กราบหลวงพ่อทรง สวัสดียามเช้าวันอาทิตย์ทุกท่านครับ ที่อินเดียอากาศเย็นมากเลยครับ
เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕
ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย พี เสาวภา, 7 เมษายน 2008.
หน้า 648 ของ 3280
-
เอามาฝากครับ
ที่มา:หนังสือพิมพ์ เดลินิวส์ วันเสาร์ ที่ 02 มกราคม 2553ffice:eek:ffice" /><O:p></O:p>
เหนือลิขิต ประกาศิตฟ้าดิน<O:p></O:p>
'เหรียญบิน' หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน<O:p></O:p>
เจริญรุ่งเรือง มหาอำนาจเข้มขลังรับปีเสือ<O:p></O:p>
พระครูสุภัทรธรรมโสภณหรือ หลวงพ่อทรง ฉันทฺโสภี แห่งวัดศาลาดิน ต.ม่วงเตี้ย อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทองเกิดเมื่อวันอังคารที่ ๒๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๖๖ เป็นบุตรของนายจั่น นางffice:smarttags" /><?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-comกรอง สกุล</st1:personName>วารีรักษ์ ท่านเป็นคนมีสติปัญญามาก มีไหวพริบปฏิภาณดีมาตั้งแต่เป็นเด็กเล็กโดยสามารถสอบบรรจุเป็นครูได้ แต่ท่านก็มิได้มุ่งแสวงหาลาภสักการะในทางโลกกลับชอบใจในทางธรรมเป็นที่สุด
ท่านอุปสมบท เมื่ออายุครบ ๒๐ ปี ในปีพ.ศ. ๒๔๘๖ ณ วัดยางมณี อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง โดยมีหลวงพ่อชวน พรหมโชโตวัดยางมณีเป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อบวชแล้วท่านได้เล่าเรียนพุทธาคมกับหลวงพ่อชวนจนหมดสิ้น จากนั้นท่านได้ไปจำพรรษาเรียนวิปัสสนาที่วัดกำแพงและได้มาขึ้นกรรมฐานกับหลวงพ่อผาด วัดไร่ จนมีความเชี่ยวชาญในกรรมฐาน ดีแล้วท่านก็มักจะเดินทางไปกราบครูบาอาจารย์ ที่สำคัญ เพื่อขอเรียนพุทธาคมเสมอ ๆไปทีหนึ่ง นานเป็นเดือน ครึ่งเดือนเป็นประจำ เช่นในละแวก จังหวัดอ่างทองท่านไปเรียนวิชากับหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่, หลวงพ่อภู วัดดอนรัก, หลวงพ่อพักวัดโบสถ์ และหลวงปู่คำ วัดโพธิ์ปล้ำ
ด้วยอุปนิสัยที่รักพวกพ้อง ใจดีใจกว้าง และมีสติปัญญาดี จึงทำให้ท่านมีความสนิทสนมกับพระเกจิร่วมสมัยโดยนับถือในพลังจิตตานุภาพ ของกันและกันมาก เช่น หลวงพ่อกลั่น วัดอินทารามเจ้าตำรับปลัดขิกลิงอุ้ม, หลวงพ่อโปร่ง วัดท่าข้าม และหลวงพ่อสาย วัดท้องคุ้งนอกจากนี้ท่านยังนับถือหลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน ได้ไปขอต่อสรรพวิชาในสายหลวงพ่อนุ่มมาจนหมดสิ้น
