สวัสดีคุณลุงและสมาชิกทุกท่าน
ช่วงนี้สายตามุเริ่มแย่ลงหน้าหนาวตาจะแห้งง่ายมองหน้าจอแล้วบางทีภาพโฟกัสผิดๆถูกๆ ดีนะมากิจังสอนวิธีการยกเลิกให้คะแนน กดผิดไปสองสามที เล่นเอาเกือบแย่ @makigochan ขอบคุณที่สอนวิธีกดยกเลิกให้คะแนน ไม่งั้นวันนั้นมุคงจิตตกไปนาน ฮา
วันนี้เพื่อนมุทำหน้าที่ถวายหนังสือให้พระพี่เลี้ยงและหลวงตาที่หนองบัวลำภูแทน เลยมีเวลาทำงานตัวเองมากขึ้น แอบแวะเอาแหวนพระกับสร้อยคอไปล้าง คนล้างก็จะเอาแหวนจุ่มน้ำก่อน เปลี่ยนไปแช่น้ำอ่างที่มีลูกกลมๆ ลอยๆ มุก็ถามว่า ทำไมต้องเอาหัวเผือกมาแช่ล่ะคะ ช่างล้างบอกว่า อันนี้เรียกว่าลูกประคำดีควายครับ สมุนไพรไทยทำความสะอาดได้ดี ผมซื่อมาจากเจ้ากรมเป๋อ สมุนไพรไทยแบบนี้ทำความสะอาดได้ดีนัก เราก็มาบางอ้อ
เห็นมาหลายทีนึกว่าหัวเผือกกลมๆ เหรอ พึ่งเคยมีโอกาสได้เห็นผลประคำดีควายที่คนโบราณนำมาสระผม แปลกดี กลับบ้านต้องถามพ่อว่าเจ้ากรมเป๋อคืออะไร
@Pattana อย่าลืมต่อสายดินนะคะ ระวังโดนลวก มุขอยืมมาชงกาแฟก่อนได้ไหมคะ
เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน
ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย wanwi, 11 ตุลาคม 2016.
หน้า 1024 ของ 3981
-
-
ไหมล่ะ?...รับทรัพย์สมชื่อเชียว
ก็ขอให้น้องตั้มรับไปเรื่อยๆ
เมื่อยก็อย่าหยุด-ฮ่า -
อาหารเจ้าสี่ขาเพื่อนเกลอประจำเดือน เพื่อนๆสมาชิกคนใดอยากร่วมเล็กน้อยตามกำลังทรัพย์ก็เชิญติดต่อคุณพัฒนาตามสะดวก เป็นการทำทานที่ถึงปาก ถึงท้อง ถึงมือ เพื่อนสี่ขาที่ซื่อสัตย์ที่สุดของมนุษย์แน่นอน ทำทีเดียวช่วยน้องมะหมาได้หลายจุด แบ่งปันกันไปประสาเพื่อนร่วมโลก ท่านใดที่ไม่สะดวกก็อย่ากังวล แค่ร่วมโมทนาใจก็รับบุญท่วมแล้ว
ที่แน่ๆสิ่งเหล่านี้ เกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าปราศจากคนผู้เสียสละแรงกาย ใจ ทรัพย์มากมายเป็นด่านแรก เขียนให้ท่าน(เขา-เธอ)เหล่านั้นทุกคน...
อธิษฐาน.........ทำทานสัตว์
คือสลัด...........สละทิ้ง
บ้างด้วยแรง.....หามระวิง
แม่ยอดหญิง.....โพธิสัตว์! -
กราบสวัสดียามสายวันพุธค่ะคุณอา wanwi และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน
เมื่อวานหนูได้รับขวานฟ้าและชุดเหรียญรับทรัพย์แล้วค่ะ ขออนุโมทนาบุญกับพี่อัครฯและคุณอา wanwi พร้อมทั้งสมาชิกทุกท่านด้วยค่ะ
วันนี้ที่สุราษฎร์ฯ อากาศเย็นมากเช่นกันค่ะ ตื่นมาเมื่อเช้านึกว่าอยู่ภาคเหนือเลย อิ อิ -
ท่านสมเด็จพระสังฆราชฯ..."บุญยินดี"!
