เหรียญหลวงพ่อโอภาสี รุ่น ๒ พ.ศ. ๒๔๙๖
มีด้วยกัน ๒ พิมพ์ คือ พิมพ์งูใหญ่ หรือพญานาคใหญ่ และพิมพ์งูเล็ก หรือ พญานาคเล็ก ลักษณะเป็นเหรียญปั๊ม มีหูในตัว ด้านหน้าเหรียญเป็นรูปเหมือน หันหน้าตรง ข้างบนเป็นรูปงู หรือพญานาคคู่ ด้านล่างใต้รูปเหมือนเขียนคำว่า “โอภาสี”
ด้านหลังเหรียญเป็นยันต์ ข้างบน จารึกตัว “อ” รัศมี ย่อมาจากชื่อของหลวงพ่อโอภาสี และมีรูปงู หรือพญานาคคู่ ด้านล่างใต้ยันต์เขียนตัวเลขไทยว่า “๒๔๙๖”
ซึ่งเป็นปีที่จัดสร้าง มีด้วยกัน 4 เนื้อ ได้แก่ เหรียญเนื้อทองคำ, เหรียญเนื้อนาก, เหรียญเนื้อเงิน และเหรียญ เนื้อทองแดง
เป็นเหรียญหายาก เก็บมาหลายสิบปี เจอเหรียญเดียว ในกรอบถ่ายให้ชัดๆ ถ่ายยากหน่อยน่ะครับ เพราะโฟกัสยาก มีแสงสะท้อน
เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕
ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย พี เสาวภา, 7 เมษายน 2008.
หน้า 3272 ของ 3280
-
-
เหรียญครุฑแบกเสมา หลวงพ่อโอภาสี ปี ๒๔๙๘ รุ่นสุดท้าย
เหรียญครุฑแบกเสมา หลวงพ่อโอภาสี สร้างปี 2498 ก่อนหน้ามรณภาพ คณะศิษย์ได้ขออนุญาตสร้างวัตถุมงคลเป็นเหรียญ หลวงพ่ออนุญาต แต่ได้สั่งว่า “ เหรียญนี้จะไม่มีรูปโอภาสี เพราะในโลกนี้จะไม่มีโอภาสีอีกต่อไป ครุฑ คือ อำนาจเสมากับอุณาโลม และรัศมีคือตัวโอภาสีต่อไป
อันเป็นเหรียญรุ่นรุ่นเดียวที่ไม่มีรูปหลวงพ่อโอภาสี เป็นเหรียญรุ่นสุดท้ายที่หลวงพ่อท่านปลุกเสก เป็นเหรียญมีประสบการณ์สูงมากเพราะมีครุฑมาด้วย
-
รูปนี้ลองถ่ายดู
พระเนื้อชินเขียวไขขึ้นแล้ว นาคปรกทรงหนุมาน
ไม่ทราบวัด พระมีขนาดใหญ่พอสมควรน่ะครับ สูงประมาณ ๒ นิ้วกว่าๆ
ถ้าเป็นขุนแผนจะตีหลวงพ่อกวยไปเลย แต่นี่ไม่น่าจะใช่ มีอายุ และดูฟอร์มไม่น่าเป็นของกรุ แต่ตามหลักบนที่ไปหาเจอ มีคนตีเป็นพระกรุก็มี
......................................................................
-
ล็อกเก็ตหลวงพ่อเชย วัดเจษฎาราม
ตัวถังเงิน แบบเดียวกับล็อกเก็ตกรมหลวงชุมพรฯที่เคยโชว์มาข้างล่าง น่าจะเป็นล็อกเก็ตทำขึ้นมายุคเดียวกัน เพราะยุคนี้ไม่นิยมทำล็อเก็ตแนวนี้แล็ว ผมหาประวัติล็อกเก็ตนี้ไม่เจอเลย แต่เก่าลึก ทำแผ่นเงินหลังแบบ มีแม่พิมพ์ เป็นยันต์ อุณาโลม ดูเหมือน ๙ ชั้น และ ลงหัวใจพระคาถา จะ ภะ กะ สะ
หลวงพ่อเชย เป็นพระยุคเก่ามาก ล็อกเก็ตนี่คงไม่ทัน และ ทำทีหลัง ครับ นิมนต์พระมาปลุกเสกยุคนั้น สายนี้ ก็มี หลวงพ่อสุด หลวงพ่อแก้วและหลวงปู่โต๊ะ ท่านก็รับนิมนต์สายนี้ประจำ
ผมกำลังจัดโต๊ะ ถ่ายรูปใหม่ ปรับโคมเเสงได้มาใหม่ เลยคิดนอกกรอบในการวางโต๊ะวางแสงใหม่ ปรับกล้อง เซ็ตค่าใหม่ ลองดูน่ะครับ ปรับไปเรื่อยๆ
-
สมเด็จเสาร์ห้า ปี ๒๕๑๖ พิมพ์ใหญ่ หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช อยุธยา
หลวงพ่อเทียม เมื่อท่านสร้างพระผง ท่านจะตั้งใจลบผงวิเศษทั้ง5 ตามสูตรการสร้างพระสมเด็จตามแบบฉบับของสมเด็จโต ตามตำราแบบเคร่งครัด เป็นผงเอาไว้เจือในแต่ล่ะครก ไม่ใช่พระโรงงานแก่ปูนขาวใส่สี ปั้มมาแลวมาทำพิธี เอา
พระนี่ผมได้จากวัด ประมาณปี ๒๕๒x หรือ ๒๕๓x ต้นๆ แต่หลวงปู่เทียมท่านล่ะสังขารไปแล้ว ตอนนี้เจ้าอาวาสองค์ใหม่ พระครู ส. นำตะกรุด ( ตะกั่วเก่า จารใหม่ แต่น่าสนใจ เพราะจารและเสกโดย หลวงปู่กอง วัดสระมลฑล ก่อนที่ท่านจะย้ายวัดหนีไปวัดสระมลฑล ท่านเป็นพระลูกวัด ช่วยงาน หลวงปู่เทียมมาก่อน ข้อมูลนี้ผมได้จาก พระ หลวงพี่ ก. คนพื้นที่หน้าวัด และ มีพระยุคเก่าๆมาวางจำหนายเยอะ )
พระสมเด็จนี่น่าจะเก่าเก็บแล้วนำมาตีตรายางใหม่น่ะครับ จะไม่เหมือนรุ่นที่หลังเรียบๆไป กล่องเดิมๆจากวัดก็กล่องธรรมดาไม่ใช่ทำมาเฉพาะ มีชื่อ มีชื่อวัด มี พ.ศ.
หลวงพ่อเทียมท่านเก่งมากน่ะครับ เป็นพระอาจารย์องค์หนึ่งของหลวงพ่อทรง ที่ท่านเรียนมาในการลงตะกรุดมหาจักรพรรดิ์ แต่ไม่เป็นที่บันทึกกันไว้ไม่ว่าจากสายไหน ทั้งหลวงพ่อเองก็ไม่พูดมาก แต่จากวัย ท่านทันเรียนกันแน่นอนครับ ท่านมีวิชาเยอะ และ มีวิชาทางช่างระดับเทพ อีกทั้งท่านเป็นช่างสิบหมู่ด้วย เจ้านายขึ้นหาหลายองค์ ถ้าท่านอยู่ต่อมาอีก สัก ๒๐ ปี ล่ะสังขารสัก ๙๐ กว่าแบบหลวงปู่หลวงพ่อดังๆ ล่ะผมว่าวัดแตกล่ะครับ
ป.ล. หลวงพ่อทรงท่านมีอาจารย์อีกองค์ที่ประวัติไม่ได้ เปิดเผยกัน คือ หลวงพ่อ กลั่น วัดอินทราวาสครับ หลวงพ่อทรงเป็นอาจารย์ปลัดมาก่อน ทั้งไปรับปลัดหลวงพ่อกลั่นมา และ ลงเองก็มี ทรงเดียวกัน ก่อนจะเลิกทำไป เจตนาเอามาช่วยสร้างวัด ข้อมูลจากคนที่เคยขี่มอเตอร์ไซด์ ลัดทุ่งไป พา หลวงพ่อทรงไปวัดอินทราวาส กับ วัดมอญ หลายปีครับ
...........................................................