ต่อมาท่านได้รับแต่งตั้งให้มาเป็นเจ้าอาวาสวัดศาลาดิน (มอญ) ท่านจึงได้เริ่มปฏิสังขรณ์วัดเริ่มจากหาทุนทรัพย์สร้างศาลาการเปรียญหลังใหญ่ขึ้น โดยได้ออกเหรียญรุ่นแรก ปี พ.ศ.๒๕๑๓ เรียกว่า “เหรียญบิน”
มีเรื่องเล่าขานกันว่าในงานผูกพัทธสีมาปิดทองฝังลูกนิมิตพระอุโบสถ ในปี พ.ศ. ๒๕๑๓ นั้นได้มีการจัดสร้างเหรียญเสมาเป็นรูปท่านครึ่งองค์ เพื่อมอบให้สาธุชนเป็นที่ระลึกโดยนิมนต์พระธรรมมุนี (หลวงพ่อแพ เขมังกโร) วัดพิกุลทอง ต.พิกุลทอง อ.ท่าช้างจ.สิงห์บุรี, หลวงพ่อมุ่ย พุทธรักขิโต วัดดอนไร่ ต.หนองสะเดา อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรีและพระเกจิผู้ทรงวิทยาคมรูปอื่น ๆ มาร่วมนั่งปลุกเสก
หลังจากพระเกจิผู้ทรงวิทยาคมคลายพลังสมาธิญาณ และผ่อนคลายอิริยาบถหลวงพ่อทรงยังคงนั่งนิ่งส่งพลังสมาธิญาณกระทั่งเหรียญเสมาที่อยู่ในบาตรบินลอยวนไปมา ส่งเสียงกระทบฝาบาตรอย่างน่าอัศจรรย์จนหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ เปรยว่า “พอแล้วท่านทรง จะปลุกเสกไปถึงไหนเดี๋ยวเหรียญก็ได้แตกป่นกันหมดพอดี” หลวงพ่อทรงจึงผ่อนคลายพลังสมาธิญาณต่อมาคณะศิษยานุศิษย์ได้ตั้งสมญานามเหรียญเสมารุ่นนี้ว่า “รุ่นเหรียญบิน” ตราบจนปัจจุบัน
เหรียญนี้มี ๒ พิมพ์คือพิมพ์พระพุทธซึ่งเป็นพระประธานในโบสถ์ กับพิมพ์รูปหลวงพ่อทรง ครึ่งองค์ เขียนว่า “อาจารย์ทรง”เป็นเหรียญที่ประสบการณ์สูง แต่ก็มีของปลอมแล้ว
ตลอดชีวิตของหลวงพ่อทรง ท่านสร้างวัตถุมงคลไว้มากมายหลายชนิดซึ่งล้วนแต่มีพุทธคุณสูงมากมายจนท่านได้รับสมญานามจากคณะศิษยานุศิษย์ที่เลื่อมใสศรัทธาว่าเป็น “เทพเจ้าแห่งลุ่มแม่น้ำน้อย”
จำแนกเป็นประเภทโดยคร่าว ๆ เช่นชุดพระกริ่ง พระกริ่งบาเก็ง เนื้อนวโลหะ และเนื้อชนวน (มีประสบการณ์หยุดมัจจุราชศิษย์โดนยิงในระยะเผาขนแต่ไม่เข้า), พระกริ่งหน้าอินเดีย และกริ่งเขมร เนื้อนวโลหะที่ดีเด่นด้านโภคทรัพย์, พระกริ่งอุ้มบาตรไตรมาส เนื้อเงิน และนวโลหะก้นทองคำก้นเงิน และก้นอุดผงผสมเกศาของหลวงพ่อ ที่หลายคนบูชาแล้ว เห็นเส้นเกศางอกออกมาได้เองเป็นอัศจรรย์, พระกริ่งเศรษฐีนวโกฎิ์ที่สร้างฐานะให้ศิษย์มาอย่างมากมาย
