สำรับ กับข้าว สำหรับเลี้ยงดู บรรพบุรุษ ปู่ย่า ตายาย
เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕
ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย พี เสาวภา, 7 เมษายน 2008.
หน้า 2357 ของ 3280
-
Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ
-
Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ
-
Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ
พูดถึงเรื่องการทำบุญ ขอย้อนไปในสมัยหลวงตาเล็ก ยังไม่ละสังขาร ในการทอดผ้าป่า ทอดกฐิน พวกเรา พี เสาวภา อ.โกศล กิจเจริญ และคณะจะใช้วิธีการจ้างภรรยาปลัด อ.พยุหะคีรี มาทำอาหาร ตอนเช้า จะเป็นกาแฟ ปาท่องโก๋ น้ำเต้าหู้ กลางวัน ข้าว อาหาร ๓ อย่าง ขนมหวาน ๑ อย่าง ที่ข้าพเจ้าชอบก็คือ ขนมต้มญวน แต่ทางเพชรบุรี เรียกว่าขนมโคลน อร่อยมาก เลี้ยงทั้งพระ ทั้งคน เหมาเป็นหัว หัวละ ๑๐๐ บาท ๒๐๐ หัว ก็ ๒๐,๐๐๐ บาท พวกเราเป็นเจ้าภาพกันเอง หมายความว่า ทอดผ้าป่า ทอดกฐิน ได้เท่าไหร่จะไม่มีการหักค่าใช้จ่าย เป็นอันขนาด ทุกบาท ทุกสตางค์ ถวายหลวงตาเล็ก เพื่อการก่อสร้างหมด ทำให้การก่อสร้าง รุดหน้า และสำเร็จ อย่างรวดเร็ว มีอยู่ปีหนึ่ง บริษัทน้ำมันเชลล์ ไปทอดกฐิน ปรากฏว่า ได้เงินมา ๑ ล้านกว่าบาท เป็นที่ฮือฮากันทั้งจังหวัดนครสวรรค์ เพราะแม้แต่วัดเจ้าคณะจังหวัด ยังได้ไม่กี่แสน แต่นี่เป็นวัดร้าง ยากจน
การทำงานของพวกเรา จึงเป็นที่รังเกียจของพวกชาวบ้าน (บางกลุ่ม) และพวกเข้ามาหาผลประโยชน์ เคยมีอยู่ครั้งหนึ่ง ขณะนั่งคุยกับหลวงตาเล็กอยู่นั้น ก็มีชาวบ้านแถวนั้นมาหาหลวงตา และบอกว่ามาขอเบิกเงินค่าเหล้า พอข้าพเจ้าได้ยินดังนั้น จึงห้ามหลวงตาเล็ก ว่าไม่ต้องไปให้ แต่หลวงตาไม่ฟัง ท่านเดินไปหยิบเงินมาให้ ข้าพเจ้าก็เลยบอกว่า ถ้าอย่างนั้น มาเอาที่นี่ก็แล้วกัน ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ข้าพเจ้าจึงขอบริหารจัดการเอง สำหรับชาวบ้านก็ยังกราบเรียนเชิญ มาร่วมบุญเหมือนเดิม เชิญมาทำบุญกันให้เต็มที่ กินกันให้เต็มที่แต่เรื่องเงิน ไม่ต้องเกี่ยวข้อง และใครอยากจะมาก็มา ไม่อยากมาก็ไม่ต้องมา พวกแก๊งมาขอเบิกค่าเหล้า ยังอยู่
-
กราบหลวงปู่บุญศรี หลวงพ่อทรง และครู อาจารย์ทุกท่านครับ
สวัสดีครับ พี่พี พี่ช้าง และทุกๆท่าน
โมทนาด้วยครับพี่ช้าง ฟังจากพี่พี พี่ช้าง นี่ชาวบ้านแถวนั้นนี่สุดยอดจริงๆครับ
Chang_oncb said: ↑
พูดถึงเรื่องการทำบุญ ขอย้อนไปในสมัยหลวงตาเล็ก ยังไม่ละสังขาร ในการทอดผ้าป่า ทอดกฐิน พวกเรา พี เสาวภา อ.โกศล กิจเจริญ และคณะจะใช้วิธีการจ้างภรรยาปลัด อ.พยุหะคีรี มาทำอาหาร ตอนเช้า จะเป็นกาแฟ ปาท่องโก๋ น้ำเต้าหู้ กลางวัน ข้าว อาหาร ๓ อย่าง ขนมหวาน ๑ อย่าง ที่ข้าพเจ้าชอบก็คือ ขนมต้มญวน แต่ทางเพชรบุรี เรียกว่าขนมโคลน อร่อยมาก เลี้ยงทั้งพระ ทั้งคน เหมาเป็นหัว หัวละ ๑๐๐ บาท ๒๐๐ หัว ก็ ๒๐,๐๐๐ บาท พวกเราเป็นเจ้าภาพกันเอง หมายความว่า ทอดผ้าป่า ทอดกฐิน ได้เท่าไหร่จะไม่มีการหักค่าใช้จ่าย เป็นอันขนาด ทุกบาท ทุกสตางค์ ถวายหลวงตาเล็ก เพื่อการก่อสร้างหมด ทำให้การก่อสร้าง รุดหน้า และสำเร็จ อย่างรวดเร็ว มีอยู่ปีหนึ่ง บริษัทน้ำมันเชลล์ ไปทอดกฐิน ปรากฏว่า ได้เงินมา ๑ ล้านกว่าบาท เป็นที่ฮือฮากันทั้งจังหวัดนครสวรรค์ เพราะแม้แต่วัดเจ้าคณะจังหวัด ยังได้ไม่กี่แสน แต่นี่เป็นวัดร้าง ยากจน
