เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๖๕

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 12 เมษายน 2022.

  1. iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,396
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,532
    ค่าพลัง:
    +26,369
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๖๕


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,396
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,532
    ค่าพลัง:
    +26,369
    วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๑๒ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ เป็นวันสิ้นปี เพราะถ้าถือตามโบราณ ปีใหม่ของเราก็คือสงกรานต์ เพราะฉะนั้น วันที่ ๑๒ ควรจะเป็นวันสิ้นปี แต่ว่าก่อนหน้านี้ของเรานั้นถือตามจันทรคติ คือขึ้นแรม ปัจจุบันนี้วันสงกรานต์กำหนดตายตัวว่าเป็นวันที่ ๑๓ เมษายน ก็อาจจะมีการเลื่อนขึ้นลงเร็วช้าอยู่บ้าง

    สำหรับญาติโยมที่มาถึง ถ้าใครไม่ได้ตรวจ ATK มา เดี๋ยวรอเจ้าหน้าที่ของวัดช่วยตรวจให้ เพื่อความสบายใจด้วยกันทั้งหมดว่าเราติดเชื้อมาจริง ๆ จะได้อยู่ร่วมกันอย่างชนิดทำใจไว้ก่อนว่าติดแน่...! ตอนนี้ที่น่ากลัวคือคนใหม่ที่เข้ามา เพราะว่าคนเก่าที่นี่ปลอดภัยแล้ว ก็เลยจำเป็นที่จะต้องคัดกรองกันสักนิดหนึ่ง

    ช่วงเย็นนี้ทางคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิก็สูญเสียหลวงพ่อพระครูเกษมกาญจนกิจ เจ้าอาวาสวัดลิ่นถิ่นพัฒนาราม เจ้าคณะตำบลลิ่นถิ่นเขต ๑ มรณภาพด้วยอายุ ๖๔ ปี ก็ต้องบอกว่ามากกว่ากระผม/อาตมภาพแค่ปีเดียว

    ต้องบอกว่า ในเรื่องของความตายนั้นหาความแน่นอนไม่ได้ เด็ก ๆ จำนวนมากตายไป เราก็เห็นกันอยู่ รุ่นเดียวกับเราที่ตายไปก็มี ส่วนที่อายุมากกว่าไม่ต้องพูดถึง ตายให้เราเห็นกันอยู่แทบจะทุกเมื่อเชื่อวัน


    แต่เป็นเรื่องแปลกที่ว่าเรามักจะไม่คิดว่าตนเองต้องตาย ต่อให้เจ็บไข้ได้ป่วยหนักหนาแค่ไหน อยู่โรงพยาบาล ก็คิดอยู่เสมอว่าเราต้องรอด จนกระทั่งบางคนจัดการเรื่องหลังไม่ทัน เพราะไม่คิดว่าตนเองจะต้องตาย ก็เลยทำให้ด้านหลังวุ่นวายกันด้วยเรื่องของทรัพย์สินมรดก


    ตรงจุดนี้ ถ้าหากว่าไม่ใช่นักปฏิบัติธรรมจริง ๆ พอพูดถึงความตายก็มักจะโดนตำหนิ เพราะถือว่าเป็นเรื่องอัปมงคล ความจริงถ้าจะว่าไปแล้ว เรื่องของความตายนั้นเป็นธรรมดาที่มนุษย์และสัตว์ทุกรูปทุกนามจะต้องพบจะต้องเจอ เป็นการเปลี่ยนรูป เปลี่ยนขันธ์ ไปตามบุญตามกรรมที่ตนเองสร้างมาเท่านั้น ตราบใดที่ยังไม่สามารถหลุดพ้นเข้าสู่พระนิพพานได้ ก็ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดแบบนี้ไปไม่รู้จบ
     
  3. iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,396
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,532
    ค่าพลัง:
    +26,369
    โดยเฉพาะช่วงนี้ ถ้าเป็นสมัยก่อน เขาเรียกว่า "๗ วันอันตราย" เพราะว่ามีการเดินทางมาก เนื่องจากว่ากลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลสงกรานต์ แต่ว่าปัจจุบันนี้อันตรายทุกวัน ดังนั้น...เรื่องของ ๗ วันอันตรายก็เลยแผ่วปลาย หรือว่าซาลงไป ต้องมาระวังตัวกันทุกวัน

    ในส่วนที่น่าเป็นห่วงก็คือว่า บรรดาพี่น้องชาวอีสานเดินทางกลับภูมิลำเนาตั้งแต่ ๒ - ๓ วันก่อน ถนนมิตรภาพรถติดกันมาก ที่ว่าน่าเป็นห่วง อันดับแรกเลยก็คืออุบัติเหตุ โดยเฉพาะถ้าเมาแล้วขับ อย่าได้คิดว่าเรากินเหล้ากินเบียร์ไปนิดเดียว

