เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย พี เสาวภา, 7 เมษายน 2008.

  1. พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    37,989
    ค่าพลัง:
    +146,260
    ผมตามหลวงพ่อทรงไปในงานพิธีปลุกเสกหลวงพ่อเถื่อน ที่สุพรรณบุรี ปี ๒๕๔๘
    หลวงพ่อทรง เจิมป้าย ให้ญาติโยม
    หลวงพ่อทรงเสกวัตถุมงคล
    หลวงพ่อทรงจารวัตถุมงคล
    หลวงพ่อทรงเททองหล่อรูปเหมือนของท่าน ปี ๒๕๔๙
    หลวงพ่อทรงเททองหล่อพระปี ๒๕๔๙
    หลวงพ่อกำลังเททองนายบี ( ตามเรื่อง ) ถือร่มให้

    หลวงพ่อทรง เข้าโรงพยาบาล
    <O:p</O:p
    รูปเหล่านี้นี้ไม่ใช่ในโรงพยาบาลน่ะครับ ตอนท่านป่วยผมไม่กล้าถ่ายรูปท่าน เพราะออกจะล่วงเกินสิทธิส่วนบุคลท่านมากไป แล้วอาจจะเป็นภาพที่ไม่น่าดูด้วยสำหรับสมณะเพศ แม้จะเป็นสัจจะของชีวิต เอาว่าไม่ถ่ายก็แล้วกัน


    ข้อเขียนผมนี่ ตอนนี้อาจจะเป็น climax ของเรื่องผม เกี่ยวกับหลวงพ่อ ที่ทำให้ผม ซาบซึ้งในความเป็นพระของหลวงพ่อ มันไม่ใช่เครื่องรางของขลัง ที่เป็นสิ่งสมมุติที่ทำให้เราติดตรึงอยู่กับเรื่องสมมุติ แต่เป็นเรื่องจริงของชีวิตในการที่คนเรากำลังมาถึงตอนที่สำคัญที่สุดของชีวิตเรา คือการเผชิญ พญามัจจุราชที่เราต่างหวาดหวั่น และหลวงพ่อทรงก็ไม่สามารถหลีกหนีเหตุการณ์นี้ได้ แต่ท่านพร้อมเผชิญมันอย่างสติสมบูรณ์ นิ่ง และอาจหาญยิ่ง


    <O:p</O:p
    ผมกลับไปอ่านของเดิมแล้วอยากจะขยายความหน่อยครับ การเขียนนี่มันยากกว่าการพูด ฟังแล้วอาจจะข้ามอะไรที่สำคัญบางตอนไปได้ เช่นบุคลิกของหลวงพ่อที่ผมรู้จัก


    <O:p</O:p
    หลวงพ่อทรง ท่านเป็นคนที่สุภาพมาก อาจจะถึงแบบมากที่สุด และเป็นคน " นิ่ง " การพูดจาจะสุภาพ พูดค่อย เบา เหน่อนิดๆ การพูดเป็นพื้นฐานคนมีภูมิ หรือ มีความรู้ ผมไม่เคยได้ยินท่านด่า หรือ สบถเลย คำว่ามึงกูผมก็ไม่เคยได้ยิน อาจจะมีเฮ้ย ข้าๆเองๆกับคนบางคนบ้างแต่เป็นไปแบบผู้ใหญ่เอ็นดูเด็ก การพูดของท่าน จัดว่าพูดแบบมีสติสมบูรณ์จริงๆ อาจจะมีสัพยอก หมา แมวบ้าง หรือ ก่ะ นายบี คนสติไม่เต็มที่อยู่ที่วัดบ้าง ตามรูปสุดท้ายที่ถือร่มให้ท่านน่ะครับ

    <O:p</O:p
    เรื่องนายบีนี่ของกล่าวนิด เป็นคนไม่มีหลักแหล่งแน่นอนในที่เกิด ไม่มีพี่น้องหรือ ครอบครัวที่แน่นอน เป็นคนสติไม่เต็ม แต่ตาไม่ขวางมากหรือ อาละวาด บ็องๆ เอาว่าไม่เต็มก็แล้วกัน อาศัยอยู่วัดใน กทม แห่งหนึ่ง มาพบหลวงพ่อเพราะตามเขามา เรียกว่าเป็นคนพเนจรมาก็คงได้ หลวงพ่อเมตตา ชวนอยู่วัด ไว้รับใช้ซื้อของให้หลวงพ่อ นวดท่านบ้าง อันนี้ท่านชอบ และบดผงพระ ที่ท่านเตรียมไว้ เรียกว่าเป็นงานหลัก หลวงพ่อถ้าได้คุยก่ะนายคนนี้ จะคุยกันเป็นตุเป็นต่ะ สัพยอกหยอกล้อกัน เรียกว่าท่านคุยได้อย่างสบายๆไม่ต้องวางฟอร์ม เรื่องที่คุยก็ไม่ได้มีสาระอะไรมาก ไม่ใช่ธรรมะ หรือ ปรัชญา แต่เรียกว่าคุยกันได้เฮฮาพอสมควรถูกใจท่าน


    <O:p</O:p
    เคยมีคนกล่าวว่าอัจฉริยะและคนบ้านี้มีความใกล้เคียงกัน หลวงพ่อก่ะนายบีนี้ก็จัดว่าเป็นตัวอย่างได้เพราะคุยกันรู้เรื่อง ผมคุยก่ะนายบีนี่ไม่ค่อยได้เรื่องราวเท่าไหร่ เพราะแกไม่มีสาระ น่าเบื่อ นอกจากใช้ไปซื้อของให้ หรือ แกมาไถพระผม อันนี้รู้เรื่องกัน ตอนหลังถูกข้อหาว่าขโมยพระในตู้เก็บพระ เพราะอดเอามาโชว์เขาไม่ได้ เลยถูกอับเปหิไปจากวัดมอญ แต่ก็ยังมีจิตศรัทธาในองค์หลวงพ่อ ไปจัดผ้าป่ามาทอดให้วัดได้ เห็นว่าได้เงินหลายหมื่น