การทำงานของพวกเรา จึงเป็นที่รังเกียจของพวกชาวบ้าน (บางกลุ่ม) และพวกเข้ามาหาผลประโยชน์ เคยมีอยู่ครั้งหนึ่ง ขณะนั่งคุยกับหลวงตาเล็กอยู่นั้น ก็มีชาวบ้านแถวนั้นมาหาหลวงตา และบอกว่ามาขอเบิกเงินค่าเหล้า พอข้าพเจ้าได้ยินดังนั้น จึงห้ามหลวงตาเล็ก ว่าไม่ต้องไปให้ แต่หลวงตาไม่ฟัง ท่านเดินไปหยิบเงินมาให้ ข้าพเจ้าก็เลยบอกว่า ถ้าอย่างนั้น มาเอาที่นี่ก็แล้วกัน ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ข้าพเจ้าจึงขอบริหารจัดการเอง สำหรับชาวบ้านก็ยังกราบเรียนเชิญ มาร่วมบุญเหมือนเดิม เชิญมาทำบุญกันให้เต็มที่ กินกันให้เต็มที่แต่เรื่องเงิน ไม่ต้องเกี่ยวข้อง และใครอยากจะมาก็มา ไม่อยากมาก็ไม่ต้องมา พวกแก๊งมาขอเบิกค่าเหล้า ยังอยู่
Click to expand... -
กราบกราบ กราบ หลวงปู่บุญศรี หลวงพ่อทรง ครับ
-
เห็นหลายๆท่านทำงานวันหยุด ขอเป็นกำลังใจนะครับ ส่วนผมเองวันหยุดและวันทำงานหลังจากสลัดภาระจากงานประจำที่ต้องทำเพ่ื่อคนอื่นแล้ว มาทำงานที่เป็นงานของตน ผลก็คือวันหยุดและวันทำงานได้หลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียวแล้วขอรับ
-
Chang_oncb said: ↑
พูดถึงเรื่องการทำบุญ ขอย้อนไปในสมัยหลวงตาเล็ก ยังไม่ละสังขาร ในการทอดผ้าป่า ทอดกฐิน พวกเรา พี เสาวภา อ.โกศล กิจเจริญ และคณะจะใช้วิธีการจ้างภรรยาปลัด อ.พยุหะคีรี มาทำอาหาร ตอนเช้า จะเป็นกาแฟ ปาท่องโก๋ น้ำเต้าหู้ กลางวัน ข้าว อาหาร ๓ อย่าง ขนมหวาน ๑ อย่าง ที่ข้าพเจ้าชอบก็คือ ขนมต้มญวน แต่ทางเพชรบุรี เรียกว่าขนมโคลน อร่อยมาก เลี้ยงทั้งพระ ทั้งคน เหมาเป็นหัว หัวละ ๑๐๐ บาท ๒๐๐ หัว ก็ ๒๐,๐๐๐ บาท พวกเราเป็นเจ้าภาพกันเอง หมายความว่า ทอดผ้าป่า ทอดกฐิน ได้เท่าไหร่จะไม่มีการหักค่าใช้จ่าย เป็นอันขนาด ทุกบาท ทุกสตางค์ ถวายหลวงตาเล็ก เพื่อการก่อสร้างหมด ทำให้การก่อสร้าง รุดหน้า และสำเร็จ อย่างรวดเร็ว มีอยู่ปีหนึ่ง บริษัทน้ำมันเชลล์ ไปทอดกฐิน ปรากฏว่า ได้เงินมา ๑ ล้านกว่าบาท เป็นที่ฮือฮากันทั้งจังหวัดนครสวรรค์ เพราะแม้แต่วัดเจ้าคณะจังหวัด ยังได้ไม่กี่แสน แต่นี่เป็นวัดร้าง ยากจน
การทำงานของพวกเรา จึงเป็นที่รังเกียจของพวกชาวบ้าน (บางกลุ่ม) และพวกเข้ามาหาผลประโยชน์ เคยมีอยู่ครั้งหนึ่ง ขณะนั่งคุยกับหลวงตาเล็กอยู่นั้น ก็มีชาวบ้านแถวนั้นมาหาหลวงตา และบอกว่ามาขอเบิกเงินค่าเหล้า พอข้าพเจ้าได้ยินดังนั้น จึงห้ามหลวงตาเล็ก ว่าไม่ต้องไปให้ แต่หลวงตาไม่ฟัง ท่านเดินไปหยิบเงินมาให้ ข้าพเจ้าก็เลยบอกว่า ถ้าอย่างนั้น มาเอาที่นี่ก็แล้วกัน ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ข้าพเจ้าจึงขอบริหารจัดการเอง สำหรับชาวบ้านก็ยังกราบเรียนเชิญ มาร่วมบุญเหมือนเดิม เชิญมาทำบุญกันให้เต็มที่ กินกันให้เต็มที่แต่เรื่องเงิน ไม่ต้องเกี่ยวข้อง และใครอยากจะมาก็มา ไม่อยากมาก็ไม่ต้องมา พวกแก๊งมาขอเบิกค่าเหล้า ยังอยู่
Click to expand... -
Suppasit_S said: ↑สวัสดีครับ พี่พี พี่ช้าง และทุกๆท่าน
โมทนาด้วยครับพี่ช้าง ฟังจากพี่พี พี่ช้าง นี่ชาวบ้านแถวนั้นนี่สุดยอดจริงๆครับClick to expand...
