คนชัยนาทรุ่นน้า เล่าให้ฟัง
เพื่อนคนเล่า ไปมีเรื่อง เอามีดหลวงพ่อเดิมไปแทงสีข้างคู่กรณีเป็นแผลได้
ผ่านไปนาน คู่กรณีมายกมือไหว้ ขอด้ามมีดมาฝนน้ำมนต์ทาสีข้าง
เพราะแผลไม่หาย กระดูกสีข้างผุทีละท่อนๆ
เจ้าของมีดก็หายเจ็บแค้นไปนานแล้ว ยอมทำให้
แต่คงมาล่า ท้ายสุดกระดูกสีข้างด้านที่โดนมีด ไม่เหลือเลย...
เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕
ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย พี เสาวภา, 7 เมษายน 2008.
หน้า 1243 ของ 3280
-
กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรงครับ
-
-
-
ใช่ครับอย่ามีเรื่องดีกว่า
แต่เรื่องมีดหมอหลวงพ่อเดิม อย่าไปกลัวเลย ของแท้ๆ หายากมากครับ คงไม่มีใครเอามาแทงใครเล่น -
แหม............พี่พีก้อ.... -
-
พี เสาวภา said: ↑xxxxxx said:พี เสาวภา said:xxxxxx said:พี่พีครับช่วยแนะนำวัตถุมงคลของหลวงพ่อ
ที่น่าบูชาได้ไหมครับ ไม่เอาที่พวกศูนย์สร้างนะครับ
เอาแบบที่หลวงพ่อทำเองนะครับ
ขอโทษที่รบกวนนะครับ
ขอบพระคุณครับ
เหรียญบินที่คุณส่งรูปมาน่ะครับ ดีที่สุด ขึ้นคอเลยครับ
ให้อ่านในกระทู้น่ะครับ
แนะนำไว้แล้ว
ค่อยๆอ่านไปน่ะครับ
อ่านได้ 200 หน้าแล้วครับClick to expand...Click to expand...Click to expand...Click to expand... -
555+ ผมเองก็หลงโง่อยู่ตั้งนานเหมือนกัน ลืมนึกถึง ตับจาก ไปเสียสนิท
นึกว่าคนโบราณนี่เก่งเนอะ รู้แม้กระทั่ง โรคฮีสโตรก ที่ความร้อนขึ้นสูงจนอวัยวะภายในสุก
จนถึงแก่ความตาย
นี่แหละหนอเข้าสำนวนที่ว่า สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยั้งรู้พลั้ง
พี่พีครับ ทางเหนือเขามักจะมุงด้วย ใบตองตึง ไม่ใช่หรือครับ มุงจาก โดยมากเป็นภาคกลางที่มีกอจากขึ้นมากแถบน้ำกร่อยริมคลองใกล้ทะเล และทางภาคอิสานจะมุงด้วยหญ้าคาที่เรียกว่า ไพหญ้า ตามสภาพของภูมิศาสตร์และพืชในท้องถิ่น นอกจากนี้คนมีฐานะดีของทางภาคเหนือและภาคอิสานก็จะก็มุงด้วยไม้แผ่นเล็ก ๆ ที่เรียกว่า แป้นเกล็ด ยกเว้นขุนน้ำขุนนางหรือระดับเศรษฐีคหบดีที่มุงด้วยกระเบื้องดินเผา เรี่ยกว่า แป้นจี่
แล้วคำว่า "หลังคา" มาได้อย่างไรถึงใช้อยู่จนถึงปัจจุบันนี้ -
กราบหลวงพ่อทรง... ครับ
เข้ามารายงานตัวกะดึก ( อีกรอบ ) -
กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรงครับ
-
ศนิวาร said: ↑555+ ผมเองก็หลงโง่อยู่ตั้งนานเหมือนกัน ลืมนึกถึง ตับจาก ไปเสียสนิท
นึกว่าคนโบราณนี่เก่งเนอะ รู้แม้กระทั่ง โรคฮีสโตรก ที่ความร้อนขึ้นสูงจนอวัยวะภายในสุก
จนถึงแก่ความตาย
นี่แหละหนอเข้าสำนวนที่ว่า สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยั้งรู้พลั้ง
พี่พีครับ ทางเหนือเขามักจะมุงด้วย ใบตองตึง ไม่ใช่หรือครับ มุงจาก โดยมากเป็นภาคกลางที่มีกอจากขึ้นมากแถบน้ำกร่อยริมคลองใกล้ทะเล และทางภาคอิสานจะมุงด้วยหญ้าคาที่เรียกว่า ไพหญ้า ตามสภาพของภูมิศาสตร์และพืชในท้องถิ่น นอกจากนี้คนมีฐานะดีของทางภาคเหนือและภาคอิสานก็จะก็มุงด้วยไม้แผ่นเล็ก ๆ ที่เรียกว่า แป้นเกล็ด ยกเว้นขุนน้ำขุนนางหรือระดับเศรษฐีคหบดีที่มุงด้วยกระเบื้องดินเผา เรี่ยกว่า แป้นจี่
แล้วคำว่า "หลังคา" มาได้อย่างไรถึงใช้อยู่จนถึงปัจจุบันนี้Click to expand...
