เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

มาถึงห้าร้อยกลาง กำลังผ่าน"ไอ้ห้าร้อย"ป่านนี้คงไปหลายร้อย ได้แวะชมพระหลวงปู่โต๊ะหน่อยนึง พระชุดนี้สลายกลายร่างเป็นหนทางบุญหมดแล้ว ทั้งค่าโฮสท์เว็บ ค่าเซิร์ฟเวอร์ ค่าอาหารน้องสี่ขาที่ด้ามขวาน แต่ละเดือนก็อย่างที่เห็น ไม่ต้องบรรยายตอกย้ำ หนึ่งภาพบุญ-ทานมีค่ามากกว่าห้าร้อยล้านคำ

อ่านไปเรื่อย แวะดูไปเรื่อย อาจต้องร้องเรื่อยๆจนเสียงแหบแห้งก็ได้แม่หนูจิ้งจอก แล้วจะรู้ว่า การบำเพ็ญบุญกว่าจะเป็นเซียนนั้น ใช้เวลาอย่างจิ้งจอกพันปีในนิยายจีน ยังอาจจะบำเพ็ญและเสียสละน้อยไป-ฮ่า

 

คุยเรื่องบุญแล้ว ก็แวะอนุโมทนาบุญใส่บาตรยามเช้าสักหนึ่งสาธุ วันนี้เข้าอนุโมทนาค่อนข้างมืดเพราะงานมากเอาการ ซึ่งตัองท่องให้ขึ้นใจ มีงาน ดีกว่าไม่มี-ฮ่า

 

ธรรมะพระอุทัย-สุพรรณฯ
จัดมาตรงวัน-เขียนตรงใจ...

แก่กินข้าว...เฒ่าอยู่นาน
พาโลพาล...สานกิเลส
เหตุดังไฟ...ไล่เผาเปรต
ทุกข์เทวษ...เขตโลกันต์
--อยู่แยบยล.....คนมีธรรม
--เยือกเย็นยัำ...นำสุขสันต์
--กัลยาณชน...ท้นเท่าทัน
--หยุดยึดมั่น...สวรรค์ในใจ!

 

เลขจัดส่งวันนี้

--ED 3146 5896 6 TH เด่นชัย

 

ดูเวลายังพอมีแรงเหลือพานักอ่านเข้าป่าสักท่อน เพื่อให้ความต่อเนื่องในเรื่อง ดูดาว ฤกษ์ผานาที คัมภีร์พันปีที่(เกือบ)สูญหายไปจากโลกปัจจุบัน เรื่องเหล่านี้มีคนอ่านชอบมาก อย่าทิ้งช่วงนาน ความสำคัญจะไม่ลื่นไหลได้ใจความ

รอการจิ้มอีกสักพักครับ

 

(ต่อ)...อาถรรพ์"เหล็กไหล"-ประจันหน้า'เจ้าถ้ำ'!""
===============

ผมจุดบุหรี่ ละเลียดควันละเอียดแต่ฉุนกึ๊กส์เข้าปอด รออาจารย์ใหญ่อรรถาธิบายความล้ำลึก 'สกุณฤกษ์' สิ้นไส้สิ้นพุง หลังจิบกาแฟดำหอมกรุ่นพอชุ่มลิ้น จอมขมังเวทย์ก็กระแอม เปิดตำราโบราณกว่าสามพันปีไปสู่ความลึกซึ้งถึงศาสตร์ยิ่งขึ้น...

"แต่...จำไว้นะ..ดวงกับน้องพราน ทุกอย่างในโลกนี้มี 2 ด้าน สกุณหรือเจ้านกก็เฉกเดียวกัน มันถูกจัดแบ่งเป็น 'นกฝ่ายดี' กับ 'สกุณาฝ่ายร้าย' เราเรียกง่าย ๆ ว่า...สัตว์ฝ่ายขวา หมายถึงฝั่งดีส่วนใหญ่เป็นพวกหากินกลางวัน ซึ่งเจ้าฝ่ายร้ายก็ถูกแทนด้วย"ฝั่งซ้าย" เป็นพวกหากินกลางคืน"!