ที่จริงเรื่องเก่ามาก แต่ดันมามีคนเปิดประเด็น ถ้าไปไล่ชื่อกลับยุคนั้น...คนป่วนๆน่ะ ตายไปหลายคนแล้วครับ ตายจริงๆ ผมไม่ได้มามั่ว และ ใกล้ตายก็หลายคน
ส่วนจารย์ช้าง เฮียโก ผม ยังอยู่ดีมีสุข ได้ทำบุญ ทำทาน ต่อมาอีกหลายที่ ลูกหลานก็โต เรียนเก่ง ผมเอง กินอิ่ม นอนหลับเหมือนที่เคยเป็น จนพุงโตและเป็น เฒ่า และ ทุกอย่าง ดีขึ้น
คนมาป่วนใหม่ดันแค่ยกประเด็นมา เพื่อ ดิสเครดิต จัดคู่ชน เจตนาขายของ แต่ไม่รู้จักหรอก จริงๆว่า กรรมการน่ะ ไม่มีตัวตนจริงๆมารับผิด ( ชอบ ) ครับ แต่มารับชอบ กินเหล้า น่าจะยังเหลือมรดก มวยระดับนี้ ระดับมวยเด็ก ชกตาม เวที คีร์บอร์ด
เอาแค่ เรื่องวัด คุณแพม ยังคงไปๆมาๆวัด และ บริหารวัดอยู่ คำว่าบริหาร ผมไม่อยากบรรยาย เอาว่าไม่ลื่น แต่ตอนนี้น่าจะลื่น ผมรู้ทุกความเคลื่อนไหว เพราะคุณแพม ยังจะมาชวนผมไปสร้างแพฯใหม่
หลวงตาไม่อยู่แล้ว ผมไม่แน่ว่ามีใครมีบารมีถึงที่จะไปสร้างได้ ตรงนั้น คือ ที่อาถรรพ์ เป็นโบสถ์เก่า เป็นที่ สถิตย์ ของเทวดาใหญ่ บนต้นโพธิ์
คุณแพม และ อบต ( รุ่นใหม่ รู้ไหมว่าใคร? ...เหอๆๆๆ ) ยังโทรมาคุยกับผม ผมเองแบ่งรับแบ่งสู้ ถ้าหลวงตา มาเข้าฝัน หรือ อยากให้ทำ ผมทำทันที แต่ไม่มีนิมิตใดๆว่า ท่านยังคงมีเจตนาแบบนั้น ท่านไปไกลแล้วครับ ที่เกิดและ เคยเกิด แค่เป็นส่วนหนึ่งในบารมีของท่านในอดีต ในอนาคต กำลังมา และเป็นอีกเรื่อง
เอาแค่ในยุคก่อน ความวุ่นวายมีมาตั้งแต่เงินก้อนใหญ่เข้ามา และ เข้ามาเรื่อยๆ ที่เข้า เพราะผมและพวก หาเงินมาครับ ช่วยๆกัน สามัคคีกัน ไม่ใช่ชาวบ้าน ไม่ใช่กรรมการ ( ที่ไม่มีในยุค หลวงตา ) หลังจากพวกผม ออกมา เคยมีกฐิน ถึงล้านบาทอีกไหมครับ ล้านบาทนี้ เกือบ ๑๕ ปีมาแล้ว ถ้ามานับค่าตอนนี้ เทียบจากทอง น่าจะเป็น ๕ ล้านบาทขึ้นไป สำหรับวัดร้าง เจ้าอาวาสเป็นหลวงตา ในสายตา คนทั่วไป
ความวุ่นวายตอนแรกไม่มีใครมาสนใจ แต่พอเงินเข้ามาเยอะขึ้นมากๆ จึงมีขึ้นเรื่อยๆ จนมาแบ่งที่ดินวัด เลยถึงจุดแตกหัก เงินและของวัดหาย ไม่ได้กล่าวอ้าง ผมเป็นคนแจ้งความเอง สำเนายังอยู่ ตอนนั้น เก็บไว้ เตรียมเปิดศึก อายุความคงหมดไปแล้ว ก็เป็นแค่เศษกระดาษ แต่พอจะแฉ อดีตคนบางคนได้แน่นอน
ผมถ้าทำอะไรถูกต้อง เป็นคนสู้ทุกรูปแบบ ไม่เคยหนีใคร และ เพื่อหลวงตาด้วย คำว่าถอย ลืมไปได้เลย และจะมีคนมาช่วยทุกครั้ง ครั้งนั้น ตั้งแต่รองผู้ว่า ผู้กำกับ นายอำเภอ ปลัดอำเภอ เจ้าคณะอำเภอ เพื่อนฝูง ทนาย วิศวกร มาช่วยๆกัน ชื่อที่กล่าว เป็นยุคนั้นน่ะครับ ตอนนี้พวกท่านไปไหนกันแล้ว ผมไม่อาจจะทราบได้ แต่ระลึกถึงบุญคุณพวกท่านมาเสมอครับ
และต้อง ป.ล. ไว้น่ะครับ ว่าบางคนบางกลุ่ม เพราะบางคน บางกลุ่มก็มาช่วยกันสร้างวัด สร้างโบถส์ครับ ชาวบ้านที่คอยช่วยดูแล หลวงตา ดูแลวัด ดูและ แพ ฯ มีครับ เป็นคนที่เป็นแนวร่วมกันครับ -
