เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย พี เสาวภา, 7 เมษายน 2008.

  1. cc5922 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    4,193
    ค่าพลัง:
    +16,973
    กราบ กราบ กราบ หลวงปู่บุญศรี หลวงพ่อทรง ครับ
     
  2. พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    37,990
    ค่าพลัง:
    +146,269
    กราบ ๆ ๆ หลวงปู่สี ครับ
     
  3. พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    37,990
    ค่าพลัง:
    +146,269

    ขยายความนิดครับ อดไม่ได้

    ตอนนั้น หลวงปู่แหวนน่าจะยังเป็นพระมหานิกายอยู่

    พอไปเจอพระอาจารย์มั่น เลย บวชใหม่เป็นธรรมยุตครับ ( ผมใช้คำว่าบวชใหม่ เลยน่ะครับ แต่ ภาษาที่เขาเขียน คือ แปลงญัติ ใหม่ แต่เมื่อไม่ได้นับพรรษาให้ ก็บวชใหม่ดีๆนี่เองครับ )
     
  4. ngasye เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2010
    โพสต์:
    841
    ค่าพลัง:
    +3,530
    โมทนาสาธุครับ:cool:
     
  5. Suppasit_S เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,147
    ค่าพลัง:
    +3,869
    กราบนมัสการหลวงปู่บุญศรี หลวงพ่อทรงครับ

    ขอโมทนาด้วยครับ

     
  6. ญานธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,936
    ค่าพลัง:
    +14,705
    กราบ กราบ กราบ หลวงปู่บุญศรี หลวงปู่ทรง หลวงปู่อั๊บ

    แจ้งพี่ชาญชัย ได้รับพระยูไล เรียบร้อยแล้วครับ ขอบคุณมากครับ

    โมทนาบุญกับพี่พี พี่ช้าง พี่สันสิริ และพี่ชาญชัย ด้วยครับ
     
  7. วิโรจน์999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    736
    ค่าพลัง:
    +3,918


    เหรียญหล่อมหาเศรษฐี...หลวงพ่อทรง
     
  8. Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,029

    ชานหมากก็ไปสร้างชื่อว่า แคล้วคลาด คงกระพันดียิ่งนัก ซึ่งคนในตลาดตาคลีเข้าใจดีทุกคนในที่สุดพระเครื่องต่างๆ ก็ได้ถูกสร้างขึ้น ทดแทนชานหมาก อย่างเป็นเรื่องเป็นราวโดยคณะกรรมการวัด และลูกศิษย์หลายฝ่ายได้ร่วมกัน จึงจัดสร้างขึ้นในรูปของเหรียญและพระเนื้อผง โดยมีเป้าหมายการสร้างอยู่ที่โบสถ์แทบทุกรุ่นทุกพิมพ์

    มีของดี 4 พิมพ์ของหลวงปู่สี มาแนะนำกัน คือ พระปิดตาพิมพ์คลุกฝุ่น พระรอด พระปิดตามัดข้าวต้ม และพระผงรูปเหมือนอายุยืน ที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2517 มีพระเกจิอาจารย์ดังอย่างหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ และหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ร่วมในพิธีที่เรียกกันว่าพระปิดตาพิมพ์คลุกฝุ่นนี้ เล่ากันว่ามีชายคนหนึ่งถูกยิงจนล้มคลุกฝุ่นแต่กลับลุกขึ้นยืนโดยไม่มีบาดแผลใดๆ ปรากฏเพียงรอยช้ำเท่านั้น
     
  9. Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,029


    ปี 2553-2554 ประเทศไทย เกิดวิกฤติน้ำมันพืชขาดแคลน คนไทยเกิดอุปาทาน แย่งกันซื้อ แย่งกันกักตุน ถึงขนาดตบตีกันในห้างสรรพสินค้า นี่แค่น้ำมันพืช หากเป็นน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล ประเทศไทย คนไทย ............................
     