เรือนพัก สวยและคลาสสิคดีครับ
-
ศนิวาร said: ↑555+ ผมเองก็หลงโง่อยู่ตั้งนานเหมือนกัน ลืมนึกถึง ตับจาก ไปเสียสนิท
นึกว่าคนโบราณนี่เก่งเนอะ รู้แม้กระทั่ง โรคฮีสโตรก ที่ความร้อนขึ้นสูงจนอวัยวะภายในสุก
จนถึงแก่ความตาย
นี่แหละหนอเข้าสำนวนที่ว่า สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยั้งรู้พลั้ง
พี่พีครับ ทางเหนือเขามักจะมุงด้วย ใบตองตึง ไม่ใช่หรือครับ มุงจาก โดยมากเป็นภาคกลางที่มีกอจากขึ้นมากแถบน้ำกร่อยริมคลองใกล้ทะเล และทางภาคอิสานจะมุงด้วยหญ้าคาที่เรียกว่า ไพหญ้า ตามสภาพของภูมิศาสตร์และพืชในท้องถิ่น นอกจากนี้คนมีฐานะดีของทางภาคเหนือและภาคอิสานก็จะก็มุงด้วยไม้แผ่นเล็ก ๆ ที่เรียกว่า แป้นเกล็ด ยกเว้นขุนน้ำขุนนางหรือระดับเศรษฐีคหบดีที่มุงด้วยกระเบื้องดินเผา เรี่ยกว่า แป้นจี่
แล้วคำว่า "หลังคา" มาได้อย่างไรถึงใช้อยู่จนถึงปัจจุบันนี้Click to expand...
มีหลายแบบครับ ที่ผมเคยใช้
ใบตองตึง กันรั่วไม่ค่อยดี เจอฝน จะ หยด แหมะๆ ทำงานยาก และไม่ทน กรอบอีก
( งานที่ผมทำ คือ การขุดเจาะน้ำมัน ตามแท่นเจาะ ที่ อำเภอ ฝาง หรือ เขตจังหวัดทางเหนือ เช่น ลำปาง เชียงราย )
พวก office นอกจากใช้ตู้ container สำหรับ ห้องแล็บ ของนักธรณี และห้องวิทยุแล้ว นอกจากนั้น มุงจาก เอา ย้ายไปก็ สร้างใหม่ ไม้ไผ่ ตอก และ จาก บางทีมีแฝกบ้าง คนงานเป็นคนทำ เราเรียกกันว่า " ตูบ " ผมก็นั่งทำงาน โต้ะ เอกสาร เครื่องคิดเลขแบบมือโยก ( เหอๆๆ ) นอกจากนั้น สร้างแคร่เอาไว้ให้คนงานกินข้าว ( ผมด้วย ) บางทีผมเอาเปลมาผูก นอน ถ้าไปทำงานไกลๆ และเข้าก่ะ กลางคืน หรือ บางทีนอนบนหลังรถ จีบ
แต่จะนอนในตูบมากกว่า เพราะก่อกองไฟได้ หน้าหนาวเมืองฝางจะหนาวมาก ถึงตายครับ นอกจากนั้น หลังคาจากยังกันน้ำค้างได้ดี หน้าร้อนผมสังเกตุว่า จากจะกันความร้อนได้ดี เราเคยใช้สังกะสี ตอนหลังเลิก เพราะร้อน ตับแตก ...แหะๆ
ส่วนแถวอีสาน เคยแต่ไปดูเขาเจาะน้ำมัน ไม่เคยไปเจาะเอง เลยไม่ทราบคำศัพท์ แต่เป็น ภาคที่น่าสนใจ ผมชอบไป เพราะอาหาร กินง่ายกว่าภาคใต้ คุ้นกว่า และครูบาอาจารย์ เก่งๆ ท่านจะอยู่ภาคนี้กันเยอะ เลยไม่ทราบคำ อีสานมากครับ แต่คนอีสานเป็นคนซื่อ ขยัน มีวัฒนธรรมสูงมาหลายร้อยปี ใจคอฝักใฝ่ พระศาสนา เป็นภาคที่ผมสนใจ ไปทำมาหากิน ตอนหนุ่มๆ เหมือนกัน แต่ไม่มีโอกาศ เอาไว้ไปเที่ยวตอนแก่ๆก้แล้วกัน
