หลวงปู่สงฆ์-กล่องเดิม
===============
คงความงาม ไม่ผ่านการใช้และต้องมือใครไว้เหนียวแน่น พระผงรูปเหมือนครึ่งองค์รุ่นแรก หลวงปู่สงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย ปลุกเสกโดย หลวงปู่โต๊ะ,หลวงปู่แหวน,หลวงปู่สงฆ์ ฯลฯ
พระครูปลัดเสนอ ศิษย์หลวงปู่โต๊ะสร้าง "วัดทุ่งเสรี" กลางกรุงลุล่วงด้วยวัตถุมงคลชุดนี้ จึงเป็นชุดแห่งความสำเร็จที่นำเป็นอุปเท่ห์ในงานอื่นสำหรับผู้บูชา เพียงแค่ 3 หลวงปู่ก็เกินพอต่อความศักดิ์สิทธิ์
=======800=======
กล่องเดิม รักษาไว้ดี
ผิวละเอียดคราบแป้งรำไร สวยงามยิ่งนัก ออกแบบใบหน้าได้คล้าย หลวงปู่ มาก
เอกลักษณ์"เจ้าฟ้าศาลาลอย"ด้านหลัง
เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน
ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย wanwi, 11 ตุลาคม 2016.
หน้า 3486 ของ 3982
-
-
วันพรุ่งนี้ ส.4 มิ.ย. - อา. 5 มิ.ย.
มีคอร์สปฏิบัติธรรม
สำนักวิปัสสนาฯ พุทธเกษตร
คลอง6
วันนี้เลยเป็นจิตอาสา
เข้าไปล้างห้องน้ำ เตรียมไว้ให้ผู้ปฏิบัติธรรม
พี่ๆ ที่ดูแลสถานที่บอกไม่ค่อยมีคนมาทำเลย
ห้องน้ำสะอาดเอี่ยม 12 ห้อง
พร้อมรอรับผู้มาถือศีล
ปล.ยังไม่ได้มาถือศีลแต่มาเตรียมสถานที่ให้เหล่าคนปฏิบัติค่ะ -
วันที่ ๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๕ ตรงกับวันเสาร์ ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๗ ปีขาล
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
โมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ อนาคะเตกาเล
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
-
แรงกาย ถวายเป็นพุทธบูชา
เพื่อผู้มาปฏิบัติธรรม เป็นวิธี
การทำบุญอีกแบบที่สมควร
ยกย่องและเขียนให้...
ล้างสุขา......พาสุขี
หนึ่งวิถี.........หนีราคะ
'จาคะ'เยี่ยม..เปี่ยม'ฉันทะ'
"วิริยะ".........ละตัวตน
--คนค้นคน....ฤาพ้นกาย
--หาเป้าหมาย..คลายทุกข์พ้น
--ดั้นด้นปลุก...สุขทุกหน
--คูถมูตรคน...ดล-'อสุภะ'!
หมายเหตุ...คูถมูตร = ขี้เยี่ยว
---อสุภะ = อสุภกรรมฐาน -
หลวงปู่ทองเหลือ ปาลิโต
เหรียญโภคทรัพย์รุ่นแรก
===============
ไม่ใช่"รุ่นแรก"ธรรมดายังเป็น"รุ่นเดียว" ของหลวงปู่ ทองเหลือ วัดท่าไม้เหนือ อุตรดิตถ์ ที่บอกได้ว่า เป็นศิริมงคลสำหรับผู้บูชาครบด้าน คู่กับ หลวงปู่ทองดำ วัดท่าทอง..."2 อริยสงฆ์ 'นามมงคล' ประหนึ่ง เนื้อทองผ่องแผ้วนพคุณอันล้ำค่าและยิ่งใหญ่แห่งเมืองลับแล!
เหรียญปี 41 ตอกโค้ตที่สังฆาฏิทุกองค์ เนื้อทองแดงผิวไฟ สวยไร้ที่ติ ราคาร่วมบุญหลักร้อยตามแบบฉบับพระพุทธคุณล้าน...