  10. Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,029
    อยู่อย่างไรใน "กาลียุค"


    ภัยพิบัติ


    ในปัจจุบันของเรา โบราณเขาเรียกว่า “เป็นกาลียุค” กาลี เป็นชื่อของพระแม่กาลี ว่ากันว่า พระแม่กาลี ท่านดุร้าย มีแต่ความตาย และทุกข์เวทนา คนโบราณเคยวาดภาพ กาลียุคเอาไว้ เป็นภาพของการฆ่าฟันกันอย่างไร้ความปรานี คนในยุคนั้น ไม่มีคำว่าเมตตา ปรานี ไม่มีคำว่า คุณธรรม หรือศีลธรรม ซึ่งพวกเราก็คงได้เห็นภาพลางๆ ปรากฏขึ้นมาแล้วในยุคของเรา อีกทั้ง ขอให้นำภัยพิบัติในปี 2554 บางคนบอกว่าเป็นแค่ลางบอกเหตุ ยังไม่ใช่ของจริง แต่อย่างไรก็ตาม ครั้งนั้นน่าถือเป็นบทเรียน สิ่งเป็นไปไม่ได้ ก็เป็นไปแล้ว กลับมาทบทวนกันอีกครั้งว่าปี 2554 เรายังเตรียมพร้อมได้มากน้อยแค่ไหน ยังขาดอะไร ยังบกพร่องอะไร คราวหน้าปีหน้า 2555 และปี ต่อ ๆ ไปเราจะเตรียมการณ์อย่างไร และภัยวิบัติยังคงเป็นเรื่องของน้ำ อยู่หรือไม่ ถ้าเป็นเรื่องของ “น้ำ” ก็ถือเป็นเรื่องของโชค ถือว่าดี น้ำลดยังมีเหลือ ถ้าเป็น “ไฟ” เผาผลาญสิ้นไม่มีชิ้นดี เหลือแต่ซาก ถ้าเป็น “ดิน” แผ่นดินไหว สั่นสะเทือน พินาศย่อยยับ ก็มีตัวอย่างให้เห็น เหลือแต่ซากอีก ไม่มีชิ้นดีอีก นำมาใช้ประโยชน์อีกไม่ได้ กว่าจะฟื้นตัวยาวนาน แต่เสียหายน้อยกว่าไฟ ถ้าเป็นลม ก็มีตัวอย่างให้เห็น พายุ ทอร์นาโด ก็ถล่มทะลาย แต่ยังเหลือซาก ใช้ประโยชน์ไม่ได้อีกเหมือนกัน แต่ไอ้ที่น่ารำคาญมากที่สุด ก็เรื่องการเมือง การขัดแย้งทางการเมือง สร้างความฉิบหายให้กับประเทศไทยมากที่สุด มากกว่าภัยพิบัติทั้งปวง อันนี้เป็นเรื่องสำคัญ “ฟ้าเป็นผู้กำหนด“ ถามตัวท่านเองก่อนว่า จะยอมจำนนโดยไม่สู้ หรือจะสู้โดยไม่ยอมจำนน ถ้าจะสู้ต้องคิดเตรียมการณ์ เอาปัจจุบันเป็นบทเรียน “ปฎิวัติ รัฐประหาร” “น้ำท่วมภัยธรรมชาติ” มองปัญหาก็ต้องมองกันเอาปี 2554 เป็นบทเรียน ทั้งภัยจากความโลภ ความโกรธ ความหลวง มาในรูปของ”ธรรมชาติ” และภัยจาก โลภะ โทสะ โมหะ จะมาในรูปแบบ”การแตกแยกทางการเมือง” คนไทยลืมง่าย บางคนอาจจะลืมปี 2554 ไปแล้วก็ได้ ขอนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พระองค์เป็นศิษย์ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ เหมือนกันกับพวกเรา พระราชทานไว้เมื่อปีใหม่ “อย่าประมาท มีสติ” ถ้าไม่ประมาทก็ควรเตรียมการณ์ไว้อย่างไร โดยนำเอาปี 2554 เป็นบทเรียน
    ๑.ที่พักอยู่อาศัยไม่ได้ โดยเฉพาะคนกรุงเทพฯ ปฏิวัติ รัฐประหาร มีแต่ความตาย ความวุ่นวาย ทางแก้ ต้องหาที่พักสำรองที่ ๒ อย่าหวังเป็นผู้พักพิง อย่ายืมจมูกคนอื่นหายใจ และต้องเตรียมการณ์ ตามข้อ ๓- ข้อ ๙ เช่นเดียวกัน
    ๒.ที่พักต่ำเกินไป ทางแก้ ต้องหาที่สำรองที่สูง หรือไปจังหวัดอื่น
    และต้องเตรียมการณ์ ตามข้อ ๓- ข้อ ๙ เช่นเดียวกัน
    ๓.ขาดน้ำสะอาด อาหารแห้ง ทางแก้ ต้องเตรียมสำรองอาหารแห้ง น้ำสะอาด โดยจะต้องอยู่รอดให้ได้ไม่น้อยกว่า ๖๐ วัน ถ้าสมาชิกมากก็เตรียมเอาไว้ให้มาก
    ๔.ขาดแสงสว่าง ทางแก้ เตรียมตะเกียงน้ำมันก๊าซ ไม้ขีด ไฟฉาย แก๊สหุงต้ม
    ๕.อาหารเป็นพิษ เจ็บป่วย เตรียมยาธาตุน้ำขาว สามัญประจำบ้านพื้นฐาน โดยดูตัวของท่านเองเป็นหลัก ว่าท่านมีโรคประจำตัวอะไร และต้องใช้ยาอะไรอยู่เป็นประจำ
    ๖.เครื่องมือสื่อสาร อุปกรณ์สื่อสารในครอบครัว ทางแก้ติดต่อกันให้ได้ ไปด้วยกันทั้งครอบครัว อย่าแยกกัน กำหนดจุดนัดพบหรือจุดรวมตัวเอาไว้ล่วงหน้า
    ๗.ถ้ามีรถ เติมน้ำมันให้เต็มถังอยู่เสมอ อย่าหวังน้ำบ่อหน้า ก่อนเข้าบ้านทุกครั้งเติมน้ำมันให้เต็มถังอยู่เสมอ ถ้านึกจะใช้รถอย่าไปเสียดายเงิน ค่าน้ำมัน การบำรุงรักษา
    ๘.มุ้ง ถุงนอน อุปกรณ์กันฝน เครื่องนุ่งหุ่ม ให้เพียงพอในครอบครัว ในยุโรปที่เจริญแล้วเจอวิกฤติคลื่นความเย็น พาดผ่านตายไปเกือบ ๓๐๐ คน
    ๙.เตรียมอาวุธ หรืออุปกรณ์ป้องกันตัว
    ๑๐.ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ข้อสำคัญ อย่าประมาท พร้อมที่จะทำตามแผน ที่วางเอาไว้
    ๑๑.หมั่นทำบุญ ทำกุศล ใช้ปัญญาพิจารณาว่า ตัวเรานั้นเกิดมาชาตินี้ ยังมีบุญ มีกุศลใด ที่เรายังไม่เคยสร้างหรือเคยกระทำ ก็จงทำตามกำลังความสามารถ บุญกุศลจะเป็นเกราะป้องกันภัยให้กับเราและครอบครัวแล้วใช้จิตเป็นตัวเลือกว่า “อันว่าความชั่ว อย่าทำเลยเสียดีกว่า”
     