    <O:p</O:p
    อันนี้จะเห็นภาพด้านหนึ่งของหลวงพ่อ ที่บางทีวางตัวนิ่ง แต่ก็ชอบคุยสนุกๆสบายๆ แบบไม่ซีเรียส อันนี้จะรวมถึงคนเมาด้วยแถวข้างวัด ผมจำชื่อไม่ได้ ถ้าไม่เมาแกจะไม่เข้าวัด แต่ถ้าเมาแล้วก็จะเข้ามาคุยธรรมะกับหลวงพ่อ ผมก็นั่งอยู่ด้วย แบบว่ารำคาญมากแต่ไม่กล้าพูดไร แกจะคุยเป็นคุ้งเป็นแคว หลวงพ่อท่านก็นั่งคุยด้วยไม่ลุกหนี ถ้าเป็นอาจารย์อื่น รับรองต้องถูกตะเพิด หรือ โดนไม้ตะพดอย่างแน่นอน


    <O:p</O:p
    เวลาท่านไปไหนก่ะผม พอมีคนถามว่าท่านมาจากไหน แบบว่าอาจจะเคยพอได้ยินชื่อ แต่ไม่เคยมาวัด ไม่รู้จัก ท่านจะบอกว่ามาจากวัดมอญ อันนี้เป็นคำของท่าน ซึ่งผมนำมาใช้เรียกว่าหลวงพ่อวัดมอญ คนที่ไม่รู้จักท่านนี้ วิเศษก็มี อ่างทองก็มี แถวสามโก้ใกล้ๆก็มี อันนี้ไม่เห็นท่านเดือดร้อนอะไร แต่ผมจะบอกว่าคนประเภทใกล้เกลือกินด่างนี่ ประเทศไทยมีเยอะเป็นค่านิยมอย่าง บางที่ไปข้ามอำเภอ หรือ บางทีข้ามจังหวัดก็มี ข้ามหลายจังหวัดก็มี ไปหาพระที่คิดว่าเก่ง แต่หลวงพ่อข้างบ้านไม่สนใจ ทำให้บางที ไปแล้วถูกแซวกลับ หรือ เจอที่ไล่ให้กลับก็มีว่า หลวงพ่อแถวบ้านโยมน่ะ เก่งกว่าอาตมาอีก ...แหะๆ ( อันนี้พูดแบบสุภาพ )


    <O:p</O:p
    ทีนี้มาเข้าเรื่องหลังจาก Intro มานาน อันนี้เป็นความเห็นผมน่ะ เราชอบเครื่องรางของขลัง เราก็ต้องชอบพระ หรือ ฆราวาส ที่ปฏิบัติ ทีนี่คนเราขยัน คร่ำเคร่งปฏิบัติไป ก็ขยับขั้นทางจิตสูงขึ้นไปเรื่อยๆ จนบางท่านล่ะกิเลสได้เข้าสู่แดนอริยะ สภาวะทางจิตแตกต่างจากปุถุชนคนธรรมดาทั่วไป การที่จะไปสังเกตดูคนประเภทนี้ ทำได้ยากมากๆๆที่จะเห็นจริง เพราะสภาวะจิตของปุถุชน มันไม่ถึงขั้น คีลห้ายังขาดวิ่น สัจจะยังรักษาไม่ได้ ทำมาหากินก็เหนื่อยแทบตาย มีแต่ศรัทธา แต่ไปบอกก่ะเกณฑ์ ว่าองค์นี้สำเร็จ องค์นี้ปฏิบัติดี องค์นี้เป็นพระอริยะ .... แหะๆ ผมว่าดูคนพูดแล้ว ความน่าเชื่อถือมันมีน้อยมากน่ะ

    <O:p</O:p
    พวกปริยัติ น่ะอ่านมาแล้วมากๆ แล้วเป็นสัญญา เป็นมาจากอดีตชาติ บวกกับความเลื่อมใส แล้วความอยาก "ให้เป็น" สรุปเอาเองน่ะครับ ว่าองค์นี้อรหันต์ องค์นี้สำเร็จกิจแล้ว แต่......พระอรหันต์จริงๆน่ะหายากครับเชื่อผมเถอะ จะมีจริงหรือปล่าวตอนนี้ก็ไม่มีใครรู้มีแต่เดา เอาแค่บอกว่าปฏิบัติดีเป็นแนวไหนก็พอแล้วสำหรับปุถุชน


    <O:p</O:p
    แค่ปุถุชน ธรรมดา คบกันตั้งนานแล้วเป็นสิบๆปีก็ยังมี ยังไม่รู้นิสัยที่แท้จริงกันเลย คบไปตั้งนานลายถึงจะเพิ่งออก ดูคนข้างตัวกันซิว่ารู้จักเขามากแค่ไหนคบกันมาตั้งนาน แต่อันนี้ยิ่งยากกว่า จะเข้าไปดูจิตของอีกคน ว่าถึงขั้นไหน แล้วมาสรุปได้ว่าสำเร็จขั้นไหน คุณเป็นใครหรือครับเก่งจัง สามารถบอกได้ว่าพระองค์ไหน สำเร็จกิจ องค์ไหนสำเร็จพระอรหันต์ ไม่ทราบไปอ่านตำรามาจากเล่มไหน หรือ ฝึกมาจากสำนักใด ผมจะไปเรียนด้วยขอเป็นลูกศิษย์!!!.......แหะๆ


    <O:p</O:p
    พระนี่ก็คนนี่แหละ บวชคร่ำเคร่งมาตั้งนาน แต่ที่ยังล่ะกิเลสไม่ได้น่ะมีเยอะมาก แล้วบางทีลายพึ่งมาออก หรือมาออกตอนแก่ก็มี ที่นี้เหลือแต่ว่าจะข่มไว้ได้หรือไม่ ถ้าข่มไม่ได้ก็แย่กว่าคนธรรมดาพวกคุณ พวกผมซ่ะอีกน่ะครับ


    <O:p</O:p
    แต่ทุกสิ่งมันมีข้อยกเว้นครับ มีคนสองประเภทที่ดู พระออก หนึ่งคือ พระด้วยกันครับ สองคือ หมอ ทำไมหรือครับ