=======600=======
ความงามผิวไฟ ไม่ผ่านการใช้ โค้ต "เฑาะว์"ตอกชัดที่สังฆาฏิหน้าอกด้านซ้าย
วันหยุดสบายๆกับโภคทรัพย์ของ หลวงปู่ทองเหลือ ยอดเถระอีกหนึ่งรูป ที่งดงามในจริยาดั่งทองคำ ขึ้นชื่อเรื่องความเมตตา มหาเสน่ห์ มหาลาภ !
ความงามที่
ไม่ผิดหวัง -
เหรียญโภคทรัพย์-ปี38
"ลป.ทองดำ วัดท่าทอง"
===============
ได้"ทองเหลือ" อย่าลืม "ทองดำ" 2 พระทองคำอันล้ำค่าแห่งเมืองลับแล
เหรียญโภคทรัพย์ เนื้อกะหลั่ยทอง ปี 38 หลวงปู่ทองดำ วัดท่าทอง สร้างพร้อมวาระ พระกริ่ง-พระชัย "ทองดำ ๙๙" เมื่อ 30 พ.ย.2538 พิธียิ่งใหญ่ของวัดส่งท้ายปีนั้น โดยยอดอริยเจ้าแห่งยุคมาร่วมประจุพลัง...
--หลวงปู่ทองดำ วัดท่าทอง
--หลวงปู่ทิม วัดพระขาว
--หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ
--หลวงพ่อกลั่น วัดเขาอ้อ
--หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว
--หลวงพ่อคง วัดตะคร้อ
--หลวงปู่หงส์ วัดเพชรบุรี สุรินทร์
--ครูบาสร้อย วัดมงคลคีรีเขตร์ ตาก
--หลวงพ่อคล้อย วัดภูเขาทอง
=======ฯลฯ=======
เลี่ยมรักษาความงามพร้อมให้อาราธนาไปบูชาในห้วงที่ต้องการตัวช่วยอย่างมากของโลกและสังคมวันนี้...
=======600=======
รักษาท่านไว้ด้วยเลี่ยมเรียบร้อย ตอกโค้ต "นะ" ที่สังฆาฏิ งามชัด งามสมวัย 99 ของท่าน มหามงคลทั้งชื่อกับเลขอายุเก้าหน้า-เก้าหลัง
อักขระยันต์กับโภคทรัพย์แบบเดียวกับเหรียญ หลวงพ่อเงิน บางคลาน เทพเจ้าแห่งพิจิตร บิดาบุญธรรมของท่าน
พร้อมแขวน
บูชาได้เลย -
ช่วงนี้ระหว่างรอคุณอา wanwi เรียบเรียงเรื่องราวตอนถัดไป ผมย้อนไปเริ่มอ่านตอนแรกๆ ค่อยๆเก็บรายละเอียด บังเอิญคุณพ่อเล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนเพื่อนเรียนไพศาลศิลป์มาด้วยกัน
เพื่อนสอบเข้ามหาลัยไม่ติด(พ่อผมก็ไม่ติด 55) ถ้าเป็นสาขาวิศวกรรม สมัยนั้นมีจุฬาฯแห่งเดียว ถ้าสาขาอื่นสามารถไปสมัครที่ ม.ธรรมศาสตร์และการเมืองได้เลย(เหมือน ม.รามฯสมัยนี้ จริงไหมไม่ทราบนะครับคุณพ่อว่างั้น)
ลุงเอ็กซ์ไปผจญภัยแถวราชบุรี เพื่อนคุณพ่อผมดีว่าที่บ้านมีฐานะเลยตะลุยขึ้นเหนือไปค้นหาตัวเอง ไปสุดที่เชียงราย
ลุงเอ็กซ์เป็นนักขุด แต่เพื่อนคุณพ่อเป็นนักค้า แต่ไม่ใช่พ่อค้าธรรมดานี่สิ คุณพ่อเล่าว่า
