สนุกกันต่อจ้า
เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน
ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย wanwi, 11 ตุลาคม 2016.
หน้า 12 ของ 3995
-
-
-
-
-
-
-
-
พร้อมแล้วครับ
-
สนุกมากครับ มีเรื่องเกี่ยวกับทางจังหวัดสิงห์บุรีบ้างไหมครับ
-
เยี่ยมมากครับเป็นกำลังใจให้ล่องไพร 2 ขอบคุณมากครับได้เกร็ดเรื่องอาถรรพ์ พระเครื่อง และหลายอย่างน่าติดตาม เคยอ่านหนังสือเรื่องพระกรรมฐานในป่า และเรื่องเล่าจากพวกพรานป่ามาบ้าง เดิมทีคิดว่ามีโม้บ้าง ก็ต้องบอกว่าไม่ได้โม้จริงๆ เรื่องทุกเรื่องมีพื้นฐานจากความเป็นจริงแท้ๆ น้อ ถ้ามีเกร็ดเรื่องคาถาอาคมใดๆ ก็ขอด้วยนะครับ กำลังมีหน้าไม่มากนัก น่าติดตามอ่านเป็นอย่างยิ่ง
-
(ต่อ).....ขุดล้างป่าช้า...เผชิญหน้า"เสือสมิง"!!!
--------------------------------------------
--------------------------------------------
ผมฝัน....ในความฝันยามเช้าแห่งอรุณรุ่งอันงดงาม ผมกำลังเดินไปที่ริมฝั่งน้ำถือเบ็ดตกปลา เหวี่ยงลงผืนน้ำสงบเงียบเบื้องล่าง ปลาตัวใหญ่ฮุบเบ็ดผางไม่รอช้า ผมตะหวัดเบ็ดขึ้นมา คุณพระช่วย แทนที่จะเป็นตัวปลา กลับเป็นหญิงชรารูปร่างผอมเกร็ง ผมกระเซิง ใบหน้าบูดบึ้งบิดเบี้ยว น่าเกลียดน่าชังเหลือจะพรรณนา...นางคว้ามือเหี่ยวย่นจับสายเบ็ดไว้ และเหนี่ยวอย่างแรง ผมดึงคันเบ็ดสู้สุดฤทธิ์ แต่นางปีศาจหายอมแพ้ไม่ มันดึงตัวเองเอามือสาวคันเบ็ด กระดืบ กระดืบร่างปีนตลิ่งเข้ามาใกล้ผม แสยะยิ้มเห็นเขี้ยวโง้ง
ฉับพลัน...เสียงคุ้นหู ตะโกนเรียกแว่วมาจากไกล..."เอ็กซ์ เอ็กซ์ ลูกกลับบ้านได้แล้ว"
เสียงนุ่มนวลที่ผมไม่ได้ยินนานแล้ว เสียงแม่...แต่เอ แม่จากเราไปนานแล้วนี่นา หรือเราหูแว่ว....?
หูผมไม่แว่ว เพราะเสียงกระซิบบางเบาข้างหู ปลุกให้ผมตื่นจากฝันหวานยามเช้า...กิ่งไม้ยาวจากมือลุงกะเหรี่ยงกำลังเขี่ยที่ท่อนแขน หลังต้นคอที่พระท่ากระดานคู่ชีวิตถูกไพล่ไขว้หลังสงบนิ่งตลอดเวลา ร้อนฉ่าเหมือนมีใครเอาไฟนาบ องค์พระเต้น ตุบ ตุบ ดังชีพจรที่ไปเต้นผิดจังหวะจากหัวใจไปที่หลังคอ
ผมลืมตาตื่น ขยี้ขี้ตาเรียกสติสัมปชัญญะ..ลุงกะเหรี่ยงดึงกิ่งไม้แห้งที่ใช้เขี่ยแขนผมกลับ เจ้าเกียรติถือปืนแก้ปทำเองของพวกเรา ตาเบิกโพลงจ้องไปเบื้องล่าง...มันสารภาพกับผมทีหลังว่า...กูกลัวแทบเยี่ยวราด ปืนเกือบหล่นหลุดมือ !!
