เสริมกำลังใจ

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย MBNY, 9 พฤศจิกายน 2010.

  1. MBNY Administrator ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2003
    โพสต์:
    6,864
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +22,510

    จากหลวงพ่อฤาษีลิงดำ (พระราชพรหมยาน)
    จากหนังสือลูกศิษย์บันทึก เล่ม 3 หน้า 1-2
    บันทึกโดย พระปลัดวิรัช โอภาโส



    หลวงพ่อ เคยปรารภไว้ว่า....
    การก่อสร้างการเลี้ยงคน ต้องต่อสู้กับอารมณ์ทุกอย่าง
    ต้องใช้ปัญญาใคร่ครวญ ทำให้บารมีเต็มเร็ว



    หลวงพ่อ พูดว่า “มาคิดว่าสมัยหนุ่ม ๆ บวชแล้ว มัวแต่สร้างวัดมากมาย
    คิดแล้วเสียเวลา มาคิดว่า รู้อย่างนี้ ไม่สร้างก็ดี เสียเวลา
    เอาเวลามานั่งชำระจิต ตัดกิเลสอย่างเดียว ให้จบ ๆ ไป จะดีกว่า”

    ปรากฏว่า....

    องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จมา ตรัสกับองค์หลวงพ่อว่า

    “ไม่มีทาง.... ถ้าไม่ทำอย่างนี้ บารมีไม่เต็ม
    เมื่อบารมีไม่เต็ม การตัดกิเลสก็ไม่มีผล”



    ถ้าไม่เจอปัญหา จะมานั่งปฏิบัติอย่างเดียว บารมีไม่เต็ม


    เจอปัญหามาก ๆ มันตัดของมันเอง แล้วจะเบา
    ต้องเอาใจคนหลายประเภท บารมีเต็มเร็ว





    ที่มา : http://palungjit.org/showthread.php?t=99009
     
  2. MBNY Administrator ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2003
    โพสต์:
    6,864
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +22,510





    "งานสาธารณประโยชน์ มันเป็นปรมัตถบารมีอย่างสูงสุด อันนี้จะทำให้เร็วที่สุด ทำให้เร่งรัดพวกเราให้เร็วที่สุด"

    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง



     
  3. MBNY Administrator ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2003
    โพสต์:
    6,864
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +22,510



    ''ความอดทนอดกลั้นต่ออุปสรรค เป็นบารมีธรรมชั้นเอก''

    หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ





     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. MBNY Administrator ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2003
    โพสต์:
    6,864
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +22,510

    หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม


    หากท่านพบความลำบากเท่าไรก็จงภูมิใจเทิดว่า
    ท่านลำบากเพราะกำลังทำความดี

    ถึงจะไปทำงานให้คนอื่นก็ถือว่าทำดี
    ความดีของเราที่ทำไว้จะติดตัวเราไปจนสู่สัมปรายภพ ไม่มีสูญหาย

    สร้างความดีให้ติดตัวเราไปในอนาคตข้างหน้า
    ขอให้ท่านไม่สู้ใคร ไม่หนีใคร

    แล้วหมั่นสร้างความดีไว้ ต้องได้ดีแน่นอน
     
  5. MBNY Administrator ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2003
    โพสต์:
    6,864
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +22,510




    ''ความน้อยใจ'' อย่าให้มี

    เพราะจะ ทำให้เสียพลังทางใจมาก

    อาจจะเลิกการกระทำดีทั้งปวงได้.....


    หลวงพ่อจำเนียร วัดถ้ำเสือ เทศน์สอนเรื่อง''มาร''




     
  6. MBNY Administrator ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2003
    โพสต์:
    6,864
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +22,510



    อดทนต่อถ้อยคำล่วงเกินของผู้อื่นได้ "ประเสริฐยิ่ง"

    วจนกฺขโม = อดทนต่อถ้อยคำล่วงเกิน


    เมื่อใดที่เราเป็นผู้อดทนต่อถ้อยคำหยาบ คำเสียดสี...