เพื่อน"ตอนกูมาตั้งตัวที่นี่ใหม่ๆ ก็ไม่รู้ว่าจะขายอะไร บังเอิญพวกทหาร....ประเทศเพื่อนบ้าน เอาพวกของเก่าๆในวัดบ้านตัวเอง(คิดว่าคงลักมา)มาขายกูๆก็เลยรับไว้ พอมากๆเข้าก็ส่งต่อเข้ากรุงเทพฯ"
คุณพ่อ"เพื่อนคุยว่าเกิน50% ของเก่าโบราณจากทางเหนือของเพื่อนบ้าน ผ่านมือกูหมด"
แต่หลังๆเพื่อนคุณพ่อวางมือไปนานแล้วนะครับ 55 ตอนนี้ค้าขายอย่างอื่น
ที่เล่าเรื่องนี้เพราะเห็นมีท่านหนึ่งถามคุณอาว่าพวกขุดของโบราณไม่โดนอาถรรพ์อะไรบ้างเหรอ เช่น เจ้าของเดิมทวงถาม เสียสติ หรือใกล้ตายแล้วเพ้อบ้างไรบ้าง แล้วลุงเอ็กซ์แนะว่า "ให้หมั่นทำบุญบ่อยๆ ยิ่งถือศีล 5 ได้ยิ่งดี"
เพื่อนคุณพ่อก็เช่นกัน ก็ไม่รู้ว่าเป็นกรรมตามทัน หรือมีกรรมร่วมกันกับลูก เพราะลูกของเพื่อนคุณพ่อเกิดมาไม่เต็ม 100 น่าจะเป็นเด็กดาวน์ซินโดรม หลายสิบปีก่อนตอนผมยังเด็กเคยไปเที่ยวเชียงรายไปนอนค้างบ้านเพื่อนคุณพ่อแต่ก็ไม่มีอะไรนะครับ(สงสัยจูนกันไม่ติด 55)
วันนี้เอาพระไปเลี่ยมกรอบ ก็ไม่รู้ว่าพระอะไร น่าจะเนื้อชิน ลุงเจ้าของร้านบอกสงสัย พระร่วงนั่งหน้าโหนก กลับบ้านถามอากู๋(Google) ไม่เห็นตรงกับที่ลุงบอกเลยพิมพ์คนละอย่าง 55
เลยขอรบกวนคุณอา wanwi และทุกๆท่านแนะนำด้วยครับ
-
โม้เรื่องกีฬาเป็นยาวิเศษ ก่อนเข้ามาพบพระเนื้อชินเงิน การบ้านยามค่ำคืนของน้องภาส พิ'ณาทุกมุมมองที่ถ่ายมาเพียง 2-3 รูปนี้แล้ว ก็ขอบอกว่า เป็น "พระร่วงนั่ง"นั่นแหละ แต่ไม่ใช่กรุลพบุรี เพราะพระลพบุรีหน้าตา แม้บางองค์ไม่ชัด แต่เศียรท่านจะบอกสัญลักษณ์หมวกชีโบ ส่วนทางกำแพงเพชรก็มองแล้วแขนด้านซ้ายท่านกางออกเป็นหักศอกมากผิดกับทางกำแพงส่วนใหญ่จะ "พริ้ว" กว่า
แต่พระร่วงยืน+นั่ง ก็มีออกมาหลายสิบกรุ หลายเมือง ทั้งลพบุรี,กำแพงเพชร,สุโขทัย,พิษณุโลก,สุพรรณ,อยุธยา,ชัยนาท, ฯลฯ ไปทางเหนือก็มี
อย่างไรก็ตาม พระองค์นี้แท้แน่ ถ้าเป็นพระในบ้านของคุณพ่อ ก็แสดงว่าท่านคงได้มาจาก "เพื่อนนักค้าของเก่า" ที่น้องภาสเล่ามา และก็คงไม่รู้เช่นกันว่า มาจากกรุไหน เมืองใด ได้แต่เดาสุ่มกันไปเช่นนี้แล -
-
-
วันที่ ๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๕ ตรงกับวันอาทิตย์ ขึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๗ ปีขาล
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
โมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ อนาคะเตกาเล
ไม่มีรูปตอนคนใส่บาตรนะครับ เนื่องจากเกรงใจ พรบ. คอมฯ (PDPA) ฉบับใหม่ -
