เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย พี เสาวภา, 7 เมษายน 2008.

  1. พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    คุณถ่ายรูปดีมากเลยครับ เลื่อมใส

    มีสาเหตุว่าทำไมไม่มีหู หรือ ไม่ตอกโค้ด ผมจะเล่าทีเดียวเลยครับ แต่ เท ปลุกเสก พร้อมกันหมด

    ของที่ขอหลวงพ่อไว้ ขอให้สมปราถนาน่ะครับ
     
  2. cc5922 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    4,193
    ค่าพลัง:
    +16,973
    กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรงครับ
    ไปหลายวันคิดถึงครับกลับมาอีกทีเหมือนว่าจะคึกคักมากกว่าเดิมครับ
     
  3. พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292

    พระหล่อโบราณ ชุด วิสาขาห์ ๔๙
    ที่จริงผมมานั่งตรองดูแล้ว พระที่เทตอนวันวิสาขะ ๔๙ นี้เป็นพระส่วนตัวของหลวงพ่อ และของผมหลายรายการ ผมจะขออนุญาติพวกท่านมาโชว์ เพราะมีคนถามถึง แม้ของนี้จะเป็นของส่วนตัวของผม และไม่คิดขายต่อไปให้ใคร แต่เรื่องที่เล่าก็จะเล่าอย่างละเอียด และมีพระสองแบบที่ผมถวายหลวงพ่อไปมีปริมาณมากพอสมควรที่เดียว น่าจะหมุนเวียนในกลุ่มที่นับถือหลวงพ่อได้พอสมควร ของสองอย่างนี่คือ

    คือ เหรียญจอบเศรษฐีใหม่และพระนอนวันอังคารประจำวันเกิดของหลวงพ่อ ซึ่งผมถวายหลวงพ่อไว้ ของนี้หายไปตอนเขาแบ่งสมบัติกันที่วัด พวกที่มีของจากห้องหลวงพ่อ และจากหอสวดมนต์ จะอ้างว่า เอามาจากห้องหลวงพ่อ ซื้อมาจากกรรมการวัด กรรมการวัดขายให้ แต่ไม่ได้บอกราคาว่าเท่าไหร่ ใครเป็นคนตั้งราคา แล้วเก็บไว้เป็นของส่วนตัว ผมบอกได้เลยว่าเป็นเรื่องแปลก ที่น่าจะเป็นของกลางของวัด
    ของนั้นฟังดูมีหลายอย่างเหมือนกัน เช่น พระบูชาประจำตัวท่าน รูปถ่ายหลวงพ่อนุ่ม พระเครื่อง ผ้ายันต์ เพราะของนั้นไม่ใช่สมบัติของคนขาย
    เมื่อหลวงพ่อเสียแล้วของอยู่ในห้องของท่าน ถ้าเป็นของส่วนตัว แล้วไม่มีญาติพี่น้องสามารถมาอ้างสิทธ์ได้ว่าหลวงพ่อได้เอ่ยปากให้ไว้ ของนั้นต้องตกเป็นสมบัติของสงฆ์ คือของกลางทันที จะขายได้ต่อเมื่อเจ้าอาวาสองค์ใหม่ พร้อมกับกรรมการ มีมติให้ขายได้เพื่อกิจการอันสมควร เช่นเอาไปสร้างวัด ถ้าขายเอาเข้ากระเป๋าก็ไม่ได้
    ผมมีของถวายหลวงพ่อหลายรายการ เช่นไม้เท้า ไม้ครู มีดหมอ ใหญ่ เล็ก มีดเล็กๆ เหล็กจารหัวเพชร ปากกา เบี้ยแก้เลี่ยมเงิน เบี้ยหลวงพ่อพัก ฯลฯ และอีกบางรายการลืมไปแล้ว ผมไม่ทราบว่าของเหล่านี้ไปไหนเพราะไม่อยากไปร่วมกิจกรรมแบบนี้ รู้แต่เพียงว่าของสองรายการนี้ คือ เหรียญจอบประมาณ 350 เหรียญ และพระนอน 85 องค์ผมถวายหลวงพ่อไว้แล้วท่านวางไว้ที่ที่ท่านรับแขก ท่านดูจะหวงๆ เพราะทำยากกว่าจะได้เป็นองค์ ถามดูไม่เคยแจกใครเลย ท่านบอกว่าพระนอนจะเอาไว้แจกคนเกิดวันอังคาร แต่ผมถามคนรอบตัวท่านหลายคน ท่านไม่เคยแจกใครเลย คนที่มีได้รับแจกไปจากผมแทบทั้งนั้น
    พระชุดนี้ ไม่อยากเดาว่าอยู่ที่ใคร วันหนึ่งคงโผล่ออกมา ผมยืนยันตามเรื่องและรูปถ่าย ว่าพระชุดนี้มีการเตรียมการมาประมาณปีหนึ่ง มีการสะสมชนวนเอามาที่วัดหลายครั้ง มีการจุดธูปเทียน เชิญครูบาอาจารย์โดยหลวงพ่อเอง มีการปลุกเสกชนวนหลายครั้งเมื่อเอาของใหม่มาเพิ่ม มีการลงยันต์ตามสูตร หลวงพ่อลงปิดมุม บนแผ่นทองทุกแผ่น ยกเว้นแผ่นใหญ่ท่านยกไม่ไหว ก็เสกเอา และเมื่อช่างพระเสร็จแต่งเสร็จก็ทิ้งไว้ที่หอสวดมนต์ เป็นของที่ปลุกเสกอย่างดีจากหลวงพ่อหลายครั้ง ตลอดพรรษาปี ๔๙ เมื่อออกพรรษาท่านปลุกเสกปิดท้ายให้อีกครั้ง จึงเอามาแจกกัน