    เราจะลดและบรรเทากรรมเวรที่ต้องตอบโต้กับผู้กล่าววาจาร้ายใส่เราได้


    เป็นการฝึก ขันติ (อดกลั้น) ทมะ (ข่มใจ) รวมไปถึงอภัยทาน(ทานที่ทำได้ยากเมื่อทำได้จะตัดเวรตัดกรรม) แก่ผู้ที่มาทำร้ายทางวาจา


    บางท่าน ใครพูดทับถม หรือเสียดสีเล็กๆน้อยๆ ก็ร้อนใจ นอนไม่หลับ กินไม่ลง สายตาระทม ผิวพรรณหม่นหมองเพราะแรงฟุ้ง เป็นกิเลสอย่างหนึ่งทำให้คิดหมุนวน

    นี่เป็นผลของการเก็บเอาคำพูดของคนอื่นมาทิ่มแทง
    ใครล่ะที่ยินดีเก็บคำพูดของคนอื่นไว้ ถ้าไม่ใช่ใจท่านเอง

    บางท่าน โดนด่า โดนพูดเสียด ตั้งแต่เดือนก่อน แต่เก็บเอาคำพูดมาแทงตัวเองทุกๆวัน
    รู้หรือไม่ ว่าคนที่ด่าท่าน เขาลืมไปนานแล้ว ท่านต่างหากที่ยังไม่ลืม และใช้ใจตัวเองหมักหมมถ้อยคำไร้สาระเก็บไว้ไม่ยอมสลัดทิ้ง

    ท่านห้ามพระอาทิตย์ไม่ให้ส่องแสงได้ ท่านคงสามารถห้ามคนนินทาได้

    ธรรมดา..ที่ต้องเกิดมาเจอถ้อยคำกล่าวโทษ เพ่งโทษ

    ธรรมดา..ที่ต้องเกิดมาเจอถ้อยคำเสียดสี เหน็บแนม

    ธรรมดา..ที่ต้องเกิดมาเจอถ้อยคำด่าทอ ผรุสวาท


    แต่อะไรก็ตามที่เป็นสิ่งสมมุติ ล้วน เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ในที่สุด


    ถ้อยคำล่วงเกินต่างๆ มันได้"ดับ"ไปนานแล้วตั้งแต่ที่คนๆนั้นเขาพูดเสร็จ
    แต่ท่านเอง กลับทำให้ถ้อยคำเหล่านั้น "เกิดใหม่"ทุกๆวัน ด้วยการเก็บเอามาคิดแค้นใจ น้อยใจ เสียใจ ไม่หยุดหย่อน





    ข้อความจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    http://palungjit.org/threads/อดทนต่อถ้อยคำล่วงเกินของผู้อื่นได้-ประเสริฐยิ่ง.242506/
     
  7. MBNY Administrator ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2003
    โพสต์:
    6,864
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +22,510


    "อุปสรรคมีมาเพื่อให้เราสร้างบารมี ถ้าแก้อุปสรรคได้ บารมีก็แก่กล้า"

    หลวงปู่สิม พุทธาจาโร


    ----------------------------------------




    ผู้มีอุปสรรค คือ ผู้มีบุญ



     
  8. MBNY Administrator ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2003
    โพสต์:
    6,864
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +22,510



    "ต้องเด็ดเดี่ยว เหมือนพระพุทธเจ้า"

    หลวงปู่สิม พุทธาจาโร
     
  9. MBNY Administrator ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2003
    โพสต์:
    6,864
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +22,510
    ภาพกำลังใจ ของพระภิกษุผู้เผาตัวเองกอบกู้เวียตนามและพระพุทธศาสนาด้วยชีวิต


     
  10. o_NangKaew_o Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +58
    ขออนุโมทนาบุญสาธุเจ้าค่ะ (rose)

    ความลำบากที่เกินทนจะหลอมคนให้ทนทาน
    ความสบายที่ยาวนานจะรอนรานความเป็นคน

    ไม่มีชัยชนะใดที่ไม่ก้าวข้ามอุปสรรค
    และไม่มีบารมีใดที่จะไม่แลกมาด้วยหัวใจแห่งการให้
    โดยเฉพาะ...การให้อภัยทาน มองให้ลึก มองให้เห็น
    แล้วจะรู้ว่าเขาคือครูผู้มาฝึกใจให้เป็นนาวาเพื่อให้ก้าวข้ามไปยังฝั่ง

    ระหว่างทางอาจเจอพายุ ฟ้าฝนกระหน่ำ เสียงฟ้าร้อง คลื่นลมแรง
    แต่หากครองตนได้ด้วยกำลังของ "สติ"
    สิ่งต่างๆที่มากระทบก็จะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
    ขอแค่อย่าท้อในการทำความดี
    และจงเชื่อมั่นว่า...
    ทำดีย่อมได้ดี อย่าลังเลสงสัย
    แต่จงมีขันติบารมี และอดทนให้มาก
    จนกระทั่งผลแห่งความดีนั้นงอกเงยให้เราได้ชื่นชม
    นั้นแหละ กำลังใจของเราจะไม่ขาดสาย
    สาธุ สาธุ สาธุ..ค่ะ

    o_NangKaew_o
    นางแก้ว
     
  11. วิปัศย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    178
    ค่าพลัง:
    +1,443
    ถ้าไม่เจอปัญหา จะมานั่งปฏิบัติอย่างเดียว บารมีไม่เต็ม