"จำแนกนามออกได้ดังนี้...อาจารย์เอาเพียงคร่าว ๆ น้องพรานไม่ต้องจดมากเมื่อยมือ"

จอมขมังเวทย์ออกลูกเห็นใจ แต่ผมบอก "ไม่เป็นไร..ว่าไปเลยครับ..จดไหว"...ซึ่งอันที่จริงอยากนั่งจดนาน ๆ ด้วยซ้ำ เพราะฝั่งตรงข้ามแสงไฟกระทบวับแวม คือสาวงามที่นั่งเอามือท้าวคาง จ้องตาแป๋วมาที่อาจารย์เลิศทำเป็นตั้งใจฟัง แต่บางครั้งก็เหลือบแว่บมาทางผม มีรอยยิ้มอบอุ่นในดวงตา

โอ้...ความรักก็เป็นเช่นนี้ ไม่สมหวัง สมปรารถนา แต่ถ้ายังล่องลอยอวลอยู่ไม่ไกล ก็เสมือนท้องนภาไม่สิ้นไร้ "สกุณา" ประดับงดงาม...มันแสนโสภาเมื่อเราแหงนมองมันกระพือปีก โดยมิจำเป็นต้องจับมาเลี้ยงหรือเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ!!!

" 'นกฝ่ายขวา'...หรือบางครั้งใช้ "สัตว์นิมิต" แทน ได้แก่...เหยี่ยว นกแซงแซว ดุเหว่า กระเรียน นกยูง นกเขาฯ บวกสัตว์นิมิตจำพวก...เสือโคร่ง กวาง ละมั่ง พังพอน งูเหลือม ตุ๊กแก จิ้งจก กระรอก ตะกวดฯ"

เสียงอาจารย์ร่ายยาว กระตุกจินตนาการฟุ้งน้อย ๆ ของผม กลับมาอยู่บนกระดาษตรงหน้า รีบจดยิกตามเป็นตัวไก่เขี่ย แทบอ่านเองไม่ออก

"ข้ามมาชม 'นกฝ่ายซ้ายกับสัตว์นิมิต' ตำราโบราณยกให้...นกคุ่ม ตัอยตีวิด พิราบ นกเขาไฟ นกเงือก อีลุ้ม กระเต็น ไก่ป่าฯ...

" สัตว์ฝั่งซ้าย คือ...งูเห่า งูสิง เต่าเกือบทุกชนิด ปู ฯ"

"ดังนั้นยามอัฏฐกาล ก็ถูกแบ่งเป็น ยามฝ่ายขวา กับ ยามฝ่ายซ้าย มีตัวเลขแบ่งอีกชุด ซึ่งตัวเลขชุดนี้อาจารย์ขอข้าม เพราะมันลงรายละเอียดมาก ใช้กับการดูฤกษ์ กองทัพ ไพร่พลรบช้างศึก ม้าศึก อาวุธประหาร อึกทึกมโหฬาร ของเราใช้เพียงคนสองคนฟาดกับสัตว์หน้าขน จงรู้เพียงว่า...

"เมื่อเสี่ยงทายแล้ว นกและสัตว์ฝ่ายขวาปรากฏตามฤกษ์ด้านซ้ายมือเรา จงรีบยาตรากระทำการจักมีชัย ดุจเดียวกันหากนกกับสัตว์ฝ่ายซ้าย มาโผล่เห็นขวามือเรา ถือเป็นนิมิตแลฤกษ์ถูกต้อง"

อาจารย์ย้ำสำทับประโยคยาวสุดท้ายว่า..."จงจำเอาไว้ สกุณฤกษ์ต้องโผล่เป็นนิมิตตรงข้ามเสมอ จึงใช่นิมิตแห่งคุณประโยชน์ ผิดจากนี้แล้ว อย่าได้กระทำการหักหาญ จักเจออุปสรรคมิคาดหมาย เป็นกองทัพก็จะถึงขั้นแพ้พ่ายอัปราชัย"

หลังสรุปความรู้ลึกซึ้งตรึงใจ จอมขมังเวทย์ยกน้ำซดแก้กระหาย ผมวางดินสอสลัดนิ้วคลายเมื่อย เขียนนาน ๆ ปวดนิ้วยิ่งกว่าเหนี่ยวไกปืนหลายเท่า

"ชักอยากเห็นอิทธิฤทธิ์สกุณฤกษ์กับสัตว์แต่ละฝ่ายปรากฏ อาจารย์ลองตั้งฤกษ์ให้ชมเป็นขวัญตาสักตั้งได้ไหม"?..

