เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๖๗

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 29 มกราคม 2024.

  1. iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,385
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,528
    ค่าพลัง:
    +26,367
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๖๗


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,385
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,528
    ค่าพลัง:
    +26,367
    วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๒๙ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ ทั้งกระผม/อาตมภาพและน้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) ถือว่าเป็นวัน "ประกอบร่าง" เนื่องเพราะว่าเดินทางจากจังหวัดเชียงรายลงมาจนถึงจังหวัดนนทบุรี เมื่อคืนมาถึงก่อน ๕ ทุ่มเล็กน้อย

    หลังจากที่เปิดดูว่าแอพพลิเคชั่น "เสบียงบุญ" ยังทำงานอยู่ กระผม/อาตมภาพก็ส่งใจขึ้นพระนิพพาน กราบพระแล้วก็ "ทิ้งร่าง" ไปตามระเบียบ เพราะรู้สึกว่ากรอบมาก แทบจะหลุดเป็นชิ้น ๆ แล้ว เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาตอนตี ๒ ตามปกติ ปรากฏว่าเมื่อเปิดดูแล้ว แอพพลิเคชั่น "เสบียงบุญ" ไม่ทำงานเลยแม้แต่วินาทีเดียว เพิ่งจะมาเริ่มเดินต่อตอนที่เปิดดูนั่นเอง..!

    ทุกวันนี้กระผม/อาตมภาพก็ยังไม่เข้าใจว่า ระบบการทำงานของแอพพลิเคชั่น "เสบียงบุญ" นั้นคืออย่างไรกันแน่ ? จึงได้สนุกสนานอยู่กับการเรียนรู้ และพยายามเอาชนะให้ได้ เนื่องเพราะว่าจากที่ปรากฏอยู่เสมอก็คือ เมื่อเราเปิดแอพพลิเคชั่นอื่นทำงานด้วย โดยเฉพาะกล้องถ่ายรูป "เสบียงบุญ" ที่สะสมมาก็จะหลุดไปทันที คำว่าหลุดในที่นี้ก็คือ ไม่ว่าจะบันทึกมาได้กี่ชั่วโมงแล้วก็ตาม ก็จะหายวับไปกับตา ให้เราเริ่มต้นใหม่ โดยไม่มีการบันทึกการสะสมบุญของเราในช่วงนั้นเอาไว้เลย..!

    ประการต่อมาก็คือ ถ้าหากว่ามีเสียงปลุกเตือนจากปฏิทินในเครื่องที่ตั้งเอาไว้ ว่าวันนี้จะมีงานอะไรบ้าง ? แอพพลิเคชั่นก็จะหลุดทันทีเหมือนกัน..!

    ประการต่อไปก็คือ ถ้าหากว่ามีเสียงพูดคุยกัน เป็นการรบกวน แอพพลิเคชั่นนี้ก็จะหลุด จึงทำให้ทุกวันนี้ ต้องพยายามศึกษาและทำความเข้าใจว่าแอพพลิเคชั่นนี้แสลงกับอะไรบ้าง ? ทำอย่างไรที่เราจะรักษาเวลาบันทึกบุญของเราเอาไว้ให้ได้ตามที่ตั้งใจ อย่างวันนี้ เมื่อถึงเวลาประมาณ ๑๐ โมงเช้า ก็บันทึกเสบียงบุญได้แล้วประมาณ ๑๕ ชั่วโมงเศษ แต่ว่าทันทีที่เปิดแอพพลิเคชั่นอื่นขึ้นมา เพื่อที่จะติดตามงานทางไลน์ ปรากฏว่า "เสบียงบุญ" ๑๕ ชั่วโมงเศษ หายวับไปกับตา..!