    อนุโมทนาสาธุครับ
     
  12. WebSnow ผู้ก่อตั้งเว็บพลังจิต ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2003
    โพสต์:
    8,695
    กระทู้เรื่องเด่น:
    129
    ค่าพลัง:
    +64,020
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,372
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,120
    ค่าพลัง:
    +70,467
    หลวงปู่ดู่ ท่านสอนว่า

    พระพุทธเจ้า ท่านก็มาจากคน แบบเราๆ

    " เอ็งกับข้า ก็เกิดมาร่วมชาติกับท่านหลายๆชาติ




    แต่ทำไม พวกเอ็งยังไม่ไปไหน


    ก็อย่างเช่น เวลาไปวัด

    ท่านก็ไปฟังเทศน์ภาวนา


    แต่พวกเอ็ง มัวไปนั่งนินทา คุยเรื่องไร้สาระ ทำเรื่องไม่มีประโยชน์ "
     
  14. นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,372
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,120
    ค่าพลัง:
    +70,467
    เดิมที

    คนสองคน

    ผ่านมาในโลกด้วยกันเกือบทุกชาติ



    คนหนึ่ง ผ่านมาในสามโลก เค้าใช้ทุกอย่างในโลก
    เพื่อเป็นประโยชน์ในการสร้างบารมีสามสิบทัศน์

    คนหนึ่ง ผ่านมาในสามโลก แล้วก็ติด ยึด ในโลกธรรม
    ผูกมัด ให้เป็นภาระทางใจ

    ใจแบกสิ่งไร้สาระอะไรไว้มากมาย

    หมดเวลา ตายไปแต่ละชาติ บารมีก็ไปไม่ถึงไหน


    ของเก่าก็ร่อยหรอ ทำให้ตัวเองตกต่ำ เนิ่นช้า

    ช่วยตนเองก็ไม่ได้ แล้วจะช่วยคนอื่นได้อย่างไร
     
  15. นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,372
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,120
    ค่าพลัง:
    +70,467
    อีกไม่กี่วัน เจ้าชายสิทธัตถะ ถ้าเลือกเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ
    สมบัติพระจักรพรรดิ อันมีแก้วทั้งเจ็ดประการ ก็ปรากฏครบ
    แล้วครอบครองโลกทั้งโลกได้ โดยไม่มีใครต่อต้านได้

    แต่กลับทรงเลือก ทางแห่งความพ้น ด้วยการแสวงหาพระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ
    ปลดปล่อยสรรพชีวิตและตน ให้พ้นจากวัฏฏะสงสารนี้ได้


    ด้วยทรงเห็นมาด้วยปัญญาอันอบรมมาเลิศแล้วว่า

    สมบัติทั้งหลายภายนอก ต้องคืนไว้ในวัฏฏะสงสาร
    ผู้มีปัญญา ยามที่ครองทรัพย์ของโลกไว้ชั่วคราว
    ก็อาศัยสิ่งเหล่านั้น เพียงเพื่อใช้สร้างบารมี
     
  16. นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,372
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,120
    ค่าพลัง:
    +70,467
    ได้บารมี ทุกครั้งที่ทำดี
    รู้ได้เอง อย่างน้อยตรงที่ จิต-ใจ เสวยปิติ สุข

    เมื่อทำบ่อยๆทีละน้อย จนชินกับปิติสุขในการทำดี

    ก็เป็นฌาณ ในการนึกถึงบารมีที่ทำไป

    เป็นกรรมฐานเช่นจาคานุสสติกรรมฐาน.เป็นต้น

    จิตใจก็วนเวียนกับศีล สมาธิ ปัญญา เป็นบารมีที่เก็บได้ตลอดจาก
    ชีวิตประจำวัน


    โดยไม่ต้องรอให้มีโลกธรรมเช่น คำชม คำด่า สรรเสริญ นินทา ฯลฯ
    เข้ามาสัมผัส

    ถ้ารอให้มีสรรเสริญ-นินทา( โลกธรรม) เข้ามาให้ใจหลงยึดติดไว้ก่อน
    ก็ไม่ใช่บารมีบริสุทธิ์ ที่เป็นไปเพื่อพระโพธิญาณ
     