cc5922 said: ↑เห็นหลายๆท่านทำงานวันหยุด ขอเป็นกำลังใจนะครับ ส่วนผมเองวันหยุดและวันทำงานหลังจากสลัดภาระจากงานประจำที่ต้องทำเพ่ื่อคนอื่นแล้ว มาทำงานที่เป็นงานของตน ผลก็คือวันหยุดและวันทำงานได้หลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียวแล้วขอรับ[/QUOTE]
แบบนี้จึงจะเรียกว่า สูงสุดคืนสู่สามัญ
ปลดแอกคำว่าลูกจ้างออกจากบ่า
ชีวิตมีแต่กลางวัน และ กลางคืนครับ ....สุดยอดClick to expand... -
วันนี้วันพระใหญ่ ผมไปไหว้พระแก้วมรกตมาครับ สวดมนต์ไหว้พระ เดินจงกรมรอบโบถส์ 3 รอบ
โอนเงินเข้าบัญชีบ้านเหรียญบิน 200 บาท
ฝากเพื่อนซื้อปลาปล่อย 200 บาท
ดูแลพระอาพาธ 200 บาท
สร้างพระ 400 บาท
หล่อพระปัจเจก 200 บาท
เชิญโมทนาร่วมกันครับ -
นะจักรวาล said: ↑วันนี้วันพระใหญ่ ผมไปไหว้พระแก้วมรกตมาครับ สวดมนต์ไหว้พระ เดินจงกรมรอบโบถส์ 3 รอบ
โอนเงินเข้าบัญชีบ้านเหรียญบิน 200 บาท
ฝากเพื่อนซื้อปลาปล่อย 200 บาท
ดูแลพระอาพาธ 200 บาท
สร้างพระ 400 บาท
หล่อพระปัจเจก 200 บาท
เชิญอนุโมทนาด้วยครับClick to expand... -
Chang_oncb said: ↑
พูดถึงเรื่องการทำบุญ ขอย้อนไปในสมัยหลวงตาเล็ก ยังไม่ละสังขาร ในการทอดผ้าป่า ทอดกฐิน พวกเรา พี เสาวภา อ.โกศล กิจเจริญ และคณะจะใช้วิธีการจ้างภรรยาปลัด อ.พยุหะคีรี มาทำอาหาร ตอนเช้า จะเป็นกาแฟ ปาท่องโก๋ น้ำเต้าหู้ กลางวัน ข้าว อาหาร ๓ อย่าง ขนมหวาน ๑ อย่าง ที่ข้าพเจ้าชอบก็คือ ขนมต้มญวน แต่ทางเพชรบุรี เรียกว่าขนมโคลน อร่อยมาก เลี้ยงทั้งพระ ทั้งคน เหมาเป็นหัว หัวละ ๑๐๐ บาท ๒๐๐ หัว ก็ ๒๐,๐๐๐ บาท พวกเราเป็นเจ้าภาพกันเอง หมายความว่า ทอดผ้าป่า ทอดกฐิน ได้เท่าไหร่จะไม่มีการหักค่าใช้จ่าย เป็นอันขนาด ทุกบาท ทุกสตางค์ ถวายหลวงตาเล็ก เพื่อการก่อสร้างหมด ทำให้การก่อสร้าง รุดหน้า และสำเร็จ อย่างรวดเร็ว มีอยู่ปีหนึ่ง บริษัทน้ำมันเชลล์ ไปทอดกฐิน ปรากฏว่า ได้เงินมา ๑ ล้านกว่าบาท เป็นที่ฮือฮากันทั้งจังหวัดนครสวรรค์ เพราะแม้แต่วัดเจ้าคณะจังหวัด ยังได้ไม่กี่แสน แต่นี่เป็นวัดร้าง ยากจน
การทำงานของพวกเรา จึงเป็นที่รังเกียจของพวกชาวบ้าน (บางกลุ่ม) และพวกเข้ามาหาผลประโยชน์ เคยมีอยู่ครั้งหนึ่ง ขณะนั่งคุยกับหลวงตาเล็กอยู่นั้น ก็มีชาวบ้านแถวนั้นมาหาหลวงตา และบอกว่ามาขอเบิกเงินค่าเหล้า พอข้าพเจ้าได้ยินดังนั้น จึงห้ามหลวงตาเล็ก ว่าไม่ต้องไปให้ แต่หลวงตาไม่ฟัง ท่านเดินไปหยิบเงินมาให้ ข้าพเจ้าก็เลยบอกว่า ถ้าอย่างนั้น มาเอาที่นี่ก็แล้วกัน ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ข้าพเจ้าจึงขอบริหารจัดการเอง สำหรับชาวบ้านก็ยังกราบเรียนเชิญ มาร่วมบุญเหมือนเดิม เชิญมาทำบุญกันให้เต็มที่ กินกันให้เต็มที่แต่เรื่องเงิน ไม่ต้องเกี่ยวข้อง และใครอยากจะมาก็มา ไม่อยากมาก็ไม่ต้องมา พวกแก๊งมาขอเบิกค่าเหล้า ยังอยู่
Click to expand...