คำขอนี้เป็นใครไม่ได้ นอกจากคุณเทพหัวหน้าทีมศิษย์เอก ยอดนักตื๊อ นักลองของ ชอบนักกับการพิสูจน์รู้จริงถึงแก่น

เป็นคำขอเข้าท่า ทำพวกเราตื่นเต้นตามไปด้วย อยากเห็นมายา "สกุณฤกษ์" ฟื้นตื่นจากหลับไหลมาใหัชม ปลุกความเงียบเหงาค่ำคืนนี้สู่ความมีชีวิตชีวา!!!

----------------------

*** เรื่องเล่า-นักขุดกรุฯ ทุกตอน มีลิขสิทธิ์ตาม พรบ.ลิขสิทธิ์ ห้ามนำเผยแพร่ ก็อปปี้ ลอกเลียน ดัดแปลง ทำซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดีตามกฏหมายสูงสุด ***

 

วันที่ ๑๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๕ ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๒ ปีฉลู
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
โมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ อนาคะเตกาเล


พระเทพมงคลกวี รูปนี้หลังจากใส่บาตรท่านเมื่อวาน ท่านใส่แมสมา บางคนไม่รู้จักท่านหรือจำท่านไม่ได้ ผมเองตอนใส่บาตรท่านวันแรกก็จำท่านไม่ได้เหมือนกัน

 

ว่าถึงเรื่องพระดีไม่ต้องแพง
หรือแม้แต่ พระดี ฟรีก็มีได้

หนูเพิ่งได้มา1องค์ เป็นกลุ่มลูกศิษย์หลวงปู่พิศดูร่วมกันสร้าง ถวายวัดส่วนหนึ่ง
แจกในเพจFBของวัดอีกพันองค์
---



พระสมเด็จบารมีธรรมจัดสร้างโดย.. กลุ่มกองกำลังบุญ
เพื่อบูชาคุณองค์หลวงปู่พิศดู ธัมมจารี และออกในนามวัดเทพธารทอง

เป็นขวัญกำลังใจให้กลุ่มผู้ศรัทธารับปีใหม่
เงื่อนไข แค่ลงชื่อให้ทัน ให้ท่านละ 1 องค์
---
พอได้รับกันแล้ว ก็เริ่มมีการเฉลยมวลสารที่เอามาทำ
เค้าบอกว่า รวมมวลสารต่างๆของหลวงปู่พิศดู บดใส่ไปไม่อั้น
ทุกชนิดที่ทางวัดมี

ตัวอย่างเช่น

เกศาหลวงปู่พิศดู


ขนมปังเสก ที่หลวงปู่ฉันเหลือ


ผงวิเศษที่หลวงปู่พิศดูทำไว้ตั้งแต่ปี 2520 เรื่อยมา


พระเครื่อง(ชำรุด)ที่หลวงปู่เก็บปลุกเสกเอาไว้ตลอดหลายปี มีเป็นจำนวนมาก


ผงยาสีฟันวิเศษนิยม เสกหลายปี


cr.รูปประกอบเอามาจากเพจวัดเทพธารทองค่ะ

สะสมพระแบบเยาวชน... ค่อยๆเก็บไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็เยอะเอง

 

ได้มาเจอโพสนี้.... ก็ได้ย้ำความชุ่มช่ำ ปิติในหัวใจ

ว่าเราช่าง ทำบุญถูกที่ ได้พระดี...ถูกมาก​

อนุโมทนาบุญย้อนหลัง ทั้งหมดทั้งมวลด้วยค่ะ​

​

 

รูปหาที่ไปที่มาไม่เจอ
รู้แต่ว่าไม่ใช่รูปสถานที่
บ้านเรา ขี้เกียจเดาและ
ขี้เกียจจินตนาการครับ

 

พระผู้ใหญ่ชั้น'เทพ' ออกบิณฑบาตก็เป็นเรื่องดีที่กระทำตนตามรอยพระศาสดา ต่อให้เป็นสมเด็จพระสังฆราช หากยังออกโปรดสัตว์ไหวท่านก็ต้องทำ ถ้าไม่ทำเลยนี่สิ แปลก แหกคอกพุทธะ !

