เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๓ มกราคม ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๓ มกราคม ๒๕๖๖
ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 3 มกราคม 2023.
-
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๓ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ ระยะนี้กระผม/อาตมภาพต้องมาไล่ตามงานต่าง ๆ อย่างชนิดหน้ามืดตาลาย เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า ช่วงประมาณครึ่งเดือนที่ผ่านมานั้น งานหลวงงานราษฎร์ชุกชุมหนักจนไม่มีเวลาที่จะทำงาน บรรดาบัญชีตลอดจนกระทั่งรายงานต่าง ๆ ที่จะต้องส่งเมื่อสิ้นปีมีจำนวนมาก ในเมื่อชะงักงัน ไม่ได้ทำต่อเนื่องกันมาหลายวัน ถึงเวลาก็ต้องมาไล่ทำตามทีหลัง
โดยเฉพาะในส่วนที่ยากลำบากนั้นก็คือบัญชีเงินบริจาคออนไลน์ เหตุที่ยากลำบากนั้น สาเหตุแรกก็คือ มีญาติโยมที่ติดนิสัยโอนเงินแล้วต้องใส่เศษสตางค์ เพื่อให้จำได้ว่าเป็นของตนเอง คราวนี้เงินในบัญชีบริจาคออนไลน์นั้น เป็นเงินที่ผูกอยู่กับกรมสรรพากร มีหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี ทุกบาททุกสตางค์ต้องลงบัญชี ชนิดไม่สามารถที่จะขาดได้เลยแม้แต่สตางค์เดียว ไม่เช่นนั้นท่านก็จะโดนข้อหาทุจริตคิดมิชอบ..!
ดังนั้น..ในเมื่อมีเศษสตางค์มากเท่าไร ก็สร้างความลำบากให้กับกระผม/อาตมภาพมากเท่านั้น ถ้าเป็นตัวเลขจำนวนเต็มก็ยังพอไหว อย่างเช่นท่านที่ตั้งอัตโนมัติโอนไว้วันละ ๑ บาท แต่ท่านที่ตั้งอัตโนมัติโอนไว้ครั้งละ ๙๙ สตางค์บ้าง ครั้งละ ๙ สตางค์บ้าง หรือแม้แต่ครั้งละ ๑ สตางค์บ้าง ทุกรายการจำเป็นที่จะต้องเก็บเอาไว้ เพื่อที่จะได้ชี้แจงถ้ามีการตรวจสอบ
แล้วท่านทั้งหลายลองคิดดูว่า บางวันมีผู้โอนเข้ามานับร้อยรายการ แล้วตลอด ๓๐ วัน หรือว่า ๓๑ วันนั้น จะเป็นตัวเลขสักเท่าไร ? แม้ว่ายอดเงินจะไม่สูง แต่ว่าตัวเลขทั้งหมดจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องลงไปตามรายละเอียดที่ญาติโยมโอนเงินบริจาคมา จึงทำให้กระผม/อาตมภาพต้องเสียเวลาอยู่เนิ่นนาน กว่าที่จะลงและตรวจสอบอีกหลายครั้ง ว่าการลงบัญชีนั้นมีความผิดพลาดตรงจุดใดบ้างหรือไม่ ?