-
หินนาคกระสวย ( Serpentine )
ตามตำรา
เซอร์เพนทีน(Serpentine) เป็นชื่อของกลุ่มแร่ที่เกิดในหินแปร โดยมักถูกใช้เป็นแร่เพื่อเอาธาตุแมกนีเซียม ใช้เป็นใยหินและเป็นหินเพื่อทำเครื่องประดับ มีสีแดง เขียว น้ำตาลแดง น้ำตาลเหลืองและขาว ชื่อของกลุ่มนี้ มาจากชนิดสีเขียว ที่มีลวดลายเส้นใยที่คล้ายกับงู (Serpent แปลว่า งู) จึงเรียกกันมาว่าหินงู เชื่อกันว่า ใช้แก้พิษ รักษาโรคได้บางชนิด
มีสูตรเคมีทั่วไป ดังนี้: (X)2-3(Y)2O5(OH)4
คำว่า serpent ในภาษาอังกฤษแปลว่า งู งูพิษ หรือ พญานาค
ซึ่งมาตรงกับคำโบราณว่านาคกระสวย แบบจังๆ หินหรือแร่พวกนี้ ไม่แข็งมากและอาจจะมีแร่อื่นปนมา แต่หลักการแล้ว ต้องมี สีเขียว และ ลายเหมือนงู
ผมเผอิญได้ข้อเขียน จาก เพื่อนที่เคยเรียนจุฬาฯ มาด้วยกัน ท่านนี้เก่งทางด้าน ธรณี ดูแร่ ดูหินมาก ชำนาญในการดูหินและแร่มา ทั้งในประเทสและต่างประเทศ มากว่าสี่สิบปี ใช้หากินมาจนแก่เฒ่า
ขอนำมา ให้อ่านน่ะครับ ผมเห็นว่าน่าสนใจมาก ผมขอนำมาและ เสนอข็อมูลที่ถูกต้องแกผู้นิยมเครื่องรางของขลัง เพราะบางชนิดที่เอามาขายและเรียกนาคกระสวย ไม่ใช่หินนาคกระสวยน่ะครับ แต่ผมไม่ได้มาด้อยค่า เพราะบางชนิดเป็นหิน พวกอัญมณี แพงกว่าหินนาคกระสวยซ่ะอีก เช่น มรกต ตระกูลหนึ่ง หรือ หยกตระกูลหนึ่ง
หรือพวกหิน สบู่สีเขียว หรือ หิน andesite สีเขียว ที่คนโบราณนำมาทำขวานหิน ฯลฯ จึงมีหลายชนิด พอคนโบราณนำมาแกะ อิ้น พระ คนต่อมา มาเรียกรวมเป็นนาคกระสวยไปหมด ซึ่งไม่ใช่น่ะครับ เล่นกันผิดน่ะครับ
นายเลิศสิน รักษาสกุลวงศ์
18. ตามล่าหา นาคกระสวยน้ำว้า
ถ้าคุณเป็นสายมูตัวจริงเสียงจริง ต้องเคยได้ยินได้ฟังตำนานเรื่องหินที่โด่งดังด้านความขลังศักดิ์สิทธิ์แห่งภาคเหนือ นั่นคือ นาคกระสวยน้ำว้า จังหวัดน่าน ยิ่งถ้าเดินขึ้นไปถึงต้นน้ำว้าจะพบหินนาคกระสวยขนาดใหญ่ตั้งเด่นเป็นสง่า สีสรรสวยงามจับตาต้องใจ นั่นคือหินนาคกระสวยน้ำว้าคุณภาพดีที่สุดที่เป็นสุดยอดด้านมหาเสนห์ ตำนานยังบอกอีกว่าถ้าล่องไปปลายน้ำก่อนออก ลำนัำโขงจะพบหินที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เรียกว่า เขียวโขง
ถ้าคุณเป็นนักวิชาการด้านธรณีวิทยาคงรู้ว่านาคกระสวยเป็นชื่อเรียกหินแปรชนิดหนึ่งที่มีแร่เซอร์เพนทีนและแร่ใยหินเป็นองค์ประกอบหลัก มีชื่อเรียกว่า หินเซอร์เพนติไนท์ แปลว่าหินสีเขียวที่มีลายคล้ายงู
ลำน้ำน่านมีต้นน้ำอยู่ด้านเหนือของเทือกเขาขุนน่าน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่านช่วงแรกไหลขึ้นเหนือและวกลงด้านใต้ที่อำเภอทุ่งช้าง ผ่านตัวเมืองน่านลงไปทางใต้ ส่วนลำน้ำว้า มีต้นน้ำอยู่ด้านใต้ของเทือกเขาขุนน่าน ไหลผ่านอำเภอบ่อเกลือ สันติสุข แม่จริม และไปบรรจบกับลำน้ำน่านที่อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับลำน้ำโขงใดๆทั้งสิ้น
ผมเป็นนักธรณีวิทยาสายมู เคยสำรวจธรณีวิทยาจังหวัดน่านหลายครั้ง เคยเดินข้ามลำน้ำว้าหลายหน และเคยเดินไปจนถึงขุนน่าน ต้นน้ำว้า เป้าหมายหลักเพื่อตามล่าหาหินแกรนิตที่ปรากฏอยู่ในแผนที่ธรณีวิทยา ฉบับที่เยอรมันมาทำไว้เมื่อ50ปีที่แล้ว แต่ไม่พบ แม้จะสังเกตุจากกรวดแม่น้ำ ก็ไม่พบกรวดของหินแกรนิตเลย จึงได้ทำการแก้ไขปรับปรุงแผนที่ธรณีวิทยาในบริเวณนี้ใหม่ให้ถูกต้องตามที่ได้พบเห็น เป้าหมายรองซ่อนอยู่ภายในคือการได้เห็นนาคกระสวยในตำนาน แต่ก็ผิดหวัง ไม่มีร่องรอยของนาคกระสวยหรือหินเซอร์เพนติไนท์เลย หรืออาจเป็นไปได้ว่าเรายังไปไม่ถึงจุดที่เป็นต้นน้ำจริงๆต้องยอมรับว่าปีนไม่ไหวมันชันมาก แต่เมื่อตรวจสอบ วิเคราะห์ข้อมูลตามหลักวิชาการแล้ว มั่นใจว่าเทือกเขาขุนน่านไม่มีหินแปรชนิดเซอร์เพนติไนท์แน่นอน มีแต่หินตะกอน ชนิดหินทราย หินปูน หินดินดานและ หินเชิร์ต พบซากดึกดำบรรพ์พวกหอยกาบคู่ บ่งบอกว่าหินที่นี่ตกตะกอนในสภาพแวดล้อมแบบทะเลตื้น เมื่อ 240ล้านปีมาแล้ว ถือโอกาสแนะนำแหล่งท่องเที่ยวทีสวยงามสำหรับผู้ที่ชอบท่องเที่ยวไพร เดินขึ้นยอดดอยภูแว ดูสุสานหอย240ล้านปี รับรองว่าจะประทับใจมิรู้ลืม
ลำน้ำว้าช่วงที่ไหลผ่านอำเภอบ่อเกลือ และอำเภอสันติสุข พบแต่หินทราย หินกรวดมนเป็นส่วนใหญ่ ที่น่าสนใจคือช่วงที่น้ำว้าไหลผ่านอำเภอแม่จริม เข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติแม่จริมที่บางช่วงใช้เป็นที่ล่องแพของนักท่องเที่ยวที่ชอบการผจญภัย หินโผล่ตามริมตลิ่งมีหลายชนิดมาก ทั้งหินอัคนี หินตะกอน และหินแปร ไม่เคยพบหินนาคกระสวยแม้จะไปสำรวจธรณีวิทยาตามลำน้ำว้าหลายครั้ง แต่ ค่อนข้างมั่นใจว่าถ้านาคกระสวยน้ำว้ามีจริง คงหาได้ในบริเวณนี้แหละ เพราะอีกไม่ไกล ลำน้ำว้าก็จะไปบรรจบกับลำน้ำน่านแล้ว
จังหวัดน่านมี หินเซอร์เพนติไนท์หรือนาคกระสวยแน่นอน พบได้ที่เขาสบเป็ด อำเภอท่าวังผา ทุกครั้งที่มีโอกาสผ่านไป จะแวะเก็บหินมาฝากคุณครูที่สอนวิชาโลกและการเปลี่ยนแปลงเสมอเพราะมีแร่ใยหินสวยงามมาก ภายหลังมีงานวิจัยจากต่างประเทศระบุว่าแร่ใยหินเป็นอันตรายต่อระบบหายใจจึงได้แจ้งขอให้คุณครูเก็บตัวอย่างหินเซอร์เพนติไนท์ไปทิ้งให้หมด แม้แต่ส่วนของผมเองก็ไม่เก็บไว้ อาจขัดใจสายมูบ้าง แต่ก็ขอปลอดภัยไว้ก่อน
สำหรับกรวดแม่น้ำโขงมีหลากหลายชนิดมากเพราะถูกพัดพามาไกลนับพันกิโลเมตรจากเมืองจีน ผ่านพม่า ลาวไทย จึงมีลักษณะกลมมน มีลายสวยงาม เคยมีโอกาสไปดูบ่อทรายริมโขง ที่จังหวัดมุกดาหาร ที่ดูดกรวดทรายจากลำน้ำโขง มีการแยกกรวดที่สวยงามออกมาขายเป็นหินประดับ นับเป็นการเพิ่มมูลค่าของกรวดลำน้ำโขงได้เป็นอย่างดี ได้ตรวจสอบกรวดหลากสี พบว่าส่วนใหญ่ กรวดสีขาวน้ำนมคือแร่ควอตซ์หรือหินเขี้ยวหนุมาน สีเหลืองคือแร่ควอตซ์ที่มีคราบสนิมเหล็กเคลือบ สีดำคือ ฟลิ้นท์ สีแดงคือแจสเปอร์ สีเขียวคือหินภูเขาไฟชนิดแอนดีไซต์ ไม่พบหินเซอร์เพนติไนท์หรือเขียวโขงแต่อย่างใด
เลิศสิน รักษาสกุลวงศ์
19 กันยายน 2564
-
นหินตระกูลอุลกมณี ( ไม่ใช่นาคกระสวย คนล่ะตระกูลกันครับ )
อันนี้ประวัติการครอบครองลึกมาก ได้มาจากผู้ใหญ่ท่านเมตตา ให้แลกซื้อมา ต้องหาของไปแลกมา องค์นี้ใช้ หลวงพ่อทวดเตารีด ๐๘ หลังตัวอักษรที่ซื้อมาจากวัดเอี่ยมวรนุช ยุค พระท่านเปิดให้บูชา ไปแลกมา
เป็นอิ้นเก่าแก่ประจำตระกูล และเชื่อว่าป้องกันฟ้าผ่าได้ ท่านผู้มีบุญ มีกำลังก็ไปซื้อหาต่อมา จนมาถึงผม
ยุคผมตีกอล์ฟ สิบกว่าปี ห้อยองค์นี้แหละครับ ตามความเชื่อ สาเหตุเพราะในสนามกอล์ฟ มี ฟ้าผ่า คนตายบ้างเป็นระยะ เนื้อจากมีพื้นที่โล่ง หรือมีต้นไม้ จนบางสนามต้องมีอุปกรณ์ตรวจประจุ ทั่วสนามกอลืฟ เมื่อ ความหนาแน่นของประจุไฟฟ้ามีมากถึงจุด จะมีหวอดัง ต้องเลิกเล่นกอล์ฟ เข้าหาที่กำบังตาม ซุ้ม หรือ กลับไปยังสโมสรครับ
มีหินแบบเดียวกัน และแกะมาคล้ายๆกัน สายเหนือ ลักษณะแบบนี้ไม่ใช่หินนาคกระสวยน่ะครับ หินคนล่ะตระกูลกันครับ
-
หินดำตระกูลดาวตก อุลกมณี
ผมจะใส่รวมเข้าไปกับนาคกระสวยแต่เพิ่มรูปไม่ได้ FB กำลัง กำจัดสิทธิ์ พวกเขียนฟรี กลัวเอามาขายฟรีเยอะ ก็เป็นสิทธิของเขา
เอามาต่อตรงนี้ก็แล้วกัน ผมจะลงทุกเรื่องไว้ในพลังจิต เพราะรู้สึกว่าของเขา คงที่ดี ไม่เหมือน FB ที่เดี๋ยวดี เดียวกั้ก เอาข้อมูลเราทั้งหมด ไปประเมิน AI ใช้ค้าขายแล้วไม่จ่ายเงินให้เราเหมือนกัน น่าจะแลกกัน