ผมเองก็คงอาการไม่ดีไปกว่ามัน เพราะเบื้องล่างนั้น ตรงที่ผมเคยนอนพังพาบยิงกวาง ปรากฏร่างเหลืองตัดดำขนาดหกศอก กำลังหมอบเงียบเชียบ หางใหญ่ของมันปัดกวาดไปมาช้าๆ หัวมันหมอบต่ำมองเหยื่อสารพัดชนิดที่สำราญกับหนองน้ำและดินโป่งด้านล่าง มันเตรียมตัวล่าประจำวัน จุดหมอบซุ่มล่าก็เป็นจุดเดียวที่ลุงกะเหรี่ยงนำผมกับเกียรติมาประเดิมชีวิตพรานไพร...รู้ทั้งรู้ว่าเป็นจุดเสือซุ่ม แกยังเอาพวกเรามาเสี่ยงภัยหน้าตาเฉย มันน่านัก
ผมยอมรับว่า ใจสั่นรัวเหมือนกลองเพลกำลังกระหน่ำกลางอก ร่างเจ้าป่าตัวจริงเป็นๆนั้น
เคยเห็นหนเดียวในชีวิตที่สวนสัตว์เขาดินครั้งเด็กเล็กแม่พาเที่ยว แต่มันเป็นสัตว์เลี้ยงที่เงื่องหงอย เหงาซึม ปราศจากความปราดเปรียวไร้ชีวิต ชีวา จากนั้นก็เห็นในหนัง "ทาร์ซาน"อันน่าตื่นเต้น เมื่อพระเอกปล้ำฟัดกับมัน แล้วก็ในรูปภาพ ไม่เคยเห็น"เจ้าป่า"ที่ผงาด มีอิสระ ตบะครอบคลุมไพรกว้างเช่นนี้
มือคว้าไรเฟิ้ลล้มช้างที่พาดหน้าตัก สายคล้องสะพายบ่าดูจะเก้งก้าง เกะกะไปหมดในนาทีวิฤติ รีบปลดสาย วาดปืนประทับบ่า กวาดลำกล้องยาวหาจุดยิง ในลักษณะที่มันหมอบ เห็นแต่หลังต้องยิงตรงท้ายทอยหัวกะโหลก ตัดก้านสมอง มีจุดเล็งไม่มากนัก
ในระยะเกือบ 20 เมตร บนห้างถึงเป้า
อนิจจา...ความรุกลี้รุกลน ของความเป็นนายพรานไก่อ่อน ทำให้ผมลืมขึ้นลำปืนไว้ล่วงหน้า แถมลืมปลดเซฟอีกต่างหาก เสียงขึ้นลำคงดังสนั่นป่าให้มันเจ้าป่านักล่ารู้ตัวแน่นอน
กำลังวุ่นวายขายปลาช่อนบนห้าง อะดรีนาลีนฉีดหลั่งไหลเวียนไปทั่วร่าง หูตาพร่า ทั้้งกลัว ทั้งกล้า ดีใจ ตกใจสับสนปนเป อธิบายไม่ถูก กระแสลมก็พัดมาวูบใหญ่
ลมเปลี่ยนทิศ เจ้าป่าดันอยู่เหนือลม กลิ่นสาปสางตัว โชยลงเบื่้องล่าง เจ้ากวางหยุดเล็มหญ้า กระทิงทำจมูกฟึดฟัด เหยียดขายันจังก้าท้าทายทุกหน้าที่จะเข้ามาราวี แม่หมูป่าพาลูกวิ่งหนีเร็วจี๋เข้าดงไผ่ใหญ่ที่เห็นไกลๆ...เสียงคำรามราวป่าแตกทำลายความสุข สงบ สวยงาม ยามอรุณรุ่งเสียสิ้น ร่างเจ้าป่าพุ่งลงจากเนินที่พวกผมเคยไถลหลังจากยิงกวางล้ม... สีเหลือง-ดำกระโจนแว่บกลางอากาศ มันตะปบลูกกวางน้อย แต่ผิดท่า เพราะฝูงกวางเริ่มวิ่ง พลาดเป้า เจ้าป่าลงไปคลุกฝุ่น ตะกายดิน พลิกตัวกลับขึ้นยืน แต่เหยื่อทั้งหลาย หายไปหมดแล้ว เหลือแต่กระทิงเปลี่ยวสามตัวที่งุดหัว ก้มหน้าเขาโง้งงาม ท้าทาย ...แน่จริง เอ็งเข้ามา!