เพียงยินดี............ก็มีสุข
ปลดปล่อยทุกข์.....กระตุกหาย
แค่ตั้งจิต..............ห้ามคิดร้าย
สองมือไหว้..........โมทนา!
-
กับเหรียญมหาโชคลาภ เดินทาง
จากเมืองเหนือสู่เมืองใต้เรียบร้อย
แถมหอบลมหนาวตามไปด้วย ให้ใต้
หนาวกว่าเหนือ คุยได้เป็นครั้งแรก
สุขกายสบายใจทั้งครอบครัวทีเดียว
โมทนาบุญกับหนูชุและท่านอัครฯครับ -
-
-
หนาวแย้วววน้องมากิ บ่ายค่อยอ่าน
ตอนระทึกเลือดลมสูบฉีดสู้หนาว-ฮ่า -
ล้วนรู้จักแสวงหาความอบอุ่น
ใส่ตัวทั้งนั้น ไหนลองเขียนไวๆสิ...
ขอผิงไฟ...........ไล่หนาวด้วย
คุณพระช่วย.......หนาวจริงหนอ
ผ้าพวยห่ม.........ยังหาพอ
เย็นงอก่อ..........งอขิงจัง! -
หวัดดียามบ่ายน้องไทยฯ -
เช้าหนาวเยือก
บ่ายหนาวเย็นกำลังดี
มีความสุขน้องปราย -
เปิดน้ำอุ่นก็ยังหนาว ต้อวเปิดร้อนสุด
ถึงกลายเป็นน้ำอุ่น ช่างเป็นไปได้
แสดงว่าหนาวของแท้-ฮ่า -
ลมทะเลมากับความหนาวเย็นนี่ มันสุดขั้ว
อย่าบอกใคร รักษาสุขภาพด้วยน้องเมษ -
ฟากฝั่งน้องตั้ม คงพูด
ได้เพียงประโยคเดียว
สุดติ่ง กระดิ่งแมว-ฮ่า -
ลพ.เอียคือพระระดับโพธิสัตว์ เมตตาไม่มีประมาณเหลือล้น แถมสรรพวิชารอบด้านไร้เทียมทานเป็นทั้ง หมอยา-หมออาคม หาท่านใดทาบยากในย่านเดียวกัน
เหรียญโภคทรัพย์ของท่านขายหลักพันบางรุ่นหลักหมื่น แต่ให้ทำบุญเท่าราคาที่สะสมมา ยกทีเดียวหมดกรุสละออกไป สมกับที่พ่อเอียท่านปฏิบัติเช่นนี้มาตลอดขีวิต คือช่วยคนแล้วสละทิ้ง
นี่ีคือพระในดงของแท้ ช้างเผือกในป่าใหญ่ มิใช่พระในนิยายขายพระที่นักแต่งนิทานอุปโลกขึ้นมาหารับประทาน นิทานบ้องตื้นที่มีคนหลงเชื่อมากมาย ซื้อกันสักวันขายต่อไม่ได้ คงมีการคืน เปิดตูดหนีไม่เหลียวหลังกันมั่ง ยิ่งของเก๊อุปโลกราคาแพง สมัยนี้แจ้งจับได้เลย บอกให้นักเล่น นักสะสมรู้ไว้ กี่บาทก็แจ้งตำรวจได้ พ่วงด้วยการโฆษณาเนื้อความ เนื้อหาต้มตุ๋นทางพรบ.คอมฯอีกกระทง เงินที่ได้ไป สิ้นปีไม่เคยไปแจ้งภาษาเงินได้ เจอกับสรรพากรอีก หัวโตเชียวนา อย่าทำเป็นเล่น -