องค์แรกเป็นหินดาวตก หรือคตปลวก ในบรรดาของแปลกๆที่ตามเก็บมา อันนี้รู้ประวัติดีที่สุด รู้สถานที่ คนขุด แม้เหตุการณ์ จะร่วมๆ ๖๐ ปีมาแล้ว ตอนผมสัก ๔ หรือ ๕ ขวบ อยู่
แถวบ้านผม สถานเสาวภายุคปี ๒๕๐๑ หรือ ๒๕๐๒ ยังเป็นป่าอยู่เลย มีสระน้ำใหญ่ๆหลายสระ มีทุ่งกว้างหลายทุ่ง ไว้เลี้ยงม้า แกะ แพะ เอาไว้ทำเซรุ่ม บ้านพัก พวก หมอๆ พนักงานก็อยู่ด้านหลัง ตอนนี้น่าจะมีน้อยแล้ว ที่คงไม่พอ เขาไล่ที่ออกไปหมดแล้วมั้ง ผมไม่ได้ไปนานมากแล้ว
แถวบ้านผมมีกอปลวกอยู่กอ ใหญ่มากพอสมควร มีมาแต่โบราณกาล เกิดมาก็เห็นแล้ว น่าจะมีมาตั้งแต่ก่อนเขามาทำสถานเสาวภาที่นี่อีก ที่นี้วันหนึ่ง มี คนงานเลี้ยงม้า ชื่อ ตาหยิก ตาหยิกนี่เป็นพ่อของไอ้รัน เกลอเก่าผมเอง ไอ้รันนี่ ไม่ได้เจอกัน มา หกสิบกว่าปี ไม่รู้เป็นตายร้ายดีประการใด ส่วนตาหยิก คงกลับไปนานแล้ว
ตาหยิกก็ชอบเลี้ยงไก่ชน และปลากัด งานอดิเรกของชายยุคนั้น วันหนึ่งเกิดขยัน หรือ บอนไม่รู้ ไปขุดกอปลวก ซึ่งคนยุคนั้นเขาถือ ยุคนี้เด็ก พ้นวัฒนธรรมนั้นไปแล้ว คงดูถูกซ่ะอีก แต่คนยุคนั้นและก่อนนั้นเขาถือ เพราะเชื่อว่ามีผี หรือ เทวดาขั้น ภูมิเทวดาอาศัยอยู่ ไปขุดแล้วจะไม่ดี เจ็บป่วยหรือซวยได้ บางที่ มาจุดธูปเทียนขอหวยถูกกันซ่ะอีก จะแนวๆนั้น
จะอะไรอยู่ในใจแกไม่รู้ ไม่ขุดแค่แซะๆเอาปลวกมาเป็นอาหารไก่ ( ตาหยิกนี่มีวีรกรรมหลายเรื่อง จัดว่าเป็นคนห่ามๆทีเดียว ไม่สุกซ่ะทีเดียว ) แต่ล่อซ่ะ เกือบครึ่งลูก แกขุด ไปเจอ หินคตปลวกครับ ( สันนิฐานว่าเป็นดาวตกมานานแล้ว ตรงนั้น ) แปลกด้วยที่ปลวกจะต้องมาขึ้นห่อไว้ เรื่องราวแบบนี้จะเจอกันหลายที่ เลยเรียกกันมาว่าคตปลวก พอหลังเหตุการณ์นี้ผมตามไปขุดมั้ง ไม่เจอหรอกครับ โดนแม่หวดซ่ะ ขาลาย
ตาหยิกแกขุดได้ หินดำ มีผิวขรุขระ ขนาดก้อนประมาณไข่ไก่เล็ก เป็นที่ฮือฮากันในสถานเสาวภาทีเดียว ตาหยิก ก็เก็บเงียบกลัวเขามายึดไป เพราะเป็นที่หลวง ประมาณนั้น ที่นี้ยายผมน่ะ ถ้าท่านอ่านเรื่องผม จะรู้ว่ายายผมชอบเก็บของเก่าของแปลกๆ และ เป็นจอมคาถาด้วย ยายผมเห็นไปเข้าแล้วเข้า ตายายผมอย่างจัง บ้านก็อยู่แถวๆเดียวกันนี่แหละ แถวบ้านพัก หมอ พนักงานและคนงาน ยุคนั้นอยู่กันอย่างสงบ สามัคคีกลมเกลียวกันมาก มีอะไรแบ่งกันกินไม่เหงาครับ
จะด้วยการกล่อมของยายจอมคาถาของผม และ ตาหยิก อยากได้เงินกินเหล้าด้วย ตกลงขายกันในราคา ๕๐๐ บาท ยุคนั้น ห้าร้อยบาทโคตรจะเยอะ เยอะกว่าเงินเดือนตาหยิกหลายเดือนด้วย ราคาทองน่าจะแค่บาท ละ ๒๐๐ ถึง ๓๐๐ กว่าบาท น่ะครับ
ตอนเขาซื้อขายกันผมก็ยังเด็กและอยู่ด้วย สอด เสือกเข้าไปตามประสาซน ยังจับ หินคตปลวกเล่น ก้อนขนาดลูกกอล์ฟ เล็กกว่าสักนิด ไม่กลมดี เบี้ยวๆเหมือนไข่ ตาหยิกล้างน้ำมาอย่างดี พอตกลงกันได้ ยายผมควักแบงค์ ๕๐๐ ที่เตรียมไว้ให้ น่าจะควักแบงค์ล่อตานี่แหละ ตาหยิกเลยยอม ยุคนั้น ใบห้าร้อย สีม่วงๆ สอดสี หาโคตรยาก แค่แบงค์ใบละ ๑๐๐ บาทสีแดงแปร็ด ก็โคตรศักดิ์สิทธิ์แล้ว ตกลงตุ้งกันด้วยราคา ๕๐๐ บาท ยายผมได้คตปลวกสมดังใจ
และยุคนั้นท่านพ่อลี ยังไม่ล่ะสังขารน่ะครับ อยู่ที่วัดอโศการาม ผมเคยเล่าที่ไหนสักที่ เสาร์หรืออาทิตย์ เช้ามืด คุณแม่ และ ยายผม ( ถ้ายายมาจากอยุธยา ) จะไปกราบท่านพ่อทุกอาทิตย์ เรียกว่านับถือเป็นศิษย์มาตั้งแต่ยุคคุณตาผม พระชัยปริญญายังมีชีวิตก็เป็นศิษย์ท่านพ่อ ผมเล่าไปแล้วในตอน วัตถุมงคลท่านพ่อลี เอาว่าพอ คุ้นหน้าตา และท่านพ่อลี ท่านเป็นพระใจดี ท่านสงเคราะห์ บริวารลูกศิษย์ท่านอย่างดี คนนับถือท่านมาก ถ้าท่านไม่ล่ะสังขารตอนหนุ่ม อายุ แค่ ๕๕ปี อยู่มาสัก ๙๐ ปี หรือใกล้ร้อย ผมบอกได้คำเดียวว่า ยิ่งกว่า หลวงพ่อคูณแน่นอน แบบวัดจะแตกเอาล่ะครับ
ยายคงเอาไปอวดท่านพ่อ ขอท่านเป่าให้ และท่านพ่อคงบอกให้เอาไปแกะทำพระประมาณนั้น ยายเลยให้แม่ผมเอาไปแกะพระ แกะได้หลายองค์น่ะครับ น่าจะเกือบ ๑๐ องค์ ที่ไม่ทำพระรูปใบโพธิ์ คงเพราะมวลสารจำกัด ถ้าทำแบบนั้นคงได้ไม่กี่องค์ ไม่พอแบ่ง ไปให้ช่างที่หัวเม็ดแกะมามาได้หลายองค์ ช่างแถวนั้น เจ้าของรับทำเข็มกลัดผู่บริจาคโลหิต ส่ง สภากาชาดอยู่ รู้จักแม่ผมเป็นอย่างดี เพราะมีงานสั่งทำกันอย฿่ แม่ผมคอยตรวจงาน แม่ผมยังมีเข็มตัวอย่าง บริจาคตั้งแต่ครั้งเดียว ไปจนถึง ๕๐ ครั้ง ร้อยครั้งที่บ้าน ผมยังเคยเอามากลัดเล่นโชว์เพื่อน แม่รู้ก็โดนหวดซ่ะ ผมยังมีเข็มอยู่ที่ไหนสักที
เขาเป็นช่างกลุ่มเดียวกัน พอได้พระมาก็แน่นอน เอาไปขอท่านพ่อลีเป่าอีกที ที่เรียกเป่าเพราะท่านพ่อลี ท่านไม่มานั่งหลับตาเสก น่ะครับ เอาน้ำมนต์มาขอท่านทำ เอามาทีเดียวหลายถังหลายโยม เรียงไปเลย ท่านพ่อเป่า พ้วงๆ ๆในแต่ละถัง จบข่าวครับ เอาไปอาบ ไปกิน ไปไล่ผี ได้เลย วัตถุมงคลเหมือนกัน ถ้าเป็นพระล็อกเก็ต ชิ้นเดียว ท่านเอามืกำเป่าพ้วง ดังลั่นศาลา น้ำหมากกระจาย เอาไปรบกับ ผกค ได้เลยครับ พระชุดคดปลวกนี่ ผมไม่ได้เห็นกับตาตอนเสก น่าจะวิ่งอยู่แถวนั้นหรือหาขนมกิน แต่นึกภาพแล้ว อย่างมาก ท่านเอานิ้วเคาะ เป่าพ้วง ทีดังที่ศาลาก็เอาไป ติดตัวได้
บางทีไปกราบท่านพ่อลี กับแม่ผม ท่านพ่อลีอยู่ที่กุฏิ ไปกราบท่าน บางที ท่านนั่งกดพระอยู่น่ะครับ ท่านยังถามเลยได้พระหรือยัง ที่จริงคงถามไปอย่างนั้น เพราะท่านแจกแหลกคงได้มาหลายที แต่ก็แจก ถ้าบอกท่านว่า ยัง หรือเอาอีก ท่านกอบมาทีล่ะกำ ส่งให้ ไม่ใช่ทีล่ะองค์ ยุคนั้นคนไม่หวง เป็นพระเนื้อดิน เนื้อว่าน เนื้อผง อยากได้เหรียญมากกว่า แหะๆ แต่ท่านแจกง่ายและ เสกตรงนั้นแหละครับ เป่าทีเดียวติด พลัง บารมีท่านลึกล้ำมาก ไม่งั้นไม่ดังอมตะขนาดนี้ ยุคนี้พระท่านแพงๆทั้งนั้น
แต่องค์นี้นอกพิมพ์ ทำกันเอง ไม่แอบอ้างขาย เพราะผมก็เหลืออยู่องค์เดียว แม่และ ยายแจกหมู่ญาติ เพื่อนสนิทกันไปหมดแล้ว ถึงรุ่นลุก รุ่นหลานถ้ามาเห็น แบบนี้ พระทรงนี้ ให้เข้าใจว่า เป็นคตปลวด หรือ หินดาวตก ปลุกเสกมาอย่างดี จากพระที่ท่านเหนือโลกแล้วจริงๆ ไม่แค่พระ ดะกรุดผมยังมี ยายเอาไปหุ้มทองไว้แยกต่างหาก
หินพวกตระกูลอุลกมณีนี่ จริงๆหายากน่ะครับ ที่มีกันตอนนี้เยอะ น่ะ หินอัคนีเอามาแปรรูปเป็นหินดาวตกซ่ะมาก จะให้แน่ชัดต้องใช้สายตาผู้เชี่ยวชาญ ครับ
ตามที่เขาบอกผม ตามการสนทนามา
obsidian กับ tektite ดูตาเปล่าแยกกันไม่ออก สีดำมะเมื่อม เหมือนกัน
มันผ่านความร้อนเกินพันองศามาแล้ว
ดาวตกเมืองไทย ก็หายากมาก
ส่วนใหญ่ตกไม่จริง มีจริงแค่ที่เพชรบูรณ์กับนครปฐม
ดาวตก ผิวนอกมันมะเมื่อมแบบโลหะถูกหลอมละลาย
อันนี้ที่คุยกับผู้เชี่ยวชาญ เพียงแค่อยากจะบอกว่า ดาวตกจริงๆหายาก จะให้แน่ชัด ต้อง เอาไปตรวจสอบทางกายภาพ และจากสายตาผู้เชี่ยวชาญน่ะครับ โอกาศที่ท่านจะเจอ หินอัคคี แปรรูปมี โอกาศ ๙๙.๙๙๙๙๙ %
แต่ไม่ใช่ไม่มีดาวตก มีแต่หายาก
และหินแบบแก้วใส ดำๆ หรือ obsidian เมืองไทยก็หายากอีก เพราะไม่ค่อยมีภูเขาไฟ ไม่ใช่แหล่งภูเขาไป เป็นหินแก้วดำ ที่ โดนความร้อนสูงมากเป็นพันๆองศาขึ้นไปขนาดเหล็กละลาย จนแปรสภาพ หินแบบนี้ ทั้งหิน อัคนี ผมเห็นเอามาแกะเป็นเครื่องรางรูปอิ้นเยอะ เป็นพระก็มี ถ้าไม่เก่าแก่จริง โอกาศ จะเป็นของแท้ยากครับ