    <O:p</O:p
    พระนี่ท่านก็มีชีวิตมีกฎแบบพระ ไม่เหมือนฆราวาสครับ เราเอามาตรฐานชีวิตเราไปก่ะเกณฑ์ให้เหมือนกันไม่ได้ เราต้องรู้กฎ รู้กติกาของพระ เหมือนเราเล่นบอลเป็น รู้กฏรู้กติกา ชำนาญดี แม้จะเล่นไม่เก่ง แต่พอดูคนอื่นเล่น บอกได้เลยว่าเก่งมากเก่งน้อย ทีมไหนดี ทีมไหนห่วย พระก็เหมือนกันครับ ท่านดูกันออก แม้พระจะไม่เก่งแต่ดูพระเก่ง ออก ยิ่งพระเก่งๆแล้วยิ่งดูกันออกใหญ่ แต่ถึงกระนั้น บางทีอาจจะต้องพูดคุยกัน สอบภูมิ สอบอารมณ์กัน เห็นไหมครับ พระยังต้องคุยกัน แล้วสำหรับเราน่ะมันยากแค่ไหนสำหรับคนธรรมดา อย่างเก่งแค่อ่านตำราหรือนวนิยายที่เขาเขียนมา แล้วมาสรุปเอาเอง

    <O:p</O:p
    ผมได้รู้เรื่องหลวงพ่อเจริญ วัดตาลานใต้ จ. อยุธยา ก็เพราะมีพระท่านบอก ที่มีเมตตาบอก ทำให้ผมศึกษาคลุกคลีเรื่องท่าน แล้วผลที่รู้ก็น่าพอใจ อยากรู้ว่าพระองค์ไหนดี ลองถามพระด้วยกันซิครับ อย่าไปถามฆราวาสเลยเพราะกิเลสเยอะ คำตอบอาจจะไม่เหมือนที่คุณคิดก็ได้ หรือไม่เหมือนกับที่คุณ " อยาก " ให้เป็นก็ได้


    <O:p</O:p
    คนอีกประเภทคือหมอครับ คนที่เป็นหมอจัดว่าสติปัญญาดีกว่าคนธรรมดา ทำงานเกี่ยวกับความเจ็บและความตาย ได้เห็นสัจจะธรรม ของเกิด แก่เจ็บ ตาย บางคนเห็นแทบทุกวัน ยิ่งบางหมอท่านศึกษาธรรมมะแล้ว ก็ยิ่งเห็นสัจจะธรรมนั้นได้มากว่าคนธรรมดา ผิดกับคนธรรมดา ที่ไม่ค่อยได้เห็น เกิด แก่ เจ็บ ตาย เพราะทำงานด้านอื่น ถูกกิเลสแห่งความ " อยาก " หลอกเอาทุกวัน จนชินเป็นนิสัย

    <O:p</O:p
    พระนี่ก็คนนี่แหละ พอเจ็บ พอจะตาย ทุกขเวทนามีมาก ลายมันออก ครับ มีพระนักวิปัสนาชื่อดัง อันนี้นานแล้วน่ะ มาพักที่สำนัก แถวพุทธมณฑล หายใจไม่ออก พอจะตายร้องเอะอะโวยวาย เสียงดัง คนตกใจไปหมด ผมอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย ผมช่วยเขาหามพากันไปโรงพยาบาล พอไปถึงโรงพยาบาล ตกลงไม่ตายเลยเงียบได้ แต่นอนร้องไห้อยู่เงียบๆ เพราะตกใจ ไม่บอกชื่อครับหาเอาเองน่ะครับ เพราะมีพยานเยอะ แต่ผมเลิกไป


    <O:p</O:p
    เรื่องหลวงพ่อทรงตอนที่มาที่โรงพยาบาล ธ...ครั้งสุดท้ายน่ะ ผมเป็นห่วงมาก เพราะหมอไม่ทำอะไร บอกเลยว่าจากการพูดคุยตั้งแต่ครั้งแรกกับท่านตอนที่เจอกัน ท่านบอกผมเลยว่าตัดปลายปอดไปข้าง ชีวิตอย่างไร ยังไงต้องตายแน่นอน และผมก็สงสัยแล้วว่าอะไร จนหลานหลวงพ่อมาบอก ว่าเป็นมะเร็ง อย่างที่ผมคิด ผมจะไม่เอ่ยถึงหมอที่โรงพยาบาลนี้ ล่ะ เพราะทางใครทางมัน เอาว่าผมถามหลวงพ่อที่นอนบนเตียงว่าไปกับผมไหม ท่านบอกว่าไป สั้นๆแล้วพยักหน้า ผมปรึกษาหลานท่านแล้ว ให้บอกโรงพยาบาลเอาประวัติแล้วพาท่านออก ผมพาหลวงพ่อที่ไม่ค่อยจะมีแรงแล้วขึ้นรถผมมาที่วิชัยยุทธทันที

    <O:p</O:p
    การรักษานี่น่ะครับ ถ้าท่านเป็นคนธรรมดาเขารักษาท่านอย่าง ถ้าท่านเป็นคนรู้จักหมอที่รักษาเขารักษาท่านอีกอย่าง แต่ถ้าท่านเป็นหมอแล้วเขารักษาอีกอย่าง ท่านจะรู้ความจริงมากขึ้นว่าอะไร ผมตัดสินใจพาไปหาหมอที่ผมรู้จัก และเชื่อใจ หลวงพ่อท่านก็ตามผมมาแบบตกลงใจ โปรดทราบว่าท่านเป็นขี้เกรงใจคน ท่านเกรงใจหมอเก่าที่รักษาท่านมานาน แต่ผมเห็นอาการท่านแล้วต้องใจแข็งพาท่านมาแหละครับ


    <O:p</O:p
    อย่างที่บอก ผมรู้จักกับหมอ สุ... ที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธมานาน มานานเพราะรักษาตั้งแต่แม่ผม เมียผม ไปจนผมและลูก สนิทสนมกันพอสมควร

    <O:p</O:p
    หมอนี่แหละ เป็นคนเล่าให้ผมฟังเพราะที่วิชัยยุทธนี่ชอบรักษาพระที่ปฏิบัติดีน่ะครับ แต่ พระก็คนนี้แหละ พอเจ็บ ต้องผ่า ท่านหนึ่งหมอจดมีดเลยยังไม่ได้ผ่า ท่านร้องโอดโอยจะตาย จนหมอหมั่นไส้ต้องทำให้สงบ แล้วทักว่าหลวงพ่อเป็นพระอรหันต์!!!น่ะครับ เลยเงียบ ทำงานต่อไปได้ องค์นี้ผมก็ไม่พูดชื่อ