  11. Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,029

    หลวงปู่สีมีความสัมพันธ์กับวัดสุทัศน์ เพราะเคยมาพำนักอยู่ช่วงหนึ่ง เคยร่ำเรียนวิชาจากที่นี้ จึงมีความผูกพันอยู่ไม่น้อย วัตถุมงคลทั้ง 4 พิมพ์นี้ มีอยู่ที่หลวงปู่พระครูพิมลสรภาณส่วนหนึ่ง
    สำหรับเกร็ดปาฏิหาริย์ เล่าว่าหลวงปู่สีเป็นผู้ที่สามารถรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า เช่นเมื่อปี 2512 ท่านบอกกับกรรมการวัดว่า ใต้สระน้ำในวัดของถ้ำบุนนาคนี้ มีพระพุทธรูปโบราณ 2 องค์ จมอยู่ต่อปลายปีน้ำในสระจะแห้ง ให้ขุดพระขึ้นมาเสีย
    พอปลายปีน้ำในสระก็แห้งจริง คณะกรรมการวัดลงมือขุดจนพบพระพุทธรูป 2 องค์จริง
    หรือคราหนึ่งหลวงตาแว่นได้ติดตามหลวงปู่สีไปพระบาทสระบุรี แต่พอขากลับ ฉันอาหารเช้าเสร็จที่พระบาทฯ หลวงปู่สีก็บอกให้ท่านเดินนำหน้า พอเดินมาถึง ต.ช่องแค ปรากฏว่ายังไม่เที่ยง ทันเวลาฉันเพลพอดี