แค่วัดใหม่ฯ ตอนนับ หน้างาน ๙๐๐,๐๐๐ กว่า บาท มาสรุปหลังงาน ล้านกว่าบาท
ทำให้คนทั่วไป หันมามองวัดใหม่ฯ ว่า เกิดอะไรขึ้น ทำไมเงินมันมาเยอะกว่าที่อื่น พระระดับหลวงตา วัดก็ร้าง ไม่มีโบสถ์ แต่ถ้าจะเอาอีกสักสิบล้าน ก็ไม่น่าแปลก ถ้าหลวงตาท่านบอก พวก เทวดามาช่วย
เงินก้อนใหญ่นี้แทนที่จะเปิด ศักราชใหม่ของวัดใหม่ ให้เกิดความเจริญรุ่งเรือง กลับนำความยุ่งยากมาให้ เพราะคนเริ่มจ้องและ ต้องการเขามาบริหาร ความวุ่นวายเดิม จาก การเมืองระดับชาวบ้านเริ่มขยับมาเป็นระดับวัด ระดับจังหวัดครับ เราก็เจอกันมา และ ทุกเรื่องจะจบลงที่ผลประโยชน์ทั้งสิ้น เหมือนกับที่เราเห้นในโลก ไซเบอร์นี่แหละครับ ที่ลงท้าย เกี่ยวกับ การขายของและ ผลประโยชน์ครับ -
พี เสาวภา said: ↑ที่คุณได้ยิน ยังไม่ถึงครึ่ง...เหอๆๆ
ที่จริงเรื่องเก่ามาก แต่ดันมามีคนเปิดประเด็น ถ้าไปไล่ชื่อกลับยุคนั้น...คนป่วนๆน่ะ ตายไปหลายคนแล้วครับ ตายจริงๆ ผมไม่ได้มามั่ว และ ใกล้ตายก็หลายคน
ส่วนจารย์ช้าง เฮียโก ผม ยังอยู่ดีมีสุข ได้ทำบุญ ทำทาน ต่อมาอีกหลายที่ ลูกหลานก็โต เรียนเก่ง ผมเอง กินอิ่ม นอนหลับเหมือนที่เคยเป็น จนพุงโตและเป็น เฒ่า และ ทุกอย่าง ดีขึ้น
คนมาป่วนใหม่ดันแค่ยกประเด็นมา เพื่อ ดิสเครดิต จัดคู่ชน เจตนาขายของ แต่ไม่รู้จักหรอก จริงๆว่า กรรมการน่ะ ไม่มีตัวตนจริงๆมารับผิด ( ชอบ ) ครับ แต่มารับชอบ กินเหล้า น่าจะยังเหลือมรดก มวยระดับนี้ ระดับมวยเด็ก ชกตาม เวที คีร์บอร์ด
เอาแค่ เรื่องวัด คุณแพม ยังคงไปๆมาๆวัด และ บริหารวัดอยู่ คำว่าบริหาร ผมไม่อยากบรรยาย เอาว่าไม่ลื่น แต่ตอนนี้น่าจะลื่น ผมรู้ทุกความเคลื่อนไหว เพราะคุณแพม ยังจะมาชวนผมไปสร้างแพฯใหม่
หลวงตาไม่อยู่แล้ว ผมไม่แน่ว่ามีใครมีบารมีถึงที่จะไปสร้างได้ ตรงนั้น คือ ที่อาถรรพ์ เป็นโบสถ์เก่า เป็นที่ สถิตย์ ของเทวดาใหญ่ บนต้นโพธิ์
คุณแพม และ อบต ( รุ่นใหม่ รู้ไหมว่าใคร? ...เหอๆๆๆ ) ยังโทรมาคุยกับผม ผมเองแบ่งรับแบ่งสู้ ถ้าหลวงตา มาเข้าฝัน หรือ อยากให้ทำ ผมทำทันที แต่ไม่มีนิมิตใดๆว่า ท่านยังคงมีเจตนาแบบนั้น ท่านไปไกลแล้วครับ ที่เกิดและ เคยเกิด แค่เป็นส่วนหนึ่งในบารมีของท่านในอดีต ในอนาคต กำลังมา และเป็นอีกเรื่อง
เอาแค่ในยุคก่อน ความวุ่นวายมีมาตั้งแต่เงินก้อนใหญ่เข้ามา และ เข้ามาเรื่อยๆ ที่เข้า เพราะผมและพวก หาเงินมาครับ ช่วยๆกัน สามัคคีกัน ไม่ใช่ชาวบ้าน ไม่ใช่กรรมการ ( ที่ไม่มีในยุค หลวงตา ) หลังจากพวกผม ออกมา เคยมีกฐิน ถึงล้านบาทอีกไหมครับ ล้านบาทนี้ เกือบ ๑๕ ปีมาแล้ว ถ้ามานับค่าตอนนี้ เทียบจากทอง น่าจะเป็น ๕ ล้านบาทขึ้นไป สำหรับวัดร้าง เจ้าอาวาสเป็นหลวงตา ในสายตา คนทั่วไป