    <O:p</O:p
    บางองค์นั่งบนเตียงแล้ว พอยังไม่ทันลับหลังพยาบาล รีบยกมือถือโทรหาสาว " ไง น้องเชอร์รี่เป็นไง ?" พยาบาลฟังแล้วงง คุยยังก่ะหนุ่มๆกรุ้มกริ่มทั้งที่แก่จะตายอยู่แล้ว เขาเอามานินทากัน ทั่วโรงพยาบาล


    <O:p</O:p
    บางท่านก็ห่วงแต่ซองที่ญาติโยมมาทำบุญให้ ว่าเท่าไหร่ ห่วงอยู่นั่น มีเท่าไหร่เอากลับวัดหมด เรียกว่ามาโรงพยาบาลมาหาเงิน มาบ่อยๆ ที่พูดมานี่มีตัวตนน่ะครับ ยังมีชีวิตอยู่ แต่หาเอาเองน่ะครับ อาจารย์ใครๆก็นับถือน่ะ ผมทราบ


    <O:p</O:p
    แต่หมอบอกผมเองว่าไม่นับถือ พระประเภทนี้ รักษาไปตามหน้าที่น่ะแหละ คนเราน่ะครับให้นุ่งผ้าเหลืองด้วย พอมันเจ็บมากๆน่ะผ้าเหลืองช่วยไม่ได้หรอก ของจริงจากจิตจริงๆมันออกลายมาเอง ยิ่งจะตายแน่ๆแล้ว ทุกขเวทนามากๆ อรหันต์น่ะ ไม่สนใจแล้วล่ะ เพราะขาดสติ


    <O:p</O:p
    แต่หลวงพ่อทรงแตกต่างจากพระพวกนั้นโดยสิ้นเชิง พระหลวงตาธรรมดา พระวัดเล็กๆบ้านนอกที่ผมพามา ไม่มีหมอรู้จัก เริ่มกลายเป็นจุดสนใจของหมอ และพยาบาลขึ้นเรื่อยๆ เพราะตั้งแต่วันแรกที่อยู่จนวันสุดท้ายที่ออก พอหมอถามท่านว่าตอนนี้เป็นอย่างไร ท่านก็ตอบว่า ไม่เป็นไร โดนเข็มโดนเจาะโดนฉีด โดนเจาะไขสันหลัง โดนยา โดนหามไป x-ray โดนหลายๆอย่าง ถามกี่ทีก็ไม่เป็นไร ไม่มีครวญคราง โอดโอย หรือมีสีหน้าหวาดหวั่นแห่งความเจ็บและความตายแสดงออกมาให้เห็น หมอนี่มีสี่คนน่ะครับ รักษาเป็นทีม ทุกคนมาเยี่ยมทุกวัน ถามทุกครั้งท่านก็บอกไม่เป็นไร ขอโทษน่ะครับ ท่านเป็นมะเร็งในเลือดน่ะครับ ความต้านทานในเลือดไม่มี ติดเชื้อง่าย หายใจไม่สดวก เส้นเลือดเปราะและแตกง่าย โดนยาอย่างแรงๆ หลายขนาน ทั้งเข้ากล้ามเนื้อเข้าเส้น จะฉัน จะปัสสาวะ ถ่ายหนักเบาก็ไม่สดวกปั่นป่วนไปหมด เป็นคนธรรมดาทุกขเวทนา ต้องมีมากล่ะ แต่ท่านก็ ไม่เป็นไร จนหมอพูดต่อหน้าท่านว่า ผมถามทีไรหลวงพ่อก็ไม่เป็นไร ทุกที ท่านก็ยิ้มๆแต่แบบยิ้มแบบแห้งๆเพราะหมดแรงน่ะครับ


    <O:p</O:p
    หมอใหญ่หัวหน้าทีมนี่บอกผมเอง ว่าหลวงพ่อนี้สมาธิดีมาก จิตท่านนิ่งมากทีเดียว ถามที่ไรก็ไม่เป็นไร แต่ท่านเป็นมะเร็ง ในเลือด ไขสันหลังไม่ผลิตเม็ดเลือดแล้วรักษาอย่างไรก็ไม่หาย จะให้ตายที่โรงพยาบาลหรือจะไปตายที่วัด ถ้าตายไปไม่ปั้มท์หัวใจน่ะเพราะไม่มีประโยชน์ และเพราะใส่ยา รักษากันเต็มที่แล้ว พอหมดฤทธิ์ยา ก็กลับมาเหมือนเดิม...อืมๆ


    <O:p</O:p
    พอหลวงพ่ออยู่โรงพยาบาลไปซักพักในห้อง ICU พวกพยาบาลและผู้ช่วยก็เริ่มมารุมล้อมท่าน ผมเห็นน่ะสองครั้ง คนหนึ่งฉวยโอกาสตอนคนไม่มีเข้าไปปรึกษา พอเห็นผมก็ทำท่าจะออกมา ผมเลยรอให้เขาคุยเสร็จ พอออกไป ผมก็ถามหลวงพ่อว่าเขามากวนหลวงพ่อเหรอ ท่านบอกว่าเขาจะสอบราม มาปรึกษาว่าจะสอบผ่านหรือไม่ แล้วขอพรหลวงพ่อ ส่วนอีกคนก็ยังเรียนหนังสืออยู่แอบมาขอพระนักธรรมและให้ท่านเสกให้ หลานหลวงพ่อต้องกลับไปเอาพระที่วัดมา มีคนมาขออยู่เรื่อยๆ ผมไม่รู้จะว่าอย่างไร หลานหลวงพ่อก็ปิดผม บอกแต่ว่ามีพระมาให้แจก เพราะกลัวผมไปดุพยาบาลว่ามากวนท่าน อันนี้ คงเกิดขึ้นหลายครั้งแน่ๆที่ผมไม่เห็น เลยต้องปล่อยเลยตามเลย


    <O:p</O:p
    คนที่เจ็บและกำลังจะตายในอีกไม่นานน่ะ ยังมีจิตเมตตาห่วงไปสงเคราะห์คนอื่น ช่วยเขาซ่ะอีก ตัวเองน่ะจะไปไม่รอดอยู่แล้ว คุณคิดว่าอย่างไรครับ?