    ระยะทางจาก อ.พระพุทธบาท ถึง ต.ช่องแค เกือบๆ 200 กิโลเมตร ถ้านั่งรถยนต์ขับเร็วๆ ก็ใช้เวลาร่วม 3 ชั่วโมง ไม่รู้ว่าเดินถึงช่องแคทันฉันเพลได้ยังไง
    เหรียญทองแดงค่านิยมอยู่ในหลักพันต้นๆ เท่านั้น แต่ปัจจุบันค่านิยมหลักหมื่นต้นๆ ทั้งนี้ค่านิยมเฉพาะเหรียญอายุยืน ทั้งเต็มองค์ และครึ่งองค์ค่านิยมจะสูงกว่าถึง ๑ เท่าตัว
    ประวัติหลวงปู่สี ฉันทสิริ ตามหนังสือที่ปรากฏในตัวเหรียญท่านเกิดเมื่อ พ.ศ.๒๓๙๒ โดยการจัดสร้างเหรียญอายุยืนนั้นเป็นเหรียญที่สร้าง พ.ศ.๒๕๑๗ ขณะนั้นท่านมีอายุ ๑๒๕ ปี แสดงว่าท่านเกิดก่อนหลวงพ่อเดิม แห่งวัดหนองโพธิ์ ๘ ปี เพราะหลวงพ่อเดิมเกิด พ.ศ.๒๔๐๓ เหตุที่คนเล่นหาและสะสมพระเครื่องและเหรียญหลวงปู่สี ฉันทสิริ นั้น แน่นอนที่สุดว่า ต้องเกิดจากประสบการณ์ที่โดดเด่นทางแคล้วคลาด มีเมตตา มหานิยมสูงเช่นเดียวกับเหรียญของพระเกจิอาจารย์รูปอื่นๆ ที่ว่า “ค่านิยมของพระที่สูงนั้นต้องมากด้วยประสบการณ์”
     
  12. Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,029


    ในระหว่างที่หลวงปู่สียังมีชีวิตอยู่มีพระเกจิชื่อดังหลายรูปมาขอเป็นศิษย์ อาทิ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี หลวงปู่บุดดา ถาวโร วัดกลางชูศรีเจริญ จ.ชัยนาท หลวงพ่อทบ วัดชนแดน จ.เพชรบูรณ์ หลวงปู่แหวนวัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่ หลวงปู่เย็น วัดสระเปรียญ จ.ชัยนาท หลวงพ่อจ้อย วัดแหลมบน จ.ฉะเชิงเทรา และพระครูวิศิษฐสมโพธิ วัดโพธิ์ ท่าเตียน กทม. มาทุกครั้งเป็นต้องเอาชานหมากหลวงปู่กลับไป จึงยืนยันได้ชัดเจนว่าหลวงปู่สีเป็นพระเกจิผู้มีอาคมขลังเมตตาแคล้วคลาดและคงกระพัน อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการเพิ่มเติมความรู้ของผู้สะสมพระเครื่องหลวงปู่สี ฉันทสิริ จึงอยากนำเสนอเรื่องของยันต์ที่ปรากฏบนเหรียญของท่านทั้งด้านหน้าด้านหลัง ซึ่งมียันต์ที่น่าสนใจ ดังนี้

    พ.ศ.๒๕๑๗ มีการจัดสร้างเหรียญอายุยืน ยันต์หลังเหรียญทั้งครึ่งองค์และเต็มองค์นั้น ยันที่มีรูปสามเหลี่ยมแล้วขนวดมุมทุกมุม คือ ยันต์หัวใจ พระไตรปิฎก ที่ว่า มะ อะ อุ ที่ถอดมาจากคาถาเต็มๆ ที่ว่า มะ ตัวแรกถอดมาจาก คำว่า “อาปามะจุปะ” (พระวินัยปิฎก) อะ ถอดมาจาก คำว่า “ทิมะสังอังขุ” (พระสุตันตะปิฎก) และ อุ ถอดมาจาก คำว่า “สังวิทาปุกะยะปะ” เรียกว่า หัวใจพระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ พุทธคุณของยันนี้ ครอบจักรวาลใช้ดีทุกด้าน
    ส่วนยันต์ที่อยู่บนผ้าสังฆาฏิด้านหน้า คือ “นะ มหานิยม” หรือ “นะ ลือชา” ซึ่งมีพุทธคุณเด่นด้านเมตตามหานิยม นอกจากนี้ยังมียันต์อีกตัวหนึ่ง เข้าใจว่าเป็นโค้ดที่ตอกขึ้นภายหลัง ซึ่งคล้ายๆ กับยันต์ นะ อุด ซึ่งมีพุทธคุณทางมหาอุด ยันต์ตัวนี้เป็นยันต์ตัวเดียวกับ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท
     
