เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๖๘
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๖๘
ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 16 มกราคม 2025.
-
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๑๖ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ เป็นวันครูที่ตรงกับวันพฤหัสบดี ซึ่งเขาถือกันว่าวันพฤหัสบดีเป็นวันครูด้วย ถือว่าเป็นมงคลซ้อนมงคล เนื่องเพราะตามเทวตำนานของชาวฮินดูนั้น พระผู้เป็นเจ้าทรงสร้างพระพฤหัสบดีขึ้นมาจากฤๅษี ๑๙ ตน บรรดาฤๅษีต่าง ๆ ก็คือผู้ทรงความรู้ทุกสาขา ซึ่งถ้าว่ากันตามความเชื่อก็คือมีครูฤๅษี ๑๐๘ ตน ในเมื่อพระพฤหัสบดีสร้างขึ้นจากฤๅษี ซึ่งถือว่าเป็นผู้สืบสานวิชาการต่าง ๆ ในฐานะครู เขาถึงได้เลือกไหว้ครูกันในวันพฤหัสบดี โดยเฉพาะถ้าได้ข้างขึ้นมากเท่าไรก็ดีเท่านั้น
ครูทุกคนต้องบอกว่าเป็นผู้นำชีวิตของเรา เนื่องเพราะว่านอกจากพ่อแม่ที่สั่งสอนเราในเบื้องต้นแล้ว วิชาการต่าง ๆ ล้วนแล้วแต่ต้องมีครูในการชี้แนะทั้งสิ้น หลังจากที่ศึกษาวิชาการไปแล้ว ก็สำคัญที่ว่าเราสามารถไปพลิกแพลงใช้งานให้เข้ากับสถานการณ์ได้หรือไม่ ? หรือว่าท่านมีวิสัยของความเป็นครู สามารถบัญญัติวิชาการเพิ่มเติม หรือว่าบัญญัติวิชาใหม่ขึ้นมาได้ นั่นถือว่าเป็นความสามารถพิเศษเฉพาะตน
แต่ว่าท่านทั้งหลายก็ต้องมีครูมาตั้งแต่ต้น ครูจึงเป็นบุคคลสำคัญในชีวิต พ่อแม่ให้ชีวิตแก่เรา แต่ครูบาอาจารย์ให้วิชาความรู้เพื่อเลี้ยงตัวเราไปจนเติบใหญ่แก่เฒ่า พระคุณของครูจึงเป็นสิ่งที่เราต้องเทิดไว้เหนือเศียรเหนือเกล้าตลอดกาล
ในวาระอันสำคัญนี้ กระผม/อาตมภาพ พระครูวิลาศกาญจนธรรม ขอตั้งจิตอุทิศส่วนกุศลที่ได้บำเพ็ญมาตั้งแต่ต้นจวบจนบัดนี้ ไม่ว่าจะเป็นทาน เป็นศีล เป็นภาวนา หรือว่าสรรพกุศลใด ๆ ก็ตาม ให้แก่คุณครูในทุกชาติทุกภพมาจนถึงชาตินี้ภพนี้ ขอคุณครูทุกท่านจงอนุโมทนา กระผม/อาตมภาพจะได้รับประโยชน์และความสุขเท่าใดจากกุศลที่ได้สร้างมา ขอให้คุณครูทุกท่านจงได้รับซึ่งประโยชน์และความสุขนั้น เช่นเดียวกับกระผม/อาตมภาพจงทุกประการเทอญ
วันนี้ภารกิจสำคัญของกระผม/อาตมภาพก็คือไปเข้าอบรมตามโครงการอบรมเจ้าสำนักศาสนศึกษาทั่วประเทศประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๗ ต้องขออภัยที่เมื่อวานนี้บอกผิดไปว่าเป็นปีงบประมาณ ๒๕๖๘
ด้วยความที่รู้ดีว่าหอประชุมใหญ่พุทธมณฑลนั้นอากาศหนาวสุด ๆ กระผม/อาตมภาพจึงเอาผ้าห่มคลุมไหล่ไปด้วย แต่ขนาดนั้นก็ตาม ยังหนาวจนแทบจะไข้จับ ทำเอาพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (สุชิน อคฺคชิโน) กรรมการมหาเถรสมาคม แม่กองธรรมสนามหลวงที่เดินผ่านถึงกับหัวเราะ เมื่อกระผม/อาตมภาพห่มผ้าหนาขนาดนั้น จึงต้องกราบเรียนท่านว่า "หนาวจริง ๆ ขอรับพระเดชพระคุณ" -
ท่านอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่เดินถวายการรับใช้ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ มาด้วย บอกว่า "ขอโทษครับหลวงพ่อ เครื่องปรับอากาศของหอประชุมใหญ่พุทธมณฑลไม่สามารถจะปรับได้ ช่างเขาตั้งไว้ให้เปิดได้อย่างเดียวเท่านั้น" กระผม/อาตมภาพได้ยินก็คาดว่างานนี้แย่แน่ จึงฉันยาแก้ไขล่วงหน้าไปก่อนเลย ไม่เช่นนั้นแล้วกว่าจะถึง ๔ โมงเย็น กระผม/อาตมภาพมีหวังนั่งสั่นให้คนอื่นเขาได้ตื่นตกใจกัน..!