    <O:p</O:p
    พอก่อนออกจาก โรงพยาบาล หมอใหญ่พูดกับผมว่า หมออีกสามคนเขารักษาให้ฟรี ( ค่าหมอน่ะครับ ค่ายาค่าเตียง โรงพยาบาลเขาคิดแต่ลดให้ ) เอาพระหลวงพ่อมาแจกเขาหน่อยซิ ( ที่จริงหมอใหญ่เองก็อยากได้ด้วยน่ะแหละ ) เรื่อพระนี่มีเรื่องเล่าต่อ เพราะเป็นชุดสุดท้ายของท่านจริงๆ เรียกว่าชุดทิ้งทวน เพราะนอนเสกบนเตียง ไม่มีใครขอท่าน ท่านทำของท่านเอง เป็นการโปรดเหล่าคุณหมอ และลูกหลานครั้งสุดท้าย เพราะหลังจากการปลุกเสกครั้งนี้ ประมาณ สองถึงสามวัน ท่านก็ล่ะสังขาร ด้วยอาการสงบ<O:p</O:p
     
  2. pipat_san เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    8,276
    ค่าพลัง:
    +37,173
    (cry)(cry)(cry)(cry)(cry)(cry) คิดถึงหลวงพ่อเหลือเกินครับ อยากให้ท่านอยู่กับเราไปนานๆ ขอบคุณครับข้อมูลดีมากๆๆๆเลย
     
  3. เทวทูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    463
    ค่าพลัง:
    +1,025
    ยิ่งอ่านแล้วก็ยิ่งคิดถึงยิ่งนับถือหลวงพ่อทรงจัง
    ไม่คิดถึงตนเองแม้ใกล้จะสิ้นแล้วยังมีจิตเมตตาสงเคราะห์คนจนถึง
    ช่วงสุดท้ายของชีวิต ท่านใจดีและมีเมตตามากจริงๆ ซาบซึ้งๆ
     
  4. แหม่มจ้า เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +3,455
    ขอขอบคุณครับกับคำแนะนำผมคิดถึงหลวงปู่เหมือนกันครับ วันที่ผมเจอหลวงปู่ครั้งสุดท้ายคือวันครบรอบแต่งงานของผม7/1/50ผมไปกราบขอพรหลวงปู่ท่านใจดีมีเมตตามากแล้วผมก็ได้เช่ารูปหล่อรุ่น2,ลูกอมที่มีรูปหลวงพ่อ,เหรียญพญาเรือน,ตะกรุด ท่านจารและเป่าให้และท่านก็ยังแจกพระพิมพ์พุดซ้อนให้ผมอีก วันนั้นผมบอกกับหลวงปู่ขอให้หลวงปู่ดูแลสุขภาพด้วยและผมไปหาหลวงปู่อีกหลายครั้งแต่ท่านอาพาธอยู่ รพ.จนผมทราบข่าวว่าหลวงปู่มรณภาพแล้วหลังจากเสร็จภาระกิจการงาน ผมเดินทางไปกราบเคารพศพหลวงปู่ ถ้าผมผ่านอ่างทองเมื่อไรผมต้องแวะไปกราบหลวงปู่ทุกครั้ง นี่เป็นความรู้สึกที่ผมมีกับหลวงปู่แม้เป็นเพียงไม่กี่ครั้งที่ผมได้พบหลวงปู่ ขอกราบบูชาหลวงปู่ด้วยใจเคารพและศรัทธาอย่างสูง รักและคิดถึงหลวงปู่
     
  5. t_somnuek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    98
    ค่าพลัง:
    +585
    ยิ่งอ่าน ก็ยิ่งรักหลวงปู่ คิดถึงหลวงปู่มากครับ
     
  6. พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    37,989
    ค่าพลัง:
    +146,260
  7. พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    37,989
    ค่าพลัง:
    +146,260
    หลวงพ่อทรง กลับวิเศษชัยชาญ ( ครั้งสุดท้าย )


    <O:p</O:p
    อันนี้ขออนุญาตมาเล่าต่อให้จบตอน หลังจากที่หมอให้ตัดสินใจแล้วว่า ท่านไม่รอดแน่ๆ หมอถามความเห็นผมแล้วว่า ถ้าสิ้นใจที่โรงพยาบาลน่ะ ไม่ปั้มท์หัวใจน่ะเพราะอาจจะทำให้ท่านกระดูกหักได้ เพราะท่านน่ะอายุเกือบ ๘๔ ปีแล้ว ป่วยมานานพอสมควรร่างกายค่อนข้างบอบบาง และผอม แห้งลงมาก


    เราก็มาปรึกษากันว่ากลับบ้านดีกว่าโดยเหมารถพยาบาลไปส่ง ที่บ้านของหลานท่าน หลานท่านสองคนภรรยา สามีคู่นี้ เจ้บ่ะ และ พี่ รงค์ และหลานท่านอีกคนนายระ ที่ขับรถรับใช้หลวงพ่อ ต้องขอชมด้วยความจริงใจ ว่าไม่ทิ้งท่าน เสมอต้นเสมอปลาย และดูแลท่านเป็นอย่างดีมากๆ ไปซื้อเตียงและ เครื่องช่วยหายใจ มาให้ท่าน ดูแลเรื่องที่อยู่หลับนอน การกิน การถ่ายให้ท่านเป็นอย่างดีมาก ท่านได้รับการดูแลอย่างดี ร่างกายสะอาดสะอ้าน แต่หมดเรี่ยวแรงแล้วเพราะฉันไม่ค่อยได้ จะพูดยังไม่มีแรงต้องใช้กำลังมากถ้าจะพูด แต่มีสติดีรับรู้ทุกอย่างดีเยี่ยม


    ผมโทรถามอาการท่าน ว่างเช้าโทรเช้า ว่างกลางวันโทรกลางวัน ว่างเย็นโทรเย็น ด้วยใจประหวั่นว่า นาทีสุดท้ายของหลวงพ่อจะมาถึงเมื่อใด


