดี (ไม่รู้ ว่า เก๊ คิดเอาเองว่า น่าจะดี จึงแจก )



อย่าง ที่ เห็น ผม ทำนั่นแหละ
ทดสอบ นั่น ทดสอบนี่
ก็ เพื่อ ให้ รู้ได้อย่างมั่นใจ ว่า ได้ผล จริง
จึง นำออกมา เผยแพร่ เล่าสู่กันฟัง บ้าง แจกจ่ายกันไป บ้าง

เรื่องมัน ยาก อย่างนี้
แหละ.............................ครับ

........................................................

 

ตอบ ดาวทะเลทราย

ที่ว่ามา เรื่องกายสิทธ์ ในระดับสูงๆนี่เป็นไปดังที่ท่านผู้นี้ กล่าวไว้ทุกประการ
บางทาน เป็นถีงระดับเทพ มหาเทพ บางท่าน เป็นถึงระดับพรหม มหาพรหม
บางท่านก็เป็นถึงอริยะเจ้าแล้ว
การกล่าวถึงพวกท่านๆนี่ ดีก็ดีไป หากก้าวล่วงนี่ ก็อาจมีความผิดได้


สรุป หมอสุวิเพียงเล่าให้ท่านๆทั้งหลายรับรู้กันไว้
ท่านเหล่านี้ก็ยังมีทิฐิแห่งตนอยู่ การที่เขามาสอนเรา ก็สอนตามทิฐิของท่าน ที่ได้เรียนรู้มาตามสายของท่าน
ทิฐิ ไม่มีถูก ไม่มีผิด เป็นไปตามสภาพธรรมของท่าน ความเข้าใจในธรรมของท่าน(ตรงนี้อธิบายยาก และยากที่จะเข้าใจได้โดยการกล่าวไม่กี่คำ)

สรุป ว่า หมอสุวิก็คงจะจบในเรื่องสมบัติจักรพรรดิไว้เพียงเท่านี้

 

มีคนไข้ผู้หนึ่ง ได้ไถ่ถามเข้ามาใน PM ด้วยความกังวนใจ ว่าจะเป็นเรื่องไม่ดี
ขอให้หมอช่วยดู และช่วยแก้ไขให้ด้วย
เรื่อราวเป็นดังนี้

 

เรื่องของสัตรีผู้นี้ อ่านตามเนื้อเรื่อง และเหตุที่มา มองลึกเข้าไป มีเรื่องราวไม่มากนัก
แต่เรื่องที่ซ้อนซ่อนอยู่เบื้องหลังนั้น เป็นมหากาพย์ ยาวเหยียดระดับจักวาลเลย
ชนิดที่นวนิยายของโกเล้งยังอาย

มาพี่น้องทั้งหลาย ตีตั๋วเข้ามา ชื่นชมนวนิยายมหากาพย์เรื่องเยี่ยมนี้

ก่อนที่ะเข้าสู่มหากาพย์ หมอขอตอบสัตรีผู้นี้ก่อนนะ
และความจริงเรื่องราวของสัตรีผู้นี้ ก็ไม่ได่เกี่ยวข้องกับมหากาพย์เรื่องนี้เลย นางเป็นเพียงตัวเดินเรื่องให้เข้าไปพบ มหากาพย์เรื่องนี้เท่านั้น

 

ลักษณะ จิตดิ่งของสัตรีที่ถามมา นั่นเป็นการถอดกาย แยกออกจากกายเนื้อ
และด้วยไม่มีการฝึกที่ดี สัญญาความทรงจำต่างๆที่เกิดขึ้น จึงซ้อนกัน ไม่อาจแยกมิติแห่งเวลาได้ อย่างต่อเนื่อง
อีกประการคนเราเกิดมา แต่ละภพแต่ละชาติ บางชาติก็เป็นบุรุษ บางชาติก็เป็นสัตรี

ในเรื่องที่ ๒ ทีนางไปกราบพระก่อน ชาตินี้นางเป็นบุรุษ ได้ตั้งใจไปสร้างพระและขอบวช
พระที่นางกราบ กับพระที่นางสร้างเป็นองค์เดียวกัน พระพุทธชินราช (แต่เป็นคนละองค์กับที่อยู่ที่พิษณุโลกในยุคปัจจุบัน)
ที่เป็นดังนี้ เป็นเพราะมิติที่ซ้อนเหลือม ในสัญญาของนางยังไม่อาจแยกแยะ