อรุณสวัสครับ สุขภาพแข็งแรง มีความสุขทุกท่านครับ
-
สวัสดีคุณอาวันวิแลแฟนคลับทุกท่าน
-
น้ำท่วมทำให้พระจมน้ำ หายไปกับน้ำเยอะเชียว บ้านเพื่อนผม หนังสือพระสะสมมาหลายพันเล่ม ดีๆทั้งนั้นถูกท่วมหมดสภาพเห็นแล้วเสียดายแทนน้ำตาไหล(ก็เราคนรักหนังสือ)บ้านผู้ใหญ่อีกท่านน้ำท่วมห้องพระ พระบูชานับร้อยองค์จมน้ำ พระเครื่องไม่ต้องพูดถึง เสียหายยับ คุยเรื่องนี้แล้วท่าจะยาวจบยาก จบตอนนี้ดีกว่า-ฮ่า -
คุณพ่อดีมากครับ เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ประเสริฐ -
พ.ร.บ.หลายพ.ร.บ.ประเทศนี้มันบ้องตื้น คนคิดมันหัวสมองบ้องตันขี้เลื่อยจุกอยู่บนหัว อย่างการห้ามเอ่ยถึงชื่อ "งา" ที่เอามาทำวัตถุมงคล เวลาขายหรือโชว์ ให้เรียกว่า "แง"หรือ "ส้น..."อะไรก็ได้แทน เท่ากับสอนให้คนโกหกชัดๆ หลายเรื่องหลายอย่างเดินตามก้นฝรั่งเสียเคยตัว พวกมรึง(ฝรั่ง)ไม่อยากค้าขาย"แง" ก็เรื่องของมรึง พวกกรูก็จับคนฆ่าช้างเอา"แง"ตลอดเวลาอยู่แล้ว ทำไมต้องไปตามตูดมัน ไม่ต้องมาอ้าง "ไซแต๊สไซตูด"อะไรนั่น ทุกวันนี้คนไทยที่มีวิสัยทัศน์ มีวิญญาณนักอนุรักษ์ป่า-สัตว์ป่าระดับโลก ก็มีมากไม่แพ้พวกมันนะแหละ
เลิกเสียทีกับวิธีคิดตามก้นไอ้หัวแดง ผมทอง ตาน้ำข้าว อยู่อย่างไทย หัดพิเคราะห์ออกกฏหมายใช้อย่างไทย เพื่อคนไทยเถอะ ไปแคร์ขี้เล็บขี้ตรีนมันสมองพวกมันทำไม ไม่เข้าท่า เราไม่เคยเป็นขี้ข้ามันสักหน่อย มีแต่ถูกมันเอาเปรียบมาตั้งแต่สมัยล่าอาณานิคมโน่น ยังไม่รู้จักคิด จักเข็ด
หมายเหตุ...ส่วนใหญ่คนออกกฏหมายตามก้นฝรั่ง ก็ไปร่ำเรียนมาจากเมืองมัน เรียนมาแล้วก็คิดวิธีรับใช้ไอ้หัวแดง นึกว่าโก้ ลืมคิดถึง"ชีวิต-วิถีไทย" ที่แตกต่างกับเรื่องเรียนอย่างสิ้นเชิง ไอ้พวก "กลายพันธุ์" ทางความคิดแต่ดันได้ดิบได้ดี ในสถาบันต่างๆนี่ เป็น"มะเร็ง"กัดกร่อนประเทศชนิดหนึ่ง...
--มันกร่อนกระทั่ง "ประวัติศาสตร์ไทย"ถูกยกเลิกในตำรา เด็กไทยรุ่นหลัง ไม่ซึมซับรากเหง้า ความดี ความเสียสละยิ่งใหญ่ของบรรพบุรุษบรรพชน นึกว่าประเทศเกิดมาจากกระบอกไม้ไผ่ พวกกรูจะ"ชังชาติ-ทำร้ายชาติ-เผาธงชาติไม่เคารพธงชาติ" ก็เรื่องของพวกกรู
--วิชา"ศาสนาพุทธ"ประจำชาติ ก็ถูกจับเอาไปรวมกับศาสนายิบย่อยต่างๆที่เราไม่จำเป็นต้องรู้ต้องเรียน ทั้งที่เรื่องจิตวิญญาณ เป็นของใครของมัน พวกมรึง(ศาสนาอื่น)ไปหาเรียนเอาเอง มาปะปนกับพวกกรูทำไม?