จนกระทั่งเลิกงานออกมาทางด้านนอก เข้ามาภายในรถยนต์ที่จอดตากแดดอยู่ ถ้าเป็นฤดูร้อนก็คงจะบ่นโขมงโฉงเฉง แต่ว่าตอนนี้กลับรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ต้องการเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่าได้อบตัวเองให้คลายหนาวเสียที นี่ถ้าพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ทราบว่า กระผม/อาตมภาพเพิ่งกลับมาจากเมืองฮาร์บิน มณฑลเฮยหลงเจียง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งอากาศติดลบถึง ๓๑ องศาเซลเซียส แล้วกลับมานั่งสั่นกับอากาศเพียงไม่เท่าไรในประเทศไทย ท่านก็คงจะหัวเราะขำเป็นการใหญ่มากกว่านี้อีก..!
พูดถึงตรงนี้ทำให้นึกขึ้นมาได้ว่า มีบุคคลที่เห็นกระผม/อาตมภาพเป็นผู้เชี่ยวชาญ ถามว่า "ถ้าต้องการที่จะไปเมืองฮาร์บินนั้นจะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ?" จึงต้องขออนุญาตทำตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญที่เพิ่งผ่านงานเป็นครั้งแรกมาว่า
เครื่องกันหนาวเป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุด เสื้อกันหนาวของท่านนั้น ถ้าสามารถหาเสื้อ Ultra Heat tech ที่ป้องกันอากาศหนาวติดลบได้ อย่างเช่นในบ้านของเราที่เคยพบ ก็ป้องกันอากาศติดลบสูงสุดได้ถึง -๑๕ องศาเซลเซียส แต่ถ้าท่านใดไปต่างประเทศ หรือมีเพื่อนฝูงพี่น้องไปต่างประเทศ ฝากให้หาเครื่องกันหนาวที่สามารถป้องกันอากาศติดลบสัก -๓๐ องศาเซลเซียสมาได้จะดีมาก
นี่เป็นแค่เสื้อตัวในเท่านั้น เสื้อตัวนอกของท่านต้องเป็นเสื้อโค้ตซึ่งสามารถกันลมได้ด้วย ไม่เช่นนั้นแล้วต่อให้เป็นเสื้อยาวขนาดไหนก็ตาม ถ้ากันลมไม่ได้ก็เท่ากับฆ่าตัวตายดี ๆ นี่เอง ลมกรรโชกมาแต่ละทีนี่แทบจะขาดใจตาย..! -
กางเกงควรจะเป็น Ultra Heat tech ชั้นหนึ่ง ส่วนชั้นนอกควรที่จะเป็นกางเกงที่มีบุขนสัตว์อยู่ภายใน ส่วนภายนอกสามารถกันลมกันน้ำได้ด้วย เนื่องเพราะว่าบางวาระบางเวลา เราอาจจะต้องนั่งลงบนน้ำแข็งหรือว่าหิมะ ถ้าหากว่ากันน้ำไม่ได้ เปียกไปถึงตัวเมื่อไรก็จะกลายเป็นน้ำแข็งติดก้นของเราเมื่อนั้น..!
อุปกรณ์อื่น ถ้าหากว่าเป็นถุงมือ บุคคลที่ชอบถ่ายรูปต้องหาถุงมือสองชั้น มือที่เราถนัดจะใช้ทัชหน้าจอเพื่อถ่ายรูปนั้น ควรที่จะเป็นถุงมือเปิดปลายนิ้ว แล้วก็ใส่ถุงมือกันน้ำกันลมด้านนอกอีกชั้นหนึ่ง เมื่อถึงเวลาจะถ่ายรูปก็ดึงถุงมือชั้นนอกออก ถ่ายรูปเสร็จเรียบร้อยแล้วก็รีบใส่คืนไป
ถ้ารู้สึกหนาวจนทนไม่ไหว ในกระเป๋าเสื้อโค้ต ควรที่จะใส่ถุงผงเคมีกันหนาวเอาไว้ ถึงเวลากำแล้วมือจะได้อุ่นสบาย ไม่เช่นนั้นแล้วพอถึงเวลาก็นิ้วแข็งไปหมด ทำอะไรไม่ได้เลย..!