การบวชและสร้างพระของท่านผู้นี้ ยังมีบุญตกค้างถึงปัจจุบัน
สัญญาของท่านผู้นี้ที่เห็นไปกราบพระ ก็ต้องการแสดงบุญนี้เพื่อการสงเคราะห์ช่วยเหลือ ในอีกเรื่องที่เล่ามาในเรื่องที่สอง

 

ในเรื่องแรกที่ ที่นางไปชักขะเย่อ กับอะไรบางอย่างในบ่อน้ำ
และ ไม่ปรากฏผล แพ้ ชนะ นั้น
นางรู้สึก ว่าอยากรู้อยากเห็นอยากช่วย แต่ก็ไม่อาจรู้ไม่อาจช่วยอะไรได้เลย
ทำให้นางกังวลว่า เป็นเรื่องไม่ดี อาจมีสิ่งไม่ดี มีอาถรรพ์ร้ายมาทำร้ายตัวเธอและครอบครัวของเธอ
นางจึงถามมา

เมื่อมองลึกลงไปในบ่อน้ำ สิ่งที่นางชักขะเย่อด้วย ก็เป็นซากศพ ของบุรุษหนึง ที่ตกตาย และต้องเป็นผีเฝ้าบ่อน้ำนั้น
คำถามที่เป็นข้อกังขาคือ ซากศพนั้นเป็นใคร เหตุใดมาอยู่ในบ่อน้ำ
เป็นตกน้ำตาย หรือตายก่อนแล้ว เขาเอามาโยนลงบ่อน้ำ
และใครหรือเหตุการณ์อะไร เป็นต้นเหตุให้เขาต้องระเห็ด ลงไปอยู่ในบ่อน้ำ
และที่สำคัญ สัตรีนางนี้ ไปเกี่ยวอะไรด้วย

 

ขออนุญาติปูเสื่อด้วยคนค่ะ

 

เมื่อกำหนดจิต ถอยลึกไปตามมิติแห่งเวลา ขอให้เรื่องราวทั้งหมดตีแผ่ออกมาตามลำดับเวลา

สิ่งที่ปรากฏ
บุรุษที่ตายในบ่อน้ำ เป็นตัวเธอเอง ในชาติที่เป็นบุรุษ และเป็นชาติเดียวกับที่เธอได้ไปบวชพระและสร้างพระนั้น
เธอได้ธุดงค์ผ่านมาที่บ่อน้ำนี้ และได้พบสัตรีนางหนึ่งตกตายที่ก้นบ่อ และโดนอาถรรพ์บางอย่างสกดดวงจิตวิญญานไว้
พระธุดงค์จึงดิดช่วยให้นางเป็นอิสระ แต่สู้เขาไม่ได้ จึงต้องตกตาย เป็นผีเฝ้าบ่อน้ำนั้นแทน
สัตรีผู้เป็นผีเฝ้าบ่อ ก็เป็นอิสระ หลุดพ้นจากการจองจำ ไปจุติตามวิบากกรรมของตน

พระธุดงค์ท่านนี้ มีพระที่เป็นอาจารย์อยู่ เข้าใจว่าคงจะนัดกันมาที่บ่อน้ำนี้ ท่านผู้เป็นอาจารย์ ก็ใช้อำนาจตะบะเดชะของตน ช่วยผู้เป็นศิษย์
อำนาจกำกึ่งกัน จึงไม่อาจช่วยได้หมดจด เพียงดึงดวงจิตของพระรูปที่เป็นผีเฝ้าบ่อ ขึ้นมาได้ครึ่งเดียว
และดวงจิตที่เหลือเพียงครึ่งที่เป็นอิสระ ปัจจุบันก็จุติเป็นสัตรี ที่ตั้งคำถามเข้ามา
ส่วนอีกครึ่งก็ยังคงเป็นผีเฝ้าบ่อยู่ตามเดิม