เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน
ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย wanwi, 11 ตุลาคม 2016.
หน้า 3344 ของ 3891
-
-
วันที่ ๒๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ ตรงกับวันจันทร์ แรม ๘ ค่ำ เดือน ๑ ปีฉลู
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
โมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ อนาคะเตกาเล
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
-
สวัสดีครับอาจารย์วันวิ พี่น้องทุกท่าน
อนุโมทนาบุญด้วยครับ
ขอให้อาจารย์วันวิ พี่น้องและครอบครัวทุกท่าน
ร่ำรวย สุขภาพแข็งแรง สำเร็จสมปรารถนาทุกประการ สาธุ -
สวัสดีคุณอา wanwi และเพื่อนสมาชิก
-
วันนี้วันพระ... รีเฟรชกระทู้นี้บ่อยมาก...
เหตุเพราะ.... นิยาย กำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม
สงสัย.... วันพระนี้ อาจจะยังไม่ได้...ไม่โดน แน่เลยยยยยยยยย -
ยกเว้นไม่ทันเพราะลูกน้องเริ่มทะยอยกันลากลับภูมิลำเนา โดยเฉพาะคุณม้าด่วนซึ่งมีงานแต่งงานน้องสาวที่เมืองชาละวัน ก็อาจต้องผันผายไปช่วง "ต้อนรับปีใหม่" แทนการส่งท้ายปีเก่า
อย่างไรก็ตาม อนุโมทนาบุญกับน้องคัมภีร์...บุญเต็มถัง สวัสดีมีชัยล่วงหน้ากับปีใหม่ 65 ที่กำลังมาเยือนครับ -
ทักก่อนมื้อเย็น
ผมตอบหลัง
มื้อเที่ยงวันนี้ -
วันนี้โพสท์เยอะเดินทางไวๆ -
หลวงพี่รับบาตรแล้วลิ่วไปไกล
เราอนุโมทนาตามหลังจีวรที่ไหวๆ
ยังตามติดเกาะบุญยามเช้าไปทัน -
-
เรื่องเล่าฯก็ต้องดั้นด้นต่อไป เวลานี้อาจเขียนไม่ทัน แต่ค่ำๆก็ต้องมาตามนัด ชัดแจ๋วแจ่มแมวมั้ยน้อง? -
จัดสรรที่มีบางมุมล่วงหน้า...
ดุจเวทย์มนต์...เหนือพ้นกาล
ณ กลางธาร..ซ่านซุกไซ้
ใต้ฟากฟ้า...ดาราไกล
ลำนำใคร่..ไขขับขาน
--พระพายพริ้ว....ริ้วเริงร่าย
--ยอมยับย่าย......พ่ายประหาร
--นงคราญครวญ..รัญจวนมาลย์
--เหลือจักทาน......พิมานไพร!
หมายเหตุ...ยับย่าย = หนียะย่าย พ่ายจะแจ
....หรือ "หนีญะญ่าย = แตกหนีไม่เป็นขบวน -
ร่วมแสดงความยินดี อนุโมทนากับ ผ้าเหลืองน้ำดี ที่ยังมีพลังไล่น้ำเน่า เติมน้ำใสใส่ลงไปเรื่อยๆ ไม่ช้าพระศาสนาก็เข้มแข็งทรงพลัง เป็นรากฐานอันยากจะโยกคลอนในสังคมไทย -
ก็พบ'แก่น'ที่พระอจ.เล็ก
ถอดจากคำสอนพุทธองค์...
เรื่อง ค.คน....วนเวียนปลุก
กิน กอบสุข...ทุกข์ห้ามถาม
กาม เผ่าพันธุ์..มันส์มูมมาม
กลัว เกรงขาม..ครั่นคร้ามภัย
--สัตว์ สมกัน.....ผองพันธุ์เป็น
--ขี้ โคตรเหม็น..เห็นห่อนไหว
--ปี้ ไร้เลือก.......เกลือกกลั้วไพร
--นอน ตรงไหน..ไกลกฏเกณฑ์
"ธรรม"จึงแผก...แยกคน-สัตว์
คือเครื่องวัด....จัด'เลเวล'
เส้นสำนึก......ตรึกกรรมเวร
ผลักพ้นเดน..เดรัจฉาน!! -
เสริมดวงลวงเหลวไหล
อ่าน'พินัยธรรมหลวงปู่'
บทนี้ตักเตือนใจไว้บ้าง...
ดวงเดือนดับ....ลับลาเลือน
จันทร์จ้าเจื่อน..เลื่อนหล่นล่วง
ดวงดีดับ.........สลับช่วง
โหยหาห่วง......ลวง'เสริมดวง'
--ดั่งเดือนแรม...เคยแจ่มจ้า
--หมอกมัวฝ้า...บ้าบวงสรวง
--หนุนดวงวุ่น..หมกมุ่นลวง
--ดี-ร้ายปวง..ล่วงด้วย"เบญจศีล"!