    พระที่หล่อนี้ ตามเหตุการณ์ที่ทำ จะมีเหตุการณ์ใหญ่ประมาณ สามครั้ง คือ
    ๑) การเคี่ยวทอง และเผาหุ่น วันแรก
    ๒) การหล่อพิธีหลัก วันที่สอง
    ๓) การหล่อรูปเหมือน ๙ นิ้ว ที่โรงหล่อ
    มาพูดถึงชนวนชุดหนึ่งก่อน เป็น ชนวนที่เหลือมากจากการเทพระประธาน พระบูชาและพระกริ่ง พระชัย แพโบถส์น้ำ ที่ท่านอาจารย์อนันต์ สวัสดิเสาวณีย์ เทให้ผม ได้รับการปลุกเสก มาหลายร้อยครั้งแบบเสกเดี่ยว ไม่มีพิธีแบบหมู่ หลวงปู่อาจารย์ผมท่านเสกองค์เดียวไม่ต้องนิมนต์ใครมาอีก คือจาก หลวงปู่พระครูบุญศรี จากชนวนจนเป็นองค์พระ แล้วนำไปปลุกเสกกลางแม่น้ำเจ้าพระยา วันเสาร์ห้า ในแพโบถส์น้ำ ในปี ๔๑ ผมเก็บชนวนไว้ทั้งหมด นำใส่ลังมาปลุกเสกเรื่อยๆจากหลวงปู่พระครูบุญศรีอีก จนจำไม่ได้ว่ากี่ครั้ง และนำไปเข้าพิธีอีกครั้งที่บ้านอาจารย์อนันต์ ร่วมกับพระกริ่ง พระชัยในส่วนของผม ปลุกเสกโดยหลวงปู่พรหมา ตอนมาทำพิธีขึ้นบ้านใหม่ให้อาจารย์อนันต์ ในพิธีนั้นอาจารย์อนันต์ของให้หลวงปู่พรหมา ปรุงธาตุให้ อันนี้ผมได้ยินกับหู หลังจากการปรกเดี่ยว พระลูกวัดที่มากับหลวงปู่ ร่วมท่องคาถาชินบัญชรอีก ครบตามกำลังวัน ผมจำ วันที่ไม่ได้ เพราะว่านานมาก ผมลืมปี พ.ศ. ไปครับ น่าจะประมาณ ๔๔ – ๔๕

    ผมเอามารีดเป็นแผ่น แล้วหลวงพ่อให้ พระสวัดดิ์ลง นะ ๑๔ และยันต์ ๑๐๘ ให้ แล้วหลวงพ่อลงปิดมุมทุกแผ่น
    ผมเอาประวัติทองชนวนชุดนี้นี้มาลงเรียกน้ำย่อยก่อน แล้วถ้าผมว่างจะลงให้ละเอียดตอนประวัติหลวงปู่พระครูบุญศรีก็แล้วกันครับ เพื่อเล่าเรื่องหลวงปู่อาจารย์ผม ในข้างหน้าผมจะเล่าอย่างละเอียด ไม่มีกั้ก
     
  4. พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292

    ทองชนวนจาก พระประธาน พระบูชา พุทธสิหิงค์ พระกริ่งแพโบถส์น้ำ


    เป็นเวลาร่วมปีกว่าที่คณะศิษย์ได้อาราธนาหลวงปู่พระครู บุญศรีอินฺทวณฺโณ ได้โปรดเมตตาลงยันต์และอักขระลง บน แผ่นทองแดงอย่างดีขนาด ประมาณ ๕ นิ้ว คูณ ๕ นิ้ว โดยหลวงปู่พระครู บุญศรีอินฺทวณฺโณ ได้มีเมตตาลงอักขระด้วยตัวท่านเองทุกๆแผ่นแทบจะทุก เสาร์ ครั้งละ ๓, ๕, ๗หรือ๑๐แผ่นแล้วแต่โอกาสอำนวย ทางศิษย์ได้สะสมแผ่นยันต์เหล่านี้เพื่อไว้หล่อพระ จนครบดังรายการต่อไปนี้

    ๑) แผ่นยันต์ครู นะหน้าทอง จำนวน ๑๔ แผ่น
    ๒) แผ่นยันต์ พระไตรปิฏก ( มะ อะ อุ ) ยันต์ประจำตัวที่ท่านชอบใช้ จำนวน ๑๐๘ แผ่นในด้านหลังแผ่นยันต์แต่ละแผ่น หลวงปู่ได้มีเมตตา เรียกสูตรลงอักขระ หัวใจคาถา ๑๐๘ ทุกบท เพื่อเพิ่มเติมสรรพคุณแก่ พระประธาน, พระบูชาจำลอง ๙ นิ้ว และพระกริ่ง พระชัยวัฒน์ รุ่น๑ แพโบถส์น้ำ ให้ครบทุกๆด้าน
    ๓) นอกจากนี้ยังมีแผ่นยันต์เพิ่มเติมดังต่อไปนี้

    ๓.๑) แผ่นยันต์ทองแดง ๔ แผ่น ลง นะชาลีติ หัวใจพระสิวลี เพื่อเน้นทางด้านโชคลาภและโภคทรัพย์
    ๓.๒) แผ่นยันต์ทองแดง ๔ แผ่น ลง อุอากะสะ หัวใจเศรษฐี เพื่อเน้นทางด้านโชคลาภและโภคทรัพย์
    ๓.๓) แผ่นยันต์ทองแดงลง พระไตรปิฏก ( มะอะอุ ) อีกจำนวน ๑๐ แผ่น
    ๓.๔) แผ่นยันต์ทองแดงของ ท่านอาจารย์พระพิสาลพัฒนาทร ( ถาวร จิตตถาวโร ) วัดสระปทุม จำนวน ๓ แผ่น