อีกชิ้นรูปพระปรางค์ก็เป็นของเก่าของยายผม ดูเนื้อหินแล้ว แนว อุลกมณี หรือ obsidian เหมือนกัน จัดว่าเป็นหินหายาก ชิ้นนี้ลืมถามประวัติ แต่คงเอาไปปลุกมาแล้วแน่นอน ยายผมถึงเก็บไว้อย่างดี
ขยายความ
หินตระกูลอุลกมณี ทั้งดาวตก และ หินที่เกิดจากดาวตก tektite
และหินที่เกิดบนโลกนี้ที่เกิดจากความร้อนใต้โลก ลาวา ภูเขาไฟระเบิด เช่น พวกหินอัคนี ( obsidian ) จะดำ มันๆ ใส แบบแก้ว แบบที่ผมเอามาโชว์ เกิดมาจากความร้อนสูงมาก ไม่ใช่หินตระกูล นาคกระสวยครับ คนล่ะชนิดกันน่ะครับ
จะมีความแข็งพอสมควร ปลายมีดพับจะขีดไม่เข้าคล้ายๆกัน ต้องแยกโดยผู้เชี่ยวชาญ หรือ เข้าแล็บแบบกายภาพ เพื่อยืนยัน
-
ล็อกเก็ตพ่อหลวงรัชกาลที่ ๙
มีกับเขาเหมือนกัน รอทางการหล่อรูปหล่อท่านไว้ศาลากลางทั่วประเทศ จะจองแบบ ๙ นิ้ว
รุ่นนี้มีประสบการณ์สดๆร้อนๆไล่ ผี ปีศาจได้
-
พระเพชรกลับเนื้อตะกั่ว ชุดเทที่วัด
ถอดพิมพ์มาจากพิมพ์เนื้อผงเพชรกลับของศูนย์ เทจากเศษตะกั่วจารตะกรุด และ เนื้อตะกรุด
มีไม่มาก ไม่ค่อยเห็น เพราะเทมือ น่าจะหลักสิบ ไม่เกินหลัก ๑๐๐ องค์แล้วไม่ได้ทำอีก เพราะยุ่งยาก มีพระผงให้กดเองที่วัดแล้ว
ข้างหลังตอกโค็ด ท มีหัว โค็ดวัดตอนนั้น
ใช้ตอกตะกรุด แต่โค็ดนี้ไม่ได้ทำลายน่ะครับ อาจจะมีอวตารมาอีกได้ ให้ ดูไว้ประกอบว่ามีจริง ดูอย่างอื่นประกอบไปด้วย พระจะหนา และตะกั่ว สิบกว่าปี เริ่มมีอายุ
ข้างหลัง หลวงพ่อทรงจาร มะ อะ อุ แล้วเสกให้อีกรอบ
............................................................................
-
เล่าถึงอาจารย์ของ หลวงพ่อทรงอีกท่านน่ะครับ และของดีของท่าน ที่หายากมาก น่าจะผุพังไปตามกาลเวลา ระดับอาจารย์ของท่านมี บารมีขนาดนี้ มีหลายองค์ มีลูกศิษย์ถึง แบบหลวงพ่อทรงนี่แหละครับ
เชือกคาด หลวงพ่อชวน วัดยางมณี ( พ่อชวน เชือกคาด)
เพื่อเพิ่มเติมอรรถรสของท่านผู้ที่กรุณามาอ่านข้อความของผม เรื่องพระเดชพระคุณหลวงพ่อทรง เพื่อเผยแพร่ เกียรติคุณของหลวงพ่อทรง และเหล่าคณาจารย์รุ่นเก่าๆของ อ. วิเศษฯ ให้คนได้รู้ว่ามีของดี ไม่ต้องไปหาแพงๆ ตามเซียนเขา หรือ หาของใหม่ ที่จะต้องลุ้นว่าผ่านพิธีจากผู้มีคุณหรือปล่าว ผมขอคั่นรายการ ด้วยเชือกคาด ของ พระอุปัฌาย์ของหลวงพ่อทรง ผมเคยอ้างถึงเชือกคาด หลวงพ่อชวนหลายครั้ง พวกท่านอาจจะอยากเห็นว่าเชือกคาดนี้ หน้าตาเป็นอย่างไร
จากรูปเป็นเชือกคาด ทำจากเชือกกล้วย ( หรือเชือกปอกระเจา คำแนะนำจากผู้รู้ ) สภาพยังดีอยู่มาก แม้เวลาจะหลายสิบปี เคยมีหนังสือนิตยสารที่เขียนเชียร์ของศูนย์ลงว่า (สังเกตุว่า ไม่ว่าใคร คณะไหนสร้างขาย จะลงเฉพาะของตัวเอง แล้วว่าวัดสร้าง แต่ที่วัดสร้างเองจริงๆ ไม่มีใครลงให้น่ะครับ ...แหะๆ ผมมีของวัดสร้างอีกหลายอย่าง หลวงพ่อสั่งทำเอง ว่างๆ จะเอาลงมาให้ดูเรื่อยๆ ต่อไปครับ ) หลวงพ่อชวนดังทางตะกรุด อันนี้จริงครับ เพราะตะกรุดท่านเป็นของที่นิยมในท้องที่มากเหมือนกันแม้จะหายาก และบางทีเป็นของมรดกตกทอดประจำตระกูล จากปู่หรือพ่อ ต่อไปให้ลูกหรือหลาน ทำให้บางทีไปเจอ เขาไม่ขาย หรือ ถ้าจะขายก็ไม่ถูกน่ะครับ ต้องราคาเข้าตาน่ะครับ
แต่จริงๆ ที่ดังจริงๆนั้นนั้นเป็นเชือกคาดเอว ครับ ดังขนาดว่ามีคนไปคอยขอจากท่านประจำ เขาว่ามีเชือกคาดมือด้วย แต่ผมไม่เคยเห็น เพราะหายากมากๆ ถ้ามีคงชำรุด สูญหาย เพราะทำจากเชือกกล้วย ใช้งานไปคงจะเปื่อยไป ยกเว้นเก็บไว้แบบทนุถนอมจริงๆ ลักษณะ เป็นเชือกกล้วยเอามาควั่น มีปมที่หัว และ ห่วงที่ปลายเอาไว้ สอดเข้าหากัน แต่คงคนผอมๆหน่อยน่ะครับ อ้วนๆคงต้องพกเอา มีคนพกเอาเหมือนกันครับ ทำให้ตกหายได้
ใครอยากได้จริงๆ ก็คงต้องไปเดินตามบ้านแถววิเศษฯล่ะครับ เพราะของมีน้อย เขาหวงกัน ไม่ค่อยกระจัดกระจายออกไป หรือมีคงสภาพที่ชำรุดแล้ว ผมเอามาให้ท่านดูว่า อาจารย์ยุคเก่าแถววิเศษฯน่ะ เจาะลึกลงไป มีเก่งมากมาย เก่งขนาดลองได้ เขาลองกันมาแล้วในอดีตแบบหายสงสัย และ ยังมีอาจารย์ที่เก่งแต่ไม่ดังน่ะ ยังมีอีกหลายองค์ เพราะซุ่ม ไม่อยากให้คนรู้ว่าทำได้ เดี๋ยวคนไปกวน ท่านเหนื่อย อยู่เงียบๆแบบหลวงตา จำศีลภาวนามากกกว่า แม้หลวงพ่อทรงเอง ก็ปิดตัวซุ่มอยู่ตั้งนาน เพิ่งจะมาเปิดตัวตอน ปลายของชีวิตท่านนี่แหละ หลังจากท่านรู้ตัวว่าเป็นมะเร็ง ก็เพื่อสร้างบารมี โปรดลูกศิษย์ และคงวิชาบางอย่าง ของดีบางชนิด ของครูบาอาจารย์ของท่านไว้ ไม่ให้หายไปจากดินแดน ลูกหลานไทยครับ
แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กรกฎาคม 2008
-
พระปรกโพธิ์ ๙ ใบพิมพ์โพธิ์ยุบ ครกแรกจริงๆ
เป็นครกแรกเลยน่ะครับ พอได้พิมพ์มาจากร้าน มาถึงวัด เห่อหน่อยและ ผสมเนื้อปั้มกัน ตอนนั้นเลย กับพระในวัด มีหลวงพ่อคอยคุมคุม นั่งลุ้นอยู่ด้วย
พิมพ์ยังหนาอยู่เพราะไม่ได้ลดแหวน เนื้อจะแก่ปูนหอยตามสูตร กล้วย น้ำมันตั้งอิ้ว ผงผสมว่านดอกไม้ น้อย
พอปั้มๆๆ ไป เนื้อเริ่มแห้ง ไม่เข้ากันดี ออกมาไม่สวยเลย แต่.....มีประวัติศาสาตร์ หลวงพ่อนั่งคุมคอยบริกรรมหยอดน้ำมนต์ไปเรื่อยๆ ปั้มกันจนหมด เนื้อครกนั้น เอามาตาก ลานไปซ่ะเยอะ ต้องเอาไปบดในรางยา มาเป็นผงผสมต่อกันไป ผมเคยเอามาแจกคนยุคแรกๆ ใส่ซองแบบบั้บเบิ้ลไปถึง จุดหมาย พระแตกไปหมด น่าเสียดาย
พระนี้เป็นพระ...โพธิ์ยุบน่ะครับ
ใล่ส่องตามรูปและพระที่มี พระยุคหลังจะเป็นพิมพ์โพธิ์เต็มแทบทั้งนั้นแปลกมาก ทั้งๆที่พิมพ์เหล็ก ต้นทางจะเป็นพิมพ์โพธิ์ยุบ แท้ ผมไปสั่งทำมาเอง แต่เปลี่ยนช่างปเป็นช่างแถวๆ ท่าพระ
แต่พอพิมพืพระกันมา ใบโพธิ์เป็นโพธิ์เต็มไปได้ แม่พิมพ์เหล็กก็มีตัวเดียว ไม่มีสองพิมพ์แน่นอน เพราะผมทำมาถวายหลวงพ่อเอง ไม่แน่ใจเพราะหลวงพ่อมาเก่งแม่พิมพ์หรือไม่ แม่พิมพ์ก็ทำลายไปแล้วไปอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ เลยอดดูอีกทีว่า แม่พิมพ์เปลี่ยนไปหรือไม่
แต่ต้นทางเป็นแม่พิมพ์เหล็กโพธิ์ยุบแน่นอน ฟังธงครับ
-
-
หลวงพ่อทรงเป็นอาจารย์ปลัดมาก่อนน่ะครับ
ยุคต้นๆ กำลังสร้างวัด ท่านไปวัดหลวงพ่อกลั่น วัดอินทราวาส บ่อยถึงบ่อยมาก โดยซ้อนมอเตอร์ไซด์ไป ลูกศิษย์ ที่เป็นหลานด้วย ทำหน้าที่ ขับขี่มอเตอร์ไซด์ เป็นคนเล่าให้ผมฟัง คนนี้บอกเลย ท่านเป็นอาจารย์ปลัด ( แต่ไม่ดังปลัด เพราะ ไม่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ) ท่านได้ไปเรียนและขอคำแนะนำมาจาก หลวงพ่อกลั่นด้วย น่าจะเรียกได้ว่า หลวงพ่อกลั่นเป็นอาจารย์ของท่านอีกองค์
จนท่านมีความชำนาญ มาทำปลัดเองสร้างวัด แต่จะเป็นปลัดซื้อมาจากแถวๆมหาราช มีทั้งแบบจารมาเสร็จและ ท่านมาจารเอง ปลัดยุคนั้นที่ท่านจารเองหายากและแยกยาก และ เล่นกันไปเป็น ของหลวงพ่อกลั่นกันหมด
ยุคที่ท่านดังแล้วยุคสุดท้าย ท่านก็ยังซื้อปลัดจากมหาราชมาจำหน่ายที่วัดบ้าง แต่ไมากเท่าไหร่ พอมีติดตู้บางครั้ง จารมาเสร็จ ถ้าไม่ตอกโค็ด ท ไม่มีหัว หรือ วศด จะแยกยาก ต้องได้มา แบบที่มาที่ไปดีๆ เพราะไปเหมือนกันหมดไม่ว่าใครจะซื้อมาจากร้านแถวๆมหาราช เสกวัดไหน ออกวัดไหนก็เป็นของวัดนั้นครับ
ยังมีปลัดแบบ ลูกศิษย์มาขอให้ท่านเสกเป็นของส่วนตัว มีแน่นอน มีจารโดยพระ ลูกวัดให้ก็มี โดยพระ ส ๑ และ ส ๒ ถ้าจะซื้อหา ก็เอาที่มั่นใจและไม่มาตราฐานน่ะครับ
...........................................................................................................