หมวกไหมพรมหรือว่าหมวกขนสัตว์ ต้องมีอย่างน้อยสองชั้น ก็คือชั้นในใส่ติดศีรษะเอาไว้เลย ส่วนชั้นนอกนั้นสวมทับลงมาอีกทีหนึ่ง
ผ้าพันคอก็ควรที่จะเป็นผ้าขนสัตว์ สามารถพันแล้วปิดจมูกได้ด้วย แต่ว่าเผลอเมื่อไร ก็จะกลายเป็นน้ำแข็งอยู่บริเวณปากจมูกนั่นเอง
ที่ครอบหูเพื่อช่วยให้อุ่นเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง แต่ว่าบางทีคนอื่นตะโกนใส่หูเราก็ยังไม่ค่อยได้ยิน
ถุงเท้าควรที่จะเป็นถุงเท้าขนสัตว์ อย่างน้อยต้องใส่ไปสองชั้น รองเท้าต้องเป็นรองเท้าสำหรับเดินบนหิมะ สามารถกันน้ำได้ด้วย -
ส่วนที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือแว่นกันแดด ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่าต้องใช้ในการกันแสงสะท้อนจากแสงแดดที่กระทบหิมะ ซึ่งจะรุนแรงกว่าแสงแดดปกติหลายเท่า ถ้าหากว่าไม่มี กระผม/อาตมภาพทั้ง ๆ ที่มีแต่ไม่ได้ใส่ ในตอนที่เดินทางไปยังเสฉวนตะวันตก ไม่ว่าจะเป็นแถวอุทยานย่าติง ภูเขาซื่อกูเหนียงซาน ตลอดจนกระทั่งแถวรื่อหวาหรือว่าลี่ถัง ก็ทำให้เจ็บตาไปหลายวันทีเดียว..!
แผ่นกันร้อน ไม่ว่าจะแบบแปะติดตัวหรือว่าติดรองเท้า ติดถุงมือ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีไว้ แต่ต้องระวัง ถ้าหากว่าผ้าบางอย่าได้แปะลงไป เนื่องเพราะว่าบางยี่ห้อถึงขนาดร้อนลวกผิวเลยทีเดียว..! ต้องดูให้ดีว่าแปะไปแล้วเราสามารถทนความร้อนนั้นได้หรือไม่ ? และเป็น "ไอเท็ม" สำคัญที่จำเป็นต้องมีเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะแบบถุงร้อนที่ใช้กำอุ่นมือ ไม่เช่นนั้นแล้วท่านจะทำอะไรไม่ได้เลย
อีกส่วนหนึ่งที่ไม่ว่าผู้หญิงผู้ชายจำเป็นต้องมี ก็คือลิปสติกทาปาก ป้องกันปากแตกจากอากาศหนาว ถ้าหากว่าไม่มี ชีวิตของท่านรับรองได้ว่าหมดราคาแน่นอน เพราะริมฝีปากจะแตกถึงขนาดเลือดซิบ ๆ เลยทีเดียว..!
ยาพ่นคอ ยาพ่นจมูก สำหรับบุคคลที่แพ้อากาศหนาว ถ้าหากว่าไม่มี รับประกันได้ว่าชีวิตจะยากลำบากขึ้นอีกหลายเท่า..!
ในส่วนของยารักษาโรคประจำตัวต้องติดไปให้ครบถ้วนสมบูรณ์ทีเดียว ไม่เช่นนั้นแล้วท่านอาจจะไปหาซื้อไม่ได้ในสถานที่ซึ่งท่านไป ถ้าหากว่าไปหาซื้อไม่ได้ โรคกำเริบขึ้นมา ภายใต้อากาศหนาวติดลบขนาดนั้นมีสิทธิ์ที่จะเสียชีวิตได้ง่าย ๆ..!