    ๓.๕) แผ่นยันต์ พระไตรปิฏก ( มะอะอุ ) เงินแท้ จำนวน ๔ แผ่น
    การปลุกเสกทองชนวนครั้งที่ ๒
    รายการ ๑ , ๒ และ ๓ รวมน้ำหนักทองแดงและเงินอย่างดีหนักประมาณ ๕ กิโลและคณะศิษย์ได้รวบรวมแผ่นยันต์ทั้งหมดห่อผ้าขาวแล้วหลวงปู่อนุญาตให้วางไว้ที่ๆหลวงปู่จำวัดแล้วคณะศิษย์ได้อาราธนาพระเดชพระคุณหลวงปู่ได้โปรดมีเมตตาปลุกเสกแผ่นยันต์ชนวนเป็นกรณีพิเศษอย่างเต็มที่ ทุกวัน เป็นเวลาร่วม ๒ เดือน (จากปลายเดือน มกราคม ถึง ๒๐ มีนาคม ๒๕๔๑ )

    ๔)ทองคำที่คณะศิษย์บริจาคทั้งที่บริจาคที่หลวงปู่โดยตรง(หลวงปู่ซื้อทองคำมาเองประมาณ๒ บาทเพื่อสำหรับงานหล่อพระ ) และที่ได้รับบริจาคในงาน รวมทั้งหมดประมาณ ๖๐ - ๗๐ บาท เป็นต้นว่าแผ่นทองคำ สายสร้อย สร้อยข้อมือตุ้มหูแหวนกำไลและอื่นๆไม่สามารถคำนวนน้ำหนักได้แน่นอนเพราะมีบางส่วนได้นำมาถวายหลวงปู่ก่อนหย่อนลงเบ้าเป็นเวลาไม่นาน นอกจากนั้นยังมีผู้หย่อนทองคำลงเบ้าด้วยตัวเองทั้งก่อนและหลังจากเริ่มพิธีเท ทอง คะเนว่าน้ำหนักทองทั้งหมด ไม่ต่ำกว่า 1 กิโลกรัม
    นอกจากนั้นยังมีแหวนและสร้อยข้อมือทองคำขาว นาค ร่วมด้วยอีกจำนวนหนึ่ง
    ๕)แท่งชนวนนวโลหะของแท้อย่างดีที่ผ่านพิธีหลวงและช่างหลวงหล่อรวมซ้ำๆกันมาหลายวัดเป็นต้นว่า วัดพระแก้วฯ, วัดบวรฯ เนื้อชนวนมาจากเนื้อทองสัมฤทธิ์โบราณจาก ซอกนิ้ว ( ย้ำว่าไม่ใช่ข้อมือ หรือ ข้อพระกร แบบที่เขาเขียนกัน ) จากองค์จริงหลวงพ่อมงคลบพิธ จังหวัดอยุธยา เนื้อชนวนจากงานพิธีหลวงเนื่องในการหล่อ สมเด็จพระพุทธนวราชบพิตร, สมเด็จจิตรดา วัดพระแก้วฯ, ชนวนพระกริ่งและพระชัยวัฒน์ปวเรศ ๖๐ พระชันษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ วัดบวรฯ เนื้อชนวนจากการหล่อพระเครื่องของหลวงปู่พรหมา เขมจาโร วัดผาหินนางคอย ฯลฯ และยังมีอีกหลายวัดหลายพิธีที่มีโลหะหล่อซ้ำๆสะสมกันมาโดยท่านอาจารย์อนันต์ได้เก็บรวบรวมและหล่อเป็นแท่งไว้ เนื้อชนวนทั้งหมดน้ำหนักประมาณ ๓ - ๔ กิโล บริจาคโดยท่านอาจารย์ อนันต์ สวัสดิเสาวนีย์ ( ผ.อ. ช่างสิบหมู่ กรมศิลปฯ)
    ๖) ถาดเงินจำนวน ๕ แผ่น ( น้ำหนัก ประมาณ ๖ กิโล ) ที่หลวงปู่อธิฐานจิต และลงยันต์พระพุทธเจ้า ๕ พระองค์, รวมกับโลหะเงินอื่นอีก เป็นต้นว่า เข็มขัดเงินเก่าและใหม่ แหวนเงิน กรอบพระเงิน สายสร้อยเงิน กำไลเงิน ช้อนส้อมเงิน ถ้วยรางวัล ที่หนีบกลักไม้ขีดเงิน เหรียญเงินเก่าและใหม่ เงินพดด้วง เศษโลหะเงินอีกหลายชนิด รวมทั้งสิ้นเป็น โลหะเงินน้ำหนักประมาณ ๒๐ กิโลกรัม บริจาคโดยคณะศิษย์หลายท่าน<O
    ๗)แร่ดีบุกบริสุทธิ์อย่างดีจากทะเลภูเก็ต น้ำหนักประมาณครึ่งกิโลกรัม ผ่านการปลุกเศกจากหลวงปู่หลายครั้ง บริจาคโดย คุณ คีม เหล่าวจีศาสตร์ บริษัท เชลล์ แห่งประเทศไทย
    ๘)ชนวนพระประธานสมเด็จองค์ปฐมประจำสำนักแม่ชีประทุมน้ำหนักประมาณครึ่งกิโลกรัม บริจาคโดยสำนักแม่ชีประทุม
    ๙)แร่โคตรเศรษฐี ๑ ถุงเพื่อเพิ่มสรรพคุณด้านโภคทรัพย์บริจาคโดยป้าอิ้ดสำนักแม่ชีประทุม
    ๑๐)แผ่นยันต์ทองเหลืองลงจารพระคาถา ชินบัญชร และนำมาให้ หลวงปู่พระครูบุญศรีปลุกเสก บริจาคโดย คุณ ทนงศักดิ์ เอื้อรักสกุล
    ๑๑) นอกจากนั้นยังมีโลหะทองเหลืองและทองแดง เป็นต้นว่า ถาด ขัน ขันข้าว ทัพพี เหรียญเศษสตางค์ทองเหลืองรุ่นเก่า ๕, ๑๐, ๒๕, ๕๐ สตางค์ เหรียญ ๑ บาทรุ่นเก่า แผ่นทองเหลืองและทองแดงเป็นจำนวนมาก ที่คณะศิษย์ได้เขียนชื่อหรืออธิฐานจิตร่วมสร้างพระรวม ได้ไม่ต่ำกว่า ๓๐ - ๔๐ กิโลกรัม