เจ้าป่าไม่สนใจเหยื่อใหญ่ มันคำรามอีกโฮกแล้วกระโจนหายลับไปในไพรกว้าง ด้านข้างหนองน้ำเล็กๆ ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นด้วยเวลาพริบตาเดียว -
สนุก ได้อารมณ์ดีแท้ ขอบคุณ
-
อร่อยเหาะแทบลืมหายใจครับ
-
ลุงกะเหรี่ยงทำสัญญาณให้พวกเราอยู่นิ่งๆ อย่าส่งเสียง เป็นเวลายาวนาน
ผมคะเนว่าน่าจะเป็นชั่วโมงอันสุดแสนอึดอัดน่าคลั่งใจตาย ผมกำหมัดกระ
แทกต้นขาตัวเองเบาๆหลายครั้ง กัดฟันแน่น เจ็บใจ โอกาสงามที่สุดหายวับไป
ต่อหน้า ต่อตา...เจ้าป่าไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าพวกเราซุ่มอยู่เหนือหัว จะมีนาทีทอง
อย่างนี้ อีกไหม ?
การไม่ได้ขึ้นลำปืน ปลดเซฟไว้ล่วงหน้า โทษใครไม่ได้เลย นอกจากตัวเอง ลุงกะเหรี่ยงกับเกียรติไม่มีความรู้เรื่องปืนชนิดนี้แม้กระผีก ผมต่างหากที่ไม่รอบคอบ การ
เรียนลัดแค่วิธียิง พิสูจน์แล้วยังใช้ไม่ได้ ผมต้องทำความรู้จักอาวุธคู่ใจให้มากกว่านี้
พวกเราไม่มีใครโทษใคร ลุงกะเหรี่ยงชี้มือให้ไต่ลงจากต้นไม้ เมื่อถึงโคนต้นก็รีบนำ
ทางรุดไปด้านที่ฝูงหมูป่าวิ่งหนี ด้านนั้นเป็นกลุ่มไผ่ลำงามๆขึ้นเต็ม ห่างจากหนองน้ำและโป่งเอาการ แกนำทางมุดซ้าย มุดขวาเข้าลึกไปในกอไผ่ใหญ่กอหนึ่ง พอถึงก็ทิ้งตัว ยิ้มร่าเริงบนลานดินสะอาดมีใบไผ่ปูเหมือนพรมธรรมชาติ
ลุงกะเหรี่ยงทำเหมือนออกมาปิคนิค ไม่สนเหตุการณ์อกสั่นขวัญแขวนเมื่อกี้สักนิด ความร่าเริง แต่เย็นของแกทำให้ผมกับเกียรติ ผ่อนคลายได้มาก
"กินข้าวกันก่อนนายทหาร มันไม่ย้อนมาแล้ว กลับมาก็หาเราไม่เจอในกอนี้ มันเข้ามาไม่ได้ เสือเกลียดหนามไผ่ "...เสบียงที่จอนกับเดชตระเตรียมให้ มีเนื้อกวางแห้งแดดเดียวฝีมือยิงเราเอง ข้าวสวยกงสีเหมืองห่อโต กินได้ห้าคนสบาย มีน้ำพริกตาแดงปรุงด้วยพริกกะเหรี่ยงเผ็ดถึงใจ แค่นั้นก็กินกันแทบจะเลียใบตอง ตามด้วยน้ำจากกระติกคนละ
หลายอึก ปิคนิคหลังเผชิญพญามัจจุราชหนแรกก็สวยหรูไม่แพ้มื้อดีๆตามเหลา เพราะ
เหลาที่ไหนในโลกก็หาบรรยากาศเยี่ยงนี้ไม่ได้!