ผมมีของเครื่องรางอีกอย่าง มาให้ดูนิดหน่อย เป็นการคั่นเวลาตอนที่ผมจะสะสมและถ่ายรูปลายมือของหลวงพ่อ ที่เอามาให้ พวกท่านดู คือปลัดขิก
ปลัดชุดนี้มีทั้งไม้มะยมตายพราย และ งิ้วดำ ท่านจะลงหมึกให้บนไม้มะยม ส่วนงิ้วดำลงหมึกไม่ได้ ท่านลงด้วยเหล็กจาร ปลัดนี้รอประมาณ 4-5 เดือน กว่าจะได้รอจนลืมเหมือนกัน ผมถวายท่านไปอย่างล่ะ ๒๐ ตัว ตัวปลัด ทั้งไม้มะยมตายพลาย และไม้งิ้วดำ ผมได้ต่อมาจากช่างดิษฐ์ พยุหะ เป็นถุงใหญ่ และ ปลุกเสกโดยหลวงปู่พระครูบุญศรี หลายครั้ง แต่ขาดที่ยังไม่ได้ลงบนตัวปลัด เพราะหลวงปู่พระครูบุญศรี ท่านแก่มากแล้ว ผมเกรงใจที่จะไปขอท่านลงเยอะๆ แค่ตัวสองตัวน่ะได้ เลยติดบ้านมานาน จนกระทั่งมาเจอหลวงพ่อทรง
โปรดสังเกตุดูลายมือและยันต์ของหลวงพ่อทรงว่าสวยงามมาก จนไม่น่าเชื่อว่า เป็นของคนอายุ 80 กว่าปีที่สายตาเป็นต้อทั้งสองข้าง ( ตอนนั้นยังไม่ได้ไปลอกต้อ ) และท่านลงได้หลายยันต์และอักขระหลายตัว บนเนื้อที่แคบบนปลัดตัวเดียว ผมจะถ่ายรูปถอดอักขระพวกนี้ออกมา ในตอนข้างหน้าก็แล้ว กันน่ะครับ
ปลัดมะยมตายพรายนี้ยาวประมาณ 2 นิ้ว 2 หุน เท่านั้น แต่ท่านบรรจง บรรจุยันต์และอักขระเข้าไปมากมาย ด้วยอารมณ์ศิลป์จริงๆ เหมาะเจาะแล้ว กลมกลืนอย่างมาก เป็นของสวยงามของหลวงพ่ออีกชิ้นที่ผมมีทีเดียว
ปลัด ไม้มะยม งิ้วดำ.JPG
รูปนี้เป็นปลัดไม้มะยมเปรียบเทียบกับไม้งิ้วดำ บนไม้งิ้วดำท่านลงยันตร์แบบเดียวกันแต่ดูยากจากในรูป เพราะลงด้วยเหล็กจาร
ปลัดของวัดผมไม่ได้หามาเก็บเพราะใช้ช่างเดียวกับช่างที่ทำให้หลวงพ่อกลั่น วัดอินทราวาส หลวงพ่อไม่ได้จารเอง แต่จารมาเสร็จเรียบร้อยจากช่าง เป็นปลัดโหล ถ้าไม่มีลายมือหลวงพ่อ จะแยกยาก เพราะทำมาเรื่อยๆ ผมเลยคิดว่าหามาเองแล้วให้หลวงพ่อลงให้ดีกว่า
ตอนมอบคืนให้ผม หลวงพ่อย้ำมากที่ไม้มะยม พอคุยๆไปได้สักพัก ท่านก็ตั้งใจถามหลายครั้งว่าไม้อะไร ผมตอบว่าไม้มะยมครับ คุยต่อไปอีกสักพัก ท่านก็ชี้ที่ปลัดไม้มะยมแล้วถามซ้ำอีกว่าไม้อะไรน่ะ เรียกว่าเน้นมากน่ะครับ จนอันนี้ผิดสังเกตุแน่นอน ตกลงปลัดชุดนี้ของท่าน คงไม่ต้องบอกผมอีก แต่ผมพกติดตัวแน่นอน
แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤศจิกายน 2008
-
สองกระทู้ เอามารวมกันทีเดียว
จะตอบคำถามว่า พระหลวงพ่อทรง มีคาถาอะไรหรือไม่บังคับ คำตอบคือไม่มีครับ อันนี้ผมได้ยินจาก ลพ เอง ท่านบอกไม่มีบังคับหรอก สวดมนต์ไหว้พระให้เป็นปกติ ทุกวัน ...... แต่ถ้าท่านใดได้ยินอีกอย่าง ก็ ใช้ไปตามนั้นน่ะครับ
ผาแดง said: ↑
สวัสดีครับพี่พี
เพิ่งเข้ามาครับ โค้ท ตัว ท ของตะกรุดมหาจักร์ครับ ตามคำขอ
พี่พีครับไม่ทราบว่าสำหรับเครื่องรางในหลายๆแบบของหลวงพ่อทรงนั้น มีเคล็ดอะไรเพื่มเติมในการบูชาแต่ละแบบหรือเปล่าครับ ขอบคุณครับ
..........................................................................................................
อันนี้เคยกล่าวไปแล้ว ผมกราบเรียนถามหลวงพ่อ และยืนยันว่า ของๆท่านไม่มีคาถากำกับ ท่านว่าให้อธิษฐานเอา จะทำสื่งใดให้ ทำจิตเป็นสมาธิ แล้วขอเอา ผมใช้แบบวิธีพูดเอง เออเอง
ถ้าจะมีเคล็ด ท่านให้สวดมนต์ไหว้พระตามปกติครับ ทุกวัน แล้วไม่ได้บอกด้วยว่ามนต์บทไหน ถนัดอะไรก็สวดไป ของผม มี นะโม อิติปิโส พาหุงมหากา ชุมนุมเทวดา ชินบัญชร คาถาหลวงพ่อทวด คาถาประจุขาดของหลวงปู่พระครูบุญศรี อิติปิโสมงกุฎพระเจ้า พระเจ้าทั้งห้า คาถาหลวงพ่อกลุ่มวัดฝาง คาถาหลวงพ่อภู วัดดอนรัก และคาถา นางพิม หลวงปู่อั้บ ครับ
ไม่สงวนลิขสิทธ์น่ะครับ ในการสวดมนต์ทำความดี แม้จะชั่วขณะ แค่งูแลบลิ้น ช้างกระดิกหู.....แหะๆ
พี เสาวภา, 2 กรกฎาคม 2008
...........................................................
ผมขอแจมด้วยน่ะครับ
อยากให้ ผู้ที่มีประสบการณ์ของหลวงพ่อ มาเขียนไว้ บันทึกไว้ น่ะครับ มีเยอะครับ รับรอง
ของผมเอง ก็ใช้รวมหลายอย่างไม่เลือกแบบ แบบว่าห่มผ้าหลายผืนจะอุ่นขึ้นดีกว่า
ถ้าเฉพาะเจาะจงเลย ของหลวงพ่อทรง จะมาในแนว คุ้มครอง แคล้วคลาด หนักทางทำมาหากินคล่อง( หนุนด้านนี้มาก ) โชคลาภ เมตตา และแถมเสน่ห์ ในเครื่องรางบางอย่างครับ ปล้ดจะรวมอยู่ด้วยครับ
ส่วนในแนวบู๊ ผมเองไม่เคยเจอเพราะแก่แล้ว ของหลวงพ่อจะไม่ใช่แนวนี้ แต่มั่นใจว่าคุ้มตัวได้แน่นอนครับ แต่อาจจะมีนักบู๊บางท่านมีประสบการณ์น่ะครับ อันนี้ต้องมาเล่าสู่ให้กันฟัง
แต่ผมจากการสะสม พระเครื่องรางมากกว่า สามสิบปี ( ในพ.ศง. นั้น ) ผมผ่านประสบการณ์มาหลายอย่าง ลองมาเยอะ ผมไม่ใช่ประเภทฟังเขาเล่า ถ้าพอใจแน่ใจ แพงผมก็ซื้อ ผมไม่อยู่ในวงการซื้อขาย เก็บของเพราะต้องการบูชา พุทธคุณ และ ทำบุญกับพระศาสนา ผมจะดูๆๆๆให้แน่ใจและทดสอบจนมั่นใจ สมัยยังรุ่นๆหนุ่มอยู่ใช้ยิงเอา แต่ตอนนี้ใช้เหตุผลสังเกตุเอา
ขอยืนยันว่า วัตถุมงคลของหลวงพ่อทรงมีคุณเอนกอนันต์ สรรพคุณรอบด้าน แม้จะดูว่าเป็นของที่ปลุกด้วยคาถาอาคม แต่จริงๆหนุนด้วยการอธิษฐานจิต ของพระผู้เฒ่าที่เหนือโลก ดวงจิตอันวิสุทธิ์ ใสสว่างตามแนวพระอริยะ ใช้ได้ตามการอธิษฐาน ทั้งรับและรุก เป็นของเย็น ปราศจากเดรัจฉานวิชา และผมไม่ได้มาสร้างกระแส พวกท่านต้องลองดูเองครับ
เพราะจะย้ำอีกทีว่า ของหลวงพ่อทรง ไม่แพง ยังหาง่ายกว่าของบางอย่าง บางทีได้มาฟรีๆ มีของที่วัดแจกฟรีออกไปเยอะ บางคนเขาได้ฟรีๆมาเขาไม่หวง อย่าไปเล่นของที่แพง หายาก หาของที่ ทำที่วัดเพื่อแจกฟรี หรือ หลวงพ่อ เจตนาทำเอง ก่อนท่านจะดัง พวกเหรียญรุ่นสอง พระสมเด็จ ปลวก หรือ เนื้อน้ำมัน หรือ พระยุคหลังพิมพ์ที่วัด แจกฟรีๆ แจกไปเป็นหมื่นองค์ ผมไม่ได้เอามาแย่งท่านแจก ท่านแจกของท่านเอง
พิมพ์รูปเหมือนทำและ ท่านแจกฟรีไปร่วมสองหมื่นกว่าองค์ พิมพ์แหวกม่านประมาณหมื่น ส่วนนักธรรม วัดขายมั่งแจกมั่ง เป็นหมื่นองค์เหมือนกัน ส่วนโพธิ์เก้าใบ น่าจะหลายพัน ไม่รวม พิมพ์ตอนอยู่โรงพยาบาล
นอกนั้นยังมีรูปถ่าย แจกฟรีๆ พระผงที่ผู้มีบุญ และใจบุญ ทำมาแจกฟรีๆ หลายรุ่น แล้วถวายหลวงพ่อไว้ ท่านก็แจกๆๆๆ เหมือนกัน ผมจะทยอยนำมาลงให้ดูในส่วนที่หลวงพ่อแจกผมน่ะครับ
ของฟรี จะขลังกว่าทำขาย เพราะเจตนาดีตั้งแต่แรก ของฟรีกระจายไปได้ยังชนทุกชั้น คนจนหรือเด็กๆก็มีได้ เป็นของประชาธิปไตย ไม่ใช่ของนายทุนครับ
ย้ำ ของฟรีๆ ของดีๆ ของขลังๆ
แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กรกฎาคม 2008
........................................................................