    ที่เล่าๆมาเป็นชนวนตอนเทพระชุดแพโบถส์น้ำ เมื่อชนวนเหลือ ผมเก็บไว้อย่างดี นำใส่ลังเหล็กไว้ แล้วเอาไปปลุกเสกอีกหลายครั้ง จากหลวงปู่พระครูบูญศรี เพราะรู้ว่าเป็นของดีมาก อยากจะเอามาสร้างพระ ในอนาคต เมื่อเจอหลวงพ่อทรง แล้วมีโครงการณ์จะหล่อพระในวัน วิสาขาห์ ๔๙ ผมเลยเอาไปจ้างช่าง รีดเป็นแผ่น แล้วมาขอให้หลวงพ่อลงซ้ำ แล้วเสกซ้ำมาร่วมๆ ปีเรียกว่าเอาแบบสะใจไปเลย หลวงพ่อให้พระสวัดด์ ลงยันต์ นะ๑๔ นะ และ ยันต์ ๑๐๘ ให้ หลังจากนั้นท่านก็ลงปิดมุมให้ตามวิธีของท่าน ตามรูปที่โชว์


    จากรูปจะเห็น สายสะดือของพระประธาน พระพุทธสิหิงค์ ผมเก็บไว้จากช่าง สายสะดือนี้คือช่องทางเอกตอนเทพระประธานประจำแพโบถส์น้ำ ( แต่หลังจากนั้น ไม่กล้าเอาไปตั้ง กลัวท่านจะธุดงค์ ) ทองชนวนสายสะดือนี้ ผ่านมาหลายพิธี ผมเคยคิดจะเอาไปเทพระกริ่งล้วน แต่เมื่อมาเจอหลวงพ่อทรงก็ได้โอกาศ

    และจากรูปอีกอันจะเห็น หลวงพ่อท่าน ลงจารแผ่นทองแดงที่จะเทหล่อ ตกลงมีทองชนวนที่ผ่านการเสกทั้งนั้น ไม่มีทองเปล่าๆเข้ามาเจือปน
     
  5. พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    จากความเห็นเดิม จะเห็นแท่งทองแดงหลายแท่ง แท่งทองแดงเหล่านี้ผมซื้อมาจาก ร้านบริพัฒน์แถวเยาวราช เป็นร้านที่ขายทองแดงแผ่นใหญ่เนื้อดี บริสุทธิ์ สำหรับร้านทองมาซื้อไปผสมทองคำทำทองรูปพรรณ
    ทองของท่านนี่ไม่ใช่ 100% น่ะครับ นอกจากทองสวิส
    ส่วนทองแดงบางส่วนผมซื้อมาจากตลาดน้อย ตอนไปซื้อ แผ่นทองเหลืองทองแดงหรือ แท่งทองแดงมาทำตะโพน ผมก็จะ ซื้อเศษแผ่นทองแดงมาด้วย ทองแดงนี้มีปัญหาครับ เพราะหลอมยาก ใช้อุณภูมิสูง เป็นทองแดงนอกที่เขา forge มาใช้สำหรับ แกะหรือ กลึงงานช่างไม่เหมาะจะเอามาหลอม เพราะหลอมยากด้วยช่างพื้นบ้าน อันนี้จัดว่าพลาดไปที่ไปเอาทองแดงเหล่านี้มาหลอมทำเนื้อพระ รวมน้ำหนักทองแดงทั้งหมดประมาณ ๑๓๐ กิโลกรัม

    ทองทั้งหมดผมทยอยซื้อมาก่อนเท หลายเดือน ผมอาราธนาหลวงพ่อปลุกเสกให้ เน้นทางด้านโภคทรัพย์โดยเฉพาะ โดยบอกท่านว่าขออย่างเดียว อย่างอื่นไม่เอา หลวงพ่อปลุกเสกให้ แล้วนำไปไว้ที่หอสวดมนต์บ้าง บางที่ตอนผมซื้อมาอีก ท่านก็จะเสกซ้ำให้อีก พอผมโผล่หน้ามาอีก ท่านก็จะบอกว่าปลุกเสกให้แล้วน่ะ จะเป็นแบบนี้หลายครั้งจน ประมาณหลักสิบกว่าครั้งที่ท่านปลุกเสกทองชนวนให้
    ผมมีเรื่องแปลกที่เจออีกเรื่อง ผมอธิบายไม่ได้จริงๆ คือพระชุดนี้ทำพิธีสองวัน คือวันที่ 10 พ.ค. ๒๕๔๙ ทำพิธีเผาหุ่น สำรอกเทียน เคี่ยวเนื้อทอง เพราะการหล่อนี้เป็นการหล่อดินไทยทุกเบ้า ท่านที่มีประสบการณ์ในการหล่อพระเล็กจะทราบว่าดินไทย จะยุ่งยาก ราคาแพงกว่า ใช้เบ้าปูนขาวสมัยใหม่ แต่ผมเลือกที่จะใช้ดินไทยเพราะช่างนี้ทำได้ ส่วนวันที่สองคือ 11 พ.ค. ๒๕๔๙ คือพิธีเททอง แต่รูปภาพที่ถ่าย ที่ผมจำได้แน่นอน จะบันทึกวันที่ผิดวัน ผมเองก็ไม่แน่ใจว่ามาได้อย่างไร ตอนท่านอ่านเรื่องไปคอยดูวันที่ด้วยน่ะครับ แต่ผมยืนยันว่า พิธีมีสองวันตามรูปถ่าย แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมรูปถึงสับเหตุการณ์กัน แปลกจริงๆ คงจะเป็นที่การตั้งเวลา