ประเภทรูปหล่อมี รูปหล่อบูชารุ่นแรก (โรงเรียนสร้าง), รูปหล่อบูชาพิมพ์สมาธิ เนื้อนวโลหะสร้าง ๑๖ องค์ และเนื้อทองแดงศักดิ์สิทธิ์และหายากมาก, รูปหล่อปั๊มรุ่นแรกมีประสบการณ์ไม่หลอมละลายไปกับเหตุเพลิงไหม้ตลาดวิเศษฯ รูปหล่อก้นเกินรุ่น ๒เนื้อนวโลหะ เนื้อทองเหลือง และเนื้อเงิน ดีด้านทำมาหากิน, พระสังกัจจายน์และพระปิดตาพะเนียงแตก, เหรียญหล่อมหาเศรษฐี ที่หล่อได้เหมือนหลวงพ่อมากที่สุดและเหรียญหล่อหน้าเสือที่สร้างน้อย หายาก
ส่วนเหรียญที่คนรู้จักท่านมากที่สุด คือเหรียญเต่าเรือนรุ่น ๑ เนื้อทองแดง, ทองเหลือง, นวโลหะและเนื้อเงิน, เหรียญเต่าเรือนรุ่นสร้างตัว และเหรียญเต่าจิ๊กโก๋ (เต่าใหญ่), กัญหา-ชาลี, ตะโพนเรียกทรัพย์ขนาดบูชา ที่สร้างจากกรรมวิธีทำตะโพน จริงๆ และขนาดเล็กเนื้อเงิน และเนื้อทองผสม, ตะกรุดมหาจักรพรรดิ, ตะกรุดเทพรัญจวน, ตะกรุดแม่ทัพ, ตะกรุด ๔ มหาอำนาจ, จระเข้คาบดอกบัวซึ่งดีทางคุ้มครองชีวิตและช่วยค้าขาย
นอกจากนี้วิชาที่ท่านทำได้ขลังมากคือวิชาเสกพระที่เสริมสติปัญญาเด็ก เรียกว่าบูชาแล้วเด็กจะเรียนหนังสือดี มีสมาธิมีสติปัญญามากขึ้น ซึ่งได้ทดลองกันมามากต่อมากแล้ว ได้แก่พระนักธรรม (เนื้อผงมีพิมพ์เดียว ๓ เนื้อคือเนื้อผงดำ, ผงขาว และผงดำปิดทองยันต์กลับ), พระปัญญาดี (มีพิมพ์เดียว เป็นพระพุทธหล่อ ขนาดเล็ก) เนื้อเงินและเนื้อทองแดง
ยังมีแหวนที่ท่านสร้างซึ่งดีเด่นทางเสี่ยงโชค ทำมาหากินเช่น แหวนดอกบัว (ไม่ ปรากฏว่า พระอาจารย์องค์ใดเคยสร้างมาก่อน), แหวนนารายณ์ (ดีทางรับราชการ), แหวนพิรอด ๓ สาย และ ๒ สาย, แหวนนาคเกี้ยว (ดีทางเสน่ห์เมตตา)
ประเภทผ้ายันต์ ที่เด่น คือ ผ้ายันต์ดอกบัวบาน, ผ้ายันต์หนุมาน, ผ้ายันต์รอยมือ รอยเท้า (หมึกครามซักผ้า), ผ้ายันต์กลับดวง (ดีทางหนุนดวงมากผืนเล็ก และใหญ่), ผ้ายันต์หงษ์ทอง (ดีค้าขาย), ผ้ายันต์พัดโบก (มหาเศรษฐี)ผ้ายันต์เต่าเรือน และผ้ายันต์บูชาครู
ส่วนตะกรุดนั้นก็เป็นที่เสาะหาของศิษย์เช่นกัน เพราะมีคนนำไปใช้แล้วมีประสบการณ์บอกต่อกันมามากมาย เช่น ตะกรุดมหาจักรพรรดิ, ตะกรุดพระลักษมณ์หน้าทอง, ตะกรุด๔ มหาอำนาจ, ตะกรุดเทพรัญจวน, ตะกรุดแม่ทัพ เป็นต้น
อย่างไรก็ดีด้วยสังขาร คือ อนิจจัง เป็นสิ่งไม่เที่ยงแท้ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปครั้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๐ เวลาประมาณ ๒๑.๐๐ น.หลวงพ่อทรงมีอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยหอบ หายใจขัด เนื่องจากมีกิจนิมนต์มากเมื่อลูกศิษย์เห็นว่าอาการไม่ดี จึงรีบนำส่งโรงพยาบาลวิเศษชัยชาญ จ.