ความวุ่นวายตอนแรกไม่มีใครมาสนใจ แต่พอเงินเข้ามาเยอะขึ้นมากๆ จึงมีขึ้นเรื่อยๆ จนมาแบ่งที่ดินวัด เลยถึงจุดแตกหัก เงินและของวัดหาย ไม่ได้กล่าวอ้าง ผมเป็นคนแจ้งความเอง สำเนายังอยู่ ตอนนั้น เก็บไว้ เตรียมเปิดศึก อายุความคงหมดไปแล้ว ก็เป็นแค่เศษกระดาษ แต่พอจะแฉ อดีตคนบางคนได้แน่นอน
ผมถ้าทำอะไรถูกต้อง เป็นคนสู้ทุกรูปแบบ ไม่เคยหนีใคร และ เพื่อหลวงตาด้วย คำว่าถอย ลืมไปได้เลย และจะมีคนมาช่วยทุกครั้ง ครั้งนั้น ตั้งแต่รองผู้ว่า ผู้กำกับ นายอำเภอ ปลัดอำเภอ เจ้าคณะอำเภอ เพื่อนฝูง ทนาย วิศวกร มาช่วยๆกัน ชื่อที่กล่าว เป็นยุคนั้นน่ะครับ ตอนนี้พวกท่านไปไหนกันแล้ว ผมไม่อาจจะทราบได้ แต่ระลึกถึงบุญคุณพวกท่านมาเสมอครับClick to expand...
ขอบารมีหลวงปู่บุญศรีและกุศลผลบุญทั้งหลายได้ปกปักษ์รักษาคุ้มครองพี่พีและผู้ร่วมบุญทุกๆท่านเทอญ...
ขอเป็นกำลังใจให้พี่พีครับ... -
ที่จริงเรื่องเก่าๆ เอาไว้ศึกษาและ ดูคนครับ ว่ายังเหลือใครเป็นเพื่อนเราจริงๆ แท้ๆบ้าง
ส่วนประสบการณ์มันก็มี ที่ผมโดนป่วน โดนด่าน่ะ โดนเรียกเป็นคนค้าขายพระน่ะ เป็นนายทุน โดนเรียกอีกหลายสรรพนาม ต่ำๆก็มี เรียกให้ขบขันก็มี เป็นครั้งที่ ๖ แล้วครับ นั่งนับๆดู ไม่ใช่รื้อฟื้น แต่ มี ๖ ครั้งในระยะเวลา ๕ ปี
๑) สวนขลัง ก่อน ปี ๒๐๐๘ น่าจะเป็นปี ๒๐๐๗ หรือ ๒๕๕๐ หลังจากหลวงพ่อทรง ล่ะสังขาร พอเกิดเรื่อง ผมไปแจ้งความ ที่ สน บางกอกน้อย แก็งค์ ทวีวัฒนา นาย ป และ อีก หลายนาย ก็แตกกลุ่มไป
หลังจากนั้น คุณ NR ชวนมาที่พลังจิต ก็อบเรื่องมาให้ด้วย กราบขอบคุณ คุณ NR ครับ
๒) จาก นาย .... ไม่กล่าวชื่อ เพราะยังมีอยู่ชื่อเว็บ ...ต่างคนต่างอยู่
๓) จาก นาย .... ไม่กล่าวชื่อ เพราะน่าจะยังอยู่ในเว็บ ผมเห็นแว็บๆ
๔) นาย Kambodia เป็นอวตาร ร่างทรงอีกชื่อ ของคนปัจจุบันนี่แหละครับ ผมก็อบไว้ประกอบเป็นหนังประกอบ หนังใหญ่
๕) นาย เทวทูต หายหน้าหายตาไป ได้ข่าวว่า กลับบ้านเก่า ไปขายเหรียญบินในเว็บหนึ่ง ผมตามไม่ซื้อทัน มีอะไรเหลือมาขายผมก็ได้ ถ้ายังตามอ่าน
๖) นาย.... ยุคปัจุบันที่จะต้อง สะสางและล้างตากัน ครับ
ตกลงมีประมาณนี้ครับ ไม่รวมยุคที่วัดใหม่
และอย่างที่ผมบอกนายเทวทูต สำหรับผมก็แค่ศึกอีกครั้งครับ รบมาหลายทีแล้วครับ
อะไรที่ยืนบนความถูกต้อง เป็นหลักการ จะทนทานการพิสูจน์ครับ....จะได้รู้กัน -
Chang_oncb said: ↑
มาชมพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ การอธิษฐานจิต ปลุกเสกพระกริ่ง พระชัยวัฒน์ บนแพโบสถ์น้ำ หลวงตาเล็ก วัดใหม่ พระอริยเจ้า ๕ แผ่นดินClick to expand...