    โปรดทราบว่าถึงผมจะเป็นคนออกทุนในการเทพระทั้งหมด แต่พิธีกรรมน่ะ หลวงพ่อท่านบริหารจัดการทำเองน่ะครับ ทั้งปะรำพิธี จัดบริเวณ ติดธงฉัตรราชวัตรก็หลวงพ่อสั่งให้พระในวัดและโยมวัดทำ การนิมนต์พระมาสวดทั้งสองวันและทุกอย่างสำหรับพิธีสงฆ์ก็เป็นท่าน ผมไม่ได้ยุ่งเลยเพราะทำไม่เป็น จัดว่าเป็นพระของหลวงพ่อที่ท่านจัดการเองตั้งแต่ต้นจนจบ แม้การปั้นหุ่นรูปเหมือน ๙ นิ้ว ของท่าน ช่างก็เอามาให้ท่านดู ท่านติชมเอง เรียกว่าบริหารจัดการเอง ผมก้พยายามจะติชมบ้าง แต่ก็เพียงเป็นบริวารแล้วก็จ่ายเงินช่างเท่านั้น ด้านการออกทุนเป็นผม ไม่ได้ยุ่งเงินหลวงพ่อแม้แต่บาทเดียว เมื่อท่านสั่งใครทำอะไร หน้าที่ผมเพียงแต่ตามไปจ่ายตังค์ให้เท่านั้น
    [
    ATTACH]410779.vB[/ATTACH]
    ส่วนที่มาของชื่อเหรียญจอบ ผมเอาอักขระ หัวใจเศรษฐี และ หัวใจพระฉิมพลีที่หลวงพ่อลงให้บนกระเป๋าสตางค์มาเป็นแบบ ถ่ายซีร็อกมา แล้วเอามาให้หลวงพ่อดู ผมวัดนี้หัวแม่โป้งของหลวงพ่อ ให้ช่างทำเหรียญขนาดตามนั้น แล้วขอพรหลวงพ่อ ในด้านโภคทรัพย์ ว่าใครที่ไม่เคยเป็นเศรษฐี เมื่อได้ครอบครองเหรียญนี้ ขอให้ได้เป็นเศรษฐีคนใหม่ หลวงฟังแล้วหัวเราะหีๆ แต่เล่นด้วยน่ะครับ ท่านบอกเอาซิ ท่านอยากให้ลูกศิษย์ของท่านรวยทุกคน ( ถ้าขยันทำมาหากิน ท่านพูดแบบนี้หลายครั้ง) ผมเลยขอให้ท่านเขียนคำว่า เศรษฐีใหม่ ไว้เป็นหลักฐาน

    ตัวเขียนเศรษฐีใหม่ สีฟ้าอันนี้ เป็นลายมือหลวงพ่อน่ะครับ ยืนยันว่าท่านให้พรอันนี้มาสถิตย์ที่หลังเหรียญ ผมถ่ายซีร็อคให้ช่าง ไปแกะอักขระพวกนี้ลงลงบนต้นแบบให้เหมือนลายมือหลวงพ่อ ส่วนรูปท่านใช้พิมพ์รูปเหมือนน่ะแหละครับให้ช่างไปองค์หนึ่ง เขียนรอบหัวแม่โป้งข้างขวา หลวงพ่อให้ไปด้วย ที่เอาหัวแม่โป้ง เพราะนิ้วนี้สำคัญที่สุดในมือน่ะครับ ขาดนิ้วนี้มือกำอะไรไม่ถนัด ถึงขั้นกำไม่ได้ ถ้าขาดนิ้วอื่นยังพอไปได้ ลองดูซิครับ จัดว่าเป็นนิ้วหัวหน้าเป็นนิ้วผู้นำ ใหญ่กว่าเขาน่ะครับ เลยเอานิ้วหัวแม่โป้งข้างขวาของหลวงพ่อนี่แหละครับเป็นเคล็ด เพราะเป็นนิ้วของคนเหนือโลก หลวงพ่อท่านก็เมตตาเล่นด้วยน่ะครับ เอานิ้ววางบนกระดาษให้ ผมก็ลอกขนาดไปตามนั้น ให้ช่างไปแกะมาให้


    แต่ตอนแกะพิมพ์ช่างพื้นที่ มันดันไปจ้างที่ กทม มาทำ แล้วแกะขนาดเหรียญเล็กกว่าหัวแม่มือหลวงพ่อตามที่ผมสั่ง เวลาก็กระชั้นเข้ามา หลวงพ่อท่านดูๆแล้วไม่ว่าอะไร จะแก้ก็ต้องเริ่มใหม่ เลยต้องปล่อยเลยตามเลย แต่ก็ถือเอาว่า มาจากเหมือน หัวแม่โป้ง ของหลวงพ่อก็แล้ว เพราะท่านอนุญาตแล้วครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292

