หายไวๆ ครับ
เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน
ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย wanwi, 11 ตุลาคม 2016.
หน้า 1921 ของ 3914
-
ชี้ให้เห็นพิษภัยของ"ใจไร้บังเหียน"...
ไฟในอก.........นรกในใจ
แผดเผาไหม้....ไร้เรียนรู้
หลงเตลิด........ตกข้างคู
เปิดประตู........ต้อนรับมาร
.....รักชอบชัง.......บังเกิดวุ่น
.....โกรธชุลมุน......หมุนสังขาร
.....รากราคะ.........ฉะทรมาน
.....ล้วนไฟมาร......ผลาญชีวิน! -
-
ชมกล้วยไม้สัญลักษณ์น่ารักแสนดี...
สันติภาพ.......พิราบขาว
เด่นสกาว.......พราวฟ่องฟ้า
ปีกแห่งรัก......กวักไกวหา
รัก-เมตตา......พาโลกเย็น! -
องค์พระปิดตาถ่ายแล้วภาพกรอบสะท้อนทำให้เห็นความงามแค่ครึ่งเดียว องค์จริงงามฝุดดดๆ กรอบบางส่วนบุบบู้บี้เพราะคนจับต้องส่องมาก ไม่ใช่เกิดจากการแขวนใช้
ตามจีบพระ ทรมานกว่าจีบสาวเยอะ อย่างหลังนี่แค่เดือนครึ่งเดือนดูท่าไม่ได้เรื่องก็หนีแล้ว อย่างแรก 20ปีก็ยังเฝ้ารอ-ฮ่า -
ก็ทนๆเอาหน่อยน้องปรายฯ -
-
-
-
เสาร์แจ่มใสไร้เปียกชื้น อากาศดีสมควรนำลุยตะนาวฯให้ฉ่ำใจ รออ่านหลังเที่ยง เพราะบ่ายจัดยันย่ำค่ำมีงานหลวงเลี่ยงไม่ได้2 งานซ้อน ก็ต้องจัดแบ่งเวลาลุยทั้งราษฏร์กับอาชีพตามความเหมาะสมหลังมื้อเที่ยงค่อยพบกันอีกยกในป่าดิบหลงโลก
-
สวัสดีวันหยุดครับอา มาจิบกาแฟรอติดตามเรื่องราวครับอา วันนี้มาลองชิมกาแฟร้านใหม่ ไม่เคยมาแถวนี้มาก่อนครับ ปกติวันหยุดจะอยู่ติดบ้านไม่ค่อยออกไปไหน แต่วันนี้อยากหามุมมองใหม่ๆเลยออกนอกกรอบบ้าง มาเจอสิ่งใหม่ๆบ้างก็แปลกใจเหมือนกันว่าแถวบ้านมีอะไรแบบนี้ด้วย ขอให้คุณเตยหายป่วยไวๆครับ -
สวัสดียามเที่ยงครับคุณอา และผองสมาชิกทุกท่าน
-
ตอนนี้มีกาแฟมีพายมีขนมอร่อยกันแล้ว ก็จิบๆเอนๆให้สบายใจ รอการจิ้มเข้าสู่โลกแห่งบรรพกาลเนิ่นนานที่เรานำกลับมาอาละวาดเถิด เป็นเครื่องแกล้มชา กาแฟเยี่ยมนักแล -
-
-
(ต่อ)...อาถรรพ์"เหล็กไหล"-ประจันหน้า"เจ้าถ้ำ"!!!
====================
ความเดิม...หรืออีกทีน่าดีกว่ามาก เพราะอัญมณีไม่ต้องเสาะแสวงหาคนซื้อ!