อ่างทองคณะแพทย์ได้ทำการรักษา แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ในที่สุด เมื่อเวลา ๒๒.๕๐ น.ของวันพฤหัสบดีที่ ๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๐ ท่านได้ละสังขารจากไปอย่างสงบด้วยอาการหัวใจล้มเหลว ณ โรงพยาบาลวิเศษชัยชาญหลังจากเข้ารับการรักษาอาการท่อปัสสาวะอักเสบ มาก่อนหน้านี้ สิริอายุได้ ๘๓ ปี ๘เดือน พรรษา ๖๔ ท่ามกลางความเศร้าสลดและความอาลัยเป็นยิ่งนักของ บรรดาคณะสงฆ์คณะศิษยานุศิษย์ และพุทธศาสนิกชนทั่วไป
หลวงพ่อทรงท่านเป็นพระสงฆ์สุปฏิปันโนอย่างแท้จริง แต่ด้วยสังขารเป็นสิ่งไม่เที่ยงแท้ท่านได้ละสังขารตามกฎไตรลักษณ์ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปถือว่าวงการสงฆ์ต้องสูญเสียพระเถระรูปสำคัญ ผู้บำเพ็ญคุณูปการต่อชาวเมืองอ่างทองด้วยความอุตสาหวิริยะมาอย่างยาวนานเหลือทิ้งไว้แต่ผลงานอันทรงคุณค่าที่อุทิศให้แด่พระพุทธศาสนาเป็นอนุสรณ์แห่งความทรงจำไว้เบื้องหลัง.
อาราธนานังรายงาน<O:p></O:p> -
ขอบคุณ พี่ต้น รามอินทรา
มากๆครับ ได้อ่านเรื่องดีๆ แต่เช้าครับ -
กราบ กราบ กราบหลวงปู่ทรง ครับ
ช่วงนี้กระแสหลวงปู่มาแรงจริงๆ เลยนะครับพี่ๆ -
ครับ มาเชิดชู กิติคุณ พระเดชพระคุณหลวงพ่อทรงกัน ...อนุโมทนาจากใจจริงครับ
แต่ขอให้เขียนประวัติถูกๆ บูชาหลวงพ่อกันหน่อยน่ะจ้ะ ไปถามคนรอบตัวท่านบ้าง คนที่เขาทันหลวงพ่อ น่ะ
แก้แล้ว ไม่เขียนว่า ไปเรียนกับหลวงพ่อเดิม หลวงพ่ออิ่ม หลวงพ่อเข็ม วัดข่อย แต่หลวงพ่อพัก (ภักตร์ ) ยังเอาอยู่ แต่ก็พอไหวแล้ว...แหะๆ ไม่ลึกไปมากกว่านั้น ไม่ต้องมาเขียนแก้กันอีก
หลวงพ่อไม่ทันพระคณาจารย์เหล่านี้น่ะครับ เกิดไม่ทันบ้าง โตไม่ทันบ้าง บวชไม่ทันบ้าง ไม่เคยเห็นหน้าแบบเป็นๆเลยครับ ถ้าเห็นในรูป ในนิมิต ก็ว่าไปอย่าง แบบนี้ไม่รู้จะเอาอะไรมาเถียง...แหะๆ
และที่สำคัญ หลวงพ่อเรียนเอง ส่วนใหญ่ครับ มีตำรา ห้องเงียบๆ จิตดีๆ แค่นี้พอแล้วสำหรับคนแบบหลวงพ่อน่ะครับ เป็นต้นตำหรับ กระบี่อยู่ที่ใจ จริงๆครับ
ตัวอย่างเอาแค่ หลวงพ่อมุ่ย หลวงพ่อมุ่ย บวชครั้งที่ สอง ตามประวัติน่ะ ๒๔๖๕ ...แหะๆ พระเดช พระคุณหลวงพ่อทรงยังไม่ชาตะเลยครับ( ๒๔๖๖ ) แล้วหลวงพ่ออิ่มน่ะ ท่านเป็นพระกรรมวาจา หลวงพ่อมุ่ย ตอนบวชครั้งแรก ประมาณ ๒๔๕๒ เป็นอาจารย์ของหลวงพ่อมุ่ยอีกทีน่ะครับ
คุณลองจินตนาการดูน่ะ ว่าหลวงพ่อทรงท่านจะทันหลวงพ่ออิ่มไหมครับ ถ้าจะทัน อาจจะแค่เกิดทันน่ะครับ...แหะๆ