    <O:p</O:p
    ผมจะไม่เล่าประวัติศาสตร์ และบันทึกเวลาล่ะ เพราะท่านหาอ่านกันได้เอาว่าหลวงพ่อมาอยู่บ้านได้อีกระยะไม่นานก็ถึงตอนจบ ผมตามไปเยี่ยมท่านที่บ้านด้วยความคิดถึงท่าน แล้วว่าจะไปขอพระที่วัด เอาไปให้พวกหมอที่ได้ดูแลท่านอย่างดีและเอาใจใส่อย่างจริงจังด้วย เมื่อผมโผล่เข้าไปในห้อง ท่านรู้อยู่ก่อนล่วงหน้าแล้ว ท่านมองผมด้วยสายตาที่เมตตาแบบเดิม

    ท่านสั่งให้หลานท่านไปเอาพระรูปหล่อที่วัดมาห้าองค์ โดยให้ผมหนึ่งองค์และเหรียญรุ่นคุณพุ่ม อีกห้าเหรียญแล้วยังสั่งหลานให้เอารูปหล่อห้านิ้วรุ่นคุณพุ่มให้ผมอีกองค์แม้จวบจนใกล้นาทีสุดท้าย ท่านรู้จริตผมดีว่าชอบของฟรี...แหะๆ (รูปหล่อและเหรียญรุ่นคุณพุ่มนี้เล่นได้น่ะครับ ทันหลวงพ่อแต่ท่านต้องหาเอาเอง...แหะๆ)

    ที่จริงพระเหล่านี้ท่านเสกมาก่อนแล้วตอนยังไม่ป่วย แต่ท่านให้เอาพระมาวางกองที่เตียงเก่าท่าน แล้วโยงสายสิญย์มาให้ท่านที่นอนอยู่ที่เตียงพยาบาลใกล้ๆ กัน ไม่มีใครขอให้ท่านปลุกเสกให้เพราะรู้สถานะการณ์ดี ท่านเมตตาสั่งการทำของท่านเองและไม่มีใครกล้าห้าม


    ในที่นั้น มี ผม พระสายัณ์ (ที่พยาบาลท่านไม่ยอมไปไหน) หลานท่าน พี่รงค์ เจ้บ่ะ และนายหมี ทุกคนเงียบกริบเมื่อเห็นว่าท่านต้องการจะปลุกเสกให้ หลานท่านก็ไปเอาตะโพนใหญ่ที่สั่งทำค้างไว้ถุงหนึ่ง มาวางด้วย


    <O:p</O:p
    ผมก็มีตะโพนทองแดงเล็กอยู่ถุงหนึ่งในรถ ทำไว้ตั้งแต่ท่านยังไม่ป่วย การทำตะโพนนี้ยาก เพราะต้องไปซื้อ ทองแดงแท่งที่ ตลาดน้อย เอาไปให้ช่างที่นนทบุรีกลึงให้ทีล่ะลูก แล้วเอาไปให้ช่างที่พันธ์ทิพย์เชื่อมห่วงให้ ( เพราะท่านต้องการแบบมีห่วงเหมือนหลวงพ่อพัก ทุกอย่างช้ามากกว่าจะทำได้ชุดหนึ่งแล้วต้องเอาไปตอกโค้ดที่วัดอีก ขบวนการช้ามาก ) ตะโพนชุดนี้เสร็จเมื่อตอนท่านใกล้ป่วยแล้วผมจึงทิ้งไว้ในรถแล้วลืมไปเลยเพราะต้องทำงานแล้วมาดูแลหลวงพ่อ ตะโพนชุดนี้ไม่ได้ตอกโค้ด เพราะท่านป่วยแล้ว มีห่วงทองแดงใหญ่ ต่างจากชุดอื่น มีประมาณ๘-๙๐ใบ

    ผมจึงขอท่านเอาตะโพนมาวางปลุกเสกด้วยอีกทั้งถอดพระเครื่องในคอผม และเครื่องรางวางในวงสายสิญย์ นายหมีก็ทำตามเหมือนกัน พระสายัญ์ ( พระองค์นี้เป็นพระดีพูดน้อยและเรียนวิชาของหลวงพ่อไว้ ) รีบมุดเข้าไปใต้สายสิญย์ ผมก็ทำตามหลานหลวงพ่อก็เอาถุงตะโพนที่ซื้อไว้ มาวางกอง เพราะทุกคนรวมทั้งท่านด้วยก็ทราบดีว่า นี่คงเป็นการโปรดครั้งสุดท้ายของหลวง


    หลวงพ่อท่านนอนเอามือกำสายสิญย์แล้วกำหนดจิตอยู่ครู่ใหญ่ นานมากพอสมควร แล้วก็คลายสมาธิแล้วไม่พูดอะไรของนี้เป็นครั้งสุดท้าย มีพลังมากที่สัมผัสได้ทุกคนที่นั่นทราบดีท่านทำให้ด้วยจิตเมตตาจริงๆเพราะเป็นการแผ่เมตตาทิ้งทวนของท่านครั้งสุดท้ายที่มีสังขารแล้วผมขอแบ่งเอาตะโพนเล็กมาเพียงเล็กน้อย หวังว่าให้ท่านเอาไว้แจกคนที่มาเยี่ยมแต่ท่านไม่ได้แจกใครเลย ตอนหลังจากที่ท่านเสีย ชาวบ้านเขาเอาไปแจกกันเองยังมาถามผมและนายหมีอีกว่ารุ่นนี้ทันหลวงพ่อปลุกเสกหรือปล่าว รุ่นห่วงใหญ่อันนี้ผมยืนยันแน่นอน แต่คงจะเล่นยากเพราะปลอมได้ และไม่มีโค้ด