  13. Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,029
    [/url] หลวงปู่บุญศรี อินทวัณโณ เทพเจ้าแห่งย่านมัทรี พยุหะคีรี นครสวรค์ พระอริยะเจ้า ๕ แผ่นดิน พระครูปลัดวิรัช โอภาโส

    ขอเชิญท่านสาธุชน ผู้มีใจบุญ ใจกุศล ร่วมบริจาค ร่วมประมูล นำรายได้
    ๑.สร้างห้องกรรมฐาน ถวายพระปลัดวิรัช โอภาโส(ศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดธรรมยาน
    ๒.สร้างพระนาคปรก ๑๔ ศอก ถวายหลวงปู่บุญศรี อินทวัณโณ
    ๓. และสร้างสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐมชำระหนี้สงฆ์ หน้าตัก ๔ ศอก
    ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย มีสมเด็จองค์ปฐมเป็นประธาน พระศรีอาริยเมตไตรย พระปัจเจกพุทธเจ้า ทุกพระองค์ พระพรหมทุกชั้นฟ้า เทพเทวดาทุกชั้นฟ้า ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย ท้าวมหาราชทั้งสี่ และพญายมราช ขอจงได้เสด็จมาร่วมรับรู้ ร่วมโมทนา ร่วมเป็นเจ้าภาพ ร่วมถวาย ร่วมรับ ร่วมเป็นสักขีพยาน ร่วมได้รับประโยชน์ ความสุข ในบุญกุศล ของท่านทั้งหลาย ครอบครัว และบุคคลอันเป็นที่รักของท่าน ด้วย เทอญ อิทธิ ฤทธิ พุทธนิมิตตัง ขอเดชะ เดชัง ขอเดช เดชะ จงมาเป็นที่พึ่งแก่ มะ อะ อุ นี้ขอโมทนา สาธุ
     
  14. Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,029



    พ.ศ.๒๕๑๖ สร้างพระสมเด็จปิดตา โดยระบุชื่อวัดและ พ.ศ.ที่สร้าง ยันต์ด้านหลัง คือ ยันต์ที่เขียนในลักษณะพระปิดตา แทน พระสังกัจจายน์ หรือ พระภควัมบดี ซึ่งมีพุทธคุณเด่นทางโชคลาภ
    ส่วนยันที่อยู่เหนือองค์พระ คือ “นะ มหานิยม” หรือ “นะ ลือชา” ซึ่งเป็นยันต์ที่หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ใช้เป็นประจำ ส่วนยันต์ที่อยู่ในองค์พระ คือ “นะ มะ อะ อุ” ซึ่งเป็นแก้ว ๔ ดวง และเป็นคาถาที่หนุนยันต์ตัวอื่น ให้มีความเข้มขลังเพิ่มขึ้น
    ยันต์ทั้ง ๔ ตัว มีความหมาย ดังนี้ นะ หมายถึง แก้วมณีโชติ มะ หมายถึง แก้วไพฑูรย์ อะ หมายถึง แก้ววิเชียร และ อุ หมายถึง แก้วปัทมราช
    ยันต์ตัวนี้เป็นอีกตัวหนึ่งที่พระเกจิรุ่นเก่าใช้กันมาก เช่น หลวงปู่พุ่ม (พระครูรัตนรังสี) วัดบางโคล่นอก ยานนาวา กทม. แต่ตัว นะ เขียนปิด เลยใช้ทางมหาอุดได้