    หุ่นเทียนต้นแบบ พระวันวิสาขาห์ ๔๙
    เนื่องจากพระรุ่นนี้เจตนาจะทำเป็นของส่วนตัว เป็นชุดนำร่องเมื่อมีพิมพ์หุ่นเทียนแล้ว ผมเจตนาจะทำรุ่นต่อไปถวายหลวงพ่อฟรีๆ เอาเงินเข้าวัด เช่นรูปหล่อ ๙ นิ้ว พระนอน ๑๙ นิ้ว เหรียญจอบ พระนอนเล็ก เพราะต่อไปจะทำง่าย เพราะแม่พิมพ์มีอยู่แล้ว เนื่อชนวนก็มีอยู่ ผมเอาชนวนที่เหลือหลายกิโลใส่ลังสังกะสีไว้ในหอสวดมนต์ ถวายให้หลวงพ่อเสกมาเรื่อยๆ นำมาเป็นเชื้อสามารถทยอยเทได้เลย แต่เหตุการณ์ไม่เป็นตามนั้น เพราะหลวงพ่อมาป่วยหนักตอนต้นปี ๕๐ ตามที่เล่ามาในตอนต้น
    รายการข้างล่างเป็นรายการที่ผมตกลงกับช่าง จ่ายเงินมัดจำ ต่อหน้าหลวงพ่อ รายการพระต่อมาเปลี่ยนแปลงจำนวนหลายรายการ ผมจะบรรยายไปเรื่อยๆ แต่แสดงหลักฐานให้ดูว่า ได้ดำเนินการตามข้างล่างนี้

    ราคานี้เป็นราคาค่าแรง ไม่รวมวัสดุ เพราะผมบอกช่างเลยว่าผมไม่ต้องการทองเหลือง แต่จะซื้อโลหะ ทองแดง เงิน ทองคำมาเอง ( สูตรนวโลหะ ที่เรียกกันเต็มสูตร ที่ทำขายก็เป็นแบบนี้ที่มีโลหะ ๙ อย่างน่ะครับ มีอยู่ในตำนานครับ สมัยนี้คนจะสร้างได้ต้องไม่ใช่คนธรรมดา ขนาดพระกริ่งวัดบวร ยังใช้ ทองแดง ใส่ทองคำเยอะๆเลย นวโลหะมีแค่ ต้นแบบ ต้นเบ้า ที่เหลือก็ทยอยใส่ทองแดงทั้งนั้น เคยมีคนเอาก้านชนวนพระกริ่งวัดสุทัสน์ไปวิเคราะห์ ปรากฎว่า ๙๐ กว่า%เป็นทองแดงน่ะครับ ประเด็นมันอยู่ที่ทองคำนี่แหละครับ ถ้าใส่มากจะกลับดำ มัน เงางาม ตกลงเรียกเป็นเนื้อสัมฤทธิ์จะถูกกว่า พวกใส่เต็มสูตรน่ะ ทองแดงเป็นหลัก มีทองคำเท่าไหร่ลองไปถามช่างดูซิครับ....แหะๆ จะซื้อเพราะคิดว่า นวโลหะน่ะ จ่ายแพงแต่ได้ทองแดงเป็นหลักครับ ซื้อเนื้อเงิน ถ้าดูว่าเงินเนื้อดี ยังจะคุ้มกว่า ชื่อนวโลหะ เต็มสูตรน่ะมุขครับ เพื่อเพิ่มมูลค่าราคาขาย)

    เมื่อตกลงกันเสร็จก็เริ่มปั้นหุ่นน่ะครับ อันที่สวยงามที่สุดก็ รูปหล่อ ๙ นิ้วนี่แหละครับ ช่าง กทม ปั้นมาก่อน หน้าอย่างกับฝรั่ง ต้องมาปั้นแก้อีก ผมถ่ายรูปมีแค่บางพิมพ์ เช่น รูปหล่อ นาคปรกทรงเครื่อง ๙ นิ้ว ประจำวันเกิดของคุณแม่ผม และของผม บาตรน้ำมนต์ที่ผมทำถวายหลวงพ่อและตัวเองอย่างล่ะใบ นอกจากนั้น ผมยังสั่งทำฐานพระ และ เรือนแก้วของหลวงพ่อสุโขทัย ที่อาจารย์อนันต์ ท่านถอดแบบมาจากพระสุโขทัยองค์โบราณสวยงามมาก แต่ยังไม่ได้ปลุกเสก ผมเลยสั่งทำฐาน และเรือนแก้ว เลียนแบบพระพุทธชินราช ผมจะโชว์ต่อไปก็แล้วกันครับ

    รายการที่โชว์ข้างบน เป็นรายการต้นแบบน่ะครับ พอจริงๆเข้างอกออกมาหลายรายการ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. cc5922 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    4,193
    ค่าพลัง:
    +16,973
    กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรงครับ
     
  8. พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292

    ผมไม่ได้เรียงรูปก่อนหน้าหลังน่ะครับ จากรูปจะเป็นทองชนวนในพิธี เห็นข้อศอกหลวงพ่อกำลังพรมน้ำมนต์ทั่วบริเวณ เพื่อศิริมงคล และรูปหุ่นดินไทยที่ทำเตรียมไว้ จากนั้นเป็นรูป หุ่นที่เอามาเรียงในเตา เพื่อทำงานเผา
    พิธีวันแรก การเผาหุ่น สำรอกเทียน
    การเผาหุ่นนี้เพื่อสำรอกเอาเทียนออกให้เป็นโพรงสำหรับเททอง และเป็นการอุ่นหุ่นให้ร้อนเพื่อพร้อมสำหรับการเทโลหะร้อนๆลงไป หุ่นจะได้ไม่แตกเมื่อเทโลหะร้อนๆ พิธีนี้ส่วนใหญ่จะทำก่อนประมาณวันหนึ่ง ก่อนการเท พร้อมทั้ง การหลอม เคี่ยวทองให้สุกละลาย ล่วงหน้าให้พร้อมสำหรับฤษถ์เททอง