แต่ภาคเหนือ ผมตระเวณอยู่ ตามป่าเขาหลายปี ประมาณ หก ปี ชอบคนเหนือ เพราะมีจิตใจ อ่อนโยน จะเป็นคนซื่อ และจิตใจสูงด้านศาสนา ถึงเวลาจะทำบุญ เข้าวัดกัน บ้านเมืองค่อนข้างสงบ ไม่ค่อยมีเรื่องราว คนที่มีเรื่องส่วนใหญ่จะไปจากภาคอื่น ผมไปอยู่ หนุ่มๆ ยังกินเหล้าอยู่ เมาไปเรื่อยๆ ไปที่ไหนเขาก็ต้อนรับ คุยกันได้ ครูบาอาจารย์ก็เยอะ เลยอู้คำเมืองได้ บ้างรู้คำเหนือยากๆหลายคำ
ป็อกกระด้อก
ปิ๊กกะดิก
ป่างกะด่าง
ป่องกะแด่ง
ดักปิ้งเย็นวอย
อะไรประเภทเนี้ย...แหะๆ ยกเว้นถ้าเจอคนเมืองแท้ๆ รุ่นเก่า เขาพูดเร็วมาก สำเนียงเหน่อ ยิ่งแบบพวก ยอง ( หายโห่ง ) อันนี้แทบฟังไม่ออก...แหะๆ
ตัวอย่างเช่นตอนไปเจอ ครูบา คำเหมย ท่านไม่พูดไทยเลย พูดคำเมืองแบบคนโบราณ พูดเบา ผมแทบไม่รู้เรื่องเลย อาศัยลูกตื้อ อือๆ อาๆ ไปเลยได้ตะกรุด พอกครั่ง และ เก้ากลุ่มมา แถมเหรียญอีก ท่านเป็นพระหวงของ ชอบไล่ผี อันนี้ท่านเล่าเอง บอกไล่ผี ม่วนดี มัก ( ชอบ )
ลุกน้องคนขับรถน้ำ ผมชื่อ ขาวหลึก ไปขอตะกรุดท่าน ไปขอเป็นปีๆ ท่านก็บ่ายเบี่ยง บอก วันหน้า ก่อน วันดี ก่อน ท่านเลือกคนให้ พวก ตะกรุด พวก ตชด เอาไปยิง ยิงไปออก แห่มาขอกันเรื่อยๆ ผมเลยหูผึ่ง แต่งเครื่องแบบ เต็มยศไป ( ชุดฟาร์ติก ชุดฝึก ) ไปกราบท่าน ท่านควักเหรียญจากหม้อน้ำมนต์ ให้ ส่วนตะกรุดหมด ท่านนัดมารับ จะทำให้ ได้เวลาผมไปตามนัด ท่านควักมาให้สิบกว่าดอก ไอ้ขาวหลึก งง...แหะๆ
ผมแบ่งพวกไปหมดแล้ว อย่าขอมา เก็บไว้ที่ เป็นที่ระลึกถึงครูบาอาจารย์ ฝ่ายเหนือ ผมไปมาหาสู่ ท่านอีก พักใหญ่จนย้ายไป แต่คุยกับท่านไม่ค่อยรู้เรื่องหรอก และท่านเหมาะกับเป็นนักกรรมฐาน พูดน้อย ฟังซ่ะเยอะ และเป็นคนมีวิชาอาคมแก่กล้า เป็นที่ทราบแก่คนทั่วไปละแวกนั้น
จะคุยเรื่องจาก ตองตึง โม้มาซ่ะยาวเล่าเอามันส์ๆน่ะครับ -
กราบหลวงพ่อทรง... ครับ
แวะมาทักทายช่วงเช้า ก่อนไปเปิดร้านครับ... -
พี่ พี ครับ ขอถามหน่อย.....?