    ทางด้านอเมริกามีการทดลองแล้ว ด้วยการให้คนกินไวน์ไปแค่ ๒ แก้ว ซึ่งไวน์นั้นต่อให้หมักเต็มที่อย่างไร แอลกอฮอล์ก็มีไม่เกิน ๕ เปอร์เซ็นต์ ปรากฏว่าถอยรถเข้าซองไม่ได้ กะระยะผิด ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เมา แต่ผลกระทบจากแอลกอฮอล์ทำให้ประสาทร่างกายเพี้ยน

    ประการที่สอง นอกจากอุบัติเหตุแล้ว ก็คือจะนำเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ กลับไปฝากญาติพี่น้องของตนเองหรือเปล่า ? โดยเฉพาะสงกรานต์ซึ่งปัจจุบันนี้ถือว่าเป็นเทศกาลที่มีความสำคัญที่สุด

    ก่อนหน้านี้ยังมีตรุษจีน ที่คนเดินทางกลับภูมิลำเนา จนกระทั่งกรุงเทพฯ เหมือนกับเป็นเมืองร้าง ปัจจุบันนี้ตรุษจีนลดน้อยถอยลง ขาดความสำคัญไป เพราะว่าคนรุ่นใหม่ ๆ ไม่ค่อยจะคิดว่าตนเองเป็นคนจีนแล้ว ทั้ง ๆ ที่ถ้าหากว่าไล่ย้อนหลังไปไม่เกิน ๓ ชั่วคน มีอากงอาม่ากันทั้งนั้น

    ในเมื่อทุกคนไม่คิดว่าตัวเองเป็นคนจีนแล้ว ตรุษจีนก็ลดความสำคัญลง ก็เหลือแต่สงกรานต์ที่ถือเป็นวันรวมญาติ และโดยเฉพาะทางราชการกำหนดให้วันที่ ๑๔ เมษายนเป็นวันครอบครัว
     
  4. iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,396
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,532
    ค่าพลัง:
    +26,369
    เมื่อคนจำนวนมากมีการเคลื่อนไหว เคลื่อนที่ เคลื่อนย้าย ก็เท่ากับกระจายโรคไปด้วย ดังนั้น...ไม่ต้องให้หมอมาบอกมากล่าว เราก็ต้องเข้าใจว่าหลังสงกรานต์ผู้ติดเชื้อไวรัสจะมีมากขึ้นอีกหลายเท่า

    พวกเราที่อยู่ที่นี่จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องระมัดระวังตัวเอง ช่วยกันตรวจ ช่วยกันคัดกรอง ช่วยกันเว้นระยะ อย่างน้อย ๆ วัดท่าขนุนของเรายังไม่เสียสถิติ ต้องบอกว่าระลอกที่ ๖ เข้ามาแล้ว ไม่รู้ว่าพกหลวงพ่ออะไร แคล้วคลาดกันมาได้ตลอด

    โดยเฉพาะกระผม/อาตมภาพเองถือว่าเป็นผู้เสี่ยงสูงสุด เนื่องจากว่าถ้าอยู่วัดก็จะบิณฑบาตทุกวัน แล้วมีบางวันเห็นหน้าคนใส่บาตรก็สะดุ้ง เพราะหมอเพิ่งจะระบุว่าไอ้นี่ติดเชื้อ ให้ไปกักตัวอยู่ที่บ้าน ดันเกิดจิตศรัทธาขอใส่บาตรก่อน
    ช่วงนั้นระยะเวลา ๘ วัน ตรวจ ATK ไป ๖ ครั้ง ปรากฏว่าเกิดมาดวงยากเข็ญ จะได้นอนยาว ๆ สัก ๗ วัน ๑๔ วัน ก็ไม่ได้นอน ไม่ว่าจะตรวจที่ไหนก็รอดทุกที จนกระทั่งญาติโยมไปลือกันว่าแขวนวัตถุมงคลวัดท่าขนุนแล้วไม่ติดเชื้อไวรัสโควิด ๑๙

    กระผม/อาตมภาพคนสร้างวัตถุมงคล ขอบอกเองว่าเอ็งคิดผิด เพราะเท่าที่สังเกตดู คนที่เขาแคล้วคลาดจริง ๆ นั้น มีการสวดมนต์ไหว้พระ อุทิศส่วนกุศลอยู่ทุกวัน ส่วนคนที่ทำบ้างไม่ทำบ้าง ติดกันไปเยอะแล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เท่ากับว่าเขาบังคับให้เราสร้างความดี ในเมื่อสถานการณ์บังคับ ก็แปลว่าเราควรที่จะเร่งทำความดีให้มากเข้าไว้


    โดยเฉพาะส่วนที่แนะนำก็คือการภาวนาพระคาถาเงินล้าน เนื่องเพราะว่าพระคาถาเงินล้านนั้น ประกอบด้วยพระคาถาหลายบทด้วยกัน มีทั้งปัดอุปสรรค มีทั้งเร่งลาภ มีทั้งรักษาทรัพย์ ถือว่าเป็นคาถาที่สมบูรณ์อยู่ในตัวแล้ว เพียงแต่ว่าต้องวางกำลังใจให้ถูกต้อง