อนุโมทนากับท่านครับ

 

ท่านบก.ใหญ่ทบทวนความจำ
ต้องให้คนลงภาพเข้ามาเฉลย

 

พระฟรี พระดีมากๆทีเดียวทั้งมวลสารและรูปแบบพิมพ์ซึ่งสร้างได้สวยงามมาก เป็นของฟรีของดีที่ควรสะสม แต่อย่านึกว่าของฟรีจะดีเสียทั้งหมด มีของฟรีมากมายที่เจตนาสร้างซ่อนเร้น แจกฟรีจำนวนหนึ่ง ตีปิ้บโฆษณาขายตามหลังอีกจำนวนหนึ่ง ถ้าติดลมก็มีถล่มตามมาไม่อั้น ถ้าไม่โดนก็แล้วไป

ของฟรีพวกหลังที่ว่านี้ เก็บเอามาก็รกบ้าน ทั้งคนทำคนเสก ใช้การตลาดยุคออนไลน์กระจายบังหน้า เหยื่อสมัยนี้ก็เยอะเสียด้วย อย่าได้เผลออยากได้ "ของฟรี" เชียว

 

ทำบุญถูกที่เหมือนหว่านเมล็ดพันธุ์ลงบนดินดีอุดม ผลของมันย่อมจำเริญงอกงามต่อไป

ทำบุญกับผีเปรต เหมือนหว่านเมล็ดพันธุ์ในทุ่งแล้งแตกระแหงแล้งไร้น้ำ บางทีก็มีพืชผลขึ้นเห็นบ้าง แต่ส่วนใหญ่แคระแกร็นทำเศร้าใจเมื่อเห็นผลของมัน

ดังที่เห็นและเป็นไปละนะแม่น้องนางจิ้งจอก

 

ได้เวลาดี ทีไทม์ ที่เคยนำพาความสุขสนุกสนานกับรสชาติการอ่านการตะลุย"ตะนาวศรี"เป็นประจำ ช่วงนี้เรื่องราวงวดเข้ามาทุกขณะจิต คนถ่ายทอดก็ฟิตอยากให้นักอ่านมีความสุขในยามความทุกข์จากโรคภัยครอบงำทำบรรยากาศบ้านเมืองห่างหายความรื่นเริง

อยู่บ้านกันให้มีความสุข หรือ WFH อย่างสุขใจ มีเรื่องเล่าแม่ตะนาวศรีเป็นเพื่อน รอการจิ้มชั่วครู่ครับ

 

(ต่อ)...อาถรรพ์"เหล็กไหล"-ประจันหน้า'เจ้าถ้ำ'
===============

"สบายมากน้องเทพ ขอเวลาที่ถูกต้องทีสิน้องพราน"

จอมขมังเวทย์ไม่ปฏิเสธคำขอ ของจริงต้องลองได้ ตัวอาจารย์เองก็คงปรารถนาขัดถูสนิมด้านนี้ทิ้ง มีดพร้าหอกดาบต้องหมั่นลับ มันจึงใช้การได้ดีทุกเวลา อย่ามัวแต่คมในฝัก ชักออกมาสนิมร่วงพรู

ผมบอกเวลาจากนาฬิกาข้อมือ 18.39 น.อยู่ในอัฏฐกาลยามช่วงที่ 1 กลางคืน อาจารย์รีบคำนวณเสียงดังฟังชัดได้ยินทุกรูหู...

"วันนี้ วันจันทร์ ตัวเลขของเกณฑ์วัน ได้แก่เลข 2 นำไปบวกกับอัฏฐกาลยามของวันจันทร์ตรงเวลานี้ ซึ่งเป็นเลข 2 เหมือนกัน ได้ผลลัพธ์ 4 เอา 7 หาร ไม่ลงตัวเหลือเศษ ให้ถือเป็น "เศษศูนย์"

ว่าจบ จอมขมังเวทย์พลิกตำรา ดูชนิดสกุณฤกษ์...