เครื่องคิดเลขแบบมือโยก ( เหอๆๆ ) คือ ลูกคิด หรือเปล่า....555 -
ก่อนไปเปิดร้านก็มีสาระเกี่ยวกับอาหารการกินมาให้อ่านกันครับ...
น้ำพริก มีดีมากกว่าที่คุณคิด
พูดถึงน้ำพริก หลายคนน้ำลายสออยากลิ้มรส เพราะน้ำพริกเป็นอาหารที่คนไทยรู้จักกันดี มีเครื่องปรุงจากสมุนไพร อันได้แก่ พริก กระเทียม หัวหอม เครื่องเทศ นำมาโขลกรวมกันส่งกลิ่นหอมฉุย ใช้เป็นน้ำจิ้มในการจิ้มผัก ปลา กุ้ง ซึ่งนอกจาก น้ำพริกจะมีรสชาติที่อร่อยเด็ดเผ็ดร้อนแล้ว คุณผู้อ่านทราบหรือไม่ว่าน้ำพริก 1 ถ้วยมีคุณประโยชน์ทางโภชนาการและสามารถป้องกันโรคภัยต่าง ๆ ได้มากมาย
เรามาเริ่มกันที่ส่วนประกอบหลัก ๆ ที่สำคัญในการทำน้ำพริกก่อนนั่นคือ
พริก โดยพริกที่คนไทยนิยมนำมาปรุง คือ พริกชี้ฟ้าแดงและเขียว, พริกแห้ง, พริกแห้งป่น, พริกขี้หนูและพริกขี้หนูสวน มีรสชาติเผ็ดร้อนและมีสาร “แคปไซซิน” ซึ่งมีคุณสมบัติในการป้องกันความชรา และมีเบต้าแคโรทีนที่ให้วิตามินซีสูง ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ ทำให้เจริญอาหาร ขับลม แก้หวัด แก้ภูมิแพ้
กะปิ เป็นอีกส่วนประกอบที่ทำให้น้ำพริกอร่อย มีวิตามินบี 12 ช่วยสร้างเม็ดเลือดและมีแคลเซียมสูงกว่านมวัวถึง 15 เท่า กุ้งแห้ง มีแคลเซียมสูงเช่นกัน มีส่วนช่วยในการบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง
กระเทียม มีสาร “อัลลิซิน” ช่วยลดความดันโลหิต ช่วยไม่ให้เลือดจับตัวเป็นลิ่มหรืออุดตันตามผนังหลอดเลือด ลดการเกิดโรคหัวใจและโรคหลอดเลือด
หอมแดง มีสาร “เคอร์ ซิทิน” ช่วย ทำความสะอาดเส้นเลือดป้องกันไม่ให้หลอดเลือดอุดตัน มะนาว มีวิตามินซีสูง ช่วยขับเสมหะ แก้ไอ เลือดออกตามไรฟัน แก้อาการปวดศีรษะ บำรุงตาและผิวได้ดี
นอกจากนี้น้ำพริกยังมีส่วนประกอบที่หลากหลายออกไปตามวัตถุดิบนั้น ๆ เช่น
น้ำพริกเห็ดออรินจิ ซึ่งเห็ดมีประโยชน์ต่อร่างกายมากโดยมีสารอาหารประเภทวิตามินเอ, บี2, โปรตีน ฯลฯ ช่วยป้องกันโรคกระดูกอ่อน ใช้บำรุงโลหิต บรรเทาอาการหวัด ปวดศีรษะและลดไขมันในเส้นเลือดได้ดี