    ลักษณะนี้เป็นอะไรที่ถูกใจกระผม/อาตมภาพมากเป็นพิเศษ..! เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า ทำให้นึกถึงสมัยที่ปฏิบัติในการต่อสู้กับกิเลสใหม่ ๆ เรามีแต่แพ้ตลอด แล้วท้ายที่สุดก็จะมีชนะบ้าง ในช่วงที่แพ้ชนะก้ำกึ่งกันนั้น จะเป็นช่วงที่สนุกที่สุด แทบจะไม่สนใจสิ่งอื่นภายนอกเลย นอกจากตั้งหน้าตั้งตาจ้องดูว่า คะแนนนี้ใครจะได้ ถ้ากิเลสได้ "เอ้า..คุณเก่งกว่า เรามาเริ่มต้นลุยกันใหม่"" ถ้าหากว่าเราได้ก็ "ฮ่า..คะแนนนี้เป็นของเรา คะแนนหน้าเราจะต้องเอาให้ได้" จะเป็นอะไรที่สนุกมาก..!
     
  3. iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,385
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,528
    ค่าพลัง:
    +26,367
    ญาติโยมหลายท่านพยายามที่จะทำตาม เพราะว่ากระผม/อาตมภาพสร้างสถิติ "เสบียงบุญ" เอาไว้ ก็คือในแอพพลิเคชั่นตั้งเอาไว้สูงสุด ๒ ชั่วโมง แต่ว่าตนเองมีความสามารถที่จะนั่งกรรมฐานได้นานเกิน ๒ ชั่วโมง หรือว่าทรงกำลังใจได้เกิน ๒ ชั่วโมง จึงต้องมาทดลองดูว่า เราสามารถที่จะรักษาเสบียงบุญเอาไว้ ให้ได้เกิน ๒ ชั่วโมงหรือเปล่า ? แล้วหลังจากนั้นก็ค่อย ๆ ขยายเวลาขึ้นมา เป็น ๓ ชั่วโมง ๔ ชั่วโมง ๕ ชั่วโมง ๖ ชั่วโมง

    ตอนที่ประคับประคองเอาไว้ถึงจุดหมายได้ ก็จะรู้สึกปีติว่าเราทำได้สำเร็จ ลักษณะเดียวกับตอนที่สู้แล้วชนะกิเลสได้ แต่ว่าในขณะเดียวกัน ถ้าหากว่าหลุดหายไป ทั้ง ๆ ที่ได้มาเป็น ๑๐ ชั่วโมงแล้ว เราก็ต้องทำใจว่าแต้มนี้เป็นของเขา เราก็เริ่มต้นใหม่ในทันทีทันใด ซึ่งตัวน้องเล็กเองก็พยายามที่จะทำตาม บางวันก็มีเสียง "ว้า..ตั้งหลายชั่วโมงแล้ว หลุดไปเฉยเลย..!" แต่ว่าก็ต้องรีบตั้งกำลังใจใหม่ว่า "หลุดได้หลุดไป ครั้งต่อไป เราต้องเอาให้ได้..!"

    เมื่อเป็นเช่นนั้น ๑๕ ชั่วโมงที่หลุดหายในวันนี้ กระผม/อาตมภาพจึงไม่ได้ที่จะไปกำหนดจดจำ หากแต่ตั้งใจเอาไว้ว่า ครั้งต่อไปเราต้องทำให้ได้ สถิติที่รออยู่ในขณะนี้ก็คือ ทำอย่างไรจะให้ได้ ๒๓ ชั่วโมง เนื่องเพราะว่าสถิติเก่าก็คือต่อเนื่องได้ ๒๒ ชั่วโมง หรือว่าทำอย่างไรจะให้ได้ตัวเลข ๑๙:๑๙:๑๙ ก็คือ ๑๙ ชั่วโมง ๑๙ นาที ๑๙ วินาที ซึ่งเป็นตัวเลขที่ยังไม่ได้อยู่ในคอลเล็คชั่นของตน

    เนื่องจากว่ามีตัวเลข ๑๘:๑๘:๑๘ แล้ว ๒๐:๒๐:๒๐ แล้ว แต่ ๑๙:๑๙:๑๙ ยังไม่มี แล้วมาหลุดหายไปต่อหน้าต่อตาตอน ๑๕ ชั่วโมงกว่า ๆ ถ้าเป็นท่านอื่นก็คงจะกำลังใจตก แต่กระผม/อาตมภาพสู้กับกิเลสมานาน รู้ลีลากันดีแล้ว บางทีอาจจะไม่ได้เป็นเพราะแอพพลิเคชั่นด้วยก็ได้ หากแต่ว่าเป็นการทดสอบของ "อีกฝ่ายหนึ่ง" ซึ่งตั้งใจจะลองดูว่ายังสามารถกวนให้กระผม/อาตมภาพขุ่นได้อีกหรือไม่..!?