อีกส่วนหนึ่งที่ยากลำบากก็คือทางธนาคารกรุงไทย อยู่ ๆ ก็ติดตั้งระบบป้องกันบัญชีขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง ซึ่งถ้าหากว่าเป็นเงินที่แจ้งมาให้กับทางวัดว่าวันนี้มีรายการโอนเงินเท่าไร ทุกวันที่โอนเข้ามา เราจะต้องเข้าไปเปิดเพื่อลงบัญชี
คราวนี้เขามีการเข้ารหัสไว้ โดยที่ให้ทางวัดใช้หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีในการกรอกรหัสเข้าไปดูบัญชี เพื่อที่จะดึงเอาตัวเลขมาลง ทำให้จะต้องกรอกเลขรหัสทุกวัน ตั้งแต่วันที่ ๑ ถึงวันที่ ๓๐ หรือว่าวันที่ ๓๑ สร้างความยากลำบากให้กับผู้ใช้งานอย่างสาหัส..! เพราะว่าผู้ใช้งานที่เป็นพระส่วนหนึ่ง ถ้าหากว่ามีบัญชีบริจาคเงินออนไลน์ ในลักษณะของวัดนำร่องแบบเดียวกับของวัดท่าขนุน ก็จะต้องเจอแบบนี้ทั้งสิ้น -
กระผม/อาตมภาพเข้าใจดีว่าทางธนาคารต้องการที่จะปกป้องบัญชีของลูกค้า แต่ว่าการปกป้องในลักษณะแบบนี้ ทำให้การทำงานของกระผม/อาตมภาพยากลำบากมากยิ่งขึ้น การเสียเวลาในการกรอกตัวเลขนั้น ทำให้วันเวลาผ่านไปเร็วจนคิดไม่ถึง กว่าที่จะทำบัญชีเสร็จ บางทีก็ได้เวลาทำวัตรค่ำแล้ว เป็นต้น
อีกส่วนหนึ่งก็คือ กระผม/อาตมภาพไม่มีเวลาที่จะเข้าไปตรวจการณ์ในเว็บวัดท่าขนุน ตลอดจนกระทั่งเว็บพลังจิต เพราะว่างานหลวงงานราษฎร์ที่ประเดประดังเข้ามา ทำให้ไม่มีเวลาเหลือ ซ้ำบางทีมีเวลาก็เจ็บไข้ได้ป่วย จนกระทั่งไม่สามารถที่จะทรงกายมาทำหน้าที่ได้ จึงทำให้งานต่าง ๆ โดยเฉพาะการตรวจแก้คำผิด ตลอดจนกระทั่งปรับแก้ไขสำนวนการเทศน์หรือว่าการพูด เพื่อที่จะให้เกิดความลื่นไหลในการอ่าน จึงทำให้มีงานค้างอยู่เป็นจำนวนมาก ต้องสละเวลานอนในการมาปรับแก้ไข ไม่เช่นนั้นแล้วอย่างของเว็บวัดท่าขนุน ถ้าท่านรีบคัดลอกเอาเนื้อหาไปลงทีเดียว ก็อาจจะมีคำผิดบ้าง มีเนื้อหาที่ไม่ลื่นไหลบ้าง ดังนั้น..ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายใจเย็นสักนิดหนึ่ง อย่าเพิ่งรีบคัดลอกไปเผยแพร่ ก็จะทำให้ทางวัดทำงานได้สะดวกยิ่งขึ้น
อีกส่วนหนึ่งก็คือ ในเรื่องของกรรมฐานช่วงเช้ามืด ซึ่งกระผม/อาตมภาพจะนำในการเจริญพระกรรมฐานให้แก่ญาติโยมที่บวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรมแต่ละรุ่น กรรมฐานช่วงนั้นเป็นกรรมฐานที่ต้องฟัง ไม่ใช่อ่าน ฟังแล้วน้อมใจปฏิบัติไปตามนั้น กระผม/อาตมภาพบอกแล้วว่า ไม่ต้องเสียเวลาถอดเนื้อหามาเป็นตัวหนังสือ เพราะว่าอ่านอย่างไรก็ไม่เหมือนกับฟังด้วยตนเอง แต่ก็ยังมีคนขยัน ดื้อที่จะถอดเป็นตัวหนังสือออกมา..!