"เราจะเฝ้าอีกนานมั้ยลุง"?...คำถามพื้นๆที่ไม่น่าถาม ผมถามแล้วก็หงุดหงิดตัวเอง
ลุงเช็ดมือ เช็ดปาก พยักหน้าหงึกหงัก ใครทำท่านี้ก็น่ารักไม่เหมือนแกสักคน..."ก็ต้องเฝ้าจนมันกลับคืนนี้"
ลุงเฒ่าเจ้าเล่ห์แห่งป่าตะนาวศรี อธิบายรวดเดียวว่า เจ้าป่าที่เราเห็นว่องไวน่าทึ่ง...อันที่จริงมันแก่แล้ว เริ่มล่าสัตว์ป่าอื่นไม่ได้ เห็นที่มันพลาดไหมเล่า ธรรมดาเสือหนุ่มไม่มีวันพลาดเป้าอย่างนั้น ในความปราดเปรียวที่เราเห็นนั้น มันช้ากว่า"เหยื่อ"ของมันหลายก้าว
"มันไปเฝ้าที่แค้มป์คนงานแน่ กะจับคนกินอีก คนหนีไม่ทัน" ลุงคาด
แต่ลุงไม่รู้ว่า2-3วันที่ผมรับปากผู้การเหมืองเตรียมพิชิตไอ้ลายนั้น ผมได้ใช้ความรู้ทางทหารช่วยปรับปรุงวิธีรักษาความปลอดภัยแค้มป์คนงาน เหนื่อยสายตัวแทบขาดทั้งสองวัน โดยเฉพาะแค้มป์ชาวมอญที่มีคนงานเกินร้อย หลังแค้มป์ติดป่ามากกว่าแค้มป์คนไทย ผมให้ผู้การสั่งเอาเจ้าแคทฯไถป่าย่อมๆจนโล่งเป็นแนวยาว แนวป่าร่นออกไปอีกเกือบสิบเมตร ปักเสาไฟด้านหลังเพิ่มแสงสว่าง ให้หัวหน้าคนงานมอญ สั่งการเดินยาม
ถือเกราะเคาะไม้ทั้งกลางวัน-กลางคืน
เจ้าเสือซุ่มสิ้นโอกาสเข้าใกล้แค้มป์โดยคนไม่รู้ตัวอีกแล้ว...แต่ตัวมันคงไม่รู้ดอกว่า
เราป้องกันหนทางล่า มันพลาดจากเหยื่อสัตว์ป่า ด้วยความหิวคงจะไปเตรียมล่าเหยื่อที่มันคิดว่าอันตรายน้อยที่สุด มีแค่สองขา วิ่งช้า ไม่มีกรงเล็บต่อกรกะมัน นั่นคือ คนงาน
นี่เป็นสาเหตุที่ผมเผลอผลอยหลับ เพราะการจัดการหนักหนาที่ผ่านมาช่วงต้น
แต่ครานี้ ผมจะไม่ยอมพลาดซ้ำสอง...ยิ่งลุงกะเหรี่ยงยืนยันว่า หากมันล่าอะไรไม่ได้ มันต้องกลับมาที่โป่งนี้แน่ เราจะไม่ย้ายไปไหน ต้องเฝ้ามันอีกคืนหรือสองคืน จนกว่า
เสบียงหมด
ทุกคนผลัดกันทำภาระส่วนตัวด้วยที่ทางที่มีเหลือเฟือ...ลุงพรบอกว่า เราจะนอนพักในนี้จนเกือบเย็น ช่วงบ่ายแก่เมื่อกินมื้อเย็นเสร็จ ทำธุระอีกครั้งให้เรียบร้อย คราวนี้ขึ้นห้างทั้งคืน ห้ามขี้เยี่ยวเด็ดขาด จงดื่มน้ำแต่น้อย จิบอึกเล็กๆแล้วปล่อยไหลลงลำคออย่าดื่มเอื้อกๆแบบหิวน้ำ จะทำให้ปวดเบาบ่อย -
สองพรานจำเป็นกับหนึ่งพรานอาชีพ งีบคนละเล็กน้อย พอได้เวลาก็ลุกโดยไม่ต้องเตือน
ปีนขึ้นประจำการบนห้าง ที่ใคร ที่มัน