    หรือว่าญาติโยมท่านใดที่ทดสอบ ลองใช้งานแอพพลิเคชั่นนี้ดู ก็ลองวางเป้าหมายเอาไว้ ว่าเราจะพยายามบันทึกตัวเลขที่กี่ชั่วโมง จะถือเอาสิ่งที่กระผม/อาตมภาพทำดูบ้างก็ได้ ก็คือจาก ๑, ๒, ๓, ๔, ๕, ๖, ๗, ๘, ๙, ๑๐ ไปจนถึง ๒๒ ชั่วโมง สูงสุดที่ทำได้อยู่ แต่พอเลย ๒๒ ชั่วโมงก็หลุดหายไปหลายครั้งแล้ว หรือจะเอาตัวเลขสวย ๆ ๐๑:๐๑:๐๑, ๐๒:๐๒:๐๒ ไล่ไปอย่างที่กระผม/อาตมภาพทำอยู่ก็ได้ เพราะว่าปัจจุบันนี้ก็คืออยู่ที่ ๑๘:๑๘:๑๘ แล้วกระโดดไปที่ ๒๐:๒๐:๒๐ ซึ่งต้องแยกคอลเลคชั่นไว้ต่างหาก ถ้าได้ ๑๙:๑๙:๑๙ เมื่อไร ก็จะเอา ๒๐:๒๐:๒๐ มาต่อท้ายพอดี
     
  4. iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,385
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,528
    ค่าพลัง:
    +26,367
    เรื่องพวกนี้ถ้าหากว่าเรากำหนดจิตภาวนา โดยที่ไม่ให้กิเลสมากินใจของเราได้ แล้วรักษาตัวเลข "เสบียงบุญ" เอาไว้ให้ได้ตามที่ตั้งใจเอาไว้ ก็ถือว่าเป็นการชนะกิเลสแบบเล็ก ๆ เหมือนกัน

    เรื่องของการปฏิบัติธรรมนั้น เราต้องถือการฝึกฝนตนเองอยู่ทุกขณะจิต ไม่ว่าอะไรก็ตามที่อยู่ตรงหน้า เราต้องหาประโยชน์จากสิ่งนั้น มาช่วยให้การปฏิบัติธรรมของเราก้าวหน้าให้ได้ ไม่เช่นนั้นแล้ว เราก็ไม่มีอะไรเป็นเครื่องพิสูจน์ตัวเอง แต่ละวันผ่านไป ๆ โดยที่ไม่รู้ว่าเราทรงคุณงามความดีเอาไว้ได้เท่าไร

    เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทาน "แอพพลิเคชั่นเสบียงบุญ" มาแล้ว พวกเราก็ถือโอกาสฝึกฝนตนเองตามนี้ อะไรที่ได้มา ก็อย่าดีใจจนเกินไป อะไรที่สูญเสียไป ก็อย่ามัวไปคร่ำครวญอยู่ ให้วางกำลังใจเป็นกลาง ๆ ไม่ให้ยินดียินร้ายมากจนเกินไป แล้วลองประคับประคอง "แอพพลิเคชั่นเสบียงบุญ" ให้ได้ตัวเลขที่เราต้องการ ถ้าหากว่าทำได้ตามนั้นเมื่อไร ก็ถือว่าเป็นความสำเร็จชนิดหนึ่ง ซึ่งจะช่วยให้เราบังเกิดปีติขึ้นมา แล้วมีความพากเพียรพยายามที่จะทำความดีนั้น ให้เจริญงอกงามยิ่ง ๆ ขึ้นไป