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
รอช้าให้โง่ ผมส่องไฟสำรวจเบื้องล่าง ที่แท้ตรงฐานปั้นเป็นขนดหางจอมนาคีซ้อนกัน 2 - 3 ขด นำลำตัวมหึมาพาดยาวขึ้นไปหลังเสาหิน โผล่ส่วนหัวชูแม่เบี้ยผงาดคร่อมหัวเสา ลองโอบจับเขย่าแรง ๆ ฝุ่นร่วงกราว ผลักดันหนัก ๆ อีกที เสาหินไม่โอนเอน ไม่สั่นไหว
มีดเหน็บเอวไม่ต้องรอใครอนุญาต ผมเกาะกุมส่วนที่บั้งเป็นเกล็ดลำตัวหยาบ ๆ มีร่องเหลี่ยมวางมือวางตีนเหมาะเจาะ ชั่วหายใจเข้าออกไม่ครบอึด ผมก็ปร๋อขึ้นไปขี่หัวพญางูยักษ์จำแลง ท่ามกลางสายตาพื่อนร่วมเป็นร่วมตาย ที่จ้องแทบถลนในความสว่างรางเลือน
หัวโอฬารก็มีที่เกาะดิบดี ผมเอาขาคร่อมมั่นคง เอนตัวฉายไฟส่องดวงตาด้านซ้าย ลูบฝุ่นพันปีหรือหลายร้อยปีออก แสงสีแดงสวยสดดังเลือดนกพิราบสะท้อนวิบวับล้อแสงไฟระริก พลิกซ้ายขวาตามลำแสง ประหนึ่งการเปล่งประกายของดวงดาวสุกสกาวยามค่ำคืน
เจอะของดีจริงเข้าแล้ว...ผมสูดหายใจเข้าลึก ๆ ระงับความตื่นเต้น ตั้งสติบอกตนเองใจเย็น เพ่งมองหาจุดเอาออก รอบดวงตางูยักษ์บุด้วยหินสีดำ ก้อนตรงกลางขนาดเท่าหัวแม่มือ คือรัตนชาติแดงที่ล้อเล่นกับแสงไฟฉาย...
อา...มณีแดงกับนิลดำประกอบกัน เป็นดวงดารายอดนัยนาจอมนาคา!!!
นิลดำคงไม่มีราคาแต่มณีแดงต้องแพงประเมินค่าไม่ถูก ผมจรดใบมีดแซะจากขอบข้างอย่างระวังระไวสุดชีวิต กาลเวลายาวนานส่งความผุกร่อนกัดกินรอบดวงตา เพียงปลายมีดสอดเข้าไปไม่มาก เจ้านิลดำก้อนใหญ่ก็ทำท่าหลุดพลัวะ ผมใจหาย..รีบใช้มือข้างที่ว่างตะปบเจ้าก้อนสีแดงอย่าให้หลุดตาม
อีกอึดใจเมื่อตั้งสติใหม่ ผมก็ประคองทั้งก้อนออกมา ใช้วิธีดันเจ้าก้อนแดงออกจากก้อนดำที่ผุกรอบ เหมือนลอกเมล็ดจากเนื้อผลไม้ ก้อนแดงใส่กระเป๋าเสื้อ โยนเจ้าก้อนดำทิ้ง หันไปทำอย่างเดียวกับอีกข้าง ครบกระบวนการลอกดวงตาพญางู ก็ไต่พรวดพราด 2 - 3 ทีกลับถึงพื้น...
"รูบี้น้ำงามเกรดเดียวกับทับทิมสยาม เป็นรูบี้พม่าคุณภาพดีเหลือเชื่อ"...
คุณนงอุทานเมื่อมณีแดง 2 เม็ดมาล้อแสงไฟกลางฝ่ามือ หลังจากเวียนชมกันครบรอบวง สาวงามเดาะแบบหยั่งน้ำหนักในมือ...
"ใหญ่มา...หลายกะรัต ราคาเมืองนอกคงแพงเอาเรื่อง นี่ยังเป็นทับทิมดิบ ต้องเจียระไนยอีกที ถึงจะตีราคาได้"
"จริงดังร่ำลือ...พม่าเป็นแหล่งทับทิม มรกต หยก อัญมณีพวกนี้ต้องมีแหล่งไม่ไกล ใครเจอขอทำเหมืองได้ ต้องรวยล้นฟ้า"...คุณชาติทายาทตระกูลนักทำเหมืองรำพึงรำพันเสียงดัง ไม่ปิดบังความรู้สึก
คุณเทพตบบ่าผมผางแรง ๆ หัวร่อ ฮ่า..ฮ่า..ฮ่า สะใจไม่แพ้ตอนพบเหล็กไหล
"คุ้ม..น้องพราน...นี่แหละส่วนแบ่งน้อง ๆ เหล็กไหล"!
ทุกคนเต็มตื้นด้วยความยินดีปรีดา ในที่สุดฟ้าก็มาโปรด หลังเทวะท่านส่งแต่บทโหดเล่นงาน เจียนอยู่เจียนไปแทบไม่เปิดช่องเว้นวรรคหายใจ การเดินทางเที่ยวมรณะได้รับผลตอบแทน เหมาะสมกับการลงแรงแบบเอาชีวิตเข้าแลก คุณเทพผู้ใจคอกว้างขวาง ต้องจัดส่วนแบ่งให้ทุกคนเปลี่ยนสภาพเป็นคนมีเงิน พอตัวรอดหลบลี้หนีจากป่ามหาโหดไปทำมาหากินอาชีพอื่นอย่างมีความสุข
"ครืนนน...ครืนนน...ตูมมม"!!!