กราบ กราบ กราบ หลวงตาเล็ก ค่ะ -
มีดสังหาร กูครี ( Kukri )
เปลี่ยนบรรยากาศจากพระไปสักหน่อย อ่านเพลินๆ อย่างที่บอกผมเป็นคนชอบมีดมาก หลังจากเหตุการณ์เข้าที่ ผมจะเปิดเผย วัตถุมงคล หลวงตาเล็กทั้งหมดที่มี และผมมีมีด หลวงตาเล็กน่าจะร่วม สามสิบเล่ม เป็นมีดแนว พยุหะ หรือ เรียกว่าปรีกุ้ง ที่ไม่เปิดตอนนี้เพราะจะมีคนเอามาแจม ขายของ ขายที่แท้ก็ดีไป แต่ถ้าขายแบบ แจมๆ อุปโลกน์ แบบเสริม แบบยัดวัด อันนี้ไม่ส่งเสริมครับ
แต่มีดที่เอามาโชว์นี้ เป็นมีด ของ ชาวกูรข่า ที่มีชื่อเสียงทั่วโลก ที่จริงมีประการณ์มากกว่า ดาบ คัตตาน่า ของ ซามูไร ญี่ปุ่นซ่ะอีก เพราะญี่ปุ่น ไม่รับจ้างรบ แต่กูรข่ารับจ้าง และเผอิญ เจ้าของมีด เป็นประเทศ เล็ก ยากจน ฝรั่งมันเลยพยายามจะมองข้ามความจริงไป
แต่ความจริงคือ ว่าชาติ ล่าเมืองขึ้น มหาอำนาจ เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศษ เมื่อแผ่อาณาเขตมายังเอเซียเข้ายึด ประเทศเขาด้วยกำลัง และ อาวุธ ที่เหนือกว่า เช่น อินเดีย พม่า ยัง เอเซียตะวันตกเยงใต้ (อย่างที่ทราบ ประเทศไทย ยังไม่เคยถูกยึดแบบ ล้มเอกราช เข้าล้มราชวงศ์ แบบพม่า อินเดียน่ะครับ )
แต่มีประเทศ หนึ่ง ที่คนทั่วไปไม่ทราบและ ไม่เชื่อ คือ เนปาลครับ เนปาลไม่เคยถูกเข้ายึดโดย ทหารอังกฤษ และ ทหารร่วม จาก อินเดีย แม้กำลังพลจะมากกว่า อาวุธ เหนือชั้นกว่า เช่น ปืนเล็กยาว และ ปืนใหญ่
แต่ เนปาล ที่มีกำลังคนน้อยกว่ามาก แต่ไม่เคยแพ้อังกฤษน่ะครับ ในทางกลับกัน ทหาร กูรข่า กับ รบชนะ หลายครั้งและ สังหารทหารอังกฤษไปเป็นจำนวนมาก ในการรบแบบ hand to hand ประชิดตัว ที่ชาวกูรข่าถนัด
ชาวกูรข่าตัวไม่ใหญ่น่ะครับ ที่ติดเหรียญกล้าหาญชั้นสูงสุด สูงเพียง ๑๕๐ เซน ตัวขนาดผู้หญิงไทยครับ
ด้วยภูมิประเทศ ภูเขาที่ตั้งรับชั้นยอด ด้วยใจของนักรบภูเขา นับถือฮินดู ด้วยการฝึกแบบโยคะ และ มีความชำนาญในการ ใช้มีด กูครี มาแต่กำเหนิด การเคลื่อนไหว วิ่งบนภูเขาเหมือน คนข้างล่างเดินบนสนามกอล์ฟ
นักรบพวกนี้ทำให้อังกฤษกลัว เมื่อรบ เนปาลไม่ชนะ ประเทศ และ เผ่าอื่นดูเป็นตัวอย่าง ทำให้อังกฤษกลัวจะถูกรุม จึงต้องเปิดการเจรจา สงบศึก กับ เนปาล และ เปลี่ยนจากศัตรูมาเป็นเพื่อน จ้างเอา ทหาร กูรข่า ซึ่งมีชื่อว่า เป็นทหารรับจ้างที่ดีที่สุดในโลก มารบแทน มีมาร่วม สองร้อยปีครับ
ที่ไหนยากๆ อังกฤษกลัวตายครับ จะส่งทหารกูรข่าเข้าไปลุยนำหน้า ได้ผลซ่ะด้วยหลายครั้ง และ ตัวเองตามตอนชนะ จะยืนทำข่าว ให้ดูดี เป็นชาติรบเก่ง มหาอำนาจ