นึกว่าเป็นแต่ผมคนเดียว ต้องหยอดยากันตาแห้งเช้ากับก่อนนอน หนูมุก็เป็นด้วย ตาแห้งเร็วมากกับหนาวนี้ เคืองตาแทบทั้งวัน ต้องใส่แว่นหน้าจอ นอกจอมากขึ้น
รักษาสุขภาพทุกคนแล้วกัน ผมก็พยายามรักษาให้ดีที่สุด เพื่อมีแรงจิ้มต่อไป
ว่าแล้วรีบฝ่าดงหนาวเข้าตะนาวศรี ก่อนตาแห้ง เคืองตากว่านี้ รอการจิ้มอันว่องไว แต่ช้าเพราะตัวผิด-ตัวกระโดดเยอะ สักพักครับ ปูเสื่อ จิบชากาแฟข้าวแแฝ่ของว่างไปก่อน -
สวัสดีครับคุณอา Wanwi และแฟนคลับทุกท่าน
มีเรื่องมาสอบถามคุณอา เรื่องแปลกผมได้เหรียญหลวงพ่อเอียมาหนึ่งเหรียญ ซึ่งแปลกคือ โค๊ดที่ตอกในเหรียญตรงกับเหรียญครูบาคำแสน ที่ผมมีไว้เช่นกัน ไม่ทราบว่าปลุกเสก พร้อมกันหรือคนสร้างคนเดียวกันครับ
ปล.ต้อนรับสมาชิกทุกท่านสู่หน้าหนาวจริงๆ -
(ต่อ)...อาถรรพ์"เหล็กไหล"-ประจันหน้า"เจ้าถ้ำ"!!!
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
ความเดิม...ถึงตอนนั้น ค่อยสอนให้มันรู้ว่า..."จั่วลม-เหนื่อยฟรี"เป็นอย่างไร?
===================
(บันทึกคุณเทพ-ต่อ)...ราวกับล่วงรู้ความคิด วาตะร้ายที่กำลังโขยกขย่มตูมตามเอาเป็นเอาตาย แม้แต่ธาตุดิน น้ำ ไฟ ที่เรางัดมาใช้ยังต้านฤทธิ์ไม่ได้...จู่ๆ พลันวูบพลัง!
มันหยุดฉับพลัน ยังกับรู้ว่าเราไม่สะเทือนสะท้าน ขวัญหนีดีฝ่อ แค่ตกใจหน่อยเดียว...
มันรุก เรารับ...เรากัน มันแก้ ทันควัน ประชันกันเหมือนเซียนหมากรุก เปลี่ยนวิธีเดินไม่ให้คู่ต่อสู้จับทาง
สายลมรุนแรงแปลงเป็นเอื่อยเฉื่อยอ่อนโยน ลีลาลมภูเขาธรรมดา เรายืนนิ่งเงียบในความมืด ได้ยินเสียงเต้นในทรวงอกตึกตัก เข็มตกสักเล่มคงได้ยิน ผมยกข้อมือพรายน้ำนาฬิกาเรืองแสงสีเขียว จับเวลาไม่กระโตกกระตาก ทุกชีวิตล้วนรอผมตัดสินใจ...
10 นาทีผ่านไปอย่างเชื่องช้าชวนหงุดหงิดระคนระทึกขวัญ ผมฉายไฟไปฟากอาจารย์ ตะโกนเรียก...
"มะ เปิดไฟฉาย ช่วยกันเก็บของ"
ดวงยืนอยู่กับผม บอกมะก็เหมือนสั่งดวง เรากวาดไฟฉายสำรวจสภาพโถงถ้ำ มันเละเทะดูไม่จืด สัมภาระปลิวกระจายยังกับปุยนุ่น เสื้อผ้าบางชิ้นขึ้นไปค้างแถวตะพักผนังถ้ำ ข้าวของเครื่องใช้กระจายว่อนสมคำว่า...พายุลง!