(((ยังมีต่อ)))
--------------------
*** เรื่องเล่า-นักขุดกรุฯ ทุกตอน มีลิขสิทธิ์ตาม พรบ.ลิขสิทธิ์ ห้ามนำเผยแพร่ ก็อปปี้ ลอกเลียน ดัดแปลง ทำซ้ำทุกกรณี มิฉะนั้นจะถูกเำเนินคดีตามกฏหมาย *** -
สวัสดีครับคุณอาWANWI และท่านสมาชิกทุกท่านครับ
-
(ต่อ)...เหล็กไหลฯ
============
พื้นใต้ฝ่าเท้าสะเทือนไหวเยือก คลื่นความกลัวเคลื่อนเข้ามาทำลายความฝันกลางวัน!
ผมผวาทิ้งตัวลงกับพื้น คลานเร็วจี๋คว้าไอ้ห้านัดข้างกองไฟ คุณเทพคุณชาติกับคุณนงหมอบกับพื้นไม่ต้องร้องสั่ง เป็นปฏิกิริยาอัตโนมัติเหมือนทุกคน
"สม..ปืน..! ลุง..เตรียมตัว..!"...ผมตะโกนผ่าความสลัว พื้นยังกระเทือนเบา ๆ ฝุ่นผงคลีร่วงพรู น่าหวาดเสียวว่าเจ้าวิหารพันปีจะถล่มลงมา แต่ก็ยังเบาใจที่ไม่ได้ยินเสียงตูมตามใกล้ตัว
ลุงพรานคลานมาพังพาบใกล้กัน เราหมอบเคียงเงี่ยหูฟังเสียงสั่นสะเทือนอีกระลอกที่อาจตามมา
"ฟังตามรอยสิลุง"...ผมกระซิบให้ลุงใช้วิชาพรานเก่าแก่ ลุงเฒ่าแนบหูกับพสุธา นิ่งชั่วครู่ก็ยกหัว...
"เสียงเหมือนน้ำไหล...นายทหาร"
พิลึก...หรือใต้เทวาลัยมีเส้นทางระบายน้ำ ไม่น่าเป็นไปได้สำหรับคนโบราณพันปี เผ่าไร้อารยะที่สาบสูญจะมีปัญญาคิดเรื่องชลประทานขนาดนั้น อีกอย่างบนขุนเขาน้ำก็ไหลลงต่ำโดยธรรมชาติ
อีกใจผมก็ร้องค้าน...อย่าดูหมิ่นถิ่นแคลนคนป่าแดนเถื่อน ดูมณีแดงที่เพิ่งแซะลงมา ชนเผ่าโง่เง่าที่ไหนจะรู้จักของล้ำค้าเช่นนี้ ต้องเป็นเผ่ามีวิวัฒนาการพอควร
บักสมคลานดุ๊กดิ๊กมาสมทบ ผมเร่งคุณเทพนำคุณชาติกับคุณนงคลานไปอยู่หน้าปากทางออก เจ้าดวงกับมะพยุงอาจารย์เลิศเตรียมเผ่น
คลื่นเสียงกึกก้องนั้นเกิดใกล้ ๆ แถวนี้ อาจมีส่วนใดส่วนหนึ่งถล่มเพราะความเก่าแก่...เราอยู่ในความเงียบและเตรียมพร้อม ประสบการณ์เฉียดตายมากหน ส่งหัวใจที่เต้นระรัวมิเป็นส่ำกลับคืนเป็นปกติ มีสติพร้อมรับมือรวดเร็ว
"พี่...ประตูนั่น"...บักสมเจ้าน้องเล็กชี้ไปด้านหลังถัดจากเสาหิน หลังหมอบครู่ใหญ่ไร้วี่แววอันตราย
"งั้นไปดูกัน ไป..ลุง"...ผมตัดสินใจทำตัวเป็นนักสำรวจ ทั้งที่ตอนแรกไม่อยากทำ
ให้ทุกคนยึดมั่นชัยภูมิเดิม เราสามทหารเสือก็มุดช่องสี่เหลี่ยมหลังเสาบูชาเทพนาคาอย่างระวัง ลุงนำหน้า ผมคุมหลัง...