    <O:p</O:p
    ก่อนกลับผมเองไม่กล้าคุยอะไรอะไรมาก ใจไม่ค่อยดีเพราะกลัวท่านเหนื่อย อยากให้ท่านพักมากกว่า มันมีเรื่องหลายเรื่องในหัวที่อยากคุยกับท่านแต่ท่านอ่อนแรงมากแล้วล่ะ ให้ท่านพักผ่อนดีกว่า ก่อนที่จะได้เวลาลากลับผมไปกราบท่านที่เตียงอธิษฐานในใจว่า ผมจะพบกับท่านครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้วใช่ไหม ถ้าใช่ให้ท่านขยับนิ้วมือข้างขวาด้านผมไม่ต้องพูดเพราะจะเหนื่อย ผมมองมือขวาของท่านที่กำหมัดอยู่ ท่านก็ดีดนิ้วชี้และนิ้วกลางออกเป็นสัญญานว่าใช่ทันทีสองครั้งผมจำภาพนั้นติดตาจนถึงเวลานี้ น้ำตาผมแทบไหล การอ่านจิตของหลวงพ่อด้วยเจโตปริญานนี้แจ่มใสรวดเร็วมาก ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมเจอ ผมเจอมาหลายครั้งแล้วล่ะผมไม่มีความสงสัยเลยแม้แต่นิดเดียวในตัวท่าน ผมจากท่านมาด้วยใจที่หายไปกว่าครึ่ง ในใจคอยเวลา อยู่ตลอดเวลา


    <O:p</O:p
    จนคืนหัวค่ำวันที่ ๕เมษ๒๕๕๐เจ้บ่ะโทรหาผมที่บ้านบอกว่าอาการท่านหนักแล้ว เอาเข้าโรงพยาบาลวิเศษฯผมและนายหมีก็รีบบึ่งรถจาก กทม ไปหาท่านที่วิเศษฯทันทีแต่ในใจทราบแล้วว่าไม่ทันได้เห็นท่านอีกแน่นอนตามที่ท่านบอก ซึ่งก็เป็นความจริงผมไปทันแค่รถพยาบาลนำร่างท่านกลับมาที่วัดผมตามรถพยาบาลมา และช่วยกับชาวบ้านยกร่างท่านขึ้นบนเตียงบนศาลานี่เป็นครั้งสุดท้ายที่ผมได้รับใช่ท่านแล้วแม้จะท่านจะไม่มีลมหายใจก็ตาม
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ขอเล่าสรุปในนี้ว่าผมนำรูปหล่อห้านิ้วและเหรียญคุณพุ่มไปให้หมอทุกคน อันนี้หลังจากหลวงพ่อล่ะสังขารเพราะไม่ว่าง หมอใหญ่หลังจากถามถึงหลวงพ่อแล้วน่ะรีบเปิดกล่องออกดูเลย ผมดูออกว่าดีใจแน่นอนท่านบอกว่าจะเอาไว้ตั้งบูชาที่บ้าน ท่านก็ยังย้ำอีกว่าหลวงพ่อพระครูสุภัทรธรรมโสภณน่ะมีสมาธิดี อันนี้หมอที่มีประสบการ์ณในการรักษาพระพูดเองน่ะครับผมเพียงแต่นำมาถ่ายทอดให้ท่านทราบตามความจริง


    <O:p</O:p
    <O:p
    รูปหล่อห้านิ้วรุ่นสุดท้ายที่หลวงพ่อสั่งทำ ฝังเส้นเกศา เป็นชุดที่ปลุกเสกครั้งสุดท้ายเพื่อนำไปมอบให้ แพทย์ที่วิชัยยุทธ เพื่อตอบแทนน้ำใจ



    อันนี้เป็นเหรียญรุ่น คุณพุ่ม พิธีใหญ่มากมีพระมาร่วมปลุกเสกหลายองค์ มีเจ้านายเสด็จมาร่วมพิธีเป็นรุ่นหนึ่งที่สุดยอดของหลวงพ่อ รองมากจากเหรียญบิน ที่สำคัญไม่ว่าใครจะทำมาให้แต่ท่านออกเงินเองครับ จัดว่าเป็นของๆหลวงพ่อจริงๆแต่ผมไม่ทราบว่าท่านจะไปหาได้ที่ไหนน่ะครับแต่ถ้าไปเจอที่ไหนก็รีบเก็บไว้ก็แล้วกันครับเป็นเหรียญรุ่นกรรมการ ไม่มีห่วง แต่มีแบบมีห่วงน่ะครับแล้วมีรูปหล่อด้วย ผมจะลงรูปให้ดูทีหลังเพราะไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้


    <O:p</O:p
    <O:p
    </O:p
    รูปหล่อรุ่นคุณพุ่ม ห้านิ้วเหมือนองค์จริง ที่หลวงพ่อมอบให้ ในครั้งสุดท้ายที่ไปพบท่าน


    <O:p</O:p
    <O:p </O:p
    ตะโพนขนาดบูชา ชุดสุดท้ายที่หลวงพ่อปลุกเสกให้


    <O:p</O:p
    <O:p </O:p
    ตะโพนทองแดงชุดสุดท้าย ชนิดไม่มีโค้ด ชุดสุดท้าย<O:p</O:p
     
  8. arune เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +397
    หลวงพ่อทรง ได้สร้างเหรียญนั่งพานให้บูชาหรือเปล่าค่ะ
     
  9. พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    37,989
    ค่าพลัง:
    +146,260
    คุณอรุณี

    มีรูปไหมครับ เผื่อจะเคยเห็นครับ
     
  10. arune เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +397
    อรุณีไม่มีหรอกค่ะ แต่ชอบเหรียญนั่งพานค่ะ สวยดีค่ะ เลยอยากสอบถามพี่ พี เสาวภา ดูว่าท่านสร้างมั้ย เพราะตามเก็บหลายอาพระอาจารย์อยู่ค่ะ ^-^^-^^-^
     
  11. buddha bless เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +878
    ขอโมทนา....โมทนา....และโมทนา อย่างมาก
    ผมพบเจอพระเกจิมาก็มากแต่ผมรักหลวงพ่อทรงเสมือนญาติผู้ใหญ่ในครอบครัวท่านหนึ่งเลย....
    คิดถึง
    หลวงพ่อทรงอย่างมากมายเป็นที่สุด....(cry)
     
  12. พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    37,989
    ค่าพลัง:
    +146,260
    ถ้าอย่างนั้นต้องเรียนว่าผมไม่ทราบจริงๆครับ

    ผมไม่ทราบเรื่องพระหลวงพ่อทรงทุกพิมพ์หรอกครับ แล้วไม่ได้หมายความว่าพระที่ผมไม่ทราบ จะไม่ผ่านมือหลวงพ่อน่ะครับ อย่าเข้าใจผิด