จริงๆไม่ได้หวง แต่ ทุกหลวงพ่อที่ผม ใกล้ชิดมา ท่านบอกว่าอยู่ที่จิต
มาจนถึง พ.ศ. นี้จะแนะเคล็ดนิดเดียวของหลวงพ่อซึ่งย้ำกันหลายที ท่านให้ สวดมน์ไหว้พระน่ะครับ ไม่ได้บังคับบทอะไร และ
ท่องคาถาอะไรให้ลงท้ายด้วย ...สวาหะ แค่นั้นแหละครับ ไม่ได้ พิสดารอะไรเลย การลงท้ายด้วยสวาหะ ก็ยืนยันว่าวิชาที่ท่านเรียนมา เป็น สายพราหมณ์ สายพระฤาษี ครับ เหมือนกับหลวงพ่อจงเหมือนกัน หลวงพ่อจงมีพระคาถาในการปลุกวัตถุมงคลแบบรวมเล่มไปเลย เอ่ย ถึงพระครูฤาษี พระอุปคุตเถระ รวมไปเลยทีเดียวน่ะครับ
สายพระเวทย์ วิทยาคม คาถาอาคม ต้นตอก็ ที่เดียวกันคือพระครูฤาษีครับ
เข้าใจต้นตอ เข้าใจเคล็ด ก็ดัดแปลงเอาใช้กับตัวน่ะครับ
พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คือที่พึ่งที่ดีที่สุดเสมอครับ
........................................................................................................
-
หนุมาณหกร้อย ( ไม่ใช่ ห้าร้อย )
ทำมา หกร้อยตนเลยเรียกแบบนั้น เนื่องจากผมไปรู้จัก ผู้ใหญ่ ( อายุน้อยแต่หน้าที่ใหญ่ ) ที่ท่านรู้จักกับหลวงปู่เกลี้ยง วัดเนินสุทธาวาสเป็นอย่างดีมาก เรียกว่ารู้จักกันมาแต่รุ่น คณแม่ ท่านนี้ไปบวชกับหลวงปู่ หลวงปู่มาตามไปบวช ว่าพระราหูเข้าต้องบวช ไม่งั้นแย่ ไปทำงานได้ตอนกลางวัน ( งานเยอะ ) แต่เช้าเย็นต้องสวดทำวัตร เช้า เย็น แล้วมาจำวัดที่วัด เป็นอันตกลง ท่านผู้นี้เจออภินิหารเหนือโลกของหลวงปู่หลายอย่าง ในด้านล่วงรู้วาระจิตและ รู้กาลล่วงหน้า หลวงปู่ท่านบอกว่า โยมแม่ของท่านผู้นี้ในอดีตชาติเคยเป็นน้องสาวของท่าน ทำให้ท่านเอ็นดู ครอบครัวนี้เป็นพิเศษ มีอะไร จะมานิมนต์ท่านไปฉันที่บ้านเป็นประจำ ตั้งแต่ท่านผู้นี้ยังไม่เกิด มีหลายเรื่องเอาว่าที่ผมได้ยิน เชื่อว่าท่านเป็นพระเหนือโลก จากผู้ที่ไม่ได้ซื้อขายและ สนใจพระเครื่องกับเครื่องรางมากมายน่ะครับ ไม่ได้สนใจสะสม ขนาดใกล้ชิดกับ หลวงปู่ขนาดนั้น
หลวงปู่เป็นที่ทราบ ว่า เก่ง ทางด้านหนุมาน น่ะครับ ดังแบบ สะท้านแผ่นดิน....แต่ต้องหาให้ดีๆน่ะครับ ...แหะๆ ว่าผ่านมือท่านจริงๆ จะเตือนไว้ก่อน
ผมเลยได้โอกาส ไปกระแซะ ขอทำหนุมาน จะมาแจก ก็ได้รับคำตอบว่าได้ ไปทำมาเลย เดี๋ยวพาไปพบท่านแบบถึงตัว ผมก็ไปขออาจารย์ ก่อ หล่อ หนุมานมา ๖๐๐ ตน ( มีเศษหน่อยตามนิสัยช่าง ) อุดผงแรงมาอย่างดีเรียกว่าทำแบตเตอรี่มาดีแล้วรอ ท่านที่มาชาร์จไฟให้เต็มเท่านั้นครับ
พอทำเสร็จ หลวงปู่เกลี้ยงท่านป่วยครับ ท่านอายุ ๙๗ ปีครับ ท่านป่วยแบบคนแก่ เข้าๆออกโรงพยาบาลอยู่ระยะ ผมเลยไม่ได้เอาหนุมานไปเสก เนื่องจาก ท่านผู้ติดต่อบอกรอไว้ก่อน
ขณะที่รอ ผมเลยนำไปถวายหลวงปู่ เล็ก เสกให้เป็นปฐมฤกษ์ เอาใส่ลังลูกปืนไปได้พอดี เอารูปหนุมานแปะไว้หน้าลัง เอาถวายให้ท่านดู ( ท่านเพิ่งเสก หนุมานให้วัดนางในมา ) กราบเรียนท่านว่า ผมจะทำหนุมานแจกเขา ท่านพยักหน้า เอานิ้วมาจิ้มที่ลังวนๆอยู่สักพักบอกว่า พยักหน้าว่าใช้ได้ ....ถามผมจริงๆ แค่นี้ใช้ได้แล้วน่ะครับ แรงด้วย แต่ในตอนนั้นอธิษฐานครูบาอาจารย์ในด้านโภคทรัพย์ ผมแก่แล้ว หนุมานบู๊ ๆ เนื้อหนังถึงทนไหว แต่กระดูกมันแก่ๆ ก็จะไม่ค่อยไหวน่ะครับ เอาแคล้วคลาดโภคทรัพย์ ทำมาหากินจะเหมาะกับยุคสมัยกว่า
ขณะที่รอหลวงปู่เกลี้ยงด้านสุขภาพให้เหตุการณืนิ่ง ผมนำไปขอความเมตตา จาก
๑) พ่อท่าน ผอม ถาวโร สองครั้งบอกท่านและเอารูปให้ดูเลยว่าทำหนุมาน ขอหลวงปุ่ ใส่ รูป ใส่นามให้ด้วย ท่าน เสกให้ครั้งแรก ตอนกำลังจะไปงาน พุทธาภิเศก ให้วัดบางขุนพรหม ครั้งนี้ท่านเสกให้นานมาก ครั้งที่สองที่สำนัก ที่ศรีราชา
๒) หลวงพ่ออนันต์ เนื่องจากพาเพื่อนสิงคโปร์ ไปกราบท่านไปบูชา พญาวานร ก่อนกับ เลยเอาลัง หนุมาน ไปขอท่านเมตตา ท่านเสกให้อยู่นานจนเกรงใจท่านเลยน่ะครับ เนื่องจากผมบอกว่าแจกฟรี เอาไปทำสาธาณประโยชน์
พอได้โอกาส หลวงปู่เกลี้ยงท่าน สบายดีกลับมาพักที่วัด พวกพาเข้าไปพบ ตอนขอเสกหนุมาน พวกบอกหลวงปู่ที่ข้างหู ดังๆ ว่าเอาแบบสั่งการเลยน่ะครับ ( หมายความว่าเป็นหัวหน้า ) ผมจำสีหน้าท่านได้ดี ท่านแบบยิ้มแก้มแทบฉีก เอียงศรีษะท่านไปหา ด้วยความเอ็นดู และ เสกให้ ผมมั่นใจว่า ครูท่านแรงด้านนี้เลยครับ
ผมแจกไปสามร้อยตัว ให้พวกท่านที่ ชลบุรี ๑๐๐ ตัว พวกในกรม ราชการ ๑๐๐ ตน และ แถวๆ ตลิ่งชัน ๑๐๐ ตัว ถ้าจำไม่ผิด เพราะแจกด่ะ ...แหะๆ
ที่เหลือ เอามาแจกพี่น้องครับ ได้เวลา จะเอาประมูลมั้ง แถมมั่ง แจกมั่งครับ ตามอุดมการณ์บ้านเหรียญบินฯครับ
บันทึกไว้เป็น ของนอกวัด ของหลวงปู่เล็กอีกรุ่นน่ะครับ
แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มิถุนายน 2015 -
หนุมาน แปดกร
รูปอัดกระจกนี่ทำมาก่อน หนุมาน หกร้อยอีกน่ะครับ ทำมารุ่น รูปถ่ายรูปใดรูปหนึ่ง จำไม่ได้เพราะทำกันหลายรุ่น นำไปให้ท่านเสก เอาเข้าพิธี กับเหรียญเจริญสุข พอเสร็จผมนำใส่ลังไปกับ หนุมานหกร้อย เสกปิดท้ายอีกหลายรายการ ของทำแจกแบบนี้ครับ พิถีพิถันกันหน่อย เสกเพียบ ในรูปหนุมาน แล้วผมมาตัดปิดกระจกเองข้างหลังปิดด้วย ตะกรุดด้ามมีด แพโบสถ์น้ำ รูปหนุมานแปดกรนี้เอาไว้แจก พี่น้องโดยเฉพาะครับ
เป็นของหลวงปู่เล็กนอกวัดอีกชุดครับ ขอบันทึกไว้ ว่าของฟรี ต้องดีครับ
แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มิถุนายน 2015 -
เจ้าพ่อข้อมือเหล็ก
และอยากจะเผยแพร่ วีรบุรุษ ผู้รักชาติจนตัวตาย สู้พม่ามานับครั้งไม่ถ้วนด้วยดาบสองมือ และ มีปลอกเหล็กที่ข้อมือ เอาไว้ป้องกัน คมดาบศัตรู เก่งดาบ สองมือแบบ จักรผัน สามารถรำดาบสองมือในมือ เคลื่อนไหว ไม่เห็นคมดาบ
จะต่อสู้ โจมตี ก็ฉับๆ ทุกดาบได้แผล ถึงคอขาด ท่านผู้นี้ดูแล เมืองฝาง มีอภินิหาร เพียบ สามารถมาเข้าฝันให้เห็นได้ ถ้าท่านต้องการ ชาวบ้าน บนบานได้ ตามปราถนา ในหน้าที่การงาน ท่านชอบทหารและคนในเครื่องแบบ เพราะเลือดสีเดียวกัน