    พ.ศ.๒๕๑๙ มีการสร้างเหรียญขวัญถุง ยันต์หลังเหรียญ เป็นยันต์ หัวใจพระฉิม หรือ พระสิวลี ที่ว่า “นะ ชา ลี ติ” มีพุทธคุณเด่นด้านเรียกทรัพย์ และคุ้มครองป้องกันภัย พระเกจิยุคเก่ามักจะใช้ยันต์ตัวนี้ลงในวัตถุมงคล และผ้ายันต์ คาถา หัวใจยอดศีล ที่ว่า “พุทธ ะ สัง มิ”
    คาถาบทนี้ ถอดมาจากคาถาธรณีปริตรที่สมเด็จพระสัมมาสัมมาพุทธเจ้าประทานให้แก่พระอานนท์ หรือเรียกว่า พระคาถาข่ายเพชรพระพุทธเจ้า ที่ว่า “ชาโลมหาชาโล ชาลังมหาชาลัง ชาลิเตมหาชาลิเต ชาลิตังมหาชาวิตัง มุตเต มุตเต มุตตัง มุตตัง สัมปัตเตตัง สุตัง คมิติ สุตัง คมิติ มคยีติ ทิฐิลา ทันดลา บันดลา โรคิลา กรลา ทุพพลา ริตติ ริตติ กิตติ กิตติ มิตติ มิตติ จิตติ จิตติ มุตติ มุตติ จุตติ จุตติ ธารณี ธารณีติ อิทังทา ระณะ ปริตรตัง”
     
  15. Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,029


    พ.ศ.๒๕๑๙ วัดมีการจัดสร้างเหรียญเกลียวเชือก เนื่องในโอกาสผูกพัทธสีมา เหรียญรุ่นนี้มีการตอกโค้ดตัว “ส” ไว้ด้านหน้าเหรียญ มี ๓ เนื้อ ประกอบด้วย เนื้อเงิน เนื้อนวโลหะ และเนื้อทองแดง
    นอกจากมี ยันต์หัวใจพระไตรปิฎก ที่ว่า มะ อะ อุ เช่นเดียวกับเหรียญหลวงปู่สี ฉันทสิริ อายุยืน แล้ว ยังมีการเพิ่มยันต์ไปอีก ๒ ตัว คือ หัวใจพระฉิม ที่ว่า นะ ชา ลิ ติ และหัวใจยอดศีล ที่ว่า พุทธ ะ สัง มิ
    พ.ศ.๒๕๑๘ สร้างเหรียญจตุพิธพรชัย วัตถุประสงค์เพื่อหารายได้ปฏิสังขรณ์วัดเขาใหญ่ อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี ยันต์ที่ปรากฏหลังเหรียญ คือ ยันต์เฑาะว์ โดยเขียนควงเป็นสี่ชั้น ล้อมรอบด้วยคาถาหัวใจยอดศีล พุทธะ สัง มิ
    ส่วนยันต์ที่เขียนเป็นแถวด้านล่าง คือ หัวใจพระเจ้า ๕ พระองค์ ที่ว่า “นะ โม พุท ธา ยะ” โดยรวมแล้วยันต์ทั้ง ๓ ตัวมีพุทธคุณครอบจักรวาล หรือดีทุกด้านนั่นเอง
    พ.ศ.๒๕๑๔ มีการสร้าง พระสมเด็จฐานดิ่ง พระสมเด็จปรกโพธิ์ และพระผงรูปเหมือนเนื้อชานหมาก เพื่อเป็นที่ระลึกในการสร้างอุโบสถ
    ในครั้งนั้น วัตถุมงคลรุ่นนี้มีการลงยันต์เฉพาะพระผงรูปเหมือนเนื้อชานหมากเท่านั้น ยันต์ที่ลงไว้ด้านหลัง คือ ยันต์องค์พระ รวมทั้งมีการเขียนยันต์ไว้ในองค์พระด้วย ส่วนที่เป็นเศียร คือ “นะ ไกรสร” ส่วนในองค์พระ คือ “นะ มะ อะ อุ” ซึ่งเป็นยันต์แก้ว ๔ ดวง ส่วนบริเวนฐานซ้ายขวา คือ ตัว อะ