--ลองเอาวิชาศาสนาพุทธไปยัดในบทเรียนที่มาเลเซีย,อินโดฯ,ซาอุฯ ดูทีสิ ไม่โดนมันถีบ โดนเผาทิ้งออกมา อย่าเรียกว่าคน...!!!
ไอ้นักวิชาการส้นเกือกพันธุ์ขี้ข้าฝรั่ง มันบ้ากลายพันธุ์หมดแล้ว ไม่รู้ "รากเหง้า จิตวิญญาณคนไทยที่แท้" อยู่ตรงไหน???
เขียนแล้วของขึ้น อนุโมทนาบุญดีกว่า ก่อนจะได้บาปแทนเพราะ "ด่าไม่ยััง" -
-
อากาศดีจากน้องปรายฯ
หยุดเต็มอิ่มพรุ่งนี้ลุยงานต่อ -
ชม"นางกำแพงเพชร"
'แม่เหล็กดูดไม่ติด'!
===============
รับปากว่าจะนำ "พระกำแพง" ซึ่งมี 'แม่เหล็กดูดไม่ติด' สมเป็นพระเนื้อดินที่ไม่เกี่ยวข้องกับเหล็ก หรือโลหะธาตุที่มีสื่อล่อแม่เหล็กแต่อย่างใด
แต่ พระกำแพงเนื้อดิน ก็ประหลาดมาก หาที่ "แม่เหล็กดูดไม่ติด"ยากเย็น ถึงกล้าฟันธงว่า พระกำแพง 9 ใน 10 องค์หรือร้อยละ 90 มีขุมพลังลึกลับในตัวจะเป็นว่านหรือธาตุพิเศษใดก็ตาม สามารถโดนแม่เหล็ก ดูดติด ดูดล้ม หรือกระทำปฏิกิริยาตอบสนองเห็นชัดๆไม่ต้องเม็ค ไม่ต้องยัดสิ่งแปลกปลอม!
สำหรับ องค์นี้เป็นพระ "นางกำแพงพิมพ์ใหญ่" องค์เบ้งพอสมควร จะยัดตัวล่อแม่เหล็กลงไว้ก็ไม่มีพิรุธ ทว่า ท่านขึ้นมาจากกรุที่มีดินแม่เหล็กดูดไม่ติด ให้เห็นความต่างของพระกำแพงว่า...ใช่จะมีเนื้อหาเดียวกันเสมอไป พระนับร้อยกรุ หลายร้อยพิมพ์ ย่อมมีแตกมีต่าง อย่าไปบ้าตามพุทธพาณิชย์ที่เอาแต่ขายอย่างเดียว ขายเฉพาะที่เคยขายได้ เล่นเฉพาะพิมพ์ที่รู้จักไม่กี่พิมพ์ ส่วนพระชั้นยอดมากมายแต่อาจจะมีพิมพ์ทรงไม่สวย ไม่เหมาะเป็นพาณิชย์ถูกเขี่ยเป็นพระเก๊ เพราะพ่อค้าสวะหน้าเงินเหล่านี้ ทำลายทรัพย์สมบัติของชาติ ของบรรพชนไปอย่างน่าเหลือเชื่อ!
อันนี้เป็นความผิดขององค์กรที่เรียกตัวเองว่า ..."สมาคมฯ" ต้องเป็นสถาบันที่ปกป้อง สนับสนุนการสะสมศิลปสมบัติของแผ่นดินของชาติของบรรพชนเป็นอันดับแรก แต่เท่าที่เห็น องค์กรบางแห่งที่อ้างตัวเองว่ามีมาตรฐานสากล(โม้เอง-อวยกันเอง) มัน"ปกป้อง-พ่อค้าขายพระ"เสียมากกว่า
องค์กรปลอมแปลงขี้ฉ้อเหล่านี้ ทางการควรยึดใบอนุญาตคืน แล้วเอามาทำเสียเอง มีเอกชนฝีมือดีๆมากมายที่พร้อมจะเข้าไปร่วมมือและช่วยเหลือ ป้องกัน "พระแท้แต่ขายไม่ได้" มิให้สูญพันธุ์ไปกับคนพันธุ์ชั่ว(บางคน)ที่เป็นพ่อค้าพระแต่ดันมีเสียงดังในการตัดสินชี้เก๊-แท้พระหลายๆประเภท ทั้งที่มันก็เกิดไม่ทันเหมือนคนอื่นๆ แถมไม่เคยได้ศึกษาประวัติศาสตร์รอบรู้ตำราตำนานแต่ละท้องถิ่นแตกฉานเหมือนคนในพื้นที่
ตะกุยเลือดซิบปลุกจิตสำนึกพอหอมปากหอมคอ มาเข้าเรื่อง "พระกำแพง-แม่เหล็กดูดไม่ติด"...ให้ภาพเล่าเรื่อง เช่นเคยครับ...