มีร่างทรงประจำ แต่ร่างทรงมีหลายคน คนประจำที่อำเภอฝาง และ แก่งปั้นเต้า เป็นหญิงชรา เมื่อเข้าทรง จะสูบบุหรี่ที่ละกำ กินน้ำ เท่าไหร่ไม่หมดเหยือก กินเหล้าไม่หมดไห รำดาบสองมือได้สวยงามเหมือนนักรบในเทพนิยาย เป็นหมัดมวยไทยโบราณ คนเดียวสามารถสู้คู่ต่อสู้ได้เป็นสิบด้วยมือเปล่า ยกข้าศึก หัก เหวี่ยง ทุ่ม ด้วยแม่ไม้มวยไทยโบราณ ..... ร่างทรงแก่มากคงตายไปแล้ว
ผมไม่เชื่อและไม่ชอบเรื่องเข้าทรง แต่ชีวิต ผมไปสัมผัสพวกนี้ตั้งแต่เด็ก น้าที่เลี้ยงผมมามีความชำนาญด้านนี้ น่าจะจัดอยู่ ๑ ใน ๑๐ ในประเทศสยาม แต่ผมไม่ชอบ ไใ่ถูกจริต จนมาเจอเจ้าพ่อข้อมือเหล็ก ท่านให้ความเอ็นดูแก่ผม เหมือนลูกหลาน เหมือนเคยรู้จักท่านมาก่อน เหมือนว่าผมน่าจะเป็น ลูกหลาน บริวาร ของท่านมาในอดีต เจอกันครั้งแรกท่านให้ความเมตตาอย่างสูง ให้ของดี ( ยุคนั้นไม่มีเหรียญ เป็นของเครื่องราง น้ำมนต์ )
ผมมีความนับถือท่านตลอดมา ไม่เสื่อมคลาย แม้จะห่างเมืองฝางไปนาน
เจ้าพ่อได้ อนุเคราะห์ชีวิตน้อยๆของผมให้ พ้นปัญหา พ้นภัยมา พ้นคนพาลมาได้ และ ได้ทำนายชะตาชีวิตไว้ให้ส่วนหนึ่ง แม่นยำเป็นแนวทางมาถึงปัจจุบัน จนมาได้ อาจารย์ดี ชื่อ หลวงปู่ พระครูบุญศรี อินทวัณโณ วัดใหม่ฯ
ของดีซ่อนเร้นครับ พวกทหารบ่อน้ำมันฝาง และ ชาวบ้านนับถือมากครับ
เป็นของจริงที่ไม่ต้องการการโฆษณามีตัวตนจริง เพียงประวัติจดไว้ จะเลือนลาง แค่บอกต่อกันมา เล่ากันมา
เป็นนักรบ ชาติไทยตัวจริงที่รบกับพม่ามาโชกโชน ถนัดดาบสองมือ ซึ่งคงเป็นยุค พระนเรศวรลงมาครับ สำเร็จวิชา คงกระพันชาตรี ฆ่าไม่ตายด้วย คม หอก ดาบ ปืน ธนู หน้าไม้
ตอนตาย ตายแบบช้ำในตาย เพราะทำศึกมามาก ฆ่าทหารพม่ามาเป็นร้อยๆ พม่ากลัวท่านผู้นี้มาก เพราะไม่รับแขก บุกเข้ามาเจอ หน้าไม้ ดาบคู่สถานเดียว ทหารพม่า แค่ได้ยินชื่อก็ หนาวแล้ว
ท่านผู้ใดมีบุพกรรมลองสื่อท่านดู สื่อถึง จัดว่ามีเทพ เทวดาชั้นยอดคอยคุ้มครองท่านครับ
ประวัติของท่าน เหมือนหลวงพ่อทวดน่ะครับ คือเชื่อว่ามีจริง แต่เนื่องจากเหตุการณ์นานมาแล้ว เรื่องเล่าจะมีหลายเวอร์ชั่นมาก ชื่อจะซ้ำกันหลวงที่ แบบ หลวงปู่ทวด แต่ยี่ห้อท่านจะเป็นข้อมือเหล็ก
เพราะฉนั้น เจ้าพ่อข้อมือเหล็กจะมีหลายที่ หลายอำเภอ หลายตำบล ไปอยู่ร่วมด้วยกันหลายเจ้าพ่อก็มี บางท่านว่าเป็นตำแหน่งเหมือนอัศวินอะไรประเภทนี้ เลยมีหลายเจ้าพ่อ
แต่ที่ผมเล่า หมายถึง เจ้าพ่อ ข้อมือเหล็ก ที่บ่อต้นขาม แหล่งน้ำมันดิบ ไชยปราการ อำเภอฝาง เก่า ครับ
ต้ององค์นี้ครับ ท่านเคยมาเข้าฝันเจ้านายผม ที่ล่วงลับไปแล้ว ท่านบอกว่า กู หนาว
ตื่นเช้าเจ้านายผมรีบบึ่งรถไปตัวจังหวัดไปซื้อเสื้ออย่างดีมาให้ท่าน
ผมเคยมีปัญหาในการกู้เครื่องมือทดสอบ น้ำมัน ขึ้น จากก้นหลุม กู้ไม่ขึ้นเล่าแล้วมันยาว เอาว่า ลองหมดทุกวิชา หมดหวัง ลูกน้องชื่อ นายธา มาบอกว่า หมวดๆ ลองบนเจ้าพ่อข้อมือเหล็ก ด้วย หัวหมู เหล้า ยา ปลา ปิ้ง บุหรี่ ดู ผมบนตามนั้น จุดธูปบอกท่านในป่าน่ะแหละ แล้ว หย่อนเครื่องมือกู้ไปอีกที หลังจากทำมาหลายที หลายวันจนหมดแรง ที่นี่ เกี่ยวติด พอดึง ขึ้นนมาถึงปากหลุม ผมเห็นเครื่องมือดำๆกู้ขึ้นมา ขนลุกซู่ อะไรมันจะ ขนาดนี้ ผมหาธูปมาจุดบอกเจ้าพ่อ ให้เงินลูกน้อง ไปซื้อหัวหมู สองหัว ( บนไว้หัวเดียว ...แหะๆ เลยแบบแถมบริวารท่านด้วยเลย ) ตอนเช้ามืดถวายหัวหมู บริวาร เจ้าพ่อ ( ลูกน้องผมมันก็อิ่มกันไป )
และเรื่องป้องกันอันตราย สุดยอด รถผมคนขับมันเมา ขับตกข้างทาง ไปในน้ำ ผมยังปีนรถขึ้นมาด่ามัน บนนถนนได้ ไม่เป็นอะไรแม้แต่นิดเดียว
และ ผมถูกของแบบลมเพลมพัด ( โดนมาหมดแล้ว) เรื่องนี้ยาว เอาว่าจบแบบ ซิลๆ ...เหอๆๆ
ตอนนั้นพระที่ติดตัว มี หลวงพ่อวัดปากน้ำ หลวงพ่อ ฤาษีลิงดำ เจ้าคุณนรฯ ท่านพ่อลีครับ และเครื่องรางก้นบุหรี่ เจ้าพ่อข้อมือเหล็กครับ
แต่เจ้าพ่อ ท่านเป็นนักรบน่ะครับ ตามประวัติ ดุดันมากครับ แก่แล้ว เลยไม่ค่อยได้พึ่งท่าน กลัวจะมีเรื่องครับ แต่นับถือกันอยู่ แต่วินาทีนี้ ต้องเชิญมาฟาดฟัน ศัตรูกันล่ะครับ เอามาดาบเดียวไม่พอ ดาบคู่นี่แหละ ....ฉับ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ....เหอๆๆๆๆ....ม่วนแต้ๆ
แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มีนาคม 2013
ประวัติ เจ้าพ่อ ข้อมือเหล็ก ฉบับ ทหาร
http://www.npdc.mi.th/Npdc/History_jaopho.htm
ลองอ่านกันดูน่ะครับ ตอนทำงานที่นั่น ผมเคยคิดสร้างเหรียญเจ้าพ่อ แต่ไม่มีเวลา กำลัง และ เงิน
ตอนนี้กำลังคิดว่าจะสร้าง ....แจกฟรี แต่คงรอ ชุดแรก ผมกำลังคิดว่าจะทำอะไร แจกลูกค้า เอาของดีๆ และ แจกฟรีตามเคยของคนชอบแจก ตามแบบ อาจารย์ของผม
มีโบชัว์ หลวงปู่ครูบาสิทธิ ผู้ปลุกเสก เหรียญรุ่นข้างล่างนี้ให้น่ะครับ โบชัวร์น่ะคนล่ะงาน เป็นของเซียนเมืองฝาง และ เชียงใหม่ทำ น่าจะรุ่นสุดท้ายของพระเดชพระคุณท่าน แต่มาให้อ่านประวัติของท่าน ว่าเป็นพระตามป่า ตามเขา ท่านเป็นพระรุ่นเก่า จะมีชื่อเสียงอยู่ในภาคเหนือ วัตถุมงคลจะแนวบู๊ๆน่ะครับ เพราะอยู่ในพื้นที่ ห่างไกล ชายแดน
ส่วนเหรียญรุ่นที่เอามาโชว์ จะเป็นเหรียญและรูปหล่อ ที่ชาวบ้านร่วมใจกันสร้าง แนว กรรมการหมู่บ้าน อบต เจตนาดี เอาเงินไปช่วยชุมชน โรงเรียน วัด ผมเลยช่วยอุดหนุนเขาได้ของดีๆด้วย
-
เหรียญปิดตาพังพระกาฬ ปี ๒๕๔๙ วัดรวกบางสีทอง
หลวงพ่อทรงปลุกเสกซ้ำ ลงอักขระ ๘ ตัว
เรื่องราว คืนวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๙ น่ะ ผมนอนหลับที่บ้าน ประมาณสักตีสี่กว่าจะตี ๕ มีโทรมาปลุกจากลูกน้อง ว่าหัวรถลากแก๊ส NGV ที่ผมให้บริการ ทาง ปตท คว่ำที่ สี่แยกนครอินทร์ ยุคนั้นผมยังเล่นบทเถ้าแก่เต็มตัว เรื่องนี้จะเล่าสั้นๆ ว่าไปเกี่ยวกับจตุคามรุ่นนี้อย่างไร
ผมก็ไปที่เกิดเหตุทันที รถหัวลากและรถแก๊ส คว่ำเนื่องจากฝนตก วงเวียนถนนลื่น หัวลากและ รถแก๊ส หลุดโค้ง เอียงคะแคง ก็ไถลไป ติดอยู่ขอบวงเวียน ด้านใน รถดับเพลิงกำลัง ฉีดน้ำรถรถแก๊ส อยู่ ไม่มีเพลิงไหม้ มีคนขับและ เด็กรถ เจ็บเล็กน้อย เอาตัวไป โรงพยาบาลแล้ว เพราะหัวลากวอลโว่แข็งแรงมาก ไม่มี ระเบิดแค่เอียงแล้ว ครูดไปจนชนกับขอบวงเวียน