ผมชวนลุงกะเหรี่ยงสนทนาเบาๆ ไอ้เกียรติเอาขาคร่อมคบใหญ่นอนสบายๆตาปรือฟังไม่ไกลกันนัก...ตะวันเหนือหัวคล้อยไปทางตะวันตกค่อนข้างไว เริ่มหมดฝนเข้าสู่ต้นหนาว อากาศเย็นมาเยือน พวกผมห่อตัวเข้ากับเสื้อตัวใหญ่ ผ้าขาวม้าโพกหัวกันน้ำค้างเหมือนลุงอารมณ์ดี
"เสือกินคนจนกลายเป็นสางได้ยังไง ลุง ..เล่าหน่อย อยากรู้" ผมเริ่มเบาๆ
ลุงกะเหรี่ยงกระแอมในลำคอให้โล่ง แกก็คงต้องคิดหาถ้อยคำมาเล่า เพราะบางทีภาษาไทยก็ไม่แตกฉาน
ตำนานเสือสมิงแห่งตะนาวศรี ถูกบรรยายโดยพรานกะเหรี่ยงร่างเล็กเป็นฉากๆว่า...คนบ้านป่า ดงดอยที่นี่ พบเจอเสือสมิงบ่อย เพราะเจ้าสางพวกนี้เมื่อแก่ตัวลงล่าสัตว์ว่องไวกว่าตัวเองไม่ได้ ก็หันมากินคน...เนื้อคนพอมันลิ้มเข้าไปสักครั้งก็ติดใจ ยิ่งเนื้อเด็กๆ เสือแก่ชอบมาก แต่ส่วนใหญ่มันมักจะจับได้แต่คนแก่ เพราะคนแก่ขาดความระวังตัว คิดว่าตัวเองยังทำงานได้ ชอบออกไปทำงานในไร่ เก็บของในป่า ลืมบอกลูกหลาน ถูกเสือคาบไปกินประจำ...เด็กๆนั้น พ่อ-แม่คอยระแวดระวังเป็นปกติอยู่แล้ว
คนแก่ที่พลาดให้มัน บางคนเป็นคนมีวิชาอาคม บางรายก็แปลกๆเล่นของ เล่นคาถา แบบพ่อมด-หมอผี
"พวกนี้โดนเสือกินเมื่อไหร่...ไอ้ตัวกินเป็นสางทันที"!!! ลุงกะเหรี่ยงย้ำขึงขัง
"สาง"หรือ"สมิง"สามารถแปลงกายได้ยามโพล้เพล้ หรือค่ำคืนที่ต้องอาถรรพ์
อย่างคืนปล่อยผี ปล่อยสาง คืนที่ขุมนรกปลดปล่อยวิญญาณให้เป็นอิสระชั่วคราว วัน-คืนที่มีเวลากลางวันเท่ากับกลางคืน มีเพียงวันเดียวในหนึ่งปี
"มันแปลงเป็นนายทหารก็ได้ คนแก่ก็ได้ แต่เป็นผู้หญิงแก่ๆ มันชอบมาก หลอกคนง่ายดี"
โอ้คุณพระ...ผมหวนคิดถึงฝันยามเช้าที่่ผ่านมาเมื่อไม่กี่ชั่วโมง ต้นคอที่ร้อนเหมือนโดนไฟเผาที่องค์พระท่ากระดานคู่ชีวิตแขวน...ภาพหญิงชราผมกระเซิง เขี้ยวโง้ง มือสาวสายเบ็ดปีนขึ้นมาหาผม...เสียงร้องเรียกจากแม่ผู้จากไปนาน
หรือนี่เป็นสัญญาณเตือนจากทั้งพระ ทั้งแม่ ฉายภาพเหตุการณ์ล่วงหน้าให้ผมเห็น?
ผมไม่กล้าเล่าให้เพื่อนร่วมชะตากรรมบนคบไม้ใหญ่ทั้งสองฟังแน่! -
พักสักนิด...เจอกันช่วงค่ำ ต้องไปวัดธาตุทอง ฟังสวดครับ
ดีที่รถไฟฟ้าจอดหน้าวัด การเดินทางสะดวกมาก คงไป-กลับ
ได้รวดเร็ว มาต่อเรื่องได้ทัน...โชคดีทุกท่านครับ -
ขอบคุณมากครับผมกำลังเฝ้ารอลุ้นอย่างใจจดใจจ่อเลยครับ
-
กำลังสนุก น่าติดตามเลยครับ ขอบคุณที่เขียนมาให้อ่านครับ ^^
-
ตามอ่านจนถึงตอนล่าสุดแล้วครับ สนุกน่าติดตามมากครับ ^_^
-
รอเข้า. ป่าไปดู อ้ายเสือร้ายๆๆๆๆๆๆๆๆ
หน้า 12 ของ 3995