    เพราะทำกันหลายคณะ ทั้งขาย ทั้งแจก ท่านเมตตาเขาไปทั่ว ที่ผมไม่ทราบน่าจะมีอีกเยอะมาก ถ้าผมรู้ แล้วสืบทราบว่าผ่านมือหลวงพ่อ ยิ่งมีรอยจารของท่าน ผมก็ตามเก็บเหมือนกันครับ
     
  13. พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    37,989
    ค่าพลัง:
    +146,260


    รูปหล่อปั้มท์รุ่นคุณพุ่ม


    ผมเอารูปหล่อปั้มท์ รุ่นคุณพุ่มมาให้ดูจะเพราะเกี่ยวข้องกับความเห็นที่แล้ว รูปหล่อนี้น่าจะมีอนาคตดี เพราะประวัติแน่นอน พิธีใหญ่ ผมก็มีแค่องค์เดียว ข้างหน้าเขียนหลวงพ่อทรงที่ฐาน มียันตร์น้ำเต้าที่สังฆาฏิ ที่กล่องเขียนว่า เสด็จทรงเปิดห้องเกียรติยศคุณพุ่ม และทรงประกอบพิธีพุทธาภิเษก รูปหล่อหลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน อ. วิเศษชัยชาญ จ. อ่างทอง 11 กรกฎาคม 2549 ในงานมีพระดังๆหลายรูป มาเข้าร่วมปลุกเสกในโบถส์วัดศาลาดิน ผมไม่มีรายชื่อ ไม่มีโบร์ชัวน่ะครับ เป็นงานใหญ่ของวัด จัดโดยโรงเรียน หลวงพ่อช่วยสนับสนุนเต็มที่ครับ ในงานพิธีผมก็อยู่ด้วย คนเยอะมาก รถจอดเต็มวัด หลวงพ่อก็ต้อนรับแขกเหนื่อยมากในวันนี้
    <O:p</O:p
    11 ก.ค. นี่เป็นวันเกิดหลวงพ่อน่ะครับ ท่านบอกผมเองว่าไม่วัน ที่ 11ก็ 20 ก.ค. ผมลองเข้าโปรแกรมปฏิทิน 100 ปีแล้วผูกดวงท่านแล้วเอาไปให้ท่านดู ท่านสนใจมาก ท่านเคยลงตะกรุดดวงวันเกิดให้ผม จะเอาให้ดูทีหลัง แต่จากโปรแกรม ต้องเป็นวันที่ 11 กค 2466 ถึงจะเป็นวันอังคาร อันนี้เขียนจากความจำเหมือนกันอีกน่ะครับ แต่เอาเป็นว่ารุ่นนี้ ก็ฉลองทำบุญ วันเกิด ครั้งสุดท้ายของท่าน เพราะท่านอยู่ไม่ครบ 11 กค 2550





    รูปนี้เป็นด้านหลัง มีโค้ด ท ทหาร และ วัดศาลาดินที่ฐาน<O:p</O:p
    <O:p</O:p
     
  14. เมืองสมุทร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    907
    ค่าพลัง:
    +5,767
    คุณ อรุณีครับ รูปเหรียญนั่งพานของหลวงพ่อทรงครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • pra1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      67.4 KB
      เปิดดู:
      227
    • pra2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      59.2 KB
      เปิดดู:
      206
  15. thaiput เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    9,528
    ค่าพลัง:
    +27,656


    *-* กระทู้นี้ดีมากๆครับ ได้รวบรวมประวัติและวัตถุมงคลพร้อมแง่คิดต่างๆเอามาให้ผู้ที่เคารพศรัทธาหลวงพ่อได้เข้ามาอ่านกัน ขอขอบคุณ คุณ พี เสาวภา ด้วยครับ.. *-* thaiput007@hotmail.com
     
  16. พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    37,989
    ค่าพลัง:
    +146,260
    เห็นเหรียญแล้วพึ่งนึกขึ้นได้ เคยเห็นเหรียญอันนี้โชว์ในเว็บ เป็นเหรียญเงิน ของคุณชัยนนท์ ถ้าจำชื่อไม่ผิดน่ะครับ แล้วไม่ทราบใครทำใจริง ๆ ขอท่านผู้รู้มาตอบก้แล้วกันน่ะครับ

    องค์นี้มีรอยจารด้วย เข้าใจว่าคงเป็นหลวงพ่อ ผมเห็นไม่ค่อยชัด
     
  17. พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    37,989
    ค่าพลัง:
    +146,260
    ขอขอบคุณที่เข้ามาอ่านเช่นกัน ผมต้องไปต่าง จังหวัด สามวัน กลับมาจะเขียนให้อ่านต่อครับ ยังมีวัตถุมงคลอีกหลายแบบครับที่อยากแสดง

    รูปหล่อหลวงพ่อ พิมพ์นี้วัดทำเองน่ะครับ สั่งช่างที่วิเศษฯ แถววัดไผ่แหลมหล่อให้ จำนวนประมาณหลักร้อย ไปเจอที่ไหนเก็บได้น่ะครับ
     
  18. cc5922 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    4,193
    ค่าพลัง:
    +16,973
    ติดตามตลอดเลยครับ ยินดีที่ลูกศิษย์หลวงพ่อยังคงระลึกถึงหลวงพ่อเสมอ
    รูปเหมือนบูชานี้ผมเองก็ได้บูชาเก็บไว้ครับ ใต้ฐานบรรจุพระด้วย
    ผมบูชาจากหลวงพ่อเป็นมงคลแก่ชีวิต และที่สำคัญหลวงพ่อมีเมตตา
    จารให้ที่จีวรเต็มเลยครับ
    สาธุ
     
  19. ksriuta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,049
    ค่าพลัง:
    +2,966
    รบกวนถามผู้รู้ครับ ไม่ทราบว่าการบูชาตะโพนของหลวงพ่อต้องทำอย่างไร และมีคาถาอะไรหรือปล่าครับ ตอนนี้บูชาไว้บนหิ้งพระเฉยๆครับ
     
  20. ksriuta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,049
    ค่าพลัง:
    +2,966
    ขออภัยพอดีอ่านเจอข้อความเก่าๆแล้วครับ
    รบกวนถามอีกนิดครับ ตะโพนนี่ดีทางด้านใดครับ และต้องตีตะโพนไหมครับหรือห้ามตีครับ
     

แชร์หน้านี้