แต่ทั้งวันนั้น ผมก็ต้องอยู่ที่โรงพักใกล้ๆที่นั่น คือโรงพักบางกรวย อยู่ทั้งวัน เพราะมีหลายเรื่องต้องเคลียร์ ต้องให้ปากคำ เรื่องประกัน ตำรวจอายัดรถ ก็ไปเคลียร์ ตกลงกันได้ นั่งรอ ทำธุระที่นั่นทั้งวันครับ
ปกติเมืองไทยนี่จะร้อนน่ะครับ ถ้าอยู่โรงพัก ไปดูที่เกิดเหตุ วิ่งไปมา นั่งรอคงร้อนเหงื่อโชกน่าดู ......แต่วันนั้นไม่เลยครับ
ผมนั่งรอหน้าโรงพักยังแปลกใจ วันนั้นฝนโปรยพรำตลอดช่วงเช้า ไม่มาก ไม่เปียก มีนิดหน่อย มี พระอาทิตย์ทรงกลด มีสายรุ้งเล่นจากแสงพระอาทิตย์ จากละอองฝน อากาศกลับเย็นสบาย ผมนั่งดูท้องฟ้าไป เพลินๆตกลงทั้งวัน ไม่ร้อน หงุดหงิดแต่อย่างไร สบายๆซ่ะอีก ผมยังคิดว่า วันนี้ต้องมีอะไรสักอย่าง เขาปลุกเสกอะไรกัน แถวนี้ไหม ฤกษ์ดีเหลือเกิน
ถึงผมจะมีเรื่องแต่ไม่ร้ายแรง ประกันก็มา จ่ายไป ตำรวจก็ในที่สุด ตกลงกันได้ ไม่เอาเรื่อง ( โค้งนั้นมีอุบัติเหตุบ่อย เนื่องจากโค้งไม่รับ จนมามีอุโมงค์ เหตุก็ดีขึ้นเลย) จ่ายค่าปรับไป ไม่มีคู่กรณี ไม่มีอุบัติเหตุ มีแต่ซวยอย่างเดียวไม่ได้งาน เสียรถ ต้องเอาไปซ่อม รถแก๊ส ต้องเข้าคิวซ่อมให้ ยุคนั้นก็ซ่อมรถให้ ปตท ด้วย งานเยอะ ส่วนลูกน้องก็เจ็บเล็กน้อย ตกใจมากกว่า ค่าใช้จ่ายมีแต่ต้องไปเคลียร์กับตำรวจดับเพลิงค่าโฟม ตกลงเรื่องหลักๆ จบในเย็นวันนั้น
ผมกลับบ้านรีบสืบเลย ว่าแถวนั้นมีงานอะไรไหม ก็มาเจอว่า มีการปลุกเสกที่วัดรวกบางสีทอง ใกล้ วงเวียน ใกล้ๆ โรงพักนั่นเอง ระยะน่าจะสัก สอง สามกิโล ประมาณนี่ ถ้า เป็นเส้นตรง เป็นงานปลุกเสก แบบอภิมหามหึมา ดูรายนามพระที่มาเสกน่ะครับ และได้ตัวโกผ่องมาด้วย ยุคนั้นมี เจ้าพิธี จตุคามมีหลายท่าน ..แต่จากวงใน ชัวร์ ๆคือ โกผ่อง เป็นร่าง ท่านพ่อจตุคามมาเก่าแก่ จัดว่าครบเครื่องมาก
รุ่งเช้าอีกวัน วันที่ ๒๐ ผมรีบไปที่วัด ยังพอมีของเหลืออยู่บางรายการไป อ้อนพระท่านหน่อย ผมได้รูปหล่อ ใหญ่ ผ้ายันต์ที่โกผ่องจารและ พระเครื่องหลายรายการ เหมามาเยอะ เลยครับ เอาไปแจก พวกที่ ปตท ที่ผมลากแก๊สให้ มาช่วยกันในคืนนั้นและ แจกลูกน้องไปซ่ะเยอะหลายคน
ที่สำคัญพวกเหรียญ รูปหล่อ ผมเอาไปขอ หลวงพ่อทรงท่านพิจารณาให้ เล่าเรื่องให้ท่านฟัง ท่านบอกดีแล้วเสกให้อีกที
องค์ที่ผมเอามาโชว์มีจารของหลวงพ่อด้วย รุ่นเดียวกัน
ยังแปลกใจตัวเองทำไมไม่ขอจารเหรียญให้หมด ได้มาแต่ทองแดงจะแจกเขาด้วยแหละ เนื้ออื่นไม่ทันแล้ว เขายกไปเกลี้ยงก่อนงานซ่ะอีก แต่ทันผ้ายันต์ที่โกผ่องจาร น่าจะแพงเลยยังเหลืออยู่ และ รูปหล่อใหญ่ ๙ นิ้ว
เหรียญนี้ สำคัญ ที่หลวงพ่อทรงเสกให้ปิดท้ายครับ เอาไปถวายท่านเสกให้เอง แต่ดูพิธีน่ะครับ เขาสุดยอดจริงๆ ใครเล่นของหลวงพ่อทรง น่าจะมีน่ะครับ
**เหรียญพระปิดตาพังพะกาฬเนื้อทองแดง วัดรวกบางสีทอง จ.นนทบุรี **
ปี 2549 รุ่นมงคลชีวิต นายอะผ่อง สกุลอมร (โกผ่อง) อัญเชิญ องค์จตุคามรามเทพ ประกอบพิธีเทวาภิเษก
พิธีมหาพุทธาภิเษก-เทวาภิเษก ในวันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2549 ณ อุโบสถ วัดรวก ต.บางสีทอง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี
พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ 9 รูป สวดพระธัมมะจักกัปปะวัตตะนะสูตร สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ วัดปากน้ำ จุดเทียนชัย และร่วมอธิษฐานจิต
พระเกจิ 16 รูป อธิฐานจิต ( พระพิธีธรรม จากวัดระฆังโฆสิธาราม สวดพุทธาภิเษก)
นายอะผ่อง สกุลอมร (โกผ่อง) อัญเชิญ องค์จตุคามรามเทพ ประกอบพิธีเทวาภิเษก
พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ พระราชาคณะ 9 รูป เจริญพระพุทธมนต์ ธัมมะจักกัปปะวัตตะนะสุตตัง มี
พระธรรมกิตติมุนี วัดเฉลิมพระเกียรติ นนทบุรี,
พระกิตติเมธี วัดสัมพันธวงศาราม กรุงเทพฯ
พระราชรัตนสุธี วัดอรุณราชวราราม กรุงเทพฯ,
พระราชนันทมุนี วัดละหา นนทบุรี,
พระราชธรรมสุนทร วัดพระเชตุพนฯ กรุงเทพฯ,
พระราชรัตนวราภรณ์ วัดพนัญเชิง อยุธยา,
พระพิศาลพัฒโนดม วัดยาง กรุงเทพฯ,
พระรัตนเมธี วัดชนะสงคราม กรุงเทพฯ,
พระปริยัติกิจวิธาน วัดโสธรวรามราม ฉะเชิงเทรา
ปรากฏการณ์ครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ ที่สุดของพิธีมหาพุทธาภิเษก-เทวาภิเษก เมื่อคณะกรรมการได้อัญเชิญองค์พระบรมสารีริกธาตุเสด็จมาเป็นประธานในมณฑลพิธี ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2549 โดยมีสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ วัดปากน้ำ เมตตาเป็นองค์ประธานจุดเทียนชัย และร่วมอธิษฐานจิตโดยสุดยอดพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง 16 รูป
พระมงคลสุทธิคุณ (ฟู) วัดบางสมัคร ฉะเชิงเทรา,
พระครูนนทกิจพิบูลย์ (เก๋) วัดปากน้ำ นนทบุรี,
พระครูสังวรสมณกิจ (ทิม) วัดพระขาว อยุธยา,
พระครูสุนทรธรรมวินิฐ (รวย) วัดตะโก อยุธยา,
พระครูปิยะนนทคุณ (แย้ม) วัดตะเคียน นนทุบรี,
พระครูประโชติธรรมวิจิตร (เพิ่ม) วัดป้อมแก้ว อยุธยา,
พระครูนนทการประสิทธิ์ (ประสิทธิ์) วัดไทรน้อย นนทบุรี,
พระครูสุวรรณศีลาธิคุณ (พูน) วัดบ้านแพน อยุธยา,
พระครูสมุทรพัฒนโสภณ (ทองหล่อ) วัดคันลัด สมุทรปราการ,
พระครูพิพิธวรกิจ (คล้อย) วัดภูเขาทอง พัทลุง,
พระอาจาย์เอียด ครุธมฺโม (เอียด) วัดโคกแย้ม พัทลุง,
พระครูวิโรจน์ศาสนกิจ (ช่วง) วัดควนปันตาราม พัทลุง,
พระครูวิมลจันโทภาส (อ่าง) วัดใหญ่สว่างอารมณ์ นนทบุรี,
พระครูสุวรรณโชติคุฒิ (ตี๋) วัดหูช้าง นนทบุรี,
พระครูสุวัจจริยาภรณ์ (ประยงค์) วัดบางนมโค อยุธยา,
หลวงพ่อกราย วัดอัมปึล ประเทศเขมร
................................................................................
-
ล็อกเก็ตเจริญสุขจัมโบ้ ฉากทอง ๒๕๕๖ เสกหลายปี
อ๊อฟชั่นเพียบ พี่น้องเขาน่าจะแจกมาให้ กราบขอบคุณครับ
โดยเแพาะเบี้ยข้างหลัง อีกหน่อย เบี้ยหลวงปู่จะจะเป็นตำนานตาม เบี้ยพ่อนุ่ม พ่อคำ พ่อภักตร์ พ่อทรง มาอย่างแน่นอน สายเดียวกัน ครูแรง พลังจิตสูง
หน้า 3272 ของ 3280