"นกกะรางกับกะเต็นออกปรากฏในนิมิต ส่วนสัตว์นิมิตในป่าใหญ่อย่างนี้จะปรากฏตัวอะไร เกิดขึ้นแล้วค่อยให้คำทำนาย"...น้ำเสียงอาจารย์หนักแน่นมั่นใจ

ปกติเจ้านกเหล่านี้บินว่อนผ่านหัว ผ่านตัวทั้งจ็อกแจ็กจอแจบนต้นไม้รอบด้านเป็นประจำ แต่เราหาเคยใส่ใจหรือสังเกตมอง ครานี้เป็นทีที่ผมกับทุกคนตั้งหน้าตั้งตาเพ่งฝ่าความมืดอันเป็นเวลาที่ไม่สมควรมีพวกนกตามตำราเพ่นพ่าน ป่านนี้มันคงกลับรวงรังนอนกันหมดเกลี้ยง "สกุณฤกษ์" กำหนดลึกล้ำเกินไป ยากจะถูกตามการเสี่ยงทาย

เสียงลมอู้ หวีดหวิวมาด้านหลังผมได้ยินชัด แต่...เอ๊ะ ฟังดีๆมันหาใช่วาโยธาตุ ที่แท้เป็นเสียงกระพือปีกต่างหาก...

นกกลุ่มหนึ่งน่าจะหลายสิบตัว บินพรูมาจากทางทิศน้ำตกผีสิง เสียงกระพือปีกทั้งฝูงเมื่อดังพร้อมเพรียงก็สนั่นในความเงียบ มันโผมาทางด้านขวาข้ามหัวแคมป์ พริบตาเดียวหายลับไปในดงทึบทิศทางเดียวกับที่ไปห้าง

"ฝูงกะราง"...ลุงเฒ่าเจนจบเรื่องสัตว์เรื่องไพร ระบุชื่อฝูงนกได้ยินทั่ว ทั้งกลุ่มรอบกองไฟนิ่งอึ้ง ส่วนหนึ่งหนาวเยือกในใจราวโดนเวทย์มนต์หรือปิศาจผีสิงทะลึ่งพรวดจากน้ำตกมาหลอกหลอน

"นกฝ่ายขวา บินมาทางขวา คืนนี้ฤกษ์ยามอัฏฐกาลเสียหาย ถ้าจะออกไปนั่งห้าง ต้องรอคำนวณฤกษ์ห้วงเวลา ๑๙.๓๐-๒๑.๐๐ อีกรอบ"...จอมขมังเวทย์ย้ำพร้อมกับยิ้มน้อยๆ

กลัวตำราไม่ศักดิ์สิทธิ์จริง งูสิงดำมะเมื่อมแทบกลมกลืนกับความมืด ตัวยาวกว่างูเห่า จู่ ๆ ก็เลื้อยเร็วรี่มาจากข้างธารน้ำตก พุ่งเข้าหากลุ่มพวกเรา แต่มันสัมผัสไอร้อนกองเพลิงใหญ่ รีบหักเหทิศทางเลื้อยพรวดไปด้านขวา ความเร็วทำให้ตัวมันแฉลบพลิกซ้ายขวาน่าดู พริบตาพลันหายลับไปในพงรก ทำเอาลุงพรานเกาหัวแกรก ๆ พวกเราก็ออกอาการเหวอทั้งกลุ่ม

สัตว์นิมิต กับสกุณาโผล่โฉมครบถ้วนตามเสี่ยงทาย ทั้งยังให้ความหมายล้มเหลวต้องยับยั้งกระทำการยามนี้ทั้งคู่

ตำราโบราณพิสูจน์ว่าคนโบราณ นักรบโรมันผู้สร้างจักรวรรดิโรมันเกรียงไกร เป็นสุดยอดจักรวรรดิยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกเมื่อนานนับพันปีก่อนคริสตกาล ไม่งมงาย มิโง่เขลา หาไม่แล้วจักนำกองทัพไร้พ่ายของจักรวรรดิพิชิตไปค่อนโลกได้ฤา?!