-
อากาศดี "ตะนาวศรี"มากมีมนต์ขลัง รอให้พวกเราตะลุยไม่ยั้ง ไม่ว่าจะเป็นยามเช้า สาย บ่าย ค่ำ มาคลำทางไปสู่ความหฤหรรษ์กันเถอะ
รอการจิ้มตามเคย เสร็จดินเนอร์ ค่อยมาลิ้มอาหารใจ ก็ยังทัน -
(ต่อ)...อาถรรพ์"เหล็กไหล"-ประจันหน้า"เจ้าถ้ำ"!!!
===============
ความเดิม...เสียงอุทานเจ็บปวดดังขึ้น ผมหันควับยกไอ้ปืนโต หัวใจวาบลงไปอยู่ตาตุ่ม แว่บถึงไอ้ลายเกเร!!!
~~~~~~~~~~~~~~
บางอย่างอยู่ที่ตาตุ่มจริงด้วย แต่เป็นเธอนั่งคุกเข่าชันขา กำลังคลำตาตุ่มตัวเองป้อย ๆ ผมส่องไฟไล่หาสาเหตุ กลัวเป็นไอ้ตัวเลื้อยอสรพิษร้ายฉกแล้วหนี แต่เห็นก้อนหินขนาดย่อมตะแคงอยู่ด้านข้าง เธอคงสะดุดหรือย่ำผิดเหลี่ยมทำข้อเท้าพลิก
"เป็นไงบ้าง?"...ผมทรุดลงข้าง ๆ ถามอย่างเป็นห่วง
"เจ็บแปลบ ๆ ค่ะ สงสัยข้อเท้าจะแพลง"
ว่าแล้ว เธอก็ใช้มือข้างไม่ถือปืนสั้น จับแขนผมไว้มั่นพยายามยันตัวลุกยืน แต่ก็ทรุดลงนั่งอีก ผมโอบประคองเธอไว้
"มาเดินเขยกข้างเดียวก็ได้ จวนถึงแล้ว"...สอดแขนเข้าใต้ปีกเธออีกหน ดันเธอลุกยืนขาข้างเดียวตามแรงฉุด พอผมปล่อยมือจะให้เธอเกาะบ่า ร่างงามก็ทรุดนั่งอีก ทำหน้าเหยเก
ยุ่งละสิ..เธอเจ็บขนาดนั้นเทียวหรือนี่ ก็คงเจ็บจริง ขนาดลุยป่าผจญภัยสาหัสเจียนรากเลือดด่าวดิ้นหลายครั้ง แม่สาวใจเด็ดไม่เคยออกอาการสำออยให้เห็น
ชะรอยการอาบน้ำค่ำคืนมหัศจรรย์นี้ ถูกผีป่า เทวารักษ์ ขัดขวาง ลงโทษเรา!?
"ให้นงขี่หลัง"...เธอโพล่งขึ้นเบา ๆ ดวงตางามซึ้งสะท้อนแสงเงาไฟฉายวาววาม!
เอาไงก็เอากัน เคยแบกคุณชาติกลางหลัง ลุยลำน้ำพญายมอุดมด้วยจอมชาละวันมาแล้ว
แบกรักแรกของชีวิตอีกคน ต่อให้แบกกี่หนก็ยินดี!!!
ผมทรุดตัวคุกเข่า กำไอ้ปืนโตตรงคอระหว่างโกร่งไกกับพานท้ายแน่นด้วยมือขวา จะยุ่งยากก็อีตรงอาวุธร้ายทรงประสิทธิภาพอันเป็นที่พึ่งคุ้มกันชีวิต ต้องกลายเป็นไม้ตีพริกชั่วคราว!
เรือนร่างอบอุ่นหยุ่นนุ่ม หากแน่นด้วยเนื้อหนั่น ทาบชิดติดหลังสองมือโอบประสานใต้คางผม
"ลุกละนะ เอาปืนสั้นเหน็บหลังยัง?"...เธอขานรับริมหูว่าทำแล้ว ลมปากผ่านบางเบาให้สะท้านผิวราวลมเหมันต์กรายหา
ร่างโย่งผมยืด ค้อมหลังลงเล็กน้อย ให้คนเกาะเอา 2 ขาห้อยข้างลำตัว หนีบโคนขาอ่อนกับสีข้าง 2 แขนของผมสอดเข้าใต้ขาพับ สองมือกระชับกระบอกยาวไอ้ปืนโตขวางตัวขนานไปกับพื้น ไฟฉายให้เธอถือส่องนำทาง
ท่านี้อันตรายมากที่สุดของที่สุด เหมือนผมกับเธอคืออาหารที่ตั้งบนโต๊ะดินเนอร์ พร้อมเสิร์ฟจานเด็ดให้กับกรงเล็บไอ้ลายนักล่า ที่รัศมีของมันยังวนเวียนอยู่รอบแคมป์
วินาทีคับขันหากบังเกิด...หมดหนทางป้องกันตัวเอง อย่าว่าแต่จะแก้ไข!!!