  17. นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,372
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,120
    ค่าพลัง:
    +70,467
    ตรอกสายหนึ่งที่ทั้งมืดทั้งแคบ ทั้งยังไม่มีดวงไฟส่องทางให้ความสว่างแม้แต่น้อย ดังนั้นเมื่อถึงยามค่ำคืน การเดินทางในตรอกแห่งนี้จึงเป็นไปด้วยความยากลำบาก

    คืนวันหนึ่ง พระรูปหนึ่งเดินผ่านเข้ามายังตรอกดังกล่าวเพื่อมุ่งหน้าไปยังอาราม ทว่าด้วยความที่ตรอกนี้มืดมิด กระทั่งนิ้วมือทั้งห้าของตนเองยังไม่อาจมองเห็นได้ เมื่อเดิน
    ไปเรื่อยๆ พระรูปนี้จึงทั้งเดินไปชนผู้อื่น และถูกผู้อื่นเดินมาชนไม่หยุดหย่อน สร้างความลำบากยิ่งนัก

    ตอนนั้นเอง คนผู้หนึ่งถือโคมไฟเดินเข้ามายังตรอกดังกล่าว พลันทำให้ในตรอกเกิดแสงสว่างขึ้นพอสมควร พระรูปนั้นได้ยินคนเดินผ่านทางกล่าวว่า "คนตาบอดผู้นั้นช่าง
    แปลกนัก ตนเองมองไม่เห็นแท้ๆ ใยต้องถือโคมไฟให้วุ่นวาย"

    เมื่อพระได้ยินก็รู้สึกแปลกใจ รอจนกระทั่งคนตาบอดถือโคมไฟคนนั้นเดินผ่านมา จึงเอ่ยถามขึ้นว่า "ขออภัย ท่านตาบอดจริงๆ หรือ?"

    คนผู้นั้นตอบว่า "ถูกแล้ว ข้าเกิดมาก็พิการ ตาสองข้างมองไม่เห็น สำหรับข้านั้นไม่ว่าจะยามเช้าสายบ่ายเย็นล้วนไม่ต่างกัน ทั้งยังไม่ทราบว่าแสงสว่างหน้าตาเป็นเช่นไร"

    พระได้ยินดังนั้นก็ยิ่งงุนงงมากขึ้น เอ่ยถามต่อไปว่า "เช่นนั้นท่านจะถือโคมไฟไปเพื่ออะไร?"

    คนตาบอดตอบว่า "เนื่องเพราะข้าเคยได้ยินคนพูดกันว่าในยามกลางคืนไร้แสงสว่าง คนตาดีทั้งหลายก็เป็นเช่นเดียวกับข้า คือมองไม่เห็นสิ่งใด เมื่อครู่ท่านเดินอย่างมืดมนในตรอกใช่โดนคนเดินสวนไปมาชนเอาหรือไม่ ท่านดูข้าเองนั้นแม้เป็นคนตาบอด
    แต่ข้าไม่โดนผู้อื่นเดินชนเลยแม้แต่ครั้งเดียว ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนข้าก็เป็นเช่นเดียวกับท่าน คือโดนคนเดินมาชนเอาบ่อยครั้ง
    แต่เมื่อข้าถือโคมไฟทุกอย่างก็เปลี่ยนไป...ที่ข้าจุดโคมไปไหนมาไหนด้วยนั้น ข้าจุดเพื่อให้แสงสว่างกับผู้อื่น และเพื่อให้ผู้อื่นมองเห็นตัวข้า


    ตั้งแต่นั้นมาข้าก็ไม่โดนผู้ใดเดินชนอีกเลย"

    พระได้ยินความดังนั้นก็บรรลุปัญญา...

    การช่วยเหลือผู้อื่น ประโยชน์สูงสุดล้วนกลับคืนมาสู่ผู้ให้





     
  18. นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,372
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,120
    ค่าพลัง:
    +70,467
    *** เห็นภาพพระพุทธเจ้า ก็เหมือนเห็นพระองค์เอง ***

    ... " อย่าลืมนะ ลูกหลานที่รัก พระพุทธเจ้าที่เห็นอาจจะเป็น "พุทธนิมิต" ถ้าใครเขาบอกว่า พระพุทธเจ้าองค์เดียว จะไปช่วยคนทุกคนได้อย่างไร เป็นอุปาทาน พระพุทธเจ้านิพพานไปแล้ว

    .. ลูกรักทุกคน จงจำคำนี้ไว้ องค์สมเด็จพระจอมไตร เมื่อวันจะนิพพาน พระอานนท์มีความเสียใจว่า ท่านเองเป็นแค่พระโสดาบัน ยังไม่เป็นพระอรหันต์ ถ้าพระพุทธเจ้านิพพานเวลานี้ ต่อไปก็ไม่มีครูสอน องค์สมเด็จพระชินศรี จึงได้ตรัสว่า..