ที่แท้เป็นช่องระเบียงทางเดินแคบแบบแถวเรียงหนึ่ง ทางยาวไม่เกินสิบกว่าก้าว หลังคาระเบียงผุพังร่วงเกะกะพื้นรายทางต้องก้าวข้าม บางก้อนถึงกับต้องปีนข้าม แต่ได้แสงสว่างลอดเป็นลำแสง เหมือนสป็อตไลท์ฉายสว่างหลายสิบดวง
ด้านนอกฝนเริ่มซา เมฆดำหนาละลายเป็นน้ำไปหมด เหลือก้อนเมฆเทาหนาทึบ แสงอาทิตย์ส่องผ่านดงไม้ที่ห่มคลุมเทวาลัยเข้ามาได้หลายส่วน เราข้ามหินก้อนเล็กก้อนน้อยจนสุดทาง ก็พบบันไดหรือสิ่งที่เคยเป็นบันได มันพังทะลายหมดทุกขั้น
เราสามคนยืนโด่เด่ที่ระเบียงซึ่งอาจถล่มตามลงไปได้ทุกขณะจิต ยังดีที่รากไม้ใหญ่แทงทะลุลงมาโอบอุ้มยึดมันไว้หลายส่วน
เบื้องหน้าหรือเบื้องล่างต่ำลงไปประมาณสูงท่วมหัวผม เป็นพื้นราบกว้างมีกำแพงโอบล้อมบ่งบอกอาณาเขตเทวาลัยขนาดเล็กแห่งนี้ และตรงพื้นส่วนใหญ่ก็ถูกเนรมิตเป็นสระน้ำสี่เหลี่ยมผืนผ้า
ขนาดสระไม่ใหญ่เท่าใช้แข่งว่ายน้ำ เทียบเคียงเพียงสระสรงสนานบ้านผู้ดีมีสตางค์ พื้นสระเปียกชุ่มไร้น้ำขังทั้งที่ฝนเพิ่งกระหน่ำหนัก ตอนนี้ก็ยังมีละอองฝนโปรยปราย
น้ำหายไปไหน?...สุดปลายสระตรงข้ามกับที่เรายืนมอง มีช่องโหว่สี่เหลี่ยมใหญ่ขนาดนักมวยปล้ำตัวยักษ์มุดได้ น้ำต้องไหลออกด้านนั้นเอง
ประตูกล...ผมหวนรำลึกถึงช่องลับในถ้ำเหล็กไหลที่ส่งคุณนงกับผมเข้าไปติดกับและรอดออกมาได้ด้วยเส้นทางระบายน้ำใต้สระมหัศจรรย์
เมื่อน้ำเต็ม น้ำหนักบางส่วนจะไปกดหินบางก้อนใต้พื้นยุบลง ปลายสระที่เป็นประตูกลก็เปิดออก ด้วยหลักแรงเหวี่ยงแรงยกอันเป็นปกติสามัญ แต่เชิงช่างนั้นต้องใช้ฝีมือสร้างระดับบรมครู หรือเอกปรมาจารย์ในการคำนวณ ให้หินแต่ละก้อนถ่ายเทน้ำหนัก ไล่กดกันไปเป็นลูกระนาด เพื่อเปิดประตูกลปล่อยน้ำ
ผมมองโลกหลงสำรวจใต้ฝ่าเท้าเบื้องหน้าเงียบ ๆ จู่ ๆ ก็ขนหัวลุกตั้งไม่มีปี่มีขลุ่ย...
"รูนั่น..ไอ้ยักษ์ใหญ่ลอดได้"!
ลุงเฒ่าดันโพล่งไม่มีฉิ่งมีฉับอย่างฉับพลันขึ้นดุจกัน!
-------------------------
** เรื่องเล่า-นักขุดกรุฯ ทุกตอน มีลิขสิทธิ์ตาม พรบ.ลิขสิทธิ์ ห้ามนำเผยแพร่ ก็อปปี้ ลอกเลียน ดัดแปลง ทำซ้ำทุกกรณี มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดีตามกฏหมาย *** -
2 ตอน สบายใจ และขอบคุณครับ
วันนี้นั่งเฝ้าตั้งแต่เที่ยง กลัวตามไม่ทัน ตอนนี้ขอตัวไปทำอย่างอื่นบ้างละครับ โล่งละ ;) -
chaivat chinkidjakar เป็นที่รู้จักกันดี
2 ท่อนจุใจเลยครับ สงสัยป่านี้มีต้นไม้กินคนหรือเปล่าหนอ..อิอิ
หน้า 1921 ของ 3914