ผมกัดฟันแน่นจนเสียวโคนฟัน ความหวาดหวั่นพรั่นพรึงความกลัว แล่นจี๊ดขึ้นสมอง ที่พูดกันว่า "ขี้ขึ้นหัว" คืออาการที่วูบขึ้นมาฉับพลันเยี่ยงนี้นี่เอง
เสียงนกกลางคืนขันคู กู่รับกันเป็นทอด เสียงบ่างนกมีหู หนูมีปีกพันธุ์หนูผีกรีดโหยหวนไม่ไกล ถมทับทวีคูณความเปลี่ยววังเวงรอบทิศ มองไปด้านไหนตาฝาดเห็นแต่เงาอำมหิตพริ้วไหวรอบตัว ไม่สมควรเป็นค่ำคืนพิศวาทตราตรึงจิต ครั้งหนึ่งในชีวิตแม้นิดเดียว
วูบหนึ่งผมพลันตัดใจ คิดถึงประโยคเด็ดที่เธอชอบใช้...
"อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด"!
ชีวิตคนบนหลังน่ามีค่ากว่าผมมาก...หากเธอก็ยังกล้าหาญชาญสมร ไม่ห่วงตัวเอง กล้าออกมาเสี่ยงตายกับผม...
อะไรหนอเป็นความคิดในสมองและหัวใจเธอยามนี้ ?
คำสารภาพรักใต้ร่มเงามนต์วิเศษแห่งปักษาสวรรค์ในดินแดนสนธยา ที่ผมคิดว่าจืดจางร้างลามนต์ขลังในค่ำคืนที่เธอปฏิเสธผมในป่าหิน...
ที่จริงอาถรรพ์ร่มเงาวิหคสวรรค์ยังอยู่ แต่มีบางอย่างที่ทำให้เธอต้องปรับตัวเล่นไปตามสถานการณ์
ความคิดนี้ ส่งผมสลัดความกลัว ความฟุ้งซ่านทิ้ง ตั้งสมาธิเพ่งฟังสำเนียงไพร จับสังเกตอันตรายและความปลอดภัยที่ลุงพราน เคยพร่ำสอนถ่ายทอดรหัสเหล่านั้นเพื่อความอยู่รอดในป่าใหญ่
เราสามารถจับรหัสปลอดภัยจากเสียงนกร้อง จิ้งหรีดหริ่งเรไรระงม เพลงธรรมชาติอันสุขสมเพราะปราศจากภัยที่มีตบะเหนือกว่ากดข่ม
แม้รหัสมรณะก็มักส่งสัญญาณล่วงหน้ามากับความเงียบ ทุกอย่างหยุดนิ่งไม่เคลื่อนไหว ลมไม่พัด ใบไม้ไม่ไหวติง ดั่งทะเลที่สงบก่อนเกิดพายุคลั่ง
ทว่ารหัสป่าเหล่านั้น เกิดขึ้นไวและฉับพลันมาก พรานไก่อ่อนไม่ผ่านการฝึกฝน ขาด "ครู" ชี้แนะ ไม่มีทางสำเหนียก จับรหัสมฤตยูนั้นได้ทันท่วง...!
สลัดความหวาด ความฟุ้งซ่านทิ้ง ด้วยก้าวย่างช้า ๆ แต่มั่นคงในท่าขี่ม้าส่งเมือง มีหนั่นเนื้อนารีวัยสาวสะพรั่งขยับเขย่าเสียดสีอยู่กลางหลัง แก้มหน้าซีกซ้ายเธอแนบกับเสี้ยวหน้าด้านขวาของผม ลมหายใจอุ่น ๆ คลอเคลียข้างใบหู
นาทีรัญจวนที่มีผู้ชายอีกมากในโลก พร้อมตายไปกับอ้อมกอดเธอ!
"หนักมั้ยค่ะ"...เธอกระซิบดุจสายลมแผ่วพริ้วอีกหน สำเนียงนี้ฟังไม่เคยรู้เบื่อ
"ตะกี้หนัก..ตอนนี้ไม่แล้ว"
ตอบตามจริง ตัวเธอแน่นหนั่นแต่แกร่งไร้ไขมัน ทุกส่วนสัดสมดุล ไม่หนักหน่วงถ่วงตัว ผมอาจแบกเธอท่านี้ไปได้อีกหลายร้อยหลา อย่าว่าแต่ร้อยกว่าหลาที่มาถึงข้างหน้า
"ส่องไฟทางซ้ายครับ..ถึงแล้ว"!!!
------------------------------
*** เรื่องเล่า-นักขุดกรุฯ ทุกตอน มีลิขสิทธิ์ตาม พรบ.ลิขสิทธิ์ หัามนำเผยแพร่ ก็อปปี้ ลอกเลียน ดัดแปลง ทำซ้ำทุกกรณี โดยมิได้รับอนุญาต มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดีตามกฏหมายสูงสุด *** -
วันที่ ๒๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ ตรงกับวันอังคาร แรม ๙ ค่ำ เดือน ๑ ปีฉลู
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
โมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ อนาคะเตกาเล
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
สวัสดีคุณอา wanwi และ เพื่อนสมาชิก ทุกท่านครับ
หน้า 3344 ของ 3891