ถูกต้องที่ค่ำคืนนี้ เราสมควรพักผ่อนหลับนอนเต็มอิ่ม ฟูมฟักกล้ามเนื้อ บ่มพลังงานไว้ต่อกรกับจ้าวพยัคฆ์ในวันเผด็จศึก โดยมี "สกุณฤกษ์" นำทิศทาง กำหนดชะตา!"

" อุแหม...อาจารย์น่าใช้ฤกษ์นี้ทำการอื่น ๆ เสียแต่นานนม"

คุณเทพหัวหน้าคณะว่าเสียงอ่อย เขาหมายถึงตั้งแต่คราวออกผจญศึกตัดเหล็กไหลธาตุมหัศจรรย์ทุกครั้ง อาจารย์เลิศเข้าใจความหมายหรือนัยยะของศิษย์เอกดี ได้แต่มองแล้วยิ้มอย่างขำ ๆ ไม่ถือหาสาความ

"ก่อนนั้นอาจารย์มั่นใจในวิชาอาคม ไม่สงไม่สนฤกษ์ยามนัก ถือดีคิดอย่างเดียว วิชาที่มีกระทำการใดก็สำเร็จ สู้ศึกทิศใดก็บ่ยั่น ที่ไหนได้..วิชาที่ใช้หากินในเมืองศิวิไลซ์ มาเจอความดิบเถื่อนบริสุทธิ์ดั้งเดิม พลังต่างกันมาก"!

จอมขมังเวทย์บอกกล่าวเนื้อ ๆ เน้น ๆ ไม่อำพรางความจริง ดั่งสารภาพกลาย ๆ ฟังแล้วเห็นภาพชัดว่า อาถรรพ์ป่าดิบ สรรพมหาภัยแห่งโลกลี้ลับบรรพกาลนั้น ได้สั่งสอนบทเรียนล้ำค่า มอบประสบการณ์สูงค่าล้นเหลือ แก่คนเมืองสำนึกแจ่มแจ้งแดงแจ๋...

"เหนือฟ้ายังมีฟ้า"!

"คืนพรุ่งนี้ ผมขอนั่งห้างกับน้องพราน"!!!

เสียงคุณชาติขึงขังทะลุกลางปล้องกลางวง ทำผมเสียววูบในหัวอก ค่ำคืนนี้ท่าทีงานเลี้ยงรอบกองไฟไม่เลิกราง่าย ๆ

คุณนงกับคุณเทพชักสีหน้าตึง ขมึงทึงเห็นชัดจากแสงไฟกองใหญ่ ทั้งคู่หมั้นกับญาติผู้พี่ออกอาการไม่สบอารมณ์อย่างแรง!

--------------------
*** เรื่องเล่า-นักขุดกรุฯ ทุกตอนมีลิขสิทธิ์ตาม พรบ.ลิขสิทธิ์ห้ามนำเผยแพร่ ก็อปปี้ ลอกเลียน ดัดแปลง ทำซ้ำทุกกรณีโดยไม่ได้รับอนุญาต มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดีตามกฏหมายสูงสุด***

 

เหมือนจะเป็นวัดในทิเบตครับ
เพราะในภาพชุดนี้จะมีตัวหมุน(เรียกไม่ถูกครับ) แบบในรูปข้างล่างนี้อยู่ด้วยครับ

 

จริง ๆ แล้วไม่อยากเปรียบเทียบเลยครับ แต่ก็ไหน ๆ แล้วนะครับพี่วัน
ที่ผมรู้สึกชื่นชมพระผู้ใหญ่ในจังหวัดก็เนื่องจากว่า เคยได้เห็นตัวอย่างเจ้าอาวาสวัดใกล้บ้านผม
หลังจากเจ้าอาวาสองค์เก่ามรณภาพ ท่านก็ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสแทน ตั้งแต่นั้นมา ก็ไม่เคยเห็นท่านออกบิณฑบาตนอกวัดเลยครับ ยกเว้นมีงานตักบาตรในวัด ตอนนั้นยังเป็นพระมหา อายุก็ยังไม่มากครับ เอาแค่นี้พอนะครับ วีระกรรมมีอีกมากไม่ขอเล่าดีกว่านะครับ