    สำหรับวันก่อนที่ได้ทำการปลุกเสกวัตถุมงคลที่วัดศิลาวาส (ปางโม่) ตำบลปิงโค้ง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่นั้น เนื่องจากว่าเป็นรูปพระสีวลีทรงม้า กระผม/อาตมภาพเมื่อกราบขอบารมีพระ ตลอดจนกระทั่งครูบาอาจารย์ทั้งหมดแล้ว ก็ไปกราบเท้าขอความเมตตาจากพระสีวลีเถระ เพื่อขอให้ท่านปลุกเสกวัตถุมงคลที่เป็นรูปของท่านเอง เนื่องเพราะหลวงพ่อวัดท่าซุงเคยบอกเสมอว่า "วัตถุมงคลถ้าเป็นรูปของใคร ไปขอให้ท่านเจ้าของรูปมาเสกเองจะดีที่สุด"

    ปรากฏว่าพระสีวลีเถระท่านตอบว่า "เขตนี้เป็นเขตของพระมหากัจจายนเถระ ไม่ใช่เขตของกระผม" เมื่อเป็นเช่นนั้น กระผม/อาตมภาพจึงต้องไปกราบเท้าพระมหากัจจายนเถระ เพื่อที่จะขออนุญาตให้พระสีวลีท่านเข้ามาในพื้นที่นี้ เพื่อเสกรูปเหมือนของท่าน

    แล้วก็ยังกราบเรียนถามพระมหากัจจายนเถระว่า "คำว่า "เขต" ในที่นี้หมายถึงอะไรครับ ?" พระมหากัจจายนเถระตอบว่า "เป็นเขตที่สมัยยังมีชีวิตอยู่ ได้เดินทางมาเผยแผ่พระพุทธศาสนา ถ้าสูงขึ้นไปอีกเล็กน้อย ก็จะเป็นเขตของพระมหากัสสปเถระ" กระผม/อาตมภาพก็เพิ่งเข้าใจคำว่า "เขต" ของพระสีวลีเถระในครั้งนี้เอง
     
  5. iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,385
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,528
    ค่าพลัง:
    +26,367
    เมื่อท่านเสกให้เรียบร้อยแล้ว ท่านพันแสน อคฺคธมฺโม เจ้าอาวาสวัดศิลาวาส (ปางโม่) ยังได้ฝากรูปเหรียญพระสีวลีทรงม้ามาให้ ๑ กล่อง ถือว่าเป็นของสมนาคุณ นอกเหนือจากไทยธรรมที่ถวายมา แต่เนื่องจากว่ากระผม/อาตมภาพไปรับสังฆทาน เพื่อช่วยหาปัจจัยให้กับครูบาเหนือชัย โฆสิโต ให้ท่านได้ใช้ในงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา และดูแลสำนักต่าง ๆ ที่เป็นสาขาของท่าน จึงได้มอบให้กับผู้ทำบุญไปหมดเกลี้ยงแล้ว ไม่มีเอาไว้ให้ออกในกระทู้ต่าง ๆ ของไอ้ตัวเล็ก ตามที่เคยทำมา

    ถ้าหากว่าใครต้องการวัตถุมงคลชุดนี้ ก็ลองไปหาบูชาจากวัดศิลาวาส (ปางโม่) หรือว่าในชื่อเก่าคือวัดป่าเจริญธรรม เพราะว่าวัตถุมงคลที่เข้าพิธีนั้น นอกจากจะมีรูปพระสีวลีเถระทรงม้าแล้ว ยังเห็นมีรูปพระสุรัสวดีทรงหงส์อีกต่างหาก สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ถ้าท่านได้ไปแล้ว ก็ขอให้นึกถึงพระสีวลีเถระ เป็นต้น เป็นประธาน

    ถ้าหากว่าไม่มี เราเองต้องการอานุภาพของท่านก็ใช้พระคาถาที่รำลึกถึงท่านก็ได้ว่า "สีวลี จะ มหาเถโร เทวะตานะระภิปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ อะหัง วันทามิ ตังสะทา มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุ เม"

    ถ้าไม่มีเวลาภาวนายาว ๆ ก็รำลึกถึงท่าน ขอบารมีท่านอนุเคราะห์สงเคราะห์ แล้วภาวนาสั้น ๆ ว่า "เอตังคุณัง สีวลีลาภัง" เท่านี้ก็ได้

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันจันทร์ที่ ๒๙ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     

แชร์หน้านี้