    .. "อานันทะ ดูกรอานนท์ เมื่อตถาคตนิพพานไปแล้ว พระธรรมวินัยที่ตถาคตตรัสไว้ จะเป็นครูสอนเธอ" โดยเฉพาะความจริง คำว่า "พระพุทธเจ้าไม่ใช่ร่างกาย ร่างกายเป็นแต่เพียงเรือนร่างที่อาศัยเท่านั้น พระพุทธเจ้า คือ กายทิพย์ หรือที่เรียกว่า อทิสสมานกาย ( อ่านว่า อะ ทิส สะ มา นะ กาย ) เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน อทิสสมานกาย ที่มีความสะอาด ตัดกิเลสได้ผ่องใส เป็นกายทิพย์

    .. ความเป็นทิพย์ ลูกหลานทุกคน ไม่มีการสลายตัว การจะเห็นพระพุทธเจ้า ถือว่าเห็นความดีของท่าน ถ้าถามว่าทำไมเห็นตัว ก็ต้องขอตอบว่า : ในสมัยที่พระพุทธเจ้ามีชีวิตอยู่ เวลานั้น ถ้าใครนึกถึงองค์สมเด็จพระบรมครู หรือว่า ตั้งใจปฏิบัติความดี เพื่อมรรคผล องค์สมเด็จพระทศพลอยู่ไกลแสนไกล ก็เปล่งฉัพพรรณรังสี คือ รัศมีของพระองค์ ให้ไปถึงหน้าคนนั้น ก็ปรากฏเป็นพระรูปพระโฉมของพระองค์ นั่งข้างหน้า แล้วก็เทศน์สอน เหมือนกับพระองค์นั่งอยู่ที่นั้นเอง

    .. ก็รวมความว่า คนนั้นก็ฟังเทศน์จากพระองค์เอง ก็แล้วกัน อันนี้เหมือนกับลูกหลานทุกคน ที่กำลังฟังอยู่ ว่า เห็นภาพพระพุทธเจ้า ก็ถือว่า เห็นฉัพพรรณรังสี ก็เหมือนเห็นพระองค์เอง จะพูดอะไรกันก็ได้ จะสอนอะไรก็ได้ จะนำใครไปไหนก็ได้ เหมือนพระองค์นำไปเอง

    .. ฉะนั้น ถ้าเห็นภาพ ให้นึกว่า นั่นคือพระพุทธเจ้าตรง ไม่มีอะไรผิด..."

    ------------------------------------
    ธรรมโอวาทพระราชพรหมยาน
    จาก : หนังสือ รวมคำสอนธรรมปฏิบัติ
    เล่มที่ ๑๖ หน้าที่ ๑ ของวัดท่าซุง จ.อุทัยธานี




     
  19. WebSnow ผู้ก่อตั้งเว็บพลังจิต ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2003
    โพสต์:
    8,695
    กระทู้เรื่องเด่น:
    129
    ค่าพลัง:
    +64,020





    คนที่อ้างว่าบารมีไม่พอ แสดงว่าขี้เกียจมาก
    กำลังใจไม่ดี นี่ไม่มีอะไร บารมีมันเป็นของ
    สร้างใหม่ได้ ไม่ใช่จะต้องเป็นของสร้างมา
    แต่ชาติปางก่อนเสมอไป ไม่อย่างนั้นก็ไม่มี
    ใครบรรลุมรรคผล


    คำสอน หลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี



    Pageบันทึกธรรมพระราชพรหมยาน​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,372
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,120
    ค่าพลัง:
    +70,467




    ผู้ข้าฯ นะเกิดมาแล้ว ๔๐๐ ล้านกว่าชีวิต



    ผ่านพระพุทธเจ้ามา ๓๐๐ ล้านกว่าพระองค์



    นี่วันนี้ ยังต้องนั่งภาวนาอยู่



    ขี้คร้านไม่ได้ ทำไปตามเรื่องของตน



    ธรรมประวัติองค์หลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ ผู้มากมีบุญ วัดป่าวิเวกวัฒนาราม



    (วัดป่าบ้านห้วยทราย) บ้านห้วยทราย อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร



    ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙



    กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่านครับ
     

แชร์หน้านี้