น้ำพริกปลาดุกฟูแมงดา โดยแมงดาที่นำมาปรุงน้ำพริกจะมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ ประกอบด้วยสารอาหาร เช่น กรดอะมิโนโปรตีน, วิตามิน, ฟอสฟอรัส, เหล็ก, แคลเซียม และให้พลังงานสูง
น้ำพริกเต้าหู้กรอบ อุดมไปด้วยแคลเซียม สังกะสี ธาตุเหล็กและวิตามิน ซึ่งมีส่วนช่วยลดระดับ ไขมันและคอเลสเตอรอล ป้องกันโรคกระดูกพรุนและมะเร็งเต้านม อีกทั้ง ยังช่วยให้ไตทำงานได้ดีอีกด้วย
น้ำพริกตะไคร้ ตะไคร้ มีสรรพคุณช่วยขับปัสสาวะ ลดกรดยูริก ทำให้เจริญอาหารและช่วยขับเหงื่อ ลดความดันโลหิต น้ำพริกไตปลา มีโปรตีนและเกลือแร่สูง
ทั้งนี้ยังมีสมุนไพรมากมายที่นิยมนำมาเป็นเครื่องเคียงทานกับน้ำพริก เช่น สายบัว, บัวบก, ผักกระเฉด, ผักกูด, ผักหนาม, แตงกวา, มะเขือ, ถั่วพู, ชะอม, ขิง, กะหล่ำปลี, ผักกาดขาว ที่มีประโยชน์ช่วยในการป้องกันโรคร้ายต่าง ๆ ช่วยเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรงเพิ่มภูมิคุ้มกันและต่อต้านอนุมูลอิสระ -
กราบ กราบ กราบหลวงพ่อทรงครับ
-
กราบนมัสการหลวงปู่ทรงด้วยความเคารพอย่างสูงครับ
-
ไม่เกิด said: ↑พี่ พี ครับ ขอถามหน่อย.....?
เครื่องคิดเลขแบบมือโยก ( เหอๆๆ ) คือ ลูกคิด หรือเปล่า....555Click to expand...
ไม่ใช่ครับ
เป็นเครื่องคิดเลขแบบโบราณ ครับ เป็นเครื่องใหญ่ๆ มีกระดาษเป็นหลอดม้วนใส่ กดปุ่ม แล้ว โยกที มันก็จะคำนวนที กระดาษจะพ่นออกมา ทำงานแบบง่ายๆ แบบ บวก ลบ คูณ หาร แต่ ฟังชั่นยาก พวก square root ยกกำลัง ทำไม่ได้ครับ เครื่องแบบนี้ ถ้าคนยุคเก่าๆ จะเห็นเขาใช้ใน ธนาคารครับ และบางธนาคารก็ยังใช้อยู่ แต่เป็นแบบไฟฟ้า ผมยังเห็น ในธนาคารอยู่น่ะครับ เพราะส่วนดีคือ มีแถบกระดาษบันทึกตัวเลข ให้ตรวจข้อมูลย้อนหลังได้ว่า ถูกหรือผิด
ลูกคิด เด็กรุ่นนี้ใช้ไม่เป็นหรอกครับ อาจจะไม่เคยเห็นซ่ะด้วยซ้ำ
รุ่นผม เป็นหลักสูตรบังคับ มีเรียน มีสอบ ต้องแบกลูกคิดไปเรียนด้วย...แหะๆ -
กราบ กราบ กราบ หลวงปู่ทรงครับ
หน้า 1243 ของ 3280