    จะมีการบวงสรวงเทพเทวดาครูบาอาจารย์ ครูช่างโดยหัวหน้าช่าง หลวงพ่อมานั่งคุมแบบโบราณ มีราชวัตร ฉัตรธง และ มีพระมาสวด หลายบท ผมจำได้ว่าหลวงพ่อบอกขอให้พระที่ท่านนิมนต์มาสวดธรรมจักกัปวัตนสูตรด้วย นอกจากนั้นเท่าที่ผมพอฟังออกก็มี พาหุง มหากา และชัยมงคลคาถา

    หลวงพ่อบอกผมเองทีหลังว่า ท่านได้นิมนต์ครูบาอาจารย์ของท่านมาหมด อันนี้ผมไม่มีตาในน่ะครับ ท่านบอกแค่นี้ผมไม่ทราบว่ามีท่านใดบ้าง แต่คิดว่าเป็นอาจารย์สายวิชาของวิเศษชัยชาญ



    ตามรูปเมื่อเริ่มพิธี หลวงพ่อจะนั่งบริกรรม คุมพิธีภายในวงสายสิญญ์และบริเวณพิธี พิธีแบบนี้ แบบโบราณเรียกว่าการคุมธาตุ ป้องกัน วิญญานไม่ดีหรือ สัมภเวสี พวกฝ่ายมิจฉาธิฐิเข้ามาทำให้พิธีเสีย พิธีใหญ่ๆ อาจจะมีสี่ทิศคุมโดยพระเก่งๆ แต่พิธีนี้เป็นพิธีส่วนตัวว่าง่ายๆ หลวงพ่อท่านก็ฉายเดี่ยวครับ ในความเห็นของผม หลวงพ่อองค์เดียวก็เหลือเฟือครับ

    พระกลุ่มที่เห็นเป็นพระที่หลวงพ่อนิมนต์มาสวดตอนพิธีเผาหุ่น พระชุดนี้มีพระเก้ารูป เป็นพระชุดที่หลวงพ่อนิมนต์มาเอง มาสวดมนต์ตอนทำพิธีเผาหุ่น และหลอมชนวน หลอมทอง



    รูปนี้เป็นพิธีวันเดียวกัน พระชุดเดียวกัน ถ่ายไว้เพราะประทับใจ ในการที่พระในพิธีที่นั่งหัวแถว กราบไหว้หลวงพ่อ
    ท่านที่อยู่หัวแถวน่ะอาวุโสสุดผมไม่ทราบจริงๆว่าเป็นท่านใด แต่ดูการไหว้ของท่านที่มีต่อหลวงพ่อน่ะครับ และดูการรับไหว้ของหลวงพ่อ ( อันนี้ทีหลังมีรุ่นน้องมาดู เขาว่าท่านคือ หลวงตาจิต วัดยางซ้าย พระองค์นี้ท่านบวชมาตั้งแต่หนุ่ม เหมือนหลวงพ่อ มาช่วยงานที่วัดหลวงพ่อบ่อย หลวงตาจิตในพื้นที่จัดว่าท่านเป็นพระที่มีวิชา เก่งทางดูดวง เป็นลูกศิษย์ หลวงพ่อ พิณ วัดยางซ้าย ซึ่งเป็นพระยุคหลวงพ่อพู วัดดอนรัก ซึ่งมีกิติศัพท์ว่ามีวิชาสูง ) หลวงตาจิตนี้น่าจะสนิทสนมกับหลวงพ่อมานานหลายสิบปี
    แต่องค์ต่อมาองค์ที่สองน่ะ น่าสนใจ เพราะท่านนั้นคือ หลวงพ่อเสียน วัดมะนาวหวาน( อันนี้เขียนผิดขอประทานโทษน่ะครับ ) เป็นเจ้าคณะตำบลม่วงเตี้ย
    ท่านนี้เป็นสหธรรมิกของหลวงพ่อ ฟังว่าบวชตามกันมาตั้งแต่วัดยางมณี โดยหลวงพ่อชวน หลวงพ่อเสียนแม้จะมีตำแหน่งใหญ่กว่าหลวงพ่อทรง เพราะเป็นเจ้าคณะตำบลม่วงเตี้ย แต่อ่อนอาวุโสกว่า และรักและเกรงใจหลวงพ่อทรงมาก
    ตอนเขียนเรื่องนี้ ผมไม่เคยไปวัดมะนาวหวานแม้แต่ครั้งเดียว ทางไปยังไม่รู้เลย หลวงพ่อเสียนก็ไม่เคยรู้จักผมเป็นการส่วนตัว ใครไปนมัสการท่านลองถามดูน่ะครับ ( เรื่องนี้เคยเขียน เมื่อ ตอนปลายปี ๕๐ น่ะครับ แต่ก.ค. ๕๑ มีคนบอกผมว่า หลวงพ่อเสียนยังมีหนี้ สร้างศาลาอยู่ สองแสนกว่าบาท ชวนผมไปทอดกฐิน ผมเลยแวะไปหาท่าน เลยพึ่งรู้จักท่าน เมื่อปีนี้เอง หลังจากได้พูดคุย ผมเลยรับซองมาแจกพวกกันว่าจะช่วยท่านอีกแรง ใครอยากช่วยพระสหธรรมมิก หลวงพ่อทรงก็ ติดต่อวัดมะนาวหวานได้น่ะครับ หรือ ไม่ทราบเบอร์ก็ถามผม ช่วยคนล่ะ ร้อย-สองร้อยเดี๋ยวหนี้ก็หมดครับ ....แหะๆ )
    อันนี้หลังจาก ทำพิธีเผาหุ่น ก็เริ่มพิธีเคี่ยวทอง จากรูปจะเห็น หลวงพ่อหย่อนทองลงเบ้า วันนี้เป็นวันที่ 10 แน่นอน แต่กล้องบันทึกไว้ เป็นวันที่ 11
    ทองจะถูกเคี่ยวทั้งคืน เพื่อพร้อมที่จะเททอง ในวันรุ่งขึ้น ปกติจะใช้ถ่าน แต่ปัจจุบันจะใช้เตาน้ำมันและเครื่องเป่าลมแรงสูง
     