อีกส่วนหนึ่งที่ท่านอาจจะคิดไม่ถึงก็คือกระเป๋าเดินทาง ถ้าหากว่าได้กระเป๋าผ้าจะดีที่สุด เนื่องเพราะว่ากระเป๋าพวกพลาสติกสังเคราะห์ เมื่อกระทบความหนาวจัด ๆ อาจจะกรอบและแตกได้ง่าย ถ้าเกิดเจอบรรดาเจ้าหน้าที่สายการบินโยนแรง ๆ กระเป๋าของท่านแตกยับเยินก็คงจะต้องเสียใจกันไปอีกนาน พอดีกระผม/อาตมภาพได้กระเป๋าที่ทางธนาคารกรุงไทยมอบให้เป็นของขวัญปีใหม่มานานแล้ว จึงได้อาศัยเดินทางในครั้งนี้ ทำให้รอดตัวมาได้ -
ส่วนอื่น ๆ นั้นท่านก็หาไปประกอบสำหรับตัวเอง กระผม/อาตมภาพเดินทางไปในที่หนาวแล้ว ก็รู้สึกว่าหนาวเท่า ๆ กันหมด งวดนี้นำเครื่องกันหนาวไป ๑ กระเป๋า ใช้ไปแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น อีกครึ่งหนึ่งไม่ได้ใช้งาน กลับมาจึงต้องเก็บใส่กระเป๋าต่อไปแต่โดยดี
สรุปว่าร่างกายของแต่ละคนแข็งแรงไม่เท่ากันยังไม่พอ บางคนยังอาจจะมี "กำลังภายใน" ที่นึกไม่ถึงคอยช่วยเหลืออยู่ ถ้าหากว่าเป็นเช่นนั้น ท่านก็ไม่ต้องพึ่งพาเครื่องกันหนาวมาก แต่ว่าอย่าได้ประมาท เอาไปให้เต็มที่ ถึงเวลาต้องการแล้วมี ดีกว่าต้องการแล้วไม่มี
อีกปัญหาหนึ่งก็คือว่าท่านที่ใช้แว่นสายตา หายใจออกมาเมื่อไรฝ้าก็จะจับแว่น แล้วไม่ใช่ฝ้าธรรมดา เพราะว่าจับเป็นน้ำแข็งไปเลย ต้องอาศัยซุกไว้ในกระเป๋าให้น้ำแข็งละลายก่อน จึงสามารถเช็ดทำความสะอาดได้ ทำให้เกิดความน่ารำคาญเป็นอย่างมาก
กระผม/อาตมภาพต้องเดินตาเปล่าไปหลายรอบ เพราะว่าต้องรอจนกระทั่งน้ำแข็งบนแผ่นเลนส์ละลายเสียก่อน จึงต้องทำต้องเดิน ๆ หยุด ๆ เพื่อทำความสะอาดแว่น ไม่ใส่ก็ไม่ได้ เพราะว่าถ้าแดดจัดจ้าเมื่อไร แสงจะแยงตารุนแรงมาก แต่ถ้าหากว่าใส่ก็ต้องมาคอยเช็ดอยู่ตลอดเวลา น่ารำคาญอยู่เหมือนกัน แต่ทำอย่างไรก็ต้องใส่ ไม่เช่นนั้นแล้วก็มองทางไม่ค่อยจะชัด ซ้ำยังอาจจะเจ็บตาจากแสงสะท้อนของหิมะอีกต่างหาก..!
ส่วนที่เหลือมีอะไรที่เพิ่มเติม ท่านก็ควรที่จะศึกษาด้วยตนเอง ถ้าหากว่าเข้าถึงโรงแรมที่พักเมื่อไรก็รอดตายแน่ เพราะว่าทุกแห่งล้วนแต่มีเครื่องทำความร้อนทั้งสิ้น สิ่งที่ท่านประเดประดังใส่ไปเต็มตัว เมื่อกลับถึงโรงแรมก็แทบจะแก้ผ้าเสียเดี๋ยวนั้น..!
กระผม/อาตมภาพเข้าห้องพักเมื่อไร สิ่งแรกที่ทำก็คือปิดเครื่องทำความร้อน แล้วก็เปิดหน้าต่างให้อากาศภายนอกไหลเข้ามา จนกระทั่งรู้สึกว่าร่างกายเย็นสดชื่นดีแล้วถึงได้ปิดหน้าต่าง แล้วค่อยเปลี่ยนเครื่องกันหนาวออกมาเป็นชุดลำลอง ไม่เช่นนั้นแล้วเราเองอาจจะหายใจไม่ออก เพราะว่าไม่เคยชินกับเครื่องทำความร้อนเหล่านี้ก็เป็นได้
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๑๖ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)