นางกำแพงพิมพ์ใหญ่ กรุนาบ่อคำ ฝั่งนครชุม ส่วนหนึ่งของทุ่งเศรษฐี กรุนี้เนื้อหาแข็งแกร่งผิวราวกับฉาบทาไว้เกือบเป็นดินอิฐ กว่าจะล้างคราบกรุออกหมดก็ใช้เวลานาน แต่ตามซอกยังเหลือคราบกรุรำไรสวยงาม องค์ท่านใหญ่เอาการจึงเป็นนางพิมพ์ใหญ่ มีหน้ามีตา
หลัง-สมบูรณ์สุดๆกับรอยนิ้วมือกดพิมพ์ คราบกรุเหลือประปราย โดนมือบ่อยๆ เนื้อหนึกนุ่มเหมือนพระกำแพงทั่วไป ถ้าเอาใบตองแห้งขัดผิวน่าจะมันวับ เพราะผิวท่านแกร่งเอาการ แต่ไม่เคยทดลองทำ
กรุนาบ่อคำ เทียบกับองค์ในหนังสืออมตะ "พระกำแพง" ปรากฏว่า ความงามสู้องค์ที่ให้ชมไม่ได้ ความสมบูรณ์ของพิมพ์ก็เป็นรอง รายละเอียดที่ฐานก็ต่างกัน เห็นชัดว่า พระโบราณอายุหลายร้อยปี ไม่มีทางเหมือนกันทุกกระเบียด หากเหมือนทุกตารางมิลต้อง "เก๊"หนึ่งองค์ หรือ "เก๊ทั้งคู่"!
ห้ามนำวิธีสร้างพระสมัยใหม่ ไปสอนวิธีเทียบ วิธีดูพระโบราณเป็นอันขาด จะทำให้การเรียนรู้หลงทาง เข้าป่าตามเสี้ยน และกลายเป็นเหยื่อนักขายพระเก๊ตามตำราที่คอยจ้องตาเป็นมันส์ ปากเยิ้มด้วยน้ำลายรออยู่!
เทียบขนาดด้วย
วิธีง่ายๆ แค่มอง
ก็เห็นภาพออก
นำท่านตั้ง เอาแม่เหล็กแรงสูงจ่อเกือบประชิด เป็นพระทั่วไปที่ดูดติดก็ล้มใส่แม่เหล็กทันทีไม่ต้องวางใกล้ขนาดนี้ด้วยซ้ำ แต่นางพญาองค์นี้เฉยเมย ไม่สะทกสะท้าน จะลองมุมไหน ด้านใด ก็ไร้ปฏิกิริยา
เป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ว่า ดินแต่ละกรุที่บรรพชนนำมาสร้างพระในยุคโบราณบานบุรีนั้น ไม่เหมือนกัน การศึกษาว่า"พระกำแพง"ต้องมีดินอย่างนี้ อย่างนั้น แบบเดียว จึงผิดอย่างมหันต์ ทำให้ "พระแท้" หลายกรุโดนเขี่ยทิ้งทั้งรู้เท่าไม่ถึงการเพราะรู้ไม่จริง กับ"จงใจเขี่ย"เพื่อให้พระที่นำมาเล่นและศึกษาเหลือน้อย จะได้ "ปั่น"ราคาแพงได้ ตามกรรมวิธีที่พวกนักขายพระยุคขายทุกอย่างที่ขวางหน้าเพื่อ"พุทธพาณิชย์" ไม่สน "พุทธคุณที่แท้" ที่พวกมัน(กลุ่มหนึ่ง)ชอบกระทำกัน!
หน้า 3486 ของ 3982