    พ.ศ.๒๕๑๙ สร้างเหรียญหลวงปู่สี หลังพระปิดตา เพื่อหาปัจจัยสมทบทุนการสร้างศาลาการเปรียญ ด้านหลังของเหรียญรุ่นนี้มียันต์ที่น่าสนใ จ คือ ตรงเศียรด้านบนของพระปิดตาเป็นยันต์ นะมหานิยม ส่วนด้านซ้ายและขวา คือ ตัว อะ ยันต์ที่อยู่ด้านขวาขององค์พระปิดตา คือ หัวใจยอดศีลที่ว่า พุท ธะ สัง มิ ยันต์ที่อยู่ด้านซ้าขององค์พระปิดตา คือ หัวใจธาตุสี่ ที่ว่า นะ มะ พะ ทะ ส่วนด้านขวาเป็นนาม พระพุทธเจ้าที่ว่า “พุท โธ” แปลว่า ผู้รู้ ผู้ตื่น
    อย่างไรก็ตาม หากศึกษาประวัติการสร้างพระหลวงปู่สี ฉันทสิริ วัดเขาถ้ำบุญนาค ทั้งที่วัดสร้างเอง และบุคคลภายนอกสร้างถวายนั้น สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจ คือ พระเกจิอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสก เช่น เหรียญจตุพิธพรชัย สร้าง พ.ศ.๒๕๑๘ มีพระเกจิที่มีชื่อเสียงในยุคนั้นร่วมปลุกเสก เช่น หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กทม. หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาณมิตร กทม. หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์ จ.สุพรรณบุรี หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม จ.ชัยนาท หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี เท่าที่มีการบันทึก ในการปลุกเสกเหรียญรุ่นนี้ หลวงพ่อกวยท้าให้มีการทดสอบพุทธคุณด้วยการลองยิงด้วย
     
  16. Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,029

    เมื่อ พ.ศ.2418 หลวงปู่ได้เข้าเป็นทหารอาสาสมัครไปปรามฮ่อ เมื่อรบชนะท่านเกิดเบื่อหน่ายทางโลก จึงได้อุปสมบท เป็นพระภิกษุที่วัดบ้านเส้า อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี ในปี พ.ศ.2431 อายุได้ 39 ปี และท่านได้ออกธุดงค์ ไปนมัสการพระพุทธบาทสี่รอย และได้พบพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ที่ป่าหลวงพระบาง เมื่อปี พ.ศ.2438 ได้ศึกษาธรรมกับท่าน และท่านได้ออกธุดงค์ มาที่เขตนครสวรรค์ และได้อยู่จำพรรษา วัดถ้ำเขาบุญนาค ตลอดมา
    จนเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2520 ท่านได้อาพาธ เมื่อหมอได้ทำการฉีดยาปรากฎว่าเข็มหักหมดทุกเล่ม จนกว่าท่านจะอนุญาตจึงจะทำการฉีดได้
    จนถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2520 ท่านได้อาพาธหนัก และท่านได้พูดว่า "หากข้ามรณภาพเมื่อใด ท่านฤาษีลิงดำ จะมาเป็นผู้จัดการศพของข้าเองของทุกคนอย่าได้เป็นห่วง"และท่านได้มรณภาพลง ปรากฎว่าสังขารท่านไม่เน่าเปื่อย ปัจจุบันสังขารท่านอยู่ในโลงแก้วที่วัดถ้ำเขาบุญนาค
     
  17. พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    37,990
    ค่าพลัง:
    +146,269
    รุ่นนี้ศูนย์สร้าง ถ้ามี โค็ด ท ไม่มีหัว หรือ รอยจาร ลายมือหลวงพ่อ ก็ผ่าน ถ้าไม่มี หรือ คนอื่นจาร วังเวง วัดดวง นอกจากนั้นยังมีเสริม เนื้อทองเหลืองตามออกมา หลังจากเนื้ออื่นหมดไป

    เป็นรุ่นที่เล่นยากอีกรุ่นครับ เหมือนเหรียญเต่ารุ่นแรก พอหลวงพ่อทรงล่ะสังขาร มีมาวางในตู้เต็มไปหมด เหรียญ ล่ะ ๑,๕๐๐ บาท แม้ว่าจะหมดจากวัดไปนาน พอหลวงพ่อล่ะไป มาวางได้อีก ....วังเวงครับ

    เป็นเหรียญดี ที่เล่นยากอีกรุ่นเหมือนกันครับ พิมพ์เหมือน เนื้อเหมือน โค็ต ( ศูนย์ )เหมือน แต่ไม่เหมือนครับ
     
  18. วิโรจน์999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    736
    ค่าพลัง:
    +3,918
  19. วิโรจน์999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    736
    ค่าพลัง:
    +3,918
  20. พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    37,990
    ค่าพลัง:
    +146,269

    แหวนรุ่นนี้ ผมสั่งทำเองครับ เจตนาแรกจะถวายหลวงพ่อแจก และ เก็บไว้แจกเองบ้าง ก้แจกไปมากแล้วเหมือนกัน และ กลับกลายเป็นว่าเป็นรุ่นที่คนเล่นหากันครับ เพราะประสบการณ์ปากต่อปาก ครับ
     

แชร์หน้านี้