อันนี้ไม่ ต้องต่อไปหลวงพ่อเดิม หลวงพ่อ พักน่ะครับ ท่านไม่ทันทั้งสิ้น แต่ถ้าลูกศิษย์อีกที น่ะทันแน่นอน และถ้าได้ตำรา พระคาถามาน่ะ ชัวร์เด้ะ
ส่วนเรื่องการค้าขาย ของค่ายไหนก็ว่ากันไปครับ โลกประชาธิปไตย คนดู คนอ่านเขาพิจารณาเองได้ครับ เจอมีข้อยุติ ผมเจอก็เก็บเหมือนกัน ไม่ว่าค่ายไหน -
แรงมาตั้งแต่ท่าน ยังมีสังขารแล้วครับ
พอล่ะสังขารไป ก็ยิ่งแรงเข้าไปอีก
ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาจะพิสูจน์ของว่าทองแท้หรือไม่ครับ -
กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรง
เกียรติประวัติหลวงพ่อเริ่มแผ่ขจรไกลไปทุกๆๆ..ที่นะครับ
แต่สงสารบางท่านที่อาจได้ของที่ไม่ผ่านมือหลวงพ่อ หรือของปลอม
อันนี้น่าเจ็บใจสุดๆๆครับ -
กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรง ครับ _/\_
-
กราบ กราบ กราบหลวงพ่อทรง..สวัสดีท่านเจ้าบ้านและพี่น้องบ้านเหรียญบินทุกๆท่านด้วยครับ..รูปหลวงพ่อเล็กผมได้รับแล้วนะครับ ขอบคุณคุณพีมากครับ..
-
รูปหลวงปู่เล็ก ใน ๑๐๐ คนแรก ใครยังไม่ได้ แจ้งมาน่ะครับ
อยากแจก ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ชายแดนครับ
ติดต่อมาได้น่ะครับ ยิงมาก็ได้ ผมจะส่งให้ท่านฟรีๆ
อยากให้หลวงปู่ท่านธุดงค์ ไปช่วยดูแล พี่ๆ น้องๆ แถวชายแดนบ้างน่ะครับ -
-
กราบหลวงพ่อทรงครับ
สวัสดีพี่ๆเพื่อนๆทุกท่านครับ
เหรียญนี้ประวัติเป็นยังไงบ้างครับไฟล์ที่แนบมา:
-
-
-
-
benay_watmon@hotmail.com(เบ็น 083-6139417)..msn
<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 8 คน ( เป็นสมาชิก 5 คน และ บุคคลทั่วไป 3 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>benay, JLB, พิณพาทย์, เมืองสมุทร, putsudsoi
มากันครบองค์ประชุมเลยน่ะครับ เหอๆๆๆๆๆ......:cool: สวัสดีครับป๋าๆๆ
</TD></TR></TBODY></TABLE> -
ถ้างั้นก็..ต้องขอส่งเทียบเชิญเจ้าบ้านร่วมเป็นสักขีพยานในงานนี้ซะแล้ว -
-
อย่างงี้เค้าเรียกว่าเนียนได้โล่ห์ catt3 -
ครับ ๆๆ พลีปลาทูครับ มารับไปเลย เอิ๊กๆๆ
(deejai)
มาเกาะกระแสเหรียญรุ่นสองด้วยคัรบ
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
แหมป๋าก่อ.....เอามาให้ดูแค่สามเหรียญ แล้วอีกสามถุงใหญ่ๆเก็บไว้ดูเองคนเดียวเหรอครับ กรุ๊งกริ๊งกรุ๊งกริ๊ง เสียงอะไรน่ะ???? (deejai)
หน้า 648 ของ 3280