อย่างอื่นไม่สำคัญเท่าฟืน เราช่วยกันเก็บมากอง ย้ายที่ก่อกองไฟ ขยับไปใกล้ปากถ้ำจุดที่อาจารย์หลบภัย ตรงนั้นเป็นมุมอับลม พื้นที่น้อยก็ไม่เป็นไร
หากเป็นเกมส์ลูกหนัง นาทีนี้เราต้องเล่นเกมส์รับอย่างระวัง แพ็คหลังแน่นหนาอย่าปล่อยฝ่ายตรงข้ามจู่โจมทะลวงตาข่ายขาด กำลังข้างเราด้อยกว่ามาก มิบังอาจเหิมเกริมเล่นเกมส์รุก ให้มันบุกแต่ยิงประตูไม่เข้า ไม่ช้าอาจท้อใจไปเอง หรือเราอาจพบจุดอ่อน "เคาน์เตอร์ แอ็ทแท็ค" บุกทะลวงกลับได้สักมุม แบบพังพอนอัศจรรย์เมื่อยามเช้า
ผมคิดตื้นๆ ง่ายๆ ไม่ซับซ้อนในสภาวะถูกต้อนเข้ามุมได้แค่นี้...ขออย่างเดียว ห้ามสติแตก!!!
ไฟกองใหม่ลุกโชนทันใจ ส่งความอบอุ่นย้อมกายใจอีกรอบ แสงสว่างแรงกล้าของพระเพลิงช่วยขับไล่ผลักไสความมืดมิดอเวจีในโถงถ้ำถอยห่าง เปลวสว่างแม้น้อยนิดเมื่อเทียบแสงพระอาทิตย์ แต่การไม่มะงุมมะงาหราในความมืด ก็เท่ากับเพิ่มพลังนักสู้ ไขลานพลังภายใน พร้อมรับมือมหันตภัยฉากต่อไปอีกเฮือก
ปัจจัยยังชีพ ถุงอาหาร กระติกน้ำ กระเป๋ายา อยู่ครบไม่บุบสลาย ความวุ่นวายฤทธิ์พระพายแค่ทำลายความสงบชั่วครู่ ยังไม่มีพลังเพียงพอกระทืบจิตใจนักสู้ของพวกเราแตกเป็นเสี่ยง
เราช่วยปัดกวาดด้านข้างถ้ำที่มีปีกผนังบังเป็นมุมอับ ให้อาจารย์นอนตรงนั้น เป็นจุดล่อแหลมเหมือนยามเฝ้าปากประตู แต่อุ่นใจใกล้กองไฟกับเส้นมนตรามหามงกุฏพระพุทธเจ้าที่ขีดหน้าปากถ้ำห่างไปเพียง 5 - 6 ก้าว!
พวกเราทำงานกันเงียบๆ ไม่ปลดปล่อยหรือหล่นคำพูดพล่อยๆ อันใดให้ขวัญเสีย หม้อกาแฟปลิวเกือบทะลุช่องหลังถ้ำ ดีที่แง่งหินเกี่ยวไว้ ถูกเก็บมาต้มใหม่ แจกจ่ายคนละอึกสองอึก ช่วยตาสว่างขับความง่วง เติมความกระปรี้กระเปร่า
เวลาล่วงไม่รู้ตัวกับการง่วนเก็บกวาด ปรับทัพสัมภาระ ดูนาฬิกาอีกที 4 ทุ่มเผง!
ไม่กี่นาทีถัดมา...ผมจึงตระหนักว่า...ยกแรกนั้นเหมือนมวยก่อนเวลา แค่ออเดิร์ฟหรือน้ำจิ้ม ที่กำลังตามมานี่สิ เมนคอร์สตัวจริง ไม่ต้องให้นักชิมระดับลิ้นทองคำที่ไหนมาการันตี...