ตรงส่วนนี้ กระผม/อาตมภาพไม่ได้เข้าไปตรวจแก้ไขใด ๆ ทั้งสิ้น ถ้าหากว่ามีข้อผิดพลาดอะไร ก็ยกให้เป็นหน้าที่ของผู้ที่ถอดเสียงเป็นตัวอักษรไปแก้ไขกันเอาเอง ท่านใดถ้าหากว่าพบที่ผิดพลาด หรือว่าอ่านแล้วทำไมรู้สึกว่าสะดุด ? ไปตามไม่ได้ ก็ขอให้รู้ว่า เรื่องของเสียงธรรมยามเช้ามืดนั้น เป็นการนำปฏิบัติธรรมที่ต้องฟังแล้วน้อมใจตามไปเท่านั้น ถ้าหากว่าท่านมาอ่านก็จะมีประโยชน์น้อยมาก
อีกส่วนหนึ่งก็คือในช่วงที่ผ่านมา ทางเว็บวัดท่าขนุนได้ปิดกระทู้ในการทำบุญ เพื่อสร้างตลาดริมแควเมืองท่าขนุน และกระทู้ในการสร้างพระพุทธรูปแก้วประจำพิพิธภัณฑ์วัดท่าขนุนไป ๒ กระทู้ เนื่องจากว่าตลาดริมแควเมืองท่าขนุนนั้นได้ทำการเปิดอย่างเป็นทางการไปแล้ว ในเมื่อเปิดอย่างเป็นทางการ ผู้คนส่วนก็เข้าใจว่าสร้างเสร็จแล้ว แล้วจะยังมาบอกบุญอะไรกันอีก ? -
ความจริงสิ่งที่บอกบุญไปนั้น ยังไม่ได้แม้แต่ครึ่งหนึ่งของราคาการก่อสร้าง ก็คือ ๑๔ ล้าน ๕ แสนบาทในเบื้องต้น ไม่ต้องพูดถึงเรื่องของการประดับ การตกแต่ง การลงร้านจำหน่ายสินค้า แต่เพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลต้องเดือดร้อนด้วยการสร้างกายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม กระผม/อาตมภาพจึงสั่งให้ไอ้ตัวเล็กทำการปิดกระทู้ไป ทันทีที่พิธีเปิดตลาดริมแควเกิดขึ้นเรียบร้อยแล้ว พูดง่าย ๆ ว่าเมื่อมีพิธีเปิดตลาด ก็แปลว่าปิดกระทู้ไปได้เลย
อีกส่วนหนึ่งก็คือพระพุทธรูปแก้วนั้น มีผู้ทำบุญมาในจำนวนปัจจัยที่เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย ในการที่จะไปจ่ายให้กับทางโรงงานเขาแล้ว เดือนนี้ทางโรงงานก็จะเบิกงวดที่สอง เพื่อที่จะได้เริ่มการแกะสลักองค์พระ แล้วหลังจากนั้นงวดสุดท้ายที่จะต้องจ่าย ก็ต่อเมื่อมีการส่งองค์พระนั้นไปจนถึงที่ประดิษฐานในพิพิธภัณฑ์วัดท่าขนุน ในเมื่อกระทู้นี้ได้รับเงินในจำนวนที่เพียงพอแก่การใช้งานแล้วจึงต้องปิดลงเช่นกัน
อีกกระทู้หนึ่งซึ่งจะปิดลงภายในไม่กี่วันนี้ก็คือ กระทู้การสร้างเรือนไม้ไผ่ลานธรรมลานปัญญา ๔ ทิศ ซึ่งกระผม/อาตมภาพนั้น ได้ช่วยพระมหาวิสูตร วิสุทฺธิปญฺโญ ป.ธ.๙ รองเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี สร้างเพื่อเป็นแหล่งจัดนิทรรศการสำหรับเด็กนักเรียน เข้าไปศึกษาหาความรู้ในด้านต่าง ๆ เพียงแต่ว่ากำหนดการนั้นก็คือ จะไปมอบเงินให้ในวันเสาร์ที่ ๑๔ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ นี้ ซึ่งเป็นวันเด็ก ในเมื่อเราจะไปมอบเงินแล้ว ก็แปลว่าจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปิดกระทู้ไปอีกเช่นกัน
คราวนี้ในส่วนอื่นที่อยากกล่าวถึงก็คือว่า วัตถุมงคลในกระทู้ ซึ่งกระผม/อาตมภาพนำเอาวัตถุมงคลส่วนตัวบางส่วนมาลง เพื่อให้ท่านทั้งหลายได้บูชา จะได้มีปัจจัยไปช่วยเหลือหรือว่าทำงานต่าง ๆ ที่ตั้งใจเอาไว้นั้น