  9. Maha Jakkraput sutta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2008
    โพสต์:
    286
    ค่าพลัง:
    +915
    สวัสดีครับน้าพีผมขอเบอร์โทรวัดมะนาวหวานหน่อยครับ
    อยากช่วยทำบุญครับ
     
  10. cc5922 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    4,193
    ค่าพลัง:
    +16,973
    กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรง
    ขอร่วมด้วยช่วยกันครับลุงพี
     
  11. พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    เบอร์วัดมะนาวหวานครับ

    035 631 101
     
  12. เทวทูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    463
    ค่าพลัง:
    +1,025


    ภาพนี้ประทับใจมากครับ
    ดูท่านนับถือหลวงพ่อมากๆ
     
  13. Maha Jakkraput sutta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2008
    โพสต์:
    286
    ค่าพลัง:
    +915
    ขอบคุณมากครับ น้าพี
     
  14. พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292


    ผมมีปัญหาในการโหลดรูปภาพที่ต้องการมากเลย ภาพที่ต้องการไม่สามารถโหลดได้ ภาพไม่ยอมเข้า ลองตั้งแต่เช้า งั้นเอาที่ล่ะสามรูปก็แล้วกันครับ

    ภาพอาจจะย้อนไปมาหน่อยครับ...แหะ เพราะพึ่งเจอ รูปแรกเป็นรูปหลวงพ่อนั่งรอ ฤษถ์อยุ่

    เมื่อจุดธูปเทียนบูชาพระประธาน พระท่านก็เริ่มพิธีสงฆ์ในการสวด หลวงพ่อท่านก็เริ่มจุดเทียนทำน้ำมนต์ และนั่งบริกรรม ในขณะที่พระทั้งคณะ ทำการสวด เพื่อเริ่มพิธีในการเผาหุ่น เพื่อเป็นศิริมงคล

    พิธีนี้ ในสมัยใหม่จะไม่ค่อยทำกันน่ะครับ ส่วนใหญ่ช่างจะทำเอง แล้วไปทำพิธีตอนเททองเอาเลยทีเดียวเพื่อประหยัดเวลา เพราะถ้าทำแบบนี้ต้องทำสองครั้ง สองวัน แต่หลวงพ่อท่านเลือกเองแบบนี้ เพราะไม่ต้องไปนิมนต์พระที่ไหนมาร่วม นอกจากพระสหธรรมมิกของท่านและพระลูกวัด
     
  15. พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292


    ผมมีปัญหาในการโหลดรูป ที่ ๒ อย่างมาก ที่เป็นรูปหลวงพ่อนั่งบริกรรม ไม่ทราบว่าสาเหตุใด

    รูปแรกเป็นพระที่นั่งหัวแถว ในขณะสวด ท่านชื่อ หลวงตาจิตน่ะครับ

    ส่วนอีกสองรูป เป็นอริยาบทของหลวงพ่อในขณะนั่งบริกรรม หลวงพ่อจะนั่งบริกรรมอยู่นานมาก จนพระสวดเสร็จทุกบทน่ะครับ จัดว่านานพอสมควร
     
  16. พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292


    หลวงพ่อท่านนั่งบริกรรมไปจนพระสวดเสร็จ ท่านก็ดับเทียน
     
  17. พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292


    เมื่อพระสวดเสร็จ หลวงพ่อดับเทียน และทำน้ำมนต์เสร็จ ท่านก็มาเดินพรมน้ำมนต์ พวกช่าง พวกหุ่น และเตาเผาหุ่น เตาเคี่ยวโลหะ และพรมรอบบริเวณพิธี ในเขตสายสิญญ์ปริมณฑล



    หลวงเดินพรมน้ำมนต์รอบปริมณฑล ส่วนรูปสุดท้ายคือพระสวัดดิ์ คนที่จารโลหะชนวน และเป็นมือจารตะกรุดของหลวงพ่อ องค์หนึ่ง
     
  18. พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292


    จากนั้นหลวงพ่อเริ่มหย่อนแผ่นยันต์ที่ท่านลง ใส่ในเบ้าหลองทองเป็นปฐมฤษถ์ ทุกเบ้า ผมจำได้ว่ามีสามเบ้า สองเตา ผมก็เสนอหน้าไปช่วยท่านด้วยเพราะเห็นท่านหยิบหลายที โดยถือแผ่นยันต์รอให้ท่านคอยหยิบ




    จากนั้นหลวงพ่อนิมนต์พระสวัดดิ์ให้หย่อนแผ่นทองชนวนที่พระสวัดดิ์ลง ทำแทนท่าน
     
  19. พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292


    จากนั้นปิดท้าย ผมเอาแท่งเงินที่ซื้อมา ประมาณ ๒ กิโล แล้วถวายให้หลวงพ่อลงให้แล้ว มาหย่อนในทั้งสามเบ้า



    จากนั้นก็เริ่มสุมทอง และเผาหุ่น เป็นการเสร็จพิธีเล็กๆ วันแรก โดยทำการเผาหุ่น และเคี่ยวทองให้ละลายไปทั้งคืน ช่างจะคอยตื่นดูแลตลอด
     
  20. cc5922 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    4,193
    ค่าพลัง:
    +16,973
    กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรง
    ที่เห็นอยู่ในภาพถือบาตรน้ำมนต์ลุงพีหรือเปล่าครับ
    หากใช่ผมว่าเคยเห็นกันบ้างตอนไปกราบหลวงพ่อครับ
     

แชร์หน้านี้