มีดแบบนี้ ชายชาวกูรข่าจะมีติดตัวเหมือน ซามูไร เหน็บดาบ คัตตาน่า เขาจะฝึกจนชำนาญ ทั้ง แทง ฟัน ขว้าง แม่นยำแบบสั่งได้ ในระยะสังหาร เข้าที่หัวหรือ หน้าอก ดีกว่ากระสุนปืนซ่ะอีก เพราะกว่ากระสุนจะสังหาร ทหารกล้าชาวกูรข่าได้ ( ถ้าไม่ยิงโดนหัวตายในนัดเดียว ) ทหารกูรข่าอาจจะเข้าถึงตัว ขว้างมีดไปสังหารทหารฝ่ายตรงข้ามหนึ่งคนที่ พุ่งเข้าใส่ ดึงมีดที่สังหารไปศพแล้ว คว้าออกมา ฆ่า ฝ่ายตรงข้ามไปอีก สอง ถึง สามคนกว่าเขาจะล้มไปต่อไม่ได้ แต่มีดยังกำในมือ ด้วยกำลังใจดังเพชร ไม่มีคำว่ากลัวตาย เพราะการสังหาร เพื่อบูชา พระศิวะ เทพ สังหาร หรือ บูชา พระอุมาเทวี ปางเจ้าแม่กาลี ที่ชอบกินเลือด
ทหารอังกฤษ และ แขกอินเดีย กลัวทหารกูรข่ามากกว่า หนูกลัวแมวซ่ะอีก ถ้าไม่รุมยิงจะไม่กล้าเข้าต่อสู้แบบตัวต่อตัว จะล้อมและ ยิง เท่านั้น แต่ภูมิประเทศ ภูเขาทำให้ทำไม่ได้ง่าย ทหารกูรข่าอาจจะซ่อนอยู่ตามก้อนหิน เมื่อเข้าใกล้ตัวก็เเสดงว่าถึงตัว ทหารกูรข่าจะร้องด้วยเสียงอันดังทำลายขวัญคู่ต่อสู้ แล้ววิ่งเข้าใส่ ทำให้ทหารอังกฤษ หวาดกลัวมาก ยิ่งแขกที่มารับจ้างรบ แทนที่จะรบ ก็หันหลังวิ่งหนี
กูราข่ารบกับอังกฤษนี่ เขารบทุกคนแม้กระทั่ง หญิงและ เด็กน่ะครับ ทุกคนไม่กลัวตาย ได้ป้อมไปก็ได้แต่ศพ พวกนี้ไม่มีเกียร์ถอยหลังครับ
ภาพยนตร์จะสร้างแต่ คนขาว พวก กรีก โรมัน ต้นตระกูล คอเคชี่ยน ยอดนักรบ สามร้อย ที่สู้คนเป็นหมื่น เป็นแสน ของกษัตริย์ โลอีนีดัส ด้วยคน สามร้อยคน ทำแล้ว ฝรั่งผิวขาว ดูดี
แต่ถ้า ภาพยนตร์นี้ สร้างโดยชาวกูรข่า ต้องสร้างเรื่อง สี่ร้อย ที่โดนรุม จาก ทหารอังกฤษและ แขกอินเดียจำนวน กว่าสามพันนาย คนสี่ร้อยวิ่งเขาแลกกระสุน ลุยประจันบาน นับศพสุดท้าย ทหารอังกฤษและ ทหารกูรข่าตายเท่ากันทั้งมี มีคนเยอะ อาวุธเหนือชั้น รุมยิงเอา การรบนำโดย แม่ทัพ ทหารกูรข่า อายุ ๗๔ ปี ชือ คุณปู่ บาคติก แทปป้า ซึ่งต่อมา เป็นชื่อตำนาน วีรบุรุษของชาวกูรข่ามาหลายร้อยปี ที่แม้จะแก่ แต่ใจแข็งแกร่ง ดังเพชร รบจนตัวตาย มีดยังอยู่ในมือ
ตอนสุดท้ายนับศพ ปรากฏ ตายเท่าๆกันทั้งที่อีกฝ่ายมากกว่าและ ตั้งรับ อาวุธดีกว่า และจากการรบอีกหลายครั้งทำให้ ทหารอังกฤษกลัวทหารกูรข่าแบบขยาด ต้องใช้เวลา เล่นการเมืองบีบ จนมาเซ็นต์สัญญากัน
ในมือของทหาร กูรข่าจะมีดาบและ มีดแบบนี้ทุกคนครับ -
เข้าใกล้ ล้านหก คลิ้กเข้าไปแล้วครับ
-
Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ
-
พี เสาวภา, นสิทธิ, ole, หมีเมืองนนท์, natta_pea, dokput_p, v69,N, G.sis.t+
เริ่มดึกมีแขกมาเยือนกัน พอสมควร
หน้า 2357 ของ 3280