วัตถุมงคลส่วนหนึ่งก็คือวัตถุมงคลของหลวงปู่บัว วัดบางหัวเสือ ได้แก่ "พระปิดตา ๑,๐๘๐ ไฟ" คำว่า พระปิดตา ๑,๐๘๐ ไฟในที่นี้ มีหลักการสร้างก็คือ เมื่อนำเอาตะกั่วมาหลอม ตีแผ่เป็นแผ่น ลงอักขระเลขยันต์ปลุกเสกแล้ว ก็นำไปหลอมใหม่ แล้วก็ตีแผ่เป็นแผ่น ลงอักขระเลขยันต์ปลุกเสกซ้ำ ทำอย่างนี้จนครบ ๑,๐๘๐ ครั้ง ถึงจะหล่อขึ้นมาเป็นองค์พระ -
คราวนี้พระปิดตาพิมพ์นั่งยอง หรือว่าพระปิดตาพิมพ์ปุ้มปุ้ยที่ลงไปนั้น เป็นพระปิดตาที่หลวงปู่บัวท่านสร้างในสมัยที่ยังเป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่วัดรวก ซึ่งช่างในยุคนั้นเป็นช่างฝีมือที่ดีมาก ทำให้สามารถสร้างองค์พระปิดตาออกมาได้งดงามสมส่วนสัด และมีพิมพ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง
จนกระทั่งเมื่อมาเป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่วัดบางหัวเสือแล้ว ช่างทางด้านนี้ไม่ใช่ช่างฝีมือระดับสุดยอดเหมือนอย่างกับสมัยที่หลวงปู่ท่านอยู่ที่วัดรวก จึงทำให้แบบแม่พิมพ์ต่าง ๆ นั้น บางทีเราก็แทบดูไม่ออกว่าเป็นแม่พิมพ์ หรือว่าแบบพิมพ์พระชนิดใด นอกจากใช้ความชำนาญ หรือว่าได้รับคำบอกกล่าวจากผู้ที่มีความชำนาญในวัตถุมงคลสายนี้โดยเฉพาะ จึงทำให้ท่านทั้งหลายอาจจะสงสัยว่า เมื่อค้นหาข้อมูลวัตถุมงคลของวัดบางหัวเสือ ทำไมจึงไม่เจอวัตถุมงคลรุ่นที่กระผม/อาตมภาพนำลงไปแล้ว
ในชีวิตของกระผม/อาตมภาพนั้นก็ได้พระปิดตาหลวงปู่บัวมาแค่ ๓ องค์ เก็บเอาไว้สำหรับตนเอง ๑ องค์ อีก ๒ องค์ก็นำไปลงกระทู้อย่างที่ท่านทั้งหลายได้เห็นมา ท่านที่เข้าใจผิดว่า ไม่ใช่พระของหลวงปู่บัว วัดบางหัวเสือ ขอให้โปรดทราบว่า หลวงปู่บัว วัดรวก หรือว่าหลวงปู่บัว วัดบางหัวเสือนั้นเป็นองค์เดียวกัน ท่านอยู่ที่วัดรวกมาก่อนที่จะไปอยู่ที่วัดบางหัวเสือ
อีกเรื่องหนึ่งก็คือยาเม็ดวาสนาจินดามณีที่กำลังลงอยู่ในกระทู้นั้น หลวงพ่อพิจารย์ วิจารโณ วัดโพธิ์ผักไห่ ท่านถวายมาเพื่อสร้างบุญกุศลสำหรับตนเอง ก่อนที่ท่านจะเข้ารับการผ่าตัดสมอง เป็นการไม่ประมาท สร้างบุญส่งท้ายเอาไว้ เผื่อว่าชีวิตไม่สามารถที่จะเก็บคืนมาได้ ก็ถือว่าสร้างบุญอย่างเต็มที่แล้ว
กระผม/อาตมภาพจึงรีบให้ไอ้ตัวเล็กนำไปลงกระทู้ เพื่อให้ท่านทั้งหลายได้ร่วมบุญด้วยกัน เพียงแต่ว่าไอ้ตัวเล็กนั้นนำมาเข้าพิธีซ้ำอีกในพิธีภาวนาพระคาถาเงินล้าน ๑๐๘ จบ จึงทำให้วัตถุมงคลซึ่งสร้างจากยาจินดามณี หรือว่ายาเม็ดวาสนาจินดามณีชุดนี้ ได้รับการปลุกเสกซ้ำเติมอีกครั้งหนึ่ง ถือว่าเป็นส่วนที่พิเศษ ท่านทั้งหลายซึ่งบูชาไป จะนำไปรับประทาน รักษาโรคภัยไข้เจ็บ หรือว่าอธิษฐานเพื่อความเป็นศิริมงคลแก่ชีวิต ก็ขอเชิญอธิษฐานได้ตามอัธยาศัย
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๓ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)