มันเริ่มด้วยไอหนาวที่คุ้นเคย เปลวไฟกองใหม่ประทุ เปรี๊ยะ..เปรี๊ยะ..เปรี๊ยะ ถี่ยิบดังประทัดแตก
ไฟที่กำลังลามเลียฟืนเป็นอาหาร ส่งเปลวร้อนขึ้นสูงไหววูบวาบ เปลวส้มแดงเหลืองเห็นชัดในยามค่ำคืน มันยืดขึ้นเป็นลำยาวยังกับเส้นตังเมโดนรีด เส้นพระเพลิงไหลลู่เอนไปทางหน้าถ้ำ เหมือนเป็นวัตถุของแข็งถูกเชือกคล้องดึงออกไป
เปลวไฟกองฟืนกระตุกยึกยัก 4-5 ครั้ง แล้วพุ่งวาบเป็นทางออกหน้าถ้ำ ทั้งกองมอดดับ มันโดนดูดหายวับไปกับตายิ่งกว่ามายากล ควันขาวพุ่งโฉ่ขึ้นจากท่อนฟืนเป็นสาย สู่เพดานถ้ำ
"ฉายไฟ มะ ช่วยกัน"...ผมตะโกนละล่ำละลัก หัวจิตหัวใจชักไม่เป็นส่ำ เจ้าถ้ำดูดความร้อนในถ้ำออกไปเกลี้ยงฉาด อากาศเย็นยะเยือกโถมทับ ผมรีบโยนผ้าห่มตัวเองให้อาจารย์
"ห่มไว้ 'จารย์ อย่าให้หนาวตาย"...
2 หนุ่มก็รีบคว้าผ้าห่มมาคลุม ผมไม่เร่งร้อนรื้อผ้าในหีบ ความหนาวกายยังพอทนทาน อาการหนาวใจบอกไม่ถูกที่รังควานอยู่นี่สิ หงุดหงิดงุ่นง่านมากกว่า
ท่ามกลางไอเย็น แม้แต่พูดยังเป็นไอหมอก เย็นจนกระทั่งฟันกระทบกึกกัก กลิ่นบางอย่างโชยอ้อยอิ่ง นิ่ง เนียน ช้าๆ ผิดแผกจากกลิ่นคืนเก่าก่อนที่เหม็นชวนอ้วกแตกรากเขียว รากเหลือง...
กลิ่นใหม่นี้เป็นกลิ่นหอม หอมชนิดไม่มีความหอมใดในโลกกาเทียมเท่า!!!
ผมขอสาบานเอาชีวิตเป็นเดิมพัน เกิดมาไม่เคยสูดกลิ่นหอมใดบนผืนพิภพจบดินแดน เท่ากลิ่นหอมซึ่งเสมือนคั้นพฤกษชาติ มวลบุปผามาลีทั้งปฐพีแลสรวงสวรรค์ทุกชนิดมารวมกัน แล้วส่งกลิ่นนั้นเข้ามาอบอวลร่ำไปทั่วโถงถ้ำโกโรโกโส...
มันคือกลิ่นกระตุ้นดำฤษณา กลิ่นที่ท้าได้ว่า แม้แต่เทวดายังตกสวรรค์ หากแม้นสูดสัมผัส...! -
"พี่วัน" ครับ ภาษาไทยหลายคำยุคที่พี่กับผมเรียนมา ถึงสมัยนี้กลายเป็นคำผิดไปแล้วครับ ผมเองแก้ไขไปก็หงุดหงิดไป เพราะว่าพวกเราเคยชินกับของเก่า แต่สมัยนี้เหล่าราชบัณฑิตกินอิ่มแล้วกลัวว่าจะว่างเกินไป แก้ไขจนเพี้ยนไปหมด นึกถึงรุ่นพ่อที่เล่าว่า พวกเราแก้ไขภาษาเพื่อที่จะไม่ต้องเรียนภาษาญี่ปุ่น แต่สมัยนี้แก้เพื่ออะไรก็ไม่ทราบ แต่ผมก็แก้คำผิดในเนื้อเรื่องให้แล้วครับ
หน้า 1024 ของ 3981