    ส่วนญาติโยมที่เข้าไปจองวัตถุมงคลในเว็บวัดท่าขนุน ช่วงสงกรานต์นี้ต้องบอกว่าน่าเป็นห่วงมาก เพราะว่าบางท่านอาจจะเที่ยวสงกรานต์เพลิน ลืมโอนเงิน หรือไม่ก็โอนผิดกระทู้ เดี๋ยวก็ได้ตายกันเกลื่อนเว็บอีก

    โดยเฉพาะช่วงหลังวันที่ ๑๕ มีหลายกระทู้ที่จะโดนปิดลง อย่างเช่น กระทู้ร่วมบุญสร้างหัวรถจักรโบราณ ซึ่งตอนนี้ความคืบหน้าทุกอย่างหยุดชะงักหมด เพราะว่าคนทำติดเชื้อไวรัสกันหมดเลย

    กระทู้กฐินปลดหนี้วัดชลธราราม (ท่าซิก) ได้ยอดตามที่เรียนถวายหลวงพ่อพระครูวัชรชลธรรมไปแล้ว ว่าจะหาถวายท่าน ๕ ล้านบาท ตอนนี้ทะลุไปจะ ๖ ล้านบาทอยู่แล้ว

    กระทู้สร้างวิทยาสงฆ์กาญจนบุรี ก็ต้องบอกว่ากว่าที่จะถอนทุนคืนได้แทบตาย มารอดได้เพราะจำหน่ายเหรียญทองคำรัชกาลที่ ๕ แล้วก็ไม่ต้องหา หมดเกลี้ยงไปนานแล้ว
     
  5. iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,396
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,532
    ค่าพลัง:
    +26,369
    ส่วนท่านทั้งหลายที่จองพระยอดขุนพลกาญจนบุรีอยู่ ต้องการเพิ่มหรืออย่างไรก็มีเวลาไม่เกินวันที่ ๑๕ เพราะว่าหลังจากปิดกระทู้ไปแล้ว ถ้าเปิดใหม่อีกทีก็จะเป็นอีกเนื้อหนึ่ง หรือว่าอีกขนาดหนึ่ง ก็ต้องโน่น...ช่วงเข้าพรรษา

    นาน ๆ ที กระผม/อาตมภาพจะสร้างพระเครื่องด้วยเนื้อผงเสียทีหนึ่ง และโดยเฉพาะถ้าใครรู้จักสังเกตทางด้านหลัง จะมีรูปหนุมานขี่สิงห์ หาวเป็นดาวเป็นเดือน โดยปกติแล้วปีขาลโบราณเขาให้ใช้ปีขาล เดือน ๓ วันอังคาร ในการสร้าง ในการเสกวัตถุมงคลที่เกี่ยวกับเสือ

    แต่ว่าที่อยู่ในพระยอดขุนพลกาญจนบุรีนั่นเกินเสือไป ก็คือเป็นไกรสรราชสีห์ แล้วแถมยังมีหนุมานขี่หลังมาอีก หนุมานนั้นเขามีเคล็ดลับว่าใครฆ่าก็ไม่ตาย ทำงานอะไรก็สำเร็จ ไปที่ไหนได้เมียที่นั่น อันนี้ไม่ค่อยจะดี เลี้ยงไม่ไหว
    ส่วนทางด้านหน้าองค์พระนั้นก็คือ พระพุทธเจ้าปางปฐมเทศนา แต่ว่าซ้ายขวากลับมีพระอัครสาวก ซึ่งตอนปฐมเทศนานั้นยังไม่มี ก็เพราะว่าคนออกแบบต้องการจะให้มีครบถ้วนสมบูรณ์ตามที่โบราณเขาถือกันมา ใครต้องการเพิ่มเติมหรืออะไรก็เหลือเวลาแค่ไม่กี่วันเท่านั้น

    ส่วนพวกเราตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป ก็เข้าสู่การปฏิบัติธรรมของการบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งจะไปสิ้นสุดโครงการในวันที่ ๑๗ เมษายน ในระหว่างนั้นกระผม/อาตมภาพก็ต้องวิ่งไปวิ่งมาเกี่ยวกับงานศพ ก็ถือว่าเป็นภาระที่เพิ่มขึ้นมา แต่ว่าจำเป็น

    ดังนั้น...ตรงจุดนี้ที่อยากจะย้ำก็คือว่า ให้ทุกคนตรวจ ATK ถ้ามีผลมากจากทางบ้าน แสดงให้กับเจ้าหน้าที่เขาดู ถ้ายังไม่มี เดี๋ยวมีคนช่วยตรวจให้ หลังจากนั้นก็ระมัดระวังรักษาตัวตนกันเอง อย่าไปมั่นใจ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ว่าเราทำดีแล้ว ทำถูกแล้ว เรารอดแน่นอน ถ้าใครคิดอย่างนั้นก็ประมาทจนเกินไป อาจจะเสียการณ์ในภายหลัง

    วันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเราและบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันอังคารที่ ๑๒ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๕
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     

แชร์หน้านี้